ดูแลผู้สูงอายุ ใน ภูเก็ต

ดูแลผู้สูงอายุ ใน ภูเก็ต

คุณต้องการใช้บริการนี้เมื่อไหร่?
ตอนนี้
ระบุวันที่
ผู้ให้บริการดูแลผู้สูงอายุ ใน ภูเก็ต:

วิธีการทำงาน

Saijai

ติดต่อเรา

ติดต่อเราโดยตรงผ่าน LINE OA เพื่อจองบริการที่คุณต้องการ

Saijai

แจ้งรายละเอียดให้เราทราบ

เลือกบริการ วันที่ เวลา และสถานที่ที่คุณต้องการให้ตรงกับความต้องการของคุณ

Saijai

ยืนยันการจองของคุณ

เราจะยืนยันการจองของคุณภายใน 24 ชั่วโมงผ่านทาง LINE OA

สุนีย์ อ่อนภักดี
สุนีย์ อ่อนภักดี
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี

อายุ 46 ปี สุง156 ซ.ม หนัก 56 ก.ก ประวัติการทำงาน มีประสบการณ์ดูแลผู้ป่วย 6 ปี ฟิตซักชั่น กายภาพ ล้วงอึ สวนฉี่ เจาะเบาหวาน ฉีดยาเบาหวาน ทำแผลกดทับ วัดความดัน ไม่กินเหล้า ไม่สูบบุหรี่ รับวัคซีนครบสามเข็มแล้วค่ะ

แสดงเพิ่มเติม
Supaporn Tohiso
Supaporn Tohiso
Saijai ประสบการณ์ 3-4 ปี

I can speak, read and write English. I have more than 10 years experience

แสดงเพิ่มเติม
จิรัชยา  ประสารการ
จิรัชยา ประสารการ

รับงานดูแลผู้สูงอายุค่ะ มีประการณ์ด้านนี้มามากกว่า 10 ปี ผุ้ป่วยอัลไซเมอ พากินสัน ช่วยประคอง ดูแลผู้ป่วยติดเตียง รับอยู่เป็นเพือน

แสดงเพิ่มเติม
กนกกาญจน์  กาละ
กนกกาญจน์ กาละ
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี

มีประสบการณ์ที่โรงพยาบาลสิริโรจน์ ภูเก็ต 1 ปี ตำแหน่งผู้ช่วยเหลือคนไข้ และที่โรงพยาบาลกรุงเทพ 9 ปีตำแหน่ง PN

แสดงเพิ่มเติม
เจนจิรา  ชูเกิด
เจนจิรา ชูเกิด
Saijai ประสบการณ์ 1-2 ปี

สามารถทำอาหารได้ทำอาหารเป็นปั่นได้ฟิตอาหารเป็นแซ็กชั่นได้

แสดงเพิ่มเติม
เกศรินทร์ ทองสง
เกศรินทร์ ทองสง
Saijai ประสบการณ์ 1-2 ปี

จบ Na ด้านดูเเลผู้สูงอายุเเละเด็ก ประสบการณ์ทำงาน ด้านผู้ช่วยแพทย์ศัลยกรรม มา 4ปี เข้าเคสผ่าตัด นวดหน้า สปาหน้า ปลูกผม ด้านดูแลผู้สูงอายุ 2 ปี ด้านดูเเลเด็ก เนอสเซอรรี่ 1 ปี

แสดงเพิ่มเติม
ยุพาพร จันทศรี
ยุพาพร จันทศรี
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี

ทำงานด้านนี้มามากกว่า5+++เคสธรรมดา+ติดเตียง+กายภาพเบื้องตนขับรถยนต์พาผู่ป่วยหาหมอ+เที่ยว

แสดงเพิ่มเติม
อติมา  สเล่ราษ
อติมา สเล่ราษ
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี

อายุ 30 ปีค่ะ ปัจจุบันทำงานเป็นผู้ช่วยพยาบาลค่ะ สามารถดูแลผู้ป่วย ผู้สูงอายุได้ เป็นคนใจเย็น พูดเพราะ สุขภาพแข็งแรงดีค่ะ

แสดงเพิ่มเติม
ระวีวรรณ เด็นหมิน
ระวีวรรณ เด็นหมิน
Saijai ประสบการณ์ 0-1 ปี
Saijai อายุ 53 ปี

เป็นคนมี service mind และมีความเข้าใจผู้อื่นสูง

แสดงเพิ่มเติม

ข้อมูลสถิติน่าสนใจเกี่ยวกับ

Saijai จำนวนประชากร
Saijai จำนวนประชากรเด็ก (แรกเกิด-14 ปี)
Saijai จำนวนประชากรสูงอายุ (60 ปี ขึ้นไป)
Saijai จำนวนสัตว์เลี้ยง สุนัข

รีวิวล่าสุด

เจอเว็บใส่ใจ เข้าไปเลือกคนดูแล เอารูปกับประวัติมานั่งคุยกับคุณย่า เลยได้ป้ากิ๊กมาดูแล ป้ากิ๊กดูแลดีมาก คุณย่ามีความสุข ในเว็บใส่ใจบอกข้อมูลครบเลยทั้งประวัติการทำงาน และประวัติการศึกษา
Saijai
กฤษณ์ ชัยเขตุสานุวัฒน์
4 ปีที่แล้ว
ประทับใจในการให้บริการมาก ๆ ค่ะ
Saijai
สุดาพร มณีทอง
4 ปีที่แล้ว
สะดวก ง่าย เพียงไม่กี่ขั้นตอนเราก็สามารถหาคนดูแลผู้สูงอายุได้ อีกอย่างในเว็บไซต์มีข้อมูลต่าง ๆ ที่ให้เราได้ศึกษาก่อนทำการจ้างอีกด้วย พอได้อ่านข้อมูลทำให้เราได้รู้วิธีการเตรียมตัวก่อนจ้างคนดูแลมาดูแลคุณแม่ เป็นข้อแนะนำที่ดีมาก ๆเลยค่ะ ประทับใจมาก ๆ ค่ะ
Saijai
วิกานดา ทองดี
4 ปีที่แล้ว
ได้คนดูแลดี ผมก็หายห่วงครับ จะใช้บริการบ่อย ๆ
Saijai
สุชาดา เอี่ยมจินดา
4 ปีที่แล้ว
ย้ายตามสามีมาอยู่กรุงเทพ แล้วยังต้องดูแลแม่สามีที่สูงอายุ และมีโรคประจำตัวด้วย ตอนแรก ๆ ลำบากมาก เพราะต้องวุ่นวายเรื่องย้ายงานและหาคนดูแลผู้สูงอายุอีก จนมาเจอเว็บไซต์ใส่ใจ โชคดีมาก ๆ เลยค่ะ นอกจากจะได้คนดูแลผู้สูงอายุที่ราคาไม่แพงมากแล้ว ยังได้คนมีประสบการณ์ ไว้ใจได้ ทำงานคล่องแถมมาช่วยทำงานบ้านอีก ตัดสินใจไม่ผิดจริง ๆ ค่ะ
Saijai
ณฐาสัณห์ ถาวร
4 ปีที่แล้ว

คำถามที่พบบ่อยสำหรับการค้นหา ดูแลผู้สูงอายุ

จ้างคนดูแลคนชราที่บ้านดีกว่าส่งไปบ้านพักคนชราอย่างไร?
ผู้สูงอายุเป็นกลุ่มคนที่มีความสำคัญต่อเรา ไม่ว่าจะเป็น พ่อ แม่ ปู่ ย่า ตา ยาย คือผู้ที่เป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวเรานั่นเอง ครั้นเมื่อท่านทั้งหลายอายุมากขึ้นหน้าที่ของคนเป็นลูกเป็นหลานต้องคอยดูแลท่านให้ดีที่สุด หากเป็นไปได้คงไม่มีใครที่อยากให้ผู้สูงอายุที่เรารักต้องไปอยู่บ้านพักคนชราและอยู่ห่างไกลจากครอบครัวอย่างแน่นอน

แต่หากเราอยู่ดูแลท่านเองไม่ได้ เนื่องจากต้องทำงานหรือมีภาระอื่นๆ ที่ต้องรับผิดชอบ ควรจ้างคนมาดูแลที่บ้าน เพื่อความสะดวกของเราเองและความปลอดภัยของผู้สูงอายุที่ต้องการการดูแลโดยเฉพาะ อย่างที่ทราบกันมานานสังคมไทยมีแนวคิดในแบบระบบครอบครัวใหญ่ โดยจะช่วยดูแลกันและกัน ซึ่งอาจแตกต่างจากสังคมของชาวตะวันตก ที่ส่วนมากมักมีค่านิยมให้ผู้สูงอายุไปอยู่บ้านพักคนชราในช่วงบั้นปลายชีวิต เพราะคิดว่าสะดวกสบายกว่า และผู้สูงอายุจะได้มีเพื่อนในสังคมวัยเดียวกัน แต่คนไทยโดยส่วนมากไม่คิดแบบนั้น ดังนั้นในครอบครัวของคนไทยจึงต้องการคนดูแลผู้สูงอายุที่มีความรู้ ความสามารถ อีกทั้งต้องไว้ใจให้ช่วยดูแลญาติผู้ใหญ่ของเราที่บ้านได้

ข้อดีของการมีคนดูแลผู้สูงอายุที่บ้าน

หลักๆ ก็คือ เราสามารถอยู่ใกล้ชิดกับคนที่เรารัก ทั้งยังปลอดภัยมากกว่าเพราะยังอยู่ในสายตาของเราได้ตลอด แตกต่างกับการส่งไปอยู่ที่ศูนย์ดูแลคนชรา ซึ่งอาจจะอยู่ห่างไกล ต้องใช้เวลาเดินทางไปหา โดยเราสามารถเลือกบริการของคนที่จะมาดูแลแบบไปเช้า เย็นกลับ หรือคอยดูแล 24 ชั่วโมงสำหรับผู้สูงอายุที่ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้และต้องการคนดูแลอย่างใกล้ชิด ซึ่งราคาก็จะแตกต่างกันไป โดยส่วนมากแล้วทางบริษัทที่จัดหาคนดูแลผู้สูงอายุจะมีการคัดเลือกบุคลากรที่มีคุณภาพและมีความรู้ในด้านนี้โดยเฉพาะ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าและลดความกังวลของผู้ใช้บริการได้เป็นอย่างดี
ทักษะสำคัญที่ผู้ดูแลผู้สูงอายุควรมี
การที่เราจะเลือกใครสักคนมาดูแลผู้สูงอายุในบ้านของเรา แน่นอนว่าต้องมีปัจจัยและคุณสมบัติหลายอย่างในการตัดสินที่จะรับบุคคลภายนอกเข้ามาอยู่ใกล้ชิดกับคนในครอบครัวของเราทั้งในช่วงเวลาที่เราอยู่หรือไม่อยู่บ้านก็ตาม คุณสมบัติที่คนส่วนใหญ่คาดหวังสำหรับคนดูแลผู้สูงอายุ มีดังต่อไปนี้

1. เป็นผู้ที่บรรลุนิติภาวะ คืออายุ 18 ปีขึ้นไป สามารถคิดและตัดสินใจได้อย่างมีเหตุผล มีวุฒิภาวะที่ดี
2. เนื่องจากการดูแลผู้สูงอายุเป็นเรื่องละเอียดอ่อน คนดูแลผู้สูงอายุจึงควรเป็นคนที่มีความรู้ทั้งในเรื่องจิตวิทยา และด้านโภชนาการอาหาร รวมทั้งความสะอาดทั่วไปด้วย แม้ว่าการจ้างคนดูแลผู้สูงอายุที่มีความรู้อาจจะต้องมีค่าใช้จ่ายเยอะกว่าการจ้างคนทั่วไป แต่ก็ถือว่าคุ้มค่า เพราะหากผู้สูงอายุได้รับการดูแลที่ไม่ดี คนดูแลขาดความรู้แล้ว อาจส่งผลต่อสุขภาพทั้งร่างกายและจิตใจอีกด้วย
3. มีความน่าไว้วางใจ เมื่อจ้างคนดูแลผู้สูงอายุเข้ามาอยู่ในบ้าน อาจจะต้องรับรู้ในส่วนของที่เก็บของต่างๆ รู้ตารางชีวิตประจำวันของคนในครอบครัว คนดูแลผู้สูงอายุจึงต้องเป็นคนที่ไว้ใจได้ มีประวัติที่ดี และมีทัศนคติที่ดี
4. มีความอดทน เนื่องจากการดูแลผู้สูงอายุไม่ใช่เรื่องง่ายๆ บางครั้งอาจจะต้องดูแลทั้งร่างกายและจิตใจของผู้สูงอายุอีกด้วย โดยเฉพาะหากเป็นผู้สูงอายุที่มีอาการป่วยหรือโรคประจำตัว ก็จะมีความยุ่งยากและซับซ้อนมากขึ้นไปอีก
5. ควรจบหลักสูตรผู้ช่วยการพยาบาล หรือสาขาที่เกี่ยวข้องและหากมีประสบการณ์มักจะได้รับการพิจารณาเป็นพิเศษ แต่หากไม่จบหลักสูตรดังกล่าว แต่มีประสบการณ์ในการดูแลผู้สูงอายุมาก่อน ก็จะได้รับการพิจารณาเช่นกัน
6. มีความซื่อสัตย์สุจริต เนื่องจากในบางครั้งอาจจะต้องอยู่กับผู้สูงอายุเพียงลำพัง
7. มีความขยันและสามารถช่วยเหลืองานอย่างอื่นได้ตามความเหมาะสม
ควรทำอย่างไรเพื่อคลายความกังวลเมื่อคุณต้องปล่อยให้ผู้สูงอายุอยู่ตามลำพังกับผู้ดูแล
เมื่อเราได้พิจารณาคุณสมบัติและตัดสินใจจ้างผู้ดูแลมาดูแลผู้สูงอายุที่บ้านของเราแล้ว เราอาจจะมีความกังวลด้านอื่นๆ ตามมา ไม่ว่าจะเป็นควรจะเป็นผู้ดูแลชั่วคราวแบบไป-กลับ หรือผู้ดูแลแบบที่อยู่ด้วยกันตลอด 24 ชั่วโมง เพราะการที่ต้องให้บุคคลภายนอกซึ่งเป็นคนแปลกหน้าเข้ามาอยู่ภายในบ้านของเรา ในระยะแรกอาจจะต้องมีการปรับตัวในการอยู่ร่วมกัน หากว่าเราอยู่ที่บ้านตลอดก็อาจช่วยลดความกังวลในด้านความปลอดภัยลงไปได้ แต่ถ้าสมาชิกในบ้านต้องออกไปทำงานนอกบ้านและต้องทิ้งผู้สูงอายุไว้เพียงลำพังกับผู้ดูแล ความกังวลย่อมเพิ่มมากขึ้นทั้งกับคนที่เรารักและทรัพย์สินมีค่าภายในบ้าน แนวทางที่ช่วยลดความกังวลของผู้ว่าจ้างจากที่ได้กล่าวมาข้างต้น ได้แก่

1. ตรวจสอบประวัติอาชญากรรมของคนดูแลผู้สูงอายุ โดยสามารถร้องขอให้ผู้ดูแลผู้สูงอายุทำการตรวจสอบประวัติอาชญากรรมกับกองทะเบียนประวัติอาชญากรได้ที่ http://www.criminal.police.go.th/
2. ตรวจสอบประวัติการทำงานกับนายจ้างคนเก่า ในกรณีที่ผู้ดูแลผู้สูงอายุเคยผ่านประสบการณ์การทำงานมาก่อน
3. หากเป็นผู้ดูแลที่มาจากบริษัท ทางบริษัทควรจะมีการส่งตัวแทนจากบริษัทเข้ามาเยี่ยมและตรวจสอบการทำงานของผู้ดูแลเป็นระยะๆ
4. คนในครอบครัวหมั่นตรวจตราและสอดส่องการทำงานของผู้ดูแลคนสูงอายุอยู่ตลอดเวลาในระยะแรกๆของการทำงาน
5. หากมีเพื่อนบ้านที่ไว้ใจได้ สามารถฝากให้เพื่อนบ้านช่วยสอดส่องดูแลขณะที่ผู้ดูแลอยู่ลำพังกับผู้สูงอายุ
6. ปัจจุบัน ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย ไม่ใช่เรื่องยากที่เราจะทำการติดตั้งกล้องวงจรปิดไว้ตามจุดต่างๆ ภายในบ้าน เพื่อตรวจสอบความเคลื่อนไหวภายในบ้านได้ตลอด 24 ชม.
ข้อตกลงที่สำคัญในการดูแลผู้สูงอายุมีอะไรบ้าง
เมื่อตัดสินใจจ้างคนดูแลผู้สูงอายุแล้ว ควรทำข้อตกลงสำคัญระหว่างผู้ว่าจ้างและผู้ดูแลที่คุณทำการได้จ้างมา เพื่อเป็นการรับประกันความปลอดภัยให้กับผู้สูงอายุตลอดระยะเวลาการดูแล ซึ่งข้อตกลงที่จำเป็นต้องทำความเข้าใจระหว่างสองฝ่ายมีดังนี้

1. ทำสัญญาจ้างเป็นลายลักษณ์อักษร โดยสิ่งที่ควรระบุอยู่ในสัญญาอย่างชัดเจนได้แก่ ระยะเวลาการดูแล วันที่เท่าไหร่ถึงเท่าไหร่ ชั่วโมงการทำงาน จำนวนค่าจ้าง รวมไปถึงสวัสดิการและวันหยุดที่ผู้ดูแลควรได้รับตามกฎหมายแรงงาน โดยที่ทั้งสองฝ่ายต้องเซ็นยินยอมเพื่อเป็นการรับรู้ต่อสัญญาและข้อกำหนดที่ได้ตกลงกันไว้
2. ผู้ว่าจ้างควรอธิบายข้อมูลส่วนตัวของผู้สูงอายุให้กับผู้ดูแลอย่างละเอียดถี่ถ้วน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอุปนิสัย ความชอบส่วนตัว อาหารที่กินได้และไม่ได้ ที่สำคัญหากผู้สูงอายุมีโรคประจำตัว ผู้ว่าจ้างควรบอกให้ผู้ดูแลรับรู้ก่อนเพื่อให้ผู้ดูแลสามารถรับมือกับสถานการณ์ฉุกเฉินได้
3. อธิบายขอบเขตและวิธีการทำงานให้กับผู้ดูแลอย่างชัดเจน สิ่งใดที่ทำได้และไม่ได้ เพื่อเป็นการป้องกันขั้นเบื้องต้น
4. ข้อตกลงเรื่องที่อยู่อาศัย หากผู้ว่าจ้างต้องการให้ผู้ดูแลอาศัยอยู่ที่บ้านตลอดช่วงระยะการดูแลผู้สูงอายุ ควรจัดเตรียมที่พักอาศัยให้กับผู้ดูแล รวมไปถึงแจกแจงเรื่องกฎในการใช้สิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ภายในบ้านตลอดช่วงระยะเวลาเช่นกัน
5. ใส่ใจในเรื่องของสุขอนามัยของผู้ดูแลที่ทำการว่าจ้างมา หากผู้ดูแลมีอาการป่วยกะทันหัน ผู้ว่าจ้างควรออกค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล ซึ่งถือว่าเป็นอีกหนึ่งสวัสดิการที่ผู้ดูแลควรได้รับ และควรให้ผู้ดูแลลางานได้ทันที เพื่อเป็นการช่วยลดความเสี่ยงในการแพร่เชื้อต่อผู้สูงอายุภายในบ้าน

การทำข้อตกลงในการว่าจ้างนั้นนอกจากจะเป็นการช่วยให้ทำความเข้าใจอย่างชัดเจนแล้ว ยังช่วยสร้างความสบายใจให้กับทั้งสองฝ่ายได้อีกด้วย

ข้อมูลที่น่าสนใจเกี่ยวกับภูเก็ต

ภูเก็ต ไข่มุกแห่งอันดามัน

เกาะภูเก็ต เกาะเดียวในประเทศไทยที่เป็นจังหวัด ในจินตนาการของนักท่องเที่ยวไม่ว่าจะเป็นชาวไทยหรือชาวต่างชาติ ภูเก็ต คือ สถานที่ท่องเที่ยวที่มีทุกสิ่งที่ต้องการ ไม่ว่าจะเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติโดยเฉพาะทะเล ภูเก็ตมีชายหาดมากกว่า 30 หาด แถมยังมีแหล่งช้อปปิ้งและอาหารอร่อยๆ อีกมากมาย

เสน่ห์ของภูเก็ต ที่โดดเด่นที่สุดก็คือ ชายหาดที่สวยงาม ทรายละเอียด น้ำใส ใครมาเที่ยวที่นี่จะต้องติดใจและกลับมาอีก แถมยังมีกิจกรรมสนุกๆให้ได้เพลิดเพลิน ไม่ว่าจะเป็น การดำน้ำดูปะการัง, พายเรือคายัค, เล่น Surf Board, Paddle Board หรือแม้แต่กิจกรรมทั่วไปที่แสนจะธรรมดา เช่น ว่ายน้ำ นั่งเล่นริมหาด ชมพระอาทิตย์ตก ก็ชวนให้ผ่อนคลายและดื่มด่ำกับบรรยากาศของภูเก็ต

จากที่กล่าวมาข้างต้น ว่า จังหวัดภูเก็ต มีหาดมากมายหลายที่ โดยแต่ละหาดก็มีเอกลักษณ์ที่แตกต่างกันออกไป ตัวอย่างเช่น หาดกะตะน้อย ซึ่งเป็นหาดเล็กๆ ที่มีความสงบและความเป็นส่วนตัว หากใครความเงียบสงบและผู้คนไม่พลุกพล่านก็แนะนำให้ไปที่หาดนี้

อีกหาดหนึ่งซึ่งไม่ไกลจากหาดกะตะน้อย นั่นก็คือ หาดกะตะ หาดนี้จะมีผู้คนเป็นจำนวนมาก เนื่องจากหาดเหมาะสำหรับการทำกิจกรรม เช่น การเล่นเซิร์ฟ หรือ การเล่น Paddle Board ที่กำลังเป็นที่นิยมนั่นเอง

นอกจากกิจกรรมเกี่ยวกับทะเล จังหวัดภูเก็ต ยังมีกิจกรรมอื่นๆ ให้นักท่องเที่ยวได้เลือกทำ ได้แก่ ทัวร์ขี่ช้าง, เที่ยวฟาร์มงู, ดูโชว์ที่ภูเก็ตแฟนตาซี หรือแม้แต่การช้อปปิ้ง ภูเก็ตก็ยังมีห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่อยู่ในตัวเมืองและหาดป่าตอง เรียกได้ว่ามาภูเก็ตเที่ยวได้ครบจบในที่เดียว



เตรียมตัวเที่ยวในภูเก็ต เดินทางได้อย่างไรบ้าง

ภูเก็ต จังหวัดที่ติดอันดับจังหวัดน่าเที่ยวอันดับต้นๆ ของประเทศไทย ก่อนจะมาเที่ยวที่นี่ ก็ต้องเตรียมตัวในการเดินทาง จะต้องเตรียมงบมาเท่าไหร่และเดินทางภายในจังหวัดภูเก็ตยังไง มาดูกัน

- รถสองแถว รถสองแถวของจังหวัดภูเก็ตส่วนมากจะมีสีฟ้าเหลือง โดยจะเริ่มเส้นทางรอบเกาะตั้งแต่ 6 โมงเช้า หากต้องการประหยัดค่าใช้จ่ายแนะนำให้เดินทางโดยรถสองแถว แต่ปัญหาที่พบบ่อยคือ การเดินทางด้วยรถสองแถวจะใช้เวลานานกว่ารถประเภทอื่นเพราะต้องแวะรับส่งผู้โดยสารตลอดเส้นทาง หากผู้โดยสารต้องการขึ้นรถก็สามารถโบกรถหรือรอตามจุดที่รถแวะจอด และหากต้องการลงจากรถก็สามารถกดกริ่งแจ้งคนขับรถได้

- รถตุ๊กตุ๊ก รถตุ๊กตุ๊กของจังหวัดภูเก็ตจะมีลักษณะแตกต่างจากรถตุ๊กตุ๊กของกรุงเทพฯ เพราะรถตุ๊กตุ๊กที่กรุงเทพจะมีสามล้อ แต่รถตุ๊กตุ๊กของภูเก็ตจะมีสี่ล้อ ภายในรถสามารถนั่งได้สูงสุด 4-5 คนไม่รวมคนขับรถ สามารถเดินทางได้ทั้งระยะใกล้หรือระยะไกลโดยสามารถต่อรองราคากับคนขับรถได้โดยตรง

- รถมอเตอร์ไซค์รับจ้าง จะมีอยู่ทั่วไปตามสถานที่ต่างๆ โดยเฉพาะสถานีขนส่งหรือจุดรับส่งคนตามท่าเรือ หากเดินทางคนเดียว ใช้วิธีนี้นอกจากจะประหยัดค่าใช้จ่ายแล้ว ยังสะดวก รวดเร็ว ไม่ต้องทนกับสภาวะรถติด ในส่วนของราคาก็สามารถตกลงกับคนขับได้เช่นกัน

- รถแท็กซี่มิเตอร์ สำหรับรถแท็กซี่เพิ่งมีบริการในจังหวัดภูเก็ตได้ไม่นาน แต่หากต้องการใช้บริการแท็กซี่มิเตอร์ที่นี่ ควรคุยกับคนขับให้เรียบร้อยก่อนว่าต้องจ่ายในราคาเหมาหรือจ่ายตามมิเตอร์



เมนูเด็ดมา ภูเก็ต ต้องกิน

จังหวัดภูเก็ต นอกจากจะมีเสียงในเรื่องสถานที่ท่องเที่ยวติดอันดับโลกแล้ว อาหารการกินก็ยังขึ้นชื่อด้วยเช่นกัน นักท่องเที่ยวที่มาที่นี่จะต้องลองชิม อาหารพื้นเมืองภูเก็ต เพราะถ้าไม่ได้ลองชิมก็เหมือนกับยังมาไม่ถึง ภูเก็ต นั่นเอง วันนี้เราจะมาแนะนำเมนูเด็ด ร้านดัง ให้ได้ตามไปชิมกัน

- ขนมเกี่ยมโก้ย ตลาดเกษตร ขนมเกี่ยมโก้ยเป็นขนมรูปถ้วย มีสีขาว ซึ่งทำจากแป้งข้าวเจ้า โรยหน้าด้วยหอมเจียว ต้นหอม กุ้งแห้งทอด ตัวแป้งมีรสชาติเค็มนิดๆ รับประทานกับน้ำจิ้มรสชาติเปรี้ยวอมหวาน โดยสามารถหาซื้อได้จากตลาดของจังหวัดภูเก็ต มีชื่อว่า ตลาดเกษตร จะมีให้เลือกมากมายหลายร้าน แต่ต้องมาในช่วงเช้าเท่านั้น นอกจากตลาดนี้จะมีของกินอร่อยๆแล้ว ยังจำหน่าย ผัก ผลไม้ ของสด และยังมีของอื่นๆ ตั้งขายอีกมากมายในช่วงเช้า

- โลบะ บางเหนียว โลบะ คือ หัวหมูและเครื่องในหมูนำมาทอด และยังมี เต้าหู้ทอด เกี้ยนทอดที่ขายคู่กัน รับประทานกับน้ำจิ้มสูตรเฉพาะของร้าน รับรองว่าอร่อยลงตัวมาก ยิ่งรับประทานร้อนๆ รสชาติจะอร่อยมากเป็นพิเศษ

- หมี่ฮกเกี้ยน ร้านหมี่ต้นโพธิ์ หากใครไม่เคยทานหมี่ฮกเกี้ยนจะไม่ทราบว่า หมี่ฮกเกี้ยน คือ เส้นหมี่เหลืองที่นำมาผัดกับหมู ไก่ ผักกวางตุ้ง แล้วทานกับผักกาดหอม กุ้ยช่าย หัวหอมแดง โดยร้านนี้เปิดมาเป็นระยะเวลายาวนานมากกว่า 70 ปี

- โอวต้าว บางเหนียว มีลักษณะคล้ายหอยทอด โดยนำแป้งลงไปผัดใส่เผือกต้มสุกหั่นเป็นลูกเต๋าและใส่หอย โรยแคปหมู แล้วทานคู่กับถั่วงอกดิบ ร้านนี้จะเปิดช่วงเย็นและอาจจะต้องรอคิวนาน