ดูแลเด็ก ใน ชลบุรี

ดูแลเด็ก ใน ชลบุรี

คุณต้องการใช้บริการนี้เมื่อไหร่?
ตอนนี้
ระบุวันที่

วิธีการทำงาน

Saijai

ติดต่อเรา

ติดต่อเราโดยตรงผ่าน LINE OA เพื่อจองบริการที่คุณต้องการ

Saijai

แจ้งรายละเอียดให้เราทราบ

เลือกบริการ วันที่ เวลา และสถานที่ที่คุณต้องการให้ตรงกับความต้องการของคุณ

Saijai

ยืนยันการจองของคุณ

เราจะยืนยันการจองของคุณภายใน 24 ชั่วโมงผ่านทาง LINE OA

Malee Bunprueng
Malee Bunprueng
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี
Saijai อายุ 47 ปี

เป็นคนอารมย์ดีร่าเริงชอบเล่นกับเด็กเข้ากับเด็กได้

แสดงเพิ่มเติม

ข้อมูลสถิติน่าสนใจเกี่ยวกับ

Saijai จำนวนประชากร
Saijai จำนวนประชากรเด็ก (แรกเกิด-14 ปี)
Saijai จำนวนประชากรสูงอายุ (60 ปี ขึ้นไป)
Saijai จำนวนสัตว์เลี้ยง สุนัข

รีวิวล่าสุด

พี่เลี้ยงเด็กที่จ้างผ่านเว็บใส่ใจคือดีจริง ๆ พี่เลี้ยงเด็กมีประสบการณ์ในการเลี้ยงดูเด็กและเป็นคนที่ซื่อสัตย์มาก ทำให้คนเป็นแม่อย่างเราหายห่วงลูกเลยจริง ๆ หากใครที่กำลังมองหาพี่เลี้ยงเด็ก บริการของทางใส่ใจถือเป็นตัวเลือกที่ดีเลยทีเดียวสำหรับคุณพ่อคุณแม่ยุคใหม่ที่ต้องทำงานนอกบ้าน
Saijai
กรรชัย วงศ์พานิชญ์
3 ปีที่แล้ว
ลาคลอดได้แค่ 3 เดือน ค่ะ ต้องกลับไปทำงานต่อ จะฝากลูกไว้กับยายก็กลัวแกจะดูไม่ไหว เลยลองหาพี่เลี้ยงจากเว็บใส่ใจดู ตอนแรกก็กังวลอยู่เหมือนกันค่ะ ไม่กล้าทิ้งลูกไว้กับพี่เลี้ยง แต่ก็วางใจอย่างนึงว่าพี่เลี้ยงมีประสบการณ์ ตอนนี้ทุกอย่างลงตัว โอเคมาก ๆ ค่ะ
Saijai
สุชาดา มิ่งมงคล
3 ปีที่แล้ว
เปลี่ยนพี่เลี้ยงเด็กมาหลายคน ส่วนมากราคาสูง ๆ ทั้งนั้น แต่อยู่ไม่ได้นานก็ลาออก ลองจองพี่เลี้ยงผ่านเวปใส่ใจ เยี่ยมมากเลยครับ แฟนสบายใจ หมดปัญหา ไม่ต้องจ้างพี่เลี้ยงราคาแพง ได้ราคาแบบสมเหตุสมผล แถมมีคุณภาพครับ
Saijai
จิตวัชร จันประทีป
3 ปีที่แล้ว
บ้านอยู่แถว สุขุมวิท71 ลองใช้เว็บใส่ใจครั้งแรก เพราะเพื่อนๆ แนะนำมา อยากได้พี่เลี้ยงเด็ก มองหามาหลายที่ ที่นี่รายละเอียดครบ ราคาชัดเจน โทรปรึกษาพนักงานก็อธิบายเข้าใจง่ายมาก สะดวกสบาย ง่ายกว่า search หาเองใน Google ชอบมากๆ ค่ะ
Saijai
นงคราญ แซ่ตั้ง
3 ปีที่แล้ว
ลองค้นหาบริการพี่เลี้ยงเด็กอยู่หลายที่ จนได้มาเจอเว็บใส่ใจ ลองเข้าไปดู รู้สึกว่าทุกอย่างเป็นไปอย่างมีขั้นตอน เริ่มตั้งแต่ให้เลือกพี่เลี้ยง ขั้นตอนนัดสัมภาษณ์ รายละเอียดและคำแนะนำต่าง ๆ พี่เลี้ยงที่ได้มาก็ตรงตามความต้องการสุด ๆ รู้สึกประทับใจมาก
Saijai
ณัฐณิชา ทิวาสวัสดิ์
3 ปีที่แล้ว

คำถามที่พบบ่อยสำหรับการค้นหา ดูแลเด็ก

หากคุณพ่อคุณแม่ต้องทำงานนอกบ้านและไม่มีเวลาเลี้ยงลูกเอง ลองเปรียบเทียบกันระหว่างส่งลูกไปเนอสเซอรี่และจ้างพี่เลี้ยงเด็กมาดูแลลูกที่บ้าน อะไรจะตรงใจคุณพ่อคุณแม่มากที่สุด
บริการรับเลี้ยงเด็กในปัจจุบันมีหลายทางเลือก ไม่ว่าจะเป็นพี่เลี้ยงเด็ก หรือเนอสเซอรี่ เรามาดูข้อดีข้อเสียกันเลยค่ะ

ข้อดีของพี่เลี้ยงเด็กที่บ้านมีดังนี้

1) พี่เลี้ยงสามารถดูแลลูกน้อยของคุณได้อย่างใกล้ชิด ลูกของคุณจะได้รับความเอาใจใส่ที่ส่งผลต่อพัฒนาการเด็กทางด้านอารมณ์
2) พี่เลี้ยงสามารถช่วยส่งเสริมพัฒนาการเด็กผ่านการทำกิจกรรมต่าง
3) พ่อแม่ประหยัดเวลามากขึ้น หากจ้างพี่เลี้ยงมาดูแลที่บ้าน
4) เด็กจะไม่ป่วยบ่อย เนื่องจากเด็กจะอยู่ในบ้านของตนเอง

ข้อดีของเนอสเซอรี่

1) เด็ก ๆ จะรู้จักการเข้าสังคม
2) เนอสเซอรี่มีบริเวณกว้างเพื่อให้เด็กได้ทำกิจกรรมหลากหลายรูปแบบ
3) เด็กจะได้ฝึกดูแลตัวเอง เพราะครูพี่เลี้ยงไม่ได้ดูแลเด็กแบบใกล้ชิด

ข้อเสียของพี่เลี้ยง

1) ค่าใช้จ่ายอาจจะสูงกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับเข้าศูนย์เนอสเซอรี่
2) เด็กอาจจะติดพี่เลี้ยงเกินไป
3) ลดความเป็นส่วนตัวของครอบครัว

ข้อเสียของเนอสเซอรี่

1) เด็กป่วยบ่อยเพราะมีภูมิคุ้มกันที่น้อยเนื่องจากอยู่กับเด็กหลายคน
2) ลูกจะไม่ได้รับการดูแลใกล้ชิดแบบตัวต่อตัวอาจส่งผลถึงอารมณ์ของเด็กได้
3) เด็กจะอยู่ห่างไกลจากพ่อแม่

หากคุณพ่อคุณแม่กำลังมองหาบริการพี่เลี้ยงเด็ก ใส่ใจมีบริการพี่เลี้ยงมืออาชีพที่พร้อมจะให้บริการคุณค่ะ
คุณสมบัติอะไรบ้างที่พี่เลี้ยงเด็กควรมี
สำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่กำลังตัดสินใจจ้างพี่เลี้ยงเด็กส่วนตัว ใส่ใจขอแนะนำให้คุณพ่อคุณมองหาคุณสมบัติและทักษะเหล่านี้ในตัวพี่เลี้ยงเด็กเพื่อให้ได้คนที่ตรงใจที่สุดค่ะ

1. ความอดทน พี่เลี้ยงเด็กต้องมีเข้าใจในธรรมชาติและอดทนต่อพฤติกรรมของเด็กแต่ละคนที่แตกต่างกัน
2. ทักษะการต่อรอง พี่เลี้ยงเด็กต้องมีเทคนิคในการเจรจาสื่อสารเพื่อโน้มน้าวให้เด็กเชื่อฟังโดยไม่ใช้การบังคับ
3. ทักษะแก้ปัญหา พี่เลี้ยงเด็กต้องมีความสามารถในการจัดการและแก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้อย่างเหมาะสมโดยไม่ต้องรายงานคุณพ่อคุณแม่หากไม่ใช่เรื่องร้ายแรง
4. ความคิดสร้างสรรค์ พี่เลี้ยงเด็กควรมีความคิดสร้างสรรค์ หากิจกรรมที่เหมาะสำหรับเด็กในแต่ละช่วงวัยเพื่อให้เด็กได้เล่นเพลิดเพลินและฝึกช่วยเหลือตัวเอง
5. ตรงต่อเวลา พี่เลี้ยงเด็กต้องเป็นคนที่ตรงต่อเวลาและมีความรับผิดชอบในงานของตัวเอง คือต้องมาทำงานและเลิกงานตามเวลาที่ตกลงไว้กับคุณพ่อคุณแม่ หากมีเหตุสุดวิสัยทำให้มาสายควรแจ้งให้คุณพ่อคุณแม่ทราบโดยเร็วที่สุด
6. สุขภาพดี พี่เลี้ยงต้องเป็นคนที่มีสุขภาพแข็งแรงและดูแลตัวเองทั้งเสื้อผ้า หน้า ผมให้สะอาดอยู่เสมอ
7. วิธีการปฐมพยาบาลเบื้องต้น ในกรณีเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดหรืออุบัติเหตุ พี่เลี้ยงต้องมีความรู้และทักษะการปฐมพยาบาลเบื้องต้น และสามารถช่วยเหลือเด็กได้ทันที
ควรทำอย่างไรเพื่อคลายความกังวลเมื่อคุณพ่อคุณแม่ต้องปล่อยให้ลูกอยู่ตามลำพังกับพี่เลี้ยง
ไม่ใช่เรื่องง่ายที่สำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่จะไว้วางใจให้ลูก ๆ ของคุณอยู่ในความดูแลพี่เลี้ยงเด็ก แม้ว่าจะเป็นเวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมงก็ตามเด็กอาจเกิดความรู้สึกวิตกกังวลเมื่อต้องแยกจากคุณพ่อคุณแม่ ใส่ใจมีวิธีการที่จะช่วยลดความกังวลของทั้งคุณพ่อคุณแม่และลูกได้ดังนี้ค่ะ

1. คุณพ่อคุณแม่ควรพูดคุยและทำความเข้าใจกับเด็ก ถึงความจำเป็นที่ต้องให้เด็กๆ อยู่กับพี่เลี้ยง ให้ความมั่นใจกับเด็กว่าคุณพ่อคุณแม่หาคนที่สามารถดูแลพวกเขาได้ดี
2. คุณพ่อคุณแม่ควรหาพี่เลี้ยงที่เข้ากันได้กับลูก ๆ และมีความพร้อมในการดูแลเด็ก
3. แนะนำให้ลูก ๆ ทำความรู้จักกับพี่เลี้ยง โดยอาจจะเล่าให้ฟังว่าพี่เลี้ยงเห็นใคร ชื่ออะไร คุยกับพี่ผ่านทางวิดีโอคอลก่อนวันเริ่มงานจริง เพื่อนลดความตึงเครียดในการเจอกันครั้งแรก
4. คุณพ่อคุณแม่ควรบันทึกเบอร์โทรศัพท์ของตัวเอง เบอร์โทรฉุกเฉิน และสอนให้ลูกใช้โทรศัพท์เพื่อโทรหาคุณพ่อคุณแม่ได้ หรือโทรขอความช่วยเหลือได้ในกรณีฉุกเฉิน
5. มอบหมายงานบ้านเล็ก ๆ น้อย ๆ ให้เด็ก ๆ ทำระหว่างวัน เพื่อที่เด็ก ๆ จะได้มีกิจกรรมเบนความสนใจและไม่เอาแต่จดจ่อรอเวลาคุณพ่อคุณแม่กลับบ้าน
6. เมื่อถึงเวลาที่คุณพ่อคุณแม่ต้องออกจากบ้านและต้องให้เด็ก ๆ อยู่กับพี่เลี้ยงเด็ก คุณพ่อคุณแม่ควรให้ความมั่นใจกับเด็ก ๆ ว่าพี่เลี้ยงจะดูแลเด็ก ๆ เป็นอย่างดีและย้ำว่าพวกเขาสามารถโทรหาคุณได้เสมอ
ในวันสัมภาษณ์พ่อแม่ควรตกลงอะไรกับพี่เลี้ยงเด็ก
ขั้นตอนของการสัมภาษณ์พี่เลี้ยงเด็กนั้นถือเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่ง เพราะไม่ใช่แค่คุณจะได้ทำความรู้จักกับพี่เลี้ยงที่คุณจะจ้าง แต่ในขั้นตอนนี้คุณต้องทำการตกลงกับพี่เลี้ยงเด็กก่อนเริ่มงาน ดังนั้นวันนี้ใส่ใจมีข้อแนะนำให้คุณพ่อคุณแม่ที่กำลังจะสัมภาษณ์พี่เลี้ยงเด็กและพูดคุยถึงข้อตกลงที่สำคัญมีอะไรบ้างมาดูกันค่ะ

1) ขอบเขตหน้าที่ที่คุณต้องการให้พี่เลี้ยงทำ เช่น ช่วยเลี้ยงลูกคุณขณะคุณไม่อยู่บ้าน ช่วยเตรียมกับข้าวให้ลูกน้อยรับประทานในแต่ละมื้อ ช่วยสอนการบ้านหากพี่เลี้ยงมีความสามารถ
2) วันและเวลาการทำงาน ในวันที่สัมภาษณ์คุณและพี่เลี้ยงจะต้องตกลงเรื่องวันเวลาการทำงานให้อย่างชัดเจน และคุณควรจะมีวันหยุดให้พี่เลี้ยงตาม กฎหมายกระทรวงแรงงาน นายจ้างต้องให้ลูกจ้างมีวันหยุดประจำสัปดาห์ และวันพักร้อน ได้ 6 วัน ต่อ ปี และต้องหยุดตามประเพณี ปีละไม่น้อยกว่า 13 วัน
3) ค่าจ้าง คุณจะต้องตกลงเรื่องค่าจ้างกับพี่เลี้ยงให้ชัดเจน หากพี่เลี้ยงปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างดี คุณควรที่จะเพิ่มเงินเดือนให้ตามความเหมาะสม ในกรณีที่พี่เลี้ยงเด็กทำงานในวันหยุดนายจ้างต้องจ่ายเงินค่าจ้างตามกฎหมายแรงงาน
4) ข้อตกลงในการอาศัยอยู่ในบ้าน หากคุณมีกฎระเบียบที่ต้องการให้พี่เลี้ยงเด็กปฏิบัติตามกฎที่คุณตั้งไว้ คุณต้องแจ้งให้พี่เลี้ยงเด็กรับทราบก่อนเริ่มงานเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต
5) ถ้าคุณเป็นหนึ่งคนที่ไม่อยากให้ลูกติดโทรศัพท์ คุณควรแจ้งให้พี่เลี้ยงทราบ และควรกำชับพี่เลี้ยงว่าไม่ให้ลูกของคุณเล่นโทรศัพท์ขณะที่คุณไม่อยู่ เพราะเด็กอาจได้รับผลกระทบจากการเล่นโทรศัพท์นานเกินไปจนส่งผลให้เกิดภาวะสมาธิสั้นและส่งผลกับสายตา ดังนั้นพี่เลี้ยงจะต้องหากิจกรรมที่ให้เด็กได้พัฒนาตนเองมากกว่าการเล่นโทรศัพท์มือถือ

ทำความรู้จักกับจังหวัดชลบุรีให้มากยิ่งขึ้น

จังหวัดชลบุรีเป็นจังหวัดหนึ่งที่อยู่ในเขตภาคตะวันออกของประเทศไทย โดยทิศใต้ของจังหวัดชลบุรีนั้นจะมีอาณาเขตติดกับประเทศกัมพูชา และมีพื้นที่ชายฝั่งติดกับทะเลอ่าวไทย จึงทำให้มีแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงหลายแห่งตั้งอยู่ ณ สถานที่แห่งนี้ โดยสถานที่ท่องเที่ยวของชลบุรีที่สำคัญและเป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวทั่วโลกคือ เมืองพัทยา โดยพัทยาเป็นเมืองที่มีการปกครองส่วนท้องถิ่นในรูปแบบพิเศษ 1 ใน 2 แห่งของประเทศ ที่มีความเจริญจากด้านอุตสาหกรรมท่องเที่ยว และมีความสำคัญทางเศรษฐกิจของภาคตะวันออกเป็นอย่างมาก

จังหวัดชลบุรีในอดีตนั้นเคยเป็นสถานที่ตั้งของท่าเรือที่สำคัญสำคัญมากมาย จนมาถึงปัจจุบันนี้ก็ยังคงเป็นท่าเรือที่มีความสำคัญของประเทศ นั่นก็คือ ท่าเรือแหลมฉบัง ที่เป็นท่าเรือที่มีความสำคัญเป็นอันดับ 2 ของประเทศรองมาจากท่าเรือกรุงเทพฯ เนื่องจากสถานที่แห่งนี้ทำเลที่ตั้งที่เหมาะสม ทะเลที่มีน้ำลึกเหมาะแก่การเดินเรือสมุทร ทำให้มีเรือสินค้าจากต่างประเทศเข้ามายังท่าเรือแหลมฉบังแห่งนี้ไม่ขาดสาย

ปัจจุบันจังหวัดชลบุรี เป็นจังหวัดที่มีเส้นทางคมนาคมที่ดีเป็นจังหวัดหนึ่งของประเทศไทย โดยมีระบบการขนส่งที่ทั่วถึงและสะดวก มีการขนส่งทั้งทางบก ทางเรือ และทางอากาศ อีกทั้งยังมีการขนส่งระบบท่อสำหรับสินค้าเหลว เช่น น้ำมันหรือสารเคมีต่าง ๆ

โดยภูมิประเทศของจังหวัดชลบุรีนั้นจะมีภูเขาทอดอยู่เกือบตลอดทั้งจังหวัด สภาพพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นที่ราบสลับเนินเขาและที่ราบชายฝั่งทะเล มีชายฝั่งทะเลและหาดสวยงามเหมาะแก่การท่องเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจ ไม่ว่าจะเป็น ชายหาดบางแสน พัทยา เป็นต้น



การเลี้ยงดูเด็กสำหรับพ่อแม่มือใหม่

พ่อแม่มือใหม่ในปัจจุบันจะศึกษาวิธีการเลี้ยงลูกจากหลายช่องทางแล้วนำมาปรับใช้ให้เหมาะกับครอบครัวตัวเอง ปัจจุบันมีปัจจัยหลายอย่างเช่น สุขอนามัย สภาพสังคม ที่ทำให้พ่อแม่ยุคใหม่ต้องเพิ่มความใส่ใจ และเพิ่มความระมัดระวังมากขึ้นในการดูแลลูก

โดยเทคนิคการเลี้ยงลูกยุคนี้จะเป็นแบบผสมผสาน คือการนำเอาวิธีแบบคุณปู่คุณย่าคุณตาคุณยาย มารวมกับวิธีต่าง ๆ ทั้งจากคุณหมอ คุณพ่อคุณแม่คนอื่น ๆ รวมถึงจากประสบการณ์ตรง จนได้วิธีการในรูปแบบเลี้ยงลูกของตัวเอง ซึ่งการเลี้ยงลูกของแต่ละครอบครัวถือว่าไม่มีผิดไม่มีถูกแต่เป็นสไตล์เฉพาะตัว เพราะจริง ๆ แล้วไม่ว่าพ่อแม่จะดูแลลูกด้วยวิธีการใด ต่างมีจุดมุ่งหมายเดียวกัน คือต้องการที่จะดูแลเอาใจใส่ทั้งร่างกายและจิตใจลูกน้อยให้ดีที่สุด แต่ก็ยังมีบางอย่างที่พ่อแม่มือใหม่จะต้องใส่ใจเป็นพิเศษ

ในปัจจุบันที่โลกได้วิวัฒนาการทางเทคโนโลยีที่ก้าวไกล สิ่งจำเป็นสำหรับเด็กรุ่นใหม่นอกจากบุคลากรที่มีความเก่ง ฉลาดแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่มีความจำเป็นและความสำคัญก็คือการปลูกจิตสำนึกที่ดี เพื่อให้สังคมของเราเป็นสังคมก้าวหน้าทันสมัยควบคู่กับความสุขไปด้วย ดังนั้นพ่อและแม่ ต้องปลูกจิตสำนึกที่ดีให้กับลูก ให้ความสำคัญเกี่ยวกับจริยธรรมที่ดี เพื่อที่เด็กจะเติบโตมาเป็นคนที่มีคุณภาพทั้งทางกายและทางใจ

ช่วงวัยเด็กเป็นช่วงเวลาที่มีค่า การที่พ่อแม่อยากให้ลูกเป็นคนเก่งเป็นเรื่องปกติ แต่ต้องเรียนรู้กระบวนการเติบโตของเด็กด้วย เพราะการพาเด็กไปทำอะไรที่ยังไม่เหมาะสมกับวัยอาจจะทำให้เขาสูญเสียช่วงวัยเด็กที่มีค่าไปอย่างน่าเสียดาย โดยการปล่อยให้เด็กได้เติบโตอย่างเป็นธรรมชาติ จะทำให้เด็กได้พัฒนาทั้ง IQ และ EQ ที่ดีกว่าในระยะยาว



ทำอย่างไรให้บรรยากาศครอบครัวน่าอยู่มากยิ่งขึ้น

บรรยากาศที่ดีในครอบครัว ถือเป็นเรื่องสำคัญ เนื่องจากสามารถช่วยสร้างความสุขและสร้างภูมิคุ้มกันทางจิตใจให้กับสมาชิกทุกคนในครอบครัวได้เป็นอย่างดี แต่ในบางสถานการณ์สำหรับบางครอบครัว อาจจำเป็นต้องปรับตัวสักเล็กน้อย โดยจะมีเคล็ดลับที่ช่วยสร้างบรรยากาศที่ดีในครอบครัวได้ดังนี้

การรับผิดชอบต่อหน้าที่ของตนเอง โดยการอยู่ร่วมกันของครอบครัวนั้น สมาชิกแต่ละคนในครอบครัวต่างก็มีหน้าที่ของตนเอง หน้าที่ของคุณพ่อ หน้าที่ของคุณแม่ หน้าที่ของลูก ดังนั้นหากแต่ละคนรู้จักหน้าที่ของตนเองและสามารถรับผิดชอบหน้าที่ของตัวเองได้ดี บรรยากาศในครอบครัวก็จะดีไปแล้วครึ่งหนึ่ง เพราะการรู้จักหน้าที่ของตนสามารถที่จะลดโอกาสการเกิดการทะเลาะเบาะแว้งด้วยเรื่องเหล่านี้ไปได้ อย่างไรก็ตามการรับผิดชอบหน้าที่ของตนเองในที่นี้ ไม่ได้หมายความถึงเพียงหน้าที่ทางการกระทำเท่านั้น แต่ยังหมายถึงหน้าที่ทางจิตใจอีกด้วย เช่น หน้าที่การเป็นสามีภรรยาที่ดี คือ ควรซื่อสัตย์และให้เกียรติซึ่งกันและกัน หน้าที่ของพ่อแม่ที่มีต่อลูกในการดูแลทั้งด้านร่างกาย จิตใจ และสภาพแวดล้อมของพวกเขา เป็นต้น

การพูดจาที่ดีก็เป็นสิ่งที่สำคัญสำหรับครอบครัว ซึ่งการพูดคุยกันในครอบครัว ควรเป็นไปทางสร้างสรรค์ ให้กำลังใจ เห็นอกเห็นใจ และมุ่งที่จะทำความเข้าใจซึ่งกันและกัน ด้วยความที่ธรรมชาติของมนุษย์นั้น มักมีความคิดเห็นหรือการตัดสินใจลงมือทำที่แตกต่างกัน ดังนั้นการสื่อสารเพื่อให้เข้าใจตรงกันและเข้าใจในเหตุผลซึ่งกันจึงเป็นสิ่งจำเป็น รวมถึงการรู้จักใช้คำพูดชื่นชม และคำพูดในลักษณะติเพื่อสร้างสรรค์ เช่น จานนี้อร่อยดีนะ แต่ถ้าลดเค็มลงอีกสักหน่อยจะเยี่ยมเลย หรือใช้อารมณ์ขันในแบบฉบับของครอบครัว เพื่อพูดคุยกัน ก็เป็นไอเดียที่ดีไม่น้อย