วิธีการทำงาน
ติดต่อเรา
ติดต่อเราโดยตรงผ่าน LINE OA เพื่อจองบริการที่คุณต้องการ
แจ้งรายละเอียดให้เราทราบ
เลือกบริการ วันที่ เวลา และสถานที่ที่คุณต้องการให้ตรงกับความต้องการของคุณ
ยืนยันการจองของคุณ
เราจะยืนยันการจองของคุณภายใน 24 ชั่วโมงผ่านทาง LINE OA

ข้อมูลสถิติน่าสนใจเกี่ยวกับ
รีวิวล่าสุด
คำถามที่พบบ่อยสำหรับการค้นหา ดูแลผู้สูงอายุ
2. การฝึกอบรมเพื่อให้มีทักษะในการดูแลผู้สูงอายุ และมีความรู้ความสามารถในการดูแลผู้สูงอายุให้ถูกวิธี เพื่อให้เกิดความปลอดภัย
3. อุปนิสัย ผู้ดูแลผู้สูงอายุต้องมีใจรักในงานบริการ มีบุคลิกชอบช่วยเหลือผู้อื่น มีความจริงใจ มีความรัก ความสงสาร ความเห็นอกเห็นใจ ปรารถนาดีต่อผู้สูงอายุ เข้าใจและรับฟังเรื่องราวของผู้สูงอายุ เพราะสิ่งเหล่านี้มีผลต่อการดูแลผู้สูงอายุให้มีความสุข
4. รู้จักผิดชอบชั่วดี ต้องรู้จักแยกแยะว่าสิ่งใดควรทำ สิ่งใดไม่ควรทำและเข้าใจในเหตุผลของความถูกต้องดีงาม (moral reasoning)
5. อายุที่เหมาะสม หลายคนอาจมองข้ามเรื่องของช่วงอายุไป แต่ต้องเข้าใจว่าช่วงอายุมีผลต่อวุฒิภาวะ ถ้าเด็กมากเกินไปก็อาจจะมีความอดทนที่ต่ำเพราะประสบการณ์การในชีวิตยังน้อย หรือถ้าอายุมากเกินไปก็ทำให้ความคล่องตัวในการดูแลผู้สูงวัยอาจจะมีน้อยลง
6. ประสบการณ์นั้นถือว่าเป็นสิ่งที่สำคัญ เพราะบ่งบอกว่าคนคนนั้นเคยผ่านงานดูแลผู้สูงวัยมาก่อน ทำให้เข้าใจเนื้องานได้อย่างรวดเร็ว เข้าใจรายละเอียดของการดูแลผู้สูงอายุ ซึ่งโดยรวมแล้วผู้ที่ดูแลผู้สูงอายุจำเป็นต้องมีใจรักในงานเป็นพิเศษ ต้องใช้ความอดทนและใช้ความรู้ความสามารถที่มีให้เกิดประโยชน์สูงสุด เพื่อให้สามารถดูแลได้ถูกวิธีและถูกใจกันทุกฝ่ายอีกด้วย
7. เป็นผู้ประสานงานและเชื่อมโยงระหว่างบุตรหลานและญาติมิตรกับผู้สูงอายุ เมื่อได้รับความไว้วางใจให้มาดูแลผู้สูงอายุแล้ว ผู้ดูแลต้องสามารถสื่อสารส่งต่อข้อมูลที่จะช่วยให้ทำงานได้ดีและเข้าใจผู้สูงอายุมากขึ้น
1. ตรวจสอบประวัติย้อนหลังของผู้ดูแลผู้สูงอายุที่ทำการว่าจ้างมา เพื่อให้แน่ใจว่าคนดูแลที่จ้างมานั้นไม่เคยมีประวัติการกระทำที่ผิดกฎหมายมาก่อน โดยสามารถตรวจสอบประวัติอาชญากรรมกับกองทะเบียนประวัติอาชญากรได้ที่ http://www.criminal.police.go.th/
2. สอบถามประวัติการทำงานต่าง ๆ ที่ผ่านมา โดยอาจสอบถามจากผู้ว่าจ้างโดยตรงว่าเคยดูแลผู้สูงอายุมาอย่างไรบ้าง มีประสบการณ์มากน้อยแค่ไหนในการดูแลผู้สูงอายุ ไม่ว่าจะเป็นผู้สูงอายุที่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ หรือผู้สูงอายุที่เป็นผู้ป่วยติดเตียง ขณะเดียวกันก็สามารถสอบถามจากผู้ว่าจ้างที่เคยทำการจ้างก่อนหน้านี้ได้เช่นเดียวกัน
3. ฝากฝังทางเพื่อนบ้านให้ช่วยสอดส่องดูแลอีกทีหนึ่ง ซึ่งเพื่อนบ้านจะสามารถติดต่อหาเราได้ทันทีหากมีสถานการณ์ฉุกเฉินเกิดขึ้น
4. หากว่าจ้างคนดูแลผู้สูงอายุโดยหาจากสื่อออนไลน์ต่าง ๆ ควรศึกษาคำวิจารณ์หรือรีวิวจากผู้ใช้ก่อนหน้าว่ามีความคิดเห็นต่อการบริการอย่างไร เพื่อให้มั่นใจว่าคนดูแลที่จ้างมานั้นน่าเชื่อถือและเป็นคนมีความเป็นมืออาชีพจริง ๆ
5. การติดตั้งกล้องวงจรปิดบริเวณบ้านช่วยให้สามารถตรวจสอบความเคลื่อนไหวได้ตลอดเวลา ถือเป็นการป้องกันความปลอดภัยที่ดีอย่างหนึ่งเช่นกัน
1. ทำสัญญาจ้างเป็นลายลักษณ์อักษร โดยสิ่งที่ควรระบุอยู่ในสัญญาอย่างชัดเจนได้แก่ ระยะเวลาการดูแล วันที่เท่าไหร่ถึงเท่าไหร่ ชั่วโมงการทำงาน จำนวนค่าจ้าง รวมไปถึงสวัสดิการและวันหยุดที่ผู้ดูแลควรได้รับตามกฎหมายแรงงาน โดยที่ทั้งสองฝ่ายต้องเซ็นยินยอมเพื่อเป็นการรับรู้ต่อสัญญาและข้อกำหนดที่ได้ตกลงกันไว้
2. ผู้ว่าจ้างควรอธิบายข้อมูลส่วนตัวของผู้สูงอายุให้กับผู้ดูแลอย่างละเอียดถี่ถ้วน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอุปนิสัย ความชอบส่วนตัว อาหารที่กินได้และไม่ได้ ที่สำคัญหากผู้สูงอายุมีโรคประจำตัว ผู้ว่าจ้างควรบอกให้ผู้ดูแลรับรู้ก่อนเพื่อให้ผู้ดูแลสามารถรับมือกับสถานการณ์ฉุกเฉินได้
3. อธิบายขอบเขตและวิธีการทำงานให้กับผู้ดูแลอย่างชัดเจน สิ่งใดที่ทำได้และไม่ได้ เพื่อเป็นการป้องกันขั้นเบื้องต้น
4. ข้อตกลงเรื่องที่อยู่อาศัย หากผู้ว่าจ้างต้องการให้ผู้ดูแลอาศัยอยู่ที่บ้านตลอดช่วงระยะการดูแลผู้สูงอายุ ควรจัดเตรียมที่พักอาศัยให้กับผู้ดูแล รวมไปถึงแจกแจงเรื่องกฎในการใช้สิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ภายในบ้านตลอดช่วงระยะเวลาเช่นกัน
5. ใส่ใจในเรื่องของสุขอนามัยของผู้ดูแลที่ทำการว่าจ้างมา หากผู้ดูแลมีอาการป่วยกะทันหัน ผู้ว่าจ้างควรออกค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล ซึ่งถือว่าเป็นอีกหนึ่งสวัสดิการที่ผู้ดูแลควรได้รับ และควรให้ผู้ดูแลลางานได้ทันที เพื่อเป็นการช่วยลดความเสี่ยงในการแพร่เชื้อต่อผู้สูงอายุภายในบ้าน
การทำข้อตกลงในการว่าจ้างนั้นนอกจากจะเป็นการช่วยให้ทำความเข้าใจอย่างชัดเจนแล้ว ยังช่วยสร้างความสบายใจให้กับทั้งสองฝ่ายได้อีกด้วย
ข้อมูลที่น่าสนใจเกี่ยวกับภูเก็ต
ภูเก็ต ไข่มุกแห่งอันดามัน
เกาะภูเก็ต เกาะเดียวในประเทศไทยที่เป็นจังหวัด ในจินตนาการของนักท่องเที่ยวไม่ว่าจะเป็นชาวไทยหรือชาวต่างชาติ ภูเก็ต คือ สถานที่ท่องเที่ยวที่มีทุกสิ่งที่ต้องการ ไม่ว่าจะเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติโดยเฉพาะทะเล ภูเก็ตมีชายหาดมากกว่า 30 หาด แถมยังมีแหล่งช้อปปิ้งและอาหารอร่อยๆ อีกมากมาย
เสน่ห์ของภูเก็ต ที่โดดเด่นที่สุดก็คือ ชายหาดที่สวยงาม ทรายละเอียด น้ำใส ใครมาเที่ยวที่นี่จะต้องติดใจและกลับมาอีก แถมยังมีกิจกรรมสนุกๆให้ได้เพลิดเพลิน ไม่ว่าจะเป็น การดำน้ำดูปะการัง, พายเรือคายัค, เล่น Surf Board, Paddle Board หรือแม้แต่กิจกรรมทั่วไปที่แสนจะธรรมดา เช่น ว่ายน้ำ นั่งเล่นริมหาด ชมพระอาทิตย์ตก ก็ชวนให้ผ่อนคลายและดื่มด่ำกับบรรยากาศของภูเก็ต
จากที่กล่าวมาข้างต้น ว่า จังหวัดภูเก็ต มีหาดมากมายหลายที่ โดยแต่ละหาดก็มีเอกลักษณ์ที่แตกต่างกันออกไป ตัวอย่างเช่น หาดกะตะน้อย ซึ่งเป็นหาดเล็กๆ ที่มีความสงบและความเป็นส่วนตัว หากใครความเงียบสงบและผู้คนไม่พลุกพล่านก็แนะนำให้ไปที่หาดนี้
อีกหาดหนึ่งซึ่งไม่ไกลจากหาดกะตะน้อย นั่นก็คือ หาดกะตะ หาดนี้จะมีผู้คนเป็นจำนวนมาก เนื่องจากหาดเหมาะสำหรับการทำกิจกรรม เช่น การเล่นเซิร์ฟ หรือ การเล่น Paddle Board ที่กำลังเป็นที่นิยมนั่นเอง
นอกจากกิจกรรมเกี่ยวกับทะเล จังหวัดภูเก็ต ยังมีกิจกรรมอื่นๆ ให้นักท่องเที่ยวได้เลือกทำ ได้แก่ ทัวร์ขี่ช้าง, เที่ยวฟาร์มงู, ดูโชว์ที่ภูเก็ตแฟนตาซี หรือแม้แต่การช้อปปิ้ง ภูเก็ตก็ยังมีห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่อยู่ในตัวเมืองและหาดป่าตอง เรียกได้ว่ามาภูเก็ตเที่ยวได้ครบจบในที่เดียว
เตรียมตัวเที่ยวในภูเก็ต เดินทางได้อย่างไรบ้าง
ภูเก็ต จังหวัดที่ติดอันดับจังหวัดน่าเที่ยวอันดับต้นๆ ของประเทศไทย ก่อนจะมาเที่ยวที่นี่ ก็ต้องเตรียมตัวในการเดินทาง จะต้องเตรียมงบมาเท่าไหร่และเดินทางภายในจังหวัดภูเก็ตยังไง มาดูกัน
- รถสองแถว รถสองแถวของจังหวัดภูเก็ตส่วนมากจะมีสีฟ้าเหลือง โดยจะเริ่มเส้นทางรอบเกาะตั้งแต่ 6 โมงเช้า หากต้องการประหยัดค่าใช้จ่ายแนะนำให้เดินทางโดยรถสองแถว แต่ปัญหาที่พบบ่อยคือ การเดินทางด้วยรถสองแถวจะใช้เวลานานกว่ารถประเภทอื่นเพราะต้องแวะรับส่งผู้โดยสารตลอดเส้นทาง หากผู้โดยสารต้องการขึ้นรถก็สามารถโบกรถหรือรอตามจุดที่รถแวะจอด และหากต้องการลงจากรถก็สามารถกดกริ่งแจ้งคนขับรถได้
- รถตุ๊กตุ๊ก รถตุ๊กตุ๊กของจังหวัดภูเก็ตจะมีลักษณะแตกต่างจากรถตุ๊กตุ๊กของกรุงเทพฯ เพราะรถตุ๊กตุ๊กที่กรุงเทพจะมีสามล้อ แต่รถตุ๊กตุ๊กของภูเก็ตจะมีสี่ล้อ ภายในรถสามารถนั่งได้สูงสุด 4-5 คนไม่รวมคนขับรถ สามารถเดินทางได้ทั้งระยะใกล้หรือระยะไกลโดยสามารถต่อรองราคากับคนขับรถได้โดยตรง
- รถมอเตอร์ไซค์รับจ้าง จะมีอยู่ทั่วไปตามสถานที่ต่างๆ โดยเฉพาะสถานีขนส่งหรือจุดรับส่งคนตามท่าเรือ หากเดินทางคนเดียว ใช้วิธีนี้นอกจากจะประหยัดค่าใช้จ่ายแล้ว ยังสะดวก รวดเร็ว ไม่ต้องทนกับสภาวะรถติด ในส่วนของราคาก็สามารถตกลงกับคนขับได้เช่นกัน
- รถแท็กซี่มิเตอร์ สำหรับรถแท็กซี่เพิ่งมีบริการในจังหวัดภูเก็ตได้ไม่นาน แต่หากต้องการใช้บริการแท็กซี่มิเตอร์ที่นี่ ควรคุยกับคนขับให้เรียบร้อยก่อนว่าต้องจ่ายในราคาเหมาหรือจ่ายตามมิเตอร์
เมนูเด็ดมา ภูเก็ต ต้องกิน
จังหวัดภูเก็ต นอกจากจะมีเสียงในเรื่องสถานที่ท่องเที่ยวติดอันดับโลกแล้ว อาหารการกินก็ยังขึ้นชื่อด้วยเช่นกัน นักท่องเที่ยวที่มาที่นี่จะต้องลองชิม อาหารพื้นเมืองภูเก็ต เพราะถ้าไม่ได้ลองชิมก็เหมือนกับยังมาไม่ถึง ภูเก็ต นั่นเอง วันนี้เราจะมาแนะนำเมนูเด็ด ร้านดัง ให้ได้ตามไปชิมกัน
- ขนมเกี่ยมโก้ย ตลาดเกษตร ขนมเกี่ยมโก้ยเป็นขนมรูปถ้วย มีสีขาว ซึ่งทำจากแป้งข้าวเจ้า โรยหน้าด้วยหอมเจียว ต้นหอม กุ้งแห้งทอด ตัวแป้งมีรสชาติเค็มนิดๆ รับประทานกับน้ำจิ้มรสชาติเปรี้ยวอมหวาน โดยสามารถหาซื้อได้จากตลาดของจังหวัดภูเก็ต มีชื่อว่า ตลาดเกษตร จะมีให้เลือกมากมายหลายร้าน แต่ต้องมาในช่วงเช้าเท่านั้น นอกจากตลาดนี้จะมีของกินอร่อยๆแล้ว ยังจำหน่าย ผัก ผลไม้ ของสด และยังมีของอื่นๆ ตั้งขายอีกมากมายในช่วงเช้า
- โลบะ บางเหนียว โลบะ คือ หัวหมูและเครื่องในหมูนำมาทอด และยังมี เต้าหู้ทอด เกี้ยนทอดที่ขายคู่กัน รับประทานกับน้ำจิ้มสูตรเฉพาะของร้าน รับรองว่าอร่อยลงตัวมาก ยิ่งรับประทานร้อนๆ รสชาติจะอร่อยมากเป็นพิเศษ
- หมี่ฮกเกี้ยน ร้านหมี่ต้นโพธิ์ หากใครไม่เคยทานหมี่ฮกเกี้ยนจะไม่ทราบว่า หมี่ฮกเกี้ยน คือ เส้นหมี่เหลืองที่นำมาผัดกับหมู ไก่ ผักกวางตุ้ง แล้วทานกับผักกาดหอม กุ้ยช่าย หัวหอมแดง โดยร้านนี้เปิดมาเป็นระยะเวลายาวนานมากกว่า 70 ปี
- โอวต้าว บางเหนียว มีลักษณะคล้ายหอยทอด โดยนำแป้งลงไปผัดใส่เผือกต้มสุกหั่นเป็นลูกเต๋าและใส่หอย โรยแคปหมู แล้วทานคู่กับถั่วงอกดิบ ร้านนี้จะเปิดช่วงเย็นและอาจจะต้องรอคิวนาน
SAIJAI "ใส่ใจ" เป็นเพียงแพลตฟอร์มที่ใช้สำหรับติดต่อสื่อสารระหว่างผู้ใช้บริการกับผู้ให้บริการดูแลเด็ก ดูแลผู้สูงอายุ ครูสอนพิเศษ/ติวเตอร์ แม่บ้าน/ทำความสะอาด คนขับรถ ดูแลสัตว์เลี้ยง เสริมสวย และช่างซ่อมบำรุงเท่านั้น "SAIJAI" ไม่ได้เป็นผู้ให้บริการหรือจ้างบุคคลใดให้บริการ ไม่มีสถานะเป็นนายจ้าง ผู้ว่าจ้าง ตัวแทน ผู้ร่วมทุน อย่างหนึ่งอย่างใดทั้งสิ้นของผู้ให้บริการ ผู้ให้บริการเป็นผู้รับจ้างอิสระ ซึ่งผู้รับบริการเป็นผู้ว่าจ้าง คุณภาพการให้บริการเป็นความรับผิดชอบทั้งสิ้นของผู้ให้บริการเอง การเรียกใช้บริการจากผู้ให้บริการ อาจมีความเสี่ยง ซึ่งผู้รับบริการรับทราบและยินดีใช้บริการ บนความเสี่ยงใด ๆ ในความรับผิดชอบของตัวท่านเอง