ดูแลเด็ก ใน พัทยา, ชลบุรี

ดูแลเด็ก ใน พัทยา, ชลบุรี

คุณต้องการใช้บริการนี้เมื่อไหร่?
ระบุวันที่

วิธีการทำงาน

Saijai

ติดต่อเรา

ติดต่อเราโดยตรงผ่าน LINE OA เพื่อจองบริการที่คุณต้องการ

Saijai

แจ้งรายละเอียดให้เราทราบ

เลือกบริการ วันที่ เวลา และสถานที่ที่คุณต้องการให้ตรงกับความต้องการของคุณ

Saijai

ยืนยันการจองของคุณ

เราจะยืนยันการจองของคุณภายใน 24 ชั่วโมงผ่านทาง LINE OA

Malee Bunprueng
Malee Bunprueng
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี
Saijai อายุ 47 ปี

เป็นคนอารมย์ดีร่าเริงชอบเล่นกับเด็กเข้ากับเด็กได้

แสดงเพิ่มเติม

ข้อมูลสถิติน่าสนใจเกี่ยวกับ

Saijai จำนวนประชากร
Saijai จำนวนประชากรเด็ก (แรกเกิด-14 ปี)
Saijai จำนวนประชากรสูงอายุ (60 ปี ขึ้นไป)
Saijai จำนวนสัตว์เลี้ยง สุนัข

รีวิวล่าสุด

ดิฉันกับสามีทำงานประจำทั้งคู่ค่ะ ไม่มีใครคอยอยู่ดูแลลูกที่บ้านเลย ลูกติดนิสัยชอบอยู่แต่ในบ้านและซนกับพี่เลี้ยงมาก จนพี่เลี้ยงหลาย ๆ คนทนไม่ไหวถึงกับขอลาออกเอง โชคดีที่ได้เจอพี่เลี้ยงคนนี้บนเว็บใส่ใจ พี่ลี้ยงเข้ากับน้องได้ดีค่ะ
Saijai
วิลาภรณ์ สุทธิรักษ์
3 ปีที่แล้ว
ลาคลอดได้แค่ 3 เดือน ค่ะ ต้องกลับไปทำงานต่อ จะฝากลูกไว้กับยายก็กลัวแกจะดูไม่ไหว เลยลองหาพี่เลี้ยงจากเว็บใส่ใจดู ตอนแรกก็กังวลอยู่เหมือนกันค่ะ ไม่กล้าทิ้งลูกไว้กับพี่เลี้ยง แต่ก็วางใจอย่างนึงว่าพี่เลี้ยงมีประสบการณ์ ตอนนี้ทุกอย่างลงตัว โอเคมาก ๆ ค่ะ
Saijai
สุชาดา มิ่งมงคล
3 ปีที่แล้ว
ดิฉันเป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวค่ะ ทำงานทุกวัน ไม่มีเวลาดูแลลูก บางครั้งต้องเอาไปฝากญาติ ๆ แต่ตอนนี้เลยตัดสินใจจ้างพี่เลี้ยงเด็กของทางใส่ใจ ตอนแรกก็ไม่รู้เลยค่ะว่ามีขั้นตอนในการจ้างพี่เลี้ยงเด็กอย่างไรบ้าง เลยติดต่อเบอร์ของทางใส่ใจไป อยากจะบอกว่าประทับใจการให้บริการมาก ๆ ค่ะ ทางใส่ใจให้ข้อมูลทุกอย่างครบถ้วนตามที่เราต้องการอยากทราบ ประทับใจจริง ๆ ค่ะ
Saijai
ปารีณา ภักดีดำรงค์ศักดิ์
3 ปีที่แล้ว
เปลี่ยนพี่เลี้ยงเด็กมาหลายคน ส่วนมากราคาสูง ๆ ทั้งนั้น แต่อยู่ไม่ได้นานก็ลาออก ลองจองพี่เลี้ยงผ่านเวปใส่ใจ เยี่ยมมากเลยครับ แฟนสบายใจ หมดปัญหา ไม่ต้องจ้างพี่เลี้ยงราคาแพง ได้ราคาแบบสมเหตุสมผล แถมมีคุณภาพครับ
Saijai
จิตวัชร จันประทีป
3 ปีที่แล้ว
ลองค้นหาบริการพี่เลี้ยงเด็กอยู่หลายที่ จนได้มาเจอเว็บใส่ใจ ลองเข้าไปดู รู้สึกว่าทุกอย่างเป็นไปอย่างมีขั้นตอน เริ่มตั้งแต่ให้เลือกพี่เลี้ยง ขั้นตอนนัดสัมภาษณ์ รายละเอียดและคำแนะนำต่าง ๆ พี่เลี้ยงที่ได้มาก็ตรงตามความต้องการสุด ๆ รู้สึกประทับใจมาก
Saijai
ณัฐณิชา ทิวาสวัสดิ์
3 ปีที่แล้ว

คำถามที่พบบ่อยสำหรับการค้นหา ดูแลเด็ก

พี่เลี้ยงเด็กส่วนตัวหรือเนอสเซอรี่ (Nursery) อะไรคือคำตอบสำหรับคุณพ่อคุณแม่ยุคนี้
ข้อดีของการให้พี่เลี้ยงดูแลเด็กที่บ้านของคุณเอง

1. ลูกน้อยของคุณได้รับการดูแลจากพี่เลี้ยงแบบใกล้ชิด ทำให้เด็กรู้สึกได้ถึงความเอาใจใส่ และมีพัฒนาการทางอารมณ์ที่ดี
2. มีความยืดหยุ่นในการทำกิจวัตรประจำวันเพราะเด็กไม่ต้อง กิน นอน หรือ เล่นตามตารางเหมือนอยู่ในศูนย์รับเลี้ยงเด็กหรือเนอสเซอรี่ (Nursery)
3. พี่เลี้ยงเด็กสามารถปรับเวลาการทำงานให้สอดคล้องกับเวลาทำงานและวันหยุดของคุณพ่อคุณแม่
4. คุณพ่อคุณแม่มีเวลาอยู่กับลูกมากขึ้นเพราะไม่ต้องเผื่อเวลาในการรับส่ง ก่อนและหลังเลิกงาน
5. เด็กได้รับการดูแลในบรรยากาศที่คุ้นเคยและรู้สึกปลอดภัย
6. คุณพ่อคุณแม่ประหยัดเวลาในการเดินทางรับส่ง หมดปัญหาเรื่องรถติดและมลภาวะบนท้องถนน
7. คุณพ่อคุณแม่ประหยัดเวลาในการเตรียมตัวหรือจัดเตรียมของใช้ให้ลูก เช่น ขวดนม เสื้อผ้า หรือแพมเพิส
8. ลดความเสี่ยงของโรคติดต่อ โดยเฉพาะเด็กเล็กที่ภูมิต้านทานยังน้อยจะเจ็บป่วยได้ง่าย หากต้องอยู่ปะปนกับเด็ก ๆ อื่น
9. มีคนอยู่บ้านตลอดเวลาในขณะที่คุณพ่อคุณแม่ออกไปทำงาน

ข้อดีของการเข้าเนอสเซอรี่ (Nursery)

1. ฝึกทักษะการเข้าสังคมเพราะเด็กต้องอยู่ร่วมกับเด็กคนอื่น ๆ และครูพี่เลี้ยง
2. ค่าใช้จ่ายไม่สูงเมื่อเปรียบเทียบกับการจ้างพี่เลี้ยงส่วนตัว
3. เนอสเซอรี่มีกิจกรรมส่งเสริมการเรียนรู้เพื่อให้เด็กฝึกทักษะผ่านการทำกิจกรรมต่าง ๆ
คุณสมบัติอะไรบ้างที่พี่เลี้ยงเด็กควรมี
สำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่กำลังตัดสินใจจ้างพี่เลี้ยงเด็กส่วนตัว ใส่ใจขอแนะนำให้คุณพ่อคุณมองหาคุณสมบัติและทักษะเหล่านี้ในตัวพี่เลี้ยงเด็กเพื่อให้ได้คนที่ตรงใจที่สุดค่ะ

1. ความอดทน พี่เลี้ยงเด็กต้องมีเข้าใจในธรรมชาติและอดทนต่อพฤติกรรมของเด็กแต่ละคนที่แตกต่างกัน
2. ทักษะการต่อรอง พี่เลี้ยงเด็กต้องมีเทคนิคในการเจรจาสื่อสารเพื่อโน้มน้าวให้เด็กเชื่อฟังโดยไม่ใช้การบังคับ
3. ทักษะแก้ปัญหา พี่เลี้ยงเด็กต้องมีความสามารถในการจัดการและแก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้อย่างเหมาะสมโดยไม่ต้องรายงานคุณพ่อคุณแม่หากไม่ใช่เรื่องร้ายแรง
4. ความคิดสร้างสรรค์ พี่เลี้ยงเด็กควรมีความคิดสร้างสรรค์ หากิจกรรมที่เหมาะสำหรับเด็กในแต่ละช่วงวัยเพื่อให้เด็กได้เล่นเพลิดเพลินและฝึกช่วยเหลือตัวเอง
5. ตรงต่อเวลา พี่เลี้ยงเด็กต้องเป็นคนที่ตรงต่อเวลาและมีความรับผิดชอบในงานของตัวเอง คือต้องมาทำงานและเลิกงานตามเวลาที่ตกลงไว้กับคุณพ่อคุณแม่ หากมีเหตุสุดวิสัยทำให้มาสายควรแจ้งให้คุณพ่อคุณแม่ทราบโดยเร็วที่สุด
6. สุขภาพดี พี่เลี้ยงต้องเป็นคนที่มีสุขภาพแข็งแรงและดูแลตัวเองทั้งเสื้อผ้า หน้า ผมให้สะอาดอยู่เสมอ
7. วิธีการปฐมพยาบาลเบื้องต้น ในกรณีเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดหรืออุบัติเหตุ พี่เลี้ยงต้องมีความรู้และทักษะการปฐมพยาบาลเบื้องต้น และสามารถช่วยเหลือเด็กได้ทันที
อะไรที่จะช่วยให้คุณพ่อคุณแม่คลายความกังวลเมื่อต้องปล่อยให้ลูก ๆ อยู่กับพี่เลี้ยงตามลำพัง
เมื่อคุณพ่อคุณแม่จำเป็นต้องจ้างพี่เลี้ยงมาดูแลลูก ๆ ของคุณ ความไว้วางใจและความน่าเชื่อถือเป็นหัวใจสำคัญในการตัดสินใจ คุณพ่อคุณแม่มีวิธีการใดบ้างที่จะหาพี่เลี้ยงที่วางใจได้ ใส่ใจมีวิธีการที่ช่วยให้คุณพ่อคุณแม่รู้จักตัวตนของพี่เลี้ยงเด็กมากขึ้น

1. ถือเป็นการเริ่มต้นที่ดีหากครอบครัวหรือเพื่อนของคุณพ่อคุณแม่เป็นผู้แนะนำพี่เลี้ยงเด็กที่พวกเขารู้จัก อย่างน้อยก็มีคนรับรองพวกเขาได้ แต่สิ่งสำคัญก็คือต้องทำการสัมภาษณ์พี่เลี้ยงเด็กและตรวจสอบประวัติของคุณเองเพื่อให้แน่ใจว่าเชื่อถือได้มากที่สุด
2. สำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่มองหาพี่เลี้ยงจากสื่อออนไลน์ หรือโซเชียลมีเดีย (Social Media) เช่น เฟสบุ๊ค หรือไลน์ มองหาพี่เลี้ยงเด็กที่มีรีวิวจากผู้ที่เคยใช้บริการก่อนหน้า ใช้เวลาอ่านและศึกษารีวิวเหล่านั้น
3. เชื่อสัญชาตญาณของตัวเอง เมื่อคุณพ่อคุณแม่มีโอกาสสัมภาษณ์พี่เลี้ยงเด็กก่อนเริ่มงาน หากมีสัญญาณที่ทำให้คุณพ่อคุณแม่รู้สึกไม่สบายใจ เช่น พี่เลี้ยงเด็กดูเป็นคนไม่กระตือรือร้น หรือไม่ยิ้มแย้มแจ่มใส จงเชื่อสัญชาตญาณของตัวเองที่ชี้ว่าคนคนนี้ไม่เหมาะสมกับงาน
4. ตรวจสอบประวัติ คุณพ่อคุณแม่อาจร้องขอให้พี่เลี้ยงตรวจสอบประวัติอาชญากรรมกับกองทะเบียนประวัติอาชญากร( http://www.criminal.police.go.th/ ) เพื่อให้แน่ใจว่าพี่เลี้ยงเด็กไม่มีประวัติกระทำผิดกฎหมายทั้งหมดนี้เป็นส่วนหนึ่งที่คุณพ่อคุณแม่สามารถทำได้เพื่อตรวจสอบความน่าเชื่อถือและช่วยในการตัดสินใจ
ในวันสัมภาษณ์พ่อแม่ควรตกลงอะไรกับพี่เลี้ยงเด็ก
ขั้นตอนของการสัมภาษณ์พี่เลี้ยงเด็กนั้นถือเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่ง เพราะไม่ใช่แค่คุณจะได้ทำความรู้จักกับพี่เลี้ยงที่คุณจะจ้าง แต่ในขั้นตอนนี้คุณต้องทำการตกลงกับพี่เลี้ยงเด็กก่อนเริ่มงาน ดังนั้นวันนี้ใส่ใจมีข้อแนะนำให้คุณพ่อคุณแม่ที่กำลังจะสัมภาษณ์พี่เลี้ยงเด็กและพูดคุยถึงข้อตกลงที่สำคัญมีอะไรบ้างมาดูกันค่ะ

1) ขอบเขตหน้าที่ที่คุณต้องการให้พี่เลี้ยงทำ เช่น ช่วยเลี้ยงลูกคุณขณะคุณไม่อยู่บ้าน ช่วยเตรียมกับข้าวให้ลูกน้อยรับประทานในแต่ละมื้อ ช่วยสอนการบ้านหากพี่เลี้ยงมีความสามารถ
2) วันและเวลาการทำงาน ในวันที่สัมภาษณ์คุณและพี่เลี้ยงจะต้องตกลงเรื่องวันเวลาการทำงานให้อย่างชัดเจน และคุณควรจะมีวันหยุดให้พี่เลี้ยงตาม กฎหมายกระทรวงแรงงาน นายจ้างต้องให้ลูกจ้างมีวันหยุดประจำสัปดาห์ และวันพักร้อน ได้ 6 วัน ต่อ ปี และต้องหยุดตามประเพณี ปีละไม่น้อยกว่า 13 วัน
3) ค่าจ้าง คุณจะต้องตกลงเรื่องค่าจ้างกับพี่เลี้ยงให้ชัดเจน หากพี่เลี้ยงปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างดี คุณควรที่จะเพิ่มเงินเดือนให้ตามความเหมาะสม ในกรณีที่พี่เลี้ยงเด็กทำงานในวันหยุดนายจ้างต้องจ่ายเงินค่าจ้างตามกฎหมายแรงงาน
4) ข้อตกลงในการอาศัยอยู่ในบ้าน หากคุณมีกฎระเบียบที่ต้องการให้พี่เลี้ยงเด็กปฏิบัติตามกฎที่คุณตั้งไว้ คุณต้องแจ้งให้พี่เลี้ยงเด็กรับทราบก่อนเริ่มงานเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต
5) ถ้าคุณเป็นหนึ่งคนที่ไม่อยากให้ลูกติดโทรศัพท์ คุณควรแจ้งให้พี่เลี้ยงทราบ และควรกำชับพี่เลี้ยงว่าไม่ให้ลูกของคุณเล่นโทรศัพท์ขณะที่คุณไม่อยู่ เพราะเด็กอาจได้รับผลกระทบจากการเล่นโทรศัพท์นานเกินไปจนส่งผลให้เกิดภาวะสมาธิสั้นและส่งผลกับสายตา ดังนั้นพี่เลี้ยงจะต้องหากิจกรรมที่ให้เด็กได้พัฒนาตนเองมากกว่าการเล่นโทรศัพท์มือถือ

พัทยา ที่เที่ยวสุดฮิตไม่ไกลจากกรุงเทพ

หาดพัทยา เป็นหาดชื่อดังที่อยู่ในเขตจังหวัดชลบุรี เมืองพัทยาเป็นเขตปกครองพิเศษที่เป็นที่นิยมในการท่องเที่ยวของทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติจากนานาประเทศ รายได้ของจังหวัดชลบุรีมากกว่า 90% ได้มาจากอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ไม่ว่าจะเป็นโรงแรมตั้งแต่ระดับ 2 ดาวไปจนถึงระดับ 5 ดาว และสถานบันเทิงหลากหลายรูปแบบ รวมทั้งร้านอาหารที่มีอยู่มากมาย ล้วนเป็นแหล่งรายได้สำคัญของจังหวัดทั้งสิ้น

ที่มาของชื่อ พัทยา แต่เดิมมีชื่อว่า ทัพพระยา สืบเนื่องจากที่นี่เคยเป็นพื้นที่ที่กองทัพของพระเจ้าตากสินมหาราชเคลื่อนทัพผ่านในเขตนี้ และมีการตั้งทัพที่นี่ ในระหว่างนั้นมีลมพัธยาพัดผ่าน จึงมีการเรียกว่า พัทธยา จนเพี้ยนมาเป็น พัทยา ในปัจจุบัน

สำหรับการเดินทางมา พัทยา สามารถเดินทางได้หลายแบบ เช่น

- การเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว ซึ่งส่วนมากจะเป็นผู้ที่อาศัยในเขตกรุงเทพฯ หรือจังหวัดใกล้เคียง สามารถเดินทางมาได้หลายเส้นทาง ทั้งทางหลวงพิเศษมอเตอร์เวย์ เส้นทางหลวง 34 บางนา-บางปะกง และเส้นทางบางนา-ตราด

- การเดินทางด้วยรถประจำทางหรือรถทัวร์ จะสามารถขึ้นรถได้ที่สถานีหมอชิตและเอกมัย

- การเดินทางด้วยรถตู้ สามารถขึ้นได้หลายสถานที่ เช่น บริเวณอนุสาวรีย์ หมอชิต หรือเอกมัย

หาดพัทยา จะประกอบด้วย พัทยาเหนือ พัทยากลาง และ พัทยาใต้ หากชอบความสงบและผู้คนไม่พลุกพล่านแนะนำให้ไปที่พัทยาเหนือ แต่หากใครชอบแสงสีหรือสถานบันเทิง แนะนำไป พัทยากลางและพัทยาใต้



แวะเช็คอินที่พัทยา

การเดินทางจากกรุงเทพฯ ไปพัทยา ไม่ว่าจะขับรถส่วนตัวหรือโดยสารมากับรถตู้หรือรถโดยสารประจำทาง ใช้เวลาสูงสุดไม่เกิน 2 ชั่วโมงก พัทยา ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยว เพราะความสวยงามของท้องทะเล แต่สิ่งที่ดึงดูดให้คนมาเที่ยวพัทยาไม่ได้มีแค่ความสวยงามทางธรรมชาติเท่านั้น พัทยายังมีสถานที่ท่องเที่ยวอื่น ๆ มากมายให้ได้แวะเช็คอิน

1. สวนเสือพัทยา ที่เที่ยวเป็นที่โปรดปรานของเด็ก ๆ ที่นี่คุณสามารถสัมผัสหรือถ่ายรูปคู่กับเสือตัวเป็น ๆ ไม่ว่าจะเป็นลูกเสือ หรือเสือที่โตแล้ว นอกจากนั้นยังมีการแสดงโชว์เด็ด ๆ เช่น ให้เสือทำตามคำสั่ง หรือให้เล่นกิจกรรมต่าง ๆ ซึ่งสร้างความประทับใจให้ผู้ที่เข้ามาชมได้เป็นอย่างมาก ที่สำคัญที่นี่เปิดทุกวันตั้งแต่เช้ายันเย็น

2. โชว์โลมา ( Pattaya Dolphinarium) ที่นี่ขึ้นชื่อว่ามีโชว์โลมาที่ดีที่สุดในโลก ไม่ว่าจะเป็นคนไทยหรือชาวต่างชาติ หากแวะมาเที่ยวพัทยา จะต้องแวะมาชมโชว์โลมาที่นี่ ไม่ว่าจะเป็น โชว์โลมาเดาะบอล ว่ายน้ำ หรือ กระโดดลอดห่วงตามคำสั่ง รับรองได้ว่าไปเที่ยวแล้วจะกลับออกมาพร้อมความสุขและรอยยิ้ม

3. ห้างเซ็นทรัลพัทยา สายช้อปปิ้งต้องแวะมาที่นี่ ห้าง Central Festival Pattaya Beach เป็นห้างที่ใหญ่ที่สุดติดอันดับในเอเชียที่อยู่ใกล้ชายหาด เรียกได้ว่าสามารถมองเห็นชายหาดพัทยาได้อย่างชัดเจน

4. เกาะล้าน เป็นอีกสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตที่เป็นที่นิยมเป็นอย่างมากสำหรับชาวต่างชาติ ด้วยน้ำทะเลที่ใสและความเงียบสงบ และที่นี่ยังคงความเป็นธรรมชาติอยู่ค่อนข้างมาก ทำให้นักท่องเที่ยวประทับใจและชอบที่จะมาพักผ่อนที่นี่



เลี้ยงลูกสมัยใหม่ ทำไงดี

ด้วยสภาพสังคมและวัฒนธรรมที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลาทั้งโครงสร้างและพฤติกรรม คนเป็นพ่อแม่ผู้ปกครองต้องปรับตัวและยอมรับความเปลี่ยนแปลงรอบตัว การเลี้ยงดูบุตรหลานก็ต้องปรับเปลี่ยนไปตามยุคสมัย ต่อไปนี้เป็นข้อแนะนำในการดูแลเด็กที่พ่อแม่ผู้ปกครองสามารถนำไปปรับใช้ได้

1. เปรียบเทียบลูกตัวเองกับเด็กคนอื่น พ่อแม่ผู้ปกครองอาจจะคิดว่าเรื่องนี้ไม่ได้สำคัญหรือมีผลกับเด็ก พ่อแม่หลายคนชอบเอาลูกตัวเองไปเปรียบเทียบกับลูกเพื่อนหรือลูกของคนรู้จัก เช่น ทำไมไม่เรียนเก่งแบบคนนั้น ทำไมไม่เรียบร้อยเหมือนคนนี้ ซึ่งการกระทำเหล่านี้จะสร้างความกดดันให้เด็กที่ถูกเปรียบเทียบว่าด้อยกว่า จนเด็กบางคนสูญเสียความมั่นใจ เกิดความน้อยใจ หรือรู้สึกว่าตัวเองไม่มีค่า พ่อแม่ผู้ปกครองต้องหยุดเปรียบเทียบเด็กกับเด็กคนอื่น หากต้องการสอนให้เด็กปรับปรุงตัวหรือพัฒนาตัวเองให้ดีขึ้น ควรสอนและแนะนำให้เห็นถึงข้อดีและข้อเสียของการกระทำต่าง ๆ ของเด็ก เพื่อให้เด็กรู้จักการคิดวิเคราะห์ด้วยตนเอง ให้เด็กเข้าใจว่าเด็กควรปรับปรุงหรือพัฒนาไม่ใช่เพื่อให้ดีกว่าใคร ๆ แต่เพื่อตัวเอง ทำให้เด็กเห็นคุณค่าและเคารพตัวเองโดยไม่ด้อยค่าผู้อื่น

2. ออกคำสั่งให้ลูกทำตามอย่างเดียว พ่อแม่ผู้ปกครองควรใช้เหตุและผลในการพูดคุย แสดงให้เห็นถึงผลของการกระทำหากเด็กเลือกทำแบบที่เขาต้องการ ไม่ใช่การทำตามคำสั่งของผู้ปกครองเท่านั้น แต่ควรให้ลูกสามารถแสดงความคิดเห็นของตัวเองได้ เพียงแต่พ่อแม่เป็นคนคอยชี้แนะสิ่งที่ควรหรือไม่ควรทำให้เด็กรับรู้

3. เสนอแนะ เทคโนโลยีและสื่อออนไลน์ดูเป็นเรื่องง่ายของเด็กยุคนี้ พ่อแม่ผู้ปกครองมักมีความกังวลว่าบุตรหลานของตนจะเข้าถึงข้อมูลที่ไม่เหมาะสม เช่น สื่อลามกอนาจาร เว็บพนันออนไลน์ หรือการล่อลวงในรูปแบบต่าง ๆ อย่างไรก็ตามพ่อแม่ผู้ปกครองไม่ควรปิดกั้นการรับรู้ข้อมูลหรือการใช้สื่อออนไลน์ แต่ควรให้คำเสนอแนะ แบ่งปันประสบการณ์ และชี้ให้เห็นถึงข้อดีข้อเสียของการสื่อออนไลน์ อาจมีการควบคุมเรื่องเวลาในแต่ละวันที่เด็กใช้ไปกับสิ่งเหล่านี้

4. รับฟังความคิดเห็นของเด็ก พ่อแม่ผู้ปกครองควรให้เด็กได้มีโอกาสในการแสดงความคิดเห็นและความชอบต่างๆ ได้อย่างอิสระ จะทำให้เด็กมีความไว้ใจและไม่มีความลับกับผู้ปกครอง ไม่ไปปรึกษาเพื่อนซึ่งอยู่ในวัยเดียวกันและอาจมีการแนะนำให้แก้ปัญหาอย่างผิดวิธี