ช่างแต่งหน้า ใน แม่ริม, เชียงใหม่

ช่างแต่งหน้า ใน แม่ริม, เชียงใหม่

คุณต้องการใช้บริการนี้เมื่อไหร่?
ตอนนี้
ระบุวันที่

วิธีการทำงาน

Saijai

ติดต่อเรา

ติดต่อเราโดยตรงผ่าน LINE OA เพื่อจองบริการที่คุณต้องการ

Saijai

แจ้งรายละเอียดให้เราทราบ

เลือกบริการ วันที่ เวลา และสถานที่ที่คุณต้องการให้ตรงกับความต้องการของคุณ

Saijai

ยืนยันการจองของคุณ

เราจะยืนยันการจองของคุณภายใน 24 ชั่วโมงผ่านทาง LINE OA

Pilin  Pinyapat J
Pilin Pinyapat J
Saijai ประสบการณ์ 0-1 ปี

รับแต่งหน้ารับปริญญา แต่งหน้าออกงาน แต่งหน้าเพื่อนเจ้าสาว หรือออกงานอีเว้นต่างๆ ในจังหวัดเชียงใหม่ ได้รับใบประกาศจากสถาบันสอนแต่งหน้า IMC รับประกันฝีมือและคุณภาพ ใช้เครื่องสำอางค์แบรนเนม

แสดงเพิ่มเติม

ข้อมูลสถิติน่าสนใจเกี่ยวกับ

Saijai จำนวนประชากร
Saijai จำนวนประชากรเด็ก (แรกเกิด-14 ปี)
Saijai จำนวนประชากรสูงอายุ (60 ปี ขึ้นไป)
Saijai จำนวนสัตว์เลี้ยง สุนัข

คำถามที่พบบ่อยสำหรับการค้นหา ช่างแต่งหน้า

ข้อดีของการจ้างช่างแต่งหน้าในโอกาสต่างๆ

ปฏิเสธไม่ได้ว่าภาพลักษณ์ภายนอกที่คนอื่นมองเห็นเราเป็นสิ่งที่สำคัญมากในยุคปัจจุบัน เพราะวินาทีแรกคนส่วนใหญ่ตัดสินเราว่าเป็นคนอย่างไรจากการดูลักษณะภายนอก อาชีพช่างแต่งหน้าจึงได้รับความนิยมมากเมื่อต้องออกงานสังคม กินเลี้ยงหรือแสดงความยินดีในโอกาสต่างๆและควรเลือกใช้บริการช่างแต่งหน้ามากกว่าที่จะแต่งด้วยตนเองหากมีกำลังมากพอ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะไม่แน่ใจในฝีมือของตนเองและเชื่อว่าช่างมีอุปกรณ์ที่พร้อม เทคนิคที่ดีกว่า งานหลักของช่างแต่งหน้าคือทำให้ลูกค้ามีความสุขและความสวยงามภายในเวลาที่จำกัด โดยต้องทำให้ลูกค้าประทับใจมากที่สุด คนส่วนใหญ่อาจไม่ทราบว่ากว่าจะเป็นช่างแต่งหน้ามืออาชีพนั้น จำเป็นจะต้องศึกษาหาข้อมูลความรู้มากมายมากกว่ากระเป๋าเครื่องสำอางและแปรงแต่งหน้าเสียอีก เพื่อที่จะประสบความสำเร็จในการแต่งหน้า ความงามกับผู้หญิงเป็นของคู่กันอยู่แล้ว ผู้หญิงน้อยคนที่จะปล่อยหน้าสดให้ชาวโลกได้เห็น อีกทั้งการแต่งหน้ายังมีประโยชน์ในด้านการป้องกันผิวคุณจากแสงแดด เพราะปัจจุบันมีเครื่องสำอางที่มีส่วนผสมของสารป้องกันแดดและมีวิตามิน สารบำรุงผิวผสม เรียกได้ว่าสวยแล้วยังป้องกันผิวและบำรุงไปในตัวอีกด้วย สาวๆทุกคนสามารถแต่งหน้ากันได้เองอยู่แล้ว แต่ก็อาจจะมีบางจุดที่ทำให้เรารู้สึกว่าการจ้างช่างแต่งหน้าคุ้มค่ากว่าการแต่งหน้าเอง เพราะช่างแต่งหน้าจะมีเทคนิคสำคัญที่ทำให้การแต่งหน้าของคุณออกมาดูดี การแต่งหน้าจึงเป็นเสมือนตัวช่วยสร้างความมั่นใจให้กับผู้หญิง โอกาสสำคัญทั้งทีหลายคนก็อยากสร้างความมั่นใจให้ตัวเองดูดีกันทั้งนั้น การจ้างช่างแต่งหน้าเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยที่จะทำให้วันสำคัญของคุณออกมาดูดีที่สุด 

คำแนะนำที่เป็นประโยชน์สำหรับเจ้าสาวที่อยากหาช่างแต่งหน้า

สำหรับว่าที่เจ้าสาวที่กำลังจะเข้าพิธีวิวาห์และกำลังจะมองหาช่างแต่งหน้าในงานแต่ง แต่ยังไม่มีเทคนิคและข้อแนะนำในการเลือกช่างแต่งหน้าให้ถูกใจ เราขอแนะนำสิ่งที่เป็นประโยชน์ให้กับเจ้าสาวในการเลือกช่างแต่งหน้าในงานแต่ง เพราะอย่าลืมว่าคนที่มาแปลงโฉมให้คุณกลายเป็นคนสวยที่สุดในวันนั้นคือช่างแต่งหน้าของคุณ จะมีคำแนะนำอะไรที่เป็นประโยชน์บ้างนั้นมาดูกันค่ะ


1.คุยเรื่องวันเวลาและสถานที่ให้ชัดเจน เริ่มจากการล็อกคิวช่างแต่งหน้าไว้ก่อน สำหรับคู่ไหนที่ได้ฤกษ์แต่งงานแล้วก็ควรหาช่างแต่งหน้าทำผมให้เร็วที่สุด เพราะช่างที่เราต้องการบางคนอาจมีคิวที่ยาวเหยียดเต็มทั้งปี ควรพูดถึงรายละเอียด กำหนดการในพิธี ช่วงเวลาเริ่มงานและสถานที่จัดงาน สิ่งเหล่านี้ล้วนสำคัญเพราะช่างบางคนอาจคิดbudget ค่าเดินทางด้วย


2.เงินมัดจำ การแต่งหน้าส่วนใหญ่จะมีการเรียกเก็บเงินมัดจำล่วงหน้าก่อนครึ่งหนึ่งของค่าจ้างทั้งหมด โดยราคาของช่างแต่งหน้าในปัจจุบันจะอยู่ที่ประมาณ 5500 บาท แต่หากช่างที่มีประสบการณ์และชื่อเสียงมากก็จะสูงขึ้นไปตามลำดับ ควรจะคุยเรื่องรายละเอียดกับช่างให้ดี ตกลงกันให้ลงตัว จะได้ไม่เกินงบส่วนนี้ที่ตั้งไว้และไม่เกิดปัญหาตามมาทีหลัง


3.ระบุรายละเอียดเกี่ยวกับตัวคุณให้ช่างแต่งหน้าทราบก่อนถึงวันจริงเช่น การบอกลักษณะของผิวหน้า เครื่องสำอางที่แพ้หรือต้องการแต่งหน้าให้ออกมาได้ลุคประมาณไหน


คำแนะนำในการหาช่างแต่งหน้าเหล่านี้ อาจใช้เป็นตัวช่วยตัดสินในการจ้างช่างแต่งหน้าได้ เพราะช่างแต่งหน้าบางคนก็มีข้อจำกัดบางอย่างที่ไม่สามารถตอบสนองคุณได้ทั้งหมดและคุณเองก็อาจมีความต้องการบางอย่างที่ช่างแต่งหน้าไม่สามารถจะทำให้ได้เช่นกัน

หากต้องการให้เมคอัพติดทนตลอดทั้งวันมีวิธีใดบ้าง

สาวๆหลายคนคงเจอปัญหาเมคอัพไม่ติดทนตลอดทั้งวัน ก่อให้เกิดปัญหาหน้าดรอป หน้าหมองคล้ำระหว่างวันได้ แม้จะแต่งหน้าจัดเต็มแค่ไหนก็เอาไม่อยู่ ซึ่งบางครั้งคุณภาพของเครื่องสำอางอาจไม่เพียงพอ จะต้องมีการเพิ่มเทคนิค ทริคเล็กๆในการแต่งหน้า เพื่อให้เมคอัพของสาวๆติดทนนานขึ้นอีกด้วย มาดูกันว่าเทคนิคดีๆจะมีอะไรกันบ้างค่ะ


-เริ่มต้นจากการล้างหน้าให้สะอาด หากมีเวลาสัก 5 นาที ก็อาจใช้มาสก์ล้างหน้าชนิดล้างออกพอกไว้สักพัก วิธีนี้จะทำให้การแต่งหน้าเรียบเนียนและทำให้เครื่องสำอางติดทนนานอีกด้วยค่ะ


-ใช้โทนเนอร์ทุกครั้งหลังล้างหน้า เพื่อเป็นการปรับค่าPH รักษาสมดุลให้กับผิว ทำให้ผิวรู้สึกชุ่มชื่น เปร่งปรั่งและยังช่วยกระชับรูขุมขนได้อีกด้วย


-ทาครีมบำรุงผิวเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้น โดยจะทำให้ผิวมีความชุ่มชื้นแบบพอดี ไม่มากจนเกินไปทำให้เครื่องสำอางติดทนนานมากขึ้น เพราะหากผิวของเราแห้งมากไม่ว่าจะลงรองพื้นหนามากแค่ไหนก็ไม่เกาะผิวหน้า แถมยังทำให้เกิดเป็นคราบไม่เรียบเนียนบนใบหน้าอีกด้วย


-อย่าลืมลงครีมกันแดด ประเทศไทยมีแนวโน้มจะร้อนขึ้นเรื่อยๆ ส่งผลให้ใบหน้าของเราเกิดความมันได้ง่าย จึงควรหลีกเลี่ยงกันแดดสูตรที่เพิ่มมอยเจอไรเซอร์หรือกันแดดที่มีความมันอยู่แล้ว เพราะจะทำให้หน้าของเรามันยิ่งขึ้น เครื่องสำอางหลุดได้ง่าย ทางที่ดีควรทำให้ผิวมีความชุ่มชื้นพอดีไม่มากจนเกินไป


-ใช้ลิปสติกแบบติดทน ใครไม่อยากให้ลิปสติกติดฟันอย่างแรกคือต้องทาลิปมัน จะทำให้ริมฝีปากเรียบเนียนและชุ่มชื่น เมื่อทาลิปเสร็จแล้วให้นำทิชชู่เม้มปากเอาไว้เพื่อกำจัดลิปสติกส่วนเกินออก จากนั้นทาทับอีกครั้งเพื่อให้สีติดแน่นขึ้น นอกจากนี้เวลารับประทานอาหารหากไม่อยากให้สีปากหายก็ต้องอ้าปากกว้างๆหรือต้องทาลิปสติกเติมเมื่อรับประทานอาหารเสร็จ

ขั้นตอนการแต่งหน้าที่ถูกต้องมีอะไรบ้าง

ขั้นตอนของการแต่งหน้าเป็นสิ่งที่ทำให้สาวๆเกิดข้อกังวลใจ ซึ่งสาวๆคนไหนที่เพิ่งเริ่มแต่งหน้า อาจมีข้อสงสัยว่าเราควรลงเครื่องสำอางตัวไหนก่อนดี ลงตัวนี้แล้วยังจำเป็นที่จะต้องลงอีกตัวอยู่หรือไม่ แล้วจะทำยังไงเครื่องสำอางติดทน หรือแม้กระทั่งบางครั้งเวลาเราใช้บริการช่างแต่งหน้าก็อดอิจฉาไม่ได้ว่าทำไมช่างดูมีความเชี่ยวชาญในแต่ละขั้นตอน เชื่อว่าหลายคนยอมลงทุนซื้อเครื่องสำอางในราคาหลายพัน เพื่อต้องการให้ประสิทธิภาพออกมาดีที่สุด แต่พบว่ามันไม่ได้ทำให้การแต่งหน้าของคุณมีประสิทธิภาพขึ้นเลย เราขอแนะนำขั้นตอนการแต่งหน้าที่เข้าใจง่ายที่สุด


1.ทำความสะอาดผิวหน้า การล้างหน้าให้หมดก่อนแต่งหน้าเป็นขั้นตอนที่ไม่ควรมองข้าม เพราะบางครั้งผิวหน้าของคุณก็มีน้ำมันออกมามากเกินไป ทำให้เครื่องสำอางไม่ติดทนนาน หากใช้พวกฟองน้ำ แปรงแต่งหน้าก็จะเป็นต้นตอของการเกิดสิวอีกด้วย


2.ใช้โทนเนอร์ก่อนลงสกินแคร์ การลงโทนเนอร์จะเป็นการปรับสมดุลของผิว ทำให้ผิวมีความชุ่มชื้นมากขึ้น สามารถรับสารอาหารจากสกินแคร์ต่างๆที่จะลงตามหลังได้และยังเป็นตัวช่วยขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว เหมาะสำหรับเชคดูว่าเราล้างหน้าสะอาดหรือไม่ ซึ่งการใช้โทนเนอร์ก็ควรใช้กับสำลีเช็ดหน้าโดยเฉพาะ


3.สกินแคร์ปรับความชุ่มชื้นแก่ผิว สำหรับคนที่ผิวแห้งควรใช้สกินแคร์บำรุงผิวหน้าก่อนแต่งหน้าเสมอ เพราะเมื่อเวลาผ่านไปอาจทำให้เครื่องสำอางบริเวณนั้นลอกเป็นคราบ ทางที่ดีก่อนนอนคืนนั้นควรใช้มาสก์หน้าเพื่อให้การแต่งหน้าออกมามีประสิทธิภาพมากขึ้นและการใช้สกินแคร์ยังช่วยแก้ปัญหาผิวในด้านอื่นๆอีกด้วย


4.ลงครีมกันแดด ไอเท็มหลักที่ขาดไม่ได้สำหรับปัจจุบันคือครีมกันแดด โดยสามารถใช้ได้ทั้งการทาหน้าและทาตัว ควรเลือกให้เหมาะกับสภาพผิวและควรมีค่าSPF 30 ขึ้นไป


5.ใช้คอนซิลเลอร์ปกปิดริ้วรอย จากนั้นให้ทารองพื้นที่เข้ากับสภาพผิวหน้าและลงรายละเอียดงานผิวด้วยแป้งคุมมัน ต่อด้วยการเก็บรายละเอียดอื่นๆของใบหน้าเช่นคิ้ว แก้ม ปากให้การแต่งหน้าดูสมบูรณ์มากขึ้น