ดูแลเด็ก ใน บางคอแหลม, กรุงเทพมหานคร

ดูแลเด็ก ใน บางคอแหลม, กรุงเทพมหานคร

คุณต้องการใช้บริการนี้เมื่อไหร่?
ระบุวันที่

วิธีการทำงาน

Saijai

ติดต่อเรา

ติดต่อเราโดยตรงผ่าน LINE OA เพื่อจองบริการที่คุณต้องการ

Saijai

แจ้งรายละเอียดให้เราทราบ

เลือกบริการ วันที่ เวลา และสถานที่ที่คุณต้องการให้ตรงกับความต้องการของคุณ

Saijai

ยืนยันการจองของคุณ

เราจะยืนยันการจองของคุณภายใน 24 ชั่วโมงผ่านทาง LINE OA

ทิพวรรณ์ ราศรี
ทิพวรรณ์ ราศรี
Saijai ประสบการณ์ 1-2 ปี
Saijai อายุ 27 ปี

เป็นคนอัธยาศัยดีค่ะ ใจเย็นค่ะชอบเล่นกับเด็ก ส่งเสริมพัฒนาการของน้องได้ค่ะ

แสดงเพิ่มเติม
เสาวณีย์ เขาพระจันทร์
เสาวณีย์ เขาพระจันทร์
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี
Saijai อายุ 39 ปี

ใส่ใจดูแลเหมือนลูกเจ้าของเองใจเย็น ดูแลได้ตลอด

แสดงเพิ่มเติม
ฉันทนา สิทธิ
ฉันทนา สิทธิ
Saijai ประสบการณ์ 1-2 ปี
Saijai อายุ 46 ปี

เป็นคนง่ายๆรักเด็กใจเย็นไม่เคยโกรธหรือโมโหอะไรง่ายๆนอนน้อยทําได้หมดแต่ไม่ชอบจู้จี้

แสดงเพิ่มเติม
กัญญาภัทร บุตรพรม
กัญญาภัทร บุตรพรม
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี

สวัสดีค่ะ ชือ ภัทรค่ะ อายุ 52 ถนัดดูแลเด็กแรกคลอด คุณแม่หลังคลอดค่ะ นวดเด็กแรกเล็กได้ ช้วยให้เด็ก อารมณ์ดีไม่งอแง ช่วยระบบขับถ่าย เลือดลมไหลเวียนดี ร่างกายแข็งแรง.นวดประคบสมุนไพร คุณแม่หลังคลอดช่วยในการอยู่ไฟสมัยโบราณ ทำให้มดลูกเข้าอู่ไว้ ร่างกายแข็งแรง รับงานได้ทั้งในและต่างประเทศค่ะ รับดูแลทั้งคนไทยและต่างชาติ

แสดงเพิ่มเติม

เป็นคนเรียบง่ายไม่เรื่องมากเลี้ยงน้องตามแพทย์แนะนำและผู้ปกครองแนะนำได้

แสดงเพิ่มเติม
วิไล นันต๊ะภาพ
วิไล นันต๊ะภาพ
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี
Saijai อายุ 48 ปี

มีความอดทน ขยัน รักความสะอาด ใจเย็น

แสดงเพิ่มเติม
Piyatida Dumluck
Piyatida Dumluck
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี
Saijai อายุ 40 ปี

ข้อมูลสถิติน่าสนใจเกี่ยวกับ

Saijai จำนวนประชากร
Saijai จำนวนประชากรเด็ก (แรกเกิด-14 ปี)
Saijai จำนวนประชากรสูงอายุ (60 ปี ขึ้นไป)
Saijai จำนวนสัตว์เลี้ยง สุนัข

รีวิวล่าสุด

พี่เลี้ยงเด็กที่จ้างผ่านเว็บใส่ใจคือดีจริง ๆ พี่เลี้ยงเด็กมีประสบการณ์ในการเลี้ยงดูเด็กและเป็นคนที่ซื่อสัตย์มาก ทำให้คนเป็นแม่อย่างเราหายห่วงลูกเลยจริง ๆ หากใครที่กำลังมองหาพี่เลี้ยงเด็ก บริการของทางใส่ใจถือเป็นตัวเลือกที่ดีเลยทีเดียวสำหรับคุณพ่อคุณแม่ยุคใหม่ที่ต้องทำงานนอกบ้าน
Saijai
กรรชัย วงศ์พานิชญ์
4 ปีที่แล้ว
ลาคลอดได้แค่ 3 เดือน ค่ะ ต้องกลับไปทำงานต่อ จะฝากลูกไว้กับยายก็กลัวแกจะดูไม่ไหว เลยลองหาพี่เลี้ยงจากเว็บใส่ใจดู ตอนแรกก็กังวลอยู่เหมือนกันค่ะ ไม่กล้าทิ้งลูกไว้กับพี่เลี้ยง แต่ก็วางใจอย่างนึงว่าพี่เลี้ยงมีประสบการณ์ ตอนนี้ทุกอย่างลงตัว โอเคมาก ๆ ค่ะ
Saijai
สุชาดา มิ่งมงคล
4 ปีที่แล้ว
บ้านอยู่แถว สุขุมวิท71 ลองใช้เว็บใส่ใจครั้งแรก เพราะเพื่อนๆ แนะนำมา อยากได้พี่เลี้ยงเด็ก มองหามาหลายที่ ที่นี่รายละเอียดครบ ราคาชัดเจน โทรปรึกษาพนักงานก็อธิบายเข้าใจง่ายมาก สะดวกสบาย ง่ายกว่า search หาเองใน Google ชอบมากๆ ค่ะ
Saijai
นงคราญ แซ่ตั้ง
5 ปีที่แล้ว
เป็นครั้งแรกที่เลือกใช้บริการพี่เลี้ยงเด็กในเว็บใส่ใจ ตอนแรกคิดว่าจะยุ่งยากในจอง แต่พอเข้าไปในเว็บไซต์ เว็บไซต์ใช้งานง่ายมาก ๆ มีความสะดวกในการใช้งาน อีกทั้งยังมี Guideline ให้อีกด้วย และขั้นตอนการนัดสัมภาษณ์พี่เลี้ยงเด็กก็ไม่ยุ่งยากอย่างที่คิดเพราะมีตัวเลือกให้เลือกด้วยว่าเราสะดวกสัมภาษณ์ทางไหน เหมาะแก่คนที่ไม่มีเวลาอย่างเราจริง ๆ
Saijai
สุริยา ดำรงรักษ์
5 ปีที่แล้ว
ลองค้นหาบริการพี่เลี้ยงเด็กอยู่หลายที่ จนได้มาเจอเว็บใส่ใจ ลองเข้าไปดู รู้สึกว่าทุกอย่างเป็นไปอย่างมีขั้นตอน เริ่มตั้งแต่ให้เลือกพี่เลี้ยง ขั้นตอนนัดสัมภาษณ์ รายละเอียดและคำแนะนำต่าง ๆ พี่เลี้ยงที่ได้มาก็ตรงตามความต้องการสุด ๆ รู้สึกประทับใจมาก
Saijai
ณัฐณิชา ทิวาสวัสดิ์
5 ปีที่แล้ว

คำถามที่พบบ่อยสำหรับการค้นหา ดูแลเด็ก

พี่เลี้ยงเด็กส่วนตัวหรือเนอสเซอรี่ (Nursery) อะไรคือคำตอบสำหรับคุณพ่อคุณแม่ยุคนี้
ข้อดีของการให้พี่เลี้ยงดูแลเด็กที่บ้านของคุณเอง

1. ลูกน้อยของคุณได้รับการดูแลจากพี่เลี้ยงแบบใกล้ชิด ทำให้เด็กรู้สึกได้ถึงความเอาใจใส่ และมีพัฒนาการทางอารมณ์ที่ดี
2. มีความยืดหยุ่นในการทำกิจวัตรประจำวันเพราะเด็กไม่ต้อง กิน นอน หรือ เล่นตามตารางเหมือนอยู่ในศูนย์รับเลี้ยงเด็กหรือเนอสเซอรี่ (Nursery)
3. พี่เลี้ยงเด็กสามารถปรับเวลาการทำงานให้สอดคล้องกับเวลาทำงานและวันหยุดของคุณพ่อคุณแม่
4. คุณพ่อคุณแม่มีเวลาอยู่กับลูกมากขึ้นเพราะไม่ต้องเผื่อเวลาในการรับส่ง ก่อนและหลังเลิกงาน
5. เด็กได้รับการดูแลในบรรยากาศที่คุ้นเคยและรู้สึกปลอดภัย
6. คุณพ่อคุณแม่ประหยัดเวลาในการเดินทางรับส่ง หมดปัญหาเรื่องรถติดและมลภาวะบนท้องถนน
7. คุณพ่อคุณแม่ประหยัดเวลาในการเตรียมตัวหรือจัดเตรียมของใช้ให้ลูก เช่น ขวดนม เสื้อผ้า หรือแพมเพิส
8. ลดความเสี่ยงของโรคติดต่อ โดยเฉพาะเด็กเล็กที่ภูมิต้านทานยังน้อยจะเจ็บป่วยได้ง่าย หากต้องอยู่ปะปนกับเด็ก ๆ อื่น
9. มีคนอยู่บ้านตลอดเวลาในขณะที่คุณพ่อคุณแม่ออกไปทำงาน

ข้อดีของการเข้าเนอสเซอรี่ (Nursery)

1. ฝึกทักษะการเข้าสังคมเพราะเด็กต้องอยู่ร่วมกับเด็กคนอื่น ๆ และครูพี่เลี้ยง
2. ค่าใช้จ่ายไม่สูงเมื่อเปรียบเทียบกับการจ้างพี่เลี้ยงส่วนตัว
3. เนอสเซอรี่มีกิจกรรมส่งเสริมการเรียนรู้เพื่อให้เด็กฝึกทักษะผ่านการทำกิจกรรมต่าง ๆ
คุณสมบัติอะไรบ้างที่พ่อแม่ควรมองหาจากพี่เลี้ยงเด็กก่อนตกลงจ้าง
ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่คุณพ่อคุณแม่สักคนจะตัดสินใจหาใครมาดูแลลูกน้อยที่เปรียบเสมือนแก้วตาดวงใจ วันนี้ใส่ใจมีข้อมูลของทักษะและคุณสมบัติที่พี่เลี้ยงเด็กควรมีมาฝากให้คุณพ่อคุณแม่ลองเช็คกันดูก่อนตัดสินใจจ้างพี่เลี้ยงสักคน

1. พี่เลี้ยงเด็กต้องมีความอดทนสูง คุณพ่อคุณแม่ต้องมั่นใจว่าพี่เลี้ยงเด็กต้องมีความเข้าใจเด็ก สามารถรับมือกับสถานการณ์ต่าง ๆ ได้ดี และที่สำคัญที่สุดคือเป็นคนที่มีความอดทนสูง
2. พี่เลี้ยงเด็กควรรู้วิธีการปฐมพยาบาลเบื้องต้น ในกรณีเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดหรืออุบัติเหตุ พี่เลี้ยงต้องมีความรู้และทักษะการปฐมพยาบาลเบื้องต้น และสามารถช่วยเหลือเด็กได้ทันที เช่น เด็กที่อยู่ภายใต้การดูแลเกิดอุบัติเหตุหกล้ม มีแผลถลอก พี่เลี้ยงต้องรีบปฐมพยาบาลเบื้องต้นเพื่อไม่ให้เกิดการติดเชื้อของแผล เป็นต้น ดังนั้นคุณพ่อและคุณแม่ควรเลือกพี่เลี้ยงที่มีทักษะด้านการปฐมพยาบาลเบื้องต้นเพราะเป็นสิ่งจำเป็นมาก ๆ
3. พี่เลี้ยงเด็กควรมีทักษะการแก้ไขปัญหา พี่เลี้ยงจะต้องรู้วิธีการแก้ไขปัญหาเบื้องต้นได้โดยไม่จำเป็นต้องแจ้งผู้ว่าจ้างเสมอไปหากปัญหานั้นไม่ใช่ปัญหาที่ร้ายแรง
4. ทำอาหารเป็น ถือเป็นอีกหนึ่งทักษะที่พี่เลี้ยงเด็กจำเป็นต้องมี พี่เลี้ยงไม่ได้มีหน้าที่แค่ดูแลเด็กอย่างเดียวเท่านั้น แต่พี่เลี้ยงอาจจะต้องเตรียมอาหารให้เด็ก ๆ รับประทานในแต่ละมื้อด้วย หากอาหารอร่อยถูกปาก เด็กจะเจริญอาหารและอารมณ์ดี ที่สำคัญที่สุดที่พี่เลี้ยงต้องใส่ใจและจดจำด้วยว่าเด็ก ๆ ที่ดูแลนั้น แพ้อาหารอะไรบ้าง เพื่อป้องกันอุบัติเหตุที่อาจจะเกิดขึ้นจากการรับประทานสิ่งที่แพ้เข้าไป
5. มีความคิดสร้างสรรค์ในการส่งเสริมพัฒนาการเด็ก พี่เลี้ยงจะต้องเป็นคนที่มีความคิดสร้างสรรค์ สามารถร่วมทำกิจกรรมกับเด็ก ๆ ในระหว่างวัน ไม่ว่าจะเป็นทางด้านวิชาการหรือสันทนาการ เช่น พี่เลี้ยงเด็กอาจจะสอนเด็กนับเลข ฝึกการอ่าน หรือระบายสีเพื่อให้เด็กได้เรียนรู้ผ่านกิจกรรมที่สร้างสรรค์เหล่านี้
หากคุณพ่อคุณแม่มีความกังวลเมื่อต้องปล่อยให้ลูก ๆ อยู่กับพี่เลี้ยงตามลำพัง ควรทำอย่างไร
ใส่ใจขอพูดถึงข้อกังวลและแนวทางแก้ไขเมื่อคุณพ่อคุณแม่จำเป็นต้องจ้างพี่เลี้ยงเด็กมาดูแลลูกๆ ที่บ้าน

1. ความปลอดภัยของลูกน้อย สิ่งที่คุณพ่อคุณแม่เป็นกังวลมากที่สุดคือความปลอดภัย ไม่ว่าจะเกิดจากอุบัติเหตุหรือการกระทำรุนแรงของพี่เลี้ยงเด็ก คุณพ่อคุณแม่ต้องหมั่นสังเกตความเปลี่ยนแปลงของลูกน้อยทั้งทางร่างกายและพฤติกรรม ควรพูดคุย ซักถามเด็กอยู่เป็นประจำเกี่ยวกับกิจกรรมระหว่างวันที่ลูก ๆ ทำกับพี่เลี้ยง การติดตั้งกล้องวงจรปิดภายในบ้านเป็นอีกวิธีที่ทำให้คุณพ่อคุณแม่อุ่นใจขึ้น
2. ประสบการณ์การทำงาน บางครั้งพี่เลี้ยงเด็กอาจไม่ได้ให้ข้อเท็จจริงทั้งหมดเกี่ยวกับประสบการณ์ทำงานและความชำนาญของตน นอกจากการสัมภาษณ์พี่เลี้ยงเด็ก คุณพ่อคุณแม่อาจจะให้มีการทดลองงานสักระยะหนึ่งเพื่อดูว่าพี่เลี้ยงเด็กมีความชำนาญหรือสามารถทำงานได้ตามมอบหมายหรือไม่
3. พี่เลี้ยงเด็กหยิบฉวยทรัพย์สินในบ้าน หลายครั้งที่คุณพ่อคุณแม่เจอพี่เลี้ยงที่มีประสบการณ์แต่ยังกังวลว่าพี่เลี้ยงเด็กอาจพยายามขโมยสิ่งของมีค่าภายในบ้าน แนวทางป้องกันที่คุณพ่อคุณแม่ทำได้คือ ไม่วางสิ่งของมีค่าไว้ในที่เปิดเผย ล็อคลิ้นชักเก็บของและประตูห้องที่พี่เลี้ยงเด็กไม่จำเป็นต้องใช้ คุณพ่อคุณแม่อาจจะติดตั้งกล้องวงจรปิดไว้ภายในบ้านเพื่อช่วยเป็นหูเป็นตาได้อีกทาง
ในวันสัมภาษณ์พ่อแม่ควรตกลงอะไรกับพี่เลี้ยงเด็ก
ขั้นตอนของการสัมภาษณ์พี่เลี้ยงเด็กนั้นถือเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่ง เพราะไม่ใช่แค่คุณจะได้ทำความรู้จักกับพี่เลี้ยงที่คุณจะจ้าง แต่ในขั้นตอนนี้คุณต้องทำการตกลงกับพี่เลี้ยงเด็กก่อนเริ่มงาน ดังนั้นวันนี้ใส่ใจมีข้อแนะนำให้คุณพ่อคุณแม่ที่กำลังจะสัมภาษณ์พี่เลี้ยงเด็กและพูดคุยถึงข้อตกลงที่สำคัญมีอะไรบ้างมาดูกันค่ะ

1) ขอบเขตหน้าที่ที่คุณต้องการให้พี่เลี้ยงทำ เช่น ช่วยเลี้ยงลูกคุณขณะคุณไม่อยู่บ้าน ช่วยเตรียมกับข้าวให้ลูกน้อยรับประทานในแต่ละมื้อ ช่วยสอนการบ้านหากพี่เลี้ยงมีความสามารถ
2) วันและเวลาการทำงาน ในวันที่สัมภาษณ์คุณและพี่เลี้ยงจะต้องตกลงเรื่องวันเวลาการทำงานให้อย่างชัดเจน และคุณควรจะมีวันหยุดให้พี่เลี้ยงตาม กฎหมายกระทรวงแรงงาน นายจ้างต้องให้ลูกจ้างมีวันหยุดประจำสัปดาห์ และวันพักร้อน ได้ 6 วัน ต่อ ปี และต้องหยุดตามประเพณี ปีละไม่น้อยกว่า 13 วัน
3) ค่าจ้าง คุณจะต้องตกลงเรื่องค่าจ้างกับพี่เลี้ยงให้ชัดเจน หากพี่เลี้ยงปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างดี คุณควรที่จะเพิ่มเงินเดือนให้ตามความเหมาะสม ในกรณีที่พี่เลี้ยงเด็กทำงานในวันหยุดนายจ้างต้องจ่ายเงินค่าจ้างตามกฎหมายแรงงาน
4) ข้อตกลงในการอาศัยอยู่ในบ้าน หากคุณมีกฎระเบียบที่ต้องการให้พี่เลี้ยงเด็กปฏิบัติตามกฎที่คุณตั้งไว้ คุณต้องแจ้งให้พี่เลี้ยงเด็กรับทราบก่อนเริ่มงานเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต
5) ถ้าคุณเป็นหนึ่งคนที่ไม่อยากให้ลูกติดโทรศัพท์ คุณควรแจ้งให้พี่เลี้ยงทราบ และควรกำชับพี่เลี้ยงว่าไม่ให้ลูกของคุณเล่นโทรศัพท์ขณะที่คุณไม่อยู่ เพราะเด็กอาจได้รับผลกระทบจากการเล่นโทรศัพท์นานเกินไปจนส่งผลให้เกิดภาวะสมาธิสั้นและส่งผลกับสายตา ดังนั้นพี่เลี้ยงจะต้องหากิจกรรมที่ให้เด็กได้พัฒนาตนเองมากกว่าการเล่นโทรศัพท์มือถือ

วัดพระยาไกร วัดที่เหลือแต่ชื่อ

วัดพระยาไกร นอกจากจะเป็นชื่อแขวงหนึ่งในสามแขวงของ เขตบางคอแหลม แล้ว ยังมีประวัติอื่น ๆ ที่ทิ้งไว้เป็นชื่อมาถึงปัจจุบัน วัดพระยาไกร หรือ วัดโชตนาราม ในอดีตตั้งอยู่ในแขวงวัดพระยาไกร เขตบางคอแหลม ปัจจุบันเป็นที่ตั้งของ เอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์ ศูนย์การค้าแนวราบริมแม่น้ำที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย วัดพระยาไกรสร้างก่อน พ.ศ. 2344 ต่อมาพระยาโชฏึกราชเศรษฐี (บุญมา) หัวหน้าคนจีน ตำแหน่งเจ้ากรมท่าซ้ายในขณะนั้นได้คุมคนงานจีนทำการบูรณปฏิสังขรณ์วัด แล้วน้อมถวายเป็นพระอารามหลวงในสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้พระราชทานนามวัดว่า “วัดโชตนาราม” จากจดหมายเหตุพบว่า ต่อมาวัดพระยาไกรถูกทิ้งเป็นวัดร้าง อาจเพราะท่านเจ้าสัวบุญมาไม่มีทายาทสืบสายสกุลทำให้ขาดผู้ดูแลอุปถัมภ์วัด จนกระทั่งในสมัยรัชกาลที่ 5 บริษัท อีสท์ เอเชียติก จำกัด แห่งประเทศเดนมาร์ก ซึ่งเป็นบริษัททำธุรกิจค้าไม้สักส่งออกต่างประเทศได้แจ้งความประสงค์ขอเช่าพื้นที่วัดโชตนารามเพื่อตั้งโรงเลื่อยจักรของบริษัท เมื่อได้รับอนุญาตจึงได้ทำการรื้อถอนเสนาสนะที่ปรักหักพังทั้งหมด เหลือไว้เพียงพระอุโบสถ จึงมีการย้ายพระพุทธรูปปูนปั้นสำคัญ 2 องค์ภายในพระอุโบสถ คือ พระพุทธมหาสุวรรณปฏิมากร (พระพุทธรูปทองคำ) ไปยังวัดไตรมิตรวิทยาราม (เดิมชื่อวัดสามจีน) และหลวงพ่อสัมฤทธิ์พระพุทธรูปหล่อด้วยโลหะสำริดปางมารวิชัย สมัยสุโขทัยไปยัง วัดไผ่เงินโชตนาราม (เดิมชื่อวัดเงิน ยุบรวมกับวัดไผ่ล้อม จึงได้ชื่อว่า วัดไผ่เงิน) เนื่องจากวัดถูกทิ้งให้รกร้างจนยากแก่การบูรณะ แต่ชื่อวัดและที่ดินยังมีอยู่จึงยังมีปรากฏชื่อวัดในทำเนียบวัดจนกระทั่งปี พ.ศ. 2539 จึงมีประกาศยุบวัด (ร้าง) ตามประกาศของกระทรวงศึกษาธิการเมื่อ 7 สิงหาคม พ.ศ. 2539 ปรากฏในราชกิจจานุเบกษา เล่มที่ 113 ตอนที่ 67 ง หน้า 20 ลงวันที่ 20 สิงหาคม 2539 ปัจจุบันชื่อ วัดพระยาไกร ยังมีปรากฏให้เห็นแม้จะไม่มีตัววัดหลงเหลืออยู่แล้ว อาทิเช่น แขวงวัดพระยาไกร เขตการปกครองหนึ่งของเขตบางคอแหลม กรุงเทพมหานคร สถานีตำรวจนครบาลวัดพระยาไกร ที่ทำการไปรษณีย์วัดพระยาไกร รวมไปถึงท่าเรือด่วนแม่น้ำเจ้าพระยา ท่าน้ำวัดพระยาไกร



3 โรงแรมหรูริมแม่น้ำเจ้าพระยา เขตบางคอแหลม

โรงแรมติดริมแม่น้ำเจ้าพระยาตลอดสายในเขตกรุงเทพมหานครส่วนใหญ่ล้วนแล้วแต่เป็นโรงแรมหรู ในระดับ 4 ดาวขึ้นไป เนื่องจากตั้งอยู่ริมแม่น้ำ โรงแรมจึงมีวิวที่สวยงามทั้งห้องพักและห้องอาหารภายในโรงแรมมักหันหน้าออกไปทางฝั่งแม่น้ำเพื่อให้ลูกค้าที่มาพักหรือมารับประทานอาหารที่ห้องอาหารของโรงแรมได้ลิ้มรสอาหารที่แสนอร่อยไปพร้อมกับชื่นชมวิวทิวทัศน์ของสายน้ำแม่น้ำเจ้าพระยา ไม่เพียงแต่นักท่องเที่ยวชาวไทยที่ชื่นชอบการพักผ่อนในโรงแรมริมแม่น้ำ นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติโดยเฉพาะกลุ่มนักธุรกิจมักจะเลือกเข้าพักตามโรงแรมหรูริมแม่น้ำเจ้าพระยาเช่นกัน เรามาดูกันว่าในเขตบางคอแหลมมีโรงแรมหรูติดริมแม่น้ำเจ้าพระยาที่ไหนบ้าง

เริ่มที่โรงแรมหรูระดับ 5 ดาว ที่เป็นโรงแรมเก่าแก่และเป็นที่รู้จักทั้งกับชาวไทยและชาวต่างชาติคือ โรงแรมมณเฑียร ริเวอร์ไซด์ กรุงเทพ (Montien Riverside Hotel) ตั้งอยู่ที่ 372 ถ. พระรามที่ 3 แขวงบางโคล่ เขตบางคอแหลม กรุงเทพฯ โรงแรมมณเฑียร ริเวอร์ไซด์ กรุงเทพ มีห้องพักมากถึง 462 ห้อง และทุกประเภทห้องสามารถมองเห็นวิวแม่น้ำเจ้าพระยา ห้องพักมีให้เลือกตั้งแต่ห้องสุพีเรียไปจนถึงห้องคิงสวีท ตกแต่งหรูหราและมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันทุกประเภทห้องพัก พร้อมด้วยการบริการที่ดูแลเอาใจใส่ลูกค้าอย่างมืออาชีพ นอกจากนี้โรงแรมยังมีบริการห้องอาหาร คอฟฟี่ช็อป บาร์ ห้องประชุม บริการนวด ห้องฟิตเนส ซาวน่า ห้องอบไอน้ำ สนามเทนนิส สระว่ายน้ำกลางแจ้ง และสวน ถือว่าครบวงจร ส่วนราคาห้องพักนั้นเริ่มต้นตั้งแต่หนึ่งพันปลายๆไปจนถึงราว 40,000 บาท รับรองว่าพักที่นี่ต้องประทับใจทั้งห้องพัก การบริการ และวิวที่สวยงามแน่นอน

โรงแรมสุดหรูแห่งที่ 2 คือ โรงแรมแม่น้ำ รามาดาพลาซา กรุงเทพ (Ramada Plaza by Wyndham Bangkok Menam Riverside) เป็นโรงแรม 5 ดาว สูง 16 ชั้น ตั้งอยู่ที่ 2074 ถ. เจริญกรุง แขวงวัดพระยาไกร เขตบางคอแหลม กรุงเทพ โรงแรมแม่น้ำ รามาดาพลาซา นอกจากจะตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาแล้ว ยังตั้งอยู่ตรงข้ามเอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์ สถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตและเป็นศูนย์การค้าริมน้ำที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย จุดเด่นอีกอย่างของโรงแรมนี้คือมีห้องพักให้เลือกมากถึง 12 ประเภท รวมทั้งหมด 525 ห้อง ตกแต่งในสไตล์ไทยโมเดิร์น มีสิ่งความสะดวกภายในห้องพักครบครัน เช่นคอฟฟี่ช็อป บริการนวด จาคุซซี ห้องฟิตเนส ซาวน่า ห้องอบไอน้ำ สปา และสระว่ายน้ำกลางแจ้ง ถือว่ามีตัวเลือกห้องพักที่พร้อมรองรับนักท่องเที่ยวทุกระดับ ราคาห้องพักเริ่มต้นตั้งแต่ 2,000 บาท ไปจนถึงราว 20,000 บาท

โรงแรมสุดท้ายเป็นโรงแรมขนาดเล็กสุดชิคในระดับ 4 ดาว โฮเต็ล วันซ์ แบงค็อก (Hotel Once Bangkok) โรงแรมสไตล์บูติกของย่านเจริญกรุง ตั้งอยู่ที่ 2074/99 ถ. เจริญกรุง ซ. 72/2 แขวงวัดพระยาไกร เขตบางคอแหลม กรุงเทพ โฮเต็ล วันซ์ แบงค็อก ตั้งอยู่ในทำเลที่เดินทางสะดวกง่ายดายเพราะอยู่ใกล้สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส สะพานตากสิน และท่าเรือรับส่ง ห้องพักมีทั้งหมด 43 ห้องออกแบบหรูหราและทันสมัย พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกมากมายเช่น ห้องอาหาร บาร์ คอฟฟี่ช็อป ห้องฟิตเนส สำหรับห้องอาหารมีที่นั่งบนชั้นดาดฟ้ามองเห็นวิวแม่น้ำเจ้าพระยาและวิวของกรุงเทพมหานครอีกด้วย ราคาห้องพักเริ่มต้นตั้งแต่พันต้นๆไปจนถึงประมาณ 9,000 บาท ถือว่าเป็นโรงแรมริมแม่น้ำเจ้าพระยาที่มีราคาสบายกระเป๋าและเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจมากๆ



ทำไมลูกถึงพูดช้า

ปกติแล้วเด็กจะมีพัฒนาการทางภาษาและการสื่อสารตามลำดับตั้งแต่แรกเกิด เริ่มจากส่งเสียงร้อง มีเสียงอ้อแอ้ตอน 1-3 เดือน มีพัฒนาการในการตอบสนองการพูดคุยกับพ่อแม่ มีเสียงหัวเราะ เล่นน้ำลาย ทำรูปปากเลียนแบบพ่อแม่ที่กำลังคุยเล่นอยู่ด้วย และเริ่มพยายามเลียนเสียงออกจากลำคอ เปล่งออกมาเป็นคำสั้นๆเช่น หม่ำหม่ำ ปะป๋า หม่าม๊า ในวัยประมาณ 1 ขวบ หลังจากนั้นคลังคำศัพท์ของเด็กจะค่อยๆสะสมเพิ่มมากขึ้นตั้งแต่ 50-200 คำ ในวัย 2 ขวบ โดยเริ่มพูด 2-3 คำติดกันได้ และพัฒนาการจนสามารถพูดเป็นประโยคสั้นๆ ได้ ตอบคำถามได้

หากลูกไม่สามารถพูดคำที่มีความหมายได้เลยเมื่อถึงวัย 2 ขวบ หรือหากเด็กไม่มีสัญญาณการพูด ไม่ส่งเสียงเลียนแบบ หรือไม่หันตามเสียงเรียกตั้งแต่ช่วง 6-10 เดือน เป็นไปได้ว่าลูกเป็นเด็กพูดช้า

สาเหตุของการพูดช้าเกิดจากอะไรบ้าง

1. ความผิดปกติของการได้ยิน เช่น หูตึง หูหนวก หรือประสาทหูพิการ ทำให้ไม่สามารถพูดได้ โดยพ่อแม่สามารถสังเกตอาการได้ตั้งแต่วัยทารกหากลูกไม่ค่อยตอบสนองต่อเสียง แต่มักจะพยายามจ้องมองปากหรือท่าทางของพ่อแม่หรือผู้เลี้ยงดูเพื่อสื่อสาร

2. ความผิดปกติทางสติปัญญา เด็กมีพัฒนาการล่าช้าในหลายๆด้านหากเทียบกับเด็กในวัยเดียว เช่น ด้านความจำ ด้านกล้ามเนื้อ หรือระบบประสาทที่ควบคุมการเคลื่อนไหว

3. ภาวะออทิสติก เด็กจะมีพัฒนาการทางภาษาล่าช้าร่วมกับมีความบกพร่องในการเข้าสังคม โดยสามารถสังเกตพฤติกรรมได้ตั้งแต่ก่อนอายุ 30 เดือน เช่น เด็กไม่เข้าใจคำสั่ง ไม่มองหน้า ไม่สบตา ไม่มีอารมณ์ร่วมในการสนทนา เรียกชื่อไม่หัน เล่นคนเดียว ส่งเสียงไม่เป็นภาษา และชอบเล่นแบบเดิมซ้ำๆ

4. พัฒนาทางภาษาผิดปกติหรือล่าช้าโดยที่พัฒนาการด้านอื่นปกติ เด็กกลุ่มนี้อาจจะเกิดจากพัฒนาการด้านความเข้าใจภาษาและการใช้ภาษาล่าช้า ทำให้ปัญหาในการเรียน การอ่าน การเขียน และการสะกดคำ ซึ่งควรได้รับการรักษาและติดตามอาการอย่างต่อเนื่อง แต่เด็กบางคนในกลุ่มนี้อาจจัดอยู่ในกลุ่มที่เราเรียกว่า “เด็กปากหนัก” คือเด็กมีความเข้าใจทางภาษาปกติ แต่ยังไม่เปล่งเสียงพูด จะใช้ท่าทางเพื่อสื่อสารและบอกความต้องการเช่น ส่ายหัว หรือพยักหน้า เด็กกลุ่มนี้สามารถพัฒนาจนมีทักษะภาษาปกติได้ดี

5. ขาดการกระตุ้นพัฒนาการที่เหมาะสม ซึ่งเป็นสาเหตุจากการเลี้ยงดู เช่นปล่อยให้เด็กอยู่คนเดียวบ่อยๆ หรืออยู่กับสื่อหน้าจอมากเกินไปจนไม่มีปฏิสัมพันธ์กับผู้เลี้ยงดู การเลี้ยงดูที่ไม่เหมาะสมนี้อาจส่งผลให้เด็กมีอาการที่รุนแรงมากขึ้นแพทย์จึงไม่แนะนำให้เด็กอายุต่ำกว่า 2 ปี ใช้สื่ออิเล็กทรอนิกส์ทุกประเภท

หากคุณพ่อคุณแม่หรือผู้ที่เลี้ยงดูเด็กสังเกตพฤติกรรมแล้วรู้สึกว่าเด็กอาจมีความผิดปกติในการพัฒนาการทางภาษา การพูด และการสื่อสารที่ล่าช้า ควรพามาปรึกษากุมารแพทย์เพื่อวินิจฉัยอาการตามความเหมาะสมและถูกต้อง เพื่อส่งเสริมพัฒนาการทางการพูดและพัฒนาการด้านอื่นๆต่อไป