ดูแลเด็ก ใน คลองเตย, กรุงเทพมหานคร

ดูแลเด็ก ใน คลองเตย, กรุงเทพมหานคร

คุณต้องการใช้บริการนี้เมื่อไหร่?
ตอนนี้
ระบุวันที่

วิธีการทำงาน

Saijai

ติดต่อเรา

ติดต่อเราโดยตรงผ่าน LINE OA เพื่อจองบริการที่คุณต้องการ

Saijai

แจ้งรายละเอียดให้เราทราบ

เลือกบริการ วันที่ เวลา และสถานที่ที่คุณต้องการให้ตรงกับความต้องการของคุณ

Saijai

ยืนยันการจองของคุณ

เราจะยืนยันการจองของคุณภายใน 24 ชั่วโมงผ่านทาง LINE OA

ยังไม่มีข้อมูลผู้ให้บริการ
ยังไม่มีข้อมูลผู้ให้บริการ

ข้อมูลสถิติน่าสนใจเกี่ยวกับ

Saijai จำนวนประชากร
Saijai จำนวนประชากรเด็ก (แรกเกิด-14 ปี)
Saijai จำนวนประชากรสูงอายุ (60 ปี ขึ้นไป)
Saijai จำนวนสัตว์เลี้ยง สุนัข

รีวิวล่าสุด

พี่เลี้ยงเด็กที่จ้างผ่านเว็บใส่ใจคือดีจริง ๆ พี่เลี้ยงเด็กมีประสบการณ์ในการเลี้ยงดูเด็กและเป็นคนที่ซื่อสัตย์มาก ทำให้คนเป็นแม่อย่างเราหายห่วงลูกเลยจริง ๆ หากใครที่กำลังมองหาพี่เลี้ยงเด็ก บริการของทางใส่ใจถือเป็นตัวเลือกที่ดีเลยทีเดียวสำหรับคุณพ่อคุณแม่ยุคใหม่ที่ต้องทำงานนอกบ้าน
Saijai
กรรชัย วงศ์พานิชญ์
3 ปีที่แล้ว
ดิฉันกับสามีทำงานประจำทั้งคู่ค่ะ ไม่มีใครคอยอยู่ดูแลลูกที่บ้านเลย ลูกติดนิสัยชอบอยู่แต่ในบ้านและซนกับพี่เลี้ยงมาก จนพี่เลี้ยงหลาย ๆ คนทนไม่ไหวถึงกับขอลาออกเอง โชคดีที่ได้เจอพี่เลี้ยงคนนี้บนเว็บใส่ใจ พี่ลี้ยงเข้ากับน้องได้ดีค่ะ
Saijai
วิลาภรณ์ สุทธิรักษ์
3 ปีที่แล้ว
ดิฉันเป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวค่ะ ทำงานทุกวัน ไม่มีเวลาดูแลลูก บางครั้งต้องเอาไปฝากญาติ ๆ แต่ตอนนี้เลยตัดสินใจจ้างพี่เลี้ยงเด็กของทางใส่ใจ ตอนแรกก็ไม่รู้เลยค่ะว่ามีขั้นตอนในการจ้างพี่เลี้ยงเด็กอย่างไรบ้าง เลยติดต่อเบอร์ของทางใส่ใจไป อยากจะบอกว่าประทับใจการให้บริการมาก ๆ ค่ะ ทางใส่ใจให้ข้อมูลทุกอย่างครบถ้วนตามที่เราต้องการอยากทราบ ประทับใจจริง ๆ ค่ะ
Saijai
ปารีณา ภักดีดำรงค์ศักดิ์
3 ปีที่แล้ว
ลูกยังเล็กเราจ้างพี่เลี้ยงมา ตกลงเวลาเริ่มงาน 9.30-17.30 น. (พี่เลี้ยงมา 8.30 น. ทุกวัน ) ประสบการณ์ เคยดูแล เด็กเล็ก 4 เดือน – 2 ขวบ พอเด็กเข้าโรงเรียน ก็ว่าง พอดีที่บ้านช่วยกันหา เจอเว็บนี้เห็นรีวิวประสบการณ์คนเลี้ยงเลย คุยดู พี่เลี้ยงทำงานดีมาก่อนเวลา เตรียมของใช้ ทำงานเป็นระเบียบเหมือนอบรมมาดี อุ่นใจ คิดถูกที่ใช้บริการใส่ใจ แนะนำค่ะ
Saijai
ณัฐวรรณ แสงสีเงิน
3 ปีที่แล้ว
เราทำงานนอกบ้าน เลยหาพี่เลี้ยงเด็กมาดูแลน้องที่บ้าน ค้นหาข้อมูลดูเวปนี้ให้รายละเอียดพี่เลี้ยงน่าสนใจ ราคาเรารับได้ เราเลยให้น้องมาทดลองงานก่อนเราไปทำงาน น้องมีประสบการณ์มา เลยปรับตัวไม่ยาก เวลาเราอยู่น้องจะช่วยหยิบจับของทำโน่นทำนี่ไป ประทับใจคะ สองเดือนแล้วน้องทำงานดี มีระเบียบเรียบร้อย คุ้มค่ากับเงินที่เสียไป เราไว้ใจให้น้องคนนี้ดูแล
Saijai
แม่น้องกัญ
3 ปีที่แล้ว

คำถามที่พบบ่อยสำหรับการค้นหา ดูแลเด็ก

หากคุณพ่อคุณแม่ไม่มีเวลาดูแลลูกน้อยควรเลือกใช้บริการการเลี้ยงเด็กแบบใด พี่เลี้ยงเด็กส่วนตัว หรือเนอสเซอรี่
สำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่กำลังมองหาพี่เลี้ยงเด็ก วันนี้เรามาดูข้อดีขอเสียของพี่เลี้ยงเด็กกันค่ะ ทำไมต้องเลือกใช้บริการพี่เลี้ยงเด็ก

1) พี่เลี้ยงช่วยแบ่งเบาภาระของคุณพ่อคุณแม่ได้ หากคุณไม่มีเวลาดูแลลูกน้อยเนื่องจากต้องทำงานนั้น พี่เลี้ยงเด็กคือทางออกของคุณค่ะ
2) หากคุณเลือกพี่เลี้ยงที่มีคุณสมบัติที่ดีสามารถช่วยส่งเสริมพัฒนาการของลูกของคุณได้ค่ะ
3) พี่เลี้ยงสามารถดูแลลูกน้อยของคุณแบบใกล้ชิดมากกว่าส่งลูกเข้าศูนย์เลี้ยงเด็ก เพราะศูนย์เลี้ยงเด็กนั้นไม่สามารถดูแลเด็ก ๆ แบบใกล้ชิดได้
4) พี่เลี้ยงสามารถยืดหยุ่นเวลาทำงานให้สอดคล้องกับการทำงานของคุณได้
5) คุณไม่ต้องเสียเวลาไปรับไปส่งลูกน้อยที่ศูนย์หากคุณจ้างพี่เลี้ยงมาที่บ้านเพื่อดูแลลูกน้อยของคุณ
6) ลูกของคุณจะไม่ป่วยบ่อยเหมือนเข้าศูนย์เลี้ยงเด็กที่มีเด็กมากกว่า20คน อาจจะเกิดความเสี่ยงติดโรคจากเพื่อน ๆ ได้
7) พี่เลี้ยงสามารถอยู่ดูแลลูกของคุณและเฝ้าบ้านของคุณได้หากในกรณีคุณกลับบ้านดึก
8) คุณสามารถบอกพี่เลี้ยงเด็กได้หากคุณต้องการให้พี่เลี้ยงมุ่งเน้นพัฒนาการของลูกคุณในด้านไหนเพราะพี่เลี้ยงของคุณจะดูแลเด็กแบบใกล้ชิด และมุ่งเน้นความสนใจให้ลูกของคุณ ต่างจากเข้าศูนย์เลี้ยงเด็กที่ต้องเฉลี่ยดูแลอย่างเท่าเทียมกัน

ข้อเสียของพี่เลี้ยงเด็ก

1) ลูกของคุณอาจจะติดพี่เลี้ยงมากเกินไป
2) ค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูงหากเทียบกับศูนย์เลี้ยงเด็ก
3) คุณอาจจะสูญเสียความเป็นส่วนตัวภายในครอบครัว

อย่างไรก็ดีข้อดีของพี่เลี้ยงเด็กนั้นจะช่วยแบ่งเบาหน้าที่ของคุณไปได้เยอะเลยทีเดียว หากคุณกำลังมองหาพี่เลี้ยงเด็กสักคน ใส่ใจมีบริการด้านนี้ค่ะ
คุณสมบัติอะไรบ้างที่พ่อแม่ควรมองหาจากพี่เลี้ยงเด็กก่อนตกลงจ้าง
ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่คุณพ่อคุณแม่สักคนจะตัดสินใจหาใครมาดูแลลูกน้อยที่เปรียบเสมือนแก้วตาดวงใจ วันนี้ใส่ใจมีข้อมูลของทักษะและคุณสมบัติที่พี่เลี้ยงเด็กควรมีมาฝากให้คุณพ่อคุณแม่ลองเช็คกันดูก่อนตัดสินใจจ้างพี่เลี้ยงสักคน

1. พี่เลี้ยงเด็กต้องมีความอดทนสูง คุณพ่อคุณแม่ต้องมั่นใจว่าพี่เลี้ยงเด็กต้องมีความเข้าใจเด็ก สามารถรับมือกับสถานการณ์ต่าง ๆ ได้ดี และที่สำคัญที่สุดคือเป็นคนที่มีความอดทนสูง
2. พี่เลี้ยงเด็กควรรู้วิธีการปฐมพยาบาลเบื้องต้น ในกรณีเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดหรืออุบัติเหตุ พี่เลี้ยงต้องมีความรู้และทักษะการปฐมพยาบาลเบื้องต้น และสามารถช่วยเหลือเด็กได้ทันที เช่น เด็กที่อยู่ภายใต้การดูแลเกิดอุบัติเหตุหกล้ม มีแผลถลอก พี่เลี้ยงต้องรีบปฐมพยาบาลเบื้องต้นเพื่อไม่ให้เกิดการติดเชื้อของแผล เป็นต้น ดังนั้นคุณพ่อและคุณแม่ควรเลือกพี่เลี้ยงที่มีทักษะด้านการปฐมพยาบาลเบื้องต้นเพราะเป็นสิ่งจำเป็นมาก ๆ
3. พี่เลี้ยงเด็กควรมีทักษะการแก้ไขปัญหา พี่เลี้ยงจะต้องรู้วิธีการแก้ไขปัญหาเบื้องต้นได้โดยไม่จำเป็นต้องแจ้งผู้ว่าจ้างเสมอไปหากปัญหานั้นไม่ใช่ปัญหาที่ร้ายแรง
4. ทำอาหารเป็น ถือเป็นอีกหนึ่งทักษะที่พี่เลี้ยงเด็กจำเป็นต้องมี พี่เลี้ยงไม่ได้มีหน้าที่แค่ดูแลเด็กอย่างเดียวเท่านั้น แต่พี่เลี้ยงอาจจะต้องเตรียมอาหารให้เด็ก ๆ รับประทานในแต่ละมื้อด้วย หากอาหารอร่อยถูกปาก เด็กจะเจริญอาหารและอารมณ์ดี ที่สำคัญที่สุดที่พี่เลี้ยงต้องใส่ใจและจดจำด้วยว่าเด็ก ๆ ที่ดูแลนั้น แพ้อาหารอะไรบ้าง เพื่อป้องกันอุบัติเหตุที่อาจจะเกิดขึ้นจากการรับประทานสิ่งที่แพ้เข้าไป
5. มีความคิดสร้างสรรค์ในการส่งเสริมพัฒนาการเด็ก พี่เลี้ยงจะต้องเป็นคนที่มีความคิดสร้างสรรค์ สามารถร่วมทำกิจกรรมกับเด็ก ๆ ในระหว่างวัน ไม่ว่าจะเป็นทางด้านวิชาการหรือสันทนาการ เช่น พี่เลี้ยงเด็กอาจจะสอนเด็กนับเลข ฝึกการอ่าน หรือระบายสีเพื่อให้เด็กได้เรียนรู้ผ่านกิจกรรมที่สร้างสรรค์เหล่านี้
หากคุณพ่อคุณแม่มีความกังวลเมื่อต้องปล่อยให้ลูก ๆ อยู่กับพี่เลี้ยงตามลำพัง ควรทำอย่างไร
ใส่ใจขอพูดถึงข้อกังวลและแนวทางแก้ไขเมื่อคุณพ่อคุณแม่จำเป็นต้องจ้างพี่เลี้ยงเด็กมาดูแลลูกๆ ที่บ้าน

1. ความปลอดภัยของลูกน้อย สิ่งที่คุณพ่อคุณแม่เป็นกังวลมากที่สุดคือความปลอดภัย ไม่ว่าจะเกิดจากอุบัติเหตุหรือการกระทำรุนแรงของพี่เลี้ยงเด็ก คุณพ่อคุณแม่ต้องหมั่นสังเกตความเปลี่ยนแปลงของลูกน้อยทั้งทางร่างกายและพฤติกรรม ควรพูดคุย ซักถามเด็กอยู่เป็นประจำเกี่ยวกับกิจกรรมระหว่างวันที่ลูก ๆ ทำกับพี่เลี้ยง การติดตั้งกล้องวงจรปิดภายในบ้านเป็นอีกวิธีที่ทำให้คุณพ่อคุณแม่อุ่นใจขึ้น
2. ประสบการณ์การทำงาน บางครั้งพี่เลี้ยงเด็กอาจไม่ได้ให้ข้อเท็จจริงทั้งหมดเกี่ยวกับประสบการณ์ทำงานและความชำนาญของตน นอกจากการสัมภาษณ์พี่เลี้ยงเด็ก คุณพ่อคุณแม่อาจจะให้มีการทดลองงานสักระยะหนึ่งเพื่อดูว่าพี่เลี้ยงเด็กมีความชำนาญหรือสามารถทำงานได้ตามมอบหมายหรือไม่
3. พี่เลี้ยงเด็กหยิบฉวยทรัพย์สินในบ้าน หลายครั้งที่คุณพ่อคุณแม่เจอพี่เลี้ยงที่มีประสบการณ์แต่ยังกังวลว่าพี่เลี้ยงเด็กอาจพยายามขโมยสิ่งของมีค่าภายในบ้าน แนวทางป้องกันที่คุณพ่อคุณแม่ทำได้คือ ไม่วางสิ่งของมีค่าไว้ในที่เปิดเผย ล็อคลิ้นชักเก็บของและประตูห้องที่พี่เลี้ยงเด็กไม่จำเป็นต้องใช้ คุณพ่อคุณแม่อาจจะติดตั้งกล้องวงจรปิดไว้ภายในบ้านเพื่อช่วยเป็นหูเป็นตาได้อีกทาง
ในวันสัมภาษณ์พ่อแม่ควรตกลงอะไรกับพี่เลี้ยงเด็ก
ขั้นตอนของการสัมภาษณ์พี่เลี้ยงเด็กนั้นถือเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่ง เพราะไม่ใช่แค่คุณจะได้ทำความรู้จักกับพี่เลี้ยงที่คุณจะจ้าง แต่ในขั้นตอนนี้คุณต้องทำการตกลงกับพี่เลี้ยงเด็กก่อนเริ่มงาน ดังนั้นวันนี้ใส่ใจมีข้อแนะนำให้คุณพ่อคุณแม่ที่กำลังจะสัมภาษณ์พี่เลี้ยงเด็กและพูดคุยถึงข้อตกลงที่สำคัญมีอะไรบ้างมาดูกันค่ะ

1) ขอบเขตหน้าที่ที่คุณต้องการให้พี่เลี้ยงทำ เช่น ช่วยเลี้ยงลูกคุณขณะคุณไม่อยู่บ้าน ช่วยเตรียมกับข้าวให้ลูกน้อยรับประทานในแต่ละมื้อ ช่วยสอนการบ้านหากพี่เลี้ยงมีความสามารถ
2) วันและเวลาการทำงาน ในวันที่สัมภาษณ์คุณและพี่เลี้ยงจะต้องตกลงเรื่องวันเวลาการทำงานให้อย่างชัดเจน และคุณควรจะมีวันหยุดให้พี่เลี้ยงตาม กฎหมายกระทรวงแรงงาน นายจ้างต้องให้ลูกจ้างมีวันหยุดประจำสัปดาห์ และวันพักร้อน ได้ 6 วัน ต่อ ปี และต้องหยุดตามประเพณี ปีละไม่น้อยกว่า 13 วัน
3) ค่าจ้าง คุณจะต้องตกลงเรื่องค่าจ้างกับพี่เลี้ยงให้ชัดเจน หากพี่เลี้ยงปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างดี คุณควรที่จะเพิ่มเงินเดือนให้ตามความเหมาะสม ในกรณีที่พี่เลี้ยงเด็กทำงานในวันหยุดนายจ้างต้องจ่ายเงินค่าจ้างตามกฎหมายแรงงาน
4) ข้อตกลงในการอาศัยอยู่ในบ้าน หากคุณมีกฎระเบียบที่ต้องการให้พี่เลี้ยงเด็กปฏิบัติตามกฎที่คุณตั้งไว้ คุณต้องแจ้งให้พี่เลี้ยงเด็กรับทราบก่อนเริ่มงานเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต
5) ถ้าคุณเป็นหนึ่งคนที่ไม่อยากให้ลูกติดโทรศัพท์ คุณควรแจ้งให้พี่เลี้ยงทราบ และควรกำชับพี่เลี้ยงว่าไม่ให้ลูกของคุณเล่นโทรศัพท์ขณะที่คุณไม่อยู่ เพราะเด็กอาจได้รับผลกระทบจากการเล่นโทรศัพท์นานเกินไปจนส่งผลให้เกิดภาวะสมาธิสั้นและส่งผลกับสายตา ดังนั้นพี่เลี้ยงจะต้องหากิจกรรมที่ให้เด็กได้พัฒนาตนเองมากกว่าการเล่นโทรศัพท์มือถือ

เรื่องอาหารและโภชนาการของเด็กที่ต้องใส่ใจ

อาหารและโภชนาการหรับเด็ก

โภชนาการมีความสำคัญต่อสุขภาพโดยรวมของเด็ก พ่อแม่ ผู้ปกครอง หรือพี่เลี้ยงเด็กต้องพยายามอย่างเต็มที่ที่จะเสิร์ฟผลไม้ ผัก เนื้อไม่ติดมัน และผลิตภัณฑ์นมไขมันต่ำ และจำกัดอาหารที่มีน้ำตาลสูงและอาหารที่มีไขมันสูง โภชนาการที่เหมาะสมควรรวมถึงการรับประทานอาหารสามมื้อต่อวันและของว่างที่มีคุณค่าทางโภชนาการสองมื้อ

ปริมาณแคลอรีที่เด็กก่อนวัยเรียนจำเป็นต้องได้รับในแต่ละวันขึ้นอยู่กับว่าพวกเขากระตือรือร้นแค่ไหน คำแนะนำด้านโภชนาการที่ดีที่สุดเพื่อให้เด็กมีสุขภาพที่ดีในขั้นตอนนี้ คือการกระตุ้นให้เด็กกินอาหารที่หลากหลาย เลือกอาหารจากผลิตภัณฑ์จากธัญพืช ผักและผลไม้มากมาย ไขมันต่ำ ไขมันอิ่มตัว และ คอเลสเตอรอล น้ำตาลและเกลือปานกลาง มีแคลเซียมและธาตุเหล็กเพียงพอต่อความต้องการของร่างกายที่กำลังเติบโต พ่อแม่ ผู้ปกครอง พี่เลี้ยงและผู้ดูแลเด็กยังช่วยส่งเสริมโภชนาการที่ดีได้ด้วยการเป็นตัวอย่างที่ดี นิสัยการกินเพื่อสุขภาพและการออกกำลังกายเป็นประจำควรเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตครอบครัวอย่างสม่ำเสมอ มันง่ายกว่ามากถ้าทุกคนในบ้านปฏิบัติไปในแนวทางเดียวกันไม่ใช่ให้เด็กปฏิบัติตัวเคร่งครัดเรื่องอาหารการกิน แต่บรรดาผู้ใหญ่ในบ้านกลับไม่ใส่ใจ

หลีกเลี่ยงการเก็บของหวานหรือของขบเคี้ยวที่มีแคลอรีสูง เช่น มันฝรั่งทอด น้ำอัดลมธรรมดา ซีเรียลเคลือบน้ำตาล ลูกอม หรือไอศกรีมทั่วไปในบ้าน ระวังอาหารที่อาจทำให้เด็กสำลักได้ เช่น แครอทดิบ ถั่วลิสง องุ่นทั้งลูก เนื้อที่เคี้ยวยาก ข้าวโพดคั่ว หมากฝรั่ง หรือลูกอมที่ แม้ว่าเด็กอาจไม่ได้รับประทานอาหารที่ครบถ้วนเท่าที่คุณต้องการ แต่ตราบใดที่พวกเขายังเติบโตตามปกติและมีระดับพลังงานปกติ คงไม่ใช่เรื่องที่ต้องกังวล เพื่อป้องกันปัญหาการกิน ควรสอนเด็กเรื่องโภชนาการให้รู้จักข้อดีของการกินอาหารที่มีประโยชน์และผลเสียของอาหารขยะ (Junk Food)

ควรสร้างบรรยากาศการรับประทานอาหารให้เรื่องสนุกมีความสุข ไม่ควรทะเลาะหรือถกปัญหาเครียดบนโต๊ะอาหาร ความผิดพลาดทางโภชนาการที่พบบ่อยในวัยนี้ คือการปล่อยให้เด็กดื่มนมหรือน้ำผลไม้มากเกินไปจนอิ่มและไม่อยากกินอาหารมื้อหลัก บังคับให้ลูกกินเมื่อไม่หิว หรือการบังคับให้พวกเขากินอาหารที่ไม่ต้องการ คุณสามารถพ่อแม่ ผู้ปกครอง พี่เลี้ยงและผู้ดูแลเด็กอาจจะให้วิตามินเสริมแก่เด็ก หากเด็กรับประทานอาหารได้น้อย ไม่ควรลงโทษรุนแรงหากเด็กกินอาหารที่ไม่มีประโยชน์ แต่อธิบายเหตุผลและชี้ให้เห็นข้อดีและข้อเสียที่เกิดจากกิน



คลองเตยในวันพรุ่งนี้

หากวันนี้มีคำกล่าวขึ้นมาว่าในอนาคตอันใกล้นี้ย่านคลองเตยจะกลายเป็น CBD (Central Business District) ตลอดความยาวหลายกิโลเมตรที่ติดแม่น้ำเจ้าพระยา สำนักผังเมืองกรุงเทพมหานครจะเปลี่ยนสีผังเมืองของที่ดินทั้งหมด 2,353 ไร่ของการท่าเรือฯ ที่ก่อนหน้านี้เป็นสีน้ำเงินซึ่งระบุการใช้ประโยชน์ว่าเป็นที่ดินของหน่วยงานราชการเท่านั้น โดยในผังเมืองกรุงเทพมหานครฉบับใหม่ที่จะประกาศใช้ในปี พ.ศ.2563 จะเปลี่ยนเป็นสีแดงแบบเดียวกับพื้นที่ที่เป็น CBD ปัจจุบันของกรุงเทพมหานคร นั่นหมายความว่ากรุงเทพมหานครจะมีที่ดินที่ในผังเมืองระบุว่าเป็นสีแดงหรือที่ดินเพื่อการพาณิชยกรรมเพิ่มอีก 2,353 ไร่ทันที (สี – สีต่างๆ ที่เห็นบนผังเมืองรวม คือ การแบ่งโซนการใช้ประโยชน์ที่ดิน ที่คิดมาแล้ว และทุกๆ สีก็มีการกำหนดการใช้ประโยชน์ที่ดิน เช่น สีแดง ที่ดินประเภทพาณิชยกรรม สีเหลือง ที่ดินประเภทเพื่อการทำที่อยู่อาศัยหนาแน่นน้อย หรือ สีเขียว ที่ดินประเภทเพื่อทำเป็นที่ดินการเกษตร เป็นต้น) และหน่วยงานหนึ่งที่มีที่ดินขนาดใหญ่ในกรุงเทพมหานคร คือ การท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) มีที่ดินขนาด 2,353 ไร่ ย่านคลองเตย ที่ดินแปลงนี้การท่าเรือแห่งประเทศไทยมีแผนจะเปิดให้เอกชนเข้ามาพัฒนานานแล้วมีการศึกษากันมาต่อเนื่องในช่วง 10 กว่าปีที่ผ่านมา พื้นที่สีแดงนี้กำลังเป็นที่จับตามองเพราะขนาดของพื้นที่ 2,353 ไร่นั้นมี มากกว่าพื้นที่ที่เป็นสีแดงทั้งหมดในปัจจุบันรวมกันซะอีก นั่นก็เท่ากับว่ากรุงเทพมหานครจะมี CBD (Central Business District) ขนาดใหญ่และเป็นพื้นที่พาณิชย์ กรรมแบบแท้จริงขึ้นมาทันที เพราะพื้นที่สีแดงตามผังเมืองกรุงเทพมหานครนั้นคือพื้นที่ที่สามารถพัฒนาโครงการพาณิชยกรรมได้เป็นพื้นที่ที่ถือได้ว่ามีศักยภาพสูงที่สุดในการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ ปัญหาในการพัฒนาที่ดินแปลงนี้ของการท่าเรือฯ ถ้าตัดเรื่องของการเวนคืนที่ดินหรือการย้ายคน ชุมชนที่อยู่มานานออกไป คือ เรื่องของระบบคมนาคมภายในโครงการและการเชื่อมต่อกับระบบขนส่งมวลชนเดิม ที่ดูเหมือนจะไม่เพียงพอที่จะรองรับการขยายตัวในอนาคต ทางรถไฟที่เชื่อมถึงสถานีนี้ซึ่งผ่านทั้งแปลงที่ดินสถานีกลางบางซื่อ มักกะสัน ย่านเพลินจิต ก็มีความเป็นไปได้ที่จะนำมาพัฒนาต่อเป็นระบบรถไฟฟ้าเชื่อมโครงการที่สถานีแม่น้ำเข้ากับพื้นที่ใจกลางเมือง ภารกิจใหญ่ของ “กทท.-การท่าเรือแห่งประเทศไทย” ไม่ใช่แค่การขยายการลงทุนและเพิ่มขีดความสามารถของท่าเรือที่มีอยู่ในมือ ในอนาคตมีแผนที่จะทำรถไฟโมโนเรลจากสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์เชื่อมต่อเข้ามาในบริเวณนี้ด้วย ถ้าทำได้จริง น่าจะเป็นการพลิกโฉม “ทำเลคลองเตย” เป็นเมืองที่ทันสมัย ไม่แพ้ทำเลใจกลางเมือง



รู้จักเด็กก่อนวัยเรียน...(หนูโตแล้วนะ)

การเลี้ยงเด็กก่อนวัยเรียนอาจเป็นเรื่องท้าทายสำหรับคนเป็น พ่อแม่ ผู้ปกครอง และพี่เลี้ยงเด็ก เพราะเด็กวัยนี้มีความกระตือรือร้นอยากรู้อยากเห็น ทักษะทางสังคม อารมณ์ และร่างกายที่พัฒนาขึ้น การทำความเข้าใจขั้นตอนพัฒนาการของเด็ก จะช่วยให้พ่อแม่ ผู้ปกครอง และพี่เลี้ยงเด็กมั่นใจได้ว่าวิธีการเลี้ยงดูเหมาะสมสำหรับเด็ก เด็กก่อนวัยเรียนมีความเป็นตัวของตัวเองมากขึ้น อยากเลือกเสื้อผ้าด้วยตัวเอง ติดกระดุม และแปรงฟันโดยไม่ต้องขอความช่วยเหลือจากผู้ดูแล (เราคอยดู ทำเป็นตัวอย่างและแนะนำ) ด้วยพัฒนาการด้านทักษะการสื่อสาร เด็กจะเริ่มพูดเป็นประโยคสั้นๆ เล่าเรื่องมากมาย ชอบถามคำถาม "ทำไม" จำเพลงกล่อมเด็ก ชื่นชมกิจกรรมพิเศษ และเข้าใจกิจวัตรประจำวัน ในขั้นตอนนี้ เด็กก่อนวัยเรียนจะเริ่มเล่นร่วมกับเด็กคนอื่นๆ ในกลุ่มเล็กๆ แบ่งปันของเล่น และพัฒนามิตรภาพ เวลาเล่นอาจรวมถึงเกมที่มีโครงสร้างและกิจกรรมสร้างสรรค์จินตนาการ

การให้เด็กวัยนี้เข้าเรียนในชั้นเตรียมอนุบาลเป็นโอกาสที่ดีในการเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับความเข้มงวดของโรงเรียนและฝึกฝนทักษะทางสังคมและความรู้ความเข้าใจ พ่อแม่สามารถคาดหวังให้เด็กก่อนวัยเรียนแต่งตัวด้วยตัวเอง แปรงฟันด้วยคำแนะนำ และสามารถใช้ห้องน้ำได้ด้วยตัวเอง คุณพ่อคุณแม่อาจไม่แน่ใจเมื่อต้องปล่อยให้ลูก ๆ ไปโรงเรียน ยิ่งเมื่อลูกรู้สึกเครียดหรือวิตกกังวล แต่โดยรวมแล้วคุณควรจะสามารถสื่อสารกันได้ค่อนข้างดี ให้คำแนะนำชี้แนะมุมมองให้ลูก ๆสนใจมากขึ้น นี่เป็นช่วงเวลาแห่งการเติบโตและเด็กในวัยนี้ต้องการความไว้วางใจและอยากรับผิดชอบมากขึ้น คุณพ่อคุณแม่ช่วยส่งเสริมความรู้สึกรับผิดชอบโดยเริ่มให้เงินค่าขนม สอนให้เด็กรู้จักคุณค่าของเงินและความสำคัญของการออม ในแง่ของงานบ้าน เด็กก่อนวัยเรียนสามารถช่วยเช็ดโต๊ะ หรือเก็บของเล่น เมื่อเล่นเสร็จ การเสริมแรงเชิงบวกเป็นสิ่งสำคัญสำหรับงานบ้านที่เสร็จสมบูรณ์ และความล้มเหลวในการทำงานบ้านอาจเป็นสัญญาณว่าพวกเขายังไม่พร้อมที่จะทำงานบ้านนั้นหรือต้องการเวลามากขึ้นในการเรียนรู้ ควรเน้นที่ทักษะการสอน มากกว่าการลงโทษเด็กที่ไม่ปฏิบัติตาม การอนุญาตให้บุตรหลานของคุณมีทางเลือกว่างานบ้านใดที่บางครั้งอาจช่วยให้ปฏิบัติตามได้