ดูแลสัตว์เลี้ยง ใน บางคอแหลม, กรุงเทพมหานคร

ดูแลสัตว์เลี้ยง ใน บางคอแหลม, กรุงเทพมหานคร

คุณต้องการใช้บริการนี้เมื่อไหร่?
ตอนนี้
ระบุวันที่

วิธีการทำงาน

Saijai

ติดต่อเรา

ติดต่อเราโดยตรงผ่าน LINE OA เพื่อจองบริการที่คุณต้องการ

Saijai

แจ้งรายละเอียดให้เราทราบ

เลือกบริการ วันที่ เวลา และสถานที่ที่คุณต้องการให้ตรงกับความต้องการของคุณ

Saijai

ยืนยันการจองของคุณ

เราจะยืนยันการจองของคุณภายใน 24 ชั่วโมงผ่านทาง LINE OA

เทพทัต กะโปงทอง
เทพทัต กะโปงทอง
Saijai ประสบการณ์ 2-3 ปี
Saijai อายุ 20 ปี

ใจเย็น รักสัตว์ มีความอดทนอดกลั้น เคยเลี้ยงสัตว์

แสดงเพิ่มเติม
Lalitta  Suttama
Lalitta Suttama
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี

รักน้อง ดูแลเอาใจใส่ทุกรายละเอียด

แสดงเพิ่มเติม
ปุ๊ ทองเฟื้อง
ปุ๊ ทองเฟื้อง
Saijai ประสบการณ์ 2-3 ปี
Saijai อายุ 33 ปี

สวัสดีค่ะชื่อ ปุ๊ ค่ะ ทำอาชีพค้าขายค่ะ ชอบงานอิสระที่สามารถได้มีเวลาอยู่กับคนที่เรารัก สัตว์เลี้ยง หรือสิ่งที่เราชอบ ตอนนี้ที่บ้านเลี้ยงแมว9ตัว เลี้ยงสุนัข2ตัวค่ะ มีความสุขมากๆที่ได้อยู่กับพวกเค้า เลยสนใจเลือกงานนี้เป็นอาชีพเสริมค่ะ ขอบคุณค่ะ

แสดงเพิ่มเติม
ดายานา มนูญ
ดายานา มนูญ
Saijai ประสบการณ์ 0-1 ปี
Saijai อายุ 22 ปี
ปาลมิกา อ๊ะนา
ปาลมิกา อ๊ะนา
Saijai อายุ 31 ปี

เลี้ยงสัตว์มาหลายปีมีประสบการณ์ด้วยตนเองสำหรับการเลี้ยงสัตว์ ใจเย็น รักสัตว์ อัตราค่าจ้างตามผู้ว่าจ้างจะจ่าย

แสดงเพิ่มเติม

สัตวแพทย์แผนปัจจุบันมีใบอนุญาตประกอบโรคศิลป์ถูกต้องตามกฎหมาย ประสบการณ์ทำงานทั้งทางด้านอายุกรรมและศัลยกรรมนาน 7 ปีมีทักษะพิเศษในด้านสัตวแพทย์ทางเลือกหลายแขนง ทั้งทางด้านการฝังเข็มกายภาพตามหลักสัตวแพทย์ศาสตร์จีน(ผ่านการอบรมจาก Chi University) และสมุนไพรไทย(กำลังศึกษาเภสัชกรรมไทย ร.ร.ภัทรเวชสยาม)สามารถสื่อสารได้ดีทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ (เคยอยู่อาศัยต่างประเทศ)ขณะนี้อยู่ระหว่างเตรียมตัวศึกษาต่อ ยินดีให้ความช่วยเหลือสัตว์ป่วยที่มีข้อจำกัดในการออกนอกสถานที่ ทั้งในด้านการเก็บตัวอย่างเพื่อประกอบการรักษา ฝังไมโครชิพ ดำเนินการด้านสุขภาพต่างๆ การขนย้ายประสานงานการรักษากับสถานพยาบาลสัตว์ที่มีมาตรฐานใกล้เคียง จัดส่งชันสูตรซาก ฌาปนกิจตามหลักศาสนา ไปจนถึงงานจิตอาสาอื่นๆ

แสดงเพิ่มเติม
ศตวรรษ ทับทิม
ศตวรรษ ทับทิม
Saijai ประสบการณ์ 1-2 ปี

ผมรักสัตว์เคยทำงานเป็นผช.สัตว์แพทย์​ มีความอดทนสูง​

แสดงเพิ่มเติม
ภิรมยา หลวงไชย์
ภิรมยา หลวงไชย์
Saijai ประสบการณ์ 3-4 ปี

สวัสดีค่ะ อยากหารายได้เสริมหลังจากเลิกงาน20:00 จากงานประจำค่ะ ตอนนี้ทำงานเป็นผู้ช่วยสัตว์เเพทย์ โรงพยาบาลสัตว์ อายุงาน3-4 ปี รักสัตว์มากค่ะ ไม่รังเกียจอึ ฉี่ ป้อนยา ป้อนอาหาร เฝ้าสังเกตุอาการสัตว์ป่วย เเละอื่นๆ ( ยกเว้นตัวที่ดุร้าย ) ขอบคุณค่ะ

แสดงเพิ่มเติม
ณัฐวุฒิ  ฉัตรมณี
ณัฐวุฒิ ฉัตรมณี
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี
ผ่านการตรวจสอบประวัติบุคคล

เป็นคนใจเย็นรักสัตว์ เลี้ยงสัตว์มาตั้งเด็กมีความเข้า

ธรรมชาติของสัตว์ ดูแลได้เป็นอย่างดีคับ

แสดงเพิ่มเติม
รุจิระหงส์ มังคละวงศ์
รุจิระหงส์ มังคละวงศ์
Saijai ประสบการณ์ 0-1 ปี

รักสัตว์ ใจดี ใจเย็น

แสดงเพิ่มเติม
พรภสร ขุนด่าน
พรภสร ขุนด่าน
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี
ผ่านการตรวจสอบประวัติบุคคล

รักสัตว์ ซื่อสัตย์ มีวินัย ไว้ใจได้ รักษาคำพูด

แสดงเพิ่มเติม
ธีรวุฒิ หูประโคน
ธีรวุฒิ หูประโคน
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี

รักสัตว์ พาเดินเล่นได้ ดูแลสัตว์เลี้ยงค้างคืน

แสดงเพิ่มเติม
ศศิกานต์ ดอกพรม
ศศิกานต์ ดอกพรม
Saijai อายุ 23 ปี

เป็นคนที่ใจเย็น และชอบอยู่กับสัตว์เลี้ยงต่างๆ

แสดงเพิ่มเติม
อังคณา ภักดิ์ชัยภูมิ
อังคณา ภักดิ์ชัยภูมิ

รักสัตว์ ใจเย็น มีความอดทนสูง

แสดงเพิ่มเติม
มาเรียม พรั่งเกิด
มาเรียม พรั่งเกิด
Saijai ประสบการณ์ 2-3 ปี
Saijai อายุ 46 ปี

มีประสบการณ์ทำงานแม่บ้าน ดูแลสัตว์เลี้ยง ทำอาหารง่าย ๆ ได้ เช่น ข้าวผัด อาหารตามสั่ง รักสัตว์หมาแมว เคยเข้ารับการอบรมกับ life university เกี่ยวกับจิตวิทยา และการเป็นโค้ช NLP มีทัศนคติเชิงบวกสูง มีมารยาท นวดได้มีใบอนุญาตถูกต้องค่ะ

แสดงเพิ่มเติม
ณัฐกฤตา เทพสุภา
ณัฐกฤตา เทพสุภา
Saijai ประสบการณ์ 1-2 ปี

ทำงานอยู่ที่ ร้าน little zoo คาเฟ่ค่ะ อยากได้รายได้เสริมเนื่องจากช่วงนี้โควิทร้านถูกปิด จึงขาดรายได้ ดูแลสัตว์ได้ทุกชนิด ทุกประเภทนะคะ

แสดงเพิ่มเติม

ตั้งใจทำงาน อยู่ในจริยธรรมและศีลธรรม

แสดงเพิ่มเติม

เป็นคนรักสัตว์ ปัจจุบันเลี้ยงน้องแมวอยู่ 4 ตัวค่ะ สามารถเข้ากับสัตว์เลี้ยงได้เป็นอย่างดี สังเกตุความผิดปกติของสัตว์เลี้ยงได้ดี

แสดงเพิ่มเติม
Chanatda  Auiyuanphok
Chanatda Auiyuanphok
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี

เป็นคนรักสัตว์ ชอบอยู่กับสัตว์เลี้ยง สามารถดูแลลูกแมวหรือลูกสุนัขแรกเกิดได้

แสดงเพิ่มเติม

ที่บ้านเลี้ยงแมวและหมาอยู่ค่ะ รักสัตว์และชอบเล่รกับสัตว์ค่ะ

แสดงเพิ่มเติม

ข้อมูลสถิติน่าสนใจเกี่ยวกับ

Saijai จำนวนประชากร
Saijai จำนวนประชากรเด็ก (แรกเกิด-14 ปี)
Saijai จำนวนประชากรสูงอายุ (60 ปี ขึ้นไป)
Saijai จำนวนสัตว์เลี้ยง สุนัข

รีวิวล่าสุด

น้องแมว 2 ตัว ไม่สามารถเดินทางไปกับครอบครัวเราได้ ลูกสาวจึงหาที่ดูแล เจอเว็บใส่ใจ ที่ฝากเลี้ยงอยู่ใกล้บ้าน จึงฝากใส่ใจให้ดูแล ห้องพักแยกออกมาเป็นสัดส่วน น้องมีของเล่น คลายเหงา
Saijai
วรากร พงศ์ศิริพัฒน์
4 ปีที่แล้ว
เหตุผลที่เลือกใช้บริการดูแลสัตว์เลี้ยง เพราะว่าไม่มีเวลาดูแลน้องหมาน้องแมวที่บ้านเลยจ้างพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงมาดูแลแทนเวลาเราไม่อยู่ อยากแนะนำสำหรับใครที่กำลังมองหาพี่เลี้ยงสัตว์ที่ราคาไม่สูง ผู้ให้บริการบนเว็บไซต์ใส่ใจเป็นตัวเลือกที่ดีเลยค่ะ
Saijai
มัจฉา รุ่งอนันต์
4 ปีที่แล้ว
เว็บใช้งานง่ายไม่ยุ่งยาก ใช้ครั้งแรกชอบเลย ได้พี่เลี้ยงมาดูแลน้องแมวให้ถึงบ้าน สบายใจทาสแมวอย่างเราไปเลยค่ะ
Saijai
ณัฐฐา แก้วดี
4 ปีที่แล้ว
ลองเรียกคนดูแลน้องหมาผ่านเว็บใส่ใจ พี่เลี้ยงเขาเฟรนด์ลี่มาก พาน้องไปวิ่งออกกำลังกายตอนเย็น รู้สึกประทับใจพี่เลี้ยงมาก ๆ เลยค่ะ
Saijai
อรัชกร แซ่ลี้
4 ปีที่แล้ว
สะดวกมากเลยค่ะ นัดพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงที่เราต้องการมาดูแลน้องหมาที่บ้านได้เลย ไม่ยุ่งยาก ระบบใช้งานง่าย สะดวกสุด ๆ ค่ะ ชอบ ๆ
Saijai
ธีรศักดิ์ เหมศักดิ์
1 วินาทีที่แล้ว

คำถามที่พบบ่อยสำหรับการค้นหา ดูแลสัตว์เลี้ยง

ขอดีของการมีสัตว์เลี้ยง
เครียด เหงา เศร้า บางครั้งเราต้องการคนมาคอยรับฟังปัญหา ซึ่งนอกจากเพื่อนสนิท หรือคนในครอบครัวแล้ว อีกหนึ่งทางเลือกก็คือ การมีสัตว์เลี้ยง เช่น สุนัข แมว นก ปลา ซึ่งเป็นสัตว์เลี้ยงที่คนนิยม สัตว์เลี้ยง สามารถช่วยเยียวยาจิตใจให้กับผู้ที่กำลังตกอยู่ในสภาวะเหงาและเครียด ไปจนถึงผู้ที่มีภาวะซึมเศร้าได้เป็นอย่างดี คุณทราบหรือไม่ว่าการเลี้ยงสัตว์มีประโยชน์ต่อเรามากกว่าที่คิด มาดูข้อดีกันเลยค่ะ

- การเลี้ยงสุนัขหรือแมวเพื่อบำบัดความเครียดหรือในต่างประเทศเรียกว่า Pets Therapy (สัตว์เลี้ยงบำบัด) ซึ่งมีผลการศึกษาวิจัยมานานแล้วว่า การเป็นเจ้าของสัตว์เลี้ยงนั้น สามารถช่วยเยียวยาผู้ป่วยได้จริง ทั้งยังมีคำแนะนำให้ผู้สูงอายุเลี้ยงสัตว์เพื่อบรรเทาความเหงาและป้องกันโรคซึมเศร้าอีกด้วย

- การมีสัตว์เลี้ยงช่วยลดคอเลสเตอรอลโดยผลการศึกษาพบว่าคนที่เลี้ยงสัตว์จะมีค่าคอเลสเตอรอลและไขมันในเลือดอย่างไตรกลีเซอร์ไรด์น้อย เนื่องจากมีกิจกรรมพาสัตว์เลี้ยงไปเดินออกกำลังกายนั่นเอง
- ช่วยลดความดันโลหิต เพราะการมีสัตว์เลี้ยงจะทำให้เราคลายเครียด ส่งผลให้ความดันโลหิตลดลง จากการศึกษาโดยมหาวิทยาลัยแห่งรัฐนิวยอร์กพบว่า ผู้ที่อยู่ในระหว่างการรักษาโรคความดันโลหิตสูงจะมีค่าความดันโลหิตที่ต่ำลงเมื่อมีสัตว์เลี้ยง

- Rebecca A. Johnson ผู้อำนวยการศูนย์การวิจัยความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์และสัตว์ มหาวิทยาลัยมิสซูรี ได้กล่าวว่า เพียงแค่มองสัตว์เลี้ยง สมองจะหลั่งออกซิโทซิน ทำให้มีความสุขและลดฮอร์โมนคอร์ติซอลที่ทำให้เกิดความเครียด โดยมีผลการวิจัยกับทหารผ่านศึกชาวสหรัฐอเมริกา ที่ประสบภาวะผิดปกติทางจิตใจหรือ PTSD พบว่า ทหารผ่านศึกนายนั้นไม่กล้าออกจากบ้านโดยไม่มีภรรยาไปด้วย เมื่อได้ลองเลี้ยงสุนัข เพียงไม่กี่อาทิตย์เขาก็มีสุขภาพจิตที่ดีขึ้นและกล้าที่จะออกจากบ้านเพียงล
ทักษะที่พี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงที่ดีควรมี
การดูแลสัตว์เปรียบเสมือนการดูแลบุคคลในครอบครัว เมื่อตัดสินใจรับมาเลี้ยงแล้ว ต้องมีความรับผิดชอบที่จะดูแลเขาไปตลอดชีวิต แต่หากเรามีความจำเป็นที่จะต้องเดินทางไปต่างจังหวัด หรือมีภาระอื่น ๆ ที่ต้องรับผิดชอบ และไม่สามารถดูแลสัตว์เลี้ยงของเราได้ในบางตรั้ง และจำเป็นต้องหาคนมาดูแลสัตว์เลี้ยงชั่วคราว หรือที่เรียกว่าพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยง

พี่เลี้ยงสัตว์ควรมีทักษะและคุณลักษณะดังต่อไปนี้

• มีความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับสัตว์สายพันธุ์ต่าง ๆ ซึ่งมีความแตกต่างกันในหลายๆด้าน
• รู้จักลักษณะนิสัยของสัตว์ และรักสัตว์
• ผู้ดูแลสัตว์เลี้ยงไม่จำเป็นต้องจบการศึกษาเฉพาะทางหรือผ่านการฝึกอบรม แต่ควรมีความคุ้นเคยกับการดูแลสัตว์และเข้าใจพฤติกรรมของสัตว์ในทุก ๆ ด้าน
• พี่เลี้ยงสัตว์ทำหน้าที่คล้ายกับพี่เลี้ยงเด็ก คือ คอยดูแลใส่ใจรายละเอียดต่าง ๆ ของสัตว์ หากสัตว์เลี้ยงป่วยและปล่อยไว้นานและไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงทีอาจมีอันตรายถึงแก่ชีวิตได้
• พี่เลี้ยงสัตว์มีหน้าที่ให้น้ำและอาหาร พาสัตว์ไปออกกำลังกาย และรู้จักการให้ยาหรือดูแลเบื้องต้นเมื่อสัตว์ป่วย
• หากเป็นพี่เลี้ยงสัตว์ประเภท สุนัขหรือแมวจะต้องสามารถแปรงขนและทำความสะอาดฟันเบื้องต้นได้
• ทำความสะอาดอุจจาระหรือปัสสาวะของสัตว์เลี้ยง
• พี่เลี้ยงสัตว์ต้องคอยรายงานความเป็นอยู่ของสัตว์ให้เจ้าของได้รับทราบเป็นระยะ ๆ อาจมีการถ่ายรูปหรือคลิปส่งให้เจ้าของได้ดูเพื่อความมั่นใจและสบายใจด้วย
• พี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงจะต้องอยู่ที่บ้านในขณะที่เจ้าของบ้านไม่อยู่ ดังนั้น ควรมีความซื่อสัตย์และบุคลิกที่น่าไว้วางใจ
สัญญานที่บ่งบอกว่าสัตว์เลี้ยงของคุณมีอาการป่วยมีอะไรบ้าง
สำหรับผู้ที่มีสัตว์เลี้ยง การสังเกตพฤติกรรมในแต่ละวันของสัตว์เป็นสิ่งสำคัญที่เราไม่สามารถมองข้ามได้ เพราะหลายๆครั้งกว่าที่เราจะรู้ว่าสัตว์เลี้ยงที่เรารักมีอาการป่วยก็ต่อเมื่อพวกเขามีอาการหนักแล้ว ใส่ใจอยากแบ่งปันความรู้กันและวิธีการสังเกตอาการเบื้องต้นที่เหมือนเป็นสัญญาณอันตรายที่เราไม่ควรมองข้าม เพื่อให้เราได้สังเกตและช่วยเหลือสัตว์เลี้ยงที่เรารักได้ทันเวลา

1. พบอาการป่วย หรือพบความผิดปกติอื่นๆที่สังเกตได้ เช่น มีขี้ตาเกรอะกรัง ตาแดง มีน้ำมูก หายใจติดขัด ขนร่วงเป็นหย่อมๆ มีสะเก็ดหรือมีกลิ่นตัวแรง เดินกะเผลก อาเจียน ถ่ายเหลว น้ำหนักลดลงในเวลาอันรวดเร็ว หรือแม้กระทั่งกินน้ำมากกว่าปกติ เพราะอาการเหล่านี้อาจเป็นสัญญาณเบื้องต้นที่อาจจะบ่งบอกว่าสัตว์เลี้ยงของเรากำลังป่วยก็เป็นได้
2. มีพฤติกรรมเบื่ออาหาร กินอาหารได้น้อยลง เป็นสิ่งที่เห็นชัดที่สุด หากสัตว์เลี้ยงของเรามีอาการเบื่ออาหาร ทั้งๆ ที่นิสัยเดิมกินเก่ง เจ้าของควรเฝ้าสังเกตอาการหรือนำไปให้คุณหมอตรวจสุขภาพ เพราะนั่นอาจเป็นสัญญาณบ่งบอกว่าสัตว์เลี้ยงเริ่มป่วย แต่ทั้งนี้เจ้าของต้องแยกให้ได้ก่อนว่า อาการกินอาหารลดลงนั้นไม่ได้มาจากสภาพแวดล้อมภายนอกอื่นๆ เช่น วัยที่เปลี่ยนไป เปลี่ยนอาหารใหม่ อากาศที่เปลี่ยนไปตามฤดูกาล หรือมีสิ่งมากวนใจที่อาจเป็นสาเหตุให้สัตว์เลี้ยงตัวน้อยกินได้ลดลง
3. มีอาการซึมไม่ร่าเริง นอนมากผิดปกติ เวลาเจ้าของเรียกจะไม่กระฉับกระเฉง ไม่มาเล่น ไม่มาหาเหมือนเคย เช่นสุนัขมีอาการ หาวบ่อย หากสุนัขดูอ่อนเพลีย ง่วง อยากพักผ่อน เกิดอาการหาวบ่อยครั้ง สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นสัญญาณเตือนว่าน้องหมากำลังเครียด เบื่อ หรือกระวนกระวายใจ แต่หากเป็นสัตว์เลี้ยงที่อายุมากแล้ว อาจจะร่าเริงน้อยลง ถือว่าเป็นเรื่องปกติ นอกจากนี้อาการซึมอาจเกิดมาจากอาการเหงา ซึมเศร้า ซึ่งนับเป็นอาการป่วยทางใจ อันอาจเป็นผลมาจากเจ้าของไม่ค่อยมีเวลาให้ก็เป็นได้ ดังนั้นเมื่อเรามีสัตว์เลี้ยงแล้ว การมีเวลาการเอาใจใส่ การได้สัมผัสก็ช่วยป้องกันและรักษาอาการป่วยทางใจได้
ผู้ว่าจ้างควรตกลงอะไรกับพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงก่อนทำการจ้าง
ผู้ว่าจ้างควรตกลงอะไรกับพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงก่อนทำการจ้าง เจ้าของสัตว์เลี้ยงที่เป็นห่วงและต้องการพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงและมาดูแลสัตว์เลี้ยงในช่วงเวลาที่ไม่อยู่บ้านหรือไม่มีเวลาพาน้อง ๆ ไปเดินเล่น มักมองหาผู้ช่วยงานในส่วนนี้และก่อนที่จะเริ่มงานกันต้องมีข้อตกลงกัน เพื่อให้พี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงและผู้ว่าจ้างรู้สึกสบายใจกันทั้งสองฝ่าย

1. สอบถามประสบการณ์ของพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยง พี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงทุกคนรู้ดีว่าการเลี้ยงสัตว์ แต่ละชนิดมีความแตกต่างกันตามสายพันธุ์ ต้องมีความรู้ความเข้าใจเป็นพิเศษที่จะดูแลสัตว์นั้นๆ เพราะมีหน้าที่มากกว่าการให้อาหาร หรือ พาสัตว์เข้านอน การชวนสัตว์เลี้ยงเล่นหรือทำกิจกรรม หรือเคยดูแลสัตว์ชนิดไหน สายพันธุ์อะไรมาก่อน
2. ระยะเวลาในการทำงาน อาจจะไม่ต้องตลอดทั้งวันหรือเป็นบางช่วงเวลา การพาสัตว์เลี้ยงไปเดินเล่น ไปทำกิจกรรมในเวลาเช้า หรือเวลาเย็น หรือต้องดูแลตลอดทั้งวันในช่วงที่เจ้าของต้องไปทำงาน
3. ค่าจ้างในการทำงานของพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยง ขึ้นอยู่กับประเภทของสัตว์เลี้ยง หน้าที่ความรับผิดชอบ เช่น ต้องให้อาหารกี่ครั้ง ต้องพาไปเดินเล่นหรือไม่ ต้องทำความสะอาดด้วยหรือเปล่า และความยากง่ายในการดูแลตามชนิดและสายพันธุ์ของสัตว์เลี้ยงนั้น ๆ
4. ลองถามคำถามที่น่าสนใจในระหว่างการสัมภาษณ์พี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงดูเพื่อให้รู้สึกถึงบุคลิกของผู้สมัคร เช่น อะไรคือสิ่งที่สนุกที่สุดหรือน่าอายที่สุดที่คุณเคยสัมผัสกับสัตว์ตัวหนึ่ง ผู้ดูแลสัตว์เลี้ยงที่ดีจะแสดงความรักที่แท้จริงต่อสัตว์เลี้ยงในการตอบคำถามของคุณ ถามเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงที่พวกเขาเคยเป็นเจ้าของหรือดูแลมาก่อน คนที่รักสัตว์จะกระตือรือร้นที่จะเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงของตนเองให้คุณฟัง จากการพูดคุยในลักษณะนี้คุณสามารถวัดความรักที่มีต่อสัตว์และระดับความตื่นเต้นเกี่ยวกับโอกาสในการทำงานนี้ได้เลยทีเดียว

จะดีหรือไม่ถ้ามีใครที่เชื่อถือได้พร้อมให้คำแนะนำและพร้อมทำตามข้อตกลง ด้วยใจรักต่อสัตว์เลี้ยงจากใจจริงที่จะดูแลสัตว์เลี้ยงให้กับท่านทุกความกังวลก็จะหมดไป

สวนสาธารณะเฉลิมพระเกียรติ 6 รอบ พระชนมพรรษา ที่พักผ่อนหย่อนใจ

สวนสาธารณะเฉลิมพระเกียรติ 6 รอบ พระชนมพรรษา เป็นสวนสุขภาพฝั่งพระนคร ตั้งอยู่เชิงสะพานพระราม 9 ถนนพระรามที่ 3 เขตบางคอแหลมแห่งนี้มีพื้นที่ทั้งหมด 29 ไร่ มีการสร้างควบคู่กับสวนสาธารณะฝั่งธนบุรีอีก 23 ไร่ รวมเป็น 52 ไร่ เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดช ในวโรกาสเฉลิมพระชนมพรรษาครบ 6 รอบ ในวันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2542 โดยได้รับการสนับสนุนจากการทางพิเศษแห่งประเทศไทย กระทรวงมหาดไทย หน่วยงานภาครัฐและเอกชน เปิดให้บริการเมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2543 และได้รับพระราชทานชื่อสวนแห่งนี้ว่า สวนสาธารณะเฉลิมพระเกียรติ 6 รอบ พระชนมพรรษา จุดเด่นของสวนสาธารณะฝั่งพระนครนี้คือการนำปรากฏการณ์ธรรมชาติของน้ำขึ้น-น้ำลง มานำเสนอภายในสวน เนื่องจากสวนมีพื้นที่ติดแม่น้ำเจ้าพระยาและวิถีชีวิตของชาวไทยมีความผูกพันกับสายน้ำมาแต่อดีต จึงมีการออกแบบสวนสาธารณะแห่งนี้ให้สอดคล้องกับแนวคิด “สวนสุนทรีวิถีไทย” เพื่อชมความงามของสายน้ำ เพื่อการพักผ่อนริมน้ำท่ามกลางความร่มรื่น เพื่อเป็นสถานที่ออกกำลังกาย และยังใช้เป็นสถานที่จัดกิจกรรมด้านสิ่งแวดล้อม การรักษาและปกป้องสายน้ำด้วย ภายในสวนสาธารณะเฉลิมพระเกียรติ 6 รอบ พระชนมพรรษา มี กำแพงราชสดุดีมหาราชา เป็นที่แสดงพระบรมฉายาลักษณ์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ในวาระต่างๆ นอกจากนี้ยังมี ศาลาดนตรีไทย ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา เพื่อใช้เป็นที่บรรเลงดนตรีไทยในโอกาสต่างๆ ส่วนประติมากรรมตามจุดต่างๆในสวนมีการจัดวางขึ้นเพื่อระลึกถึงการก่อสร้างสะพานพระราม 9 สวนสาธารณะแห่งนี้ไม่เพียงแต่มีความร่มรื่นเหมาะแก่การพักผ่อนของครอบครัว พาคุณพ่อคุณแม่ ผู้สูงอายุ หรือเด็กๆมาเดินเล่น วิ่งเล่น หรือออกกำลังกาย ยังมีจุดชมวิวที่บริเวณทางเดินริมน้ำเพื่อชมความงามของสะพานแขวนหรือ สะพานพระราม 9 ควบคู่กับสายน้ำทั้งในช่วงพระอาทิตย์ขึ้นและพระอาทิตย์ตก นับว่าเป็นจุดชมวิวที่มีทิวทัศน์สวยงามมากแห่งหนึ่งของกรุงเทพมหานคร



รถรางสายบางคอแหลม รถรางสายแรกของประเทศไทย

ประเทศไทยมีระบบขนส่งแบบรางมาตั้งแต่ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว จากการให้สัมปทานกับวิศวกรชาวเดนมาร์กคนหนึ่ง หลังทำการวางรางเสร็จได้เริ่มเปิดให้วิ่งในปี พ.ศ. 2431 โดยใช้ม้าลากในระยะแรก ถือว่าเป็นกิจการรถรางครั้งแรกในเอเชีย รถรางระบบม้าลากสายแรกเริ่มต้นที่สายบางคอแหลม มีความยาว 9.18 กิโลเมตร เป็นเส้นทางศาลหลักเมือง- ถนนตก เริ่มต้นจากศาลหลักเมืองวิ่งไปตามทางถนนเจริญกรุง สิ้นสุดที่บริษัท อู่เรือกรุงเทพ จำกัด บริเวณถนนตกในปัจจุบัน ต่อมาปี พ.ศ. 2435 มีการโอนกิจการให้ บริษัทของชาติเดนมาร์ก และเปลี่ยนมาใช้รถรางไฟฟ้าแทนม้าลากโดยเช่ากระแสไฟฟ้าจากบริษัทอิเลคทริค ซิตี้ คอมปะนี ลิมิเต็ด และได้มีการเปิดใช้งานขบวนรถรางเคลื่อนที่ด้วยกระแสไฟฟ้าเป็นครั้งแรกในปี พ.ศ. 2437 ซึ่งถือว่าเป็นรถรางไฟฟ้าแห่งแรกของทวีปเอเชียอีกเช่นกัน หลังจากนั้นในปี พ.ศ. 2443 ได้เปิดรถราง “สายสามเสน” เพิ่ม ตามมาด้วย “สายดุสิต” ในปี พ.ศ. 2448 โดยบริษัท รถรางไทย หลังจากนั้นมีการเปลี่ยนโอนกิจการให้บริษัทอื่นๆอีก จนกระทั่งในปี พ.ศ. 2493 สัมปทานการเดินรถสิ้นสุด รัฐบาลเข้ามาดำเนินการต่อเองในนาม บริษัทการไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด ในสังกัดกระทรวงมหาดไทย ได้เข้ามาดำเนินกิจการ ให้บริการรถรางทั้งหมดจำนวน 8 เส้นทาง คือสายบางซื่อ สายสามเสน สายบางคอแหลม สายหัวลำโพง สายปทุมวัน สายสีลม สายดุสิต และสายร่วมฤดี รถรางส่วนใหญ่จะมี 2 สีคู่กัน แตกต่างไปตามเส้นทาง มีจำนวนตู้รถรางรวม 54 โบกี้ มีที่นั่ง26 ที่นั่ง ส่วนที่ว่างตรงกลางสามารถให้ผู้โดยสารยืนได้ 34 คน แต่ละคันมีกำลังขับ 40 แรงม้า และตัวถังรถรางทำการผลิตในประเทศไทย มีท่ารถรางอยู่ 4 แห่งคือสะพานดำ สะพานเหลือง บางกระบือ และ บางคอแหลม ส่วนสำนักงานใหญ่ที่มีโรงจอดรถรางที่เป็นโรงซ่อมในตัวอยู่ที่หลังโรงประปา สี่แยกแม้นศรี จนถึงปี พ.ศ. 2503 รัฐบาลมีนโยบายยกเลิกกิจการรถราง โดยเริ่มหยุดให้บริการทีละสาย เนื่องจากจำนวนรถยนต์มีปริมาณเพิ่มมากขึ้น และได้มีการยกเลิกรถรางสายสุดท้ายในปี พ.ศ. 2511 ถือเป็นการสิ้นสุดกิจการรถรางในประเทศไทยจากที่เคยได้ให้บริการมายาวนานถึง 80 ปี ป้ายรถรางป้ายสุดท้าย ณ บริเวณเวิ้งนาครเขษม ถนนเยาวราช ถูกปลดลงเมื่อวันที่ 4 มีนาคม พ.ศ. 2562 โดย กฟน. นำป้ายรถรางป้ายสุดท้ายนี้ไปจัดแสดง ณ ศูนย์เรียนรู้ พิพิธภัณฑ์การไฟฟ้านครหลวง เพื่อรำลึกถึงประวัติศาสตร์ของ กฟน. และเป็นหลักฐานทางประวัติศาสตร์เกี่ยวกับต้นกำเนิดระบบขนส่งมวลชนทางรางแห่งแรกของทวีปเอเชีย



มาทำอาหารให้น้องหมากันเถอะ

หลายคนเลี้ยงสุนัขเหมือนเป็นหนึ่งในสมาชิกของครอบครัวที่ต้องดูแลอย่างดี แน่นอนว่าเราอยากให้เขามีสุขภาพที่ดีและอยู่กับเราไปได้นาน ๆ เนื่องจากจริง ๆ แล้วอาหารของคนไม่เหมาะกับสุนัข ดังนั้นหากเราสามารถปรุงอาหารให้สุนัขของเรากินเองได้น่าจะเป็นเรื่องที่ดี

ก่อนอื่นเราต้องคำนึงถึงความสมดุลทางโภชนาการของสุนัขเพราะสุนัขแต่ละตัวมีความต้องการทางโภชนาการไม่เหมือนกัน ผู้เลี้ยงจึงต้องพิถีพิถันในการปรุงและคำนวณปริมาณแคลอรี่ที่เหมาะสมกับสุนัขแต่ละตัวเพื่อให้สุนัขได้รับสารอาหารที่ครบถ้วน ในการคำนวณปริมาณอาหารที่เหมาะสมให้สุนัขควรพิจารณาจากน้ำหนักตัว ช่วงอายุ สายพันธุ์และขนาด โดยสูตรที่นิยมในประเทศไทยคือ RER (kcal) = (30 x น้ำหนักตัว (กก.)) +70

เมื่อคำนวณหาปริมาณอาหารที่เหมาะสมได้แล้ว สิ่งต่อไปที่ต้องคำนึงถึงคือการเลือกวัตถุดิบที่มีคุณภาพโดยเน้น 4 กลุ่มโภชนาการหลักๆ คือ

1. ใส่โปรตีน ได้แก่โปรตีนจากไข่ และโปรตีนจากสัตว์ เช่นเนื้ออกไก่ เนื้อแกะ หรือโปรตีนจากถั่ว และเมล็ดพืช

2. เพิ่มไขมัน เช่นหนังไก่ แต่อย่าให้ปริมาณไขมันมากเกินไปเพราะจะทำให้สุนัขเป็นโรคอ้วนได้ ควรมีไขมันอย่างน้อย 5% ตามน้ำหนักตัว

3. ใส่คาร์โบไฮเดรต เนื่องจากคาร์โบไฮเดรตเป็นพลังงานที่สุนัขต้องการมาก ครึ่งหนึ่งของอาหารสุนัขควรมีคาร์โบไฮเดรตประกอบอยู่ด้วย เช่นข้าวสาลี ข้าวโอ๊ต เป็นต้น

4. เพิ่มแร่ธาตุต่าง ๆ ทั้งแคลเซียม ฟอสฟอรัส แม็กนีเซียม ธาตุเหล็ก ซีลีเซียม และทองแดง การขาดแร่ธาตุอาจส่งผลต่อกระดูก ทำให้กระดูกไม่แข็งแรง หักง่าย หรือมีภาวะโลหิตจาง ฉะนั้นควรเพิ่มผักที่มีแร่สูงลงไปในอาหารสุนัขด้วย อาทิเช่น ผักใบเขียวทั้งสุกและดิบอย่างคะน้า กะหล่ำดาว หัวผักกาดสุก หัวไชเท้าสุก กระเจี๊ยบเขียวสุก แครอท ฟักทอง

5. เพิ่มวิตามิน เนื่องจากการขาดวิตามินอาจทำให้เกิดปัญหาระบบภูมิคุ้มกัน ผิวหนังเป็นแผล ตาบอด จึงควรเพิ่มผักใบเขียวหรือผลไม้ที่มีวิตามินเช่น ผักโขม ส่วนผักหรือผลไม้บางอย่างที่อาจดีต่อคนแต่เป็นพิษกับสุนัข เช่น กระเทียม ช็อกโกแลต อะโวคาโด องุ่น ขนมปังยีสต์ เป็นต้น ผู้เลี้ยงจึงควรศึกษาหาข้อมูลให้ดีก่อนให้สุนัขที่เรารักกินอาหารต่างเข้าไป

ตัวอย่างเมนูที่ทำได้ง่ายๆเช่น ไข่ตุ๋นตับไก่ ส่วนผสมมีดังนี้

ไข่ไก่ 2 ฟอง

ตับไก่ 25 กรัม

แครอท 1/3 หัว

ข้าวโพด 30 กรัม และ น้ำเปล่า 1 ถ้วย

ส่วนวิธีทำก็ง่ายมากคือ ตีไข่ไก่ 2 ฟองเข้าด้วยกัน ผสมน้ำเล็กน้อย หั่นตับไก่ และแครอทเป็นชิ้นเล็กๆที่สามารถเคี้ยวง่ายๆ หั่นข้าวโพดให้ละเอียด นำตับไก่ แครอท และข้าวโพดผสมลงไปในไข่ไก่ที่ตีไว้เรียบร้อยแล้ว คนให้เข้ากันแล้วเทใส่ถ้วยหรือชามเพื่อนำไปนึ่งอีก 15 นาที เท่านี้ก็ได้อาหารสุนัขที่มีโภชนาการดีและทำได้ง่ายๆให้สุนัขตัวโปรดของเราแล้ว ทั้งนี้อย่าลืมว่าควรทำในปริมาณที่พอดีต่อมื้ออาหาร เพื่อไม่ให้อาหารเหลือค้าง และไม่ควรนำอาหารเหลือ หรือปรุงทิ้งไว้ข้ามคืนมาให้สุนัขที่เรารักกิน เพราะอาหารเหล่านั้นอาจจะบูดแล้ว ทำให้สุนัขของเราท้องเสียได้ ส่วนภาชนะที่ใช้หลังจากสุนัขกินเรียบร้อยแล้วควรล้างทำความสะอาดทุกครั้งเพื่อป้องกันเชื้อโรคที่อาจทำให้สุนัขป่วยได้