ติวเตอร์ภาษาอังกฤษ ใน เมืองสงขลา, สงขลา

ติวเตอร์ภาษาอังกฤษ ใน เมืองสงขลา, สงขลา

คุณต้องการใช้บริการนี้เมื่อไหร่?
ตอนนี้
ระบุวันที่

วิธีการทำงาน

Saijai

ติดต่อเรา

ติดต่อเราโดยตรงผ่าน LINE OA เพื่อจองบริการที่คุณต้องการ

Saijai

แจ้งรายละเอียดให้เราทราบ

เลือกบริการ วันที่ เวลา และสถานที่ที่คุณต้องการให้ตรงกับความต้องการของคุณ

Saijai

ยืนยันการจองของคุณ

เราจะยืนยันการจองของคุณภายใน 24 ชั่วโมงผ่านทาง LINE OA

เนติธร โล้วโสภณกุล
เนติธร โล้วโสภณกุล
Saijai ประสบการณ์ 3-4 ปี
Saijai อายุ 25 ปี

เป็นติวเตอร์สอนตั้งแต่ระดับ ป.1-ม.6 มาตั้งแต่เรียนปี 1 ประจำอยู่ที่สถาบันกวดวิชาที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งในหาดใหญ่ เคยไปเป็นครูพิเศษสอนที่โรงเรียนศาสนาอิสลาม เกาะหมี เคยสอนทั้งตัวต่อตัว เป็นกลุ่ม นักเรียนเยอะสุดในคลาส 40 คน สามารถคุมเด็กได้ มีรูปแบบการสอนที่สนุก ถามตอบแลกเปลี่ยนความรู้ตลอดเวลา เคยสอนทั้งรูปแบบออนไลน์ และออนไซต์ รับรองคุณภาพเด็กสอบติดม.1 และม.4โรงเรียนชั้นนำของจังหวัดพัทลุงและสงขลา ร้อยละ 90% อีก 10% เลือกจะเรียนต่อที่เดิมโดยไม่ต้องสอบเข้า

แสดงเพิ่มเติม

ข้อมูลสถิติน่าสนใจเกี่ยวกับ

Saijai จำนวนประชากร
Saijai จำนวนประชากรเด็ก (แรกเกิด-14 ปี)
Saijai จำนวนประชากรสูงอายุ (60 ปี ขึ้นไป)
Saijai จำนวนสัตว์เลี้ยง สุนัข

รีวิวล่าสุด

ชื่นชมการสอนของตัวติวเตอร์มากค่ะ จากที่ลูกสาวเป็นคนไม่กล้าแสดงออกไม่กล้าพูดภาษาอังกฤษไม่ว่าจะที่โรงเรียนหรือทั่วไป หลังจากจ้างติวเตอร์ภาษาอังกฤษมาช่วยสอน ลูกมีผลการเรียนวิชาภาษาอังกฤษที่ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดและกล้าใช้ภาษาอังกฤษสื่อสารมากขึ้นค่ะ
Saijai
ปาลิดา อัศวไกรภพ
3 ปีที่แล้ว
ประทับใจติวเตอร์มาก ๆ ค่ะ ครูติวเตอร์สอนดีมาก ๆ เป็นกันเองสุด ๆ เลยค่ะ เวลาหนูไม่เข้าใจตรงไหน หนูก็จะถามติวเตอร์ เพราะภาษาอังกฤษหนูค่อนข้างอ่อน แต่ตอนนี้หนูรู้สึกมั่นใจขึ้นเยอะเลยค่ะ
Saijai
มนัสนันท์ รุจิรดาภรณ์
3 ปีที่แล้ว
เว็บไซต์ของใส่ใจใช้งานง่ายมาก ๆ ครับ เราลองใช้บริการติวเตอร์สอนภาษาอังกฤษ ขั้นตอนการจ้างไม่ยุ่งยาก อีกทั้งยังสะดวกและรวดเร็วด้วยครับ มีระบบการจ่ายเงินที่น่าเชื่อถือ โดยรวมประทับใจครับ
Saijai
ภูริทัศ จินดาโชติ
4 ปีที่แล้ว
ลูกเพิ่งเข้าเรียนโรงเรียนหลักสูตร2ภาษาครับ แต่ลูกมีปัญหาไม่กล้าพูดและใช้ภาษาอังกฤษที่โรงเรียนเพราะกลัวเรื่องแกรมม่าและการออกเสียงคำศัพท์มากๆ จนต้องตัดสินใจหาติวเตอร์มาช่วยสอน ซึ่งตัวของติวเตอร์ช่วยสอนและฝึกให้ลูกพูดสนทนาออกเสียง ตอนนี้ลูกมีความกล้าและมั่นใจในตัวเองมากขึ้นมากเลยครับ
Saijai
ชาธิต ประทีบศาสตร์
4 ปีที่แล้ว
จริงๆ ก็กังวลนะ ถึงแม้เราได้ภาษามาบ้าง เกรดก็โอเคแต่อยากเพิ่มความมั่นใจ ได้ติวเตอร์ภาษาอังกฤษจากเว็บใส่ใจ สอนเข้าใจง่าย แก้ไขปัญหาให้ตรงจุด ไวยากรณ์ภาษาอังกฤษเราแน่นขึ้น จากความกังวลเรื่อง TENSE ทั้ง12 ฝึกสนทนาและฟังจริงทุกรอบ แถมสอนการบ้านด้วย ตอนนี้สบายใจละ
Saijai
ญาณิน ธาดาวริศกุล
4 ปีที่แล้ว

คำถามที่พบบ่อยสำหรับการค้นหา ติวเตอร์ภาษาอังกฤษ

มีวิธีการอย่างไรให้เก่งภาษาอังกฤษมากขึ้น
ในสังคมปัจจุบันภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่ 2 ที่มีความสำคัญรองจากภาษาแม่ของเรา เพื่อที่เราจะได้ติดต่อสื่อสาร ทำงาน ทำธุรกิจกับชาวต่างชาติได้และอาจจะทำให้เราได้รับค่าตอบแทนที่สูงขึ้นเมื่อเทียบกับการที่ไม่มีความรู้ภาษาอังกฤษ ดังนั้นการเรียนภาษาอังกฤษให้เก่งจึงมีความสำคัญเป็นอย่างมาก

เรามีวิธีเรียนภาษาอังกฤษให้เก่งมาแนะนำกันค่ะ

1 เริ่มต้นง่าย ๆ ด้วยการพูดสื่อสารภาษาอังกฤษ คุณอาจจะพูดและอัดเสียงตัวเองไว้แล้วฝึกฝนบ่อย ๆ เพราะการฝึกซ้ำ ๆ จะทำให้เราเกิดความชำนาญและสามารถพัฒนาการพูดของเราได้อย่างมาก หรือการใช้ภาษาอังกฤษเพื่อพูดคุยกับเพื่อนในชีวิตประจำวันเป็นการช่วยฝึกภาษาอังกฤษได้อีกทางหนึ่งเช่นกัน
2 ฝึกการฟัง การที่เราฟังอย่างมีประสิทธิภาพจะช่วยให้เราเข้าใจและทำให้เราพูดเก่งขึ้นอีกด้วย เช่น ลองฟังเพลงภาษาอังกฤษ เพลงที่เราชอบไม่ว่าจะเก่าหรือใหม่ ลองฟังและหาเนื้อเพลงมาอ่านไปด้วย หรืออาจจะเป็นการดูภาพยนตร์แบบ Soundtrack ดูแบบ DVD ก็ได้ ซึ่งสามารถดูซ้ำไปซ้ำมาได้หลายรอบ เริ่มต้นจากการดูโดยมี Subtitle หลังจากเริ่มชินแล้วให้ลองปิด Subtitle อีกหนึ่งตัวเลือกก็คือ เปิดฟังคลื่นวิทยุภาษาอังกฤษจะทำให้เรารู้สึกชินกับเสียงและสำเนียงภาษาอังกฤษมากขึ้น
3 ลองอ่านหนังสือหรือบทความภาษาอังกฤษบน Website หรือหนังสือที่นำมาสร้างเป็นภาพยนตร์ ลองเริ่มจากเล่มง่าย ๆ อาจเป็นหนังสือเด็กหรือการ์ตูนซึ่งมีภาพประกอบที่ช่วยให้เข้าใจง่าย
4 การเขียน เริ่มต้นง่ายๆ จากการเขียนบันทึกประจำวัน ไดอารี่ หรือเขียนความคิดเห็น ใน Blog ภาษาอังกฤษ เริ่มต้นจากการเขียนโดยใช้ภาษาง่าย ๆ ไม่กี่ประโยคแล้วค่อย ๆ พัฒนาขึ้นเรื่อย ๆ

แม้จะมีคำกล่าวว่าไม่เก่งภาษาอังกฤษไม่ได้แปลว่าโง่ แต่เชื่อเถอะว่าความชำนาญภาษาอังกฤษส่งผลดีให้คุณแน่นอน
ติวเตอร์ภาษาอังกฤษส่วนตัวช่วยพัฒนาการสื่อสารภาษาอังกฤษหรือไม่
ครูสอนพิเศษหรือติวเตอร์ภาษาอังกฤษส่วนตัวดีอย่างไร? ทำไมใคร ๆ จึงอยากเรียนกับติวเตอร์ส่วนตัว มาดูกันเลยค่ะ

1 ครูสอนพิเศษหรือติวเตอร์ภาษาอังกฤษแบบตัวต่อตัว โดยมากเป็นผู้ที่มีประสบการณ์มาอย่างยาวนาน และจบด้านภาษาอังกฤษโดยตรง หรืออาจจบการศึกษามาจากต่างประเทศ ทำให้สามารถพูดสำเนียงได้เหมือนเจ้าของภาษา จึงการันตีได้ว่าผู้เรียนจะได้เรียนกับครูสอนภาษาอังกฤษที่มีความชำนาญจริงๆ
2 ติวเตอร์มีระบบแบบแผนการสอนที่ชัดเจนและมีคุณภาพ ทำให้นักเรียนได้รับความต่อเนื่องในการเรียน
3 ติวเตอร์ภาษาอังกฤษเก่งในเรื่อง คำศัพท์ เนื้อหา Grammar ต่างๆ รวมทั้งการเก็งข้อสอบ
4 การสอนแบบตัวต่อตัวที่บ้าน ทำให้ติวเตอร์สามารถแก้ปัญหาของผู้เรียนได้ตรงจุด รู้ว่านักเรียนมีจุดอ่อนหรือจุดแข็งในด้านใด ควรปรับ ควรเสริมอะไรบ้าง เพื่อให้การเรียนพิเศษภาษาอังกฤษมีความเหมาะสมกับนักเรียนมากที่สุด หากพื้นฐานภาษาอังกฤษของนักเรียนไม่ดีนัก ติวเตอร์จะสอนแบบค่อยเป็นค่อยไป ส่วนคนที่พื้นฐานดีอยู่แล้วติวเตอร์สามารถเน้นเนื้อหาให้เข้มข้นตามและเจาะจงหัวข้อที่อยากเรียน โดยจะสอนแบบรวบรัดเพื่อให้ได้เนื้อหาที่ครอบคลุม เพื่อให้สามารถสอบเข้าในสถานศึกษาชั้นนำได้ในที่สุด
5 ติวเตอร์จะให้นักเรียนฝึกทำข้อสอบต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น ข้อสอบมิดเทอม ข้อสอบเพื่อเรียนต่อ และช่วยฝึกฝนการสนทนาภาษาอังกฤษแบบที่ไม่น่าเบื่อ เพราะมีเทคนิคใหม่ ๆ ที่ทันสมัยมาช่วยให้นักเรียนชอบภาษาอังกฤษมากยิ่งขึ้น ทั้งยังช่วยให้นักเรียนรู้ถึงข้อผิดพลาดขอตัวเองก่อนทำข้อสอบจริง
สาเหตุใดที่ทำให้เด็กไทยอ่อนภาษาอังกฤษมีวิธีแก้หรือไม่ อย่างไร
ภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่สำคัญมากในปัจจุบัน และจะยิ่งสำคัญมาก ๆ ในอนาคต บางครั้งการพูดภาษาอังกฤษไม่เก่งทำให้เกิดอาการประหม่า เมื่อต้องเจอชาวต่างชาติ ยิ่งถ้าอยู่ในจังหวัดหรือสถานที่ที่มีนักท่องเที่ยวเยอะ ๆ ในฐานะของเจ้าบ้านที่ดี เราควรรู้ภาษาอังกฤษเพื่อสื่อสารและให้ความช่วยเหลือหากพวกเขาต้องการ

สาเหตุหลัก ๆ ที่ทำให้เด็กไทยอ่อนภาษาอังกฤษมีดังนี้

1. เด็กไทยมีความรู้ด้านคำศัพท์ค่อนข้างน้อย เพราะการรู้คำศัพท์มีความสำคัญในการเริ่มต้นคิดประโยคเพื่อพูดหรือสื่อสารนั่นเอง
2. บางครั้งเด็กไทยยึดติดกับไวยากรณ์หรือ Grammar มากเกินไป ทำให้กังวลที่จะพูดหรือสื่อสาร ทำให้การเรียนภาษาอังกฤษดูยุ่งยากและเบื่อที่จะเรียนรู้ต่อไป
3. ภาษาอังกฤษไม่ใช่ภาษาแม่ของคนไทย เด็กไทยส่วนมากมีโอกาสเรียนภาษาอังกฤษที่โรงเรียน แต่เมื่อกลับไปที่บ้านก็ไม่ได้ทำการฝึกทักษะในส่วนนี้ ซึ่งจริง ๆแล้วการใช้บ่อย พูดบ่อย เขียนบ่อย ก็จะช่วยพัฒนาให้ใช้ภาษาอังกฤษได้ดีขึ้นเช่นกัน
4. ยึดติดกับหนังสือเรียนมากเกินไป แต่ในความเป็นจริงการพูดของชาวต่างชาติก็ไม่ได้ตรงตาม Grammar ทั้งหมด ซึ่งเหมือนกับภาษาไทยที่อาจจะใช้ไม่ถูกหลักไวยากรณ์แต่ยังสามารถสื่อสารกันได้ ดังนั้นหากเด็กกล้าที่จะพูดไปเรื่อย ๆ จะเรียนรู้ Grammar และวิธีการสื่อสารโดยอัตโนมัติ หรือที่เรียกว่าเรียนรู้จากประสบการณ์
5. บางครั้งเด็กไทยค่อนข้างอายในการพูดภาษาอังกฤษ เพราะความประหม่า กังวล กลัวผิดพลาด กลัวสื่อสารไม่เข้าใจ เป็นต้นเหตุให้ไม่ได้พัฒนาภาษาอังกฤษเท่าที่ควร
6. เด็กไทยยึดติดอยู่กับการท่องจำ เรียนเพื่อสอบเท่านั้น ไม่ได้มีใจรักในการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ จริง ๆ การเริ่มทำอะไรสักอย่างต้องมาจากความชอบก่อนแล้วเราจะทำมันได้ดี แต่หากเรียนเพื่อการสอบเท่านั้น เมื่อถึงเวลาที่ต้องนำไปใช้จริงในการสื่อสารแล้วก็ไม่สามารถที่จะทำการสื่อสารได้ แถมยังส่งผลให้ไม่สนุกกับการเรียนอีกด้วย
อยากจ้างติวเตอร์สอนภาษาอังกฤษ TOEIC, TOEFL และ IELTS .ใส่ใจมีบริการดังกล่าวหรือไม่
TOEIC TOEFL IELTS มีความแตกต่างกันอย่างไร

TOEIC (Test of English for International Communication)
เป็นการวัดระดับภาษาอังกฤษเชิงการสื่อสาร คะแนน TOEIC มีไว้สำหรับการสมัครงาน เพื่อเป็นการรับรองว่าเรามีความสามารถในการใช้ภาษาอังกฤษได้ตรงตามที่บริษัทกำหนดเอาไว้ โดยการสอบ TOEIC มี 2 ส่วน คือ
• การฟัง Listening
• การอ่าน Reading
โดยข้อสอบเป็นแบบเลือกตอบ (Multiple Choice) ทั้งหมด

TOEFL (The Test of English as a Foreign Language)
เป็นการทดสอบความสามารถทางภาษาอังกฤษเชิงวิชาการ (Academic English) ทั้งนี้เพื่อทดสอบว่าผู้สอบมีความสามารถในการใช้ภาษาอังกฤษเชิงวิชาการมากน้อยแค่ไหน จุดประสงค์เพื่อใช้สำหรับการเรียนต่อต่างประเทศ สามารถนำคะแนนสอบไปใช้ยื่นเข้าเรียนต่อปริญญาโท และปริญญาเอกในคณะที่เป็นหลักสูตร International ได้ โดยข้อสอบ TOEFL มี 4 ส่วน
• การอ่าน Reading
• การฟัง Listening
• การพูด Speaking
• การเขียน Writing

IELTS (International English Language Testing System)
เป็นการสอบในระบบภาษาอังกฤษ โดยทดสอบภาษาอังกฤษเชิงวิชาการ โดยถ้าต้องการไปเรียนต่อที่ประเทศอังกฤษ ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ ก็จะต้องใช้คะแนน IELTS
การสอบ IELTS ใช้ประเมินความสามารถในการใช้ภาษาอังกฤษของผู้สมัครสอบ 4 ทักษะ คือ
• การฟัง Listening
• การอ่าน Reading
• การเขียน Writing
• การพูด รวมถึงความรู้ทางด้านไวยากรณ์และคำศัพท์ Speaking including Grammatical and Vocabulary Knowledge
IELTS เป็นข้อสอบที่ร่วมมือกันของ 3 สถาบัน ได้แก่
• The University of Cambridge ESOL Examinations (Cambridge ESOL)
• British Council
• IDP : IELTS Australia
ซึ่งการสอบ IELTS ถือได้ว่าเป็นการสอบที่ใช้ประเมินความสามารถทางภาษาอังกฤษที่ได้มาตรฐานระดับสูงสุด