ดูแลผู้สูงอายุ ใน ปทุมธานี

ดูแลผู้สูงอายุ ใน ปทุมธานี

คุณต้องการใช้บริการนี้เมื่อไหร่?
ตอนนี้
ระบุวันที่

วิธีการทำงาน

Saijai

ติดต่อเรา

ติดต่อเราโดยตรงผ่าน LINE OA เพื่อจองบริการที่คุณต้องการ

Saijai

แจ้งรายละเอียดให้เราทราบ

เลือกบริการ วันที่ เวลา และสถานที่ที่คุณต้องการให้ตรงกับความต้องการของคุณ

Saijai

ยืนยันการจองของคุณ

เราจะยืนยันการจองของคุณภายใน 24 ชั่วโมงผ่านทาง LINE OA

วลัยพร ภู่รัตนกุล
วลัยพร ภู่รัตนกุล
Saijai ประสบการณ์ 3-4 ปี
ผ่านการตรวจสอบประวัติบุคคล

มีความอดทนสูง ตรงต่อเวลา ทำหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายได้ดี

แสดงเพิ่มเติม
อัญชัญสินี เมฆสวัสดิ์
อัญชัญสินี เมฆสวัสดิ์
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี

อายุ 50 ปี หนัก 78 kg สูง 153 cm มีประสบการณ์ทำงานเฝ้าไข้ดูแลผู้ป่วย 18 ปี สามารถดูแลคนไข้ได้ทุกประเภททั้งเคสธรรมดาและเคสติดเตียง(ทำได้ด้วยประสบการณ์ที่ทำงานด้านนี้มานาน ชอบงานเคส Feed/Suction เป็นพิเศษ) ดูแลผู้ป่วยได้ทุกขั้นตอนทำอาหารเหลวทางสายยางปั่น Feed อาหารทางจมูก และ หน้าท้อง Suction ทำแผลทำกายภาพล้วงสวนอุจจาระสวนปัสสาวะชายใส่สาย NG สำหรับฟีดอาหารครามสามรถทำชักชั่นปากคอจมุกคอได้ค่ะ

แสดงเพิ่มเติม
ปภาวี พรมเอี้ยง
ปภาวี พรมเอี้ยง
Saijai ประสบการณ์ 0-1 ปี
Saijai อายุ 49 ปี

ใจเย็นคุยง่ายรักครอบครัว

แสดงเพิ่มเติม
อานนท์ ใจหวัง
อานนท์ ใจหวัง
Saijai ประสบการณ์ 1-2 ปี
Saijai อายุ 30 ปี

เคยทำงานด้านบริการมาหลายอย่าง เป็นคนใจเย็น เป็นมิตรง่าย ยิ้มง่าย อารมณ์ดี แต่ไม่ค่อยชอบความจุกจิก บอกซ้ำๆ บอกแค่ครั้งเดียวรู้เรื่อง

แสดงเพิ่มเติม
ธมลวรรณ สังข์แก้ว
ธมลวรรณ สังข์แก้ว
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี
Saijai อายุ 38 ปี

ใส่ใจ เข้าใจ สะอาด ดูแลเปรียญเสมือนญาติ

แสดงเพิ่มเติม
Phawarin Kanya
Phawarin Kanya
Saijai ประสบการณ์ 0-1 ปี
ผ่านการตรวจสอบประวัติบุคคล

ตอนนี้กำลังศึกษาอยู่ปีที่4ค่ะ เป็นคนคุยเก่งเข้ากับคนอื่นได้ง่าย ไม่เรื่องมากปรับตัวได้ทุกสถานการณ์ อารมณ์ดี เคยดูแลผู้สูงอายุในครอบครัวค่ะ เรามีความสุขที่เห็นผู้สูงอายุมีความสุข เราจึงอยากดูแลอยากอยู่เป็นเพื่อนค่ะ

แสดงเพิ่มเติม
อธิวุฒิ สมัครการ
อธิวุฒิ สมัครการ
Saijai ประสบการณ์ 0-1 ปี
Saijai อายุ 35 ปี

เป็นคนใจเย็น รักการช่วยเหลือผู้สูงวัยที่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ หากมีที่พักให้เช่าใกล้สถานที่ทำงานจะดีมาก หรือจะให้อยู่บ้านเฝ้า 24 ชั่วโมงเลยก็ได้ครับ

แสดงเพิ่มเติม
กัณฐิตา สิงห์สูง
กัณฐิตา สิงห์สูง
Saijai ประสบการณ์ 3-4 ปี

Night Care Assistant, Frith House, Somerset Care Ltd. UK | 2003 - 2005

Dressing or assisting with any physical activity whereby the clients needs support.

Domestic duties: Cleaning, emptying bins, washing where requested.

Record keeping: MAR chart (for medication), log book (recording each visit to communicate to the next carer), care plan updates.

แสดงเพิ่มเติม
สุวณิช  พงษ์ศิริเจริญ
สุวณิช พงษ์ศิริเจริญ
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี

พยาบาลวิชาชีพ ICU และพยาบาลควบคุมโรคติดเชื้อ นิสัยร่าเริง สวดมนต์ไหว้พระ นั่งสมาธิ เข้าใจชีวิต เชี่ยวชาญการดูแลผู้ป่วยที่มีปัญหาสุขภาพระบบสมอง หลอดเลือด หัวใจ ทางเดินอาหาร ผู้ป่วยที่ได้รับการผ่าตัดระบบต่างๆ ผู้ป่วยที่มีแผลกดทับ ผู้ป่วยมะเร็งระยะสุดท้าย ผู้ป่วยใส่เครื่องช่วยหายใจที่บ้าน ผู้ป่วยที่ต้องได้รับการดูแลพิเศษที่บ้าน ผู้ป่วยสูงอายุที่ต้องการเพื่อน

แสดงเพิ่มเติม
อคัมย์สิริ ศศิชลพินทุ์
อคัมย์สิริ ศศิชลพินทุ์
Saijai ประสบการณ์ 0-1 ปี
Saijai อายุ 41 ปี

ใจเย็น รักในการดูเอาใจใส่

แสดงเพิ่มเติม

ข้อมูลสถิติน่าสนใจเกี่ยวกับ

Saijai จำนวนประชากร
Saijai จำนวนประชากรเด็ก (แรกเกิด-14 ปี)
Saijai จำนวนประชากรสูงอายุ (60 ปี ขึ้นไป)
Saijai จำนวนสัตว์เลี้ยง สุนัข

รีวิวล่าสุด

ราคาไม่สูงเหมือนจ้างพยาบาลตามโรงพยาบาล และผู้ดูแลยังมีประสบการณ์ มั่นใจ หายห่วงเลยค่ะ
Saijai
ศรีรัตน์ สุขสวัสดิ์
3 ปีที่แล้ว
พ่อเกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์เมื่อสามเดือนก่อน ผมเลยหาคนดูแลจากเว็บไซต์ของใส่ใจ ขั้นตอนต่าง ๆ ง่ายมากครับ และทางผู้ดูแลที่ทางใส่ใจส่งมา บริการได้น่าประทับใจมากครับ นอกจากจะใส่ใจคอยดูแลคุณพ่อผมแล้วยังคอยพูดคุยรับฟังเรื่องต่าง ๆ อีกด้วย ตอนนี้ผมจ้างพี่เค้าดูแลตลอดจนกว่าพ่อจะหายเลยครับ
Saijai
อนันต์ บุญเกิด
3 ปีที่แล้ว
มีคนแนะนำเวปใส่ใจสำหรับหาคนดูแลผู้สูงอายุ ประทับใจมาก ๆ เลยค่ะ พี่ที่ดูแลเขาอยู่เป็นเพื่อนแถมคุณยายอยากไปไหนเขาพาไปตลอดเลยค่ะ ตอนอยู่บ้านก็คอยจัดเตรียมอาหาร เตรียมยาให้ด้วย ต้องขอบคุณใส่ใจมาก ๆ เลยค่ะ เรากับพี่สาวรู้สึกวางใจไปได้เยอะเลย
Saijai
ปิยธิดา อรุณไชย
4 ปีที่แล้ว
มีคนแนะนำเว็บไซต์ใส่ใจมาให้ เลยลองเข้าไปดู จ้างน้องมาดูแลแม่ น้องเขาทั้งสุภาพ เรียบร้อย ทำอาหารอร่อย แถมยังเคยฝึกอบรมการปฐมบาลเบื้องต้นมาด้วย คุณแม่ก็ดูจะชื่นชอบน้องเขามาก ๆ ค่ะ เราเลยรู้สึกสบายใจไปด้วย โดยรวมแล้วถือว่าน่าพอใจมากค่ะ
Saijai
อภิสรา ประภาสกุล
4 ปีที่แล้ว
เราจ้างคนดูแลผู้สูงอายุมาดูแลคุณยายที่บ้าน พี่เขาทำงานดีมาก ๆ ที่สำคัญเลยคือพี่เขามีประสบการณ์ในการดูแลคนชรา เคยผ่านการอบรมมาแล้ว เลยทำให้เรามั่นใจ และ หายห่วงมาก ๆ
Saijai
นารีรัตน์ ภัทรบัณฑิต
4 ปีที่แล้ว

คำถามที่พบบ่อยสำหรับการค้นหา ดูแลผู้สูงอายุ

ตัวเลือกใดที่ดีกว่าระหว่างจ้างคนดูแลผู้สูงอายุที่บ้านหรือให้ผู้สูงอายุอยู่บ้านพักคนชรา
คาดการณ์ว่าในปี 2564 ประเทศไทยจะมีผู้สูงอายุ ร้อยละ 16.2 ของประชากรทั้งหมด ผู้สูงอายุที่เคยดูแลเราในวันก่อนก็เปลี่ยนบทบาทมาเป็นคนที่เราต้องดูแล วิถีชีวิตปัจจุบัน หลายครอบครัวไม่สามารถดูแลผู้สูงอายุได้ด้วยตัวเอง อะไรที่ดีกว่าระหว่างจ้างคนดูแลผู้สูงอายุที่บ้านหรือให้ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุดูแล

ข้อดีของการดูแลผู้สูงอายุที่บ้าน

การที่ผู้สูงอายุได้อยู่อาศัยในบ้าน ทำให้ไม่รู้สึกแปลกสถานที่ รู้สึกว่าอยู่กับครอบครัวลูกหลาน ไม่เกิดความว้าเหว่ ผู้สูงอายุยังอยู่ในสิ่งแวดล้อมเดิมและไม่รู้สึกว่ามีใครหายไป การดูแลยังอยู่ในสายตาของลูกหลาน หากเกิดข้อบกพร่องหรือสิ่งที่ทำให้ผู้สูงอายุไม่สบายใจ ผู้สูงอายุสามารถพูดขึ้นกับลูกหลานและแก้ไขปัญหาได้ในทันที

ข้อเสียของการดูแลผู้สูงอายุที่บ้าน

คือค่าใช้จ่ายที่สูง เพราะต้องใช้ผู้ที่ผ่านการอบรมเป็นพิเศษ และอาจต้องจ้าง ตลอด 24 ชั่วโมง หรืออาจต้องใช้ 1-2 คนในการดูแล ผู้ว่าจ้างไม่สามารถรู้ล่วงหน้าได้เลยว่านิสัยของคนที่จ้างมาเป็นอย่างไร รักการทำงานบริการผู้สูงอายุหรือไม่ หรือสามารถการปรับตัวให้เข้ากับผู้สูงอายุได้หรือไม่

ข้อดีของการใช้บริการศูนย์ดูแลผู้สูงอายุหรือบ้านพักคนชรา

คือมีสถานที่พร้อมในการดูแลผู้สูงอายุ มีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกในการดูแล บางแห่งมีเครื่องมือแพทย์ หรือพยาบาลวิชาชีพดูแล ผู้สูงอายุได้พบปะกับอื่น ๆ ในวัยเดียวกัน ซึ่งจะช่วยคลายความกังวลใจของผู้สูงอายุลงไปได้บ้าง หากมีเหตุฉุกเฉิน เกิดอุบัติเหตุ ไม่สบาย ทางศูนย์ดูแลพร้อมให้ปฐมพยาบาลและนำส่งโรงพยาบาล

ข้อเสียของการใช้บริการศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ
ค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูงและเราจะไม่มีทางรู้หรือเห็นเหตุการณ์อื่นใดนอกเหนือจากตอนที่ไปถึงศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ ซึ่งอาจปล่อยปละละเลย ผู้สูงอายุอาจไม่มีความสุขที่ต้องจากครอบครัว สุขภาพจิตอาจแย่ลง

ท้ายที่สุดแล้วความใส่ใจและความพร้อมของสมาชิกครอบครัวมีส่วนในการพิจารณาการตัดสินใจ และที่สำคัญคือตัวของผู้สูงอายุที่เราต้องดูแลว่าท่านมีความพร้อมและยินยอมเห็นสมควรกับแนวทางการเลือกดูแลของสมาชิกครอบครัว
ทักษะสำคัญที่ผู้ดูแลผู้สูงอายุควรมี
การที่เราจะเลือกใครสักคนมาดูแลผู้สูงอายุในบ้านของเรา แน่นอนว่าต้องมีปัจจัยและคุณสมบัติหลายอย่างในการตัดสินที่จะรับบุคคลภายนอกเข้ามาอยู่ใกล้ชิดกับคนในครอบครัวของเราทั้งในช่วงเวลาที่เราอยู่หรือไม่อยู่บ้านก็ตาม คุณสมบัติที่คนส่วนใหญ่คาดหวังสำหรับคนดูแลผู้สูงอายุ มีดังต่อไปนี้

1. เป็นผู้ที่บรรลุนิติภาวะ คืออายุ 18 ปีขึ้นไป สามารถคิดและตัดสินใจได้อย่างมีเหตุผล มีวุฒิภาวะที่ดี
2. เนื่องจากการดูแลผู้สูงอายุเป็นเรื่องละเอียดอ่อน คนดูแลผู้สูงอายุจึงควรเป็นคนที่มีความรู้ทั้งในเรื่องจิตวิทยา และด้านโภชนาการอาหาร รวมทั้งความสะอาดทั่วไปด้วย แม้ว่าการจ้างคนดูแลผู้สูงอายุที่มีความรู้อาจจะต้องมีค่าใช้จ่ายเยอะกว่าการจ้างคนทั่วไป แต่ก็ถือว่าคุ้มค่า เพราะหากผู้สูงอายุได้รับการดูแลที่ไม่ดี คนดูแลขาดความรู้แล้ว อาจส่งผลต่อสุขภาพทั้งร่างกายและจิตใจอีกด้วย
3. มีความน่าไว้วางใจ เมื่อจ้างคนดูแลผู้สูงอายุเข้ามาอยู่ในบ้าน อาจจะต้องรับรู้ในส่วนของที่เก็บของต่างๆ รู้ตารางชีวิตประจำวันของคนในครอบครัว คนดูแลผู้สูงอายุจึงต้องเป็นคนที่ไว้ใจได้ มีประวัติที่ดี และมีทัศนคติที่ดี
4. มีความอดทน เนื่องจากการดูแลผู้สูงอายุไม่ใช่เรื่องง่ายๆ บางครั้งอาจจะต้องดูแลทั้งร่างกายและจิตใจของผู้สูงอายุอีกด้วย โดยเฉพาะหากเป็นผู้สูงอายุที่มีอาการป่วยหรือโรคประจำตัว ก็จะมีความยุ่งยากและซับซ้อนมากขึ้นไปอีก
5. ควรจบหลักสูตรผู้ช่วยการพยาบาล หรือสาขาที่เกี่ยวข้องและหากมีประสบการณ์มักจะได้รับการพิจารณาเป็นพิเศษ แต่หากไม่จบหลักสูตรดังกล่าว แต่มีประสบการณ์ในการดูแลผู้สูงอายุมาก่อน ก็จะได้รับการพิจารณาเช่นกัน
6. มีความซื่อสัตย์สุจริต เนื่องจากในบางครั้งอาจจะต้องอยู่กับผู้สูงอายุเพียงลำพัง
7. มีความขยันและสามารถช่วยเหลืองานอย่างอื่นได้ตามความเหมาะสม
ควรทำอย่างไรเพื่อคลายความกังวลเมื่อคุณต้องปล่อยให้ผู้สูงอายุอยู่ตามลำพังกับผู้ดูแล
เมื่อเราได้พิจารณาคุณสมบัติและตัดสินใจจ้างผู้ดูแลมาดูแลผู้สูงอายุที่บ้านของเราแล้ว เราอาจจะมีความกังวลด้านอื่นๆ ตามมา ไม่ว่าจะเป็นควรจะเป็นผู้ดูแลชั่วคราวแบบไป-กลับ หรือผู้ดูแลแบบที่อยู่ด้วยกันตลอด 24 ชั่วโมง เพราะการที่ต้องให้บุคคลภายนอกซึ่งเป็นคนแปลกหน้าเข้ามาอยู่ภายในบ้านของเรา ในระยะแรกอาจจะต้องมีการปรับตัวในการอยู่ร่วมกัน หากว่าเราอยู่ที่บ้านตลอดก็อาจช่วยลดความกังวลในด้านความปลอดภัยลงไปได้ แต่ถ้าสมาชิกในบ้านต้องออกไปทำงานนอกบ้านและต้องทิ้งผู้สูงอายุไว้เพียงลำพังกับผู้ดูแล ความกังวลย่อมเพิ่มมากขึ้นทั้งกับคนที่เรารักและทรัพย์สินมีค่าภายในบ้าน แนวทางที่ช่วยลดความกังวลของผู้ว่าจ้างจากที่ได้กล่าวมาข้างต้น ได้แก่

1. ตรวจสอบประวัติอาชญากรรมของคนดูแลผู้สูงอายุ โดยสามารถร้องขอให้ผู้ดูแลผู้สูงอายุทำการตรวจสอบประวัติอาชญากรรมกับกองทะเบียนประวัติอาชญากรได้ที่ http://www.criminal.police.go.th/
2. ตรวจสอบประวัติการทำงานกับนายจ้างคนเก่า ในกรณีที่ผู้ดูแลผู้สูงอายุเคยผ่านประสบการณ์การทำงานมาก่อน
3. หากเป็นผู้ดูแลที่มาจากบริษัท ทางบริษัทควรจะมีการส่งตัวแทนจากบริษัทเข้ามาเยี่ยมและตรวจสอบการทำงานของผู้ดูแลเป็นระยะๆ
4. คนในครอบครัวหมั่นตรวจตราและสอดส่องการทำงานของผู้ดูแลคนสูงอายุอยู่ตลอดเวลาในระยะแรกๆของการทำงาน
5. หากมีเพื่อนบ้านที่ไว้ใจได้ สามารถฝากให้เพื่อนบ้านช่วยสอดส่องดูแลขณะที่ผู้ดูแลอยู่ลำพังกับผู้สูงอายุ
6. ปัจจุบัน ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย ไม่ใช่เรื่องยากที่เราจะทำการติดตั้งกล้องวงจรปิดไว้ตามจุดต่างๆ ภายในบ้าน เพื่อตรวจสอบความเคลื่อนไหวภายในบ้านได้ตลอด 24 ชม.
ข้อตกลงที่สำคัญในการดูแลผู้สูงอายุมีอะไรบ้าง
เมื่อตัดสินใจจ้างคนดูแลผู้สูงอายุแล้ว ควรทำข้อตกลงสำคัญระหว่างผู้ว่าจ้างและผู้ดูแลที่คุณทำการได้จ้างมา เพื่อเป็นการรับประกันความปลอดภัยให้กับผู้สูงอายุตลอดระยะเวลาการดูแล ซึ่งข้อตกลงที่จำเป็นต้องทำความเข้าใจระหว่างสองฝ่ายมีดังนี้

1. ทำสัญญาจ้างเป็นลายลักษณ์อักษร โดยสิ่งที่ควรระบุอยู่ในสัญญาอย่างชัดเจนได้แก่ ระยะเวลาการดูแล วันที่เท่าไหร่ถึงเท่าไหร่ ชั่วโมงการทำงาน จำนวนค่าจ้าง รวมไปถึงสวัสดิการและวันหยุดที่ผู้ดูแลควรได้รับตามกฎหมายแรงงาน โดยที่ทั้งสองฝ่ายต้องเซ็นยินยอมเพื่อเป็นการรับรู้ต่อสัญญาและข้อกำหนดที่ได้ตกลงกันไว้
2. ผู้ว่าจ้างควรอธิบายข้อมูลส่วนตัวของผู้สูงอายุให้กับผู้ดูแลอย่างละเอียดถี่ถ้วน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอุปนิสัย ความชอบส่วนตัว อาหารที่กินได้และไม่ได้ ที่สำคัญหากผู้สูงอายุมีโรคประจำตัว ผู้ว่าจ้างควรบอกให้ผู้ดูแลรับรู้ก่อนเพื่อให้ผู้ดูแลสามารถรับมือกับสถานการณ์ฉุกเฉินได้
3. อธิบายขอบเขตและวิธีการทำงานให้กับผู้ดูแลอย่างชัดเจน สิ่งใดที่ทำได้และไม่ได้ เพื่อเป็นการป้องกันขั้นเบื้องต้น
4. ข้อตกลงเรื่องที่อยู่อาศัย หากผู้ว่าจ้างต้องการให้ผู้ดูแลอาศัยอยู่ที่บ้านตลอดช่วงระยะการดูแลผู้สูงอายุ ควรจัดเตรียมที่พักอาศัยให้กับผู้ดูแล รวมไปถึงแจกแจงเรื่องกฎในการใช้สิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ภายในบ้านตลอดช่วงระยะเวลาเช่นกัน
5. ใส่ใจในเรื่องของสุขอนามัยของผู้ดูแลที่ทำการว่าจ้างมา หากผู้ดูแลมีอาการป่วยกะทันหัน ผู้ว่าจ้างควรออกค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล ซึ่งถือว่าเป็นอีกหนึ่งสวัสดิการที่ผู้ดูแลควรได้รับ และควรให้ผู้ดูแลลางานได้ทันที เพื่อเป็นการช่วยลดความเสี่ยงในการแพร่เชื้อต่อผู้สูงอายุภายในบ้าน

การทำข้อตกลงในการว่าจ้างนั้นนอกจากจะเป็นการช่วยให้ทำความเข้าใจอย่างชัดเจนแล้ว ยังช่วยสร้างความสบายใจให้กับทั้งสองฝ่ายได้อีกด้วย

ปทุมธานี แดนเหนือ(ของกรุงเทพ)

จังหวัดปทุมธานีจังหวัดหนึ่งในภาคกลาง ที่มีพื้นที่ใกล้เคียงกับกรุงเทพมหานครเป็น 1ใน 5 จังหวัดปริมณฑล มีอาณาเขตทิศเหนือติดกับจังหวัดพระนครศรีอยุธยาและจังหวัดสระบุรี ทิศตะวันออกติดกับจังหวัดฉะเชิงเทรา ทิศตะวันตกติดกับจังหวัดนครปฐมและจังหวัดนนทบุรี ส่วนทิศใต้ติดกับกรุงเทพมหานครและจังหวัดนนทบุรี มีเนื้อที่ประมาณ 953,660 ไร่

จังหวัดปทุมธานีแบ่งการปกครองทั้งหมดออกเป็น 7 อำเภอได้แก่ อำเภอเมืองปทุมธานี อำเภอคลองหลวง อำเภอธัญบุรี อำเภอหนองเสือ อำเภอลาดหลุมแก้ว อำเภอลำลูกกา และอำเภอสามโคก ย่านที่เจริญและมีประชากรมากที่สุดคือ เทศบาลนครรังสิต อำเภอธัญบุรี โดยจังหวัดปทุมธานีถือเป็นจังหวัดที่มีการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างรวดเร็ว และมีการเปลี่ยนจากสังคมชนบทดั้งเดิมที่เน้นภาคเกษตรกรรมเป็นหลัก เป็นสังคมเมืองอุตสาหกรรม และเริ่มทยอยมีหมู่บ้าน โครงการที่อยู่อาศัยต่างๆเกิดขึ้นมากมาย ส่งผลให้เป็นแหล่งงานที่สำคัญแห่งหนึ่งของภาคกลางที่คนนิยมเข้ามาหางานทำจากทั่วทุกภาคส่วน รวมถึงแรงงานต่างด้าว อีกทั้งยังเป็นแหล่งที่ตั้งของสถาบันการศึกษามากมายไม่ว่าจะเป็น มหาวิทยาลัยรังสิต โรงเรียนปทุมวิไล วิทยาลัยการอาชีวะศึกษาเป็นต้น ห้างสรรพสินค้าและแหล่งคอมมูนิตี้มอลล์ชั้นนำรายล้อมทุกพื้นที่เช่น เซ็นทรัลแจ้งวัฒนะ โลตัสปทุมธานี นอกจากจะเป็นจังหวัดที่ไม่ไกลจากกรุงเทพแล้วยังมีสถานที่ท่องเที่ยวมากมายไม่ว่าจะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเก่าแก่ทางวัฒนธรรมเช่น วัดวาอารามเก่าแก่ แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ ส่งผลให้ปทุมธานีเป็นจุดหมายปลายทางสำหรับเป็นที่อยู่อาศัย พักผ่อน และทำงาน



รังสิต - ปทุมธานี

คนเฒ่าคนแก่มักบอกว่า จังหวัดปทุมธานีเป็นเมืองอกแตก ที่มีแม่น้ำไหลผ่านตรงกลาง ทำอย่างไรก็ไม่เจริญ ปัจจุบันนี้ปทุมธานีไม่ได้เป็นเหมือนอย่างที่ถูกกล่าวขานในอดีต แต่กลับกลายเป็นเมืองน่าอยู่ ปทุมธานีเป็นพื้นที่เชื่อมต่อกรุงเทพมหานคร มุ่งหน้าสู่ทางภาคเหนือ มีความเจริญก้าวหน้าขึ้นมากเมื่อเทียบกับอดีต

จังหวัดปทุมธานี

ในปัจจุบันกลายเป็นทำเลที่มีศักยภาพสูงเนื่องด้วยการเจริญเติบโตทางด้านต่าง ๆไม่ว่าจะเป็นอสังหาริมทรัพย์ ห้างสรรพสินค้ามากมาย อีกทั้งยังมีเส้นทางคมนาคมเข้า-ออกสะดวกสบายสามารถคลายปัญหารถติดที่แสนน่าเบื่อของใครหลายๆคนได้ โดยเฉพาะ รังสิตพื้นที่ทำเลทองของปทุมธานีที่เต็มไปด้วยการพัฒนามากมายทั้งแหล่งที่อยู่อาศัย การเดินทาง อีกทั้งยังเป็นพื้นที่ทางตอนเหนือของกรุงเทพปลายทางสู่ภาคเหนือและภาคตอนออกเฉียงเหนือของไทย รังสิตสามารถเดินทางเข้าออกเมืองได้ง่าย อยู่ใกล้ทางด่วนและถนนสายสำคัญต่างๆ เนื่องด้วยการกระจายตัวของที่ดินไปตามถนนเลียบคลองต่างๆมากมาย มีถนนสายสำคัญตัดผ่านเช่น ถนนพหลโยธิน ถนนรังสิต-ปทุมธานี และอีกหลายสายที่เชื่อมเข้าด้วยกันซึ่ง ในปี 2564 รังสิตจะมีรถไฟสายสีแดง-ครีม ที่วิ่งจากบางซื่อ-รังสิต ต่อขยายไปยังมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต ช่วยให้การเข้าเมืองสะดวกสบายมากขึ้น โดยรังสิตมีห้างสรรพสินค้าที่ใหญ่ที่สุดคือ ฟิวเจอร์ พาร์ค ที่ประกอบไปด้วยส่วนการค้าภายในมากมายไม่ว่าจะเป็น เซ็นทรัล โรบินสันเป็นต้น ไม่เพียงแค่นั้น รังสิตยังเต็มไปด้วยสถาบันการศึกษาหลากหลายด้วยกันเช่นโรงเรียนโชคชัยรังสิต มหาวิทยาลัยรังสิต มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์และสถานพยาบาลไม่ว่าจะเป็น โรงพยาบาลเปาโลรังสิต โรงพยาบาลแพทย์รังสิต ซึ่งเป็นย่านที่เดินทางไปโรงพยาบาลได้สะดวก เรียกได้ว่าย่านรังสิตคือ ตัวท็อปของปทุมธานีเลยก็ว่าได้



เตรียมความพร้อมก่อนเกษียณ

หลายคนมีการวางแผนก่อนถึงวันเกษียณอายุไว้อย่างสวยงาม ไม่ว่าจะเป็นการมีเงินใช้อย่างเพียงพอ ได้เที่ยวพักผ่อนในสถานที่ที่อยากไป และในบั้นปลายของชีวิตก็ต้องการความสุข ความสบาย หลังจากที่ทำงานหนักมาทั้งชีวิต แต่น้อยคนที่จะเกษียณและใช้ชีวิตในวัยชราอย่างสบาย ทั้งนี้เนื่องมาจากคนส่วนใหญ่ไม่มีการวางแผนชีวิตหลังเกษียณที่ดีพอตั้งแต่เนิ่น ๆ ไม่มีใครสามารถรู้อนาคตของตัวเองได้ว่าชีวิตหลังการเกษียณจะเป็นอย่างไร ดังนั้นการเตรียมความพร้อม วางแผนก่อนการเกษียณ จึงเป็นสิ่งที่จำเป็นเพื่อให้ใช้ชีวิตหลังวัยเกษียณได้อย่างมีความสุข ควรเตรียมตัวดังนี้

1.เตรียมความพร้อมด้านร่างกาย การดูแลสุขภาพเป็นสิ่งจำเป็นไม่ว่าจะช่วงอายุไหน โดยเฉพาะวัยเกษียณที่พร้อมจะก้าวเข้าสู่วัยผู้สูงอายุที่ร่างกายมีการเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจน บางคนถึงแม้จะเกษียณด้วยเงินก้อนโตแต่ก็ต้องหมดไปกับค่าใช้จ่ายเพื่อดูแลสุขภาพและรักษาอาการเจ็บป่วย เงินเดือนอาจหมดไปกับการรักษาพยาบาล ดังนั้นการเตรียมตัวสู่วัยเกษียณควรทำร่างกายให้แข็งแรง ออกกำลังกายเป็นประจำอย่างน้อยสัปดาห์ละ 2 ครั้ง ทานอาหารที่มีประโยชน์ เคี้ยวง่าย ย่อยง่ายและควรตรวจสุขภาพประจำปีอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง

2.เตรียมพร้อมด้านจิตใจ การเกษียณอายุเป็นการเปลี่ยนแปลงบทบาทและสถานภาพการทำงานอย่างฉับพลัน หากไม่ได้เตรียมใจไว้ล่วงหน้าอาจก่อให้เกิดปัญหาทางด้านจิตใจไม่ว่าจะเป็น อารมณ์เหงา วิตกกังวล หงุดหงิด เพราะในวัยทำงาน เต็มไปด้วยบรรยากาศที่ครื้นเครง เฮฮา แต่เมื่อถึงวัยเกษียณ การใช้ชีวิตส่วนใหญ่จะอยู่แต่ในบ้าน ควรเตรียมใจเพื่อให้สามารถปรับตัวอยู่ได้เรียนรู้ถึงการมีเวลาว่างมากขึ้น ซึ่งมีหลายวิธีด้วยกัน เช่น การหางานหรือกิจกรรมอดิเรกทำ หาสัตว์เลี้ยงคู่ใจมาอยู่เป็นเพื่อน ฝึกสมาธิให้จิตใจผ่อนคลาย

3.เตรียมพร้อมด้านการเงิน ความพร้อมด้านการเงินเป็นหนึ่งปัจจัยสำคัญในการชีวิตวัยเกษียณอย่างสะดวกสบาย จัดสรรรายได้บางส่วนเพื่อไว้ใช้หลังเกษียณ ไม่ว่าจะเป็นในรูปแบบของการออมเงิน การลงทุนในกองทุน หรือประกันชีวิตรูปแบบต่าง ๆ