ติวเตอร์ภาษาอังกฤษ ใน คลองสามวา, กรุงเทพมหานคร

ติวเตอร์ภาษาอังกฤษ ใน คลองสามวา, กรุงเทพมหานคร

คุณต้องการใช้บริการนี้เมื่อไหร่?
ตอนนี้
ระบุวันที่

วิธีการทำงาน

Saijai

ติดต่อเรา

ติดต่อเราโดยตรงผ่าน LINE OA เพื่อจองบริการที่คุณต้องการ

Saijai

แจ้งรายละเอียดให้เราทราบ

เลือกบริการ วันที่ เวลา และสถานที่ที่คุณต้องการให้ตรงกับความต้องการของคุณ

Saijai

ยืนยันการจองของคุณ

เราจะยืนยันการจองของคุณภายใน 24 ชั่วโมงผ่านทาง LINE OA

Issatee Sayaka
Issatee Sayaka
Saijai ประสบการณ์ 1-2 ปี
Saijai อายุ 24 ปี

สวัสดีค่ะ ชื่อ อิสซาตี เรียกสั้นๆว่าตี้ได้ค่ะ ตี่เคยมีประสบการณ์การสอนการบ้าน และสอนพิเศษภาษาอะงกฤษให้กับน้องอนุบาลและประถมค่ะ ตี้กำลังศึกษาอยู่ชั้นปีที่2 ที่มหาวิทยาลัยอิสลามนานาชาติมาเลเซีย ที่ประเทศมาเลเซีย

แสดงเพิ่มเติม
ธัญมัย ทรงอธิกมาศ
ธัญมัย ทรงอธิกมาศ
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี

การสอน เน้นมีปฏิสัมพันธ์กับนักเรียน เน้นคิดวิเคราะห์ เน้นคีย์เวริ์ด และเน้นให้ นร หาหลักจำ หลักเข้าใจของนักเรียนแต่ะละคนเอง

แสดงเพิ่มเติม
Jarinpon Wongviriyasakoon
Jarinpon Wongviriyasakoon
Saijai ประสบการณ์ 0-1 ปี
Saijai อายุ 25 ปี
ศิริพร เพ็ชรรัตน์
ศิริพร เพ็ชรรัตน์
Saijai ประสบการณ์ 3-4 ปี

ประสบการณ์สอน (ปี) : สอนมาแล้ว3ปี ปัจจุบันสอนติวเข้ามัธยม1,4 และประถม

รายละเอียด : (ตัวอย่าง)

- คณิต ระดับอนุบาล ประถม สอบเข้าม.1

- คณิต ม.2 ม.4 สอบเข้าเตรียมทหาร

- วิทย์ ประถม และสอบเข้าม.1

- สังคม ประถม สอบเข้าม.1 และสอบเข้าม.4 เตรียมอุดม

- ภาษาไทย อนุบาล ประถม สอบเข้าม.1 และ ม.4เตรียมอุดม

- อังกฤษ อนุบาล ประถม และสอบเข้าม.1

- จีน ปูพื้นฐาน ประถม

เป็นติวเตอร์สอนตามบ้านมา3ปี เป็นติวเตอร์สถาบันสอบเข้ารร.บดินทรเดชา และเป็นติวเตอร์สถาบันสอบเข้าเตรียมทหารลานทอง

ผลงาน / รางวัล :

สอบผ่านการวัดระดับภาษาจีน HSK5

สอบชิงทุนไปเรียนจีนระดับป.ตรีผ่าน (เหตุไม่ได้ไปเพราะติดโควิด)

สอนติวนร.สอบติดม.1 รร.สวนกุหลาบนนท์ได้

สอนติวนร.สอบติดม.1ห้องกิฟต์ได้ รร.สาธิต

สอนติวนร.สอบติดม.4รร.เตรียมอุดมได้

***สามารถให้ติวเตอร์ส่งแนบรูปสอนหรือคลิปการสอนให้ได้ค่ะ***

(สามารถทดลองสอนได้ค่ะ)(มีรีวิวของผู้ปกครอง ติวเตอร์ใจดีมากค่ะสอนเด็กพิเศษได้ค่ะ ใจเย็น)

แสดงเพิ่มเติม

ข้อมูลสถิติน่าสนใจเกี่ยวกับ

Saijai จำนวนประชากร
Saijai จำนวนประชากรเด็ก (แรกเกิด-14 ปี)
Saijai จำนวนประชากรสูงอายุ (60 ปี ขึ้นไป)
Saijai จำนวนสัตว์เลี้ยง สุนัข

รีวิวล่าสุด

มองหาและเปรียบเทียบราคาจากหลายๆ เว็บ เว็บนี้มีราคาแสดงไว้ชัดเจน จดไว้เป็นตัวเลือกอันดับหนึ่งในตอนแรก พอไปดูเว็บอื่น บางเว็บไม่ยอมบอกราคาไว้ ทำให้ต้องติดต่อหาเจ้าหน้าที่หลายขั้นตอน เสียเวลามากค่ะ สุดท้ายตัดสินใจเลือกที่นี่เพราะนอกจากราคาจะดีงามแล้ว ยังได้ติวเตอร์ดี มีประสบการณ์ คุ้มค่ากับที่จ่ายไปจริง ๆ ค่ะ
Saijai
สาลิณี อนันชัยกูร
3 ปีที่แล้ว
พี่ติวเตอร์เก่งมาก ๆ ทำให้เราเข้าใจคำศัพท์ได้ง่าย ๆ วิธีการใช้ในประโยคในเวลาไม่กี่เดือน ตอนแรกจะจำศัพท์ไม่ค่อยได้ เพราะศัพท์เยอะมาก แต่พอท่องศัพท์และหัดใช้ ตอนนี้ดีขึ้นมากเลย คะแนนก็ดีขึ้น
Saijai
ชนกานต์ วรธีรนนท์
3 ปีที่แล้ว
กำลังจะเตรียมตัวสอบ TOEIC ไปสมัครงานค่ะ ก่อนหน้านี้มองหาที่เรียนพิเศษภาษาอังกฤษแถวบ้านแต่หายากมากเพราะไม่ได้อยู่ในตัวเมือง เลยลองเสิร์ชหาใน google ดู มาเจอของใส่ใจ เห็นว่ามีเรียนพิเศษแบบออนไลน์ด้วยก็เลยตัดสินใจเลือกใช้บริการเลยค่ะ ถือว่าสะดวกกว่ามาก ๆ แถมติวเตอร์สอนเข้าใจง่ายด้วย
Saijai
ไอด้า พิทักษ์ยิ่ง
3 ปีที่แล้ว
เว็บไซต์ของใส่ใจใช้งานง่ายมาก ๆ ครับ เราลองใช้บริการติวเตอร์สอนภาษาอังกฤษ ขั้นตอนการจ้างไม่ยุ่งยาก อีกทั้งยังสะดวกและรวดเร็วด้วยครับ มีระบบการจ่ายเงินที่น่าเชื่อถือ โดยรวมประทับใจครับ
Saijai
ภูริทัศ จินดาโชติ
3 ปีที่แล้ว
จริงๆ ก็กังวลนะ ถึงแม้เราได้ภาษามาบ้าง เกรดก็โอเคแต่อยากเพิ่มความมั่นใจ ได้ติวเตอร์ภาษาอังกฤษจากเว็บใส่ใจ สอนเข้าใจง่าย แก้ไขปัญหาให้ตรงจุด ไวยากรณ์ภาษาอังกฤษเราแน่นขึ้น จากความกังวลเรื่อง TENSE ทั้ง12 ฝึกสนทนาและฟังจริงทุกรอบ แถมสอนการบ้านด้วย ตอนนี้สบายใจละ
Saijai
ญาณิน ธาดาวริศกุล
4 ปีที่แล้ว

คำถามที่พบบ่อยสำหรับการค้นหา ติวเตอร์ภาษาอังกฤษ

อยากเก่งภาษาอังกฤษต้องทำอย่างไร
อยากเก่งภาษาอังกฤษต้องทำอย่างไร คำตอบคือเรียนภาษาอังกฤษนั้นไม่ยากแต่ต้องใช้ความพยายาม ต้องตั้งใจเรียน ทบทวน ฝึกหัดให้บ่อย ๆ ในปัจจุบันเรามีตัวช่วยให้เลือกว่าจะทำอย่างไรให้เก่งภาษาอังกฤษได้อย่างรวดเร็ว แต่การที่เราจะนำตัวเองให้ไปถึงจุด ๆ นั้นได้ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย คือการนำตัวเองไปสู่สังคมที่เป็นภาษาอังกฤษ หรือเข้าไปอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ใช้ภาษาอังกฤษ ยกตัวอย่างเช่น

1. มีความกระตือรือร้น อ่านภาษาอังกฤษจากสื่อรอบ ๆ ข้าง ข่าวในโทรศัพท์มือถือ อาจจะเริ่มเลือกอ่านในสิ่งที่เราชอบ เพื่อจะได้เข้าใจง่าย จากนั้น หัดฟัง พูด เขียนภาษาอังกฤษ ให้ได้มากที่สุดทั้งในและนอกห้องเรียน อาจจะเป็นการฟังเพลงที่เราชอบ ดูหนังฝรั่งที่ใช้ ภาษาต้นฉบับ (ภาษาอังกฤษ) เป็นต้น
2. เมื่อเจอคำศัพท์ให้จด จำ และนำไปใช้ให้บ่อยๆ แล้วเราจะจำได้เอง บางคนใช้วิธี แปะกระดาษไว้ที่ห้องนอน ห้องน้ำ แล้วฝึกอ่านออกเสียงไปด้วย เมื่อเราคุ้นเคยแล้วเราจะจำได้เอง ได้ทั้งคำศัพท์ได้ทั้งการอ่านออกเสียง เดี๋ยวนี้เราบันทึกคำศัพท์ไว้ได้ในโทรศัพท์มือถือ เจอ จด จากนั้นก็จำ แล้วนำไปใช้
3. พยายามใช้สื่อต่าง ๆ ใกล้ตัวเป็นภาษาอังกฤษทั้งหมด เช่น โทรศัพท์มือถือ/เกม ให้ใช้เมนูทุกอย่างเป็นภาษาอังกฤษ แรก ๆ อาจจะติด ๆ ขัด ๆ แต่เมื่อใช้ไปเรื่อย ๆ รับรองว่าคล่องแน่นอน
4. ไม่รู้ต้องถาม ถามผู้รู้ เช่นคุณครู เจ้าของภาษา หรือถ้าไม่อยากถามคน ลองคนหาจากเสิร์ชเอนจิน (Search Engines) เช่น Google สมัยนี้ปฏิเสธไม่ได้ว่าเสิร์ชเอนจินนั้นมีบทบาทมากขึ้นในชีวิตประจำวันของคนไทย และคนทั่วโลก ไม่ว่าเราจะต้องการข้อมูลอะไรสามารถหาได้ทั้งนั้น
5. ทำความรู้จักเพื่อน ๆ ชาวต่างชาติ คุณครูชาวต่างชาติ ซึ่งปัจจุบันมีนักเรียนและคุณครูชาวต่างชาติเข้ามาเรียน มาสอน มาใช้ชีวิตในประเทศไทย ถือเป็นโอกาสที่ดีของนักเรียนไทยที่จะได้ใช้ภาษาอังกฤษมากขึ้น โดยธรรมชาติคนไทยอาจจะเป็นคนขี้อายและไม่ค่อยมั่นใจในการใช้ภาษาอังกฤษ ถ้าเราพูดบ่อย ๆ เราจะชิน แล้วค่อยพัฒนาไปในระดับต่อไป
ครูสอนพิเศษหรือติวเตอร์ส่วนตัวจะช่วยให้คุณเก่งภาษาอังกฤษได้จริงหรือไม่
บทเรียนแรกของการเรียนภาษาอังกฤษ คือต้องก้าวข้ามความกลัว เพราะต่อให้เราเรียนภาษาอังกฤษมามากแค่ไหน แต่ถ้าเรากลัวจนไม่กล้าเอามาใช้ ทำให้การเรียนนั้นสูญเปล่า ความกลัวที่ว่าอาจเกิดจากการกลัวความผิดพลาด จนทำให้ความก้าวหน้าหยุดชะงัก เราสามารถแก้ปัญหาความกลัวได้โดยการด้วยการฝึกใช้บ่อย ๆ การฝึกใช้ภาษาอังกฤษเป็นประจำทำอย่างไร เราอาจเริ่มต้นจากการเรียนพิเศษภาษาอังกฤษกับติวเตอร์ตัวต่อตัว ซึ่งช่วยในเรื่องของการลดความตื่นเต้น ลดความประหม่า เพราะเป็นการฝึกฝนภาษาแบบตัวต่อตัว ไม่มีใครคอยจับตามาอง เมื่อเราได้ฝึกฝนและการทำซ้ำ ๆ ในทุก ๆ วัน จนเกิดเป็นความเคยชินและกลายเป็นนิสัยที่ติดตัวเราไปได้ เมื่อเราเริ่มต้นเราไม่ต้องสนใจว่ามันผิดหรือถูก ติวเตอร์จะเป็นคนคอยแนะนำและแก้ ประโยค ศัพท์ สอนทริคให้จำง่าย ติวเตอร์ยังสามารถพัฒนาสำเนียงเราได้ เพราะเมื่อหูของเราคุ้นชิน โดยธรรมชาติเราสามารถปรับสำเนียงให้เป็นไปตามคู่สนทนานั้น จากที่เราเริ่มใช้ศัพท์และประโยคที่ถูกต้องไปทีละนิด จนเกิดเป็นการพัฒนาให้กับตัวเราเอง เมื่อเราผ่านบทเรียนแรกกับติวเตอร์แล้ว บทเรียนต่อไปเราไม่ต้องกลัวอะไรแล้ว เปิดโอกาสให้กับตัวเอง กล้าที่จะสื่อสาร กล้าที่จะเขียนภาษาอังกฤษ ฝึกจดบันทึกเป็นภาษาอังกฤษ ที่มีติวเตอร์ส่วนตัวคอยชี้แนะ ในที่สุดเราได้ทักษะครบ ฟัง พูด อ่านและเขียน และภาษาอังกฤษสำหรับเราจะเป็นเรื่องง่ายนิดเดียว
ทำไมเด็กไทยจึงมีปัญหาการสื่อสารภาษาอังกฤษ และควรแก้ไขอย่างไร
ในปัจจุบันภาษาอังกฤษนั้นได้กลายมาเป็นภาษาสากลที่ผู้คนทั่วโลกใช้สื่อสารกันไปแล้ว แต่สำหรับคนไทยส่วนใหญ่ที่ไม่ได้ใช้ภาษาอังกฤษมาตั้งแต่เกิด อาจทำให้มีข้อบกพร่องในการใช้ภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารอยู่บ้าง ซึ่งปัญหาส่วนใหญ่ที่พบเจอกันบ่อยมีดังนี้

1. คลังคำศัพท์ภาษาอังกฤษที่ค่อนข้างน้อย และความรู้เกี่ยวกับไวยากรณ์ภาษาอังกฤษที่ไม่แม่นยำมากพอ การที่เด็กไทยขาดความรู้เรื่องคำศัพท์ภาษาอังกฤษและโครงสร้างของประโยคนั้นอาจทำให้มีปัญหาในการสื่อสาร เพราะไม่สามารถนึกคำศัพท์บางคำออก และไม่สามารถเรียบเรียงออกมาเป็นประโยคได้นั่นเอง ซึ่งวิธีการที่จะช่วยแก้ไขปัญหาเหล่านี้ได้คือหมั่นฝึกท่องคำศัพท์เพื่อช่วยเพิ่มพูนคลังคำศัพท์ให้มากยิ่งขึ้น อีกวิธีคือการจดคำศัพท์ใหม่ ๆ ที่พบเจอลงในสมุดโน้ตเพื่อช่วยให้ง่ายต่อการจดจำมากยิ่งขึ้น ในส่วนของการเรียบเรียงโครงสร้างของประโยค คือการเรียนรู้และทำความเข้าใจเรื่องไวยากรณ์ โดยวิธีที่สามารถช่วยได้คือการดูหนังหรือวิดิโอต่าง ๆ ที่เป็นภาษาอังกฤษบ่อย ๆ เพื่อให้คุ้นเคยกับการใช้รูปแบบประโยคที่หลากหลายนั่นเอง
2. เด็กไทยส่วนใหญ่มักไม่มีความมั่นใจที่จะต้องใช้ภาษาอังกฤษในการพูดคุยสื่อสาร เพราะบางครั้งกลัวว่าหากพูดคำไหนออกไปแล้วจะออกเสียงไม่ถูกต้อง บวกกับนิสัยของคนไทยที่ค่อนข้างขี้อาย ไม่ค่อยกล้าแสดงออก ยิ่งทำให้เด็กไทยหลาย ๆ คนไม่มีความกล้าที่จะใช้ภาษาอังกฤษในการสื่อสาร วิธีการแก้ปัญหาเหล่านี้สามารถเริ่มได้ที่ตัวเราเอง โดยการฝึกพูดหน้ากระจกบ่อย ๆ เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับตัวเอง บางครั้งควรจดจำประโยคและสำเนียงจากในหนังหรือวิดีโอภาษาอังกฤษต่าง ๆ มาพูดตาม และหากมีโอกาสควรลองสื่อสารกับเจ้าของภาษาโดยตรงได้จะยิ่งดี นอกจากวิธีเหล่านี้แล้ว การเรียนพิเศษภาษาอังกฤษเพิ่มเติมก็ถือเป็นอีกตัวช่วยสำคัญที่จะสามารถพัฒนาทักษะในการสื่อสารภาษาอังกฤษได้เช่นกัน
อยากจ้างติวเตอร์สอนภาษาอังกฤษ TOEIC, TOEFL และ IELTS .ใส่ใจมีบริการดังกล่าวหรือไม่
TOEIC TOEFL IELTS มีความแตกต่างกันอย่างไร

TOEIC (Test of English for International Communication)
เป็นการวัดระดับภาษาอังกฤษเชิงการสื่อสาร คะแนน TOEIC มีไว้สำหรับการสมัครงาน เพื่อเป็นการรับรองว่าเรามีความสามารถในการใช้ภาษาอังกฤษได้ตรงตามที่บริษัทกำหนดเอาไว้ โดยการสอบ TOEIC มี 2 ส่วน คือ
• การฟัง Listening
• การอ่าน Reading
โดยข้อสอบเป็นแบบเลือกตอบ (Multiple Choice) ทั้งหมด

TOEFL (The Test of English as a Foreign Language)
เป็นการทดสอบความสามารถทางภาษาอังกฤษเชิงวิชาการ (Academic English) ทั้งนี้เพื่อทดสอบว่าผู้สอบมีความสามารถในการใช้ภาษาอังกฤษเชิงวิชาการมากน้อยแค่ไหน จุดประสงค์เพื่อใช้สำหรับการเรียนต่อต่างประเทศ สามารถนำคะแนนสอบไปใช้ยื่นเข้าเรียนต่อปริญญาโท และปริญญาเอกในคณะที่เป็นหลักสูตร International ได้ โดยข้อสอบ TOEFL มี 4 ส่วน
• การอ่าน Reading
• การฟัง Listening
• การพูด Speaking
• การเขียน Writing

IELTS (International English Language Testing System)
เป็นการสอบในระบบภาษาอังกฤษ โดยทดสอบภาษาอังกฤษเชิงวิชาการ โดยถ้าต้องการไปเรียนต่อที่ประเทศอังกฤษ ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ ก็จะต้องใช้คะแนน IELTS
การสอบ IELTS ใช้ประเมินความสามารถในการใช้ภาษาอังกฤษของผู้สมัครสอบ 4 ทักษะ คือ
• การฟัง Listening
• การอ่าน Reading
• การเขียน Writing
• การพูด รวมถึงความรู้ทางด้านไวยากรณ์และคำศัพท์ Speaking including Grammatical and Vocabulary Knowledge
IELTS เป็นข้อสอบที่ร่วมมือกันของ 3 สถาบัน ได้แก่
• The University of Cambridge ESOL Examinations (Cambridge ESOL)
• British Council
• IDP : IELTS Australia
ซึ่งการสอบ IELTS ถือได้ว่าเป็นการสอบที่ใช้ประเมินความสามารถทางภาษาอังกฤษที่ได้มาตรฐานระดับสูงสุด