ติวเตอร์ภาษาอังกฤษ ใน บางกอกใหญ่, กรุงเทพมหานคร

ติวเตอร์ภาษาอังกฤษ ใน บางกอกใหญ่, กรุงเทพมหานคร

คุณต้องการใช้บริการนี้เมื่อไหร่?
ตอนนี้
ระบุวันที่
ผู้ให้บริการติวเตอร์ภาษาอังกฤษ ใน บางกอกใหญ่, กรุงเทพมหานคร:

วิธีการทำงาน

Saijai

ติดต่อเรา

ติดต่อเราโดยตรงผ่าน LINE OA เพื่อจองบริการที่คุณต้องการ

Saijai

แจ้งรายละเอียดให้เราทราบ

เลือกบริการ วันที่ เวลา และสถานที่ที่คุณต้องการให้ตรงกับความต้องการของคุณ

Saijai

ยืนยันการจองของคุณ

เราจะยืนยันการจองของคุณภายใน 24 ชั่วโมงผ่านทาง LINE OA

ฌานิศา ช่วยนุกูล
ฌานิศา ช่วยนุกูล
Saijai ประสบการณ์ 3-4 ปี
Saijai อายุ 29 ปี
ศิริพร เพ็ชรรัตน์
ศิริพร เพ็ชรรัตน์
Saijai ประสบการณ์ 3-4 ปี

ประสบการณ์สอน (ปี) : สอนมาแล้ว3ปี ปัจจุบันสอนติวเข้ามัธยม1,4 และประถม

รายละเอียด : (ตัวอย่าง)

- คณิต ระดับอนุบาล ประถม สอบเข้าม.1

- คณิต ม.2 ม.4 สอบเข้าเตรียมทหาร

- วิทย์ ประถม และสอบเข้าม.1

- สังคม ประถม สอบเข้าม.1 และสอบเข้าม.4 เตรียมอุดม

- ภาษาไทย อนุบาล ประถม สอบเข้าม.1 และ ม.4เตรียมอุดม

- อังกฤษ อนุบาล ประถม และสอบเข้าม.1

- จีน ปูพื้นฐาน ประถม

เป็นติวเตอร์สอนตามบ้านมา3ปี เป็นติวเตอร์สถาบันสอบเข้ารร.บดินทรเดชา และเป็นติวเตอร์สถาบันสอบเข้าเตรียมทหารลานทอง

ผลงาน / รางวัล :

สอบผ่านการวัดระดับภาษาจีน HSK5

สอบชิงทุนไปเรียนจีนระดับป.ตรีผ่าน (เหตุไม่ได้ไปเพราะติดโควิด)

สอนติวนร.สอบติดม.1 รร.สวนกุหลาบนนท์ได้

สอนติวนร.สอบติดม.1ห้องกิฟต์ได้ รร.สาธิต

สอนติวนร.สอบติดม.4รร.เตรียมอุดมได้

***สามารถให้ติวเตอร์ส่งแนบรูปสอนหรือคลิปการสอนให้ได้ค่ะ***

(สามารถทดลองสอนได้ค่ะ)(มีรีวิวของผู้ปกครอง ติวเตอร์ใจดีมากค่ะสอนเด็กพิเศษได้ค่ะ ใจเย็น)

แสดงเพิ่มเติม

ข้อมูลสถิติน่าสนใจเกี่ยวกับ

Saijai จำนวนประชากร
Saijai จำนวนประชากรเด็ก (แรกเกิด-14 ปี)
Saijai จำนวนประชากรสูงอายุ (60 ปี ขึ้นไป)
Saijai จำนวนสัตว์เลี้ยง สุนัข

รีวิวล่าสุด

มองหาและเปรียบเทียบราคาจากหลายๆ เว็บ เว็บนี้มีราคาแสดงไว้ชัดเจน จดไว้เป็นตัวเลือกอันดับหนึ่งในตอนแรก พอไปดูเว็บอื่น บางเว็บไม่ยอมบอกราคาไว้ ทำให้ต้องติดต่อหาเจ้าหน้าที่หลายขั้นตอน เสียเวลามากค่ะ สุดท้ายตัดสินใจเลือกที่นี่เพราะนอกจากราคาจะดีงามแล้ว ยังได้ติวเตอร์ดี มีประสบการณ์ คุ้มค่ากับที่จ่ายไปจริง ๆ ค่ะ
Saijai
สาลิณี อนันชัยกูร
4 ปีที่แล้ว
กำลังจะเตรียมตัวสอบ TOEIC ไปสมัครงานค่ะ ก่อนหน้านี้มองหาที่เรียนพิเศษภาษาอังกฤษแถวบ้านแต่หายากมากเพราะไม่ได้อยู่ในตัวเมือง เลยลองเสิร์ชหาใน google ดู มาเจอของใส่ใจ เห็นว่ามีเรียนพิเศษแบบออนไลน์ด้วยก็เลยตัดสินใจเลือกใช้บริการเลยค่ะ ถือว่าสะดวกกว่ามาก ๆ แถมติวเตอร์สอนเข้าใจง่ายด้วย
Saijai
ไอด้า พิทักษ์ยิ่ง
4 ปีที่แล้ว
เว็บไซต์ของใส่ใจใช้งานง่ายมาก ๆ ครับ เราลองใช้บริการติวเตอร์สอนภาษาอังกฤษ ขั้นตอนการจ้างไม่ยุ่งยาก อีกทั้งยังสะดวกและรวดเร็วด้วยครับ มีระบบการจ่ายเงินที่น่าเชื่อถือ โดยรวมประทับใจครับ
Saijai
ภูริทัศ จินดาโชติ
4 ปีที่แล้ว
ลูกเพิ่งเข้าเรียนโรงเรียนหลักสูตร2ภาษาครับ แต่ลูกมีปัญหาไม่กล้าพูดและใช้ภาษาอังกฤษที่โรงเรียนเพราะกลัวเรื่องแกรมม่าและการออกเสียงคำศัพท์มากๆ จนต้องตัดสินใจหาติวเตอร์มาช่วยสอน ซึ่งตัวของติวเตอร์ช่วยสอนและฝึกให้ลูกพูดสนทนาออกเสียง ตอนนี้ลูกมีความกล้าและมั่นใจในตัวเองมากขึ้นมากเลยครับ
Saijai
ชาธิต ประทีบศาสตร์
4 ปีที่แล้ว
จริงๆ ก็กังวลนะ ถึงแม้เราได้ภาษามาบ้าง เกรดก็โอเคแต่อยากเพิ่มความมั่นใจ ได้ติวเตอร์ภาษาอังกฤษจากเว็บใส่ใจ สอนเข้าใจง่าย แก้ไขปัญหาให้ตรงจุด ไวยากรณ์ภาษาอังกฤษเราแน่นขึ้น จากความกังวลเรื่อง TENSE ทั้ง12 ฝึกสนทนาและฟังจริงทุกรอบ แถมสอนการบ้านด้วย ตอนนี้สบายใจละ
Saijai
ญาณิน ธาดาวริศกุล
5 ปีที่แล้ว

คำถามที่พบบ่อยสำหรับการค้นหา ติวเตอร์ภาษาอังกฤษ

อยากพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษต้องทำอย่างไรบ้าง
ภาษาอังกฤษนั้นเรียกได้ว่าเป็นภาษาที่มีความสำคัญอันดับต้น ๆ ของภาษาที่ใช้สื่อสารกันบนโลกนี้เลยก็ว่าได้ เพราะเป็นภาษากลางที่ผู้คนทั่วโลกสามารถใช้ติดต่อสื่อสารกันรองมาจากภาษาแม่ของแต่ละชนชาตินั่นเอง
ดังนั้นความรู้ความเข้าใจในภาษาอังกฤษจึงจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับผู้คนในสมัยนี้ ไม่ว่าจะเป็นทั้งการพูด การฟัง การอ่าน และการเขียน ทั้งหมดนี้อาจเป็นเรื่องที่ค่อนข้างยากสำหรับบุคคลที่ไม่ได้ใช้ภาษาอังกฤษมาตั้งแต่เกิด แต่ถ้าเราหมั่นฝึกฝนและพัฒนาภาษาอังกฤษอยู่บ่อย ๆ จะทำให้ภาษาอังกฤษนั้นไม่เป็นเรื่องยากอีกต่อไป

ใส่ใจขอแนะนำ 5 เคล็ดลับที่จะทำให้ทักษะภาษาอังกฤษของเราพัฒนามากยิ่งขึ้นดังนี้

1. อ่านหนังสือหรือบทความที่เป็นภาษาอังกฤษถือเป็นการเริ่มต้นที่ดีสำหรับหลาย ๆ คน ควรเริ่มจากบทความสั้น ๆ จากนิตยสาร หรือหนังสือที่มีภาพประกอบ เพราะหนังสือเหล่านี้จะเลือกใช้คำศัพท์ที่ไม่ยากจนเกินไป ทำให้เราสามารถจดจำและเข้าใจความหมายได้ง่ายขึ้น
2. หมั่นจดคำศัพท์ใหม่ ๆ ที่เจอในแต่ละครั้ง เพราะการจดคำศัพท์พร้อมความหมายเอาไว้ในสมุดโน๊ตจะช่วยให้เราคุ้นชินกับมันบ่อย ๆ เมื่อต้องเปิดสมุดในแต่ละครั้ง และจดจำไปเองในที่สุด
3. เรียนรู้ภาษาอังกฤษจากการดูและการฟัง ไม่ว่าจะเป็นข่าว การ์ตูน ซีรีส์ภาพยนตร์ต่าง ๆ เมื่อหูเริ่มคุ้นกับประโยคและสำเนียงการพูดแล้ว ยิ่งทำให้เราเข้าใจภาษาอังกฤษได้เร็วขึ้นในยามที่ต้องพูดคุยสื่อสารกับเจ้าของภาษาจริง ๆ
4. ฝึกพูดให้บ่อย ๆ ไม่ว่าจะลองฝึกพูดกับตัวเองหน้ากระจก หรือลองพูดกับเพื่อน ๆ เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับตัวเองมากขึ้น
5. อย่ากลัวที่จะลองพูดคุยกับเจ้าของภาษา เวลามีงานสังสรรค์พบปะผู้คนหลากหลายเชื้อชาติ ลองหาโอกาสที่จะเข้าไปพูดคุยกับเจ้าของภาษาหรือคนอื่น ๆ ดู และอย่ากลัวว่าจะพูดผิด บางครั้งหากเราพูดผิดและได้รับการแก้ไขจากคนรอบข้างจะยิ่งทำให้เรารู้ศักยภาพของตัวเองและไม่ลืมที่จะนำกลับไปพัฒนาอยู่ตลอดเวลา
ติวเตอร์ภาษาอังกฤษส่วนตัวช่วยพัฒนาการสื่อสารภาษาอังกฤษหรือไม่
ครูสอนพิเศษหรือติวเตอร์ภาษาอังกฤษส่วนตัวดีอย่างไร? ทำไมใคร ๆ จึงอยากเรียนกับติวเตอร์ส่วนตัว มาดูกันเลยค่ะ

1 ครูสอนพิเศษหรือติวเตอร์ภาษาอังกฤษแบบตัวต่อตัว โดยมากเป็นผู้ที่มีประสบการณ์มาอย่างยาวนาน และจบด้านภาษาอังกฤษโดยตรง หรืออาจจบการศึกษามาจากต่างประเทศ ทำให้สามารถพูดสำเนียงได้เหมือนเจ้าของภาษา จึงการันตีได้ว่าผู้เรียนจะได้เรียนกับครูสอนภาษาอังกฤษที่มีความชำนาญจริงๆ
2 ติวเตอร์มีระบบแบบแผนการสอนที่ชัดเจนและมีคุณภาพ ทำให้นักเรียนได้รับความต่อเนื่องในการเรียน
3 ติวเตอร์ภาษาอังกฤษเก่งในเรื่อง คำศัพท์ เนื้อหา Grammar ต่างๆ รวมทั้งการเก็งข้อสอบ
4 การสอนแบบตัวต่อตัวที่บ้าน ทำให้ติวเตอร์สามารถแก้ปัญหาของผู้เรียนได้ตรงจุด รู้ว่านักเรียนมีจุดอ่อนหรือจุดแข็งในด้านใด ควรปรับ ควรเสริมอะไรบ้าง เพื่อให้การเรียนพิเศษภาษาอังกฤษมีความเหมาะสมกับนักเรียนมากที่สุด หากพื้นฐานภาษาอังกฤษของนักเรียนไม่ดีนัก ติวเตอร์จะสอนแบบค่อยเป็นค่อยไป ส่วนคนที่พื้นฐานดีอยู่แล้วติวเตอร์สามารถเน้นเนื้อหาให้เข้มข้นตามและเจาะจงหัวข้อที่อยากเรียน โดยจะสอนแบบรวบรัดเพื่อให้ได้เนื้อหาที่ครอบคลุม เพื่อให้สามารถสอบเข้าในสถานศึกษาชั้นนำได้ในที่สุด
5 ติวเตอร์จะให้นักเรียนฝึกทำข้อสอบต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น ข้อสอบมิดเทอม ข้อสอบเพื่อเรียนต่อ และช่วยฝึกฝนการสนทนาภาษาอังกฤษแบบที่ไม่น่าเบื่อ เพราะมีเทคนิคใหม่ ๆ ที่ทันสมัยมาช่วยให้นักเรียนชอบภาษาอังกฤษมากยิ่งขึ้น ทั้งยังช่วยให้นักเรียนรู้ถึงข้อผิดพลาดขอตัวเองก่อนทำข้อสอบจริง
จุดอ่อนของเด็กไทยในการเรียนภาษาอังกฤษคืออะไร และควรทำอย่างไรเพื่อพัฒนาการเรียนภาษาอังกฤษให้ดียิ่งขึ้น
อะไรคือจุดอ่อนของการเรียนภาษาอังกฤษของนักเรียนไทย แล้วเราจะแก้ได้อย่างไร ปัจจุบันหลายโรงเรียน มีการสอนภาษาอังกฤษตั้งแต่ชั้นอนุบาลและต่อเนื่องในทุกระดับชั้น แต่ทำไมภาษาอังกฤษยังคงเป็นจุดอ่อนสำหรับน้อง ๆ หลาย ๆ คน จากการค้นคว้าข้อมูลจากหลายแหล่งได้สรุปสาเหตุไว้คร่าว ๆ ดังนี้ว่า

1. ขาดการฝึกฝน ขาดคำศัพท์ เพราะส่วนใหญ่นักเรียน จะเรียนภาษาอังกฤษในห้องเรียน 45 นาทีถึง 1 ชั่วโมง ต่อวัน แต่เวลาที่เหลือแทบจะไม่ได้ใช้ภาษาอังกฤษเลย การเรียนการสอนส่วนใหญ่เน้นไปที่ให้ทำข้อสอบได้ ดังนั้นเด็กนักเรียนไทยส่วนหนึ่งเรียนภาษาอังกฤษเพื่อจะใช้ในห้องสอบ ทักษะอื่น ๆ และคำศัพท์นอกเหนือจากที่เรียนในห้องเรียนแทบจะไม่ได้ใช้เลย ทางแก้ไขคือน้อง ๆ นักเรียน ต้องฝึกฝน เรียนรู้เพิ่มเติม และเพิ่มคำศัพท์แล้วพยายามใช้ภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวัน อาจมีการรวมกลุ่มหรือชมรม ห้องเรียนพิเศษที่มีโอกาสได้ใช้ภาษาอังกฤษมากกว่าในห้องเรียน
2. เป็นเหตุต่อเนื่องจากข้อแรก คือขาดความมั่นใจเพราะกลัวพูดผิด กลัวพูดออกไปแล้วสื่อสารไม่ได้เลยไม่กล้าที่จะพูด บวกกับนิสัยของคนไทยที่ขี้อาย เกรงใจ เขิน ไม่กล้าแสดงออก จนไม่กล้าพูด ทางแก้ไขคือ เมื่อมีโอกาสได้ใช้ภาษาควรแสดงความสามารถและพยายามสื่อสารทั้งด้วยคำพูด น้ำเสียงและท่าทางประกอบกัน เมื่อผ่านไปได้ครั้งหนึ่งแล้ว ครั้งต่อ ๆไปจะตามมา ที่สำคัญต้องจำคำศัพท์ให้ได้มาก ๆ จะช่วยให้เราสื่อสารได้มากขึ้น
3. การเรียนการสอนที่ไม่ถูกหลัก ทำให้ไม่ชอบเรียนภาษาอังกฤษ อย่างที่รู้กันอยู่ว่าทุกวันนี้เด็กไทยของเราเริ่มเรียนภาษาอังกฤษ ตั้งแต่ระดับชั้นอนุบาล และได้รับการสอนภาษาอังกฤษอย่างต่อเนื่องมาเรื่อย ๆ มากกว่า 10 ปี แต่คนไทยเรายังไม่สามารถพูดภาษาอังกฤษได้ จากการศึกษาข้อมูลทำให้พบว่า การสอนภาษาอังกฤษที่ไม่ถูกต้องตั้งแต่แรก โดยที่เราเริ่มต้นสอนทักษะภาษาอังกฤษจากการอ่าน การเขียน ก่อนที่จะเรียนการฟังและการพูดภาษาอังกฤษ จึงทำให้การเรียนรู้การพูดภาษาอังกฤษของเด็กไทยนั้นเป็นเรื่องที่ยาก เพราะเมื่อทำไม่ได้เลยรู้สึกไม่สนุก ไม่อยากเรียน ครูผู้สอนควรสร้างบรรยากาศการเรียนให้สนุก เช่นเรียนภาษาอังกฤษจากเพลง แล้วค่อย ๆ แทรกเนื้อหาหลักไวยากรณ์หรือคำศัพท์ลงไป นักเรียนจะซึมซับความรู้เหล่านั้นไปโดยไม่รู้ตัว

ปัจจัยทั้งหมดนอกจากตัวของน้อง ๆ นักเรียนเอง ยังมีเรื่องของสภาพแวดล้อม ที่ส่งผลกระทบต่อผู้เรียนโดยตรง ถ้าปรับเปลี่ยนการเรียนการสอนสามารถทำให้นักเรียนได้ใช้ภาษาอังกฤษเป็นประจำ และได้ช่วยพัฒนาจุดอ่อนของน้องๆนักเรียนอย่างตรงจุด จะสามารถช่วยพัฒนานักเรียนได้อย่างมีประสิทธิภาพ

อยากจ้างติวเตอร์สอนภาษาอังกฤษ TOEIC, TOEFL และ IELTS .ใส่ใจมีบริการดังกล่าวหรือไม่
TOEIC TOEFL IELTS มีความแตกต่างกันอย่างไร

TOEIC (Test of English for International Communication)
เป็นการวัดระดับภาษาอังกฤษเชิงการสื่อสาร คะแนน TOEIC มีไว้สำหรับการสมัครงาน เพื่อเป็นการรับรองว่าเรามีความสามารถในการใช้ภาษาอังกฤษได้ตรงตามที่บริษัทกำหนดเอาไว้ โดยการสอบ TOEIC มี 2 ส่วน คือ
• การฟัง Listening
• การอ่าน Reading
โดยข้อสอบเป็นแบบเลือกตอบ (Multiple Choice) ทั้งหมด

TOEFL (The Test of English as a Foreign Language)
เป็นการทดสอบความสามารถทางภาษาอังกฤษเชิงวิชาการ (Academic English) ทั้งนี้เพื่อทดสอบว่าผู้สอบมีความสามารถในการใช้ภาษาอังกฤษเชิงวิชาการมากน้อยแค่ไหน จุดประสงค์เพื่อใช้สำหรับการเรียนต่อต่างประเทศ สามารถนำคะแนนสอบไปใช้ยื่นเข้าเรียนต่อปริญญาโท และปริญญาเอกในคณะที่เป็นหลักสูตร International ได้ โดยข้อสอบ TOEFL มี 4 ส่วน
• การอ่าน Reading
• การฟัง Listening
• การพูด Speaking
• การเขียน Writing

IELTS (International English Language Testing System)
เป็นการสอบในระบบภาษาอังกฤษ โดยทดสอบภาษาอังกฤษเชิงวิชาการ โดยถ้าต้องการไปเรียนต่อที่ประเทศอังกฤษ ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ ก็จะต้องใช้คะแนน IELTS
การสอบ IELTS ใช้ประเมินความสามารถในการใช้ภาษาอังกฤษของผู้สมัครสอบ 4 ทักษะ คือ
• การฟัง Listening
• การอ่าน Reading
• การเขียน Writing
• การพูด รวมถึงความรู้ทางด้านไวยากรณ์และคำศัพท์ Speaking including Grammatical and Vocabulary Knowledge
IELTS เป็นข้อสอบที่ร่วมมือกันของ 3 สถาบัน ได้แก่
• The University of Cambridge ESOL Examinations (Cambridge ESOL)
• British Council
• IDP : IELTS Australia
ซึ่งการสอบ IELTS ถือได้ว่าเป็นการสอบที่ใช้ประเมินความสามารถทางภาษาอังกฤษที่ได้มาตรฐานระดับสูงสุด