พี่เลี้ยงเด็ก ใน เมืองสมุทรปราการ, สมุทรปราการ

พี่เลี้ยงเด็ก ใน เมืองสมุทรปราการ, สมุทรปราการ

คุณต้องการใช้บริการนี้เมื่อไหร่?
ระบุวันที่

วิธีการทำงาน

Saijai

ติดต่อเรา

ติดต่อเราโดยตรงผ่าน LINE OA เพื่อจองบริการที่คุณต้องการ

Saijai

แจ้งรายละเอียดให้เราทราบ

เลือกบริการ วันที่ เวลา และสถานที่ที่คุณต้องการให้ตรงกับความต้องการของคุณ

Saijai

ยืนยันการจองของคุณ

เราจะยืนยันการจองของคุณภายใน 24 ชั่วโมงผ่านทาง LINE OA

	ปรีชญา ขัดเรือน
ปรีชญา ขัดเรือน
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี

ใจเย็น รักเด็ก มีความอดทนสูง สามารถแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าได้ดี ยิ้มแย้มแจ่มใจ เสริมสร้างพัฒนาการเด็กตามช่วงวัยได้ค่ะ

แสดงเพิ่มเติม
นันทิรา ระยับศรี
นันทิรา ระยับศรี
Saijai ประสบการณ์ 3-4 ปี

ตอนนี้ทำงานเป็นพี่เลี้ยงเด็กที่โรงเรียนนานาชาติ เป็นคนอารมณ์ดี ยิ้มแย้มแจ่มใสเข้ากับเด็กได้ดีสามารถสอนพื้นฐานให้เด็กวัยก่อนเข้าเรียนได้ ตามพัฒนาการของน้องค่ะ

แสดงเพิ่มเติม

รักเด็ก, ใจเย็น, ละเอียด, รักสะอาด, ยืดหยุ่น, รับฟังและพร้อมเรียนรู้

แสดงเพิ่มเติม
ณัฎฐ์ชญานิศ ศรีสุขรัตนา
ณัฎฐ์ชญานิศ ศรีสุขรัตนา
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี

เป็นคนรักเด็ก ถึงแม้ตัวเองจะไม่มีบุตร เคยรับเลี้ยงเด็กในซอยวัยก่อนเข้าเรียน เพราะพ่อแม่เด็กต้องทำงาน จะซื้อของเล่นและพาไปเที่ยวในละแวกใกล้ หรือถ้าพ่อแม่อนุญาตก็พาไปไกลได้ ชอบซื้อขนมและสิ่งของต่างๆแจกเด็กในซอย

แสดงเพิ่มเติม
Khaimuk  Homberg
Khaimuk Homberg
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี

มีประสบการณ์ในการดูแลเด็กและทำงานร่วมกับเด็กมากกว่า 5 ปี

รักเด็กค่ะ พูดได้ 2 ภาษา ไทย-อังกฤษ สามารถสอนการบ้านน้องและช่วยเหลือในด้านอื่นๆได้

มีใบขับขี่ทั้งรถยนต์และมอเตอร์ไซค์ค่ะ

แสดงเพิ่มเติม
ลัดดา เหล่าทา
ลัดดา เหล่าทา
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี

มีประสบการณ์เลี้ยงเด็กมากกว่า 10 ปี

แสดงเพิ่มเติม

ข้อมูลสถิติน่าสนใจเกี่ยวกับ

Saijai จำนวนประชากร
Saijai จำนวนประชากรเด็ก (แรกเกิด-14 ปี)
Saijai จำนวนประชากรสูงอายุ (60 ปี ขึ้นไป)
Saijai จำนวนสัตว์เลี้ยง สุนัข

รีวิวล่าสุด

เราหาพี่เลี้ยงจากเว็บไซต์ใส่ใจ พี่เลี้ยงคนนี้น่าประทับใจมาก รู้งานดีทุกอย่าง เราแทบไม่ต้องบอกอะไรเลย
Saijai
สุดารัตน์ ไกรภพ
3 ปีที่แล้ว
ทำงานแถวลาดกระบังค่ะ ลาคลอดได้แค่ 3 เดือน เลยมองหาพี่เลี้ยงไว้ก่อนจากหลาย ๆ ที่ จนเจอพี่เลี้ยงบนใส่ใจ พี่เลี้ยงมีประสบการณ์การเลี้ยงเด็กมาก่อนแล้ว ยังมีความรู้ด้านการพยาบาลเบี้องต้น ที่สำคัญคือราคาไม่เกินจากงบประมาณที่เราตั้งไว้ ถูกใจที่สุดเลยครับ
Saijai
สนั่นพงษ์ ทองสาริกา
3 ปีที่แล้ว
หลังจากที่จ้างพี่เลี้ยงเด็กมาดูแลลูกที่บ้าน ช่วยแบ่งเบาภาระของคุณแม่ไปได้เยอะเลย พี่เลี้ยงดูแลเด็กเป็นอย่างดี ช่วยส่งเสริมพัฒนาการของลูก ๆ ตอนนี้ลูกของเราเริ่มท่อง ก-ฮ นับเลข ได้แล้ว
Saijai
กาญจนา ชัยบัณฑิต
4 ปีที่แล้ว
ราคาของพี่เลี้ยงเด็กโอเคมากค่ะ มีตัวเลือกให้เปรียบเทียบเยอะด้วย
Saijai
ฐิตารีย์ สารรัตน์
4 ปีที่แล้ว
ครอบครัวเราย้ายจากเชียงใหม่มาทำงานที่กรุงเทพ ต้องหาคนช่วยดูแลลูก เลยหาใน Google แล้วได้เจอเว็บไซต์ใส่ใจ เราลองโพสต์โพสต์ประกาศหาพี่เลี้ยงเด็ก ไม่นานก็ได้รับข้อมูลของคนที่สนใจทำงานนี้ ระบบนัดสัมภาษณ์ของใส่ใจใช้ง่าย เราได้คุยพี่เลี้ยงเด็กหลายคนจนเจอคนที่เราคิดว่าใช่ ตอนนี้ที่บ้านแฮปปี้มากค่ะ
Saijai
นิด้า ไชบรรจง
4 ปีที่แล้ว

คำถามที่พบบ่อยสำหรับการค้นหา พี่เลี้ยงเด็ก

บทบาทและหน้าที่ของพี่เลี้ยงมีความสำคัญอย่างไรต่อพัฒนาการของเด็ก
คำกล่าวที่ว่าเด็กเปรียบเสมือนผ้าขาวนั้นถือเป็นคำกล่าวที่ถูกต้อง โดยเฉพาะเด็กในช่วงวัย 1-10 ขวบ เป็นวัยที่เรียนรู้โดยการซึมซับ จดจำ และปฏิบัติตามสิ่งที่เด็กได้พบเจอหรือถูกปฏิบัติต่อ อีกทั้งเป็นช่วงระยะเวลาที่สมองส่วน ความจำมีพัฒนาการอย่างรวดเร็ว และพร้อมที่จะซึมซับและเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ ที่พบเห็น ซึ่งเปรียบเสมือนกับแก้วเปล่าใบหนึ่งที่มีพื้นที่พร้อมที่จะรองรับทุกสิ่งทุกอย่างที่ถูกรินหรือเทใส่แก้วนั้น

พี่เลี้ยงถือเป็นอีกคนหนึ่งนอกเหนือจากพ่อแม่หรือผู้ปกครองของเด็ก พี่เลี้ยงมีส่วนสำคัญมากต่อพัฒนาการ พฤติกรรมการแสดงออก การเรียนรู้ หรือวามเข้าใจของเด็ก โดยเฉพาะพี่เลี้ยงที่ต้องอยู่กับเด็กแบบตลอดเวลา โอกาสที่เด็กจะเรียนรู้และจดจำพฤติกรรม การแสดงออกของพี่เลี้ยงนั้นเป็นไปได้สูงมาก อีกทั้งช่วงวัยเด็กยังเป็นช่วงวัยที่เด็กยังไม่มีความเข้าใจในเรื่องเหตุและผล ไม่รู้ว่าอะไรควรหรือไม่ควรปฏิบัติ ยังแยกแยะความถูกผิดไม่ได้ บทบาทหน้าที่ของพี่เลี้ยงจึงมีความสำคัญเป็นอย่างมาก ในบางกรณีอาจเทียบเท่าหรือสำคัญมากกว่าผู้ปกครองไปเสียด้วย

ดังนั้นผู้ที่จะเป็นพี่เลี้ยงเด็ก จึงจำเป็นจะต้องมีความรู้ความเข้าใจต่อพฤติกรรมของเด็กในแต่ละช่วงวัยเป็นอย่างดี ต้องเป็นผู้ที่มีความใส่ใจต่อเด็กเป็นอย่างมาก คอยสังเกตสิ่งต่าง ๆ และต้องคอยชี้แนะว่าอะไรทำได้หรือไม่ สิ่งใดถูกหรือผิด และสิ่งที่สำคัญมาก ๆ คือจะต้องมีใจรักในงานนี้จริง ๆ เพราะพี่เลี้ยงเด็กเป็นผู้ที่มีอิทธิพลต่อพัฒนาการของเด็ก ดังนั้นผู้ที่เป็นพ่อแม่หรือผู้ปกครองของเด็กจึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องคัดเลือกบุคคลที่มีความรู้ความสามารถ ประสบการณ์ที่สามารถตรวจสอบได้ และมีพฤติกรรมที่ดีที่คุณจะสามารถไว้วางใจให้พี่เลี้ยงนั้นดูแลลูกของคุณ
วิธีการที่จะช่วยให้คุณพ่อคุณแม่เลือกพี่เลี้ยงเด็กที่ไว้ใจได้มีอะไรบ้าง
ในปัจจุบันเราได้รับรู้ข่าวสารที่ไม่ดีเกี่ยวกับพี่เลี้ยงเด็กอยู่บ่อยครั้ง ซึ่งสร้างความกังวลใจให้กับพ่อแม่ที่กำลังตัดสินใจจ้างพี่เลี้ยงเด็กเพื่อมาดูแลลูกน้อยอยู่มากพอสมควร ใส่ใจขอนำเสนอวิธีการเลือกพี่เลี้ยงเด็กที่จะทำให้คุณพ่อคุณแม่ไว้วางใจให้ดูแลลูกน้อยของคุณได้ ดังนี้

1. ปรึกษาหารือกันระหว่างสมาชิกภายในบ้านก่อน ว่าอยากได้พี่เลี้ยงแบบไหน การเลือกพี่เลี้ยงที่มีวุฒิภาวะทางอารมณ์ที่มั่นคง และมีทักษะในการดูแลเด็กเล็กจะสามารถช่วยให้เด็กได้รับการเลี้ยงดูอย่างถูกวิธี
2. ลองสอบถามจากคนใกล้ชิดว่ารู้จักหรือพอจะแนะนำใครเพื่อมาเป็นพี่เลี้ยงเด็กได้หรือไม่ เพราะการแนะนำโดยคนรู้จักย่อมมีความน่าเชื่อถือมากกว่าประกาศหาในสื่อออนไลน์อยู่แล้ว
3. ตรวจสอบประวัติของพี่เลี้ยงเด็กให้แน่ชัด ไม่ว่าจะเป็นประวัติทางด้านการศึกษา และประวัติการทำงาน ที่สำคัญพ่อแม่ควรตรวจสอบว่าพี่เลี้ยงที่จะจ้างมานั้นไม่ได้เป็นบุคคลที่เข้าข่ายเป็นผู้เคยกระทำความผิดทางกฎหมายใด ๆ มาก่อน เพื่อความปลอดภัยต่อลูกน้อยของคุณ
4. พ่อแม่ควรสัมภาษณ์และลองพูดคุยกับพี่เลี้ยงเด็กก่อนทำการจ้าง เช่น อาจสอบถามถึงประสบการณ์ของพี่เลี้ยงเด็กว่ามีมากน้อยแค่ไหน หรือคุ้นเคยกับการดูแลเด็กในช่วงอายุใดบ้าง เพื่อให้ตรงต่อความต้องการของพ่อแม่มากที่สุด
5. พ่อแม่ควรให้พี่เลี้ยงทดลองงานดูก่อน โดยให้พี่เลี้ยงลองปฏิบัติงานที่บ้าน แล้วดูว่าพี่เลี้ยงสามารถเข้ากับเด็กได้หรือไม่ มีวิธีการดูแลหรือแก้ไขปัญหาต่อสถานการณ์ต่าง ๆ ได้ดีแค่ไหน เพื่อให้มั่นใจว่าพี่เลี้ยงจะสามารถดูแลเด็กได้จริง ๆ

การเลือกพี่เลี้ยงเด็กนับว่าเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างมาก เพราะพี่เลี้ยงเด็กคือบุคคลที่ต้องใช้ชีวิตอยู่กับเด็กตลอดเวลาในยามที่พ่อแม่ไม่อยู่ เพราะฉะนั้น การได้พี่เลี้ยงเด็กที่มีความน่าเชื่อถือจะสามารถช่วยคลายความกังวลให้กับคุณพ่อคุณแม่ได้เยอะเลยทีเดียว
คำถามที่คุณพ่อคุณแม่ควรถามพี่เลี้ยงเด็กและคำตอบแบบใดที่คุณพ่อคุณแม่ต้องการ
การที่พ่อแม่ผู้ปกครองจะเลือกใครสักคนเพื่อมาทำหน้าที่เป็นพี่เลี้ยงเด็กดูแลบุตรหลานของตัวเองนั้น พ่อแม่ผู้ปกครองย่อมต้องการทราบข้อมูลที่สำคัญ ๆ ของพี่เลี้ยงเด็กท่านนั้น การตั้งคำถามเพื่อให้ได้ข้อมูลที่เป็นจริง และเพื่อทำความรู้จักกับพี่เลี้ยงคนดังกล่าวจึงมีความสำคัญเป็นอย่างมาก ในเริ่มแรกพ่อแม่ผู้ปกครองอาจถามเกี่ยวกับประวัติส่วนตัว ประวัติการทำงาน แล้วค่อยถามเกี่ยวกับทัศนคติ ความรู้ ความเข้าใจในการปฏิบัติงาน คำถามที่พ่อแม่ใช้ถามควรเป็นคำถามที่เป็นด้านจิตวิทยาบ้าง ไม่ถามคำถามที่ได้คำตอบแค่ใช่หรือไม่ใช่ คำถามควรเป็นคำถามที่ให้อธิบายประสบการณ์หรืออาจให้ยกตัวอย่างเหตุการณ์เพื่อทดสอบความเข้าใจและความรู้ความสามารถ และนิสัยใจคอของพี่เลี้ยง คำถามและคำตอบอาจเป็นได้ดังตัวอย่างดังต่อไปนี้:

คำถาม ทำไมถึงอยากทำอาชีพพี่เลี้ยงเด็ก?
คำตอบที่คาดหวัง ผู้ที่จะทำอาชีพพี่เลี้ยงเด็กโดยพื้นฐานแล้วจำเป็นจะต้องเป็นผู้ที่มีนิสัย รักการอยู่กับเด็กหรือชอบการเลี้ยงเด็ก

คำถาม เคยมีประสบการณ์มาก่อนหรือไม่ เป็นระยะเวลานานเท่าใด
คำตอบที่คาดหวัง เป็นที่แน่นอนอยู่แล้วว่า พ่อแม่ต้องการผู้ที่มีประสบการณ์การเลี้ยงเด็กมาก่อน ซึ่งอย่างน้อยควรมีประสบการณ์ ในการดูแลหรือเลี้ยงเด็กมาสัก 3-5 ปี หรืออาจเป็นผู้ที่เคยมีบุตรมาก่อน

คำถาม ให้บอกเล่าประสบการณ์ทำงานที่ผ่าน ๆ มาในอาชีพพี่เลี้ยงเด็กที่เคยทำผิดพลาด ว่าเป็นเหตุการณ์ใด เพราะอะไร และแก้ปัญหาดังกล่าวอย่างไร
คำตอบที่คาดหวัง คือความผิดพลาดเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่คนทั่วไปอาจทำได้ ซึ่งขึ้นอยู่กับการพิจารณาของพ่อแม่ผู้ปกครองแต่ละท่าน แต่ถ้าพี่เลี้ยงเด็กท่านนั้นจะบอกว่าไม่มีเลยคงไม่เป็นความจริง หรือหากตอบมาว่าเคยประมาทจนทำให้เด็กได้รับอันตราย พ่อแม่ผู้ปกครองคงจะตัดสินใจได้ทันที อีกอย่างหนึ่งตั้งคำถามในลักษณะนี้ถือเป็นการวัดความจริงใจในการตอบของพี่เลี้ยงได้เช่นกัน
กิจกรรมที่พี่เลี้ยงเด็กดูแลเด็กที่บ้านควรทำเพื่อส่งเสริมพัฒนาการมีอะไรบ้าง
มาตรฐานของพี่เลี้ยงเด็กที่ดูแลลูกของเรามีความสำคัญมาก ๆ ต่อพัฒนาการของลูก ๆ เพื่อเป็นการส่งเสริมพัฒนาการตามวัยอย่างเหมาะสมพี่เลี้ยงเด็กควรทำกิจกรรมใดกับเด็กบ้าง

1. แฝงการเรียนรู้กฎกติกาในกิจกรรม เพื่อให้เด็กเข้าใจหน้าที่ของตัวเอง เช่นเก็บของเล่นเมื่อเล่นเสร็จ หรือไม่เล่นขณะรับประทานอาหาร เพราะการฝึกวินัยผ่านการใช้กติกา จะช่วยให้เด็กสามารถควบคุมตนเอง (Self – Regulation) การควบคุมตนเองเป็นกระบวนการที่สมองของเด็กดำเนินการซึ่งทำให้พวกเขาสามารถควบคุมพฤติกรรมและอารมณ์เพื่อตอบสนองต่อสถานการณ์เฉพาะได้
2. ฝึกร้องเพลง สิ่งที่ได้จากกิจกรรมที่มีความสุขสนุกสนานอย่างการร้อง คือกิจกรรมการพัฒนา (Working memory) หน่วยความจำในการทำงานเป็นระบบความ ความจำในการทำงานมีความสำคัญต่อการใช้เหตุผลและแนวทางในการตัดสินใจและพฤติกรรม
3. กิจกรรมเข้าจังหวะ เต้นตามเพลงช้า เร็ว ตามจังหวะเพลง เมื่อเพลงจบเด็กต้องหยุดรอ ก่อนขึ้นเพลงต่อไป การรอ คือการควบคุมยับยั้งชั่งใจ (Self-Inhibition) ได้เป็นอย่างดี
4. ฝึกขว้างสิ่งของ เด็กเล็ก ๆ มักสนุกกับการขว้างสิ่งของ เปลี่ยนเป็นกิจกรรมรับส่งลูกบอล เช่น ขอให้เด็กส่งบอลสีฟ้ามาให้ หรือใช้ให้เด็กหยิบนิทานมาให้ เป็นการฝึกพัฒนาการประสาทมือประสาทสายตา การเข้าใจความหมายของสิ่งของที่อยู่ใกล้ตัว
5. ฝึกเล่าเรื่อง เริ่มจากพี่เลี้ยงเล่านิทาน ที่เด็ก ๆ สนใจ ซึ่งเป็นกิจกรรมที่แฝงพัฒนาการทางด้านภาษา อาจใช้ตุ๊กตาหรือของเล่นเป็นบทบาทสมมุติ เป็นการฝึกการคิดแก้ปัญหา เช่น ถ้าหนูเดินไปเจอหมาป่าตรงนั้นหนูจะทำอย่างไรคะ เด็กจะฉุกคิด คำตอบอาจเป็นให้วิ่งไปหาคุณพ่อคุณแม่ หรือกลับมาหาพี่เลี้ยง เป็นการฝึกให้คุ้นเคยกับการฉุกคิดแก้ปัญหา

กิจกรรมเหล่านี้เสริมพัฒนาการ ทางด้าน EQ (Emotional Quotient) และ IQ (Intelligence Quotient) ไปในตัว