ดูแลผู้สูงอายุ ใน ถลาง, ภูเก็ต

ดูแลผู้สูงอายุ ใน ถลาง, ภูเก็ต

คุณต้องการใช้บริการนี้เมื่อไหร่?
ตอนนี้
ระบุวันที่

วิธีการทำงาน

Saijai

ติดต่อเรา

ติดต่อเราโดยตรงผ่าน LINE OA เพื่อจองบริการที่คุณต้องการ

Saijai

แจ้งรายละเอียดให้เราทราบ

เลือกบริการ วันที่ เวลา และสถานที่ที่คุณต้องการให้ตรงกับความต้องการของคุณ

Saijai

ยืนยันการจองของคุณ

เราจะยืนยันการจองของคุณภายใน 24 ชั่วโมงผ่านทาง LINE OA

กนกกาญจน์  กาละ
กนกกาญจน์ กาละ
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี

มีประสบการณ์ที่โรงพยาบาลสิริโรจน์ ภูเก็ต 1 ปี ตำแหน่งผู้ช่วยเหลือคนไข้ และที่โรงพยาบาลกรุงเทพ 9 ปีตำแหน่ง PN

แสดงเพิ่มเติม
อติมา  สเล่ราษ
อติมา สเล่ราษ
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี

อายุ 30 ปีค่ะ ปัจจุบันทำงานเป็นผู้ช่วยพยาบาลค่ะ สามารถดูแลผู้ป่วย ผู้สูงอายุได้ เป็นคนใจเย็น พูดเพราะ สุขภาพแข็งแรงดีค่ะ

แสดงเพิ่มเติม
Supaporn Tohiso
Supaporn Tohiso
Saijai ประสบการณ์ 3-4 ปี

I can speak, read and write English. I have more than 10 years experience

แสดงเพิ่มเติม
จิรัชยา  ประสารการ
จิรัชยา ประสารการ

รับงานดูแลผู้สูงอายุค่ะ มีประการณ์ด้านนี้มามากกว่า 10 ปี ผุ้ป่วยอัลไซเมอ พากินสัน ช่วยประคอง ดูแลผู้ป่วยติดเตียง รับอยู่เป็นเพือน

แสดงเพิ่มเติม
เจนจิรา  ชูเกิด
เจนจิรา ชูเกิด
Saijai ประสบการณ์ 1-2 ปี

สามารถทำอาหารได้ทำอาหารเป็นปั่นได้ฟิตอาหารเป็นแซ็กชั่นได้

แสดงเพิ่มเติม
เกศรินทร์ ทองสง
เกศรินทร์ ทองสง
Saijai ประสบการณ์ 1-2 ปี

จบ Na ด้านดูเเลผู้สูงอายุเเละเด็ก ประสบการณ์ทำงาน ด้านผู้ช่วยแพทย์ศัลยกรรม มา 4ปี เข้าเคสผ่าตัด นวดหน้า สปาหน้า ปลูกผม ด้านดูแลผู้สูงอายุ 2 ปี ด้านดูเเลเด็ก เนอสเซอรรี่ 1 ปี

แสดงเพิ่มเติม
สุนีย์ อ่อนภักดี
สุนีย์ อ่อนภักดี
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี

อายุ 46 ปี สุง156 ซ.ม หนัก 56 ก.ก ประวัติการทำงาน มีประสบการณ์ดูแลผู้ป่วย 6 ปี ฟิตซักชั่น กายภาพ ล้วงอึ สวนฉี่ เจาะเบาหวาน ฉีดยาเบาหวาน ทำแผลกดทับ วัดความดัน ไม่กินเหล้า ไม่สูบบุหรี่ รับวัคซีนครบสามเข็มแล้วค่ะ

แสดงเพิ่มเติม
ระวีวรรณ เด็นหมิน
ระวีวรรณ เด็นหมิน
Saijai ประสบการณ์ 0-1 ปี
Saijai อายุ 52 ปี

เป็นคนมี service mind และมีความเข้าใจผู้อื่นสูง

แสดงเพิ่มเติม

ข้อมูลสถิติน่าสนใจเกี่ยวกับ

Saijai จำนวนประชากร
Saijai จำนวนประชากรเด็ก (แรกเกิด-14 ปี)
Saijai จำนวนประชากรสูงอายุ (60 ปี ขึ้นไป)
Saijai จำนวนสัตว์เลี้ยง สุนัข

รีวิวล่าสุด

เจอเว็บใส่ใจ เข้าไปเลือกคนดูแล เอารูปกับประวัติมานั่งคุยกับคุณย่า เลยได้ป้ากิ๊กมาดูแล ป้ากิ๊กดูแลดีมาก คุณย่ามีความสุข ในเว็บใส่ใจบอกข้อมูลครบเลยทั้งประวัติการทำงาน และประวัติการศึกษา
Saijai
กฤษณ์ ชัยเขตุสานุวัฒน์
4 ปีที่แล้ว
ราคาไม่สูงเหมือนจ้างพยาบาลตามโรงพยาบาล และผู้ดูแลยังมีประสบการณ์ มั่นใจ หายห่วงเลยค่ะ
Saijai
ศรีรัตน์ สุขสวัสดิ์
4 ปีที่แล้ว
หาข้อมูล เจอเว็บใส่ใจ ที่มีพี่เลี้ยงดูแลผู้สูงอายุ ลองอ่านประสบการณ์เลย เจอจิต (พี่เลี้ยงดูแลพ่อ) ทุกอย่างเป็นไปตามข้อมูลในเว็บทำให้พวกเราไม่ยากที่จะตัดสินใจ จิตทำงานดีมากเข้ากับคุณพ่อได้ดี ขอบคุณใส่ใจค่ะ
Saijai
พชร ต้นไกลสุทธฺ์
4 ปีที่แล้ว
ได้คนคอยดูแลแม่ผมอย่างดี และถ่ายภาพรายงานเรื่องแม่ให้ผมทางไลน์อีกด้วยครับ คุ้มราคามากครับ
Saijai
ปราโมทย์ มนตรา
4 ปีที่แล้ว
ได้คนดูแลดี ผมก็หายห่วงครับ จะใช้บริการบ่อย ๆ
Saijai
สุชาดา เอี่ยมจินดา
4 ปีที่แล้ว

คำถามที่พบบ่อยสำหรับการค้นหา ดูแลผู้สูงอายุ

จ้างคนดูแลคนชราที่บ้านดีกว่าส่งไปบ้านพักคนชราอย่างไร?
ผู้สูงอายุเป็นกลุ่มคนที่มีความสำคัญต่อเรา ไม่ว่าจะเป็น พ่อ แม่ ปู่ ย่า ตา ยาย คือผู้ที่เป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวเรานั่นเอง ครั้นเมื่อท่านทั้งหลายอายุมากขึ้นหน้าที่ของคนเป็นลูกเป็นหลานต้องคอยดูแลท่านให้ดีที่สุด หากเป็นไปได้คงไม่มีใครที่อยากให้ผู้สูงอายุที่เรารักต้องไปอยู่บ้านพักคนชราและอยู่ห่างไกลจากครอบครัวอย่างแน่นอน

แต่หากเราอยู่ดูแลท่านเองไม่ได้ เนื่องจากต้องทำงานหรือมีภาระอื่นๆ ที่ต้องรับผิดชอบ ควรจ้างคนมาดูแลที่บ้าน เพื่อความสะดวกของเราเองและความปลอดภัยของผู้สูงอายุที่ต้องการการดูแลโดยเฉพาะ อย่างที่ทราบกันมานานสังคมไทยมีแนวคิดในแบบระบบครอบครัวใหญ่ โดยจะช่วยดูแลกันและกัน ซึ่งอาจแตกต่างจากสังคมของชาวตะวันตก ที่ส่วนมากมักมีค่านิยมให้ผู้สูงอายุไปอยู่บ้านพักคนชราในช่วงบั้นปลายชีวิต เพราะคิดว่าสะดวกสบายกว่า และผู้สูงอายุจะได้มีเพื่อนในสังคมวัยเดียวกัน แต่คนไทยโดยส่วนมากไม่คิดแบบนั้น ดังนั้นในครอบครัวของคนไทยจึงต้องการคนดูแลผู้สูงอายุที่มีความรู้ ความสามารถ อีกทั้งต้องไว้ใจให้ช่วยดูแลญาติผู้ใหญ่ของเราที่บ้านได้

ข้อดีของการมีคนดูแลผู้สูงอายุที่บ้าน

หลักๆ ก็คือ เราสามารถอยู่ใกล้ชิดกับคนที่เรารัก ทั้งยังปลอดภัยมากกว่าเพราะยังอยู่ในสายตาของเราได้ตลอด แตกต่างกับการส่งไปอยู่ที่ศูนย์ดูแลคนชรา ซึ่งอาจจะอยู่ห่างไกล ต้องใช้เวลาเดินทางไปหา โดยเราสามารถเลือกบริการของคนที่จะมาดูแลแบบไปเช้า เย็นกลับ หรือคอยดูแล 24 ชั่วโมงสำหรับผู้สูงอายุที่ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้และต้องการคนดูแลอย่างใกล้ชิด ซึ่งราคาก็จะแตกต่างกันไป โดยส่วนมากแล้วทางบริษัทที่จัดหาคนดูแลผู้สูงอายุจะมีการคัดเลือกบุคลากรที่มีคุณภาพและมีความรู้ในด้านนี้โดยเฉพาะ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าและลดความกังวลของผู้ใช้บริการได้เป็นอย่างดี
คุณสมบัติของผู้ดูแลผู้สูงอายุมีอะไรบ้าง
1. สิ่งแรกที่ควรคำนึงถึงเลยคือ คุณสมบัติทางด้านอารมณ์ความรู้สึก (moral attitude and belief) คือความพึงพอใจ ความศรัทธา เลื่อมใสที่จะใช้จริยธรรมมาเป็นแนวปฏิบัติงานดูแลผู้สูงอายุ
2. การฝึกอบรมเพื่อให้มีทักษะในการดูแลผู้สูงอายุ และมีความรู้ความสามารถในการดูแลผู้สูงอายุให้ถูกวิธี เพื่อให้เกิดความปลอดภัย
3. อุปนิสัย ผู้ดูแลผู้สูงอายุต้องมีใจรักในงานบริการ มีบุคลิกชอบช่วยเหลือผู้อื่น มีความจริงใจ มีความรัก ความสงสาร ความเห็นอกเห็นใจ ปรารถนาดีต่อผู้สูงอายุ เข้าใจและรับฟังเรื่องราวของผู้สูงอายุ เพราะสิ่งเหล่านี้มีผลต่อการดูแลผู้สูงอายุให้มีความสุข
4. รู้จักผิดชอบชั่วดี ต้องรู้จักแยกแยะว่าสิ่งใดควรทำ สิ่งใดไม่ควรทำและเข้าใจในเหตุผลของความถูกต้องดีงาม (moral reasoning)
5. อายุที่เหมาะสม หลายคนอาจมองข้ามเรื่องของช่วงอายุไป แต่ต้องเข้าใจว่าช่วงอายุมีผลต่อวุฒิภาวะ ถ้าเด็กมากเกินไปก็อาจจะมีความอดทนที่ต่ำเพราะประสบการณ์การในชีวิตยังน้อย หรือถ้าอายุมากเกินไปก็ทำให้ความคล่องตัวในการดูแลผู้สูงวัยอาจจะมีน้อยลง
6. ประสบการณ์นั้นถือว่าเป็นสิ่งที่สำคัญ เพราะบ่งบอกว่าคนคนนั้นเคยผ่านงานดูแลผู้สูงวัยมาก่อน ทำให้เข้าใจเนื้องานได้อย่างรวดเร็ว เข้าใจรายละเอียดของการดูแลผู้สูงอายุ ซึ่งโดยรวมแล้วผู้ที่ดูแลผู้สูงอายุจำเป็นต้องมีใจรักในงานเป็นพิเศษ ต้องใช้ความอดทนและใช้ความรู้ความสามารถที่มีให้เกิดประโยชน์สูงสุด เพื่อให้สามารถดูแลได้ถูกวิธีและถูกใจกันทุกฝ่ายอีกด้วย
7. เป็นผู้ประสานงานและเชื่อมโยงระหว่างบุตรหลานและญาติมิตรกับผู้สูงอายุ เมื่อได้รับความไว้วางใจให้มาดูแลผู้สูงอายุแล้ว ผู้ดูแลต้องสามารถสื่อสารส่งต่อข้อมูลที่จะช่วยให้ทำงานได้ดีและเข้าใจผู้สูงอายุมากขึ้น
หากคุณกังวลเมื่อต้องปล่อยให้ผู้สูงอายุ คนชรา อยู่กับผู้ดูแลตามลำพัง ควรทำอย่างไร
หากคุณกังวลเมื่อต้องปล่อยให้ผู้สูงอายุ คนชรา อยู่กับผู้ดูแลตามลำพัง ควรทำอย่างไร

การเลือกแม่บ้านหรือผู้ดูแลผู้สูงอายุ เข้ามาดูแลพ่อแม่ ปู่ย่า ตายาย วัยชรา แม้จะคล้ายกับการดูแลเด็ก แต่มีความแตกต่างกันบ้างในส่วนของรายละเอียด เช่น เรื่องอาหารการกิน การทานยา และเรื่องของการอยู่เป็นเพื่อน ซึ่งเหตุผลหนึ่งที่เราเลือกใช้บริการ ผู้ดูแลผู้สูงอายุนั้น เพราะเราอยากให้ผู้สูงอายุได้อยู่ในบรรยากาศที่คุ้นเคย ใกล้ชิดลูกหลาน และได้รับการดูแลที่ถูกต้อง เหมาะสม ตามสภาพวัย ของผู้สูงอายุ หากเราต้องทำงานไปด้วยนั้นหมายถึงเราต้องปล่อยให้ผู้สูงอายุอยู่ตามลำพังกับผู้ดูแล เราสามารถลดความกังวลนั้นได้อย่างไร หากกังวลเรื่องอาหารการกิน การทานยาของคุณพ่อคุณแม่ที่ต้องอยู่บ้านลำพัง การที่ได้ผู้ดูแลผู้สูงอายุ เข้ามาดูแลปัญหาเรื่องการทานอาหาร ทานยาไม่ตรงเวลาก็จะหมดไป เมื่อเราได้สรุปงาน หน้าที่ของผู้ดูแลผู้สูงอายุ ผู้ที่เข้ามาปฏิบัติหน้าที่ก็จะทำตามตารางเวลาการทำงานที่เราได้จัดขึ้น แม้เราไม่อยู่เราก็จะแน่ใจได้ว่าผู้สูงอายุจะได้รับการดูแล เราต้องคิดว่า เมื่อเราต่างออกไปทำงาน และผู้สูงอายุที่ต้องอยู่บ้านคนเดียว ท่านอาจจะรู้สึกเหงาและเบื่อหน่าย หรือบางครั้งเราเองอาจจะรู้สึกกังวลหากเขาหกล้มหรือเกิดอุบัติเหตุแล้วไม่มีใครอยู่บ้าน แต่การมีผู้ดูแลผู้สูงอายุมาดูแลและอยู่เป็นเพื่อนก็จะช่วยให้ผู้สูงอายุรู้สึกดี หมดกังวลและไม่เบื่อหน่าย อาจมีกิจกรรมที่ช่วยให้ผู้สูงอายุฝึกคิด หรือบางครั้งผู้ดูแลผู้สูงอายุที่ดูแลยังสามารถพาไปออกกำลังกายเพื่อช่วยให้ผู้สูงอายุผ่อนคลายได้อีกด้วย กังวลเรื่องการดูแลทุก ๆ รายละเอียด ข้อนี้ถือว่าดีมากเนื่องจากพี่เลี้ยงที่จ้างมาดูแลผู้สูงอายุในบ้าน จะทำหน้าที่แทนเราทุกอย่าง เช่น เช็ดตัว ป้อนข้าว เปลี่ยนผ้าอ้อมผู้ใหญ่ โดยที่ไม่รังเกียจ เพราะมีการอบรมมาเป็นอย่างดี ช่วยดูแลขณะที่เราไม่อยู่ ความกังวลทั้งหมดนี้จะหมดไปหากเราเลือกผู้ดูแลผู้สูงอายุที่ผ่านการอบรมมาอย่างดี ใส่ใจในงานบริการ แม้อยู่ตามลำพังกับผู้ดูแล ก็ไม่ต่างกับเราดูแลท่านเอง
ข้อตกลงที่สำคัญในการดูแลผู้สูงอายุมีอะไรบ้าง
เมื่อตัดสินใจจ้างคนดูแลผู้สูงอายุแล้ว ควรทำข้อตกลงสำคัญระหว่างผู้ว่าจ้างและผู้ดูแลที่คุณทำการได้จ้างมา เพื่อเป็นการรับประกันความปลอดภัยให้กับผู้สูงอายุตลอดระยะเวลาการดูแล ซึ่งข้อตกลงที่จำเป็นต้องทำความเข้าใจระหว่างสองฝ่ายมีดังนี้

1. ทำสัญญาจ้างเป็นลายลักษณ์อักษร โดยสิ่งที่ควรระบุอยู่ในสัญญาอย่างชัดเจนได้แก่ ระยะเวลาการดูแล วันที่เท่าไหร่ถึงเท่าไหร่ ชั่วโมงการทำงาน จำนวนค่าจ้าง รวมไปถึงสวัสดิการและวันหยุดที่ผู้ดูแลควรได้รับตามกฎหมายแรงงาน โดยที่ทั้งสองฝ่ายต้องเซ็นยินยอมเพื่อเป็นการรับรู้ต่อสัญญาและข้อกำหนดที่ได้ตกลงกันไว้
2. ผู้ว่าจ้างควรอธิบายข้อมูลส่วนตัวของผู้สูงอายุให้กับผู้ดูแลอย่างละเอียดถี่ถ้วน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอุปนิสัย ความชอบส่วนตัว อาหารที่กินได้และไม่ได้ ที่สำคัญหากผู้สูงอายุมีโรคประจำตัว ผู้ว่าจ้างควรบอกให้ผู้ดูแลรับรู้ก่อนเพื่อให้ผู้ดูแลสามารถรับมือกับสถานการณ์ฉุกเฉินได้
3. อธิบายขอบเขตและวิธีการทำงานให้กับผู้ดูแลอย่างชัดเจน สิ่งใดที่ทำได้และไม่ได้ เพื่อเป็นการป้องกันขั้นเบื้องต้น
4. ข้อตกลงเรื่องที่อยู่อาศัย หากผู้ว่าจ้างต้องการให้ผู้ดูแลอาศัยอยู่ที่บ้านตลอดช่วงระยะการดูแลผู้สูงอายุ ควรจัดเตรียมที่พักอาศัยให้กับผู้ดูแล รวมไปถึงแจกแจงเรื่องกฎในการใช้สิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ภายในบ้านตลอดช่วงระยะเวลาเช่นกัน
5. ใส่ใจในเรื่องของสุขอนามัยของผู้ดูแลที่ทำการว่าจ้างมา หากผู้ดูแลมีอาการป่วยกะทันหัน ผู้ว่าจ้างควรออกค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล ซึ่งถือว่าเป็นอีกหนึ่งสวัสดิการที่ผู้ดูแลควรได้รับ และควรให้ผู้ดูแลลางานได้ทันที เพื่อเป็นการช่วยลดความเสี่ยงในการแพร่เชื้อต่อผู้สูงอายุภายในบ้าน

การทำข้อตกลงในการว่าจ้างนั้นนอกจากจะเป็นการช่วยให้ทำความเข้าใจอย่างชัดเจนแล้ว ยังช่วยสร้างความสบายใจให้กับทั้งสองฝ่ายได้อีกด้วย

คุณสมบัติเบื้องต้นของผู้ดูแลคนสูงอายุ

ผู้สูงอายุ เป็นกลุ่มคนที่มีความสำคัญต่อสังคม การปล่อยปละละเลยผู้สูงอายุ อาจทำให้ผู้สูงอายุรู้สึกโดดเดี่ยว ไม่มีความสุข จนส่งผลเสียต่อสุขภาพร่างกายและจิตใจจนคุณภาพชีวิตลดลง ผู้สูงอายุส่วนใหญ่มีสภาพร่างกายที่ไม่เอื้ออำนวยในการดูแลตนเอง และการเดินทางไปไหนมาไหนด้วยตัวเอง ผู้สูงอายุบางคนอาจมีความจำที่สั้น หรือไขข้อกระดูกที่ไม่แข็งแรงเหมือนก่อน ดังนั้นบุคคลเหล่านี้จึงจำเป็นต้องดูแลอย่างใกล้ชิด ไม่ว่าจะเป็นบุตรหลาน หรือญาติพี่น้อง เนื่องด้วยปัญหาผู้สูงอายุที่มีมากในปัจจุบันจึงทำให้เป็นปัญหาสังคม ไม่ว่าจะเป็น บุคคลเร่ร่อน ต่างๆ หากทางครอบครัวของผู้สูงอายุไม่มีเวลาว่างในการดูแล และจำเป็นต้องหาผู้ช่วยดูแลผู้สูงอายุเหล่านี้ สิ่งแรกที่ควรคำนึงถึงก็คือ อารมณ์ความรู้สึก ความพึงพอใจและ จริยธรรมการปฏิบัติต่อผู้สูงอายุ

ต่อไปก็คือ อุปนิสัยของผู้ดูแลผู้สูงอายุ โดยผู้ดูแลผู้สูงอายุต้องมีใจรักในงานบริการ มีบุคลิกชอบช่วยเหลือผู้อื่น มีความจริงใจ มีความรัก ความสงสาร ความเห็นอกเห็นใจ ปรารถนาดีต่อผู้สูงอายุ เข้าใจและรับฟังเรื่องราวของผู้สูงอายุ เพราะสิ่งเหล่านี้มีผลต่อการดูแลผู้สูงอายุให้มีความสุข

อายุที่เหมาะสม เป็นอีกปัจจัยที่สำคัญในการดูแลผู้สูงอายุ เนื่องจากหลายคนอาจมองข้ามเรื่องของช่วงอายุไป แต่ต้องเข้าใจว่าช่วงอายุมีผลต่อวุฒิภาวะ หากว่าเด็กมากเกินไปก็อาจจะมีความอดทนที่ต่ำเพราะประสบการณ์การในชีวิตที่ยังน้อย หรือถ้าหากอายุมากเกินไปก็ทำให้ความคล่องตัวในการดูแลผู้สูงวัยอาจจะมีน้อยลง และผู้ดูแลควรผ่านการฝึกอบรมหลักสูตรการดูแลผู้สูงอายุ ทั้งทฤษฎีและปฏิบัติ ที่สำคัญต้องมีประสบการณ์ทางด้านนี้โดยตรง และควรมีหนังสือรับรองจากหน่วยงานทั้งนี้เพื่อให้มั่นใจได้ว่าผู้สูงอายุความปลอดภัยตลอดระยะเวลาการดูแล



ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ อีกทางเลือกในการดูแลคนที่คุณรัก

การดูแลผู้สูงอายุต้องการความละเอียดอ่อนและยังต้องอาศัยความเข้าใจอารมณ์ของผู้สูงอายุเป็นอย่างมาก เนื่องด้วยในปัจจุบันนี้สภาพสังคมที่เปลี่ยนจากครอบครัวขนาดใหญ่เป็นครอบครัวเดี่ยว สมาชิกในครอบครัวมักต้องออกไปทำงาน และทำกิจกรรมนอกบ้านเสียเป็นส่วนใหญ่ ทำให้ไม่มีเวลาหรืออาจไม่สามารถอยู่ดูแลผู้สูงอายุในครอบครัวได้ด้วยตัวเอง โดยเฉพาะผู้สูงอายุที่มีโรคประจำตัวซึ่งต้องการการดูแลพิเศษ เพราะมีปัจจัยเรื่องโรคประจำตัวที่อาจต้องใช้การดูแลหรือผู้ดูแลที่มีความรู้ในการดูแลโรคนั้น ๆ โดยเฉพาะ การดูแลผู้สูงอายุกลุ่มนี้ที่บ้านอาจมีข้อจำกัดและอุปสรรคหลายอย่าง และทำให้การให้ผู้สูงอายุอยู่ในศูนย์ดูแลผู้สูงอายุกลายเป็นทางออกสำหรับหลาย ๆ ครอบครัว

ความเหมาะสมของสถานที่ เนื่องจากผู้สูงอายุส่วนใหญ่มีปัญหาเกี่ยวกับความเสื่อมของร่างกายภายนอก ยกตัวอย่างเช่น ข้อเข่าเสื่อมทำให้เดินไม่ได้ และสายตาที่พร่ามัว เป็นต้น การดูแลผู้สูงอายุในบ้านที่ไม่ได้ออกแบบมาเพื่อรองรับปัญหาเหล่านี้ เช่น ไม่มีทางลาดสำหรับรถเข็น หรือไม่ราวสำหรับช่วยพยุงตัว ทำให้มีความเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุกับผู้สูงอายุ

ผู้ดูแลที่มีความชำนาญและประสบการณ์ เจ้าหน้าที่หรือพนักงานส่วนใหญ่ในศูนย์ดูแลผู้สูงอายุจะต้องผ่านการอบรมด้านการดูแลผู้สูงอายุมาโดยเฉพาะ ทำให้มั่นใจได้ว่าผู้สูงอายุจะได้รับการดูแลที่ถูกต้องและเหมาะสม

แม้การเลือกใช้บริการศูนย์ดูแลผู้สูงอายุจะเป็นหนึ่งในทางเลือกที่ดีเพื่อให้ผู้สูงอายุได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิดและดีที่สุด แต่เราจำเป็นต้องพิจารณาให้ดีเสียก่อน และเลือกศูนย์ที่น่าไว้ใจได้มากที่สุด เนื่องจากคุณต้องส่งญาติผู้ใหญ่ที่คุณรักไปยังสถานที่เลี้ยงดู เพราะอย่างไรเสียการเลี้ยงดูผู้สูงอายุถือเป็นหน้าที่ของผู้เป็นลูกที่ดี อย่าปล่อยให้ผู้ใหญ่อยู่ตามลำพังโดยไม่มีใครอยู่เป็นเพื่อน และให้ทางเลือกของสถานเลี้ยงดูผู้สูงอายุเป็นทางเลือกสุดท้ายในการดูแลดูผู้สูงอายุ



กิจกรรมคลายความเหงาให้กับผู้สูงอายุ

เมื่ออายุล่วงเลยเข้าสู่วัยชรา กลายเป็นผู้สูงอายุที่ต้องเกษียณจากงานประจำ หลายคนต้องพักผ่อนอยู่บ้าน ทำให้การดำเนินชีวิตในแต่ละวันของผู้สูงอายุมีแต่ทำกิจวัตรเดิม ๆ ซ้ำ ๆ ไปทุกวัน จนอาจจะรู้สึกเบื่อและไม่มีปฏิสัมพันธ์กับคนอื่นมากนัก ดังนั้นสมาชิกในครอบครัวหรือผู้ใกล้ชิด จึงควรมีส่วนร่วมในการดูแลและส่งเสริมสุขภาพของผู้สูงอายุที่เรารัก เพื่อไม่ให้ท่านรู้สึกเหงาหรือโดดเดี่ยว ลองหาเวลาว่างชวนผู้สูงอายุที่บ้านได้ร่วมทำกิจกรรมสนุก ๆ ร่วมกัน เช่น ทำอาหารและรับประทานอาหารด้วยกัน หลังรับประทานอาหารก็ใช้เวลาพูดคุยเรื่องต่าง ๆ ก่อนเข้านอน เพื่อช่วยสร้างความสุขทางอารมณ์ สุขภาพทางร่างกายและสุขภาพทางจิตใจที่ดีได้ หรือการทำกิจกรรมนอกบ้าน โดยในแต่ละกิจกรรมนั้น อาจจะขึ้นอยู่กับความเหมาะสมและความปลอดภัยของแต่ละบุคคล ซึ่งผู้สูงวัยแต่ละคนอาจจะมีความชอบแตกต่างกันออกไป ไม่ว่าจะเป็น

กิจกรรมการท่องเที่ยว โดยเราสามารถพาผู้สูงอายุออกไปนอกบ้านเพื่อเปลี่ยนบรรยากาศในการใช้ชีวิต ไม่ว่าจะเป็นการเที่ยวใกล้ ๆ บ้าน ชวนลูกหลานออกไปเดินเล่นในหมู่บ้าน หรือ การพาผู้สูงอายุออกไปรับประทานอาหารนอกบ้านอาทิตย์ละครั้ง พาผู้สูงอายุเข้าวัดทำบุญ หรือทัวร์ขอพรเก้าวัด อาจจะช่วยให้ผู้สูงอายุมีความสุขและสุขจิตที่ดีขึ้นได้

อีกกิจกรรมยอดฮิตไม่แพ้กันคือ การออกกำลังกาย สำหรับการออกกำลังกายของผู้สูงอายุ ไม่จำเป็นต้องออกกำลังกายที่ต้องใช้พละกำลังหนักๆ โดยควรออกกำลังกายที่สามารถทำได้ง่ายๆ และไม่ต้องออกแรงมากจนเกินไป เช่น การวิ่งเหยาะๆ จ๊อกกิ้ง เดินเร็ว เต้นลีลาศ การรำไทเก็ก เป็นต้น หรืออาจเป็นกิจกรรมที่ทำให้ผู้สูงอายุได้มีการเคลื่อนไหวร่างกายแต่ไม่หนัก เพื่อลดความเจ็บป่วย ทั้งยังเพิ่มความแข็งแรงและทำให้มีสุขภาพจิตที่ดีอีกด้วย หรืออาจจะเป็นกิจกรรมที่ทำร่วมกับลูกหลาน เช่น การพาผู้สูงอายุไปสวนสาธารณะ เพื่อเปลี่ยนบรรยากาศ เดินเล่นรับลม สูดอากาศดีๆ เพื่อเป็นการคลายความตึงเครียดของร่างกายก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่ง