รับเลี้ยงเด็กที่บ้านตัวเอง ใน พุทธมณฑล, นครปฐม

รับเลี้ยงเด็กที่บ้านตัวเอง ใน พุทธมณฑล, นครปฐม

คุณต้องการใช้บริการนี้เมื่อไหร่?
ระบุวันที่
ผู้ให้บริการรับเลี้ยงเด็กที่บ้านตัวเอง ใน พุทธมณฑล, นครปฐม:

วิธีการทำงาน

Saijai

ติดต่อเรา

ติดต่อเราโดยตรงผ่าน LINE OA เพื่อจองบริการที่คุณต้องการ

Saijai

แจ้งรายละเอียดให้เราทราบ

เลือกบริการ วันที่ เวลา และสถานที่ที่คุณต้องการให้ตรงกับความต้องการของคุณ

Saijai

ยืนยันการจองของคุณ

เราจะยืนยันการจองของคุณภายใน 24 ชั่วโมงผ่านทาง LINE OA

วิไล นันต๊ะภาพ
วิไล นันต๊ะภาพ
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี
Saijai อายุ 47 ปี

ข้อมูลสถิติน่าสนใจเกี่ยวกับ

Saijai จำนวนประชากร
Saijai จำนวนประชากรเด็ก (แรกเกิด-14 ปี)
Saijai จำนวนประชากรสูงอายุ (60 ปี ขึ้นไป)
Saijai จำนวนสัตว์เลี้ยง สุนัข

รีวิวล่าสุด

ผมช่วยแฟนหาที่ฝากเลี้ยงลูก เพราะบางวันเราทั้งสองคนไม่ว่างจริง ๆ เพราะติดงานทั้งคุ่ บ้านผมอยู่แถวฝั่งธน เจอที่รับฝากเลี้ยงเด็กผ่านเว็บของใส่ใจ สะดวกสบายไม่ไกลจากบ้านมาก แวะส่งลูกไว้กับพี่เลี้ยงตอนเช้า เลิกงานก็รับกลับได้เลยเพราะเป็นทางผ่าน พี่เลี้ยงดูแลดีมาก ผมกับภรรยาเข้าไปดูสถานที่ก่อนนำลูกไปฝาก ประทับใจเรื่องความสะอาด ไม่ผิดหวังจริงๆ ครับ
Saijai
พงษ์พันธ์ จันทร์ดี
4 ปีที่แล้ว
เจอคนรับดูแลเด็กจากเว็บใส่ใจ ทั้งสถานที่ สภาพแวดล้อม และทุกอย่างโดยรวมภรรยาผมชอบมากครับ
Saijai
มาโนช แก้วบงกช
4 ปีที่แล้ว
เราไปส่งลูกเช้า เย็นรับกลับ พี่เลี้ยงดูแลดีมาก ๆ ค่ะ ทั้งเรื่องสอนนั้นนี่ให้น้อง อาหารการกิน ลูกมาชมให้ฟังทุกวันว่ากับข้าวอร่อยมาก พี่เลี้ยงก็ไม่ดุ คุ้มค่ากับราคาที่จ่ายไปจริงๆค่ะ
Saijai
มารีน่า บุญนำ
4 ปีที่แล้ว
จองพี่เลี้ยงจากเว็บใส่ใจ เป็นมากกว่าพี่เลี้ยงเด็กอีกค่ะ นอกจากช่วยดูแลเรื่องทั่ว ๆ ไปของเด็กแล้ว ยังใส่ใจรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ เกี่ยวกับลูกของเราอยู่ตลอด เป็นทั้งพี่และเพื่อนให้ลูกสาวไปเลยค่ะ น้องมีความสุขที่ได้อยู่กับพี่เลี้ยง ผู้ปกครองอย่างเราก็สบายใจหายห่วงไปด้วยค่ะ
Saijai
อนุรักษ์ ทิศาวลัย
4 ปีที่แล้ว
ใช้บริการฝากลูกไว้ที่บ้านพี่เลี้ยง เพราะเราไม่สะดวกที่จะจ้างพี่เลี้ยงมาเลี้ยงลูกเราที่บ้าน แต่ก่อนพาไปฝาก เราเช็คประวัติพี่เลี้ยง ไปดูสถานที่จริงเองด้วย เพื่อความสบายใจ บ้านพี่เลี้ยงมีเด็กสามสี่คน หลังจากฝากเลี้ยงลูกกับพี่เลี้ยง เราถามลูกตลอดว่าเป็นไงบ้าง ลูกบอกสนุกค่ะ มีเพื่อนเยอะเลย
Saijai
แพรวนภา กาญจนวานิจย์
4 ปีที่แล้ว

คำถามที่พบบ่อยสำหรับการค้นหา รับเลี้ยงเด็กที่บ้านตัวเอง

ฝากเลี้ยงเด็กที่บ้านพี่เลี้ยงต่างจากการฝากเลี้ยงที่ศูนย์เลี้ยงเด็กอย่างไร
สมัยนี้พ่อแม่ไม่มีเวลาเลี้ยงดูลูกด้วยตัวเอง ทำให้ต้องมองหาตัวช่วยเช่นพี่เลี้ยงที่รับดูแลเด็กที่บ้านหรือสถานรับเลี้ยงเด็ก แต่เราคิดหรือไม่ว่าบ้านเลี้ยงเด็กกับสถานที่รับเลี้ยงเด็กต่างกันอย่างไร

เมื่อให้ลูกไปอยู่ที่บ้านรับเลี้ยงเด็กที่ค่าใช้จ่ายไม่สูงมากนัก การเดินทางไม่ไกล เพราะพ่อแม่ต้องคุ้นเคยอยู่บ้างและสะดวกในการรับส่ง ในบ้านนั้นเด็กๆได้เรียนรู้การเข้าสังคม เพราะต้องอยู่กับเพื่อนๆหลายวัยที่ใกล้เคียงกัน ต้องมีการปรับตัวในการเข้าสังคม เป็นการฝึกพัฒนาการด้าน EQ ไปในตัว การรู้จักการรอคอยเมื่อต้องทำกิจกรรมต่างๆร่วมกับเพื่อน สิ่งดึงดูดความสนใจ นิทาน เกมส์ หรือดนตรี ร้องเพลง ในบ้านที่มีลักษณะคล้ายๆบ้านที่เด็กเคยอยู่ ทำให้ปรับตัวได้ไม่ยาก นม ขนมหรืออาหาร พ่อแม่อาจเตรียมมาให้ เพราะได้จะได้คุยเคยกับสิ่งที่เคยทานมาก่อน ปัญหาที่จะเจอก็อาจเป็นแค่การปรับตัว ให้เข้ากับสังคมใหม่ๆ เด็กอาจทานได้น้อยลงเพราะแปลกสถานที่ แปลกคนป้อน แต่เป็นธรรมดาของมนุษย์ ที่เรียนรู้และปรับตัวได้เสมอ

สถานที่รับเลี้ยงเด็ก อย่างแรกที่แตกต่างคือการจัดการ พ่อแม่มีโอกาสได้พูดคุย ถึงวิธีการ แผนการดูแล ซึ่งมีการโฆษณาดึงดูดความสนใจ ปริมาณเด็กอาจมีถึง 25-30 คนต่อหนึ่งห้อง (จุดคุ้มทุนในการลงทุน) โดยมีพี่เลี้ยงเด็ก 1-2 คน พ่อและแม่อาจรู้พัฒนาการของลูกๆผ่าน สมุดบันทึกกิจกรรมให้พ่อแม่ดู ว่าในแต่ละวันได้ทำอะไรไปบ้าง เช่นน้องสนใจร้องเพลงดี แต่ทานข้าวได้น้อย น้องยังปรับตัวเข้ากับเพื่อนไม่ได้ ยังไม่แบ่งของเล่น ฯลฯ และเมื่อเด็กเล็กๆต้องอยู่รวมกันในสถานที่ใดที่หนึ่งปัญหาที่ตามมา ที่ยังแก้ได้ยาก คือการติดเชื้อโรคต่างๆ โดยเฉพาะการติดเชื้อระบบทางเดินหายใจ และระบบทางเดินอาหาร เช่นโรค ไข้หวัดและท้องร่วง หรือแม้แต่อาจเกิดการบาดเจ็บเล็กๆ น้อยๆ จากการเล่นกับเพื่อน เรื่องการกินอาหาร เด็กๆจำนวนมากในสถานที่รับเลี้ยงเด็กมักรับประทานอาหารได้น้อย เพราะพี่เลี้ยงไม่สามารถดูแลได้ทั่วถึงข้อมูลนี้เป็นการสื่อสารสองด้านที่ผู้ปกครองรับรู้ และแน่นอนที่สุดค่าใช้จ่ายย่อมสูงกว่าการที่ให้ลูกไปบ้านเลี้ยงเด็ก เมื่อจ่ายมากกว่าบางครั้งความคาดหวังก็มากกว่าและสถานที่รับเลี้ยงก็มีความแตกต่างกันไป ผู้ปกครองควร ศึกษาข้อมูลและวางแผนก่อนตัดสินใจ

การปรับตัวและมีพัฒนาการตามแผนอายุของลูกๆ การส่งลูกไปบ้านรับเลี้ยงเด็กหรือสถานรับเลี้ยงเด็ก อย่างน้อย 8 ชั่วโมงนั้น ลูกที่ห่างจากพ่อแม่ จะต้องได้รับการดูแลที่ดีดั่งพ่อแม่ตั้งใจไว้
เมื่อต้องฝากเลี้ยงลูก ๆ ที่บ้านพี่เลี้ยง คุณพ่อคุณแม่จะมีวิธีการอย่างไรให้คลายกังวล
เมื่อคุณพ่อคุณแม่จำเป็นต้องฝากลูกให้พี่เลี้ยงดูแลที่บ้านพี่เลี้ยง คุณพ่อคุณแม่อาจเกิดความกังวลในหลาย ๆ เรื่อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความสะอาด ความปลอดภัยของสภาพแวดล้อม อาหารที่ลูก ๆ รับประทานจะถูกปากหรือไม่ ฯลฯ มีวิธีการใดบ้างที่จะช่วยให้คุณพ่อคุณแม่มีวิธีคลายกังวลลงได้

อย่างแรกเลยคุณพ่อคุณแม่ต้องมีการสื่อสารพูดคุยอย่างจริงจังกับพี่เลี้ยงเด็กเพื่อส่งต่อและรับข้อมูลเกี่ยวกับเด็กและวิธีการดูแล หากคุณพ่อคุณแม่มีคำถามหรือข้อสงสัย ควรพูดคุยและทำความเข้าใจให้ตรงกัน การเก็บความสงสัยไว้คนเดียวโดยไม่ได้พูดคุยกับพี่เลี้ยงเด็ก ไม่ใช่วิธีแก้ปัญหาและไม่ได้ช่วยคลายกังวลของคุณพ่อคุณแม่ลงเลย

นอกจากการเลือกพี่เลี้ยงเด็กและบ้านเลี้ยงเด็กแล้ว การสอบถามลูกว่าได้ทำกิจกรรมอะไรบ้างตอนอยู่บ้านพี่เลี้ยง เป็นความใส่ใจและได้สังเกตพัฒนาการของลูก หากลูกยังเป็นเด็กเล็ก ให้คุณพ่อคุณแม่ลองทำกิจกรรมเล่นกับลูกและใช้คำสั่งง่าย ๆ เพื่อดูการโต้ตอบ จะช่วยให้สามารถเรียนรู้ถึงพัฒนาการได้ เช่น คุณพ่อคุณแม่ลองขอบอล ขอหนังสือจากลูก ๆ แล้วดูว่าลูกมีปฏิกิริยาอย่างไร
คุณพ่อคุณแม่ควรไปรับส่งลูกที่บ้านพี่เลี้ยงด้วยตัวเองทุกครั้ง เพราะสามารถสังเกตสภาพแวดล้อมภายในบ้านว่าสะอาดเรียบร้อยดีหรือไม่ อาจเสนอแนะให้พี่เลี้ยงเด็กระวังเป็นพิเศษในจุดที่เป็นอันตรายและทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ เช่น เหลี่ยมเสา มุมโต๊ะ บริเวณพื้นต่างระดับ ชั้นว่างของ หรือขั้นบันไดที่เด็กจะปีนป่ายได้

ด้วยเทคโนโลยีสื่อสารในปัจจุบัน คุณพ่อคุณแม่สามารถตั้งไลน์กลุ่ม (LINE Group) หรือช่องทางแชทอื่น ๆ ที่คุณพ่อคุณแม่สามารถ วิดีโอคอลหา (Video Call) พี่เลี้ยงเด็กในระหว่างวัน หรือสื่อสารกับคุณพ่อคุณแม่ของเด็กคนอื่น ๆ ที่อยู่ภายใต้การดูแลของพี่เลี้ยงเด็กคนเดียวกัน เป็นอีกวิธีที่คุณพ่อคุณแม่จะช่วยกันเป็นหูเป็นการให้แน่ใจว่าเด็กได้รับการดูแลที่ดีและปลอดภัย
สิ่งที่คุณพ่อคุณแม่ควรตรวจสอบก่อนใช้บริการฝากเลี้ยงเด็กที่บ้านพี่เลี้ยง
สิ่งที่คุณพ่อคุณแม่ควรตรวจสอบก่อนใช้บริการฝากเลี้ยงเด็กที่บ้านพี่เลี้ยง

1. สถานที่ตั้งและสภาพแวดล้อม ไม่ควรอยู่ไกลจากบ้านเพราะความสะดวกในการรับส่งลูกไปฝากเลี้ยงที่บ้านพี่เลี้ยง หากลูกต้องตื่นเช้ามากในทุก ๆวัน อาจทำให้เบื่อไม่อยากไปบ้านพี่เลี้ยง สภาพแวดล้อมใกล้บ้าน ไม่ควรอยู่ใกล้สถานที่ ที่สร้างเสียง กลิ่นและควัน เช่น อู่ซ่อมรถ โรงงานไม้ โรงงานเหล็ก หรือพ่นสี นอกจากนั้นความเป็นระเบียบภายนอกอาคารปลอดภัย การจัดเก็บขยะ หรือท่อระบายน้ำปิดมิดชิด ภายในห้องตู้ชั้นวางของวางเป็นระเบียบไม่เสี่ยงต่อการตกหล่น
2. การจัดการอาหารการกิน เพราะอย่างน้อยหนึ่งถึง 2 มื้อที่ลูกต้องทานอาหารที่บ้านพี่เลี้ยง การเตรียมอาหารที่เหมาะสมกับวัยและเพียงพอ การใส่ใจที่พี่เลี้ยงเด็กดูแลการรับประทานอาหารของลูก เพราะบ่อยครั้งที่เด็กจะถูกเบี่ยงเบนความสนใจโดยเพื่อน ๆ จนไม่สนใจอาหาร ความสะอาด รสชาติ วิธีการดึงดูดความสนใจ สำคัญที่สุด
3. ความปลอดภัยและสุขอนามัย การป้องกันลูกปีนขึ้น ลงจากที่สูงเช่นเก้าอี้ โต๊ะ บันได ควรมีการจัดวางป้องกันอย่างดี รวมถึงการทำความสะอาดอย่างถูกสุขอนามัย เพราะเด็กอาจนั่งเล่น นอนเล่นบนพื้นในบ้านของพี่เลี้ยงเด็ก
4. กิจกรรมส่งเสริมพัฒนาการของเด็ก ๆ ส่งเสริมเชาวน์ปัญญา เพราะกว่า 8 ชั่วโมงที่ลูกใช้เวลากับพี่เลี้ยงกิจกรรมต่าง ๆ ที่จัดต้องเหมาะสมกับวัย เพื่อพัฒนาการและดึงความสนใจให้ลูก ๆ สนุกสนาน เพลิดเพลิน จนกว่าจะถึงเวลาที่พ่อแม่มารับกลับบ้าน
5. ประวัติและประสบการณ์ของพี่เลี้ยงเด็ก เพราะความแตกต่างระหว่างเด็กผู้หญิงและเด็กผู้ชาย ช่วงอายุ และความแตกต่างของหลายครอบครัว การที่คุณพ่อคุณแม่เตรียมคำถามก่อนเข้าไปพูดคุย เพื่อพิจารณาคำตอบให้ได้ถูกต้องตามความต้องการของคุณพ่อคุณแม่ เพราะหลังจากการตัดสินใจแล้ว นั่นคือการฝากแก้วตาดวงใจให้พี่เลี้ยงดูแล
ความเปลี่ยนแปลงที่อาจชี้ว่ามีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้นกับลูก ๆ ของคุณ จากการฝากเลี้ยงที่บ้านพี่เลี้ยง
ในปัจจุบันเราได้รับรู้ข่าวสารที่ไม่ดีเกี่ยวกับพี่เลี้ยงเด็กจากหลาย ๆ สื่อ ทำให้พ่อแม่ผู้ปกครองกังวลว่าควรให้เด็กอยู่กับพี่เลี้ยงตามลำพังหรือไม่ ใส่ใจมีวิธีที่จะช่วยให้คุณพ่อคุณแม่สังเกตการณ์ถึงความเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ ของเด็กที่บ่งชี้ได้ว่ามีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้นในขณะที่อยู่ที่บ้านพี่เลี้ยง และสามารถช่วยให้แก้ปัญหาได้ทันท่วงทีก่อนที่จะสายเกินไป
หลังจากรับเด็กจากบ้านพี่เลี้ยง ให้สังเกตดูว่าเด็กมีพฤติกรรมที่แตกต่างไปจากตอนที่อยู่กับพ่อแม่หรือไม่ เด็กร่าเริงเป็นปกติหรือมีท่าทางที่หวาดระแวง บางครั้งคุณพ่อคุณแม่อาจสอบถามจากตัวเด็กเองว่าตลอดวันที่อยู่กับพี่เลี้ยงได้ทำอะไรบ้างและสนุกหรือไม่ มีสิ่งใดบ้างที่เด็กชอบและมีสิ่งใดบ้างที่เด็กไม่ชอบ เพราะโดยธรรมชาติเด็กจะพูดทุกสิ่งไปตามที่รู้สึกนึกคิด หากเด็กมีท่าทีแสดงถึงอาการหวาดกลัว หรือไม่อยากไปอยู่ที่บ้านพี่เลี้ยงในวันต่อไป นั่นอาจเป็นสัญญาณที่บ่งบอกว่าเด็กไม่สบายใจที่ต้องอยู่กับพี่เลี้ยงตามลำพัง เพราะพี่เลี้ยงอาจจะดุหรือตำหนิเด็กก็เป็นได้

กิจวัตรประจำวันและการเป็นอยู่ของเด็กขณะที่อยู่บ้านพี่เลี้ยงนั้นเหมือนกับตอนอยู่ที่บ้านกับพ่อแม่หรือไม่ หากเด็กมีอาการหิวหรือเหนื่อยล้าหลังกลับมาจากบ้านพี่เลี้ยงนั้นอาจเป็นไปได้ว่าเด็กไม่ได้รับการดูแลที่เหมาะสมจากพี่เลี้ยง เช่น เด็กอาจไม่ได้ทานอาหารที่ตรงเวลา หรืออาจไม่ได้รับการพักผ่อนที่เพียงพอ เป็นต้น ทั้งหมดนี้บ่งบอกได้ว่าพี่เลี้ยงได้ปล่อยปละละเลยในการเลี้ยงดูเด็กขณะอยู่บ้านนั่นเอง

อีกหนึ่งวิธีที่คุณพ่อคุณแม่ควรทำคือ ให้ลองสังเกตดูว่าตามร่างกายของเด็กนั้นมีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้นหรือไม่ หากมีบาดแผลฟกช้ำตามร่างกายนั้นหมายความว่าเด็กอาจโดนพี่เลี้ยงทำร้ายหรือตบตี หากพบเจอสิ่งผิดปกติเหล่านี้ให้คุณพ่อคุณแม่รีบแจ้งความเพื่อดำเนินคดีโดยด่วน

ทั้งหมดนี้คือความเปลี่ยนแปลงที่อาจชี้ได้ว่ามีสิ่งผิดปกติต่าง ๆ เกิดขึ้นกับลูกของคุณจากการฝากไว้ที่บ้านพี่เลี้ยง ดังนั้น คุณพ่อคุณแม่ควรรีบหาทางแก้ไขปัญหาโดยเร็วที่สุด เพื่อไม่ให้เกิดอันตรายต่าง ๆ ที่เคยมีในข่าวตามมาภายหลัง