ติวเตอร์ ใน บางเขน, กรุงเทพมหานคร

ติวเตอร์ ใน บางเขน, กรุงเทพมหานคร

คุณต้องการใช้บริการนี้เมื่อไหร่?
ตอนนี้
ระบุวันที่

วิธีการทำงาน

Saijai

ติดต่อเรา

ติดต่อเราโดยตรงผ่าน LINE OA เพื่อจองบริการที่คุณต้องการ

Saijai

แจ้งรายละเอียดให้เราทราบ

เลือกบริการ วันที่ เวลา และสถานที่ที่คุณต้องการให้ตรงกับความต้องการของคุณ

Saijai

ยืนยันการจองของคุณ

เราจะยืนยันการจองของคุณภายใน 24 ชั่วโมงผ่านทาง LINE OA

ยังไม่มีข้อมูลผู้ให้บริการ
ยังไม่มีข้อมูลผู้ให้บริการ

ข้อมูลสถิติน่าสนใจเกี่ยวกับ

Saijai จำนวนประชากร
Saijai จำนวนประชากรเด็ก (แรกเกิด-14 ปี)
Saijai จำนวนประชากรสูงอายุ (60 ปี ขึ้นไป)
Saijai จำนวนสัตว์เลี้ยง สุนัข

รีวิวล่าสุด

เรียนในห้องเรียนไม่เข้าใจเพราะครูสอนเร็วบวกกับเด็กในห้องเรียนเยอะทำให้ไม่ค่อยมีสมาธิในการเรียน เลยลองจ้างติวเตอร์จากเวปใส่ใจ ติวเตอร์สอนดีมาก ๆ สอนสนุกด้วย ติวเตอร์ให้ความสนใจกับเรามาก ๆ เวลาเราไม่เข้าใจ ติวเตอร์เปิดโอกาสให้ถามได้ตลอด
Saijai
ปริญ กาญจนวานิช
3 ปีที่แล้ว
เรากำลังมองหาติวเตอร์ให้ลูกของเรา ตอนนี้ลูกอยู่ชั้นม. 4 อยากให้เรียนคณิตเพิ่มเติมเพราะลูกอ่อนวิชานี้มาก ๆ เราเลยเข้ามาในเว็บไซต์ของใส่ใจ มีตัวเลือกของติวเตอร์เยอะเลย ได้อ่านประวัติของติวเตอร์หลาย ๆ คน ติวเตอร์แต่ละคนโปรไฟล์ดีมาก ๆ ตอนนี้ลูกเรียนไปแล้ว 3 คลาส ลูกบอกว่าครูสอนสนุก จากที่ไม่เข้าใจวิชาคณิตศาสตร์ ตอนนี้ลูกเริ่มเข้าใจมากขึ้น
Saijai
คณาวุติ ชัยบัณฑิต
3 ปีที่แล้ว
เราเรียน BA และต้องเรียน Fundamental of Financial Accounting เพราะเป็นวิชาบังคับของมหาวิทยาลัย แต่เราทำได้ไม่ดีเลย เสิร์จหาติวเตอร์ระดับมหาวิทยาลัยจนเจอเว็บใส่ใจ เลยลองใช้บริการดู เพราะเรทไม่สูงมาก พี่ที่สอนเขามีเทคนิคนู่นนี่นั่นเต็มไปหมด เรารู้สึกว่าพี่เข้าอธิบายเข้าใจง่ายมาก ไฟนอลที่ผ่านมาเราได้ B+ ดีใจมาก ๆ รู้สึกประทับใจมาก ติวเตอร์สอนดี พี่ติวเตอร์เขาเก่งมาก ๆ ที่สำคัญคือพวกเราเรียนพิเศษกันแบบออนไลน์ด้วยค่ะ
Saijai
อังคณา บุษย์บำเพ็ญ
3 ปีที่แล้ว
ตอนนี้ลูกผมอยู่ป.6 ผมก็ไม่ทราบว่าระบบเค้าเป็นยังไง เลยให้ลูกเรียนกับติวเตอร์แบบเข้มข้น เหนื่อยมากครับ ถ้ามาอัดทีหลัง โชคดีที่ติวเตอร์ ดูแลดี สอนดีกระชับ และเน้นแนวสอบบดินทร ผมต้องปรึกษาติวเตอร์ตลอดให้คำแนะนำดี เหมือนทำงานเป็นทีมเดียวกัน ติวเตอร์ ลูก และคุณพ่อ มีแผนมีเป้าหมายดีเลยครับ คิดว่ามีเวลาอีก 4 เดือนลูกทำได้แน่นอน ขอบคุณครับ ใส่ใจทีม
Saijai
เนติภล ชอบจินดา
3 ปีที่แล้ว
คุณพ่อ คุณแม่จะเข้าใจค่ะ ช่วงที่ลูกต้องติวหนังสือเตรียมสอบ ปวดหัวไปหมด กลัวลูกสอบไม่ติด จะให้ลูกติวที่ไหนดี มีตัวเลือกมากมายแต่ไม่รู้จะเรียนที่ไหน มาเจอที่นี่ หาติวเตอร์ง่ายมาก ได้ติวเตอร์ถูกใจ ในราคาสบายกระเป๋า รับรองว่าจะแนะนำเพื่อน ๆ มาใช้บริการที่นี่อีกแน่นอนค่ะ
Saijai
ธนพร กุลวานิช
3 ปีที่แล้ว

คำถามที่พบบ่อยสำหรับการค้นหา ติวเตอร์

คุณพ่อคุณแม่ควรจ้างติวเตอร์ส่วนตัวมาสอนที่บ้านหรือให้ลูกเรียนตามสถาบันกวดวิชาดีกว่า
ใส่ใจมี 5 ข้อดีของการเรียนพิเศษที่บ้านเพื่อช่วยในการประกอบการตัดสินของพ่อแม่และผู้ปกครองดังนี้ค่ะ

1) การเรียนแบบตัวต่อตัว ติวเตอร์หรือครูผู้สอนสามารถวางแผนการเรียนการสอนและกำหนดจุดมุ่งหมายร่วมกับพ่อแม่ ผู้ปกครอง รวมทั้งตัวนักเรียนเอง เพื่อให้การสอนเข้ากันได้ดีกับนักเรียนและดำเนินไปอย่างมีประสิทธิภาพและตอบโจทย์ของผู้เรียนมากที่สุด
2) การเรียนแบบส่วนตัวเป็นทางเลือกที่ดีเพราะนักเรียนจะมีความกล้าในการตั้งคำถามมากขึ้น ด้านตัวติวเตอร์เองสามารถอธิบายและตอบข้อสงสัยของนักเรียนได้อย่างละเอียดจนกว่าจะเข้าใจ ซึ่งเป็นสิ่งที่สร้างความมั่นใจให้กับตัวนักเรียนและส่งผลให้นักเรียนนับถือตัวเองมากขึ้นมาก
3) ความสะดวกในการจัดตารางเรียนและประหยัดเวลาในการเดินทาง การสอนแบบส่วนตัวเป็นรูปแบบการสอนที่มีความยืดหยุ่นและความสะดวกสบายอย่างมาก นักเรียนสามารถจัดตารางเรียนและเลือกสถานที่เรียนให้สอดคล้องกับตารางเรียนที่โรงเรียนหรือการทำกิจกรรมอื่น ๆ ในบางกรณีครูสอนพิเศษหรือติวเตอร์อาจตกลงกับนักเรียนที่จะทำการเรียนการสอนแบบออนไลน์ เพื่อความสะดวกของทั้งสองฝ่าย
4) การเรียนพิเศษแบบตัวต่อตัวนั้นนักเรียนจะมีสมาธิและโฟกัสกับเนื้อหามากกว่าการเรียนในกลุ่มใหญ่ ๆ โดยเฉพาะนักเรียนกลุ่มที่เป็นเด็กเวลาอยู่กับเพื่อน ๆ มักจะพูดคุยกัน และเล่นสนุกกันมากกว่าสนใจบทเรียนตรงหน้า
ดังนั้นหากคุณพ่อและคุณแม่ต้องการหาติวเตอร์ส่วนตัวให้ลูก ๆ นั้น ใส่ใจมีบริการค้นหาติวเตอร์คุณภาพที่ใช้พร้อมรอให้บริการแล้วค่ะ
ทักษะที่ครูสอนพิเศษหรือติวเตอร์ที่ดีควรมี
คุณสมบัติอะไรบ้างที่คุณพ่อคุณแม่ควรมองหาจากครูสอนพิเศษหรือติวเตอร์เมื่อต้องการจ้างมาสอนพิเศษลูก ๆ ที่บ้าน มาดูกันเลยค่ะ

1) ติวเตอร์ควรมีความรู้และความชำนาญในการสอน แน่นอนค่ะว่าการถ่ายทอดความรู้ให้กับผู้อื่นนั้น ครูสอนพิเศษหรือติวเตอร์เองต้องมีความรู้ความชำนาญในสิ่งจะสอนนักเรียน
2) การจ้างติวเตอร์ส่วนตัวนั้นแตกต่างจากการเรียนที่สถาบันกวดวิชาที่มีตารางเรียนเวลาที่ชัดเจน แต่การจ้างติวเตอร์ส่วนตัว ติวเตอร์จะต้องมีความยืดหยุ่นได้ในเรื่องของเวลาและสถานที่การสอนเพื่อให้สอดคล้องกับนักเรียน
3) ติวเตอร์จะต้องมีความเห็นอกเห็นใจนักเรียน เนื่องจากพื้นฐานการเรียนของนักเรียนแต่ละคนนั้นแตกต่างกันไป บางคนสามารถเรียนรู้ได้เร็ว บางคนอาจจะต้องอาศัยการอธิบายหรือฝึกทำจึงจะเข้าใจ ดังนั้นติวเตอร์เข้าใจนักเรียน หากนักเรียนไม่เข้าใจในบทเรียนนั้น ๆ ติวเตอร์ต้องอธิบายจนกว่านักเรียนเข้าใจ แม้ว่าบางครั้งอาจจะเสียเวลาไปบ้างก็ตาม แต่อย่างน้อยการทำให้นักเรียนคนหนึ่งเข้าใจในเนื้อหาการเรียนอย่างถ่องแท้ถือเป็นเป้าหมายหลักและหัวใจสำคัญของติวเตอร์
4) ติวเตอร์ควรมีวิธีการสอนที่โดดเด่นและน่าสนใจเพื่อดึงดูดความสนใจของนักเรียนได้ บางครั้งเนื้อหาการเรียนนั้นอาจจะยาก ติวเตอร์มีวิธีการสอนที่ทำให้นักเรียนเข้าใจง่ายและนักเรียนสนุกไปกับการเรียนนั้นถือว่าติวเตอร์ประสบความสำเร็จในการสอน
5) ความเป็นมืออาชีพ ติวเตอร์ที่ดีจะไม่นำเรื่องของนักเรียนคนใดคนหนึ่งไม่ว่าจะเป็นเรื่องความสามารถในการเรียนรู้หรือพฤติกรรมในห้องเรียนไปเผยแพร่หรือเล่าให้ผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องฟัง การพูดคุยเรื่องเหล่านี้จะเกิดขึ้นระหว่างครูสอนพิเศษหรือติวเตอร์กับพ่อแม่และผู้ปกครองเท่านั้น
เรียนพิเศษหรือเรียนเสริมส่วนตัวที่บ้านจะช่วยให้เด็กมีสมาธิกว่าการเรียนกลุ่มใหญ่อย่างไร
ในสมัยนี้การเรียนเสริม เรียนพิเศษหรือการกวดวิชานั้นมีหลากหลายทางเลือก และการจ้างครูสอนพิเศษหรือติวเตอร์ส่วนตัวถือเป็นอีกทางเลือกที่ได้รับความนิยมอย่างสูงสำหรับนักเรียนที่ต้องการความส่วนตัวในการเรียนและหวังผลลัพธ์ที่ดี การเรียนพิเศษตัวต่อตัวช่วยให้นักเรียนมีผลการเรียนดีขึ้นอย่างไร ใส่ใจมีคำตอบมาให้คุณค่ะ

• เมื่อเรียนพิเศษตัวต่อตัว นักเรียนจะมีความใกล้ชิดกับติวเตอร์ ในด้านของนักเรียนหากมีข้อสงสัยนักเรียนสามารถสอบถามติวเตอร์ได้ตลอดเวลา อีกทั้งยังมีสมาธิกว่าการเรียนกลุ่มใหญ่ ๆ อีกด้วย ส่วนในด้านของติวเตอร์เมื่อรับงานสอนพิเศษตัวต่อตัวแล้ว เป้าหมายที่สำคัญที่สุดคือการถ่ายทอดวิชาความรู้ให้นักเรียนอย่างสุดความสามารถ และติวเตอร์เองจะมุ่งเน้นความใส่ใจไปที่เด็กนักเรียนคนเดียวจึงทำให้เด็กได้รับความรู้อย่างมีประสิทธิภาพ เมื่อนักเรียนเข้าใจในสิ่งที่ติวเตอร์สอน นักเรียนจะสามารถทำข้อสอบที่โรงเรียนได้และได้ผลลัพธ์ที่ดีอีกด้วย
• การเรียนพิเศษนั้นนักเรียนจะได้ฝึกทำข้อสอบ หรือแบบฝึกหัดและสามารถทำข้อสอบได้เมื่อเรียนที่โรงเรียนเพราะแน่นอนจุดสำคัญที่สุดของการเรียนของเด็กไทยเพื่อให้ได้คะแนนดี ๆ หรือเกรดสวย ๆ นั้นมาจากการทำข้อสอบเป็นหลัก ดังนั้นติวเตอร์จะให้ทริคการทำโจทย์ต่าง ๆ ให้นักเรียนเพื่อให้นักเรียนสามารถเอาไปใช้ในสนามสอบได้

ดังนั้นการเรียนพิเศษแบบตัวต่อตัวกับติวเตอร์ส่วนตัวนั้นทำให้เกิดผลลัพธ์ที่ดีต่อตัวนักเรียน อีกทั้งยังทำให้นักเรียนนั้นมีผลการเรียนที่ดีขึ้นอีกด้วย
พ่อแม่ควรตกลงอะไรกับติวเตอร์ก่อนทำการจ้าง?
คุณพ่อคุณแม่ ผู้ปกครองรวมถึงตัวนักเรียนเองจะได้รับประโยชน์หลายอย่างจากกการจ้างครูสอนพิเศษหรือติวเตอร์ส่วนตัว เช่น สามารถเลือกวันและเวลาเรียนได้ตามความต้องการ สามารถเลือกสถานที่เรียนได้ตามความเหมาะสม และได้ใกล้ชิดกับติวเตอร์มากกว่าเรียนเป็นกลุ่มใหญ่ ดังนั้นก่อนตัดสินใจจ้างครูสอนพิเศษหรือติวเตอร์ คุณพ่อคุณแม่ ผู้ปกครองรวมถึงตัวนักเรียนเองควรรูและทำความตกลงอะไรกันบ้าง มาดูกันเลยค่ะ

1) คุณต้องอ่านประวัติติวเตอร์ให้ดีก่อนทำการจ้าง สถาบันการศึกษา ข้อมูลการติดต่อติวเตอร์ ดูประวัติการทำงาน ประสบการ์ณต่าง ๆ ในการสอน เพื่อประกอบการตัดสินใจในการจ้าง หากติวเตอร์มีประสบการณ์มากเท่าไหร่ ถือว่าติวเตอร์มีคุณภาพที่จะถ่ายทอดวิชาความรู้ให้คุณค่ะ
2) ก่อนจะทำการจ้างคุณควรจะสอบถามติวเตอร์ให้แน่ชัดถึงเนื้อหาที่สอน บทเรียนที่ติวเตอร์จะสอนมีอะไรบ้าง หรืออาจจะถามติวเตอร์โดยตรงเลยว่าติวเตอร์จะเน้นบทไหนเป็นพิเศษ อีกทั้งน้อง ๆ ยังสามารถสอบถามถึงสื่อการสอนที่ติวเตอร์เตรียมให้กับผู้เรียน ไม่ว่าจะเป็นหนังสือหรือมีชีทแจกให้
3) ข้อตกลงเรื่องเวลาและสถานที่ คุณจะต้องคุยกับติวเตอร์ถึงวันเวลาและสถานที่ที่ต้องการเรียนให้ชัดเจน หากคุณสะดวกเรียนที่บ้านของคุณ คุณจะต้องแจ้งกับติวเตอร์โดยตรง หากในกรณีคุณสะดวกเรียนตามที่สาธารณะ เช่น ร้านกาแฟ ห้องสมุด คุณจะต้องแจ้งให้ติวเตอร์ทราบก่อนการเรียนเสมอ อย่างไรก็ดีใส่ใจแนะนำให้น้อง ๆ เลือกสถานที่ที่เหมาะสม หากสถานที่มีเสียงดังและมีคนพลุกพล่าน จะทำให้น้อง ๆ เสียสมาธิในการเรียนได้ค่ะ

หากน้อง ๆ ตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้นดังกล่าวแล้ว น้อง ๆ สามารถจองติวเตอร์บนเว็บไซต์ใส่ใจได้เลยค่ะ ติวเตอร์คุณภาพรอที่จะถ่ายทอดความรู้ให้น้อง ๆ อยู่ค่ะ

วงเวียนหลักสี่

ในทุกๆ วันที่เราขับรถผ่านจุดตัดระหว่างถนนพหลโยธินกับถนนแจ้งวัฒนะและถนนรามอินทรา จะเห็นอนุสาวรีย์ที่คล้ายๆ อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยขนาดเล็กตั้งอยู่กลางแยก ด้วยความที่เมืองมีการขยาย ทั้งถนนที่ตัดผ่านและ ทางรถไฟฟ้า ทำให้อนุสาวรีย์ดูจะเล็กลงไป อนุสาวรีย์ นี้มีชื่อว่า อนุสาวรีย์พิทักษ์รัฐธรรมนูญ หรือ อนุสาวรีย์ปราบกบฏ เป็นอนุสาวรีย์ที่เคยตั้งอยู่ ณ วงเวียนหลักสี่ ตั้งอยู่ในพื้นที่แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กรุงเทพมหานคร อนุสาวรีย์พิทักษ์รัฐธรรมนูญจัดสร้างขึ้นเพื่อรำลึกถึงเหตุการณ์ความขัดแย้งทางการเมืองการปราบกบฏบวรเดช วันที่ 11 ตุลาคม 2476 เกิด “กบฏบวรเดช” นำโดย พระวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าบวรเดช อดีตเสนาบดีกระทรวงกลาโหม พร้อมกลุ่มทหารจากหัวเมือง ทั้งอุบลราชธานี นครราชสีมา สระบุรี อยุธยา นครสวรรค์ พิษณุโลก ปราจีนบุรี ราชบุรี และเพชรบุรี เข้ามายึดพื้นที่ดอนเมือง บีบบังคับให้รัฐบาลพระยาพหลพลพยุหเสนาปฏิบัติตามข้อเรียกร้องของคณะกู้บ้านเมืองโดยรวม 6 ข้อและให้พระยาพหลพลพยุหเสนาลาออก กลุ่มผู้ก่อการนี้เรียกตัวเองว่า “คณะกู้บ้านเมือง” เมื่อเจรจาไม่เป็นผล ทำให้เกิดการปะทะกันต่อเนื่องที่บางเขน ตั้งแต่วันที่ 12 ถึง 16 ตุลาคม ผลสุดท้ายคณะกู้บ้านเมืองพ่ายแพ้ พระองค์เจ้าบวรเดชทรงลี้ภัยไปอินโดจีน ขณะที่ฝ่ายรัฐบาลสูญเสียทหารและตำรวจรวม 17 นาย หลังเหตุการณ์สงบเรียบร้อย รัฐบาลนำศพผู้เสียชีวิตมาทำบุญอุทิศส่วนกุศล ณ วัดราชาธิวาส และจัดพิธีฌาปนกิจบนท้องสนามหลวงอย่างสมเกียรติในฐานะวีรชนของชาติ ในวันที่ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2477 ซึ่งเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่มีจัดงานศพของสามัญชนบนท้องสนามหลวงจากนั้นได้บรรจุอัฐิไว้ในปลอกกระสุนปืนใหญ่ทองเหลืองตามประเพณีของทหาร และตั้งไว้ที่กรมกองต้นสังกัดของเหล่าทหารและตำรวจทั้ง17 นาย เป็นเวลา 3 ปี เมื่อราชการสร้างอนุสาวรีย์ปราบกบฏ ที่ตำบลหลักสี่ อำเภอบางเขน จังหวัดพระนคร จึงนำอัฐิของวีรชนมาบรรจุไว้ที่อนุสาวรีย์ จึงมีชื่อเรียกอื่นๆ ได้แก่ อนุสาวรีย์ 17 ทหารและตำรวจ อนุสาวรีย์หลักสี่ หรืออนุสาวรีย์หลวงอำนวยสงคราม เป็นเรื่องราวอย่างย่อๆ ที่ให้เข้าใจที่มาที่ไป ของอนุสาวรีย์นี้



เคล็ดลับ ในการใช้ประโยชน์สูงสุดจากประสบการณ์การเรียนในมหาวิทยาลัยของคุณ

คุณอาจเคยได้ยินประโยคที่ว่า “ช่วงเวลาที่ดีที่ของชีวิตการเป็นนักเรียน คือช่วงมัธยมปลาย” แต่ในความเป็นจริง คุณสามารถทำให้ชีวิตการเรียนในมหาวิทยาลัยของคุณดีขึ้นได้ เราขอแบ่งปันเคล็ดลับที่จะเปลี่ยนแนวคิดและสร้างประสบการณ์ที่จะเป็นประโยชน์ต่อการใช้ชีวิตทั้งในรั้วมหาวิทยาลัยและหลังจากคุณก้าวผ่านการศึกษาช่วงนี้แล้ว

มีความกระตือรือล้นและบทบาทเชิงรุกในการเรียนรู้ ทั้งที่เป็นประเด็นที่ชัดเจน แต่นักเรียนนักศึกษาส่วนใหญ่มีแนวโน้มที่จะลืมความสำคัญของการเรียนรู้ในช่วงปีมหาวิทยาลัย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องการจัดการเวลาเรียน เพราะตัวนักศึกษาจะเป็นผู้เลือกวิชาเรียน และจัดการตารางเรียนด้วยตัวเอง หลายคนพยายามเลี่ยงวิชาที่ต้องเรียนตอนเช้า เพราะไม่อยากตื่นเช้า ทำให้พลาดชั้นเรียนตอนเช้า ที่มีโอกาสทดสอบโปรแกรมต่างๆ และได้เรียนรู้จากผู้เชี่ยวชาญในสาขาที่หลากหลาย และพึงระลึกไว้เสมอว่าการเรียนรู้ในช่วงปีมหาวิทยาลัยของคุณไม่จำเป็นต้องถูกจำกัดในห้องเรียน มหาวิทยาลัยหลายแห่งได้เพิ่มช่องทางการเรียนออนไลน์ที่จะช่วยให้คุณจัดตารางเรียนได้ง่ายขึ้น หากหลักสูตรที่คุณต้องการเรียนไม่ลงตัวกับตารางเวลาของคุณ ให้ลองลงทะเบียนเรียนจากแพลตฟอร์มออนไลน์ ที่คุณสามารถเรียนได้จากหอพักของคุณ และเรียนได้ตอนคุณมีเวลา

มีความมุ่งมั่นและตั้งใจ ชีวิตการเรียนรู้ในช่วงมหาวิทยาลัย ไม่ได้จำกัดอยู่แค่ในตำราเรียนเท่านั้น เพิ่มมูลค่าการเรียนด้วยประสบการณ์นอกห้องเรียน ปีเหล่านี้เป็นเพียงช่วงเวลาเดียวที่คุณจะมีโอกาสได้ดื่มด่ำกับงานอดิเรกของคุณอย่างอิสระและได้พบปะผู้คนหลากหลาย เพื่อนร่วมชั้นเรียนที่มีภูมิหลังทางการศึกษาและวัฒนธรรมที่แตกต่าง อย่ากลัวที่จะต้องออกจาก Comfort Zone ลองสิ่งใหม่ๆ ทำความรู้จักเพื่อนใหม่ๆ เรียนรู้ความแตกต่าง และแลกเปลี่ยนประสบการณ์ คุณจะแปลกใจว่ามีโอกาสมากมายสำหรับนักเรียนที่จะมีส่วนร่วมในมหาวิทยาลัย สภานักศึกษาของมหาวิทยาลัยของคุณเป็นสถานที่ที่ดีในการเริ่มต้นมองหา สภานักเรียนเป็นแหล่งข้อมูลที่มีค่าสำหรับสมาคมและความคิดริเริ่มที่นำโดยนักเรียน ชอบฟุตบอล? เข้าร่วมลีกฟุตบอลภายในสนุกกับการเล่นดนตรีหรือร้องเพลง? ลองสมัครเป็นสมาชิกวงดนตรีหรือคณะนักร้องประสานเสียงในมหาวิทยาลัย อย่าจำกัดตัวเองให้อยู่แต่ในกิจกรรมของมหาวิทยาลัย ลองมีส่วนร่วมในกิจกรรมสร้างประโยชน์ให้ชุมชนท้องถิ่น กิจกรรมที่คุณทำนอกห้องบรรยายสอนบทเรียนและทักษะอันล้ำค่าให้กับคุณ

จำไว้ว่าการเรียนในระดับมหาวิทยาลัย เป็นช่วงเวลาที่คุณมีอิสระในการเรียนรู้และสร้างสมประสบการณ์ อย่าปล่อยให้ช่วงเวลานี้ผ่านไปอย่างไร้คุณค่า อย่าจมอยู่กับตำราเรียนจนลืมมีมนุษยสัมพันธ์กับคนรอบข้าง



เคล็ดลับ 5 ข้อสำหรับการสอนและการเรียนรู้ที่เพิ่มขึ้นด้วยมัลติมีเดีย

เราจะใช้สื่อมัลติมีเดียเพื่อให้การเรียนรู้มีประสิทธิภาพมากขึ้นได้อย่างไร แนวทางดั้งเดิมในการสอนในระดับอุดมศึกษามีแนวโน้มที่จะจำกัดผู้เรียนให้อ่านข้อความ ฟังบรรยาย และอภิปรายแนวคิดในการสัมมนา อย่างไรก็ตาม เราเรียนรู้ได้ดีขึ้นและมีความสนใจในงานเรียนรู้มากขึ้น เมื่อมีการนำเสนอข้อมูลในรูปแบบที่หลากหลาย – ทำไมไม่ลองทำอะไรที่แตกต่างออกไปล่ะ

1) ผู้สอนมีส่วนร่วมทำงานที่ได้รับมอบหมายให้เสร็จ

การเรียนการสอนด้วยสื่อมัลติมีเดีย กระตุ้นความสนใจของผู้เรียนได้เป็นอย่างดี ทำให้ผู้เรียนมีความกระตือรือร้นที่จะเรียนรู้ และเข้าใจบทเรียนได้ง่ายขึ้น นอกจากนั้นยังมีส่วนช่วยลดความเครียดในการเรียนได้ด้วย เมื่อจบเนื้อหาในแต่ละบทเรียนครูผู้สอนอาจมอบหมายงานหรือบททดสอบให้กับนักเรียน เพื่อเป็นการทดสอบว่านักเรียนมีความเข้าใจบทเรียนแค่ไหน เช่นลองเขียน Blog แต่ไม่ควรให้นักเรียนเอางานกลับไปทำที่บ้านตามลำพัง ควรเป็นงานที่ผู้สอนได้มีส่วนช่วยดู ให้คำแนะนำหรือทำไปด้วยกัน เพื่อให้แน่ใจว่านักเรียนเข้าใจจริงๆ

2) ทำการทดสอบก่อนและหลังการเรียน

ผู้สอนควรทำการทดสอบผู้เรียนก่อนเริ่มเรียน ทั้งนี้เพื่อเป็นการประเมินความรู้และความเข้าใจของผู้เรียน อาจใช้เป็นตัววัดระดับความยากง่ายของเนื้อหาที่จะสอน และใช้เพื่อปรับเทคนิคการสอนให้เข้ากับผู้เรียนด้วย ส่วนการทดสอบหลังการสอน จะทำให้คุณมีหลักฐานในการประเมินผลลัพธ์การเรียนรู้ของนักเรียน และยังเป็นตัวประเมินได้ด้วยว่าวิธีการสอนนั้นๆ ได้ผลดีหรือไม่

3) สร้าง Playlist

นักเรียนหลายคนอาจเคยลิสต์รายการหนังสือที่ต้องอ่าน และพยายามอ่านให้ครบตามรายการนั้น แต่ด้วยเทคโนโลยีมัลติมีเดียในปัจจุบัน ลองเปลี่ยนจากรายการหนังสือที่ต้องอ่านแบบเดิมๆ เป็น Playlist เช่น Google มีบทแนะนำที่เป็นประโยชน์เกี่ยวกับวิธีสร้างและจัดการเพลย์ลิสต์ YouTube วิธีแชร์เพลย์ลิสต์กับผู้อื่น หรือทำงานร่วมกันบนเพลย์ลิสต์ การเริ่มต้นช่อง YouTube ของชั้นเรียนด้วยเพลย์ลิสต์สำหรับการทำงานร่วมกันอาจเป็นวิธีที่ดีในการมีส่วนร่วมของผู้เรียนในการประเมินแหล่งที่มาและการดูแลจัดการเนื้อหาดิจิทัล หรือหากต้องการสร้างรายการฟัง คุณอาจลองใช้ Podcast Playlist Creator เพื่อค้นหาตอนของพอดแคสต์ รวบรวมเป็นเพลย์ลิสต์ จากนั้นสร้างลิงก์ที่สามารถแชร์ได้

4) กระตุ้นความอยากรู้และการมีส่วนร่วมของผู้เรียน ด้วยการซ่อนข้อมูลบางส่วน

เพื่อกระตุ้นให้นักเรียนมีส่วนร่วมแสดงความคิดเห็น คุณครูอาจใช้ทริคสร้างช่องว่างในรูปหรือประโยค เช่น การตัดคำอ่านออกเป็นชิ้นๆ และจัดเตรียมเพียงบางส่วน หรือเว้นไว้บางส่วนเพื่อให้ นักเรียนเติมช่องว่าง หรือครูอาจเลือกฉายวิดีโอ จากนั้นปิดบังภาพหรือปิดเสียง โดยขอให้นักเรียนเป็นผู้เติมข้อมูลที่ขาดหายไป โดยใช้ทักษะการใช้เหตุผลและพูดคุยกับเพื่อนๆ

5) ใช้งานจิ๊กซอว์เพื่อส่งเสริมการเรียนรู้และแสดงความคิดเห็นแบบตัวต่อตัว

คล้ายๆ กันกับทริคการซ่อนข้อมูลบบางส่วน เรายังสามารถแบ่งชั้นเรียนของนักเรียนออกเป็นกลุ่มที่ดู/อ่าน/ฟังเนื้อหาต่างๆ ตัวอย่างเช่น คุณอาจให้นักเรียนครึ่งหนึ่งดูวิดีโอและอีกครึ่งหนึ่งอ่านบทความที่นำเสนอมุมมองที่ตรงกันข้าม จากนั้นคุณสามารถจับคู่นักเรียนจากแต่ละกลุ่มเพื่อแบ่งปันความรู้และอภิปรายความถูกต้องของการโต้แย้งแต่ละข้อ