ดูแลเด็ก ใน เมืองสมุทรสาคร, สมุทรสาคร

ดูแลเด็ก ใน เมืองสมุทรสาคร, สมุทรสาคร

คุณต้องการใช้บริการนี้เมื่อไหร่?
ตอนนี้
ระบุวันที่

วิธีการทำงาน

Saijai

ติดต่อเรา

ติดต่อเราโดยตรงผ่าน LINE OA เพื่อจองบริการที่คุณต้องการ

Saijai

แจ้งรายละเอียดให้เราทราบ

เลือกบริการ วันที่ เวลา และสถานที่ที่คุณต้องการให้ตรงกับความต้องการของคุณ

Saijai

ยืนยันการจองของคุณ

เราจะยืนยันการจองของคุณภายใน 24 ชั่วโมงผ่านทาง LINE OA

นิสารัตน์ เพชรรัตน์
นิสารัตน์ เพชรรัตน์
Saijai ประสบการณ์ 0-1 ปี

ชอบเลี้ยงอยู่กับเด็ก แต่ไม่ตามใจเด็ก

เคยเลี้ยงน้อง เลี้ยงเด็กมาค่อยข้างเยอะ

แต่ปัจจุบันทำงานประจำ รับเลี้ยงหรือดูแลได้เฉพาะวันอาทิตย์

แสดงเพิ่มเติม

ใจเย็น รักเด็ก มีความอดทนสูง สามารถแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าได้ดี ยิ้มแย้มแจ่มใจ เสริมสร้างพัฒนาการเด็กตามช่วงวัยได้ค่ะ

แสดงเพิ่มเติม
เสาวณีย์ เขาพระจันทร์
เสาวณีย์ เขาพระจันทร์
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี
Saijai อายุ 38 ปี

ใส่ใจดูแลเหมือนลูกเจ้าของเองใจเย็น ดูแลได้ตลอด

แสดงเพิ่มเติม
อานนท์ ทองแสง
อานนท์ ทองแสง
Saijai ประสบการณ์ 1-2 ปี
Saijai อายุ 30 ปี

ผมเป็นคนสุภาพ เรียบร้อย ไม่ยุ่งอบายมุข ไม่พูดคำหยาบ ตั้งใจทำงานที่ได้รับมอบหมาย ทำได้ทุกอย่างครับ สอนได้ทุกวิชา ค่าจ้างเป็นต่อชั่วโมงหรือให้เป็นรายเดือนก็ได้ครับ

แสดงเพิ่มเติม
ทิพวรรณ์ ราศรี
ทิพวรรณ์ ราศรี
Saijai ประสบการณ์ 1-2 ปี
Saijai อายุ 26 ปี

เป็นคนอัธยาศัยดีค่ะ ใจเย็นค่ะชอบเล่นกับเด็ก ส่งเสริมพัฒนาการของน้องได้ค่ะ

แสดงเพิ่มเติม

มีความอดทน ขยัน รักความสะอาด ใจเย็น

แสดงเพิ่มเติม

ข้อมูลสถิติน่าสนใจเกี่ยวกับ

Saijai จำนวนประชากร
Saijai จำนวนประชากรเด็ก (แรกเกิด-14 ปี)
Saijai จำนวนประชากรสูงอายุ (60 ปี ขึ้นไป)
Saijai จำนวนสัตว์เลี้ยง สุนัข

รีวิวล่าสุด

ดิฉันเป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวค่ะ ทำงานทุกวัน ไม่มีเวลาดูแลลูก บางครั้งต้องเอาไปฝากญาติ ๆ แต่ตอนนี้เลยตัดสินใจจ้างพี่เลี้ยงเด็กของทางใส่ใจ ตอนแรกก็ไม่รู้เลยค่ะว่ามีขั้นตอนในการจ้างพี่เลี้ยงเด็กอย่างไรบ้าง เลยติดต่อเบอร์ของทางใส่ใจไป อยากจะบอกว่าประทับใจการให้บริการมาก ๆ ค่ะ ทางใส่ใจให้ข้อมูลทุกอย่างครบถ้วนตามที่เราต้องการอยากทราบ ประทับใจจริง ๆ ค่ะ
Saijai
ปารีณา ภักดีดำรงค์ศักดิ์
3 ปีที่แล้ว
เปลี่ยนพี่เลี้ยงเด็กมาหลายคน ส่วนมากราคาสูง ๆ ทั้งนั้น แต่อยู่ไม่ได้นานก็ลาออก ลองจองพี่เลี้ยงผ่านเวปใส่ใจ เยี่ยมมากเลยครับ แฟนสบายใจ หมดปัญหา ไม่ต้องจ้างพี่เลี้ยงราคาแพง ได้ราคาแบบสมเหตุสมผล แถมมีคุณภาพครับ
Saijai
จิตวัชร จันประทีป
4 ปีที่แล้ว
เราทำงานนอกบ้าน เลยหาพี่เลี้ยงเด็กมาดูแลน้องที่บ้าน ค้นหาข้อมูลดูเวปนี้ให้รายละเอียดพี่เลี้ยงน่าสนใจ ราคาเรารับได้ เราเลยให้น้องมาทดลองงานก่อนเราไปทำงาน น้องมีประสบการณ์มา เลยปรับตัวไม่ยาก เวลาเราอยู่น้องจะช่วยหยิบจับของทำโน่นทำนี่ไป ประทับใจคะ สองเดือนแล้วน้องทำงานดี มีระเบียบเรียบร้อย คุ้มค่ากับเงินที่เสียไป เราไว้ใจให้น้องคนนี้ดูแล
Saijai
แม่น้องกัญ
4 ปีที่แล้ว
เป็นครั้งแรกที่เลือกใช้บริการพี่เลี้ยงเด็กในเว็บใส่ใจ ตอนแรกคิดว่าจะยุ่งยากในจอง แต่พอเข้าไปในเว็บไซต์ เว็บไซต์ใช้งานง่ายมาก ๆ มีความสะดวกในการใช้งาน อีกทั้งยังมี Guideline ให้อีกด้วย และขั้นตอนการนัดสัมภาษณ์พี่เลี้ยงเด็กก็ไม่ยุ่งยากอย่างที่คิดเพราะมีตัวเลือกให้เลือกด้วยว่าเราสะดวกสัมภาษณ์ทางไหน เหมาะแก่คนที่ไม่มีเวลาอย่างเราจริง ๆ
Saijai
สุริยา ดำรงรักษ์
4 ปีที่แล้ว
อยู่ ๆ พี่เลี้ยงคนเก่าลาออกโดยไม่แจ้งล่วงหน้าต้องรีบหาพี่เลี้ยงใหม่แบบเร่งด่วน ไม่รู้จะทำยังไง บังเอิญมาเจอเว็บใส่ใจ หาพี่เลี้ยงคนใหม่ได้ง่ายมาก ๆ แถมได้คนดี มีประสบการณ์ ทำงานคล่อง เยี่ยมเลยค่ะ ประทับใจสุด ที่สำคัญคุณแม่สบายใจได้คนมาทำงานทันที
Saijai
ภัทรา กิจบำรุง
4 ปีที่แล้ว

คำถามที่พบบ่อยสำหรับการค้นหา ดูแลเด็ก

พี่เลี้ยงเด็กส่วนตัวหรือเนอสเซอรี่ (Nursery) อะไรคือคำตอบสำหรับคุณพ่อคุณแม่ยุคนี้
ข้อดีของการให้พี่เลี้ยงดูแลเด็กที่บ้านของคุณเอง

1. ลูกน้อยของคุณได้รับการดูแลจากพี่เลี้ยงแบบใกล้ชิด ทำให้เด็กรู้สึกได้ถึงความเอาใจใส่ และมีพัฒนาการทางอารมณ์ที่ดี
2. มีความยืดหยุ่นในการทำกิจวัตรประจำวันเพราะเด็กไม่ต้อง กิน นอน หรือ เล่นตามตารางเหมือนอยู่ในศูนย์รับเลี้ยงเด็กหรือเนอสเซอรี่ (Nursery)
3. พี่เลี้ยงเด็กสามารถปรับเวลาการทำงานให้สอดคล้องกับเวลาทำงานและวันหยุดของคุณพ่อคุณแม่
4. คุณพ่อคุณแม่มีเวลาอยู่กับลูกมากขึ้นเพราะไม่ต้องเผื่อเวลาในการรับส่ง ก่อนและหลังเลิกงาน
5. เด็กได้รับการดูแลในบรรยากาศที่คุ้นเคยและรู้สึกปลอดภัย
6. คุณพ่อคุณแม่ประหยัดเวลาในการเดินทางรับส่ง หมดปัญหาเรื่องรถติดและมลภาวะบนท้องถนน
7. คุณพ่อคุณแม่ประหยัดเวลาในการเตรียมตัวหรือจัดเตรียมของใช้ให้ลูก เช่น ขวดนม เสื้อผ้า หรือแพมเพิส
8. ลดความเสี่ยงของโรคติดต่อ โดยเฉพาะเด็กเล็กที่ภูมิต้านทานยังน้อยจะเจ็บป่วยได้ง่าย หากต้องอยู่ปะปนกับเด็ก ๆ อื่น
9. มีคนอยู่บ้านตลอดเวลาในขณะที่คุณพ่อคุณแม่ออกไปทำงาน

ข้อดีของการเข้าเนอสเซอรี่ (Nursery)

1. ฝึกทักษะการเข้าสังคมเพราะเด็กต้องอยู่ร่วมกับเด็กคนอื่น ๆ และครูพี่เลี้ยง
2. ค่าใช้จ่ายไม่สูงเมื่อเปรียบเทียบกับการจ้างพี่เลี้ยงส่วนตัว
3. เนอสเซอรี่มีกิจกรรมส่งเสริมการเรียนรู้เพื่อให้เด็กฝึกทักษะผ่านการทำกิจกรรมต่าง ๆ
คุณสมบัติอะไรบ้างที่พี่เลี้ยงเด็กควรมี
สำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่กำลังตัดสินใจจ้างพี่เลี้ยงเด็กส่วนตัว ใส่ใจขอแนะนำให้คุณพ่อคุณมองหาคุณสมบัติและทักษะเหล่านี้ในตัวพี่เลี้ยงเด็กเพื่อให้ได้คนที่ตรงใจที่สุดค่ะ

1. ความอดทน พี่เลี้ยงเด็กต้องมีเข้าใจในธรรมชาติและอดทนต่อพฤติกรรมของเด็กแต่ละคนที่แตกต่างกัน
2. ทักษะการต่อรอง พี่เลี้ยงเด็กต้องมีเทคนิคในการเจรจาสื่อสารเพื่อโน้มน้าวให้เด็กเชื่อฟังโดยไม่ใช้การบังคับ
3. ทักษะแก้ปัญหา พี่เลี้ยงเด็กต้องมีความสามารถในการจัดการและแก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้อย่างเหมาะสมโดยไม่ต้องรายงานคุณพ่อคุณแม่หากไม่ใช่เรื่องร้ายแรง
4. ความคิดสร้างสรรค์ พี่เลี้ยงเด็กควรมีความคิดสร้างสรรค์ หากิจกรรมที่เหมาะสำหรับเด็กในแต่ละช่วงวัยเพื่อให้เด็กได้เล่นเพลิดเพลินและฝึกช่วยเหลือตัวเอง
5. ตรงต่อเวลา พี่เลี้ยงเด็กต้องเป็นคนที่ตรงต่อเวลาและมีความรับผิดชอบในงานของตัวเอง คือต้องมาทำงานและเลิกงานตามเวลาที่ตกลงไว้กับคุณพ่อคุณแม่ หากมีเหตุสุดวิสัยทำให้มาสายควรแจ้งให้คุณพ่อคุณแม่ทราบโดยเร็วที่สุด
6. สุขภาพดี พี่เลี้ยงต้องเป็นคนที่มีสุขภาพแข็งแรงและดูแลตัวเองทั้งเสื้อผ้า หน้า ผมให้สะอาดอยู่เสมอ
7. วิธีการปฐมพยาบาลเบื้องต้น ในกรณีเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดหรืออุบัติเหตุ พี่เลี้ยงต้องมีความรู้และทักษะการปฐมพยาบาลเบื้องต้น และสามารถช่วยเหลือเด็กได้ทันที
อะไรที่จะช่วยให้คุณพ่อคุณแม่คลายความกังวลเมื่อต้องปล่อยให้ลูก ๆ อยู่กับพี่เลี้ยงตามลำพัง
เมื่อคุณพ่อคุณแม่จำเป็นต้องจ้างพี่เลี้ยงมาดูแลลูก ๆ ของคุณ ความไว้วางใจและความน่าเชื่อถือเป็นหัวใจสำคัญในการตัดสินใจ คุณพ่อคุณแม่มีวิธีการใดบ้างที่จะหาพี่เลี้ยงที่วางใจได้ ใส่ใจมีวิธีการที่ช่วยให้คุณพ่อคุณแม่รู้จักตัวตนของพี่เลี้ยงเด็กมากขึ้น

1. ถือเป็นการเริ่มต้นที่ดีหากครอบครัวหรือเพื่อนของคุณพ่อคุณแม่เป็นผู้แนะนำพี่เลี้ยงเด็กที่พวกเขารู้จัก อย่างน้อยก็มีคนรับรองพวกเขาได้ แต่สิ่งสำคัญก็คือต้องทำการสัมภาษณ์พี่เลี้ยงเด็กและตรวจสอบประวัติของคุณเองเพื่อให้แน่ใจว่าเชื่อถือได้มากที่สุด
2. สำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่มองหาพี่เลี้ยงจากสื่อออนไลน์ หรือโซเชียลมีเดีย (Social Media) เช่น เฟสบุ๊ค หรือไลน์ มองหาพี่เลี้ยงเด็กที่มีรีวิวจากผู้ที่เคยใช้บริการก่อนหน้า ใช้เวลาอ่านและศึกษารีวิวเหล่านั้น
3. เชื่อสัญชาตญาณของตัวเอง เมื่อคุณพ่อคุณแม่มีโอกาสสัมภาษณ์พี่เลี้ยงเด็กก่อนเริ่มงาน หากมีสัญญาณที่ทำให้คุณพ่อคุณแม่รู้สึกไม่สบายใจ เช่น พี่เลี้ยงเด็กดูเป็นคนไม่กระตือรือร้น หรือไม่ยิ้มแย้มแจ่มใส จงเชื่อสัญชาตญาณของตัวเองที่ชี้ว่าคนคนนี้ไม่เหมาะสมกับงาน
4. ตรวจสอบประวัติ คุณพ่อคุณแม่อาจร้องขอให้พี่เลี้ยงตรวจสอบประวัติอาชญากรรมกับกองทะเบียนประวัติอาชญากร( http://www.criminal.police.go.th/ ) เพื่อให้แน่ใจว่าพี่เลี้ยงเด็กไม่มีประวัติกระทำผิดกฎหมายทั้งหมดนี้เป็นส่วนหนึ่งที่คุณพ่อคุณแม่สามารถทำได้เพื่อตรวจสอบความน่าเชื่อถือและช่วยในการตัดสินใจ
ในวันสัมภาษณ์พ่อแม่ควรตกลงอะไรกับพี่เลี้ยงเด็ก
ขั้นตอนของการสัมภาษณ์พี่เลี้ยงเด็กนั้นถือเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่ง เพราะไม่ใช่แค่คุณจะได้ทำความรู้จักกับพี่เลี้ยงที่คุณจะจ้าง แต่ในขั้นตอนนี้คุณต้องทำการตกลงกับพี่เลี้ยงเด็กก่อนเริ่มงาน ดังนั้นวันนี้ใส่ใจมีข้อแนะนำให้คุณพ่อคุณแม่ที่กำลังจะสัมภาษณ์พี่เลี้ยงเด็กและพูดคุยถึงข้อตกลงที่สำคัญมีอะไรบ้างมาดูกันค่ะ

1) ขอบเขตหน้าที่ที่คุณต้องการให้พี่เลี้ยงทำ เช่น ช่วยเลี้ยงลูกคุณขณะคุณไม่อยู่บ้าน ช่วยเตรียมกับข้าวให้ลูกน้อยรับประทานในแต่ละมื้อ ช่วยสอนการบ้านหากพี่เลี้ยงมีความสามารถ
2) วันและเวลาการทำงาน ในวันที่สัมภาษณ์คุณและพี่เลี้ยงจะต้องตกลงเรื่องวันเวลาการทำงานให้อย่างชัดเจน และคุณควรจะมีวันหยุดให้พี่เลี้ยงตาม กฎหมายกระทรวงแรงงาน นายจ้างต้องให้ลูกจ้างมีวันหยุดประจำสัปดาห์ และวันพักร้อน ได้ 6 วัน ต่อ ปี และต้องหยุดตามประเพณี ปีละไม่น้อยกว่า 13 วัน
3) ค่าจ้าง คุณจะต้องตกลงเรื่องค่าจ้างกับพี่เลี้ยงให้ชัดเจน หากพี่เลี้ยงปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างดี คุณควรที่จะเพิ่มเงินเดือนให้ตามความเหมาะสม ในกรณีที่พี่เลี้ยงเด็กทำงานในวันหยุดนายจ้างต้องจ่ายเงินค่าจ้างตามกฎหมายแรงงาน
4) ข้อตกลงในการอาศัยอยู่ในบ้าน หากคุณมีกฎระเบียบที่ต้องการให้พี่เลี้ยงเด็กปฏิบัติตามกฎที่คุณตั้งไว้ คุณต้องแจ้งให้พี่เลี้ยงเด็กรับทราบก่อนเริ่มงานเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต
5) ถ้าคุณเป็นหนึ่งคนที่ไม่อยากให้ลูกติดโทรศัพท์ คุณควรแจ้งให้พี่เลี้ยงทราบ และควรกำชับพี่เลี้ยงว่าไม่ให้ลูกของคุณเล่นโทรศัพท์ขณะที่คุณไม่อยู่ เพราะเด็กอาจได้รับผลกระทบจากการเล่นโทรศัพท์นานเกินไปจนส่งผลให้เกิดภาวะสมาธิสั้นและส่งผลกับสายตา ดังนั้นพี่เลี้ยงจะต้องหากิจกรรมที่ให้เด็กได้พัฒนาตนเองมากกว่าการเล่นโทรศัพท์มือถือ

ดูแลเด็กรุ่นใหม่ยุคอัลฟ่า (Gen Alpha)

สำหรับพ่อแม่ผู้ปกครองหรือพี่เลี้ยงเด็ก ที่ต้องดูแลเด็ก Gen Alpha คือเด็กที่เกิดในช่วงปี พ.ศ. 2553 – 2567 Mark McCrindle นักประชากรศาสตร์ชาวออสเตรเลียเคยพูดบนเวที TEDx เกี่ยวกับเจนเนอเรชั่นอัลฟ่าว่าเป็นเจนใหม่ที่น่าจับตามอง เพราะเด็กรุ่นนี้เป็นช่วงวัยที่เกิดในสภาพแวดล้อมใหม่ เกิดมาพร้อมเทคโนโลยีการติดต่อสื่อสารด้วยระบบดิจิทัลที่ก้าวหน้ามาก Gen Alpha จะเป็นเจนที่ฉลาดที่สุดเพราะเกิดมาในช่วงมีเทคโนโลยีทุกอย่างเพียบพร้อม ใช้ชีวิตอยู่กับโลกออนไลน์และโซเชียลมีเดีย เด็กกลุ่มนี้ใช้อินเตอร์เน็ตต่อวันเฉลี่ยถึง 47.4% และมีแนวโน้มจะใช้เพิ่มมากขึ้น เด็ก Gen Alpha จะมีลักษณะเฉพาะที่แตกต่างจากเจนก่อนๆ คือ

1. เป็นเจนเนอร์เรชั่นที่มีความสามารถทางเทคโนโลยีสูง สามารถใช้เทคโนโลยีต่างๆได้อย่างคล่องแคล่วว่องไว เรียนรู้ได้เร็ว

2. เป็นเจนเนอร์เรชั่นที่รักอิสระ สนใจเทคโนโลยี พร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลง

3. เป็นคนที่มีความอดทนต่ำ สมาธิสั้น อยู่กับสิ่งที่ใช้เวลานานๆไม่ได้

4. ชอบอยู่กับตนเอง ขาดปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่นและสังคม ชอบใช้ชีวิตคนเดียว ไม่จำเป็นต้องพึ่งพาอาศัยผู้อื่น อาศัยเทคโนโลยีเป็นหลัก

5. กล้าคิด กล้าทำสิ่งใหม่ๆ กล้าเสี่ยง เด็กเจนเนอร์เรชั่นอัลฟ่าจึงมีแนวโน้มที่จะมีอาชีพผู้ประกอบการ เพราะตอบโจทย์ความต้องการของพวกเขาได้มากกว่าการทำงานเป็นลูกจ้าง

ผู้ดูแลเด็กต้องพร้อมรับการเปลี่ยนแปลง และปรับตัวให้เข้ากับเด็กและยุคสมัย รู้เท่าทันการใช้สื่อดิจิทัลเพื่อจะได้เลือกรับสื่ออย่างสร้างสรรค์ สามารถแนะนำเว็บไซต์หรือแหล่งความรู้ที่เป็นประโยชน์ให้แก่เด็กได้ ทั้งนี้ต้องหมั่นเพิ่มเติมความรู้ในโลกความเป็นจริงที่นอกเหนือจากสิ่งที่เด็กจะหาจากออนไลน์ เพื่อให้พวกเขารู้เท่าทันคน สามารถใช้ชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่างปลอดภัย

เมื่อเด็กเจนนี้มีลักษณะ Individualism สามารถอยู่คนเดียวได้อย่างสบายใจ การฝึกการเข้าสังคม ทักษะการใช้ชีวิตทางสังคมจึงเป็นเรื่องสำคัญที่พ่อแม่และผู้ดูแลเด็กควรให้คำแนะนำ คอยรับฟังเรื่องราวหรือปัญหาต่าง ๆ ของเด็ก หากกิจกรรมทำร่วมกันเพื่อให้เด็กรู้จักการแบ่งปันและการให้อภัย รวมทั้งพยายามพาเด็กเข้าใกล้ชิดกับธรรมชาติให้มากขึ้น ให้เขาออกห่างจากเทคโนโลยีบ้าง เพื่อสุขภาพจิตที่ดี และอาจทำให้พวกเขาค้นพบและเข้าใจตัวเองมากขึ้น

เด็ก Gen Alpha แต่ละคนมีถนัดแตกต่างกัน พวกเขาสามารถเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ เทคโนโลยีใหม่ได้อย่างรวดเร็ว ประยุกต์ใช้เร็ว เด็กเจนนี้สามารถประสบความสำเร็จได้ตั้งแต่อายุยังน้อย พ่อแม่จึงควรให้คำแนะนำและช่วยวางแผนการแบ่งเวลาและจัดลำดับความสำคัญในสิ่งที่พวกเขาอยากทำ เมื่อสังเกตเห็นความถนัดและความสามารถที่โดดเด่นของพวกเขา ควรสนับสนุนส่งเสริมให้พวกเขาได้ทำในสิ่งที่พวกเขารัก พัฒนาเป็นเด็กเก่งสมองไว เพื่ออนาคตที่ดีต่อไป



วัดช่องลม สมุทรสาคร กับรังนกนางแอ่นนับพัน

วัดช่องลม หรือ วัดสุทธิวาตวราราม หรือที่ชาวบ้านในละแวกนี้เรียกกันอีกชื่อว่า วัดท้ายบ้าน เพราะเป็นวัดที่ตั้งอยู่ช่วงท้ายบ้านท่าฉลอม และเหตุที่เรียกว่า “วัดช่องลม” เพราะวัดตั้งอยู่บริเวณปากอ่าว หน้าวัดหันสู่ทิศใต้ตรงกับปากแม่น้ำท่าจีน ทำให้มีลมพัดมาตลอด วัดช่องลมเป็นวัดสำคัญของจังหวัดสมุทรสาครมายาวนานเกือบ 200 ปี ตั้งอยู่ตรงปากอ่าว ถนนสุทธิวาตวิถี ตำบลท่าฉลอม อำเภอเมืองสมุทรปราการ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ได้พระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระบรมราชานุญาตให้ยกเป็นพระอารามหลวง เมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2508 และพระราชทานนามวัดใหม่ว่า วัดสุทธิวาตวราราม แปลว่า “วัดลมล้วนๆ”

ด้านหน้าวัดมีพระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เพื่อเฉลิมพระเกียรติที่พระองค์เคยเสด็จพระราชดำเนินเยือนท่าฉลอม และทรงตั้งให้เป็นสุขาภิบาลแห่งแรกของไทย ในปี พ.ศ. 2448 นอกจากยังมีศาลเจ้าตั้งอยู่ถึง 2 แห่ง แสดงถึงการอยู่ร่วมกันของชาวไทยและชาวจีนมาแต่อดีต ด้านหน้าวัดคือศาลเจ้าแม่เมืองสมุทร ส่วนด้านหลังวัดคือศาลเจ้าแม่กวนอิม

ภายในพระอุโบสถประดิษฐานพระพุทธรูปปางมารวิชัยเป็นพระประธาน นามว่า “หลวงพ่อหินแดง” สร้างจากหินแดง ลงรักปิดทอง มีพุทธลักษณะแบบอยุธยาตอนปลาย พระหัตถ์ซ้ายมี 6 นิ้ว จึงเรียกว่า “พระ 11 นิ้ว” มีภาพจิตรกรรมฝาผนังที่สวยงาม

ภายในวิหารหลวงปู่แก้ว ประดิษฐานรูปหล่อเหมือนของหลวงปู่แก้ว (พระราชสาครมุนี) อดีตเจ้าอาวาสและเจ้าคณะจังหวัดสมุทรสาครที่ชาวสมุทรปราการให้ความเคารพ นอกจากนี้จุดเด่นอีกประการของวัดช่องลมคือ “รังนกนางแอ่น” ที่พากันมาอาศัยอยู่ในวิหารหลวงปู่แก้วนับพันตัว โดยจะอาศัยอยู่ตามลวดลายแกะสลักเหนือผนังด้านหลังวิหารและช่องเหนือฝ้าเพดาน มูลนกที่ถ่ายรดผนังทำให้เกิดลวดลายที่สวยงามแปลกตา

วัดช่องลม มีลมพัดผ่านเย็นสบายตลอดวัน ผู้ที่มาทำบุญไหว้พระที่วัดสามารถชื่นชมทัศนียภาพของปากน้ำท่าจีนที่งดงามได้ และถ้าต้องการดูนกนางแอ่นบินเข้าออกจากรังยาวเป็นสาย สามารถมาชมได้ช่วงเช้าราวหกโมงครึ่ง นกจะเริ่มบินออกจากรัง และจะเข้ากลับมาในช่วงเย็นราวหนึ่งทุ่มจนถึงหนึ่งทุ่มครึ่ง หากเป็นช่วงกลางวันจะเห็นนกที่กำลังหัดบินเกาะอยู่รอบๆเป็นจำนวนมาก ปัจจุบันวัดจะเก็บรังนกเมื่อรังนั้นไม่มีนกอยู่แล้ว เพื่อนำเงินไปช่วยเหลือสังคมและมอบเป็นทุนการศึกษาให้เด็กยากจน และรังนางแอ่นในวิหารหลวงปู่แก้วนี้ยังเป็นโมเดลของธุรกิจคอนโดนกนางแอ่นที่สร้างรายได้ให้ชาวชุมชนละแวกวัดช่องลมอีกด้วย



สะพานสายรุ้ง ชายทะเลวัดกาหลง

แลนด์มาร์คถ่ายรูปสุดชิคบนสะพานไม้สุดชายทะเลไม่ไกลกรุงเทพฯ ต้องที่ สะพานไม้สายรุ้ง เป็นสะพานไม้สีสันสดใส ยื่นออกสู่ชายทะเล ตัดกับท้องฟ้า แวดล้อมด้วยป่าชายเลนที่อุดมสมบูรณ์ ถ้าไปยืนที่ปลายสะพานจะสามารถมองเห็นวิวทะเลได้ 180 องศาได้เลย นักท่องเที่ยวที่นิยมถ่ายภาพเก๋ๆ ชิคๆ ต้องไม่พลาดลองมาเก็บภาพที่นี่สักครั้ง ช่วงเย็นๆที่สะพานไม้สายรุ้งแห่งนี้ยิ่งบรรยากาศดี ลมพัดเย็นสบาย เหมาะกับการพักผ่อน ปั่นจักรยาน ชมพระอาทิตย์ตก ชมวิวเลียบเส้นนาเกลือไปจนถึงชายทะเล เพราะก่อนจะถึงบริเวณสะพานไม้เป็นหมู่บ้านเล็กๆที่ชาวบ้านมีอาชีพทำนาเกลือ ซึ่งเป็นอาชีพดั้งเดิมของชาวสมุทรสาครที่มีถิ่นพักอาศัยอยู่ใกล้ชายทะเล ระหว่างทางจะมีนาเกลืออยู่เป็นระยะ

สะพานไม้สายรุ้ง ตั้งอยู่ที่ ถนนลบทะเล ตำบลกาหลง อำเภอเมืองสมุทรสาคร อยู่ไม่ไกลจากมหาชัย ก่อนถึงสะพานสายรุ้งจะเป็นทางเข้า บ้านกาหลง กลางหมู่บ้านจะพบวัดกาหลง สามารถเข้าไปไหว้พระ กราบหลวงพ่อสุด เกจิอาจารย์ชื่อดังของจังหวัดสมุทรสาครที่วัดกาหลงก่อนเดินทางต่อไปที่สะพายไม้ได้ หลังจากนั้นขับข้ามทางไฟไปจะเห็นป้ายชื่อบ้านกาหลงและจักรยานสีสันสดใสขนาดใหญ่ เป็นมุมน่ารักๆของหมู่บ้านที่เห็นแล้วก็ต้องขอจอดรถถ่ายรูปก่อนเลย บริเวณนี้จะมีร้านขายของชำ ของฝากของที่ระลึกจากชุมชน และร้านขายอาหารตามสั่ง ร้านก๋วยเตี๋ยวเล็กๆ ของชาวบ้านที่นี่

สะพานที่บ้านกาหลงมี 2 สะพาน อยู่ใกล้ๆกัน มีความน่ารักสดใสไม่แพ้กัน สามารถหามุมถ่ายรูปสวยๆได้ทั้ง 2 สะพาน สะพานแรกเป็น สะพานไม้สายรุ้ง มีการทาสีรุ้งบริเวณทางเดินสะพาน มีเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติและป่าชายเลน และอีกสะพานคือ สะพานชายทะเลกาหลง เป็นสะพานปูน ทาสีรุ้งตามขอบแท่นปูน บริเวณนี้เป็นจุดจอดเรือหางยาวของชาวบ้านเวลาออกทะเล จากสะพานไม้ไปสะพานปูนห่างกันประมาณ 300 เมตร หากไปไม่ถูกสามารถสอบถามทางกับชาวบ้านละแวกนี้ได้

สำหรับผู้จะมาในช่วงเที่ยงหรือบ่าย แนะนำให้พกอุปกรณ์กันแดดมาด้วย เช่น ครีมกันแดด ร่ม หมวก เพราะแดดค่อนข้างร้อนมากๆ หรือจะมาช่วงบ่ายแก่ๆ ที่ยังพอมีแสงแดดให้สีท้องฟ้าตัดกับสีสะพานจะได้ถ่ายรูปออกมาสวยๆ ปั่นจักรยานเพลินๆ แล้วรอชมวิวพระอาทิตย์ตกก็ได้เช่นกัน