ดูแลเด็ก ใน คลองเตย, กรุงเทพมหานคร

ดูแลเด็ก ใน คลองเตย, กรุงเทพมหานคร

คุณต้องการใช้บริการนี้เมื่อไหร่?
ระบุวันที่
ผู้ให้บริการดูแลเด็ก ใน คลองเตย, กรุงเทพมหานคร:

วิธีการทำงาน

Saijai

ติดต่อเรา

ติดต่อเราโดยตรงผ่าน LINE OA เพื่อจองบริการที่คุณต้องการ

Saijai

แจ้งรายละเอียดให้เราทราบ

เลือกบริการ วันที่ เวลา และสถานที่ที่คุณต้องการให้ตรงกับความต้องการของคุณ

Saijai

ยืนยันการจองของคุณ

เราจะยืนยันการจองของคุณภายใน 24 ชั่วโมงผ่านทาง LINE OA

ผ่านหลักสูตร คุรุศาสตร๋มหาบัณฑิตด้วยค่ะ

แสดงเพิ่มเติม
ฉันทนา สิทธิ
ฉันทนา สิทธิ
Saijai ประสบการณ์ 1-2 ปี
Saijai อายุ 45 ปี

เป็นคนง่ายๆรักเด็กใจเย็นไม่เคยโกรธหรือโมโหอะไรง่ายๆนอนน้อยทําได้หมดแต่ไม่ชอบจู้จี้

แสดงเพิ่มเติม
วิไล นันต๊ะภาพ
วิไล นันต๊ะภาพ
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี
Saijai อายุ 47 ปี
ทิพวรรณ์ ราศรี
ทิพวรรณ์ ราศรี
Saijai ประสบการณ์ 1-2 ปี
Saijai อายุ 27 ปี

เป็นคนอัธยาศัยดีค่ะ ใจเย็นค่ะชอบเล่นกับเด็ก ส่งเสริมพัฒนาการของน้องได้ค่ะ

แสดงเพิ่มเติม
กัญญาภัทร บุตรพรม
กัญญาภัทร บุตรพรม
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี

สวัสดีค่ะ ชือ ภัทรค่ะ อายุ 52 ถนัดดูแลเด็กแรกคลอด คุณแม่หลังคลอดค่ะ นวดเด็กแรกเล็กได้ ช้วยให้เด็ก อารมณ์ดีไม่งอแง ช่วยระบบขับถ่าย เลือดลมไหลเวียนดี ร่างกายแข็งแรง.นวดประคบสมุนไพร คุณแม่หลังคลอดช่วยในการอยู่ไฟสมัยโบราณ ทำให้มดลูกเข้าอู่ไว้ ร่างกายแข็งแรง รับงานได้ทั้งในและต่างประเทศค่ะ รับดูแลทั้งคนไทยและต่างชาติ

แสดงเพิ่มเติม
เอกนารี ดาบาง
เอกนารี ดาบาง
Saijai ประสบการณ์ 1-2 ปี
Saijai อายุ 29 ปี

เป็นคนรักเด็กมีความใส่ใจในการเจริญเติบโตเเละพัฒนาของเด็ก

แสดงเพิ่มเติม
Pavana Suntudchaiyo
Pavana Suntudchaiyo
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี
Saijai อายุ 57 ปี

I am in good health, kind and responsible, polite and gentle. สุภาพ สุขภาพแข็งแรง พูดเพราะ มีความรับผิดชอบ

แสดงเพิ่มเติม
Piyatida Dumluck
Piyatida Dumluck
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี
Saijai อายุ 39 ปี

มีความอดทน ขยัน รักความสะอาด ใจเย็น

แสดงเพิ่มเติม
เสาวณีย์ เขาพระจันทร์
เสาวณีย์ เขาพระจันทร์
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี
Saijai อายุ 38 ปี

ใส่ใจดูแลเหมือนลูกเจ้าของเองใจเย็น ดูแลได้ตลอด

แสดงเพิ่มเติม
วริวรรณ อยู่ไพร
วริวรรณ อยู่ไพร
Saijai ประสบการณ์ 0-1 ปี
Saijai อายุ 36 ปี

ข้อมูลสถิติน่าสนใจเกี่ยวกับ

Saijai จำนวนประชากร
Saijai จำนวนประชากรเด็ก (แรกเกิด-14 ปี)
Saijai จำนวนประชากรสูงอายุ (60 ปี ขึ้นไป)
Saijai จำนวนสัตว์เลี้ยง สุนัข

รีวิวล่าสุด

ดิฉันกับสามีทำงานประจำทั้งคู่ค่ะ ไม่มีใครคอยอยู่ดูแลลูกที่บ้านเลย ลูกติดนิสัยชอบอยู่แต่ในบ้านและซนกับพี่เลี้ยงมาก จนพี่เลี้ยงหลาย ๆ คนทนไม่ไหวถึงกับขอลาออกเอง โชคดีที่ได้เจอพี่เลี้ยงคนนี้บนเว็บใส่ใจ พี่ลี้ยงเข้ากับน้องได้ดีค่ะ
Saijai
วิลาภรณ์ สุทธิรักษ์
4 ปีที่แล้ว
ลูกยังเล็กเราจ้างพี่เลี้ยงมา ตกลงเวลาเริ่มงาน 9.30-17.30 น. (พี่เลี้ยงมา 8.30 น. ทุกวัน ) ประสบการณ์ เคยดูแล เด็กเล็ก 4 เดือน – 2 ขวบ พอเด็กเข้าโรงเรียน ก็ว่าง พอดีที่บ้านช่วยกันหา เจอเว็บนี้เห็นรีวิวประสบการณ์คนเลี้ยงเลย คุยดู พี่เลี้ยงทำงานดีมาก่อนเวลา เตรียมของใช้ ทำงานเป็นระเบียบเหมือนอบรมมาดี อุ่นใจ คิดถูกที่ใช้บริการใส่ใจ แนะนำค่ะ
Saijai
ณัฐวรรณ แสงสีเงิน
4 ปีที่แล้ว
เราทำงานนอกบ้าน เลยหาพี่เลี้ยงเด็กมาดูแลน้องที่บ้าน ค้นหาข้อมูลดูเวปนี้ให้รายละเอียดพี่เลี้ยงน่าสนใจ ราคาเรารับได้ เราเลยให้น้องมาทดลองงานก่อนเราไปทำงาน น้องมีประสบการณ์มา เลยปรับตัวไม่ยาก เวลาเราอยู่น้องจะช่วยหยิบจับของทำโน่นทำนี่ไป ประทับใจคะ สองเดือนแล้วน้องทำงานดี มีระเบียบเรียบร้อย คุ้มค่ากับเงินที่เสียไป เราไว้ใจให้น้องคนนี้ดูแล
Saijai
แม่น้องกัญ
4 ปีที่แล้ว
เป็นครั้งแรกที่เลือกใช้บริการพี่เลี้ยงเด็กในเว็บใส่ใจ ตอนแรกคิดว่าจะยุ่งยากในจอง แต่พอเข้าไปในเว็บไซต์ เว็บไซต์ใช้งานง่ายมาก ๆ มีความสะดวกในการใช้งาน อีกทั้งยังมี Guideline ให้อีกด้วย และขั้นตอนการนัดสัมภาษณ์พี่เลี้ยงเด็กก็ไม่ยุ่งยากอย่างที่คิดเพราะมีตัวเลือกให้เลือกด้วยว่าเราสะดวกสัมภาษณ์ทางไหน เหมาะแก่คนที่ไม่มีเวลาอย่างเราจริง ๆ
Saijai
สุริยา ดำรงรักษ์
4 ปีที่แล้ว
ลองค้นหาบริการพี่เลี้ยงเด็กอยู่หลายที่ จนได้มาเจอเว็บใส่ใจ ลองเข้าไปดู รู้สึกว่าทุกอย่างเป็นไปอย่างมีขั้นตอน เริ่มตั้งแต่ให้เลือกพี่เลี้ยง ขั้นตอนนัดสัมภาษณ์ รายละเอียดและคำแนะนำต่าง ๆ พี่เลี้ยงที่ได้มาก็ตรงตามความต้องการสุด ๆ รู้สึกประทับใจมาก
Saijai
ณัฐณิชา ทิวาสวัสดิ์
4 ปีที่แล้ว

คำถามที่พบบ่อยสำหรับการค้นหา ดูแลเด็ก

พี่เลี้ยงเด็กส่วนตัวหรือเนอสเซอรี่ (Nursery) อะไรคือคำตอบสำหรับคุณพ่อคุณแม่ยุคนี้
ข้อดีของการให้พี่เลี้ยงดูแลเด็กที่บ้านของคุณเอง

1. ลูกน้อยของคุณได้รับการดูแลจากพี่เลี้ยงแบบใกล้ชิด ทำให้เด็กรู้สึกได้ถึงความเอาใจใส่ และมีพัฒนาการทางอารมณ์ที่ดี
2. มีความยืดหยุ่นในการทำกิจวัตรประจำวันเพราะเด็กไม่ต้อง กิน นอน หรือ เล่นตามตารางเหมือนอยู่ในศูนย์รับเลี้ยงเด็กหรือเนอสเซอรี่ (Nursery)
3. พี่เลี้ยงเด็กสามารถปรับเวลาการทำงานให้สอดคล้องกับเวลาทำงานและวันหยุดของคุณพ่อคุณแม่
4. คุณพ่อคุณแม่มีเวลาอยู่กับลูกมากขึ้นเพราะไม่ต้องเผื่อเวลาในการรับส่ง ก่อนและหลังเลิกงาน
5. เด็กได้รับการดูแลในบรรยากาศที่คุ้นเคยและรู้สึกปลอดภัย
6. คุณพ่อคุณแม่ประหยัดเวลาในการเดินทางรับส่ง หมดปัญหาเรื่องรถติดและมลภาวะบนท้องถนน
7. คุณพ่อคุณแม่ประหยัดเวลาในการเตรียมตัวหรือจัดเตรียมของใช้ให้ลูก เช่น ขวดนม เสื้อผ้า หรือแพมเพิส
8. ลดความเสี่ยงของโรคติดต่อ โดยเฉพาะเด็กเล็กที่ภูมิต้านทานยังน้อยจะเจ็บป่วยได้ง่าย หากต้องอยู่ปะปนกับเด็ก ๆ อื่น
9. มีคนอยู่บ้านตลอดเวลาในขณะที่คุณพ่อคุณแม่ออกไปทำงาน

ข้อดีของการเข้าเนอสเซอรี่ (Nursery)

1. ฝึกทักษะการเข้าสังคมเพราะเด็กต้องอยู่ร่วมกับเด็กคนอื่น ๆ และครูพี่เลี้ยง
2. ค่าใช้จ่ายไม่สูงเมื่อเปรียบเทียบกับการจ้างพี่เลี้ยงส่วนตัว
3. เนอสเซอรี่มีกิจกรรมส่งเสริมการเรียนรู้เพื่อให้เด็กฝึกทักษะผ่านการทำกิจกรรมต่าง ๆ
คุณสมบัติอะไรบ้างที่พ่อแม่ควรมองหาจากพี่เลี้ยงเด็กก่อนตกลงจ้าง
ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่คุณพ่อคุณแม่สักคนจะตัดสินใจหาใครมาดูแลลูกน้อยที่เปรียบเสมือนแก้วตาดวงใจ วันนี้ใส่ใจมีข้อมูลของทักษะและคุณสมบัติที่พี่เลี้ยงเด็กควรมีมาฝากให้คุณพ่อคุณแม่ลองเช็คกันดูก่อนตัดสินใจจ้างพี่เลี้ยงสักคน

1. พี่เลี้ยงเด็กต้องมีความอดทนสูง คุณพ่อคุณแม่ต้องมั่นใจว่าพี่เลี้ยงเด็กต้องมีความเข้าใจเด็ก สามารถรับมือกับสถานการณ์ต่าง ๆ ได้ดี และที่สำคัญที่สุดคือเป็นคนที่มีความอดทนสูง
2. พี่เลี้ยงเด็กควรรู้วิธีการปฐมพยาบาลเบื้องต้น ในกรณีเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดหรืออุบัติเหตุ พี่เลี้ยงต้องมีความรู้และทักษะการปฐมพยาบาลเบื้องต้น และสามารถช่วยเหลือเด็กได้ทันที เช่น เด็กที่อยู่ภายใต้การดูแลเกิดอุบัติเหตุหกล้ม มีแผลถลอก พี่เลี้ยงต้องรีบปฐมพยาบาลเบื้องต้นเพื่อไม่ให้เกิดการติดเชื้อของแผล เป็นต้น ดังนั้นคุณพ่อและคุณแม่ควรเลือกพี่เลี้ยงที่มีทักษะด้านการปฐมพยาบาลเบื้องต้นเพราะเป็นสิ่งจำเป็นมาก ๆ
3. พี่เลี้ยงเด็กควรมีทักษะการแก้ไขปัญหา พี่เลี้ยงจะต้องรู้วิธีการแก้ไขปัญหาเบื้องต้นได้โดยไม่จำเป็นต้องแจ้งผู้ว่าจ้างเสมอไปหากปัญหานั้นไม่ใช่ปัญหาที่ร้ายแรง
4. ทำอาหารเป็น ถือเป็นอีกหนึ่งทักษะที่พี่เลี้ยงเด็กจำเป็นต้องมี พี่เลี้ยงไม่ได้มีหน้าที่แค่ดูแลเด็กอย่างเดียวเท่านั้น แต่พี่เลี้ยงอาจจะต้องเตรียมอาหารให้เด็ก ๆ รับประทานในแต่ละมื้อด้วย หากอาหารอร่อยถูกปาก เด็กจะเจริญอาหารและอารมณ์ดี ที่สำคัญที่สุดที่พี่เลี้ยงต้องใส่ใจและจดจำด้วยว่าเด็ก ๆ ที่ดูแลนั้น แพ้อาหารอะไรบ้าง เพื่อป้องกันอุบัติเหตุที่อาจจะเกิดขึ้นจากการรับประทานสิ่งที่แพ้เข้าไป
5. มีความคิดสร้างสรรค์ในการส่งเสริมพัฒนาการเด็ก พี่เลี้ยงจะต้องเป็นคนที่มีความคิดสร้างสรรค์ สามารถร่วมทำกิจกรรมกับเด็ก ๆ ในระหว่างวัน ไม่ว่าจะเป็นทางด้านวิชาการหรือสันทนาการ เช่น พี่เลี้ยงเด็กอาจจะสอนเด็กนับเลข ฝึกการอ่าน หรือระบายสีเพื่อให้เด็กได้เรียนรู้ผ่านกิจกรรมที่สร้างสรรค์เหล่านี้
อะไรที่จะช่วยให้คุณพ่อคุณแม่คลายความกังวลเมื่อต้องปล่อยให้ลูก ๆ อยู่กับพี่เลี้ยงตามลำพัง
เมื่อคุณพ่อคุณแม่จำเป็นต้องจ้างพี่เลี้ยงมาดูแลลูก ๆ ของคุณ ความไว้วางใจและความน่าเชื่อถือเป็นหัวใจสำคัญในการตัดสินใจ คุณพ่อคุณแม่มีวิธีการใดบ้างที่จะหาพี่เลี้ยงที่วางใจได้ ใส่ใจมีวิธีการที่ช่วยให้คุณพ่อคุณแม่รู้จักตัวตนของพี่เลี้ยงเด็กมากขึ้น

1. ถือเป็นการเริ่มต้นที่ดีหากครอบครัวหรือเพื่อนของคุณพ่อคุณแม่เป็นผู้แนะนำพี่เลี้ยงเด็กที่พวกเขารู้จัก อย่างน้อยก็มีคนรับรองพวกเขาได้ แต่สิ่งสำคัญก็คือต้องทำการสัมภาษณ์พี่เลี้ยงเด็กและตรวจสอบประวัติของคุณเองเพื่อให้แน่ใจว่าเชื่อถือได้มากที่สุด
2. สำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่มองหาพี่เลี้ยงจากสื่อออนไลน์ หรือโซเชียลมีเดีย (Social Media) เช่น เฟสบุ๊ค หรือไลน์ มองหาพี่เลี้ยงเด็กที่มีรีวิวจากผู้ที่เคยใช้บริการก่อนหน้า ใช้เวลาอ่านและศึกษารีวิวเหล่านั้น
3. เชื่อสัญชาตญาณของตัวเอง เมื่อคุณพ่อคุณแม่มีโอกาสสัมภาษณ์พี่เลี้ยงเด็กก่อนเริ่มงาน หากมีสัญญาณที่ทำให้คุณพ่อคุณแม่รู้สึกไม่สบายใจ เช่น พี่เลี้ยงเด็กดูเป็นคนไม่กระตือรือร้น หรือไม่ยิ้มแย้มแจ่มใส จงเชื่อสัญชาตญาณของตัวเองที่ชี้ว่าคนคนนี้ไม่เหมาะสมกับงาน
4. ตรวจสอบประวัติ คุณพ่อคุณแม่อาจร้องขอให้พี่เลี้ยงตรวจสอบประวัติอาชญากรรมกับกองทะเบียนประวัติอาชญากร( http://www.criminal.police.go.th/ ) เพื่อให้แน่ใจว่าพี่เลี้ยงเด็กไม่มีประวัติกระทำผิดกฎหมายทั้งหมดนี้เป็นส่วนหนึ่งที่คุณพ่อคุณแม่สามารถทำได้เพื่อตรวจสอบความน่าเชื่อถือและช่วยในการตัดสินใจ
ข้อตกลงสำคัญที่พ่อแม่ควรตกลงกับพี่เลี้ยงเด็กก่อนเริ่มงานมีอะไรบ้าง?
สัญญาหรือข้อตกลงในการทำงานเป็นสิ่งที่คุณพ่อคุณแม่และพี่เลี้ยงเด็กต้องตกลงร่วมกันเพื่อความเข้าใจที่ตรงกันในขอบเขตการทำงานและค่าตอบแทน การทำสัญญาเป็นลายลักษณ์อักษรอาจจะไม่จำเป็นเสมอไป แต่การร่างหรือการบันทึกรายการช่วยให้ทั้งสองฝ่ายจดจำรายละเอียดต่าง ๆ ได้ง่ายขึ้น มีอะไรบ้างที่คุณพ่อคุณแม่และพี่เลี้ยงเด็กควรตกลงกันก่อนเริ่มงาน

1. วันเริ่มงาน ควรมีวันเริ่มงานให้ชัดเจนเพื่อประโยชน์และไม่เป็นการเสียเวลาของทั้งคุณพ่อคุณแม่และพี่เลี้ยงเด็ก
2. ชั่วโมงการทำงานและวันหยุด ตกลงเรื่องเวลาทำงาน จำนวนชั่วโมงการทำงานในแต่ละวันและวันหยุด เพื่อให้ตารางการทำงานของพี่เลี้ยงเด็กสอดคล้องกับเวลาทำงานของพ่อคุณแม่มากที่สุด และทั้งสองฝ่ายควรรักษาเวลา
3. ขอบเขตหน้าที่และความรับผิดชอบ กำหนดความรับผิดชอบของพี่เลี้ยงเด็กให้ชัดเจน
4. ค่าแรงและกำหนดการจ่าย ค่าแรงของพี่เลี้ยงเด็กอาจขึ้นอยู่กับลักษณะการทำงาน เช่นพี่เลี้ยงเด็กรายชั่วโมง รายวัน รายสัปดาห์และรายเดือน ซึ่งกำหนดการจ่ายเงินอาจจะแตกต่างกันไปตามลักษณะการทำงานนี้ด้วย
5. ค่าแรงในกรณีทำงานล่วงเวลา หากคุณพ่อคุณแม่ต้องการให้พี่เลี้ยงเด็กทำงานล่วงเวลา ควรสอบถามความสมัครใจของพี่เลี้ยงและตกลงกันให้ชัดเจนเรื่องค่าแรง
6. การโพสต์รูปหรือข้อความเกี่ยวกับเด็กลงสื่อออนไลน์ (Social Medias) คุณพ่อคุณแม่คงไม่อยากให้มีรูปภาพ หรือข้อความเกี่ยวกับลูก ๆ ถูกโพสต์ลงในโซเชียลมีเดีย เช่น เฟสบุ๊ค หรืออินสตาแกรม โดยไม่ได้รับอนุญาต ดังนั้นคุณพ่อคุณแม่ควรทำความตกลงกับพี่เลี้ยงเด็กในเรื่องนี้ด้วย
ทั้งหมดนี้คือสิ่งที่คุณพ่อและคุณแม่ควรพูดคุยตกลงกับพี่เลี้ยงเด็กให้ชัดเจนก่อนเริ่มงาน

เรื่องอาหารและโภชนาการของเด็กที่ต้องใส่ใจ

อาหารและโภชนาการหรับเด็ก

โภชนาการมีความสำคัญต่อสุขภาพโดยรวมของเด็ก พ่อแม่ ผู้ปกครอง หรือพี่เลี้ยงเด็กต้องพยายามอย่างเต็มที่ที่จะเสิร์ฟผลไม้ ผัก เนื้อไม่ติดมัน และผลิตภัณฑ์นมไขมันต่ำ และจำกัดอาหารที่มีน้ำตาลสูงและอาหารที่มีไขมันสูง โภชนาการที่เหมาะสมควรรวมถึงการรับประทานอาหารสามมื้อต่อวันและของว่างที่มีคุณค่าทางโภชนาการสองมื้อ

ปริมาณแคลอรีที่เด็กก่อนวัยเรียนจำเป็นต้องได้รับในแต่ละวันขึ้นอยู่กับว่าพวกเขากระตือรือร้นแค่ไหน คำแนะนำด้านโภชนาการที่ดีที่สุดเพื่อให้เด็กมีสุขภาพที่ดีในขั้นตอนนี้ คือการกระตุ้นให้เด็กกินอาหารที่หลากหลาย เลือกอาหารจากผลิตภัณฑ์จากธัญพืช ผักและผลไม้มากมาย ไขมันต่ำ ไขมันอิ่มตัว และ คอเลสเตอรอล น้ำตาลและเกลือปานกลาง มีแคลเซียมและธาตุเหล็กเพียงพอต่อความต้องการของร่างกายที่กำลังเติบโต พ่อแม่ ผู้ปกครอง พี่เลี้ยงและผู้ดูแลเด็กยังช่วยส่งเสริมโภชนาการที่ดีได้ด้วยการเป็นตัวอย่างที่ดี นิสัยการกินเพื่อสุขภาพและการออกกำลังกายเป็นประจำควรเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตครอบครัวอย่างสม่ำเสมอ มันง่ายกว่ามากถ้าทุกคนในบ้านปฏิบัติไปในแนวทางเดียวกันไม่ใช่ให้เด็กปฏิบัติตัวเคร่งครัดเรื่องอาหารการกิน แต่บรรดาผู้ใหญ่ในบ้านกลับไม่ใส่ใจ

หลีกเลี่ยงการเก็บของหวานหรือของขบเคี้ยวที่มีแคลอรีสูง เช่น มันฝรั่งทอด น้ำอัดลมธรรมดา ซีเรียลเคลือบน้ำตาล ลูกอม หรือไอศกรีมทั่วไปในบ้าน ระวังอาหารที่อาจทำให้เด็กสำลักได้ เช่น แครอทดิบ ถั่วลิสง องุ่นทั้งลูก เนื้อที่เคี้ยวยาก ข้าวโพดคั่ว หมากฝรั่ง หรือลูกอมที่ แม้ว่าเด็กอาจไม่ได้รับประทานอาหารที่ครบถ้วนเท่าที่คุณต้องการ แต่ตราบใดที่พวกเขายังเติบโตตามปกติและมีระดับพลังงานปกติ คงไม่ใช่เรื่องที่ต้องกังวล เพื่อป้องกันปัญหาการกิน ควรสอนเด็กเรื่องโภชนาการให้รู้จักข้อดีของการกินอาหารที่มีประโยชน์และผลเสียของอาหารขยะ (Junk Food)

ควรสร้างบรรยากาศการรับประทานอาหารให้เรื่องสนุกมีความสุข ไม่ควรทะเลาะหรือถกปัญหาเครียดบนโต๊ะอาหาร ความผิดพลาดทางโภชนาการที่พบบ่อยในวัยนี้ คือการปล่อยให้เด็กดื่มนมหรือน้ำผลไม้มากเกินไปจนอิ่มและไม่อยากกินอาหารมื้อหลัก บังคับให้ลูกกินเมื่อไม่หิว หรือการบังคับให้พวกเขากินอาหารที่ไม่ต้องการ คุณสามารถพ่อแม่ ผู้ปกครอง พี่เลี้ยงและผู้ดูแลเด็กอาจจะให้วิตามินเสริมแก่เด็ก หากเด็กรับประทานอาหารได้น้อย ไม่ควรลงโทษรุนแรงหากเด็กกินอาหารที่ไม่มีประโยชน์ แต่อธิบายเหตุผลและชี้ให้เห็นข้อดีและข้อเสียที่เกิดจากกิน



คลองเตยในวันพรุ่งนี้

หากวันนี้มีคำกล่าวขึ้นมาว่าในอนาคตอันใกล้นี้ย่านคลองเตยจะกลายเป็น CBD (Central Business District) ตลอดความยาวหลายกิโลเมตรที่ติดแม่น้ำเจ้าพระยา สำนักผังเมืองกรุงเทพมหานครจะเปลี่ยนสีผังเมืองของที่ดินทั้งหมด 2,353 ไร่ของการท่าเรือฯ ที่ก่อนหน้านี้เป็นสีน้ำเงินซึ่งระบุการใช้ประโยชน์ว่าเป็นที่ดินของหน่วยงานราชการเท่านั้น โดยในผังเมืองกรุงเทพมหานครฉบับใหม่ที่จะประกาศใช้ในปี พ.ศ.2563 จะเปลี่ยนเป็นสีแดงแบบเดียวกับพื้นที่ที่เป็น CBD ปัจจุบันของกรุงเทพมหานคร นั่นหมายความว่ากรุงเทพมหานครจะมีที่ดินที่ในผังเมืองระบุว่าเป็นสีแดงหรือที่ดินเพื่อการพาณิชยกรรมเพิ่มอีก 2,353 ไร่ทันที (สี – สีต่างๆ ที่เห็นบนผังเมืองรวม คือ การแบ่งโซนการใช้ประโยชน์ที่ดิน ที่คิดมาแล้ว และทุกๆ สีก็มีการกำหนดการใช้ประโยชน์ที่ดิน เช่น สีแดง ที่ดินประเภทพาณิชยกรรม สีเหลือง ที่ดินประเภทเพื่อการทำที่อยู่อาศัยหนาแน่นน้อย หรือ สีเขียว ที่ดินประเภทเพื่อทำเป็นที่ดินการเกษตร เป็นต้น) และหน่วยงานหนึ่งที่มีที่ดินขนาดใหญ่ในกรุงเทพมหานคร คือ การท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) มีที่ดินขนาด 2,353 ไร่ ย่านคลองเตย ที่ดินแปลงนี้การท่าเรือแห่งประเทศไทยมีแผนจะเปิดให้เอกชนเข้ามาพัฒนานานแล้วมีการศึกษากันมาต่อเนื่องในช่วง 10 กว่าปีที่ผ่านมา พื้นที่สีแดงนี้กำลังเป็นที่จับตามองเพราะขนาดของพื้นที่ 2,353 ไร่นั้นมี มากกว่าพื้นที่ที่เป็นสีแดงทั้งหมดในปัจจุบันรวมกันซะอีก นั่นก็เท่ากับว่ากรุงเทพมหานครจะมี CBD (Central Business District) ขนาดใหญ่และเป็นพื้นที่พาณิชย์ กรรมแบบแท้จริงขึ้นมาทันที เพราะพื้นที่สีแดงตามผังเมืองกรุงเทพมหานครนั้นคือพื้นที่ที่สามารถพัฒนาโครงการพาณิชยกรรมได้เป็นพื้นที่ที่ถือได้ว่ามีศักยภาพสูงที่สุดในการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ ปัญหาในการพัฒนาที่ดินแปลงนี้ของการท่าเรือฯ ถ้าตัดเรื่องของการเวนคืนที่ดินหรือการย้ายคน ชุมชนที่อยู่มานานออกไป คือ เรื่องของระบบคมนาคมภายในโครงการและการเชื่อมต่อกับระบบขนส่งมวลชนเดิม ที่ดูเหมือนจะไม่เพียงพอที่จะรองรับการขยายตัวในอนาคต ทางรถไฟที่เชื่อมถึงสถานีนี้ซึ่งผ่านทั้งแปลงที่ดินสถานีกลางบางซื่อ มักกะสัน ย่านเพลินจิต ก็มีความเป็นไปได้ที่จะนำมาพัฒนาต่อเป็นระบบรถไฟฟ้าเชื่อมโครงการที่สถานีแม่น้ำเข้ากับพื้นที่ใจกลางเมือง ภารกิจใหญ่ของ “กทท.-การท่าเรือแห่งประเทศไทย” ไม่ใช่แค่การขยายการลงทุนและเพิ่มขีดความสามารถของท่าเรือที่มีอยู่ในมือ ในอนาคตมีแผนที่จะทำรถไฟโมโนเรลจากสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์เชื่อมต่อเข้ามาในบริเวณนี้ด้วย ถ้าทำได้จริง น่าจะเป็นการพลิกโฉม “ทำเลคลองเตย” เป็นเมืองที่ทันสมัย ไม่แพ้ทำเลใจกลางเมือง



รู้จักเด็กก่อนวัยเรียน...(หนูโตแล้วนะ)

การเลี้ยงเด็กก่อนวัยเรียนอาจเป็นเรื่องท้าทายสำหรับคนเป็น พ่อแม่ ผู้ปกครอง และพี่เลี้ยงเด็ก เพราะเด็กวัยนี้มีความกระตือรือร้นอยากรู้อยากเห็น ทักษะทางสังคม อารมณ์ และร่างกายที่พัฒนาขึ้น การทำความเข้าใจขั้นตอนพัฒนาการของเด็ก จะช่วยให้พ่อแม่ ผู้ปกครอง และพี่เลี้ยงเด็กมั่นใจได้ว่าวิธีการเลี้ยงดูเหมาะสมสำหรับเด็ก เด็กก่อนวัยเรียนมีความเป็นตัวของตัวเองมากขึ้น อยากเลือกเสื้อผ้าด้วยตัวเอง ติดกระดุม และแปรงฟันโดยไม่ต้องขอความช่วยเหลือจากผู้ดูแล (เราคอยดู ทำเป็นตัวอย่างและแนะนำ) ด้วยพัฒนาการด้านทักษะการสื่อสาร เด็กจะเริ่มพูดเป็นประโยคสั้นๆ เล่าเรื่องมากมาย ชอบถามคำถาม "ทำไม" จำเพลงกล่อมเด็ก ชื่นชมกิจกรรมพิเศษ และเข้าใจกิจวัตรประจำวัน ในขั้นตอนนี้ เด็กก่อนวัยเรียนจะเริ่มเล่นร่วมกับเด็กคนอื่นๆ ในกลุ่มเล็กๆ แบ่งปันของเล่น และพัฒนามิตรภาพ เวลาเล่นอาจรวมถึงเกมที่มีโครงสร้างและกิจกรรมสร้างสรรค์จินตนาการ

การให้เด็กวัยนี้เข้าเรียนในชั้นเตรียมอนุบาลเป็นโอกาสที่ดีในการเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับความเข้มงวดของโรงเรียนและฝึกฝนทักษะทางสังคมและความรู้ความเข้าใจ พ่อแม่สามารถคาดหวังให้เด็กก่อนวัยเรียนแต่งตัวด้วยตัวเอง แปรงฟันด้วยคำแนะนำ และสามารถใช้ห้องน้ำได้ด้วยตัวเอง คุณพ่อคุณแม่อาจไม่แน่ใจเมื่อต้องปล่อยให้ลูก ๆ ไปโรงเรียน ยิ่งเมื่อลูกรู้สึกเครียดหรือวิตกกังวล แต่โดยรวมแล้วคุณควรจะสามารถสื่อสารกันได้ค่อนข้างดี ให้คำแนะนำชี้แนะมุมมองให้ลูก ๆสนใจมากขึ้น นี่เป็นช่วงเวลาแห่งการเติบโตและเด็กในวัยนี้ต้องการความไว้วางใจและอยากรับผิดชอบมากขึ้น คุณพ่อคุณแม่ช่วยส่งเสริมความรู้สึกรับผิดชอบโดยเริ่มให้เงินค่าขนม สอนให้เด็กรู้จักคุณค่าของเงินและความสำคัญของการออม ในแง่ของงานบ้าน เด็กก่อนวัยเรียนสามารถช่วยเช็ดโต๊ะ หรือเก็บของเล่น เมื่อเล่นเสร็จ การเสริมแรงเชิงบวกเป็นสิ่งสำคัญสำหรับงานบ้านที่เสร็จสมบูรณ์ และความล้มเหลวในการทำงานบ้านอาจเป็นสัญญาณว่าพวกเขายังไม่พร้อมที่จะทำงานบ้านนั้นหรือต้องการเวลามากขึ้นในการเรียนรู้ ควรเน้นที่ทักษะการสอน มากกว่าการลงโทษเด็กที่ไม่ปฏิบัติตาม การอนุญาตให้บุตรหลานของคุณมีทางเลือกว่างานบ้านใดที่บางครั้งอาจช่วยให้ปฏิบัติตามได้