ดูแลผู้สูงอายุ ใน ปากเกร็ด, นนทบุรี

ดูแลผู้สูงอายุ ใน ปากเกร็ด, นนทบุรี

คุณต้องการใช้บริการนี้เมื่อไหร่?
ตอนนี้
ระบุวันที่

วิธีการทำงาน

Saijai

ติดต่อเรา

ติดต่อเราโดยตรงผ่าน LINE OA เพื่อจองบริการที่คุณต้องการ

Saijai

แจ้งรายละเอียดให้เราทราบ

เลือกบริการ วันที่ เวลา และสถานที่ที่คุณต้องการให้ตรงกับความต้องการของคุณ

Saijai

ยืนยันการจองของคุณ

เราจะยืนยันการจองของคุณภายใน 24 ชั่วโมงผ่านทาง LINE OA

ชาตรี มะณี
ชาตรี มะณี
Saijai ประสบการณ์ 1-2 ปี
Saijai อายุ 49 ปี

มีมนุษย์สัมพันที่ดี มีความรับผิดชอบต่อหน้าที่สูง

แสดงเพิ่มเติม
ภาสินี ป่วนเทียน
ภาสินี ป่วนเทียน
Saijai อายุ 44 ปี

เคยดูแลตากับยายที่บ้าน ปัจจุบันดูแลพ่อกับแม่ที่บ้าน อายุ 64ปี

แสดงเพิ่มเติม
รุ่งลาวัลย์ ภักดีหล้า
รุ่งลาวัลย์ ภักดีหล้า
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี

เป็นคนใจเย็นเข้ากับผู้สูงอายุได้ดีเป็นคล่องแคล่วว่องไว

แสดงเพิ่มเติม

ผมไม่ได้จบ หรือมีประสบการณ์เกี่ยวกับการดูแลท่านผู้สูงอายุครับ แต่ผมชอบที่จะนั่งฟัง หรือ ค่อยดูแลท่าน ทุกครั้งที่พบท่านผู้สูงอายุจะมีความรู้สึกเหมือนได้มาดูแลคนในครอบครัวครับ ปัจจุบันผมเป็นผู้จัดการฝ่ายบุคคล และ เลขาประทานบริษัท ดีลโซลูชั่น จำกัด ครับ

แสดงเพิ่มเติม
อัญชินี วรคุณาลัย
อัญชินี วรคุณาลัย
Saijai ประสบการณ์ 3-4 ปี
Saijai อายุ 25 ปี

เคยดูแลผู้สูงอายุมาประมาณเกือบ4ปีผู้สูงอายุเดินไม่ได้ต้องใช้ไม้เท้า4ขาช่วยการดูแลเบื่องต้นที่เคยทำคืออาบน้ำ ดูแลเรื่องความสะอาดอุจจาระและปัสสาวะ พาไปโรงพยาบาล พานั่งวิลเเชร์ไปเที่ยว ชวนทำกิจกรรมเช่นไปจ่ายตลาดและทำกับข้าวด้วยกันแต่ผู้สูงอายุสามารถช่วยเหลือตัวเองได้อย่างเช่นรับประทานอาหารเองได้ และชวนท่านทำกิจกรรมเสมอเพื่อไม่ให้หลงลืม

แสดงเพิ่มเติม
ชัยศรี  เผ่าม่วง
ชัยศรี เผ่าม่วง
Saijai ประสบการณ์ 1-2 ปี

ชื่อแจ้ค่ะ ทำงานดูแลผู้ป่วย ค่ะ งานที่ดูแลอยู่คือ สวนปัสสาวะวันละ 4 ครั้ง เปลี่ยนแพมเพิส ดูแลเรื่องอาหารและยา รวมทั้งความสะอาดของผู้ป่วย ทำอาหาร และทำงานบ้านได้ทุกอย่างยกเว้นงานสวนค่ะ ประสบการณ์2ปี1เดือน พร้อมเรียนรู้ค่ะถ้ามีอะไรนอกเหนือจากนี้

แสดงเพิ่มเติม
ศศิพิมล ยิ่งแจ่มจันทร์
ศศิพิมล ยิ่งแจ่มจันทร์
Saijai ประสบการณ์ 0-1 ปี
Saijai อายุ 24 ปี

เคยทำศูนย์ดูแลผู้สูงอายุค่ะมีรอยสักที่แขน1ข้างค่ะ

แสดงเพิ่มเติม
สุวณิช  พงษ์ศิริเจริญ
สุวณิช พงษ์ศิริเจริญ
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี

พยาบาลวิชาชีพ ICU และพยาบาลควบคุมโรคติดเชื้อ นิสัยร่าเริง สวดมนต์ไหว้พระ นั่งสมาธิ เข้าใจชีวิต เชี่ยวชาญการดูแลผู้ป่วยที่มีปัญหาสุขภาพระบบสมอง หลอดเลือด หัวใจ ทางเดินอาหาร ผู้ป่วยที่ได้รับการผ่าตัดระบบต่างๆ ผู้ป่วยที่มีแผลกดทับ ผู้ป่วยมะเร็งระยะสุดท้าย ผู้ป่วยใส่เครื่องช่วยหายใจที่บ้าน ผู้ป่วยที่ต้องได้รับการดูแลพิเศษที่บ้าน ผู้ป่วยสูงอายุที่ต้องการเพื่อน

แสดงเพิ่มเติม
นันทกานต์ ชำนาญกิจ
นันทกานต์ ชำนาญกิจ
Saijai ประสบการณ์ 0-1 ปี
Saijai อายุ 37 ปี

บุคลิกเป็นคนหลังค่อมเล็กน้อย อาจจะมีบ้างครั้งที่เสียงห้วน พูดไม่ค่อยมีหางเสียงค่ะ ชักสีหน้า แต่ไม่มีนิสัย ทำร้าย รึทุบตีคนแก่ ค่ะ เคยแต่ดูแลตายาย ไม่เคยอบรมรึฝึกดูแลผู้สูงอายุ ทำรายวัน หรือ ราย ชั่วโมงก็ได้ค่ะ ส่วนอาหารทำพอได้บ้างค่ะ

แสดงเพิ่มเติม
ธมลวรรณ สังข์แก้ว
ธมลวรรณ สังข์แก้ว
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี
Saijai อายุ 38 ปี

ใส่ใจ เข้าใจ สะอาด ดูแลเปรียญเสมือนญาติ

แสดงเพิ่มเติม
กัณฐิตา สิงห์สูง
กัณฐิตา สิงห์สูง
Saijai ประสบการณ์ 3-4 ปี

Night Care Assistant, Frith House, Somerset Care Ltd. UK | 2003 - 2005

Dressing or assisting with any physical activity whereby the clients needs support.

Domestic duties: Cleaning, emptying bins, washing where requested.

Record keeping: MAR chart (for medication), log book (recording each visit to communicate to the next carer), care plan updates.

แสดงเพิ่มเติม
ทิพปภา อินดี
ทิพปภา อินดี
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี

เคยทำงานเปนแม่บ้านโรงงานที่สมุทรสาคร 10 ปี เป็นแม่บ้านอยู่ลำปาง 6 ตอนทำงานอยู่ลำปางเป็นแม่บ้านและดูแลแม่นายจ้างด้วยค่ะ ให้บริการดูแลผู้สูงอายุเคสธรรมดา อยู่เป็นเพื่อนผู้สูงอายุค่ะ

แสดงเพิ่มเติม
วลัยพร ภู่รัตนกุล
วลัยพร ภู่รัตนกุล
Saijai ประสบการณ์ 3-4 ปี
ผ่านการตรวจสอบประวัติบุคคล

มีความอดทนสูง ตรงต่อเวลา ทำหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายได้ดี

แสดงเพิ่มเติม
อคัมย์สิริ ศศิชลพินทุ์
อคัมย์สิริ ศศิชลพินทุ์
Saijai ประสบการณ์ 0-1 ปี
Saijai อายุ 41 ปี

ใจเย็น รักในการดูเอาใจใส่

แสดงเพิ่มเติม
ปภาวี พรมเอี้ยง
ปภาวี พรมเอี้ยง
Saijai ประสบการณ์ 0-1 ปี
Saijai อายุ 49 ปี

ใจเย็นคุยง่ายรักครอบครัว

แสดงเพิ่มเติม
ปลายฝน วันทอง
ปลายฝน วันทอง
Saijai ประสบการณ์ 1-2 ปี
Saijai อายุ 22 ปี

รักความสะอาด ใจเย็น

แสดงเพิ่มเติม
สุริยา น้อยทะรง
สุริยา น้อยทะรง
Saijai ประสบการณ์ 1-2 ปี
Saijai อายุ 32 ปี

15-300/ชั่วโมง 800-1000/วัน ใส่ใจดูแล ทำตามหน้าที่ที่ได้รับ ชอบผู้สูงอายุ

แสดงเพิ่มเติม
อมรรัตน์  อัศวจิตตานนท์
อมรรัตน์ อัศวจิตตานนท์
Saijai ประสบการณ์ 3-4 ปี
ผ่านการตรวจสอบประวัติบุคคล

มีประสบการณ์ด้านรพ.มา4ปีและดูแลตามบ้านมาก่อนหน้านี้รวมแล้วเกือบ10ปีทั้งด้านเด็กและผูสูงอาย สามารถพูดจีน ขับรถยนต์ได้มีใบขับขี่ และด้านกายภาพบำบัด รวมถึงนวดบำบัด ฯลฯ

แสดงเพิ่มเติม
อธิวุฒิ สมัครการ
อธิวุฒิ สมัครการ
Saijai ประสบการณ์ 0-1 ปี
Saijai อายุ 35 ปี

เป็นคนใจเย็น รักการช่วยเหลือผู้สูงวัยที่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ หากมีที่พักให้เช่าใกล้สถานที่ทำงานจะดีมาก หรือจะให้อยู่บ้านเฝ้า 24 ชั่วโมงเลยก็ได้ครับ

แสดงเพิ่มเติม

ข้อมูลสถิติน่าสนใจเกี่ยวกับ

Saijai จำนวนประชากร
Saijai จำนวนประชากรเด็ก (แรกเกิด-14 ปี)
Saijai จำนวนประชากรสูงอายุ (60 ปี ขึ้นไป)
Saijai จำนวนสัตว์เลี้ยง สุนัข

รีวิวล่าสุด

เจอเว็บใส่ใจ เข้าไปเลือกคนดูแล เอารูปกับประวัติมานั่งคุยกับคุณย่า เลยได้ป้ากิ๊กมาดูแล ป้ากิ๊กดูแลดีมาก คุณย่ามีความสุข ในเว็บใส่ใจบอกข้อมูลครบเลยทั้งประวัติการทำงาน และประวัติการศึกษา
Saijai
กฤษณ์ ชัยเขตุสานุวัฒน์
3 ปีที่แล้ว
ประทับใจในการให้บริการมาก ๆ ค่ะ
Saijai
สุดาพร มณีทอง
3 ปีที่แล้ว
ราคาไม่สูงเหมือนจ้างพยาบาลตามโรงพยาบาล และผู้ดูแลยังมีประสบการณ์ มั่นใจ หายห่วงเลยค่ะ
Saijai
ศรีรัตน์ สุขสวัสดิ์
4 ปีที่แล้ว
ได้คนคอยดูแลแม่ผมอย่างดี และถ่ายภาพรายงานเรื่องแม่ให้ผมทางไลน์อีกด้วยครับ คุ้มราคามากครับ
Saijai
ปราโมทย์ มนตรา
4 ปีที่แล้ว
ได้คนดูแลดี ผมก็หายห่วงครับ จะใช้บริการบ่อย ๆ
Saijai
สุชาดา เอี่ยมจินดา
4 ปีที่แล้ว

คำถามที่พบบ่อยสำหรับการค้นหา ดูแลผู้สูงอายุ

ตัวเลือกใดที่ดีกว่าระหว่างจ้างคนดูแลผู้สูงอายุที่บ้านหรือให้ผู้สูงอายุอยู่บ้านพักคนชรา
คาดการณ์ว่าในปี 2564 ประเทศไทยจะมีผู้สูงอายุ ร้อยละ 16.2 ของประชากรทั้งหมด ผู้สูงอายุที่เคยดูแลเราในวันก่อนก็เปลี่ยนบทบาทมาเป็นคนที่เราต้องดูแล วิถีชีวิตปัจจุบัน หลายครอบครัวไม่สามารถดูแลผู้สูงอายุได้ด้วยตัวเอง อะไรที่ดีกว่าระหว่างจ้างคนดูแลผู้สูงอายุที่บ้านหรือให้ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุดูแล

ข้อดีของการดูแลผู้สูงอายุที่บ้าน

การที่ผู้สูงอายุได้อยู่อาศัยในบ้าน ทำให้ไม่รู้สึกแปลกสถานที่ รู้สึกว่าอยู่กับครอบครัวลูกหลาน ไม่เกิดความว้าเหว่ ผู้สูงอายุยังอยู่ในสิ่งแวดล้อมเดิมและไม่รู้สึกว่ามีใครหายไป การดูแลยังอยู่ในสายตาของลูกหลาน หากเกิดข้อบกพร่องหรือสิ่งที่ทำให้ผู้สูงอายุไม่สบายใจ ผู้สูงอายุสามารถพูดขึ้นกับลูกหลานและแก้ไขปัญหาได้ในทันที

ข้อเสียของการดูแลผู้สูงอายุที่บ้าน

คือค่าใช้จ่ายที่สูง เพราะต้องใช้ผู้ที่ผ่านการอบรมเป็นพิเศษ และอาจต้องจ้าง ตลอด 24 ชั่วโมง หรืออาจต้องใช้ 1-2 คนในการดูแล ผู้ว่าจ้างไม่สามารถรู้ล่วงหน้าได้เลยว่านิสัยของคนที่จ้างมาเป็นอย่างไร รักการทำงานบริการผู้สูงอายุหรือไม่ หรือสามารถการปรับตัวให้เข้ากับผู้สูงอายุได้หรือไม่

ข้อดีของการใช้บริการศูนย์ดูแลผู้สูงอายุหรือบ้านพักคนชรา

คือมีสถานที่พร้อมในการดูแลผู้สูงอายุ มีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกในการดูแล บางแห่งมีเครื่องมือแพทย์ หรือพยาบาลวิชาชีพดูแล ผู้สูงอายุได้พบปะกับอื่น ๆ ในวัยเดียวกัน ซึ่งจะช่วยคลายความกังวลใจของผู้สูงอายุลงไปได้บ้าง หากมีเหตุฉุกเฉิน เกิดอุบัติเหตุ ไม่สบาย ทางศูนย์ดูแลพร้อมให้ปฐมพยาบาลและนำส่งโรงพยาบาล

ข้อเสียของการใช้บริการศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ
ค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูงและเราจะไม่มีทางรู้หรือเห็นเหตุการณ์อื่นใดนอกเหนือจากตอนที่ไปถึงศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ ซึ่งอาจปล่อยปละละเลย ผู้สูงอายุอาจไม่มีความสุขที่ต้องจากครอบครัว สุขภาพจิตอาจแย่ลง

ท้ายที่สุดแล้วความใส่ใจและความพร้อมของสมาชิกครอบครัวมีส่วนในการพิจารณาการตัดสินใจ และที่สำคัญคือตัวของผู้สูงอายุที่เราต้องดูแลว่าท่านมีความพร้อมและยินยอมเห็นสมควรกับแนวทางการเลือกดูแลของสมาชิกครอบครัว
ทักษะสำคัญที่ผู้ดูแลผู้สูงอายุควรมี
การที่เราจะเลือกใครสักคนมาดูแลผู้สูงอายุในบ้านของเรา แน่นอนว่าต้องมีปัจจัยและคุณสมบัติหลายอย่างในการตัดสินที่จะรับบุคคลภายนอกเข้ามาอยู่ใกล้ชิดกับคนในครอบครัวของเราทั้งในช่วงเวลาที่เราอยู่หรือไม่อยู่บ้านก็ตาม คุณสมบัติที่คนส่วนใหญ่คาดหวังสำหรับคนดูแลผู้สูงอายุ มีดังต่อไปนี้

1. เป็นผู้ที่บรรลุนิติภาวะ คืออายุ 18 ปีขึ้นไป สามารถคิดและตัดสินใจได้อย่างมีเหตุผล มีวุฒิภาวะที่ดี
2. เนื่องจากการดูแลผู้สูงอายุเป็นเรื่องละเอียดอ่อน คนดูแลผู้สูงอายุจึงควรเป็นคนที่มีความรู้ทั้งในเรื่องจิตวิทยา และด้านโภชนาการอาหาร รวมทั้งความสะอาดทั่วไปด้วย แม้ว่าการจ้างคนดูแลผู้สูงอายุที่มีความรู้อาจจะต้องมีค่าใช้จ่ายเยอะกว่าการจ้างคนทั่วไป แต่ก็ถือว่าคุ้มค่า เพราะหากผู้สูงอายุได้รับการดูแลที่ไม่ดี คนดูแลขาดความรู้แล้ว อาจส่งผลต่อสุขภาพทั้งร่างกายและจิตใจอีกด้วย
3. มีความน่าไว้วางใจ เมื่อจ้างคนดูแลผู้สูงอายุเข้ามาอยู่ในบ้าน อาจจะต้องรับรู้ในส่วนของที่เก็บของต่างๆ รู้ตารางชีวิตประจำวันของคนในครอบครัว คนดูแลผู้สูงอายุจึงต้องเป็นคนที่ไว้ใจได้ มีประวัติที่ดี และมีทัศนคติที่ดี
4. มีความอดทน เนื่องจากการดูแลผู้สูงอายุไม่ใช่เรื่องง่ายๆ บางครั้งอาจจะต้องดูแลทั้งร่างกายและจิตใจของผู้สูงอายุอีกด้วย โดยเฉพาะหากเป็นผู้สูงอายุที่มีอาการป่วยหรือโรคประจำตัว ก็จะมีความยุ่งยากและซับซ้อนมากขึ้นไปอีก
5. ควรจบหลักสูตรผู้ช่วยการพยาบาล หรือสาขาที่เกี่ยวข้องและหากมีประสบการณ์มักจะได้รับการพิจารณาเป็นพิเศษ แต่หากไม่จบหลักสูตรดังกล่าว แต่มีประสบการณ์ในการดูแลผู้สูงอายุมาก่อน ก็จะได้รับการพิจารณาเช่นกัน
6. มีความซื่อสัตย์สุจริต เนื่องจากในบางครั้งอาจจะต้องอยู่กับผู้สูงอายุเพียงลำพัง
7. มีความขยันและสามารถช่วยเหลืองานอย่างอื่นได้ตามความเหมาะสม
ควรทำอย่างไรเพื่อคลายความกังวลเมื่อคุณต้องปล่อยให้ผู้สูงอายุอยู่ตามลำพังกับผู้ดูแล
เมื่อเราได้พิจารณาคุณสมบัติและตัดสินใจจ้างผู้ดูแลมาดูแลผู้สูงอายุที่บ้านของเราแล้ว เราอาจจะมีความกังวลด้านอื่นๆ ตามมา ไม่ว่าจะเป็นควรจะเป็นผู้ดูแลชั่วคราวแบบไป-กลับ หรือผู้ดูแลแบบที่อยู่ด้วยกันตลอด 24 ชั่วโมง เพราะการที่ต้องให้บุคคลภายนอกซึ่งเป็นคนแปลกหน้าเข้ามาอยู่ภายในบ้านของเรา ในระยะแรกอาจจะต้องมีการปรับตัวในการอยู่ร่วมกัน หากว่าเราอยู่ที่บ้านตลอดก็อาจช่วยลดความกังวลในด้านความปลอดภัยลงไปได้ แต่ถ้าสมาชิกในบ้านต้องออกไปทำงานนอกบ้านและต้องทิ้งผู้สูงอายุไว้เพียงลำพังกับผู้ดูแล ความกังวลย่อมเพิ่มมากขึ้นทั้งกับคนที่เรารักและทรัพย์สินมีค่าภายในบ้าน แนวทางที่ช่วยลดความกังวลของผู้ว่าจ้างจากที่ได้กล่าวมาข้างต้น ได้แก่

1. ตรวจสอบประวัติอาชญากรรมของคนดูแลผู้สูงอายุ โดยสามารถร้องขอให้ผู้ดูแลผู้สูงอายุทำการตรวจสอบประวัติอาชญากรรมกับกองทะเบียนประวัติอาชญากรได้ที่ http://www.criminal.police.go.th/
2. ตรวจสอบประวัติการทำงานกับนายจ้างคนเก่า ในกรณีที่ผู้ดูแลผู้สูงอายุเคยผ่านประสบการณ์การทำงานมาก่อน
3. หากเป็นผู้ดูแลที่มาจากบริษัท ทางบริษัทควรจะมีการส่งตัวแทนจากบริษัทเข้ามาเยี่ยมและตรวจสอบการทำงานของผู้ดูแลเป็นระยะๆ
4. คนในครอบครัวหมั่นตรวจตราและสอดส่องการทำงานของผู้ดูแลคนสูงอายุอยู่ตลอดเวลาในระยะแรกๆของการทำงาน
5. หากมีเพื่อนบ้านที่ไว้ใจได้ สามารถฝากให้เพื่อนบ้านช่วยสอดส่องดูแลขณะที่ผู้ดูแลอยู่ลำพังกับผู้สูงอายุ
6. ปัจจุบัน ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย ไม่ใช่เรื่องยากที่เราจะทำการติดตั้งกล้องวงจรปิดไว้ตามจุดต่างๆ ภายในบ้าน เพื่อตรวจสอบความเคลื่อนไหวภายในบ้านได้ตลอด 24 ชม.
ข้อตกลงที่สำคัญในการดูแลผู้สูงอายุมีอะไรบ้าง
เมื่อตัดสินใจจ้างคนดูแลผู้สูงอายุแล้ว ควรทำข้อตกลงสำคัญระหว่างผู้ว่าจ้างและผู้ดูแลที่คุณทำการได้จ้างมา เพื่อเป็นการรับประกันความปลอดภัยให้กับผู้สูงอายุตลอดระยะเวลาการดูแล ซึ่งข้อตกลงที่จำเป็นต้องทำความเข้าใจระหว่างสองฝ่ายมีดังนี้

1. ทำสัญญาจ้างเป็นลายลักษณ์อักษร โดยสิ่งที่ควรระบุอยู่ในสัญญาอย่างชัดเจนได้แก่ ระยะเวลาการดูแล วันที่เท่าไหร่ถึงเท่าไหร่ ชั่วโมงการทำงาน จำนวนค่าจ้าง รวมไปถึงสวัสดิการและวันหยุดที่ผู้ดูแลควรได้รับตามกฎหมายแรงงาน โดยที่ทั้งสองฝ่ายต้องเซ็นยินยอมเพื่อเป็นการรับรู้ต่อสัญญาและข้อกำหนดที่ได้ตกลงกันไว้
2. ผู้ว่าจ้างควรอธิบายข้อมูลส่วนตัวของผู้สูงอายุให้กับผู้ดูแลอย่างละเอียดถี่ถ้วน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอุปนิสัย ความชอบส่วนตัว อาหารที่กินได้และไม่ได้ ที่สำคัญหากผู้สูงอายุมีโรคประจำตัว ผู้ว่าจ้างควรบอกให้ผู้ดูแลรับรู้ก่อนเพื่อให้ผู้ดูแลสามารถรับมือกับสถานการณ์ฉุกเฉินได้
3. อธิบายขอบเขตและวิธีการทำงานให้กับผู้ดูแลอย่างชัดเจน สิ่งใดที่ทำได้และไม่ได้ เพื่อเป็นการป้องกันขั้นเบื้องต้น
4. ข้อตกลงเรื่องที่อยู่อาศัย หากผู้ว่าจ้างต้องการให้ผู้ดูแลอาศัยอยู่ที่บ้านตลอดช่วงระยะการดูแลผู้สูงอายุ ควรจัดเตรียมที่พักอาศัยให้กับผู้ดูแล รวมไปถึงแจกแจงเรื่องกฎในการใช้สิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ภายในบ้านตลอดช่วงระยะเวลาเช่นกัน
5. ใส่ใจในเรื่องของสุขอนามัยของผู้ดูแลที่ทำการว่าจ้างมา หากผู้ดูแลมีอาการป่วยกะทันหัน ผู้ว่าจ้างควรออกค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล ซึ่งถือว่าเป็นอีกหนึ่งสวัสดิการที่ผู้ดูแลควรได้รับ และควรให้ผู้ดูแลลางานได้ทันที เพื่อเป็นการช่วยลดความเสี่ยงในการแพร่เชื้อต่อผู้สูงอายุภายในบ้าน

การทำข้อตกลงในการว่าจ้างนั้นนอกจากจะเป็นการช่วยให้ทำความเข้าใจอย่างชัดเจนแล้ว ยังช่วยสร้างความสบายใจให้กับทั้งสองฝ่ายได้อีกด้วย

เกาะเกร็ด นนทบุรี

แหล่งเครื่องปั้นดินเผาชั้นดีสำหรับตกแต่งบ้าน กระถางปลูกต้นไม้ และมีเวลาท่องเที่ยวที่ ใช้เวลาเดินทางไม่นานจากกรุงเทพมหานคร เกาะเกร็ดเกาะกลางน้ำเจ้าพระยา อาจเป็นทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจ เพราะสามารถตอบโจทย์ทุกความต้องการของครอบครัว เกาะเกร็ต แหล่งท่องเที่ยวที่ขึ้นชื่อในจังหวัดนนทบุรี เกาะเกร็ดเป็นที่รู้จักกันดีในฐานะแหล่งชุมชนคนมอญที่มีชื่อเสียงใกล้กรุงเทพมหานคร เกาะแห่งนี้ขึ้นชื่อในเรื่องของเครื่องปั้นดินเผา จากชาวมอญที่มีฝีมือทางด้านการปั้นหม้อและเครื่องปั้นดินเผา จึงทำให้ทำการผลิตขึ้นมาเพื่อใช้ในครัวเรือนแต่เมื่อผลิตจนเกินความจำเป็น ได้มีการนำเครื่องปั้นดินเผาของชาวเกาะเกร็ดไปแลกอาหารและของใช้อื่นๆ จึงทำให้ในเวลาต่อมา เครื่องปั้นดินเผา เกาะเกร็ด จึงเป็นที่รู้จักและเป็นที่นิยม เอกลักษณ์ที่สำคัญที่ทำให้ เครื่องปั้นดินเผาเกาะเกร็ดมีชื่อเสียง นั่นก็คือ ลายที่วิจิตร ซึ่งในยุคหนึ่งได้รับความนิยมจัดให้เป็นของกำนัลชั้นสูงสำหรับมอบให้กับผู้ใหญ่ที่เคารพ โดยลายวิจิตรจะมีลักษณะที่เป็นเอกลักษณ์ใช้มือในการแกะสลักเป็นลวดลายต่างๆ ตั้งแต่ฝา บ่า และเชิงฐาน ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ที่โดดเด่นของเครื่องปั้นดินเผาเกาะเกร็ดโดยลายที่นิยมบรรจงลงบนภาชนะจะมีลักษณะเป็นลายธรรมชาติเช่นลายดอกไม้กลม ลายบัวคว่ำบัวหงาย ลายเครือเถา ลายพูมะยม โดยยังมีลักษณะเป็นเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนใครและยังคงอยู่จนถึงทุกวันนี้ ส่วนสนนราคานั้น ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 10 บาท ถึงหลัก 1000 บาท ขึ้นอยู่กับขนาดและความยากง่ายของการแกะสลักลาย นอกจากนี้แล้ว ประเพณีวัฒนธรรมแบบพื้นบ้านดั้งเดิม ที่ยังคงอนุรักษ์ไว้ได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้แล้วเกาะเกร็ดยังมีพระเจดีย์มุเตาของวัดปรมัยยิกาวาส ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ประจำฝั่งท่าน้ำของเกาะ และนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ที่ได้มาเที่ยวบนเกาะเกร็ดนี้ ยังสามารถมาเดินเที่ยว เดินช้อปปิ้ง หรือหาของอร่อยๆ ทานอีกทั้ง ขนมไทยที่สามารถหาทานได้ยากอีกด้วย เช่น ขนมทองเอก เสน่ห์จันทร์ กระเช้าสีดา ขนมไข่ในรังเงินเป็นต้น หรือนั่งทานอาหาร บรรยากาศริมน้ำเกาะเกร็ด บ้างก็นั่งเรือชมรอบเกาะ สินค้าที่สิ่งที่เป็นสัญลักษณ์เด่นของ ซึ่งเกาะเกร็ดนอกจากเครื่องปั้นดินเผาแล้วยังมีโอ่ง กระถางเซรามิกรูปร่าง ต่างๆ ในราคาย่อมเยา มีให้เลือกซื้อเลือกมากมาย ด้วยกันนั้นเกาะเกร็ดยังขึ้นชื่อเรื่องอาหารสมุนไพรเพื่อสุขภาพที่อร่อย เช่น ทอดมันหน่อกะลา ดอกไม้ทอด ข้าวแช่ เป็นต้น



ความเสี่ยงด้านความปลอดภัยที่บ้านสำหรับผู้สูงอายุที่พบบ่อยที่สุด

1.ลื่นล้ม

การลื่นล้มเป็นสาเหตุหลักของการบาดเจ็บในผู้ใหญ่อายุ 65 ปีขึ้นไป และส่วนมากเกิดขึ้นในบ้านของบุคคล ในความเป็นจริง สภาความปลอดภัยแห่งชาติรายงานว่าผู้สูงอายุเกือบหนึ่งในสามประสบอุบัติเหตุจากการหกล้มในแต่ละปี และ 70% ของการหกล้มเกิดขึ้นที่บ้าน เนื่องจากการหกล้มเป็นปัจจัยเสี่ยงอันดับหนึ่งในกลุ่มอายุสูงอายุ ผู้สูงอายุจึงจำเป็นต้องระมัดระวังเป็นพิเศษเพื่อคำนึงถึงการเปลี่ยนแปลงทางร่างกายของอายุ เช่น การได้ยินและการมองเห็นลดลง ความหนาแน่นของกระดูกลดลง ปัญหาการทรงตัว และอื่นๆ ข้อควรระวังบางประการที่คุณสามารถทำได้ ได้แก่:

1.1 กำจัดปัจจัยเสี่ยงจากการสะดุด เช่น ของเกะกะ เฟอร์นิเจอร์ชิ้นเล็กๆ สายไฟ พรม และพรมที่หลุดลุ่ยหรือปิดเทปอันตรายที่อาจเกิดขึ้น

จัดให้มีพื้นที่เดินเพียงพอในทุกพื้นที่ด้วยการจัดวางเฟอร์นิเจอร์ใหม่

1.2 ตรวจสอบให้แน่ใจว่าทุกส่วนของบ้านมีแสงสว่างเพียงพอ

1.3 การออกกำลังกายและกายภาพบำบัดเพื่อเพิ่มความสมดุลและความแข็งแรง

1.4 สวมรองเท้ากันลื่นบนพื้นผิวเรียบและทำความสะอาดคราบที่หกทันทีที่เกิดขึ้น

1.5 ใช้ไม้เท้าหรือวอล์คเกอร์เสมอ แทนที่จะจับเฟอร์นิเจอร์หรือผนัง

ทำให้ห้องน้ำปลอดภัยโดยการติดตั้งราวจับในห้องอาบน้ำและใกล้ห้องน้ำ และวางแผ่นยางรองในห้องอาบน้ำและบนพื้นห้องน้ำ

1.6 ใช้อุปกรณ์สื่อสารกับบริการทางการแพทย์ในกรณีฉุกเฉิน

2. ไฟไหม้

ไฟไหม้เป็นความเสี่ยงในบ้านทุกหลัง และโดยเฉพาะอย่างยิ่งในบ้านที่ผู้สูงอายุอาจต้องใช้ออกซิเจน เพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดเพลิงไหม้ ตรวจสอบให้แน่ใจเสมอว่ามีเครื่องตรวจจับควันไฟพร้อมแบตเตอรี่ใหม่ในบ้าน อย่าให้เทียนหรือไฟไหม้ในห้องว่าง หลีกเลี่ยงเปลวไฟหรือสูบบุหรี่ใกล้ถังออกซิเจน ตรวจสอบอุปกรณ์ว่ามีสายไฟหลุดลุ่ยแล้วปล่อย ระยะห่างอย่างน้อย 3 ฟุตระหว่างเครื่องทำความร้อนกับสิ่งที่สามารถเผาไหม้ได้ เช่น เสื้อผ้า เฟอร์นิเจอร์ หรือผ้าม่าน

3.วัตถุมีพิษ

พิษจากอุบัติเหตุสามารถเกิดขึ้นได้หลายวิธี และอาจเป็นอันตรายต่อผู้สูงอายุที่อาจมียาหลายชนิด เพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงที่จะเกิดพิษ ให้ติดตั้งเครื่องตรวจจับก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ใกล้ห้องนอนทุกห้อง ห้ามทำให้บ้านร้อนด้วยเตาหรือเตาอบ หลีกเลี่ยงการผสมผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด เช่น สารฟอกขาวหรือแอมโมเนีย จัดยาให้เป็นระเบียบและติดฉลากในภาชนะเดิม ใช้ยาในห้องที่อนุญาตให้ใช้ . เพื่ออ่านฉลากและให้แน่ใจว่าใช้ยาตามคำแนะนำ

5. การล่วงละเมิดและอาชญากรรม

ผู้สูงอายุอาจเป็นเป้าหมายของอาชญากรได้ง่าย ตรวจสอบให้แน่ใจว่าประตูและหน้าต่างมีตัวล็อคแน่นหนา และอย่าให้คนแปลกหน้าเข้ามาในบ้าน แบ่งปันข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกันกลลวงของมิจฉาชีพที่มาในรูปแบบต่าง ๆ



5 ประโยชน์ของการออกกำลังกายสำหรับผู้สูงอายุ

การออกกำลังกายเป็นสิ่งที่ดีสำหรับคนทุกเพศทุกวัย และควรเป็นส่วนหนึ่งในกิจวัตรประจำวัน การออกกำลังกายมีประโยชน์ที่สำคัญต่อสุขภาพ และจะมีความสำคัญมากขึ้นตามลำดับเมื่อเราอายุมากขึ้น การออกกำลังกายเป็นประจำสำหรับผู้สูงอายุจะช่วยปรับปรุงสุขภาพจิตและร่างกาย

ข้อดี 5 ประการของการออกกำลังกายสำหรับผู้สูงอายุ

1. ป้องกันโรค

จากการศึกษาพบว่าการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอสามารถช่วยป้องกันโรคต่าง ๆ ที่พบบ่อย เช่น โรคหัวใจและโรคเบาหวาน การออกกำลังกายช่วยปรับปรุงการทำงานของภูมิคุ้มกันโดยรวม ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญสำหรับผู้สูงอายุ เนื่องจากระบบภูมิคุ้มกันมักเสื่อมลงเมื่ออายุมากขึ้น แม้แต่การออกกำลังกายเบาๆ เช่น การเดินอย่างสม่ำเสมอก็ถือว่าเป็นการออกกำลังกายที่มีประสิทธิภาพในการป้องกันโรค

2. สุขภาพจิตดีขึ้น

การออกกำลังกายจะสร้างเอ็นดอร์ฟิน (ฮอร์โมน "รู้สึกดี") ซึ่งทำหน้าที่เป็นการปลดปล่อยความเครียดและทำให้รู้สึกมีความสุขและพึงพอใจ นอกจากนี้การออกกำลังกายยังเชื่อมโยงกับการนอนหลับที่ดีขึ้น ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งสำหรับผู้สูงอายุที่มักมีอาการนอนไม่หลับและนอนหลับไม่ต่อเนื่อง

3. ลดความเสี่ยงของการหกล้ม

ผู้สูงอายุมีความเสี่ยงสูงที่จะหกล้ม ผู้สูงวัยใช้เวลาในการฟื้นตัวจากการหกล้มนานกว่าคนในวัยหนุ่มสาวมาก ดังนั้นสิ่งใดที่ช่วยหลีกเลี่ยงได้ตั้งแต่แรกจึงเป็นสิ่งสำคัญ การออกกำลังกายจะช่วยเพิ่มความแข็งแรงและความยืดหยุ่น ซึ่งช่วยปรับปรุงการทรงตัวและการประสานงานของการเคลื่อนไหวร่างกาย

4. การมีส่วนร่วมทางสังคม

การออกกำลังกายก็สามารถสร้างกิจกรรมทางสังคมที่สนุกสนานได้ เช่น เข้าร่วมกลุ่มเดิน คลาสฟิตเนสแบบกลุ่ม หรือเยี่ยมชมชมรมทำสวน การรักษาความสัมพันธ์ทางสังคมเป็นสิ่งสำคัญสำหรับผู้สูงวัยที่จะรู้สึกถึงจุดมุ่งหมายและหลีกเลี่ยงความรู้สึกเหงาหรือความหดหู่ใจ

5. ปรับปรุงฟังก์ชันความรู้ความเข้าใจ

การออกกำลังกายเป็นประจำและทักษะที่ปรับให้เหมาะสมจะเป็นประโยชน์ต่อการทำงานขององค์ความรู้ การศึกษา การคิดคำนวณ บวกลบคูณหารเลข แพทย์แนะนำว่าความเสี่ยงที่ลดลงของภาวะสมองเสื่อม