วิธีการทำงาน
ติดต่อเรา
ติดต่อเราโดยตรงผ่าน LINE OA เพื่อจองบริการที่คุณต้องการ
แจ้งรายละเอียดให้เราทราบ
เลือกบริการ วันที่ เวลา และสถานที่ที่คุณต้องการให้ตรงกับความต้องการของคุณ
ยืนยันการจองของคุณ
เราจะยืนยันการจองของคุณภายใน 24 ชั่วโมงผ่านทาง LINE OA
ข้อมูลสถิติน่าสนใจเกี่ยวกับ
รีวิวล่าสุด
คำถามที่พบบ่อยสำหรับการค้นหา พี่เลี้ยงเด็ก
1. ปรึกษาหารือกันระหว่างสมาชิกภายในบ้านก่อน ว่าอยากได้พี่เลี้ยงแบบไหน การเลือกพี่เลี้ยงที่มีวุฒิภาวะทางอารมณ์ที่มั่นคง และมีทักษะในการดูแลเด็กเล็กจะสามารถช่วยให้เด็กได้รับการเลี้ยงดูอย่างถูกวิธี
2. ลองสอบถามจากคนใกล้ชิดว่ารู้จักหรือพอจะแนะนำใครเพื่อมาเป็นพี่เลี้ยงเด็กได้หรือไม่ เพราะการแนะนำโดยคนรู้จักย่อมมีความน่าเชื่อถือมากกว่าประกาศหาในสื่อออนไลน์อยู่แล้ว
3. ตรวจสอบประวัติของพี่เลี้ยงเด็กให้แน่ชัด ไม่ว่าจะเป็นประวัติทางด้านการศึกษา และประวัติการทำงาน ที่สำคัญพ่อแม่ควรตรวจสอบว่าพี่เลี้ยงที่จะจ้างมานั้นไม่ได้เป็นบุคคลที่เข้าข่ายเป็นผู้เคยกระทำความผิดทางกฎหมายใด ๆ มาก่อน เพื่อความปลอดภัยต่อลูกน้อยของคุณ
4. พ่อแม่ควรสัมภาษณ์และลองพูดคุยกับพี่เลี้ยงเด็กก่อนทำการจ้าง เช่น อาจสอบถามถึงประสบการณ์ของพี่เลี้ยงเด็กว่ามีมากน้อยแค่ไหน หรือคุ้นเคยกับการดูแลเด็กในช่วงอายุใดบ้าง เพื่อให้ตรงต่อความต้องการของพ่อแม่มากที่สุด
5. พ่อแม่ควรให้พี่เลี้ยงทดลองงานดูก่อน โดยให้พี่เลี้ยงลองปฏิบัติงานที่บ้าน แล้วดูว่าพี่เลี้ยงสามารถเข้ากับเด็กได้หรือไม่ มีวิธีการดูแลหรือแก้ไขปัญหาต่อสถานการณ์ต่าง ๆ ได้ดีแค่ไหน เพื่อให้มั่นใจว่าพี่เลี้ยงจะสามารถดูแลเด็กได้จริง ๆ
การเลือกพี่เลี้ยงเด็กนับว่าเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างมาก เพราะพี่เลี้ยงเด็กคือบุคคลที่ต้องใช้ชีวิตอยู่กับเด็กตลอดเวลาในยามที่พ่อแม่ไม่อยู่ เพราะฉะนั้น การได้พี่เลี้ยงเด็กที่มีความน่าเชื่อถือจะสามารถช่วยคลายความกังวลให้กับคุณพ่อคุณแม่ได้เยอะเลยทีเดียว
1. พ่อแม่ควรถามเกี่ยวกับข้อมูลส่วนตัวของพี่เลี้ยง เช่น ชื่อ อายุ ที่อยู่ งานอดิเรก ไปจนถึงความสามารถในการดูแลกิจวัตรประจำวันต่าง ๆ ให้เด็ก เช่น การทำอาหาร การอาบน้ำให้เด็ก การพาเด็กเข้านอน เป็นต้น
2. ถามเกี่ยวกับประสบการณ์ในอดีต พ่อแม่อาจถามพี่เลี้ยงเด็กว่าเคยเป็นพี่เลี้ยงเด็กมานานกี่ปี เคยรับดูแลเด็กมาแล้วกี่ครอบครัว ในขณะเดียวกันพ่อแม่อาจขอให้พี่เลี้ยงเล่าถึงประสบการณ์ที่เลวร้ายที่สุดที่เคยพบเจอมากับการเป็นพี่เลี้ยงเด็ก และถามว่าผ่านเหตุการณ์เหล่านั้นมาได้อย่างไร
3. คำถามเกี่ยวกับการรับมือต่อสถานการณ์ฉุกเฉินของพี่เลี้ยงเด็ก เช่น ถามว่าพี่เลี้ยงเด็กเคยมีประสบการณ์ในการรับมือกับภาวะฉุกเฉินบ้างหรือไม่ เมื่อเกิดปัญหา หรือมีเหตุด่วนเหตุร้ายเกิดขึ้น พี่เลี้ยงจะสามารถติดต่อใครเพื่อขอความช่วยเหลือได้บ้าง เป็นต้น
4. ถามเกี่ยวกับกิจกรรมต่าง ๆ ที่พี่เลี้ยงเด็กสามารถทำร่วมกันกับเด็ก ได้ในยามว่าง พ่อแม่อาจลองยกตัวอย่างสถานการณ์มา เช่น หากอยากให้เด็กหลีกเลี่ยงการจับโทรศัพท์มือถือ หรือแท็บเล็ต พี่เลี้ยงจะชวนเด็กทำกิจกรรมใดแทน เป็นต้น ทั้งหมดนี้คือแนวคำถามที่คุณพ่อคุณแม่สามารถนำไปถามพี่เลี้ยงเด็กขณะทำการสัมภาษณ์ได้ โดยระหว่างการสัมภาษณ์นั้นควรทำให้บรรยากาศเป็นไปอย่างเรียบง่ายและไม่กดดันเกิดไป เพื่อให้พี่เลี้ยงเด็กรู้สึกผ่อนคลายและสามารถบอกเล่าเรื่องราวต่าง ๆ ได้อย่างเป็นตัวเองมากขึ้น ซึ่งโอกาสที่พ่อแม่จะเข้าถึงตัวตนของพี่เลี้ยงก็มีมากขึ้นเช่นเดียวกัน
พี่เลี้ยงเด็กจำเป็นต้องมีแนวทางในการส่งเสริมพัฒนาการของเด็ก โดยการทำกิจกรรมต่าง ๆ ร่วมกับเด็กด้วย การเต้นออกกำลังกายง่าย ๆ เรียกได้ว่าเป็นกิจกรรมที่พี่เลี้ยงและเด็กสามารถทำร่วมกันได้ เพราะการขยับส่วนต่าง ๆ ในร่างกายช่วยให้เด็กได้ฝึกควบคุมการเคลื่อนไหวของร่างกายตัวเองได้ดียิ่งขึ้น ส่วนกิจกรรมงานศิลปะจากงานกระดาษ เช่น การพับ ตัด แปะ และวาดรูปช่วยให้การทำงานของกล้ามเนื้อมือและสายตาสัมพันธ์กัน ทำให้เด็กมีสมาธิและจดจ่ออยู่กับสิ่งตรงหน้ามากขึ้น อีกทั้งยังส่งเสริมให้เด็กมีความคิด จินตนาการ และสามารถทำให้เด็กถ่ายทอดออกมาเป็นผลงานที่สร้างสรรค์ได้ เด็กที่เรียนรู้ผ่านการปฏิบัติบ่อย ๆ จะส่งผลต่อพัฒนาการรอบด้านของตัวเองได้เป็นอย่างดี การเล่านิทานให้เด็กฟังเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่นอกจากจะช่วยส่งเสริมทักษะการฟังแล้ว ยังช่วยส่งเสริมทักษะด้านภาษาและสติปัญญาของเด็กอีกด้วย บางครั้งพี่เลี้ยงอาจให้เด็ก ๆ ลองแสดงบทบาทตามเรื่องราวเพื่อส่งเสริมให้เด็กมีความกล้าแสดงออก และสามารถปรับตัวอยู่ร่วมกับผู้อื่นในสังคมได้
การดูแลเอาใจใส่เด็กอย่างใกล้ชิด รับฟังและพูดคุยตอบโต้กับเด็ก และให้โอกาสเด็กได้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ก็ถือเป็นอีกหนึ่งวิธีที่จะช่วยส่งเสริมพัฒนาการด้านอารมณ์และจิตใจของเด็กได้ พี่เลี้ยงควรฝึกให้เด็กได้ทำกิจกรรมต่าง ๆ ในสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยและเป็นมิตร สอนให้เด็กเป็นคนมีน้ำใจต่อผู้อื่น ทั้งหมดนี้จะส่งผลให้เด็กมีจิตใจที่ดีและมั่นคง มีความภาคภูมิใจในตนเอง และพร้อมที่จะเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพในอนาคต
SAIJAI "ใส่ใจ" เป็นเพียงแพลตฟอร์มที่ใช้สำหรับติดต่อสื่อสารระหว่างผู้ใช้บริการกับผู้ให้บริการดูแลเด็ก ดูแลผู้สูงอายุ ครูสอนพิเศษ/ติวเตอร์ แม่บ้าน/ทำความสะอาด คนขับรถ ดูแลสัตว์เลี้ยง เสริมสวย และช่างซ่อมบำรุงเท่านั้น "SAIJAI" ไม่ได้เป็นผู้ให้บริการหรือจ้างบุคคลใดให้บริการ ไม่มีสถานะเป็นนายจ้าง ผู้ว่าจ้าง ตัวแทน ผู้ร่วมทุน อย่างหนึ่งอย่างใดทั้งสิ้นของผู้ให้บริการ ผู้ให้บริการเป็นผู้รับจ้างอิสระ ซึ่งผู้รับบริการเป็นผู้ว่าจ้าง คุณภาพการให้บริการเป็นความรับผิดชอบทั้งสิ้นของผู้ให้บริการเอง การเรียกใช้บริการจากผู้ให้บริการ อาจมีความเสี่ยง ซึ่งผู้รับบริการรับทราบและยินดีใช้บริการ บนความเสี่ยงใด ๆ ในความรับผิดชอบของตัวท่านเอง