ติวเตอร์ ใน บางกอกน้อย, กรุงเทพมหานคร

ติวเตอร์ ใน บางกอกน้อย, กรุงเทพมหานคร

คุณต้องการใช้บริการนี้เมื่อไหร่?
ตอนนี้
ระบุวันที่

วิธีการทำงาน

Saijai

ติดต่อเรา

ติดต่อเราโดยตรงผ่าน LINE OA เพื่อจองบริการที่คุณต้องการ

Saijai

แจ้งรายละเอียดให้เราทราบ

เลือกบริการ วันที่ เวลา และสถานที่ที่คุณต้องการให้ตรงกับความต้องการของคุณ

Saijai

ยืนยันการจองของคุณ

เราจะยืนยันการจองของคุณภายใน 24 ชั่วโมงผ่านทาง LINE OA

พี่อยู่ มศว ปี2 เอกการสอนฟิสิกส์โดยตรง ฟิสิกส์ 1-2 A เกรดจบม.ปลาย 3.96 มีประสบการณ์สอน 2 ปีเต็ม มีทั้งสอนแบบติว สอนเนื้อหาในห้องเรียน สอนมามากมาย ทั้งสาธิตมก สาธิตมศว(น้องม.5คนนี้ได้เกรด4ฟิสิกส์) เตรียมวิศวะมจพ และอีกมากมายค่า

แสดงเพิ่มเติม
ศรา ศรานุรักษ์
ศรา ศรานุรักษ์
Saijai อายุ 51 ปี

มีความสามารถในการสอน ศิลปะ สอนขับรถ และทำอาหารไทย

แสดงเพิ่มเติม

ข้อมูลสถิติน่าสนใจเกี่ยวกับ

Saijai จำนวนประชากร
Saijai จำนวนประชากรเด็ก (แรกเกิด-14 ปี)
Saijai จำนวนประชากรสูงอายุ (60 ปี ขึ้นไป)
Saijai จำนวนสัตว์เลี้ยง สุนัข

รีวิวล่าสุด

เรียนในห้องเรียนไม่เข้าใจเพราะครูสอนเร็วบวกกับเด็กในห้องเรียนเยอะทำให้ไม่ค่อยมีสมาธิในการเรียน เลยลองจ้างติวเตอร์จากเวปใส่ใจ ติวเตอร์สอนดีมาก ๆ สอนสนุกด้วย ติวเตอร์ให้ความสนใจกับเรามาก ๆ เวลาเราไม่เข้าใจ ติวเตอร์เปิดโอกาสให้ถามได้ตลอด
Saijai
ปริญ กาญจนวานิช
3 ปีที่แล้ว
เครียดมากช่วงที่ลูกชายต้องตรียมตัวสอบเข้ามหาลัย ดูเค้าไม่พร้อมเลย ไม่มีทางสอบแข่งกับคนอื่นได้แน่ ๆ ผมเป็นห่วงมาก ๆ จนตัดสินใจจ้างติวเตอร์ส่วนตัวมาสอนที่บ้าน เหมือนสวรรค์มาโปรด ลูกพร้อมขึ้นมาก คนเป็นพ่อก็สบายใจครับ
Saijai
พงษ์เทพ รัตนาพล
3 ปีที่แล้ว
การจ้างติวเตอร์ส่วนตัวอาจจะแพงกว่าให้ลูกเรียนที่โรงแรียนกวดวิชาไปหน่อย แต่ผลลัพท์ออกมาดีมาก ลูกได้เรียนอย่างเต็มที่ ผลการเรียนดีขึ้นอย่างเห็นได้หชัด ถือว่าค้มค่ะ คุณแม่อย่างเราพร้อมที่จะลงทุนเพื่อสิ่งที่ดีของลูกเสมอค่ะ
Saijai
ธิดาพร หวังนุรักษ์
3 ปีที่แล้ว
คุณพ่อ คุณแม่จะเข้าใจค่ะ ช่วงที่ลูกต้องติวหนังสือเตรียมสอบ ปวดหัวไปหมด กลัวลูกสอบไม่ติด จะให้ลูกติวที่ไหนดี มีตัวเลือกมากมายแต่ไม่รู้จะเรียนที่ไหน มาเจอที่นี่ หาติวเตอร์ง่ายมาก ได้ติวเตอร์ถูกใจ ในราคาสบายกระเป๋า รับรองว่าจะแนะนำเพื่อน ๆ มาใช้บริการที่นี่อีกแน่นอนค่ะ
Saijai
ธนพร กุลวานิช
3 ปีที่แล้ว
พอใจกับระบบการจองของใส่ใจค่ะ หาง่าย จองง่าย ไม่ยุ่งยากค่ะ
Saijai
วรรณิภา บุญมาก
3 ปีที่แล้ว

คำถามที่พบบ่อยสำหรับการค้นหา ติวเตอร์

คุณพ่อคุณแม่ควรจ้างติวเตอร์ส่วนตัวมาสอนที่บ้านหรือให้ลูกเรียนตามสถาบันกวดวิชาดีกว่า
ใส่ใจมี 5 ข้อดีของการเรียนพิเศษที่บ้านเพื่อช่วยในการประกอบการตัดสินของพ่อแม่และผู้ปกครองดังนี้ค่ะ

1) การเรียนแบบตัวต่อตัว ติวเตอร์หรือครูผู้สอนสามารถวางแผนการเรียนการสอนและกำหนดจุดมุ่งหมายร่วมกับพ่อแม่ ผู้ปกครอง รวมทั้งตัวนักเรียนเอง เพื่อให้การสอนเข้ากันได้ดีกับนักเรียนและดำเนินไปอย่างมีประสิทธิภาพและตอบโจทย์ของผู้เรียนมากที่สุด
2) การเรียนแบบส่วนตัวเป็นทางเลือกที่ดีเพราะนักเรียนจะมีความกล้าในการตั้งคำถามมากขึ้น ด้านตัวติวเตอร์เองสามารถอธิบายและตอบข้อสงสัยของนักเรียนได้อย่างละเอียดจนกว่าจะเข้าใจ ซึ่งเป็นสิ่งที่สร้างความมั่นใจให้กับตัวนักเรียนและส่งผลให้นักเรียนนับถือตัวเองมากขึ้นมาก
3) ความสะดวกในการจัดตารางเรียนและประหยัดเวลาในการเดินทาง การสอนแบบส่วนตัวเป็นรูปแบบการสอนที่มีความยืดหยุ่นและความสะดวกสบายอย่างมาก นักเรียนสามารถจัดตารางเรียนและเลือกสถานที่เรียนให้สอดคล้องกับตารางเรียนที่โรงเรียนหรือการทำกิจกรรมอื่น ๆ ในบางกรณีครูสอนพิเศษหรือติวเตอร์อาจตกลงกับนักเรียนที่จะทำการเรียนการสอนแบบออนไลน์ เพื่อความสะดวกของทั้งสองฝ่าย
4) การเรียนพิเศษแบบตัวต่อตัวนั้นนักเรียนจะมีสมาธิและโฟกัสกับเนื้อหามากกว่าการเรียนในกลุ่มใหญ่ ๆ โดยเฉพาะนักเรียนกลุ่มที่เป็นเด็กเวลาอยู่กับเพื่อน ๆ มักจะพูดคุยกัน และเล่นสนุกกันมากกว่าสนใจบทเรียนตรงหน้า
ดังนั้นหากคุณพ่อและคุณแม่ต้องการหาติวเตอร์ส่วนตัวให้ลูก ๆ นั้น ใส่ใจมีบริการค้นหาติวเตอร์คุณภาพที่ใช้พร้อมรอให้บริการแล้วค่ะ
ทักษะที่ครูสอนพิเศษหรือติวเตอร์ที่ดีควรมี
คุณสมบัติอะไรบ้างที่คุณพ่อคุณแม่ควรมองหาจากครูสอนพิเศษหรือติวเตอร์เมื่อต้องการจ้างมาสอนพิเศษลูก ๆ ที่บ้าน มาดูกันเลยค่ะ

1) ติวเตอร์ควรมีความรู้และความชำนาญในการสอน แน่นอนค่ะว่าการถ่ายทอดความรู้ให้กับผู้อื่นนั้น ครูสอนพิเศษหรือติวเตอร์เองต้องมีความรู้ความชำนาญในสิ่งจะสอนนักเรียน
2) การจ้างติวเตอร์ส่วนตัวนั้นแตกต่างจากการเรียนที่สถาบันกวดวิชาที่มีตารางเรียนเวลาที่ชัดเจน แต่การจ้างติวเตอร์ส่วนตัว ติวเตอร์จะต้องมีความยืดหยุ่นได้ในเรื่องของเวลาและสถานที่การสอนเพื่อให้สอดคล้องกับนักเรียน
3) ติวเตอร์จะต้องมีความเห็นอกเห็นใจนักเรียน เนื่องจากพื้นฐานการเรียนของนักเรียนแต่ละคนนั้นแตกต่างกันไป บางคนสามารถเรียนรู้ได้เร็ว บางคนอาจจะต้องอาศัยการอธิบายหรือฝึกทำจึงจะเข้าใจ ดังนั้นติวเตอร์เข้าใจนักเรียน หากนักเรียนไม่เข้าใจในบทเรียนนั้น ๆ ติวเตอร์ต้องอธิบายจนกว่านักเรียนเข้าใจ แม้ว่าบางครั้งอาจจะเสียเวลาไปบ้างก็ตาม แต่อย่างน้อยการทำให้นักเรียนคนหนึ่งเข้าใจในเนื้อหาการเรียนอย่างถ่องแท้ถือเป็นเป้าหมายหลักและหัวใจสำคัญของติวเตอร์
4) ติวเตอร์ควรมีวิธีการสอนที่โดดเด่นและน่าสนใจเพื่อดึงดูดความสนใจของนักเรียนได้ บางครั้งเนื้อหาการเรียนนั้นอาจจะยาก ติวเตอร์มีวิธีการสอนที่ทำให้นักเรียนเข้าใจง่ายและนักเรียนสนุกไปกับการเรียนนั้นถือว่าติวเตอร์ประสบความสำเร็จในการสอน
5) ความเป็นมืออาชีพ ติวเตอร์ที่ดีจะไม่นำเรื่องของนักเรียนคนใดคนหนึ่งไม่ว่าจะเป็นเรื่องความสามารถในการเรียนรู้หรือพฤติกรรมในห้องเรียนไปเผยแพร่หรือเล่าให้ผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องฟัง การพูดคุยเรื่องเหล่านี้จะเกิดขึ้นระหว่างครูสอนพิเศษหรือติวเตอร์กับพ่อแม่และผู้ปกครองเท่านั้น
จ้างครูสอนพิเศษหรือติวเตอร์สอนลูกที่บ้านจะช่วยให้ลูกมีผลการเรียนดีขึ้นหรือไม่
การจ้างติวเตอร์ส่วนตัวนั้นจะช่วยทำให้ผลการเรียนของนักเรียนดีขึ้นหรือไม่ วันนี้ใส่ใจมีคำตอบมาให้คุณค่ะ

1) เหตุผลหลัก ๆ ของการเรียนพิเศษคือ นักเรียนอาจจะไม่เข้าใจการเรียนในห้องเรียนจึงตัดสินใจเรียนเสริมเพื่อจะได้เรียนให้ทันเพื่อน ดังนั้นการเรียนพิเศษแบบตัวต่อตัวกับติวเตอร์จะช่วยทำให้นักเรียนเข้าใจเนื้อหาบทเรียนมากขึ้น เมื่อนักเรียนกลับไปเรียนที่โรงเรียน นักเรียนจะเข้าใจเนื้อหาที่อาจารย์สอนมากขึ้น
2) นักเรียนได้ฝึกทำข้อสอบหรือแบบฝึกหัด และสามารถทำข้อสอบได้เมื่อเรียนที่โรงเรียน เพราะแน่นอนจุดสำคัญที่สุดของการเรียนของเด็กไทยเพื่อให้ได้คะแนนดี ๆ หรือเกรดสวย ๆ นั้นมาจากการทำข้อสอบเป็นหลัก ดังนั้นติวเตอร์จะให้ทริคการทำโจทย์ต่าง ๆ ให้นักเรียนเพื่อให้นักเรียนสามารถเอาไปใช้ในสนามสอบได้
3) ติวเตอร์ส่วนตัวให้ความสนใจนักเรียนแบบใกล้ชิด การเรียนแบบกลุ่มใหญ่ในโรงเรียนคุณครูอาจไม่สามารถให้ความสนใจนักเรียนทุกคนได้ เมื่อนักเรียนมีข้อสงสัย ไม่เข้าใจเนื้อหา และไม่กล้าที่จะยกมือถามครูผู้สอน หากนักเรียนจ้างครูพิเศษมาสอนที่บ้าน นักเรียนสามารถถามหรือพูดคุยกับคุณครูสอนพิเศษได้ตลอด และหากนักเรียนอยากให้คุณครูเน้นเนื้อหาใดเป็นพิเศษก็สามารถบอกคุณครูผู้สอนได้เลย เพื่อที่นักเรียนจะได้เข้าใจวิชานั้น ๆ มากขึ้น

ดังนั้นการเรียนพิเศษนั้นสามารถช่วยให้นักเรียนมีผลการเรียนที่ดีขึ้นแน่นอนค่ะ
สิ่งสำคัญที่พ่อแม่และติวเตอร์ต้องตกลงกันคืออะไร
การเรียนเสริม เรียนพิเศษและเรียนกวดวิชา ถือเป็นสิ่งจำเป็นอย่างมากสำหรับนักเรียนในปัจจุบันนี้ เพราะการเรียนตามหลักสูตรวันละ 6 ชั่วโมงในโรงเรียนดูจะไม่เพียงพอสำหรับการแข่งขันเพื่อให้ได้อยู่ในโรงเรียนหรือมหาวิทยาลัยที่ใฝ่ฝัน ในยุคที่มีตัวเลือกมากมายในการเรียนพิเศษ ใส่ใจมีคำแนะนำที่คุณพ่อคุณแม่และผู้ปกครองควรทำการตกลงกับครูสอนพิเศษหรือติวเตอร์ส่วนตัวก่อนตัดสินใจเริ่มการเรียนการสอน

1) เวลาเรียน ระบุเวลาเรียนให้ชัดเจน โดยอาจจะให้สอดคล้องกับตารางเรียนหรือตารางกิจกรรมที่โรงเรียน หรือเรียนในวันหยุดประจำสัปดาห์
2) สถานที่ อาจจะเป็นที่บ้าน ห้องสมุด หรือ คาเฟ่ Café ใกล้บ้าน ต้องมั่นใจว่าไม่ใช่สถานที่ที่มีผู้คนพลุกพล่านหรือรถสัญจรไปมาเสียงดัง
3) แผนการเรียนการสอน คุณพ่อคุณแม่และผู้ปกครอง รวมถึงตัวนักเรียนเอง ควรวางแผนร่วมกับผู้สอน ว่าควรเป็นไปในรูปแบบใดเพื่อให้เหมาะสมกับผู้เรียนและมีประสิทธิภาพที่สุด
4) ปัญหาหรืออุปสรรคของผู้เรียน คุณพ่อคุณแม่และผู้ปกครอง ควรแจ้งให้ครูสอนพิเศษหรือติวเตอร์ทราบถึงลักษณะบางประการของผู้เรียนที่อาจเป็นอุปสรรคในการเรียน เพื่อให้ครูผู้สอนปรับวิธีการสอนรวมถึงเตรียมสื่อการสอนเหมาะสมกับผู้เรียนมากที่สุด
5) ค่าจ้างและกำหนดการจ่าย คุณพ่อคุณแม่และผู้ปกครอง ควรตกลงเรื่องค่าจ้างกับติวเตอร์ให้ชัดเจนก่อนเริ่มทำเรียนสอน เช่นค่าจ้างเป็นรายชั่วโมง ค่าจ้างเป็นรายคอร์ส หรือเป็นรายเดือน

หากคุณพ่อคุณแม่ต้องการจ้างติวเตอร์ ใส่ใจมีติวเตอร์คุณภาพรอให้บริการคุณอยู่ค่ะ

ตะลุยกินย่านบางกอกน้อย

บางกอกน้อย เป็นย่านเก่าแก่ของกรุงเทพฯ ที่เต็มไปด้วยศิลปะ วัฒนธรรม ชุมชนเก่าแก่ ซึ่งปัจจุบันเปลี่ยนไปจากเดิมอย่างมาก ไม่ว่าพื้นที่จะเปลี่ยนแปลงไปแค่ไหน แต่ร้านอร่อยที่เป็นที่รู้จักและครองใจคนรักการกินมาอย่างยาวนาน ก็ยังคงได้รับความนิยมกันอย่างไม่เปลียนไปเลย มาดูกันดีว่ามีร้านอะไรบ้างเผื่อใครอยากจะตามไปชิมกัน

1. Mahanadi Eating House เป็นร้านอาหารไทยโบราณและบาร์ชื่อไทยๆว่า มหานที บรรยากาศเก่าคลาสสิคที่มาจากเฟอร์นิเจอร์ไม้ ประดับไปด้วยภาพเขียน ของเก่า ตกแต่งไว้รอบๆ ร้าน สำหรับเมนูแนะนำของร้านก็ได้แก่

- ยำใหญ่ญวน เมนูชาววังที่ใช้วัตถุดิบมากมาย อาทิเช่น ไก่ฉีก ซีฟู้ด กุ้งแห้ง และผักต่างๆ มายำจนได้รสชาติเปรี้ยวอมหวาน รับประทานกับไข่สุกรสชาติอร่อยที่สุด

- ปลาช่อนแดดเดียว จัดมาในจานแบบไม่มีก้าง นำมาทอดจนส่งกลิ่นหอม รสกลมกล่อม เข้ากันได้ดีกับน้ำจิ้มแจ่วสูตรลับประจำร้าน หอมกลิ่นสมุนไพรอย่างตะไคร้ และใบมะกรูด

- สาคูเปียกลำไย สาคูโฮมเมดที่ส่งตรงมาจากภาคใต้ รับประทานไปกับลำไยสดจากภาคเหนือ รวมเป็นรสหวานละมุน สายหวานต้องมาโดนเมนูนี้ รับรองจะติดใจ

ที่อยู่ : 256 ซอย วัดระฆัง แขวงศิริราช เขตบางกอกน้อย กรุงเทพฯ

2. Theatre Cafe Restaurant

ภัทราวดีเธียเตอร์ โรงละครกลางแจ้งแห่งแรกของกรุงเทพฯ และศูนย์กลางศิลปะการแสดงร่วมสมัยที่ตั้งอยู่ในกรุงเทพฯ ฝั่งธนบุรี ถูกแปรเปลี่ยนให้เป็นเซอร์วิสเรสซิเดนซ์ริมแม่น้ำอย่าง โรงแรม Theatre Residence และร้านอาหารกึ่งคาเฟ่ที่มีชื่อว่า Theatre Cafe Restaurant สำหรับเมนูแนะนำก็คือ

- Jasmine Iced Tea ชารสเข้มข้นผสมกับน้ำมะลิ รสหวานพอดี หอมกลิ่น ดื่มแล้วสดชื่น ชุ่มคอ

- ข้าวผัดน้ำพริกปลาดุกฟู ข้าวผัดคลุกเคล้ากับน้ำพริกปลาดุกฟูรสกลมกล่อม หวานนิดๆ เผ็ดหน่อยๆ โรยหน้าด้วยเนื้อปลาดุกฟูอร่อยต้องลองอีกเมนู

ที่อยู่ : 254 ซอย วัดระฆังโฆสิตารามวรมหาวิหาร แขวงศิริราช เขตบางกอกน้อย กรุงเทพฯ



เตรียมตัวสอบอย่างไรให้ได้ A

การเรียนต้องมาคู่กับการสอบ ดังนั้นใครที่เรียนหนังสืออยู่ก็ต้องเข้าสอบกันทุกคน วันนี้เรามีเทคนิคการเตรียมตัวสอบดีๆ มาแนะนำ รับรองว่าหลังจากนี้คุณจะรู้ว่าการสอบให้ได้คะแนนดีๆ ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป

- วางแผนในการสอบทุกครั้ง โดยก่อนที่จะถึงวันสอบต้องวางแผนการเดินทางไปยังสถานที่สอบ ตรวจสอบเส้นทาง เช็คเวลาและห้องสอบให้เรียบร้อย ที่สำคัญควรไปให้ถึงสถานที่สอบก่อนเวลาสัก 10-15 นาทีเพื่อเตรียมตัวและมีสมาธิก่อนเข้าสอบ

- รับประทานอาหารที่มีประโยชน์และช่วยบำรุงสมอง เช่น ปลา ถั่ว โยเกิร์ตและผลไม้ จะช่วยบำรุงสมองและเพิ่มประสิทธิภาพในการจดจำให้ดีมากยิ่งขึ้น

- ต้องรู้จักพักสมองจากการอ่านหนังสือบ้าง เพราะการอ่านหนังสือติดต่อกันหลายชั่วโมงจะทำให้รู้สึกล้าทั้งร่างกายและสายตา การเลือกเวลาพักเป็นช่วงๆ จะช่วยให้มีเวลาผ่อนคลายและทำให้มีประสิทธิภาพในการอ่านและจดจำมากยิ่งขึ้น

- การนัดติวหนังสือกับกลุ่มเพื่อนจะทำให้ไม่เบื่อหน่ายในการอ่านหนังสือ และทำให้ได้แลกเปลี่ยนความรู้และความคิดเห็นเกี่ยวกับแนวทางของข้อสอบอีกด้วย

- หากว่าเรานัดติวกับกลุ่มเพื่อนแล้ว ก็จะสามารถหัดอธิบายคำตอบจากการทำโจทย์ของให้เพื่อนฟังได้ด้วย และสิ่งนี้คืออีกหนึ่งวิธีที่จะช่วยๆให้ได้ทบทวนความรู้และอาจได้แลกเปลี่ยนเทคนิคในการแก้โจทย์ต่างๆ กับเพื่อนด้วยก็ได้

- ฝึกทำโจทย์จากข้อสอบเก่าๆ วิธีนี้เป็นวิธีที่ทำกันมาอย่างยาวนาน ดูจากการขายหนังสือแนวข้อสอบเก่าที่มีวางขายอยู่เต็มไปหมด เพราะวิธีนี้วิธีที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดเพราะจะทำให้คุณสามารถเดาแนวคำถามที่จะออกสอบได้ รวมทั้งจะทำให้คุณคุ้นเคยกับข้อสอบในแต่ละส่วนอีกด้วย



ทำยังไงให้ขยันอ่านหนังสือสอบ

รู้สึกเหมือนกันใช่ไหม เวลาที่ต้องเตรียมตัวสอบ ความขี้เกียจจะเข้ามาครอบคลุมจิตใจของเรา ทำให้เราเบื่อ ทำให้เราล้า ทำให้เราไม่อยากอ่านหนังสือ แต่วันนี้เรามีเทคนิคดีๆ ที่ทำให้เราไม่ขี้เกียจอ่านหนังสือสอบ มาดูกันค่ะ

- ให้รางวัลตัวเอง ด้วยการตั้งเป้าหมายว่าหากเราอ่านหนังสือจบและทำข้อสอบได้คะแนนดี เราอยากจะได้อะไรเป็นสิ่งตอบแทน เช่น ของที่อยากได้ ขนมที่อยากกิน หรือสถานที่ที่อยากไป

- หากไม่อยากอ่านหนังสือ ให้ลองเปลี่ยนมาใช้วิธีอื่นในการทบทวนความรู้ ได้แก่ การทำแบบฝึกหัด เพราะสารพัดโจทย์ที่หนังสือให้มาทำให้การอ่านหนังสือสนุกยิ่งขึ้น อีกทั้งโจทย์ในแต่ละข้อจะหยิบเอาเนื้อหาสำคัญๆ เข้ามา ดังนั้นการทำแบบฝึกหัดนอกจากจะช่วยให้การอ่านหนังสือน่าสนใจแล้ว ยังเท่ากับได้อ่านบทสรุปบทเรียนไปในตัวอีกด้วย

- ปรับเปลี่ยนการใช้ชีวิตประจำวัน แก้นิสัยนอนดึกตื่นสาย แล้วเปลี่ยนเป็นนอนแต่หัวค่ำแล้วตื่นเช้า เพื่อมาออกกำลังกายให้สมองปลอดโปร่งเพื่อเตรียมความพร้อมในการอ่านหนังสือเตรียมสอบจะดีกว่า

- หยุด Social ทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็น Facebook, Twitter หรือ Instagram เพื่อที่จะได้มีความจดจ่ออยู่กับการอ่านหนังสือและไม่เสียสมาธิไปกับโลกออนไลน์ รวมไปถึงอุปกรณ์เครื่องมือสื่อสารต่างๆ ทั้งโทรศัพท์มือถือหรือ Laptop เพราะสิ่งเหล่านี้จะดึงความสนใจของเราไป และทำให้ขี้เกียจอ่านหนังสือ

- เขียนตารางเวลาอ่านหนังสือ โดยเขียนตารางเวลาสำหรับอ่านหนังสือในแต่ละวันอย่างน้อย 2 - 3 ชั่วโมง เพื่อบังคับตัวเองให้อ่านหนังสือ