ดูแลเด็ก ใน คลองเตย, กรุงเทพมหานคร

ดูแลเด็ก ใน คลองเตย, กรุงเทพมหานคร

คุณต้องการใช้บริการนี้เมื่อไหร่?
ระบุวันที่

วิธีการทำงาน

Saijai

ติดต่อเรา

ติดต่อเราโดยตรงผ่าน LINE OA เพื่อจองบริการที่คุณต้องการ

Saijai

แจ้งรายละเอียดให้เราทราบ

เลือกบริการ วันที่ เวลา และสถานที่ที่คุณต้องการให้ตรงกับความต้องการของคุณ

Saijai

ยืนยันการจองของคุณ

เราจะยืนยันการจองของคุณภายใน 24 ชั่วโมงผ่านทาง LINE OA

บุศรินทร์ พลอยศุภผล
บุศรินทร์ พลอยศุภผล
Saijai ประสบการณ์ 1-2 ปี
Saijai อายุ 37 ปี
วาสนา แหยมแก้ว
วาสนา แหยมแก้ว
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี
Saijai อายุ 47 ปี
อลิสา  อารีย์
อลิสา อารีย์
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี

ดิฉันอลิสา อารีย์ ปัจจุบันอายุ 52 ปี ประสบการณ์การทำงาน 15 ปีขึ้นไป จบหลักสูตรพี่เลี้ยงเด็กจาก รพ.ศิริราช ดูแลเด็กแรกเกิดจนถึง 6 ปี แล้วแต่อายุงาน

แสดงเพิ่มเติม
อคัมย์สิริ ศศิชลพินทุ์
อคัมย์สิริ ศศิชลพินทุ์
Saijai ประสบการณ์ 0-1 ปี
Saijai อายุ 42 ปี
อารตี อับดลราหมาน
อารตี อับดลราหมาน
Saijai ประสบการณ์ 0-1 ปี
Saijai อายุ 27 ปี
มัณฑนา ศรีโชติ
มัณฑนา ศรีโชติ
Saijai ประสบการณ์ 1-2 ปี
Saijai อายุ 50 ปี

ใจเย็น รักเด็ก พร้อมเรียนรู้ปรับตัว

แสดงเพิ่มเติม

ใจเย็น รักเด็ก มีความอดทนสูง สามารถแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าได้ดี ยิ้มแย้มแจ่มใจ เสริมสร้างพัฒนาการเด็กตามช่วงวัยได้ค่ะ

แสดงเพิ่มเติม
เบญญาภา โฉมแพ
เบญญาภา โฉมแพ
Saijai ประสบการณ์ 0-1 ปี

สวัสดีคะ ชื่อเบญ จบป.ตรี มีประสบการณ์ครูพี่เลี้ยงเนอสซารี่ รร.นานาชาติ ครูพี่เลี้ยงตามบ้าน ไม่มีลูกคะ อยากมีลูกเลยมารับเลี้ยงเด็กแทน

แสดงเพิ่มเติม
อานนท์ ทองแสง
อานนท์ ทองแสง
Saijai ประสบการณ์ 1-2 ปี
Saijai อายุ 31 ปี

ผมเป็นคนสุภาพ เรียบร้อย ไม่ยุ่งอบายมุข ไม่พูดคำหยาบ ตั้งใจทำงานที่ได้รับมอบหมาย ทำได้ทุกอย่างครับ สอนได้ทุกวิชา ค่าจ้างเป็นต่อชั่วโมงหรือให้เป็นรายเดือนก็ได้ครับ

แสดงเพิ่มเติม
ภาวิณี  พรมสี
ภาวิณี พรมสี
Saijai ประสบการณ์ 3-4 ปี
Saijai อายุ 49 ปี

เป็นคนมีความรับผิดชอบและต้องใจทำงานที่ได้รับมอบหมาย มีประสบการณ์ในการดูแลเด็กเล็ก อายุ 1 ปี 5 เดื่อน และ 2 ปี ได้รับวัคซีน 2 เข็มแล้วค่ะ

แสดงเพิ่มเติม
วิมลทิพย์  โถสโมสร
วิมลทิพย์ โถสโมสร
Saijai ประสบการณ์ 0-1 ปี

กำลังศีกษาหลักสูตร NA ค่ะ

แสดงเพิ่มเติม
กัญชพร เชื้อแถว
กัญชพร เชื้อแถว
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี

งานประจำเป็นครูพี่เลี้ยงอยู่เนอสเซอรี่ ทำงานมา 6 ปี เป็นคนขี้เล่น เฟรนลี่ อยู่ที่ทำงานเป็นครูผู้นำสอนน้องทำกิจกรรมในด้านพัฒนาการต่างๆ

แสดงเพิ่มเติม
ศุภลักษณ์ สติภา
ศุภลักษณ์ สติภา
Saijai ประสบการณ์ 0-1 ปี

สวัสดีดีคะฉันสามารถเลี้ยงเด็กได้คะฉันรักเด็กใส่ใจและเสริมพัฒนาการเด็กได้คะฉันร่าเริงยิ้มง่ายใส่ใจความสะอาดเกี่ยวกับตัวเองและเด็กหรือคนรอบข้างดิฉันมีความตั้งใจใส่ใจในการทำงานมากถ้าผลตอบแทนดีและเหมาะสมจะทำงานสุดความสามารถคะ

แสดงเพิ่มเติม
Narak Poonsombat
Narak Poonsombat
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี
Saijai อายุ 38 ปี
นรีรัตน์  ฝอยทอง
นรีรัตน์ ฝอยทอง
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี
ผ่านการตรวจสอบประวัติบุคคล

สนใจงานพี่เลี้ยงเด็กค่ะ มีประสบการณ์บ้านนายจ้างมา8ปี เลี้ยงได้ตั้งแต่แรกเกิดจนถึงเด็กโต ตอนนี้ว่างงานอยู่ค่ะ กำลังมองหางาน สามารถรับฟังและเรียนรุ้สิ่งใหม่ๆ ได้ค่ะ

แสดงเพิ่มเติม
ญาณิศา  เฟื่องฟู
ญาณิศา เฟื่องฟู
Saijai ประสบการณ์ 1-2 ปี

สวัสดีค่ะชื่อแพ็คนะคะเป็นคนซื่อสัตย์ค่ะเต็มที่กับงานสามารถแยกแยะเรื่องส่วนตัวกับการทำงานได้มีความรับผิดชอบ ชอบเล่นกับเด็กรักเด็กชอบทำอาหารขับรถได้ค่ะเรียนจบมหาวิทยาลัยรามคำแหงคณะรัฐศาสตร์

การทำงาน ทำงานกับเด็กมาตลอดชีวิตเลยถนัดในการทำงานที่เกี่ยวข้องกับเด็กทำแล้วมีความสุขค่ะอยากช่วยปลูกฝั่งเด็กๆทุกคนให้โตมาเเบบมีศักยภาพ

แสดงเพิ่มเติม
ณิชชา อภิปาลกุล
ณิชชา อภิปาลกุล
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี

ทำงานบ้านนายเลี้ยงเด็กที่ไม่ใช่ลูกมามากกว่า 5 ปี สามารถขับรถได้ ดูแลเด็กได้ดี ใจเย็น ทำอาหารได้ สามารถทำงานตามที่นายสั่งได้

แสดงเพิ่มเติม
วริวรรณ อยู่ไพร
วริวรรณ อยู่ไพร
Saijai ประสบการณ์ 0-1 ปี
Saijai อายุ 37 ปี
ศิริวิมล ทรงศิริ
ศิริวิมล ทรงศิริ
Saijai ประสบการณ์ 0-1 ปี
Saijai อายุ 43 ปี

ที่บ้านมีห้องแอร์สถานที่ให้วิ่งเล่น เรียนได้เกรดเฉลี่ยอยู่ที่ 3.40 เรียนโรงเรียนเทพศิรินทร์ร่มเกล้า มีประสบการณ์ดูแลหลานๆของตนเองหลายคน มากกว่า5คน ตั้งแต่อายุ 1 ขวบ ถึง 15 ปี

แสดงเพิ่มเติม
เจนจิรา เจริญลาภ
เจนจิรา เจริญลาภ
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี

ดิฉันชื่อเจนค่ะ รักเด็ก มีความอดทนสูง มีบุตรมาแล้วเข้าใจการดูแลเด็กค่ะ สามารถพาเด็กทำกิจกรรมที่มีประโยชน์กับเด็กค่ะ ได้รับวัคซีนครบสองเข็มแล้วค่ะ ฝากคุณลูกค้าพิจารณาด้วยนะคะ😊

แสดงเพิ่มเติม

ข้อมูลสถิติน่าสนใจเกี่ยวกับ

Saijai จำนวนประชากร
Saijai จำนวนประชากรเด็ก (แรกเกิด-14 ปี)
Saijai จำนวนประชากรสูงอายุ (60 ปี ขึ้นไป)
Saijai จำนวนสัตว์เลี้ยง สุนัข

รีวิวล่าสุด

ลาคลอดได้แค่ 3 เดือน ค่ะ ต้องกลับไปทำงานต่อ จะฝากลูกไว้กับยายก็กลัวแกจะดูไม่ไหว เลยลองหาพี่เลี้ยงจากเว็บใส่ใจดู ตอนแรกก็กังวลอยู่เหมือนกันค่ะ ไม่กล้าทิ้งลูกไว้กับพี่เลี้ยง แต่ก็วางใจอย่างนึงว่าพี่เลี้ยงมีประสบการณ์ ตอนนี้ทุกอย่างลงตัว โอเคมาก ๆ ค่ะ
Saijai
สุชาดา มิ่งมงคล
4 ปีที่แล้ว
ลูกยังเล็กเราจ้างพี่เลี้ยงมา ตกลงเวลาเริ่มงาน 9.30-17.30 น. (พี่เลี้ยงมา 8.30 น. ทุกวัน ) ประสบการณ์ เคยดูแล เด็กเล็ก 4 เดือน – 2 ขวบ พอเด็กเข้าโรงเรียน ก็ว่าง พอดีที่บ้านช่วยกันหา เจอเว็บนี้เห็นรีวิวประสบการณ์คนเลี้ยงเลย คุยดู พี่เลี้ยงทำงานดีมาก่อนเวลา เตรียมของใช้ ทำงานเป็นระเบียบเหมือนอบรมมาดี อุ่นใจ คิดถูกที่ใช้บริการใส่ใจ แนะนำค่ะ
Saijai
ณัฐวรรณ แสงสีเงิน
5 ปีที่แล้ว
เราทำงานนอกบ้าน เลยหาพี่เลี้ยงเด็กมาดูแลน้องที่บ้าน ค้นหาข้อมูลดูเวปนี้ให้รายละเอียดพี่เลี้ยงน่าสนใจ ราคาเรารับได้ เราเลยให้น้องมาทดลองงานก่อนเราไปทำงาน น้องมีประสบการณ์มา เลยปรับตัวไม่ยาก เวลาเราอยู่น้องจะช่วยหยิบจับของทำโน่นทำนี่ไป ประทับใจคะ สองเดือนแล้วน้องทำงานดี มีระเบียบเรียบร้อย คุ้มค่ากับเงินที่เสียไป เราไว้ใจให้น้องคนนี้ดูแล
Saijai
แม่น้องกัญ
5 ปีที่แล้ว
เป็นครั้งแรกที่เลือกใช้บริการพี่เลี้ยงเด็กในเว็บใส่ใจ ตอนแรกคิดว่าจะยุ่งยากในจอง แต่พอเข้าไปในเว็บไซต์ เว็บไซต์ใช้งานง่ายมาก ๆ มีความสะดวกในการใช้งาน อีกทั้งยังมี Guideline ให้อีกด้วย และขั้นตอนการนัดสัมภาษณ์พี่เลี้ยงเด็กก็ไม่ยุ่งยากอย่างที่คิดเพราะมีตัวเลือกให้เลือกด้วยว่าเราสะดวกสัมภาษณ์ทางไหน เหมาะแก่คนที่ไม่มีเวลาอย่างเราจริง ๆ
Saijai
สุริยา ดำรงรักษ์
5 ปีที่แล้ว
เมื่อก่อนไม่กล้าจ้างพี่เลี้ยงเด็ก แต่ลองจ้างผ่านทางใส่ใจดู พี่เลี้ยงทำงานได้น่าพอใจมาก ๆ พูดเพราะมาก จนลูกเราติดคำพูดเลยค่ะ ราคาก็ที่ไม่สูงเกินไป จับต้องได้สำหรับคนที่มีรายได้ไม่เยอะอย่ามากต่อเดือน คุณแม่คนไหนอยากหาพี่เลี้ยงเด็ก แนะนำเลยค่ะ
Saijai
ชื่นนภา วัฒนพันธ์
5 ปีที่แล้ว

คำถามที่พบบ่อยสำหรับการค้นหา ดูแลเด็ก

หากคุณพ่อคุณแม่ต้องทำงานนอกบ้านและไม่มีเวลาเลี้ยงลูกเอง ลองเปรียบเทียบกันระหว่างส่งลูกไปเนอสเซอรี่และจ้างพี่เลี้ยงเด็กมาดูแลลูกที่บ้าน อะไรจะตรงใจคุณพ่อคุณแม่มากที่สุด
บริการรับเลี้ยงเด็กในปัจจุบันมีหลายทางเลือก ไม่ว่าจะเป็นพี่เลี้ยงเด็ก หรือเนอสเซอรี่ เรามาดูข้อดีข้อเสียกันเลยค่ะ

ข้อดีของพี่เลี้ยงเด็กที่บ้านมีดังนี้

1) พี่เลี้ยงสามารถดูแลลูกน้อยของคุณได้อย่างใกล้ชิด ลูกของคุณจะได้รับความเอาใจใส่ที่ส่งผลต่อพัฒนาการเด็กทางด้านอารมณ์
2) พี่เลี้ยงสามารถช่วยส่งเสริมพัฒนาการเด็กผ่านการทำกิจกรรมต่าง
3) พ่อแม่ประหยัดเวลามากขึ้น หากจ้างพี่เลี้ยงมาดูแลที่บ้าน
4) เด็กจะไม่ป่วยบ่อย เนื่องจากเด็กจะอยู่ในบ้านของตนเอง

ข้อดีของเนอสเซอรี่

1) เด็ก ๆ จะรู้จักการเข้าสังคม
2) เนอสเซอรี่มีบริเวณกว้างเพื่อให้เด็กได้ทำกิจกรรมหลากหลายรูปแบบ
3) เด็กจะได้ฝึกดูแลตัวเอง เพราะครูพี่เลี้ยงไม่ได้ดูแลเด็กแบบใกล้ชิด

ข้อเสียของพี่เลี้ยง

1) ค่าใช้จ่ายอาจจะสูงกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับเข้าศูนย์เนอสเซอรี่
2) เด็กอาจจะติดพี่เลี้ยงเกินไป
3) ลดความเป็นส่วนตัวของครอบครัว

ข้อเสียของเนอสเซอรี่

1) เด็กป่วยบ่อยเพราะมีภูมิคุ้มกันที่น้อยเนื่องจากอยู่กับเด็กหลายคน
2) ลูกจะไม่ได้รับการดูแลใกล้ชิดแบบตัวต่อตัวอาจส่งผลถึงอารมณ์ของเด็กได้
3) เด็กจะอยู่ห่างไกลจากพ่อแม่

หากคุณพ่อคุณแม่กำลังมองหาบริการพี่เลี้ยงเด็ก ใส่ใจมีบริการพี่เลี้ยงมืออาชีพที่พร้อมจะให้บริการคุณค่ะ
คุณสมบัติอะไรบ้างที่พ่อแม่ควรมองหาจากพี่เลี้ยงเด็กก่อนตกลงจ้าง
ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่คุณพ่อคุณแม่สักคนจะตัดสินใจหาใครมาดูแลลูกน้อยที่เปรียบเสมือนแก้วตาดวงใจ วันนี้ใส่ใจมีข้อมูลของทักษะและคุณสมบัติที่พี่เลี้ยงเด็กควรมีมาฝากให้คุณพ่อคุณแม่ลองเช็คกันดูก่อนตัดสินใจจ้างพี่เลี้ยงสักคน

1. พี่เลี้ยงเด็กต้องมีความอดทนสูง คุณพ่อคุณแม่ต้องมั่นใจว่าพี่เลี้ยงเด็กต้องมีความเข้าใจเด็ก สามารถรับมือกับสถานการณ์ต่าง ๆ ได้ดี และที่สำคัญที่สุดคือเป็นคนที่มีความอดทนสูง
2. พี่เลี้ยงเด็กควรรู้วิธีการปฐมพยาบาลเบื้องต้น ในกรณีเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดหรืออุบัติเหตุ พี่เลี้ยงต้องมีความรู้และทักษะการปฐมพยาบาลเบื้องต้น และสามารถช่วยเหลือเด็กได้ทันที เช่น เด็กที่อยู่ภายใต้การดูแลเกิดอุบัติเหตุหกล้ม มีแผลถลอก พี่เลี้ยงต้องรีบปฐมพยาบาลเบื้องต้นเพื่อไม่ให้เกิดการติดเชื้อของแผล เป็นต้น ดังนั้นคุณพ่อและคุณแม่ควรเลือกพี่เลี้ยงที่มีทักษะด้านการปฐมพยาบาลเบื้องต้นเพราะเป็นสิ่งจำเป็นมาก ๆ
3. พี่เลี้ยงเด็กควรมีทักษะการแก้ไขปัญหา พี่เลี้ยงจะต้องรู้วิธีการแก้ไขปัญหาเบื้องต้นได้โดยไม่จำเป็นต้องแจ้งผู้ว่าจ้างเสมอไปหากปัญหานั้นไม่ใช่ปัญหาที่ร้ายแรง
4. ทำอาหารเป็น ถือเป็นอีกหนึ่งทักษะที่พี่เลี้ยงเด็กจำเป็นต้องมี พี่เลี้ยงไม่ได้มีหน้าที่แค่ดูแลเด็กอย่างเดียวเท่านั้น แต่พี่เลี้ยงอาจจะต้องเตรียมอาหารให้เด็ก ๆ รับประทานในแต่ละมื้อด้วย หากอาหารอร่อยถูกปาก เด็กจะเจริญอาหารและอารมณ์ดี ที่สำคัญที่สุดที่พี่เลี้ยงต้องใส่ใจและจดจำด้วยว่าเด็ก ๆ ที่ดูแลนั้น แพ้อาหารอะไรบ้าง เพื่อป้องกันอุบัติเหตุที่อาจจะเกิดขึ้นจากการรับประทานสิ่งที่แพ้เข้าไป
5. มีความคิดสร้างสรรค์ในการส่งเสริมพัฒนาการเด็ก พี่เลี้ยงจะต้องเป็นคนที่มีความคิดสร้างสรรค์ สามารถร่วมทำกิจกรรมกับเด็ก ๆ ในระหว่างวัน ไม่ว่าจะเป็นทางด้านวิชาการหรือสันทนาการ เช่น พี่เลี้ยงเด็กอาจจะสอนเด็กนับเลข ฝึกการอ่าน หรือระบายสีเพื่อให้เด็กได้เรียนรู้ผ่านกิจกรรมที่สร้างสรรค์เหล่านี้
อะไรที่จะช่วยให้คุณพ่อคุณแม่คลายความกังวลเมื่อต้องปล่อยให้ลูก ๆ อยู่กับพี่เลี้ยงตามลำพัง
เมื่อคุณพ่อคุณแม่จำเป็นต้องจ้างพี่เลี้ยงมาดูแลลูก ๆ ของคุณ ความไว้วางใจและความน่าเชื่อถือเป็นหัวใจสำคัญในการตัดสินใจ คุณพ่อคุณแม่มีวิธีการใดบ้างที่จะหาพี่เลี้ยงที่วางใจได้ ใส่ใจมีวิธีการที่ช่วยให้คุณพ่อคุณแม่รู้จักตัวตนของพี่เลี้ยงเด็กมากขึ้น

1. ถือเป็นการเริ่มต้นที่ดีหากครอบครัวหรือเพื่อนของคุณพ่อคุณแม่เป็นผู้แนะนำพี่เลี้ยงเด็กที่พวกเขารู้จัก อย่างน้อยก็มีคนรับรองพวกเขาได้ แต่สิ่งสำคัญก็คือต้องทำการสัมภาษณ์พี่เลี้ยงเด็กและตรวจสอบประวัติของคุณเองเพื่อให้แน่ใจว่าเชื่อถือได้มากที่สุด
2. สำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่มองหาพี่เลี้ยงจากสื่อออนไลน์ หรือโซเชียลมีเดีย (Social Media) เช่น เฟสบุ๊ค หรือไลน์ มองหาพี่เลี้ยงเด็กที่มีรีวิวจากผู้ที่เคยใช้บริการก่อนหน้า ใช้เวลาอ่านและศึกษารีวิวเหล่านั้น
3. เชื่อสัญชาตญาณของตัวเอง เมื่อคุณพ่อคุณแม่มีโอกาสสัมภาษณ์พี่เลี้ยงเด็กก่อนเริ่มงาน หากมีสัญญาณที่ทำให้คุณพ่อคุณแม่รู้สึกไม่สบายใจ เช่น พี่เลี้ยงเด็กดูเป็นคนไม่กระตือรือร้น หรือไม่ยิ้มแย้มแจ่มใส จงเชื่อสัญชาตญาณของตัวเองที่ชี้ว่าคนคนนี้ไม่เหมาะสมกับงาน
4. ตรวจสอบประวัติ คุณพ่อคุณแม่อาจร้องขอให้พี่เลี้ยงตรวจสอบประวัติอาชญากรรมกับกองทะเบียนประวัติอาชญากร( http://www.criminal.police.go.th/ ) เพื่อให้แน่ใจว่าพี่เลี้ยงเด็กไม่มีประวัติกระทำผิดกฎหมายทั้งหมดนี้เป็นส่วนหนึ่งที่คุณพ่อคุณแม่สามารถทำได้เพื่อตรวจสอบความน่าเชื่อถือและช่วยในการตัดสินใจ
ข้อตกลงสำคัญที่พ่อแม่ควรตกลงกับพี่เลี้ยงเด็กก่อนเริ่มงานมีอะไรบ้าง?
สัญญาหรือข้อตกลงในการทำงานเป็นสิ่งที่คุณพ่อคุณแม่และพี่เลี้ยงเด็กต้องตกลงร่วมกันเพื่อความเข้าใจที่ตรงกันในขอบเขตการทำงานและค่าตอบแทน การทำสัญญาเป็นลายลักษณ์อักษรอาจจะไม่จำเป็นเสมอไป แต่การร่างหรือการบันทึกรายการช่วยให้ทั้งสองฝ่ายจดจำรายละเอียดต่าง ๆ ได้ง่ายขึ้น มีอะไรบ้างที่คุณพ่อคุณแม่และพี่เลี้ยงเด็กควรตกลงกันก่อนเริ่มงาน

1. วันเริ่มงาน ควรมีวันเริ่มงานให้ชัดเจนเพื่อประโยชน์และไม่เป็นการเสียเวลาของทั้งคุณพ่อคุณแม่และพี่เลี้ยงเด็ก
2. ชั่วโมงการทำงานและวันหยุด ตกลงเรื่องเวลาทำงาน จำนวนชั่วโมงการทำงานในแต่ละวันและวันหยุด เพื่อให้ตารางการทำงานของพี่เลี้ยงเด็กสอดคล้องกับเวลาทำงานของพ่อคุณแม่มากที่สุด และทั้งสองฝ่ายควรรักษาเวลา
3. ขอบเขตหน้าที่และความรับผิดชอบ กำหนดความรับผิดชอบของพี่เลี้ยงเด็กให้ชัดเจน
4. ค่าแรงและกำหนดการจ่าย ค่าแรงของพี่เลี้ยงเด็กอาจขึ้นอยู่กับลักษณะการทำงาน เช่นพี่เลี้ยงเด็กรายชั่วโมง รายวัน รายสัปดาห์และรายเดือน ซึ่งกำหนดการจ่ายเงินอาจจะแตกต่างกันไปตามลักษณะการทำงานนี้ด้วย
5. ค่าแรงในกรณีทำงานล่วงเวลา หากคุณพ่อคุณแม่ต้องการให้พี่เลี้ยงเด็กทำงานล่วงเวลา ควรสอบถามความสมัครใจของพี่เลี้ยงและตกลงกันให้ชัดเจนเรื่องค่าแรง
6. การโพสต์รูปหรือข้อความเกี่ยวกับเด็กลงสื่อออนไลน์ (Social Medias) คุณพ่อคุณแม่คงไม่อยากให้มีรูปภาพ หรือข้อความเกี่ยวกับลูก ๆ ถูกโพสต์ลงในโซเชียลมีเดีย เช่น เฟสบุ๊ค หรืออินสตาแกรม โดยไม่ได้รับอนุญาต ดังนั้นคุณพ่อคุณแม่ควรทำความตกลงกับพี่เลี้ยงเด็กในเรื่องนี้ด้วย
ทั้งหมดนี้คือสิ่งที่คุณพ่อและคุณแม่ควรพูดคุยตกลงกับพี่เลี้ยงเด็กให้ชัดเจนก่อนเริ่มงาน

เรื่องอาหารและโภชนาการของเด็กที่ต้องใส่ใจ

อาหารและโภชนาการหรับเด็ก

โภชนาการมีความสำคัญต่อสุขภาพโดยรวมของเด็ก พ่อแม่ ผู้ปกครอง หรือพี่เลี้ยงเด็กต้องพยายามอย่างเต็มที่ที่จะเสิร์ฟผลไม้ ผัก เนื้อไม่ติดมัน และผลิตภัณฑ์นมไขมันต่ำ และจำกัดอาหารที่มีน้ำตาลสูงและอาหารที่มีไขมันสูง โภชนาการที่เหมาะสมควรรวมถึงการรับประทานอาหารสามมื้อต่อวันและของว่างที่มีคุณค่าทางโภชนาการสองมื้อ

ปริมาณแคลอรีที่เด็กก่อนวัยเรียนจำเป็นต้องได้รับในแต่ละวันขึ้นอยู่กับว่าพวกเขากระตือรือร้นแค่ไหน คำแนะนำด้านโภชนาการที่ดีที่สุดเพื่อให้เด็กมีสุขภาพที่ดีในขั้นตอนนี้ คือการกระตุ้นให้เด็กกินอาหารที่หลากหลาย เลือกอาหารจากผลิตภัณฑ์จากธัญพืช ผักและผลไม้มากมาย ไขมันต่ำ ไขมันอิ่มตัว และ คอเลสเตอรอล น้ำตาลและเกลือปานกลาง มีแคลเซียมและธาตุเหล็กเพียงพอต่อความต้องการของร่างกายที่กำลังเติบโต พ่อแม่ ผู้ปกครอง พี่เลี้ยงและผู้ดูแลเด็กยังช่วยส่งเสริมโภชนาการที่ดีได้ด้วยการเป็นตัวอย่างที่ดี นิสัยการกินเพื่อสุขภาพและการออกกำลังกายเป็นประจำควรเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตครอบครัวอย่างสม่ำเสมอ มันง่ายกว่ามากถ้าทุกคนในบ้านปฏิบัติไปในแนวทางเดียวกันไม่ใช่ให้เด็กปฏิบัติตัวเคร่งครัดเรื่องอาหารการกิน แต่บรรดาผู้ใหญ่ในบ้านกลับไม่ใส่ใจ

หลีกเลี่ยงการเก็บของหวานหรือของขบเคี้ยวที่มีแคลอรีสูง เช่น มันฝรั่งทอด น้ำอัดลมธรรมดา ซีเรียลเคลือบน้ำตาล ลูกอม หรือไอศกรีมทั่วไปในบ้าน ระวังอาหารที่อาจทำให้เด็กสำลักได้ เช่น แครอทดิบ ถั่วลิสง องุ่นทั้งลูก เนื้อที่เคี้ยวยาก ข้าวโพดคั่ว หมากฝรั่ง หรือลูกอมที่ แม้ว่าเด็กอาจไม่ได้รับประทานอาหารที่ครบถ้วนเท่าที่คุณต้องการ แต่ตราบใดที่พวกเขายังเติบโตตามปกติและมีระดับพลังงานปกติ คงไม่ใช่เรื่องที่ต้องกังวล เพื่อป้องกันปัญหาการกิน ควรสอนเด็กเรื่องโภชนาการให้รู้จักข้อดีของการกินอาหารที่มีประโยชน์และผลเสียของอาหารขยะ (Junk Food)

ควรสร้างบรรยากาศการรับประทานอาหารให้เรื่องสนุกมีความสุข ไม่ควรทะเลาะหรือถกปัญหาเครียดบนโต๊ะอาหาร ความผิดพลาดทางโภชนาการที่พบบ่อยในวัยนี้ คือการปล่อยให้เด็กดื่มนมหรือน้ำผลไม้มากเกินไปจนอิ่มและไม่อยากกินอาหารมื้อหลัก บังคับให้ลูกกินเมื่อไม่หิว หรือการบังคับให้พวกเขากินอาหารที่ไม่ต้องการ คุณสามารถพ่อแม่ ผู้ปกครอง พี่เลี้ยงและผู้ดูแลเด็กอาจจะให้วิตามินเสริมแก่เด็ก หากเด็กรับประทานอาหารได้น้อย ไม่ควรลงโทษรุนแรงหากเด็กกินอาหารที่ไม่มีประโยชน์ แต่อธิบายเหตุผลและชี้ให้เห็นข้อดีและข้อเสียที่เกิดจากกิน



คลองเตยในวันพรุ่งนี้

หากวันนี้มีคำกล่าวขึ้นมาว่าในอนาคตอันใกล้นี้ย่านคลองเตยจะกลายเป็น CBD (Central Business District) ตลอดความยาวหลายกิโลเมตรที่ติดแม่น้ำเจ้าพระยา สำนักผังเมืองกรุงเทพมหานครจะเปลี่ยนสีผังเมืองของที่ดินทั้งหมด 2,353 ไร่ของการท่าเรือฯ ที่ก่อนหน้านี้เป็นสีน้ำเงินซึ่งระบุการใช้ประโยชน์ว่าเป็นที่ดินของหน่วยงานราชการเท่านั้น โดยในผังเมืองกรุงเทพมหานครฉบับใหม่ที่จะประกาศใช้ในปี พ.ศ.2563 จะเปลี่ยนเป็นสีแดงแบบเดียวกับพื้นที่ที่เป็น CBD ปัจจุบันของกรุงเทพมหานคร นั่นหมายความว่ากรุงเทพมหานครจะมีที่ดินที่ในผังเมืองระบุว่าเป็นสีแดงหรือที่ดินเพื่อการพาณิชยกรรมเพิ่มอีก 2,353 ไร่ทันที (สี – สีต่างๆ ที่เห็นบนผังเมืองรวม คือ การแบ่งโซนการใช้ประโยชน์ที่ดิน ที่คิดมาแล้ว และทุกๆ สีก็มีการกำหนดการใช้ประโยชน์ที่ดิน เช่น สีแดง ที่ดินประเภทพาณิชยกรรม สีเหลือง ที่ดินประเภทเพื่อการทำที่อยู่อาศัยหนาแน่นน้อย หรือ สีเขียว ที่ดินประเภทเพื่อทำเป็นที่ดินการเกษตร เป็นต้น) และหน่วยงานหนึ่งที่มีที่ดินขนาดใหญ่ในกรุงเทพมหานคร คือ การท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) มีที่ดินขนาด 2,353 ไร่ ย่านคลองเตย ที่ดินแปลงนี้การท่าเรือแห่งประเทศไทยมีแผนจะเปิดให้เอกชนเข้ามาพัฒนานานแล้วมีการศึกษากันมาต่อเนื่องในช่วง 10 กว่าปีที่ผ่านมา พื้นที่สีแดงนี้กำลังเป็นที่จับตามองเพราะขนาดของพื้นที่ 2,353 ไร่นั้นมี มากกว่าพื้นที่ที่เป็นสีแดงทั้งหมดในปัจจุบันรวมกันซะอีก นั่นก็เท่ากับว่ากรุงเทพมหานครจะมี CBD (Central Business District) ขนาดใหญ่และเป็นพื้นที่พาณิชย์ กรรมแบบแท้จริงขึ้นมาทันที เพราะพื้นที่สีแดงตามผังเมืองกรุงเทพมหานครนั้นคือพื้นที่ที่สามารถพัฒนาโครงการพาณิชยกรรมได้เป็นพื้นที่ที่ถือได้ว่ามีศักยภาพสูงที่สุดในการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ ปัญหาในการพัฒนาที่ดินแปลงนี้ของการท่าเรือฯ ถ้าตัดเรื่องของการเวนคืนที่ดินหรือการย้ายคน ชุมชนที่อยู่มานานออกไป คือ เรื่องของระบบคมนาคมภายในโครงการและการเชื่อมต่อกับระบบขนส่งมวลชนเดิม ที่ดูเหมือนจะไม่เพียงพอที่จะรองรับการขยายตัวในอนาคต ทางรถไฟที่เชื่อมถึงสถานีนี้ซึ่งผ่านทั้งแปลงที่ดินสถานีกลางบางซื่อ มักกะสัน ย่านเพลินจิต ก็มีความเป็นไปได้ที่จะนำมาพัฒนาต่อเป็นระบบรถไฟฟ้าเชื่อมโครงการที่สถานีแม่น้ำเข้ากับพื้นที่ใจกลางเมือง ภารกิจใหญ่ของ “กทท.-การท่าเรือแห่งประเทศไทย” ไม่ใช่แค่การขยายการลงทุนและเพิ่มขีดความสามารถของท่าเรือที่มีอยู่ในมือ ในอนาคตมีแผนที่จะทำรถไฟโมโนเรลจากสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์เชื่อมต่อเข้ามาในบริเวณนี้ด้วย ถ้าทำได้จริง น่าจะเป็นการพลิกโฉม “ทำเลคลองเตย” เป็นเมืองที่ทันสมัย ไม่แพ้ทำเลใจกลางเมือง



รู้จักเด็กก่อนวัยเรียน...(หนูโตแล้วนะ)

การเลี้ยงเด็กก่อนวัยเรียนอาจเป็นเรื่องท้าทายสำหรับคนเป็น พ่อแม่ ผู้ปกครอง และพี่เลี้ยงเด็ก เพราะเด็กวัยนี้มีความกระตือรือร้นอยากรู้อยากเห็น ทักษะทางสังคม อารมณ์ และร่างกายที่พัฒนาขึ้น การทำความเข้าใจขั้นตอนพัฒนาการของเด็ก จะช่วยให้พ่อแม่ ผู้ปกครอง และพี่เลี้ยงเด็กมั่นใจได้ว่าวิธีการเลี้ยงดูเหมาะสมสำหรับเด็ก เด็กก่อนวัยเรียนมีความเป็นตัวของตัวเองมากขึ้น อยากเลือกเสื้อผ้าด้วยตัวเอง ติดกระดุม และแปรงฟันโดยไม่ต้องขอความช่วยเหลือจากผู้ดูแล (เราคอยดู ทำเป็นตัวอย่างและแนะนำ) ด้วยพัฒนาการด้านทักษะการสื่อสาร เด็กจะเริ่มพูดเป็นประโยคสั้นๆ เล่าเรื่องมากมาย ชอบถามคำถาม "ทำไม" จำเพลงกล่อมเด็ก ชื่นชมกิจกรรมพิเศษ และเข้าใจกิจวัตรประจำวัน ในขั้นตอนนี้ เด็กก่อนวัยเรียนจะเริ่มเล่นร่วมกับเด็กคนอื่นๆ ในกลุ่มเล็กๆ แบ่งปันของเล่น และพัฒนามิตรภาพ เวลาเล่นอาจรวมถึงเกมที่มีโครงสร้างและกิจกรรมสร้างสรรค์จินตนาการ

การให้เด็กวัยนี้เข้าเรียนในชั้นเตรียมอนุบาลเป็นโอกาสที่ดีในการเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับความเข้มงวดของโรงเรียนและฝึกฝนทักษะทางสังคมและความรู้ความเข้าใจ พ่อแม่สามารถคาดหวังให้เด็กก่อนวัยเรียนแต่งตัวด้วยตัวเอง แปรงฟันด้วยคำแนะนำ และสามารถใช้ห้องน้ำได้ด้วยตัวเอง คุณพ่อคุณแม่อาจไม่แน่ใจเมื่อต้องปล่อยให้ลูก ๆ ไปโรงเรียน ยิ่งเมื่อลูกรู้สึกเครียดหรือวิตกกังวล แต่โดยรวมแล้วคุณควรจะสามารถสื่อสารกันได้ค่อนข้างดี ให้คำแนะนำชี้แนะมุมมองให้ลูก ๆสนใจมากขึ้น นี่เป็นช่วงเวลาแห่งการเติบโตและเด็กในวัยนี้ต้องการความไว้วางใจและอยากรับผิดชอบมากขึ้น คุณพ่อคุณแม่ช่วยส่งเสริมความรู้สึกรับผิดชอบโดยเริ่มให้เงินค่าขนม สอนให้เด็กรู้จักคุณค่าของเงินและความสำคัญของการออม ในแง่ของงานบ้าน เด็กก่อนวัยเรียนสามารถช่วยเช็ดโต๊ะ หรือเก็บของเล่น เมื่อเล่นเสร็จ การเสริมแรงเชิงบวกเป็นสิ่งสำคัญสำหรับงานบ้านที่เสร็จสมบูรณ์ และความล้มเหลวในการทำงานบ้านอาจเป็นสัญญาณว่าพวกเขายังไม่พร้อมที่จะทำงานบ้านนั้นหรือต้องการเวลามากขึ้นในการเรียนรู้ ควรเน้นที่ทักษะการสอน มากกว่าการลงโทษเด็กที่ไม่ปฏิบัติตาม การอนุญาตให้บุตรหลานของคุณมีทางเลือกว่างานบ้านใดที่บางครั้งอาจช่วยให้ปฏิบัติตามได้