ดูแลเด็ก ใน มีนบุรี, กรุงเทพมหานคร

ดูแลเด็ก ใน มีนบุรี, กรุงเทพมหานคร

คุณต้องการใช้บริการนี้เมื่อไหร่?
ตอนนี้
ระบุวันที่

วิธีการทำงาน

Saijai

ติดต่อเรา

ติดต่อเราโดยตรงผ่าน LINE OA เพื่อจองบริการที่คุณต้องการ

Saijai

แจ้งรายละเอียดให้เราทราบ

เลือกบริการ วันที่ เวลา และสถานที่ที่คุณต้องการให้ตรงกับความต้องการของคุณ

Saijai

ยืนยันการจองของคุณ

เราจะยืนยันการจองของคุณภายใน 24 ชั่วโมงผ่านทาง LINE OA

ผกากาญจน์  รื่นอุรา
ผกากาญจน์ รื่นอุรา
Saijai ประสบการณ์ 0-1 ปี
Saijai อายุ 48 ปี

มีประสบการณ์พี่เลี้ยงมา 1 ปี ค่ะ ดูแลเด็กได้ทุกวัย ตั้งแต่ 6 เดือน

แสดงเพิ่มเติม
อลิสา  อารีย์
อลิสา อารีย์
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี

ดิฉันอลิสา อารีย์ ปัจจุบันอายุ 52 ปี ประสบการณ์การทำงาน 15 ปีขึ้นไป จบหลักสูตรพี่เลี้ยงเด็กจาก รพ.ศิริราช ดูแลเด็กแรกเกิดจนถึง 6 ปี แล้วแต่อายุงาน

แสดงเพิ่มเติม

สวัสดีคะ ชื่อป่าน นะคะ อายุ 27 ปี เป็นคนรักเด็ก ประสบการณ์ครูผู้ช่วยสอนศิลปะเด็กเล็ก และโรงเรียนสอนภาษาอังกฤษค่ะ สนใจสอบถามเพิ่มเติมได้คะ Line ID: Phn.rati

Sawasdee Ka! ( It's Hello in Thai language :D) My name is Ratikorn, but please call me for shorten name Phannie. I am 27 years old. I am generous, patient, friendly, easy going, gentle,warmth, reasonable, honest, has a sense of responsibility. Moreover I am open- minded girl who try to learn new things around me. I also enjoy learning new things to develope myself in the future.About experience with kids, I worked at the school for kids for 1 year, there were 20children, aged about 3-12 years old.

แสดงเพิ่มเติม
rasita pimpakorn
rasita pimpakorn
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี

ชื่อ รสิตา พิมพกร ชื่อเล่น ปูสถานะภาพ มีครอบครัวแล้วเบอร์โทร 098-9954465ว-ด-ป เกิด 5ธันวาคม 2527สัญชาติ ไทยตำแหน่งที่ต้องการสมัคร พี่เลี้ยงน้องค่ะการสื่อสารภาษา อังกฤษ พออ่านออกเขียนได้ค่ะไทย ดีมากค่ะปัจจุบันพักอยู่ที่ สระแก้วประสบการณ์ทำงาน -เลี้ยงน้อง1ขวบถึง4ขวบลาดพร้าว-เลี้ยงน้อง2ขวบถึง4ขวบทองหล่อ-เลี้ยงน้อง3เดือนถึง3ขวบ7เดือนชิดลมได้รับวัคซีนมาแล้ว ....3... เข็ม

แสดงเพิ่มเติม
	ปรีชญา ขัดเรือน
ปรีชญา ขัดเรือน
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี

ใจเย็น รักเด็ก มีความอดทนสูง สามารถแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าได้ดี ยิ้มแย้มแจ่มใจ เสริมสร้างพัฒนาการเด็กตามช่วงวัยได้ค่ะ

แสดงเพิ่มเติม
นรีรัตน์  ฝอยทอง
นรีรัตน์ ฝอยทอง
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี
ผ่านการตรวจสอบประวัติบุคคล

สนใจงานพี่เลี้ยงเด็กค่ะ มีประสบการณ์บ้านนายจ้างมา8ปี เลี้ยงได้ตั้งแต่แรกเกิดจนถึงเด็กโต ตอนนี้ว่างงานอยู่ค่ะ กำลังมองหางาน สามารถรับฟังและเรียนรุ้สิ่งใหม่ๆ ได้ค่ะ

แสดงเพิ่มเติม
อรวรรณ มีมุข
อรวรรณ มีมุข
Saijai ประสบการณ์ 0-1 ปี

สวัสดีค่ะ ชื่อจอยนะคะ อายุ 22 ปีค่ะ เพิ่งจบปริญญาตรีจากมหาวิทยาลันหอการค้าไทย สาขาภาษาอังกฤษและการแปลค่ะ เคยช่วยพี่เลี้ยงหลานตอนช่วงปิดเทอมค่ะ และตอนนี้อยากหาประสบการณ์เลี้ยงเด็กเพิ่มค่ะ เพื่อที่จะสมัครเป็นออแพร์ที่ต่างประเทศค่ะ เป็นคนใจเย็นและใจดีค่ะ สามารถสอนภาษาอังกฤษน้องและสอนการบ้านน้องได้ค่ะ เข้ากับเด็กได้ดีและชอบอยู่กับเด็กค่ะ

แสดงเพิ่มเติม
อคัมย์สิริ ศศิชลพินทุ์
อคัมย์สิริ ศศิชลพินทุ์
Saijai ประสบการณ์ 0-1 ปี
Saijai อายุ 41 ปี
วณิตา กะสิรักษ์
วณิตา กะสิรักษ์
Saijai อายุ 24 ปี
อารตี อับดลราหมาน
อารตี อับดลราหมาน
Saijai ประสบการณ์ 0-1 ปี
Saijai อายุ 26 ปี
วาสนา แหยมแก้ว
วาสนา แหยมแก้ว
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี
Saijai อายุ 46 ปี
พิมพ์พิชญา แสนลุน
พิมพ์พิชญา แสนลุน
Saijai ประสบการณ์ 3-4 ปี
Saijai อายุ 19 ปี

ยิ้มเก่ง มีมารยาท รักเด็ก

แสดงเพิ่มเติม
Thipsuda Pornsurat
Thipsuda Pornsurat
Saijai ประสบการณ์ 0-1 ปี

Helloo, My name is noon and i'm 27 years old. graduated from kasetsart university, i very love the kid from my background and just want to have a good experience, wanna play with your kid!! my personality is always smile, happy girl with a kindness. I have been in USA about 4 months and have experience to play with kid of my host.

สวัสดีค่ะ ชื่อนุ่น อายุ 27ปี จบป.ตรี มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เป็นคนรักเด็กมากๆและชอบเล่นกับเด็กๆ พื้นฐานเคยเลี้ยงน้องๆมา2คน และอยากมาหาประสบการณ์วันว่างเสาร์อาทิตย์

แสดงเพิ่มเติม
กัญชพร เชื้อแถว
กัญชพร เชื้อแถว
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี

งานประจำเป็นครูพี่เลี้ยงอยู่เนอสเซอรี่ ทำงานมา 6 ปี เป็นคนขี้เล่น เฟรนลี่ อยู่ที่ทำงานเป็นครูผู้นำสอนน้องทำกิจกรรมในด้านพัฒนาการต่างๆ

แสดงเพิ่มเติม
Pavana Suntudchaiyo
Pavana Suntudchaiyo
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี
Saijai อายุ 57 ปี

I am in good health, kind and responsible, polite and gentle. สุภาพ สุขภาพแข็งแรง พูดเพราะ มีความรับผิดชอบ

แสดงเพิ่มเติม
อานนท์ ทองแสง
อานนท์ ทองแสง
Saijai ประสบการณ์ 1-2 ปี
Saijai อายุ 30 ปี

ผมเป็นคนสุภาพ เรียบร้อย ไม่ยุ่งอบายมุข ไม่พูดคำหยาบ ตั้งใจทำงานที่ได้รับมอบหมาย ทำได้ทุกอย่างครับ สอนได้ทุกวิชา ค่าจ้างเป็นต่อชั่วโมงหรือให้เป็นรายเดือนก็ได้ครับ

แสดงเพิ่มเติม
ธนัชชา  แก้วผลึก
ธนัชชา แก้วผลึก
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี

ชื่อหนิงค่ะ ได้รับวัคซีนครบ 2 เข็ม ทำงานสอนดนตรี(กีตาร์คลาสสิก) สอนตั้งแต่เด็กจนถึงผู้ใหญ่ รวมถึงสอนเด็กที่มีความพิเศษ(ออทิสติกด้วยค่ะ) มีกิจกรรมที่ทำกับเด็กอยู่เรื่อยๆค่ะ รักเด็ก ชอบอยู่กับเด็กๆค่ะ

แสดงเพิ่มเติม
มัณฑนา ศรีโชติ
มัณฑนา ศรีโชติ
Saijai ประสบการณ์ 1-2 ปี
Saijai อายุ 49 ปี

ใจเย็น รักเด็ก พร้อมเรียนรู้ปรับตัว

แสดงเพิ่มเติม
เพรียวพร ลูกเพชร
เพรียวพร ลูกเพชร
Saijai อายุ 23 ปี

มีประสบการณ์ เป็นพี่เลี้ยงเด็กในศูนย์เลี้ยงเด็ก 4 เดือน สามารถดูแลเด็กอายุ 4 ขวบขึ้นไป รับวัคซีนแล้ว 3 เข็ม สะดวกให้บริการสะดวกรับตามสถานที่ที่เดินทางโดย mrt สอนภาษาอังกฤษได้ เล่นกีต้าเป็น วาดรูปและร้องเพลงได้ สามารถเป็นเพื่อนน้องทำกิจกรรมที่เหมาะสมตามวัยได้ค่ะ

แสดงเพิ่มเติม
ศิริวิมล ทรงศิริ
ศิริวิมล ทรงศิริ
Saijai ประสบการณ์ 0-1 ปี
Saijai อายุ 42 ปี

ที่บ้านมีห้องแอร์สถานที่ให้วิ่งเล่น เรียนได้เกรดเฉลี่ยอยู่ที่ 3.40 เรียนโรงเรียนเทพศิรินทร์ร่มเกล้า มีประสบการณ์ดูแลหลานๆของตนเองหลายคน มากกว่า5คน ตั้งแต่อายุ 1 ขวบ ถึง 15 ปี

แสดงเพิ่มเติม

ข้อมูลสถิติน่าสนใจเกี่ยวกับ

Saijai จำนวนประชากร
Saijai จำนวนประชากรเด็ก (แรกเกิด-14 ปี)
Saijai จำนวนประชากรสูงอายุ (60 ปี ขึ้นไป)
Saijai จำนวนสัตว์เลี้ยง สุนัข

รีวิวล่าสุด

พี่เลี้ยงเด็กที่จ้างผ่านเว็บใส่ใจคือดีจริง ๆ พี่เลี้ยงเด็กมีประสบการณ์ในการเลี้ยงดูเด็กและเป็นคนที่ซื่อสัตย์มาก ทำให้คนเป็นแม่อย่างเราหายห่วงลูกเลยจริง ๆ หากใครที่กำลังมองหาพี่เลี้ยงเด็ก บริการของทางใส่ใจถือเป็นตัวเลือกที่ดีเลยทีเดียวสำหรับคุณพ่อคุณแม่ยุคใหม่ที่ต้องทำงานนอกบ้าน
Saijai
กรรชัย วงศ์พานิชญ์
3 ปีที่แล้ว
ลาคลอดได้แค่ 3 เดือน ค่ะ ต้องกลับไปทำงานต่อ จะฝากลูกไว้กับยายก็กลัวแกจะดูไม่ไหว เลยลองหาพี่เลี้ยงจากเว็บใส่ใจดู ตอนแรกก็กังวลอยู่เหมือนกันค่ะ ไม่กล้าทิ้งลูกไว้กับพี่เลี้ยง แต่ก็วางใจอย่างนึงว่าพี่เลี้ยงมีประสบการณ์ ตอนนี้ทุกอย่างลงตัว โอเคมาก ๆ ค่ะ
Saijai
สุชาดา มิ่งมงคล
3 ปีที่แล้ว
เปลี่ยนพี่เลี้ยงเด็กมาหลายคน ส่วนมากราคาสูง ๆ ทั้งนั้น แต่อยู่ไม่ได้นานก็ลาออก ลองจองพี่เลี้ยงผ่านเวปใส่ใจ เยี่ยมมากเลยครับ แฟนสบายใจ หมดปัญหา ไม่ต้องจ้างพี่เลี้ยงราคาแพง ได้ราคาแบบสมเหตุสมผล แถมมีคุณภาพครับ
Saijai
จิตวัชร จันประทีป
4 ปีที่แล้ว
ลูกยังเล็กเราจ้างพี่เลี้ยงมา ตกลงเวลาเริ่มงาน 9.30-17.30 น. (พี่เลี้ยงมา 8.30 น. ทุกวัน ) ประสบการณ์ เคยดูแล เด็กเล็ก 4 เดือน – 2 ขวบ พอเด็กเข้าโรงเรียน ก็ว่าง พอดีที่บ้านช่วยกันหา เจอเว็บนี้เห็นรีวิวประสบการณ์คนเลี้ยงเลย คุยดู พี่เลี้ยงทำงานดีมาก่อนเวลา เตรียมของใช้ ทำงานเป็นระเบียบเหมือนอบรมมาดี อุ่นใจ คิดถูกที่ใช้บริการใส่ใจ แนะนำค่ะ
Saijai
ณัฐวรรณ แสงสีเงิน
4 ปีที่แล้ว
อยู่ ๆ พี่เลี้ยงคนเก่าลาออกโดยไม่แจ้งล่วงหน้าต้องรีบหาพี่เลี้ยงใหม่แบบเร่งด่วน ไม่รู้จะทำยังไง บังเอิญมาเจอเว็บใส่ใจ หาพี่เลี้ยงคนใหม่ได้ง่ายมาก ๆ แถมได้คนดี มีประสบการณ์ ทำงานคล่อง เยี่ยมเลยค่ะ ประทับใจสุด ที่สำคัญคุณแม่สบายใจได้คนมาทำงานทันที
Saijai
ภัทรา กิจบำรุง
4 ปีที่แล้ว

คำถามที่พบบ่อยสำหรับการค้นหา ดูแลเด็ก

หากคุณพ่อคุณแม่ต้องทำงานนอกบ้านและไม่มีเวลาเลี้ยงลูกเอง ลองเปรียบเทียบกันระหว่างส่งลูกไปเนอสเซอรี่และจ้างพี่เลี้ยงเด็กมาดูแลลูกที่บ้าน อะไรจะตรงใจคุณพ่อคุณแม่มากที่สุด
บริการรับเลี้ยงเด็กในปัจจุบันมีหลายทางเลือก ไม่ว่าจะเป็นพี่เลี้ยงเด็ก หรือเนอสเซอรี่ เรามาดูข้อดีข้อเสียกันเลยค่ะ

ข้อดีของพี่เลี้ยงเด็กที่บ้านมีดังนี้

1) พี่เลี้ยงสามารถดูแลลูกน้อยของคุณได้อย่างใกล้ชิด ลูกของคุณจะได้รับความเอาใจใส่ที่ส่งผลต่อพัฒนาการเด็กทางด้านอารมณ์
2) พี่เลี้ยงสามารถช่วยส่งเสริมพัฒนาการเด็กผ่านการทำกิจกรรมต่าง
3) พ่อแม่ประหยัดเวลามากขึ้น หากจ้างพี่เลี้ยงมาดูแลที่บ้าน
4) เด็กจะไม่ป่วยบ่อย เนื่องจากเด็กจะอยู่ในบ้านของตนเอง

ข้อดีของเนอสเซอรี่

1) เด็ก ๆ จะรู้จักการเข้าสังคม
2) เนอสเซอรี่มีบริเวณกว้างเพื่อให้เด็กได้ทำกิจกรรมหลากหลายรูปแบบ
3) เด็กจะได้ฝึกดูแลตัวเอง เพราะครูพี่เลี้ยงไม่ได้ดูแลเด็กแบบใกล้ชิด

ข้อเสียของพี่เลี้ยง

1) ค่าใช้จ่ายอาจจะสูงกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับเข้าศูนย์เนอสเซอรี่
2) เด็กอาจจะติดพี่เลี้ยงเกินไป
3) ลดความเป็นส่วนตัวของครอบครัว

ข้อเสียของเนอสเซอรี่

1) เด็กป่วยบ่อยเพราะมีภูมิคุ้มกันที่น้อยเนื่องจากอยู่กับเด็กหลายคน
2) ลูกจะไม่ได้รับการดูแลใกล้ชิดแบบตัวต่อตัวอาจส่งผลถึงอารมณ์ของเด็กได้
3) เด็กจะอยู่ห่างไกลจากพ่อแม่

หากคุณพ่อคุณแม่กำลังมองหาบริการพี่เลี้ยงเด็ก ใส่ใจมีบริการพี่เลี้ยงมืออาชีพที่พร้อมจะให้บริการคุณค่ะ
คุณสมบัติอะไรบ้างที่พ่อแม่ควรมองหาจากพี่เลี้ยงเด็กก่อนตกลงจ้าง
ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่คุณพ่อคุณแม่สักคนจะตัดสินใจหาใครมาดูแลลูกน้อยที่เปรียบเสมือนแก้วตาดวงใจ วันนี้ใส่ใจมีข้อมูลของทักษะและคุณสมบัติที่พี่เลี้ยงเด็กควรมีมาฝากให้คุณพ่อคุณแม่ลองเช็คกันดูก่อนตัดสินใจจ้างพี่เลี้ยงสักคน

1. พี่เลี้ยงเด็กต้องมีความอดทนสูง คุณพ่อคุณแม่ต้องมั่นใจว่าพี่เลี้ยงเด็กต้องมีความเข้าใจเด็ก สามารถรับมือกับสถานการณ์ต่าง ๆ ได้ดี และที่สำคัญที่สุดคือเป็นคนที่มีความอดทนสูง
2. พี่เลี้ยงเด็กควรรู้วิธีการปฐมพยาบาลเบื้องต้น ในกรณีเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดหรืออุบัติเหตุ พี่เลี้ยงต้องมีความรู้และทักษะการปฐมพยาบาลเบื้องต้น และสามารถช่วยเหลือเด็กได้ทันที เช่น เด็กที่อยู่ภายใต้การดูแลเกิดอุบัติเหตุหกล้ม มีแผลถลอก พี่เลี้ยงต้องรีบปฐมพยาบาลเบื้องต้นเพื่อไม่ให้เกิดการติดเชื้อของแผล เป็นต้น ดังนั้นคุณพ่อและคุณแม่ควรเลือกพี่เลี้ยงที่มีทักษะด้านการปฐมพยาบาลเบื้องต้นเพราะเป็นสิ่งจำเป็นมาก ๆ
3. พี่เลี้ยงเด็กควรมีทักษะการแก้ไขปัญหา พี่เลี้ยงจะต้องรู้วิธีการแก้ไขปัญหาเบื้องต้นได้โดยไม่จำเป็นต้องแจ้งผู้ว่าจ้างเสมอไปหากปัญหานั้นไม่ใช่ปัญหาที่ร้ายแรง
4. ทำอาหารเป็น ถือเป็นอีกหนึ่งทักษะที่พี่เลี้ยงเด็กจำเป็นต้องมี พี่เลี้ยงไม่ได้มีหน้าที่แค่ดูแลเด็กอย่างเดียวเท่านั้น แต่พี่เลี้ยงอาจจะต้องเตรียมอาหารให้เด็ก ๆ รับประทานในแต่ละมื้อด้วย หากอาหารอร่อยถูกปาก เด็กจะเจริญอาหารและอารมณ์ดี ที่สำคัญที่สุดที่พี่เลี้ยงต้องใส่ใจและจดจำด้วยว่าเด็ก ๆ ที่ดูแลนั้น แพ้อาหารอะไรบ้าง เพื่อป้องกันอุบัติเหตุที่อาจจะเกิดขึ้นจากการรับประทานสิ่งที่แพ้เข้าไป
5. มีความคิดสร้างสรรค์ในการส่งเสริมพัฒนาการเด็ก พี่เลี้ยงจะต้องเป็นคนที่มีความคิดสร้างสรรค์ สามารถร่วมทำกิจกรรมกับเด็ก ๆ ในระหว่างวัน ไม่ว่าจะเป็นทางด้านวิชาการหรือสันทนาการ เช่น พี่เลี้ยงเด็กอาจจะสอนเด็กนับเลข ฝึกการอ่าน หรือระบายสีเพื่อให้เด็กได้เรียนรู้ผ่านกิจกรรมที่สร้างสรรค์เหล่านี้
ควรทำอย่างไรเพื่อคลายความกังวลเมื่อคุณพ่อคุณแม่ต้องปล่อยให้ลูกอยู่ตามลำพังกับพี่เลี้ยง
ไม่ใช่เรื่องง่ายที่สำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่จะไว้วางใจให้ลูก ๆ ของคุณอยู่ในความดูแลพี่เลี้ยงเด็ก แม้ว่าจะเป็นเวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมงก็ตามเด็กอาจเกิดความรู้สึกวิตกกังวลเมื่อต้องแยกจากคุณพ่อคุณแม่ ใส่ใจมีวิธีการที่จะช่วยลดความกังวลของทั้งคุณพ่อคุณแม่และลูกได้ดังนี้ค่ะ

1. คุณพ่อคุณแม่ควรพูดคุยและทำความเข้าใจกับเด็ก ถึงความจำเป็นที่ต้องให้เด็กๆ อยู่กับพี่เลี้ยง ให้ความมั่นใจกับเด็กว่าคุณพ่อคุณแม่หาคนที่สามารถดูแลพวกเขาได้ดี
2. คุณพ่อคุณแม่ควรหาพี่เลี้ยงที่เข้ากันได้กับลูก ๆ และมีความพร้อมในการดูแลเด็ก
3. แนะนำให้ลูก ๆ ทำความรู้จักกับพี่เลี้ยง โดยอาจจะเล่าให้ฟังว่าพี่เลี้ยงเห็นใคร ชื่ออะไร คุยกับพี่ผ่านทางวิดีโอคอลก่อนวันเริ่มงานจริง เพื่อนลดความตึงเครียดในการเจอกันครั้งแรก
4. คุณพ่อคุณแม่ควรบันทึกเบอร์โทรศัพท์ของตัวเอง เบอร์โทรฉุกเฉิน และสอนให้ลูกใช้โทรศัพท์เพื่อโทรหาคุณพ่อคุณแม่ได้ หรือโทรขอความช่วยเหลือได้ในกรณีฉุกเฉิน
5. มอบหมายงานบ้านเล็ก ๆ น้อย ๆ ให้เด็ก ๆ ทำระหว่างวัน เพื่อที่เด็ก ๆ จะได้มีกิจกรรมเบนความสนใจและไม่เอาแต่จดจ่อรอเวลาคุณพ่อคุณแม่กลับบ้าน
6. เมื่อถึงเวลาที่คุณพ่อคุณแม่ต้องออกจากบ้านและต้องให้เด็ก ๆ อยู่กับพี่เลี้ยงเด็ก คุณพ่อคุณแม่ควรให้ความมั่นใจกับเด็ก ๆ ว่าพี่เลี้ยงจะดูแลเด็ก ๆ เป็นอย่างดีและย้ำว่าพวกเขาสามารถโทรหาคุณได้เสมอ
ในวันสัมภาษณ์พ่อแม่ควรตกลงอะไรกับพี่เลี้ยงเด็ก
ขั้นตอนของการสัมภาษณ์พี่เลี้ยงเด็กนั้นถือเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่ง เพราะไม่ใช่แค่คุณจะได้ทำความรู้จักกับพี่เลี้ยงที่คุณจะจ้าง แต่ในขั้นตอนนี้คุณต้องทำการตกลงกับพี่เลี้ยงเด็กก่อนเริ่มงาน ดังนั้นวันนี้ใส่ใจมีข้อแนะนำให้คุณพ่อคุณแม่ที่กำลังจะสัมภาษณ์พี่เลี้ยงเด็กและพูดคุยถึงข้อตกลงที่สำคัญมีอะไรบ้างมาดูกันค่ะ

1) ขอบเขตหน้าที่ที่คุณต้องการให้พี่เลี้ยงทำ เช่น ช่วยเลี้ยงลูกคุณขณะคุณไม่อยู่บ้าน ช่วยเตรียมกับข้าวให้ลูกน้อยรับประทานในแต่ละมื้อ ช่วยสอนการบ้านหากพี่เลี้ยงมีความสามารถ
2) วันและเวลาการทำงาน ในวันที่สัมภาษณ์คุณและพี่เลี้ยงจะต้องตกลงเรื่องวันเวลาการทำงานให้อย่างชัดเจน และคุณควรจะมีวันหยุดให้พี่เลี้ยงตาม กฎหมายกระทรวงแรงงาน นายจ้างต้องให้ลูกจ้างมีวันหยุดประจำสัปดาห์ และวันพักร้อน ได้ 6 วัน ต่อ ปี และต้องหยุดตามประเพณี ปีละไม่น้อยกว่า 13 วัน
3) ค่าจ้าง คุณจะต้องตกลงเรื่องค่าจ้างกับพี่เลี้ยงให้ชัดเจน หากพี่เลี้ยงปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างดี คุณควรที่จะเพิ่มเงินเดือนให้ตามความเหมาะสม ในกรณีที่พี่เลี้ยงเด็กทำงานในวันหยุดนายจ้างต้องจ่ายเงินค่าจ้างตามกฎหมายแรงงาน
4) ข้อตกลงในการอาศัยอยู่ในบ้าน หากคุณมีกฎระเบียบที่ต้องการให้พี่เลี้ยงเด็กปฏิบัติตามกฎที่คุณตั้งไว้ คุณต้องแจ้งให้พี่เลี้ยงเด็กรับทราบก่อนเริ่มงานเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต
5) ถ้าคุณเป็นหนึ่งคนที่ไม่อยากให้ลูกติดโทรศัพท์ คุณควรแจ้งให้พี่เลี้ยงทราบ และควรกำชับพี่เลี้ยงว่าไม่ให้ลูกของคุณเล่นโทรศัพท์ขณะที่คุณไม่อยู่ เพราะเด็กอาจได้รับผลกระทบจากการเล่นโทรศัพท์นานเกินไปจนส่งผลให้เกิดภาวะสมาธิสั้นและส่งผลกับสายตา ดังนั้นพี่เลี้ยงจะต้องหากิจกรรมที่ให้เด็กได้พัฒนาตนเองมากกว่าการเล่นโทรศัพท์มือถือ

ข้อมูลทั่่วไป เขตมีนบุรี

‘มีนบุรี’ ถือเขตชานเมืองแสนคึกคัก เป็นทั้งแหล่งชุมชนที่อยู่อาศัยและเป็นจุดเชื่อมต่อการเดินทางระหว่างกรุงเทพฯ กับภาคตะวันออก จากเดิม เขตมีนบุรี นี้เคยเป็นจังหวัดที่จัดตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2444 ในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ประกอบด้วย อำเภอคลองสามวา อำเภอแสนแสบ อำเภอหนองจอก และอำเภอเจียรดาบ (เจียรวร) ชื่อมีนบุรี (หมายถึง 'เมืองปลา') ได้รับเลือกให้เข้ากับจังหวัดธัญบุรีที่มีอยู่ (หมายถึง 'เมืองข้าว') ปัญหาเศรษฐกิจในช่วงปี พ.ศ. 2473-2474 ทำให้รัฐบาลยุบองค์กรต่างๆ เพื่อลดค่าใช้จ่าย จังหวัดมีนบุรีถูกกำจัดและเปลี่ยนเป็นอำเภอ เขตมีนบุรีและเขตลาดกระบังของกรุงเทพมหานคร และอำเภอหนองจอก จังหวัดฉะเชิงเทรา ในปี พ.ศ. 2500 เขตมีนบุรี หลังจากการรวมจังหวัดพระนครกับจังหวัดธนบุรีเข้าด้วยกันเป็นนครหลวงกรุงเทพธนบุรีและเปลี่ยนแปลงฐานะเป็นกรุงเทพมหานครเมื่อ พ.ศ. 2515 แบ่งเขตการปกครองย่อยเป็นแขวง รวม 7 แขวง และในที่สุดเมื่อ พ.ศ. 2540 ได้มีประกาศกระทรวงมหาดไทยเปลี่ยนแปลงพื้นที่เขตมีนบุรี แยก 5 แขวงทางด้านเหนือของเขต ไปจัดตั้งเป็นเขตคลองสามวา ทำให้เขตมีนบุรีเหลือพื้นที่ปกครองอยู่ 60 ตารางกิโลเมตรเศษ ใหญ่เป็นอันดับที่ 5 ของกรุงเทพมหานครสภาพภูมิประเทศเป็นที่ราบลุ่ม มีคลองและลำรางไหลผ่านหลายสาย ในอดีตเป็นเรือกสวนไร่นา บ่อปลาด้วยความที่เป็นเมืองที่มีปลาชุกชุม จึงมีคนต่างถิ่นจากจังหวัดอื่น ๆ มาทอดแหดักตาข่ายเพื่อเอาปลาจากย่านมีนบุรีไปทำกิน ซึ่งคนในพื้นที่และพื้นที่ใกล้เคียงต่างคุ้นเคยกับพื้นที่ย่านมีนบุรีในชื่อว่า “ทุ่งแสนแสบ” และ “ทุ่งหลวง” ต่อมาในช่วงเริ่มการสร้างเมือง การขุดคลองสร้างถนนได้ขยายไปยังหลายพื้นที่ตั้งแต่ทุ่งพญาไท ทุ่งสามเสน ทุ่งมหาเมฆ ทุ่งบางกะปิ รวมไปถึงทุ่งในมีนบุรี ซึ่งเป็นพื้นที่ทำนาที่ใหญ่ที่สุดของเขตมณฑลกรุงเทพฯจาก ปัจจุบันมี นาบัว และไร่หญ้า ก็เริ่มลดน้อยลง เนื่องจากพื้นที่หลายแห่งถูกเปลี่ยนสภาพเป็นที่อยู่อาศัยหนาแน่น หมู่บ้าน อาคารพาณิชย์ สถานที่ประกอบการทั้งเล็กและขนาดใหญ่ โดยมีศูนย์กลางของการค้าขายอยู่ที่ตลาดมีนบุรี ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ใกล้กับฝั่งรามอินทรา และยังมีตลาดนัดจตุจักร 2 มีนบุรี (ตลาดสุขาภิบาลเดิม) ตลาดน้ำขวัญ-เรียม นิคมอุตสาหกรรมบางชัน (ส่วนเขตมีนบุรี) รวมถึง เป็นย่านที่มีสถานที่สำคัญทางการศึกษาหลายแห่ง สวนสาธารณะ และพิพิธภัณฑ์



ทำไมอายุช่วง 2-7 ปี ถึงมีความสำคัญมากสำหรับการพัฒนาสมอง

ตอนที่อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ยังเป็นเด็ก คงมีคนเพียงไม่กี่คนหรืออาจจะไม่มีใคร คาดคิดว่าเขาจะสร้างผลงานวิทยาศาสตร์ที่น่าทึ่ง เขามีพัฒนาการด้านภาษาที่ช้ากว่าเด็กในวัยเดียวกัน จนทำให้พ่อแม่กังวลจนถึงขั้นต้องปรึกษาแพทย์ พี่สาวของเขาเคยบอกว่าไอน์สไตน์ “มีปัญหากับภาษาจนคนรอบข้างกลัวว่าเขาจะไม่มีวันเรียนรู้” แล้วเด็กคนนี้เปลี่ยนจากพัฒนาการที่ล่าช้าไปสู่การเป็นไอน์สไตน์ได้อย่างไร

ส่วนหนึ่งของคำตอบสำหรับคำถามนี้ คือของขวัญสองชิ้นที่ไอน์สไตน์ได้รับจากพ่อแม่ของเขาเมื่ออายุได้ 5 ขวบ เมื่อไอน์สไตน์นอนอยู่บนเตียงทั้งวันจากการเจ็บป่วย พ่อของเขาให้เข็มทิศแก่เขา สำหรับไอน์สไตน์ มันเป็นอุปกรณ์ลึกลับที่จุดประกายความอยากรู้ทางวิทยาศาสตร์ของเขา ไม่นานหลังจากนั้น แม่ของไอน์สไตน์ซึ่งเป็นนักเปียโนมากความสามารถได้มอบไวโอลินให้ไอน์สไตน์ ของขวัญทั้งสองช่วยกระตุ้นสมองของไอน์สไตน์ในเวลาที่เหมาะสม

สมองของเด็กพัฒนาอย่างรวดเร็ว ครั้งแรกเกิดขึ้นเมื่ออายุประมาณ 2 ขวบ และครั้งที่สองเกิดขึ้นในช่วงวัยรุ่น ในช่วงเริ่มต้นของช่วงเวลาเหล่านี้ จำนวนการเชื่อมต่อ (ไซแนปส์) ระหว่างเซลล์สมอง (เซลล์ประสาท) จะเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า เด็กวัย 2 ขวบมีไซแนปส์มากเป็นสองเท่าของผู้ใหญ่ เนื่องจากการเชื่อมต่อระหว่างเซลล์สมองเหล่านี้เป็นจุดเริ่มต้นของการเรียนรู้ ไซแนปส์ที่มากเป็นสองเท่าทำให้สมองเรียนรู้ได้เร็วกว่าช่วงเวลาอื่น ๆ ของชีวิต ดังนั้นประสบการณ์ของเด็กในระยะนี้จึงส่งผลยาวนานต่อพัฒนาการของเด็ก ช่วงเวลาสำคัญของการพัฒนาสมองช่วงแรกเริ่มเมื่ออายุประมาณ 2 ขวบ และสิ้นสุดเมื่ออายุประมาณ 7 ขวบ ซึ่งเป็นโอกาสสำคัญที่จะวางรากฐานสำหรับการศึกษาแบบองค์รวมสำหรับเด็ก

สี่วิธีในการส่งเสริมพัฒนาการให้สูงสุด ได้แก่ การส่งเสริมให้รักการเรียนรู้ มุ่งเน้นการเรียนรู้แบบกว้างมากกว่าที่จะเป็นเชิงลึก ให้ความสนใจกับความฉลาดทางอารมณ์(EQ) และไม่ถือว่าการศึกษาของเด็กเล็กเป็นเพียงสารตั้งต้นของการเรียนรู้ "จริง" เด็กเล็กต้องสนุกกับกระบวนการเรียนรู้แทนที่จะเน้นที่ประสิทธิภาพ เด็กและพ่อแม่ ผู้ปกครองควรเน้นถึงความสุขในการลองทำกิจกรรมใหม่ๆ และเรียนรู้สิ่งแปลกใหม่ ต้องช่วยให้เด็กๆ เข้าใจว่าความผิดพลาดเป็นเรื่องปกติของการเรียนรู้ ช่วงเวลานี้ยังเป็นเวลาที่จะปลูกฝังให้เด็กเชื่อว่าความพยายามนำมาซึ่งความสามารถและความสำเร็จ ไม่มีใครเก่งมาตั้งแต่เกิด ไม่ควรเยินยอเด็กจนเกินความเป็นจริง ให้เน้นย้ำความพากเพียรและสร้างพื้นที่ปลอดภัยสำหรับการเรียนรู้แทน เด็ก ๆ จะเรียนรู้ที่จะรักการเรียนรู้ถ้าเราแสดงความกระตือรือร้นในกระบวนการมากกว่าที่จะมุ่งมั่นในผลลัพธ์



รู้จักและเข้าใจเด็กวัยเจ็ดขวบ

เด็กวัย 7 ขวบส่วนใหญ่จะมีความอยากรู้อยากเห็นโดยตามธรรมชาติและตื่นเต้นกับสิ่งต่างๆ ในโลก เด็กวัยนี้เขาเป็นนักสำรวจ นักวิทยาศาสตร์ และนักวิเคราะห์ และมักถามคำถามเกี่ยวกับทุกสิ่งตั้งแต่สาเหตุที่ท้องฟ้าเป็นสีฟ้าไปจนถึงแหล่งกำเนิดของทารก เด็กจะรู้สึกภาคภูมิใจอย่างยิ่งเมื่อได้แบ่งปันความรู้เกี่ยวกับสิ่งต่าง ๆ และมักจะสนุกกับการเล่นกับเด็กวัยเดียวกัน เด็กอายุ 7 ขวบจะมีความมั่นใจในโรงเรียนที่มาจากความคุ้นเคยกับการเป็นนักเรียนในห้องเรียน เด็กจะรู้สึกดีใจที่นับเลขหรือบวกลบเลขได้ และอ่านหนังสือได้ เด็กต้องการพูดคุยถึงสิ่งที่พวกเขาเรียนรู้ในโรงเรียนกับพ่อแม่ เพื่อนฝูง และพี่เลี้ยง

พัฒนาการทางร่างกายสำหรับเด็กอายุ 7 ขวบ จะยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงด้านร่างกายมากนัก แต่มีทักษะในการเคลื่นไหวที่มั่นคงขึ้น เด็กๆ จะพัฒนาการประสานงานและการทรงตัวได้ดีขึ้น และสามารถเรียนรู้ที่จะผสมผสานทักษะการเคลื่อนไหวของพวกเขาได้มากขึ้น เช่น การเคลื่อนไหวไปมาในขณะที่พวกเขากำลังเต้นรำ ยิ่งมีการเคลื่อนไหวร่างกายมากเท่าไร ทักษะเหล่านี้ก็จะยิ่งพัฒนาเร็วขึ้นเท่านั้น โดยเฉลี่ยเด็กอายุ 7 ขวบจะสูงขึ้นประมาณ 6 ถึง 10 เซนติเมตร

พัฒนาการทางอารมณ์ วุฒิภาวะทางอารมณ์เมื่ออายุ 7 ขวบ เห็นความแตกต่างจากช่วงก่อนวัยเรียนหรือชั้นอนุบาล เด็กวัย 7 ขวบส่วนใหญ่สามารถรับมือกับเหตุการณ์เฉพาะหน้าได้ดีขึ้น แต่การควบคุมอารมณ์จะทำได้ดีขึ้นเมื่ออายุ 10 หรือ 12 ปี แต่พวกเขามักจะทนต่อกระแสหรือสถานการณ์ที่ไม่คาดคิดได้ อย่างไรก็ตาม เด็กวัย 7 ขวบยังคงต้องการความสะดวกสบายจากกิจวัตร ในขณะที่โลกของเด็กเปิดกว้างขึ้นและความสนใจของพวกเขามุ่งความสนใจไปที่สิ่งของและผู้คนที่อยู่นอกบ้านและครอบครัวมากขึ้น พวกเขาจะพึ่งพาสิ่งที่พวกเขาคาดหวังและไว้วางใจได้มากขึ้น เช่น เวลาของครอบครัว กิจวัตรก่อนนอน และอาหารประจำครอบครัวในทางกลับกัน เด็กวัย 7 ขวบหลายคนจะรู้สึกไม่มั่นใจในตัวเองและอาจวิจารณ์ตัวเองได้แย่ที่สุด สำหรับเด็กอายุ 7 ขวบ การไม่ได้สิ่งที่ตรงตามที่พวกเขาต้องการหรือแพ้ในเกมลดความเชื่อมั่นในตัวเองได้ พ่อแม่ พี่เลี้ยงหรือผู้ดูแล และผู้ใหญ่คนอื่นๆ สามารถช่วยได้ด้วยการให้กำลังใจบ่อยครั้งและช่วยให้เด็กจดจ่อกับสิ่งที่พวกเขาอาจเรียนรู้จากกิจกรรมมากกว่าสิ่งที่ไม่ถูกต้อง คุณพ่อคุณแม่ อธิบายสาเหตุและผลที่ตามมาของอารมณ์ เริ่มใช้กลวิธีในการสงบสติอารมณ์ เช่น พูดประโยคซ้ำๆ หรือหายใจเข้าลึกๆ เมื่อรู้สึกเป็นทุกข์ เพราะการอธิบายอย่างมีเหตุผลจะช่วยให้ลูกเข้าใจได้ง่ายกว่าการใช้อารมณ์