วิธีการทำงาน
ติดต่อเรา
ติดต่อเราโดยตรงผ่าน LINE OA เพื่อจองบริการที่คุณต้องการ
แจ้งรายละเอียดให้เราทราบ
เลือกบริการ วันที่ เวลา และสถานที่ที่คุณต้องการให้ตรงกับความต้องการของคุณ
ยืนยันการจองของคุณ
เราจะยืนยันการจองของคุณภายใน 24 ชั่วโมงผ่านทาง LINE OA
ข้อมูลสถิติน่าสนใจเกี่ยวกับ
รีวิวล่าสุด
คำถามที่พบบ่อยสำหรับการค้นหา แม่บ้าน
• แม่บ้านควรแต่งกายให้สุภาพและเหมาะสมและสะดวกในการในการทำงาน
• มีมารยาทในการทำงาน และมีสัมมาคารวะ ยิ้มแย้มแจ่มใส
• มีความเป็นมืออาชีพ ดูแลความสะอาดในบริเวณที่รับผิดชอบให้มีความสะอาดตามที่นายจ้างคาดหวัง
• ปฏิบัติงานที่รับผิดชอบให้เสร็จตรงตามเวลาที่กำหนด
• มีความขยันและอดทน รักในงานที่ทำ
• ควรรู้จักแก้ปัญหาเฉพาะหน้าหากมีเหตุการณ์ไม่คาดฝันเกิดขึ้น
• สามารถทำงานภายใต้ความกดดันได้
• มีมนุษยสัมพันธ์ที่ดีและต้องปรับตัวง่ายเพราะต้องเจอกับนายจ้างใหม่อยู่ตลอดเวลา
• หากมีความรู้ด้านภาษาอังกฤษด้วยจะดีมาก เนื่องจากอาจมีนายจ้างเป็นชาวต่างชาติ
• แม่บ้านควรมีความรู้เรื่องการจัดเตรียมอุปกรณ์ที่จะใช้ทำความสะอาดในจุดต่าง ๆ
• แม่บ้านควรมีความระมัดระวังในการใช้น้ำยาเคมีและอุปกรณ์ทำความสะอาดไม่ทำให้เครื่องมือ เครื่องใช้และเฟอร์นิเจอร์ต่าง ๆ ในบ้านเสียหาย
• แม่บ้านควรมีความเข้าใจการใช้น้ำยาทำความสะอาดพื้นผิวต่าง ๆ ภายในบ้าน เพราะแต่ละพื้นผิวย่อมมีการดูแลที่แตกต่างกันไป
• เป็นผู้ที่มีสุขภาพร่างกายสมบูรณ์ แข็งแรง ไม่เป็นบุคคลพิการหรือเป็นโรคติดต่อใด ๆ ที่มีผลต่อการทำงาน
• แม่บ้านควรสวมอุปกรณ์เสริมที่เหมาะสมกับการทำงาน เพื่อความปลอดภัยทุกครั้ง เช่น รองเท้า ถุงมือ หน้ากาก เป็นต้น
• ควรมีความซื่อสัตย์ เพราะอาจมีบางเวลาที่เจ้าของบ้านไม่อยู่และต้องฝากแม่บ้านให้ดูแลทรัพย์สินและของมีค่าภายในบ้าน
• ความน่าเชื่อถือของแม่บ้านอิสระ บางครั้งคุณอาจยังกังวลว่าหากคุณทำการจ้างแม่บ้านมาดูแลทำความสะอาดบ้านของคุณแล้ว จะมีสิ่งใดที่สามารถรับประกันได้ว่าแม่บ้านอิสระที่คุณจ้างมานั้นจะสามารถปฏิบัติงานได้ตามที่คุณต้องการ คุณอาจต้องเสียเวลาเพื่อเฝ้าดูการทำงานของแม่บ้านก่อนเพื่อให้มั่นใจว่าแม่บ้านที่คุณจ้างมานั้นมีความน่าเชื่อถือมากน้อยแค่ไหน
• การจัดตารางเวลาในการทำความสะอาด หากมีเหตุจำเป็นที่อาจทำให้แม่บ้านอิสระไม่สามารถมาทำงานตามวันและเวลาที่คุณกำหนดเอาไว้ เมื่อเกิดเหตุการณ์แบบนี้ คุณอาจไม่สบายใจเนื่องจากต้องหาคนมาทำความสะอาดแทนในช่วงเวลานั้น
• แม่บ้านอิสระที่จ้างมานั้นอาจไม่ได้ทำงานบริการทำความสะอาดที่บ้านคุณในระยะยาว หากการเลือกใช้บริการแม่บ้านของคุณไม่ได้เป็นแบบรายเดือนหรือแม่บ้านประจำ คุณอาจต้องเสียเวลาในการอธิบายและแจกแจงงานใหม่ทุกครั้งที่ทำการจ้างแม่บ้านคนใหม่มาทำความสะอาดบ้านคุณ
• การต่อรองค่าใช้จ่ายในการใช้บริการ บางครั้งคุณอาจไม่สามารถประเมินราคาในการว่าจ้างแม่บ้านอิสระในแต่ละครั้งได้ ว่าราคานั้นเหมาะสมกับผลงานการทำงานของแม่บ้านที่จ้างมาหรือไม่
• ปัญหาด้านการสื่อสารเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญ สำหรับนายจ้างชาวต่างชาติที่เลือกจ้างแม่บ้านอิสระ หากแม่บ้านไม่มีทักษะทางด้านภาษาอังกฤษก็อาจทำให้การสื่อสารระหว่างนายจ้างและผู้ถูกจ้างเป็นไปอย่างยากลำบาก
1. ควรทำสัญญาจ้างเป็นลายลักษณ์อักษรที่ชัดเจน ซึ่งสิ่งที่จะต้องระบุในสัญญานั้นได้แก่ ระยะเวลาการว่าจ้าง ชั่วโมงการทำงาน อัตราค่าจ้าง สวัสดิการและวันหยุดต่าง ๆ การทำสัญญาลายลักษณ์อักษรนี้เพื่อเป็นหลักฐานว่าทั้งสองฝ่ายได้รับรู้และยินยอมต่อข้อตกลงและเงื่อนไขทั้งหมดที่กล่าวไว้ในสัญญานั่นเอง
2. ผู้ว่าจ้างอาจทำการสัมภาษณ์แม่บ้านว่ามีประสบการณ์ในการทำงานบริการมามากน้อยแค่ไหน และอาจให้แม่บ้านลองทดลองงานก่อนเพื่อประเมินถึงความสามารถของแม่บ้านว่ามีประสิทธิภาพมากพอในการทำงานหรือไม่
3. ผู้ว่าจ้างควรอธิบายถึงขอบเขตในการทำงานของแม่บ้านให้ชัดเจน บางครั้งผู้ว่าจ้างอาจต้องการเวลาพักผ่อนส่วนตัว จึงจำเป็นต้องอธิบายเรื่องเวลาและสถานที่ในการทำความสะอาดอย่างชัดเจน เช่น สถานที่ไหนควรทำความสะอาดเวลาไหน เป็นต้น
4. ผู้ว่าจ้างควรอธิบายเรื่องความยืดหยุ่นของระยะเวลาการทำงานให้แม่บ้านรับรู้ และแจกแจงเกี่ยวกับเงื่อนไขและค่าตอบแทนเพิ่มเติมหากต้องใช้บริการแม่บ้านให้ทำความสะอาดล่วงเวลาหรือในกรณีพิเศษอื่น ๆ
5. ทำการตรวจสอบอีกครั้งให้มั่นใจว่าบุคคลที่ได้ทำการจ้างมานั้นไม่ได้เข้าข่ายเป็นผู้มีคดีติดตัวหรือเคยมีประวัติอาชญากรรมมาก่อน โดยสามารถตรวจสอบข้อมูลระหว่างการสัมภาษณ์ เพื่อความสบายใจของผู้ว่าจ้างต่อทรัพย์สินและสิ่งของมีค่าภายในบ้านของตน
ทั้งหมดนี้คือข้อตกลงและเงื่อนไขสำคัญที่ผู้ว่าจ้างและผู้ถูกจ้างควรทำความเข้าใจกันให้ชัดเจนทั้งสองฝ่ายเพื่อให้การทำงานเป็นไปอย่างราบรื่นและไม่มีปัญหาเกิดขึ้นระหว่างการทำงานนั่นเอง
ตลาดคลองสวน ตลาดที่มีอายุมากกว่า 100 ปี
ตลาดคลองสวน ๑๐๐ ปี ตั้งอยู่เทศบาลตำบลคลองสวน อำเภอบางบ่อ จังหวัดสมุทรปราการ และตำบลเทพราช อำเภอบ้านโพธิ์ จังหวัดฉะเชิงเทรา ตลาดคลองสวนเป็นตลาดบกแบบโบราณ อายุนับร้อยปี ลักษณะเป็นเรือนแถวยาวตลอด ๕๐๐ เมตร ขนานไปตามคลองประเวศบุรีรมย์ เป็นตลาดที่ยังคงรักษาสภาพเดิมเหมือนครั้งแรกสร้าง เป็นบรรยากาศของอดีตที่หาชมได้ไม่ง่ายนัก ตลาดจะมีความคึกคักมากในช่วงเช้าตรู่ถึงช่วงสายของวัน
ผู้ที่เดินทางไปซื้อสินค้าที่ตลาดคลองสวน สามารถข้ามสะพานไม้มายังฝั่งตรงข้ามที่อยู่ในเขตเทศบาลเทพราช อำเภอบ้านโพธิ์ จังหวัดฉะเชิงเทราได้อีกด้วย จึงทำให้ตลาดคลองสวนมีการขนานนามอีกชื่อหนึ่งว่า ตลาด ๒ จังหวัด
การเดินทาง จากสี่แยกบางนามุ่งหน้าไปทางจังหวัดชลบุรี ก่อนถึงกิโลเมตรที่ ๒๙ ให้เตรียมตัวออกช่องทางเดินรถขนาน ถึงกิโลเมตรที่ ๒๙ ให้เลี้ยวซ้ายไปตามถนน ๒๐๐ ปี อีกประมาณ ๗ กิโลเมตร จนถึงสี่แยก สภ.ตำบล เปร็ง เลี้ยวขวาไปตามถนนลาดกระบัง-ฉะเชิงเทรา ระยะทางประมาณ ๑๐ กิโลเมตร จะพบทางเข้าตลาดคลองสวน ๑๐๐ ปี อยู่ด้านซ้ายมือ ให้เลี้ยวซ้ายไปตามทางประมาณ ๓๐๐ เมตร จะถึงตลาดคลองสวน
วัดมงคลโคธาวาส ตั้งอยู่ใกล้กับตลาดคลองด่าน เป็นวัดที่หลวงพ่อปาน เกจิอาจารย์ชื่อดังในสมัยรัชกาลที่ ๕ เคยจำพรรษาอยู่และพัฒนาวัด จนกลายเป็นวัดสำคัญของอำเภอบางบ่อในปัจจุบัน นอกจากนี้บริเวณด้านหน้าของวัดซึ่งหันหน้าสู่คลองด่านยังเป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับการนั่งพักผ่อนหย่อนใจ
การเดินทาง จากสามแยกสมุทรปราการให้เลี้ยวซ้ายไปตามถนนสุขุมวิทสายเก่า (ทางไปสถานตากอากาศบางปู) ประมาณ ๓๐ กิโลเมตร เมื่อข้ามสะพานคลองด่านให้เลี้ยวซ้ายบริเวณเชิงสะพานและไปตามถนนทางเข้าวัดมงคลโคธาวาส ผ่านตลาดคลองด่านตรงไปประมาณ ๕๐๐ เมตร จะถึงวัด และสามารถเดินทางด้วยรถโดยสารประจำทางปรับอากาศ สาย ๒๕, ๑๐๒, ๑๔๒, ๑๔๕, ๕๐๗, ๕๐๘, ๕๑๑ และ ๕๓๖ รถโดยสารประจำทางธรรมดา สาย ๒๕, ๑๐๒ และ ๑๔๕ ลงตลาดปากน้ำ แล้วต่อรถประจำ ทางปากน้ำ-คลองด่าน ถึงตลาดคลองด่านสามารถต่อรถรับจ้างเดินทางถึงวัด
สิ่งที่คุณแม่บ้านต้องทำความสะอาดในทุกๆวัน
ในฐานะของคนเป็นแม่บ้านไม่ว่าจะเป็นแม่บ้าน full time หรือจะเป็นแม่บ้านที่ต้องทำงานนอกบ้าน ที่ไม่ได้จ้างแม่บ้านมา หน้าที่ความรับผิดชอบสำคัญที่จะหลีกเลี่ยงไม่ได้และจำเป็นต้องทำให้เรียบร้อยในทุกๆวัน ดูแแล้วเหมือนจะเป็นงานที่มักให้ความรู้สึกที่หนักเมื่อพูดถึงมัน แต่จะทำอย่างไรให้แม่บ้านสามารถจัดการ รับผิดชอบภาระหน้าที่นี้ให้ดีที่สุด ให้บ้านเป็นบ้านที่สะอาด เป็นระเบียบ น่าอยู่
ก่อนอื่นเราต้องทราบก่อนว่างานบ้านแต่ละอย่างในบ้านนั้นเราต้องทำเมื่อไหร่ งานไหนทำเดือนละครั้งได้ งานไหนทำสัปดาห์ละครั้ง และงานไหนต้องทำทุกวัน เพื่อที่ว่าเราจะสามารถวางแผนในการทำงานของแม่บ้านได้อย่างดี มีประสิทธิภาพ งานเสร็จ บ้านเรียบร้อย และมีเวลาเหลือสำหรับกิจกรรมอย่างอื่นหรือไปทำงานได้ตรงเวลาทุกวัน โดยสิ่งที่ควรจัดการและทำความสะอาดในทุกๆวัน มีดังนี้
1. การจัดที่นอน
แน่นอนว่าคงไม่มีใครชอบที่จะต้องกลับมาจัดห้องนอน พับผ้าห่ม ดึงผ้าปูเตียง ก่อนที่จะนอนในค่ำคืนของวันนั้น เราต่างก็ต้องการที่จะเห็นห้องนอนที่ถูกจัดไว้อย่างเป็นระเบียบเรียบร้อยก่อนที่จะล้มตัวลงนอน ดังนั้นก่อนออกจากห้องนอนในตอนเช้าก็ควรจัดเก็บให้เรียบร้อย หรือกำหนดตายตัวไว้ว่าในทุกวันจะต้องเข้ามาจัดห้องนอนก่อนในช่วงเวลาของการทำงานบ้าน
2.การจัดเก็บข้าวของให้เข้าที่เข้าทาง
ของแต่ละชิ้นในบ้านจะมีที่ของมันที่มันควรจะอยู่อยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นในตู้ บนชั้นวางของ หรือในลิ้นชัก ดังนั้นเมื่อสังเกตเห็นข้าวของบางชิ้นที่ใช้งานแล้ววางเกะกะภายในบ้าน ทันทีที่เห็นต้องรีบจัดการให้สิ่งของเหล่านั้นกลับไปอยู่ในที่ของมันให้เรียบร้อย
3. การกวาดพื้น
เป็นที่แน่นอนว่านี่คืองานบ้านที่แม่บ้านทุกคนต้องทำทุกวัน หลังจากที่จัดการกับสิ่งสกปรกบนเคาน์เตอร์หรือชั้นวางอื่นๆแล้ว ก็ต้องทำการกวาดสิ่งสกปรกที่หล่นอยู่ตามพื้นบ้าน หรือในบริเวณบ้านส่วนที่ไม่ได้ปูพรม กวาดเอาเศษขยะ ฝุ่นผง ดิน ต่าง ๆ ออกไปจนไม่รู้สึกว่าเมื่อเดินแล้วมีสิ่งสกปรกติดเท้าของเราด้วย
4. การซักผ้า
นี่ก็เป็นอีกหนึ่งงานบ้านที่ต้องทำทุกวัน อย่าสะสมไว้จนกองโต โดยเฉพาะอย่างยิ่งบ้านที่มีสมาชิกหลายคน เช่น เมื่อมีลูก เสื้อผ้าลูกก็จะเพิ่มปริมาณเสื้อผ้าที่เราต้องซักในแต่ละวัน ไม่เพียงแค่เสื้อผ้าแต่ยังมีผ้าห่ม ผ้าเช็ดตัว ผ้าปูที่นอน ปลอกหมอน และอื่น ๆ อีกด้วย ดังนั้นในลิสต์รายการงานบ้านประจำวันของเราจำเป็นต้องจดไว้เลยว่าแต่ละวันจะต้องซักอะไรบ้าง
5. การล้างห้องน้ำ
ห้องน้ำเป็นอีกหนึ่งห้องที่เราจำเป็นต้องรักษาความสะอาดอย่างสม่ำเสมอ ต้องทำความสะอาดทุกวัน ต้องไม่มีสิ่งสกปรกให้เห็น โดยเฉพาะในโถส้วม หรือพื้นห้องน้ำ ต้องเช็ด ขัดให้สะอาดในทุกวัน ของใช้ในห้องน้ำทุกอย่างต้องจัดวางให้เรียบร้อย เพื่อความสะอาดปลอดเชื้อโรค อีกทั้งในแต่ละวันเราไม่รู้ว่าบ้านเราอาจต้องต้อนรับแขกที่มาเยือนโดยไม่ทราบล่วงหน้าและอาจต้องใช้ห้องน้ำ
เคล็ดลับของการซักผ้าที่คุณแม่บ้านควรรู้
ไม่ว่าจะผู้หญิง ผู้ชาย เด็กนักเรียน นักศึกษา ถือเป็นหน้าที่หนึ่งของปัจจัยยังชีพในชีวิตคนเราเลยก็ว่าได้ที่จะต้องซักผ้า ดังนั้นใครก็ตามที่ต้องดูแล ซักผ้าด้วยตัวเอง เราก็จำเป็นต้องเรียนรู้ ทำความเข้าใจ สรรหาวิธีการซักผ้าที่มีประสิทธิภาพที่ดีที่สุด ซักอย่างไรให้สะอาด ขจัดคราบสกปรกได้อย่างหมดจด เสื้อผ้า หอม นุ่ม ถนอมไว้อยู่ในสภาพดีเสมอ
เราจึงมีเป็นเคล็ดลับสำหรับการซักผ้า เพื่อให้ผ้าของเราต่อจากนี้ไปจะได้ขาว สะอาด สดใส น่าสวมใส่ โดยมีวิธีดังนี้
1.ผงซักฟอกที่มีพลังซักสูง ไม่ควรใช้ร่วมกับน้ำยาซักผ้าขาว
ผงซักฟอกที่ผสมเอนม์ไซ ช่วยเพิ่มพลังในการซักจึงซักผ้าได้สะอาดขึ้น กำจัดคราบสกปรกที่ฝังแน่นตามเนื้อผ้าได้ดี ส่วนน้ำยาซักผ้าขาวที่มีส่วนผสมของคลอรีนนั้นจะไปยับยั้งการทำงานของเอนไซม์ ทำให้ประสิทธิภาพการขจัดคราบสกปรกลดลง ผ้าอาจซักได้ไม่สะอาดเท่าที่ควร ดังนั้นจึงไม่ควรใช้ผงซักฟอกสองชนิดนี้ร่วมกันในการซักผ้า
2.ก่อนซักผ้าด้วยมือ ควรแช่ผ้าในน้ำไว้ไม่เกิน 15 นาที
เวลาที่เราซักผ้าด้วยมือ หลายคนเชื่อว่าจะต้องแช่ผ้าไว้ในน้ำที่ผสมผงซักฟอกไว้นาน ๆ จะทำให้ซักสะอาดได้ง่ายขึ้น แต่เสื้อผ้าที่แช่ไว้นานเกินไปจะส่งผลเสียต่อเส้นใยและสีสันของเนื้อผ้าได้ ซึ่งโดยปกติควรแช่ผ้าไว้ประมาณ 5 นาทีก่อนซัก แต่หากคิดว่าเสื้อผ้าของเราสกปรกมากก็ไม่ควรจะแช่ไว้นานเกิน 20 นาที
3.รู้ค่าความเป็นด่างของผงซักฟอกเพื่อเลือกใช้ให้เหมาะกับผ้า
ยิ่งค่าความเป็นด่างของผงซักฟอกมีมากเท่าไร ก็ยิ่งซักได้สะอาดขึ้น วิธีทดสอบค่าความเป็นด่างของผงซักฟอกทำได้โดยใช้กระดาษลิตมัส กระดาษที่ใช้ทดสอบความเป็นกรดด่าง และกลางของสารละลายมาทดสอบกับผงซักฟอกก็จะรู้ค่านั้น โดยหลังจากที่ทราบค่าความเป็นด่างของผงซักฟอกแล้ว เราก็สามารถนำมาพิจารณาเลือกใช้ให้เหมาะสมกับเนื้อผ้าและความสกปรกได้ กล่าวคือ สำหรับผ้าที่มีเนื้อดี เช่น ผ้าไหม ผ้าขนสัตว์ เสื้อชั้นใน ควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ซักผ้าที่มีคุณสมบัติเป็นกลาง และสำหรับผ้าที่ค่อนข้างสกปรกมากให้เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ซักผ้าที่มีความเป็นด่างสูง
SAIJAI "ใส่ใจ" เป็นเพียงแพลตฟอร์มที่ใช้สำหรับติดต่อสื่อสารระหว่างผู้ใช้บริการกับผู้ให้บริการดูแลเด็ก ดูแลผู้สูงอายุ ครูสอนพิเศษ/ติวเตอร์ แม่บ้าน/ทำความสะอาด คนขับรถ ดูแลสัตว์เลี้ยง เสริมสวย และช่างซ่อมบำรุงเท่านั้น "SAIJAI" ไม่ได้เป็นผู้ให้บริการหรือจ้างบุคคลใดให้บริการ ไม่มีสถานะเป็นนายจ้าง ผู้ว่าจ้าง ตัวแทน ผู้ร่วมทุน อย่างหนึ่งอย่างใดทั้งสิ้นของผู้ให้บริการ ผู้ให้บริการเป็นผู้รับจ้างอิสระ ซึ่งผู้รับบริการเป็นผู้ว่าจ้าง คุณภาพการให้บริการเป็นความรับผิดชอบทั้งสิ้นของผู้ให้บริการเอง การเรียกใช้บริการจากผู้ให้บริการ อาจมีความเสี่ยง ซึ่งผู้รับบริการรับทราบและยินดีใช้บริการ บนความเสี่ยงใด ๆ ในความรับผิดชอบของตัวท่านเอง