ดูแลเด็ก ใน บางคอแหลม, กรุงเทพมหานคร

ดูแลเด็ก ใน บางคอแหลม, กรุงเทพมหานคร

คุณต้องการใช้บริการนี้เมื่อไหร่?
ระบุวันที่

วิธีการทำงาน

Saijai

ติดต่อเรา

ติดต่อเราโดยตรงผ่าน LINE OA เพื่อจองบริการที่คุณต้องการ

Saijai

แจ้งรายละเอียดให้เราทราบ

เลือกบริการ วันที่ เวลา และสถานที่ที่คุณต้องการให้ตรงกับความต้องการของคุณ

Saijai

ยืนยันการจองของคุณ

เราจะยืนยันการจองของคุณภายใน 24 ชั่วโมงผ่านทาง LINE OA

กุลวาณีย์ พันธ์สน
กุลวาณีย์ พันธ์สน
Saijai ประสบการณ์ 0-1 ปี
Saijai อายุ 27 ปี

เข้ากับคนได้ง่าย มีความรับผิดชอบต่อหน้าที่ รักเด็ก

แสดงเพิ่มเติม
ศุภลักษณ์ สติภา
ศุภลักษณ์ สติภา
Saijai ประสบการณ์ 0-1 ปี

สวัสดีดีคะฉันสามารถเลี้ยงเด็กได้คะฉันรักเด็กใส่ใจและเสริมพัฒนาการเด็กได้คะฉันร่าเริงยิ้มง่ายใส่ใจความสะอาดเกี่ยวกับตัวเองและเด็กหรือคนรอบข้างดิฉันมีความตั้งใจใส่ใจในการทำงานมากถ้าผลตอบแทนดีและเหมาะสมจะทำงานสุดความสามารถคะ

แสดงเพิ่มเติม
	ปรีชญา ขัดเรือน
ปรีชญา ขัดเรือน
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี

ใจเย็น รักเด็ก มีความอดทนสูง สามารถแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าได้ดี ยิ้มแย้มแจ่มใจ เสริมสร้างพัฒนาการเด็กตามช่วงวัยได้ค่ะ

แสดงเพิ่มเติม
อลิสา  อารีย์
อลิสา อารีย์
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี

ดิฉันอลิสา อารีย์ ปัจจุบันอายุ 52 ปี ประสบการณ์การทำงาน 15 ปีขึ้นไป จบหลักสูตรพี่เลี้ยงเด็กจาก รพ.ศิริราช ดูแลเด็กแรกเกิดจนถึง 6 ปี แล้วแต่อายุงาน

แสดงเพิ่มเติม
เพรียวพร ลูกเพชร
เพรียวพร ลูกเพชร
Saijai อายุ 23 ปี

มีประสบการณ์ เป็นพี่เลี้ยงเด็กในศูนย์เลี้ยงเด็ก 4 เดือน สามารถดูแลเด็กอายุ 4 ขวบขึ้นไป รับวัคซีนแล้ว 3 เข็ม สะดวกให้บริการสะดวกรับตามสถานที่ที่เดินทางโดย mrt สอนภาษาอังกฤษได้ เล่นกีต้าเป็น วาดรูปและร้องเพลงได้ สามารถเป็นเพื่อนน้องทำกิจกรรมที่เหมาะสมตามวัยได้ค่ะ

แสดงเพิ่มเติม
เบญญาภา โฉมแพ
เบญญาภา โฉมแพ
Saijai ประสบการณ์ 0-1 ปี

สวัสดีคะ ชื่อเบญ จบป.ตรี มีประสบการณ์ครูพี่เลี้ยงเนอสซารี่ รร.นานาชาติ ครูพี่เลี้ยงตามบ้าน ไม่มีลูกคะ อยากมีลูกเลยมารับเลี้ยงเด็กแทน

แสดงเพิ่มเติม
วาสนา แหยมแก้ว
วาสนา แหยมแก้ว
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี
Saijai อายุ 46 ปี
Pavana Suntudchaiyo
Pavana Suntudchaiyo
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี
Saijai อายุ 57 ปี

I am in good health, kind and responsible, polite and gentle. สุภาพ สุขภาพแข็งแรง พูดเพราะ มีความรับผิดชอบ

แสดงเพิ่มเติม
ธนัชชา  แก้วผลึก
ธนัชชา แก้วผลึก
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี

ชื่อหนิงค่ะ ได้รับวัคซีนครบ 2 เข็ม ทำงานสอนดนตรี(กีตาร์คลาสสิก) สอนตั้งแต่เด็กจนถึงผู้ใหญ่ รวมถึงสอนเด็กที่มีความพิเศษ(ออทิสติกด้วยค่ะ) มีกิจกรรมที่ทำกับเด็กอยู่เรื่อยๆค่ะ รักเด็ก ชอบอยู่กับเด็กๆค่ะ

แสดงเพิ่มเติม
มัณฑนา ศรีโชติ
มัณฑนา ศรีโชติ
Saijai ประสบการณ์ 1-2 ปี
Saijai อายุ 49 ปี

ใจเย็น รักเด็ก พร้อมเรียนรู้ปรับตัว

แสดงเพิ่มเติม
อานนท์ ทองแสง
อานนท์ ทองแสง
Saijai ประสบการณ์ 1-2 ปี
Saijai อายุ 30 ปี

ผมเป็นคนสุภาพ เรียบร้อย ไม่ยุ่งอบายมุข ไม่พูดคำหยาบ ตั้งใจทำงานที่ได้รับมอบหมาย ทำได้ทุกอย่างครับ สอนได้ทุกวิชา ค่าจ้างเป็นต่อชั่วโมงหรือให้เป็นรายเดือนก็ได้ครับ

แสดงเพิ่มเติม
อรวรรณ มีมุข
อรวรรณ มีมุข
Saijai ประสบการณ์ 0-1 ปี

สวัสดีค่ะ ชื่อจอยนะคะ อายุ 22 ปีค่ะ เพิ่งจบปริญญาตรีจากมหาวิทยาลันหอการค้าไทย สาขาภาษาอังกฤษและการแปลค่ะ เคยช่วยพี่เลี้ยงหลานตอนช่วงปิดเทอมค่ะ และตอนนี้อยากหาประสบการณ์เลี้ยงเด็กเพิ่มค่ะ เพื่อที่จะสมัครเป็นออแพร์ที่ต่างประเทศค่ะ เป็นคนใจเย็นและใจดีค่ะ สามารถสอนภาษาอังกฤษน้องและสอนการบ้านน้องได้ค่ะ เข้ากับเด็กได้ดีและชอบอยู่กับเด็กค่ะ

แสดงเพิ่มเติม
พิมพ์พิชญา แสนลุน
พิมพ์พิชญา แสนลุน
Saijai ประสบการณ์ 3-4 ปี
Saijai อายุ 19 ปี

ยิ้มเก่ง มีมารยาท รักเด็ก

แสดงเพิ่มเติม
อคัมย์สิริ ศศิชลพินทุ์
อคัมย์สิริ ศศิชลพินทุ์
Saijai ประสบการณ์ 0-1 ปี
Saijai อายุ 41 ปี
นรีรัตน์  ฝอยทอง
นรีรัตน์ ฝอยทอง
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี
ผ่านการตรวจสอบประวัติบุคคล

สนใจงานพี่เลี้ยงเด็กค่ะ มีประสบการณ์บ้านนายจ้างมา8ปี เลี้ยงได้ตั้งแต่แรกเกิดจนถึงเด็กโต ตอนนี้ว่างงานอยู่ค่ะ กำลังมองหางาน สามารถรับฟังและเรียนรุ้สิ่งใหม่ๆ ได้ค่ะ

แสดงเพิ่มเติม
วิมลทิพย์  โถสโมสร
วิมลทิพย์ โถสโมสร
Saijai ประสบการณ์ 0-1 ปี

กำลังศีกษาหลักสูตร NA ค่ะ

แสดงเพิ่มเติม
rasita pimpakorn
rasita pimpakorn
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี

ชื่อ รสิตา พิมพกร ชื่อเล่น ปูสถานะภาพ มีครอบครัวแล้วเบอร์โทร 098-9954465ว-ด-ป เกิด 5ธันวาคม 2527สัญชาติ ไทยตำแหน่งที่ต้องการสมัคร พี่เลี้ยงน้องค่ะการสื่อสารภาษา อังกฤษ พออ่านออกเขียนได้ค่ะไทย ดีมากค่ะปัจจุบันพักอยู่ที่ สระแก้วประสบการณ์ทำงาน -เลี้ยงน้อง1ขวบถึง4ขวบลาดพร้าว-เลี้ยงน้อง2ขวบถึง4ขวบทองหล่อ-เลี้ยงน้อง3เดือนถึง3ขวบ7เดือนชิดลมได้รับวัคซีนมาแล้ว ....3... เข็ม

แสดงเพิ่มเติม
อารตี อับดลราหมาน
อารตี อับดลราหมาน
Saijai ประสบการณ์ 0-1 ปี
Saijai อายุ 26 ปี
ศิริวิมล ทรงศิริ
ศิริวิมล ทรงศิริ
Saijai ประสบการณ์ 0-1 ปี
Saijai อายุ 42 ปี

ที่บ้านมีห้องแอร์สถานที่ให้วิ่งเล่น เรียนได้เกรดเฉลี่ยอยู่ที่ 3.40 เรียนโรงเรียนเทพศิรินทร์ร่มเกล้า มีประสบการณ์ดูแลหลานๆของตนเองหลายคน มากกว่า5คน ตั้งแต่อายุ 1 ขวบ ถึง 15 ปี

แสดงเพิ่มเติม
กัญชพร เชื้อแถว
กัญชพร เชื้อแถว
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี

งานประจำเป็นครูพี่เลี้ยงอยู่เนอสเซอรี่ ทำงานมา 6 ปี เป็นคนขี้เล่น เฟรนลี่ อยู่ที่ทำงานเป็นครูผู้นำสอนน้องทำกิจกรรมในด้านพัฒนาการต่างๆ

แสดงเพิ่มเติม

ข้อมูลสถิติน่าสนใจเกี่ยวกับ

Saijai จำนวนประชากร
Saijai จำนวนประชากรเด็ก (แรกเกิด-14 ปี)
Saijai จำนวนประชากรสูงอายุ (60 ปี ขึ้นไป)
Saijai จำนวนสัตว์เลี้ยง สุนัข

รีวิวล่าสุด

ลาคลอดได้แค่ 3 เดือน ค่ะ ต้องกลับไปทำงานต่อ จะฝากลูกไว้กับยายก็กลัวแกจะดูไม่ไหว เลยลองหาพี่เลี้ยงจากเว็บใส่ใจดู ตอนแรกก็กังวลอยู่เหมือนกันค่ะ ไม่กล้าทิ้งลูกไว้กับพี่เลี้ยง แต่ก็วางใจอย่างนึงว่าพี่เลี้ยงมีประสบการณ์ ตอนนี้ทุกอย่างลงตัว โอเคมาก ๆ ค่ะ
Saijai
สุชาดา มิ่งมงคล
3 ปีที่แล้ว
เปลี่ยนพี่เลี้ยงเด็กมาหลายคน ส่วนมากราคาสูง ๆ ทั้งนั้น แต่อยู่ไม่ได้นานก็ลาออก ลองจองพี่เลี้ยงผ่านเวปใส่ใจ เยี่ยมมากเลยครับ แฟนสบายใจ หมดปัญหา ไม่ต้องจ้างพี่เลี้ยงราคาแพง ได้ราคาแบบสมเหตุสมผล แถมมีคุณภาพครับ
Saijai
จิตวัชร จันประทีป
4 ปีที่แล้ว
บ้านอยู่แถว สุขุมวิท71 ลองใช้เว็บใส่ใจครั้งแรก เพราะเพื่อนๆ แนะนำมา อยากได้พี่เลี้ยงเด็ก มองหามาหลายที่ ที่นี่รายละเอียดครบ ราคาชัดเจน โทรปรึกษาพนักงานก็อธิบายเข้าใจง่ายมาก สะดวกสบาย ง่ายกว่า search หาเองใน Google ชอบมากๆ ค่ะ
Saijai
นงคราญ แซ่ตั้ง
4 ปีที่แล้ว
เราทำงานนอกบ้าน เลยหาพี่เลี้ยงเด็กมาดูแลน้องที่บ้าน ค้นหาข้อมูลดูเวปนี้ให้รายละเอียดพี่เลี้ยงน่าสนใจ ราคาเรารับได้ เราเลยให้น้องมาทดลองงานก่อนเราไปทำงาน น้องมีประสบการณ์มา เลยปรับตัวไม่ยาก เวลาเราอยู่น้องจะช่วยหยิบจับของทำโน่นทำนี่ไป ประทับใจคะ สองเดือนแล้วน้องทำงานดี มีระเบียบเรียบร้อย คุ้มค่ากับเงินที่เสียไป เราไว้ใจให้น้องคนนี้ดูแล
Saijai
แม่น้องกัญ
4 ปีที่แล้ว
อยู่ ๆ พี่เลี้ยงคนเก่าลาออกโดยไม่แจ้งล่วงหน้าต้องรีบหาพี่เลี้ยงใหม่แบบเร่งด่วน ไม่รู้จะทำยังไง บังเอิญมาเจอเว็บใส่ใจ หาพี่เลี้ยงคนใหม่ได้ง่ายมาก ๆ แถมได้คนดี มีประสบการณ์ ทำงานคล่อง เยี่ยมเลยค่ะ ประทับใจสุด ที่สำคัญคุณแม่สบายใจได้คนมาทำงานทันที
Saijai
ภัทรา กิจบำรุง
4 ปีที่แล้ว

คำถามที่พบบ่อยสำหรับการค้นหา ดูแลเด็ก

หากคุณพ่อคุณแม่ต้องทำงานนอกบ้านและไม่มีเวลาเลี้ยงลูกเอง ลองเปรียบเทียบกันระหว่างส่งลูกไปเนอสเซอรี่และจ้างพี่เลี้ยงเด็กมาดูแลลูกที่บ้าน อะไรจะตรงใจคุณพ่อคุณแม่มากที่สุด
บริการรับเลี้ยงเด็กในปัจจุบันมีหลายทางเลือก ไม่ว่าจะเป็นพี่เลี้ยงเด็ก หรือเนอสเซอรี่ เรามาดูข้อดีข้อเสียกันเลยค่ะ

ข้อดีของพี่เลี้ยงเด็กที่บ้านมีดังนี้

1) พี่เลี้ยงสามารถดูแลลูกน้อยของคุณได้อย่างใกล้ชิด ลูกของคุณจะได้รับความเอาใจใส่ที่ส่งผลต่อพัฒนาการเด็กทางด้านอารมณ์
2) พี่เลี้ยงสามารถช่วยส่งเสริมพัฒนาการเด็กผ่านการทำกิจกรรมต่าง
3) พ่อแม่ประหยัดเวลามากขึ้น หากจ้างพี่เลี้ยงมาดูแลที่บ้าน
4) เด็กจะไม่ป่วยบ่อย เนื่องจากเด็กจะอยู่ในบ้านของตนเอง

ข้อดีของเนอสเซอรี่

1) เด็ก ๆ จะรู้จักการเข้าสังคม
2) เนอสเซอรี่มีบริเวณกว้างเพื่อให้เด็กได้ทำกิจกรรมหลากหลายรูปแบบ
3) เด็กจะได้ฝึกดูแลตัวเอง เพราะครูพี่เลี้ยงไม่ได้ดูแลเด็กแบบใกล้ชิด

ข้อเสียของพี่เลี้ยง

1) ค่าใช้จ่ายอาจจะสูงกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับเข้าศูนย์เนอสเซอรี่
2) เด็กอาจจะติดพี่เลี้ยงเกินไป
3) ลดความเป็นส่วนตัวของครอบครัว

ข้อเสียของเนอสเซอรี่

1) เด็กป่วยบ่อยเพราะมีภูมิคุ้มกันที่น้อยเนื่องจากอยู่กับเด็กหลายคน
2) ลูกจะไม่ได้รับการดูแลใกล้ชิดแบบตัวต่อตัวอาจส่งผลถึงอารมณ์ของเด็กได้
3) เด็กจะอยู่ห่างไกลจากพ่อแม่

หากคุณพ่อคุณแม่กำลังมองหาบริการพี่เลี้ยงเด็ก ใส่ใจมีบริการพี่เลี้ยงมืออาชีพที่พร้อมจะให้บริการคุณค่ะ
คุณสมบัติอะไรบ้างที่พ่อแม่ควรมองหาจากพี่เลี้ยงเด็กก่อนตกลงจ้าง
ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่คุณพ่อคุณแม่สักคนจะตัดสินใจหาใครมาดูแลลูกน้อยที่เปรียบเสมือนแก้วตาดวงใจ วันนี้ใส่ใจมีข้อมูลของทักษะและคุณสมบัติที่พี่เลี้ยงเด็กควรมีมาฝากให้คุณพ่อคุณแม่ลองเช็คกันดูก่อนตัดสินใจจ้างพี่เลี้ยงสักคน

1. พี่เลี้ยงเด็กต้องมีความอดทนสูง คุณพ่อคุณแม่ต้องมั่นใจว่าพี่เลี้ยงเด็กต้องมีความเข้าใจเด็ก สามารถรับมือกับสถานการณ์ต่าง ๆ ได้ดี และที่สำคัญที่สุดคือเป็นคนที่มีความอดทนสูง
2. พี่เลี้ยงเด็กควรรู้วิธีการปฐมพยาบาลเบื้องต้น ในกรณีเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดหรืออุบัติเหตุ พี่เลี้ยงต้องมีความรู้และทักษะการปฐมพยาบาลเบื้องต้น และสามารถช่วยเหลือเด็กได้ทันที เช่น เด็กที่อยู่ภายใต้การดูแลเกิดอุบัติเหตุหกล้ม มีแผลถลอก พี่เลี้ยงต้องรีบปฐมพยาบาลเบื้องต้นเพื่อไม่ให้เกิดการติดเชื้อของแผล เป็นต้น ดังนั้นคุณพ่อและคุณแม่ควรเลือกพี่เลี้ยงที่มีทักษะด้านการปฐมพยาบาลเบื้องต้นเพราะเป็นสิ่งจำเป็นมาก ๆ
3. พี่เลี้ยงเด็กควรมีทักษะการแก้ไขปัญหา พี่เลี้ยงจะต้องรู้วิธีการแก้ไขปัญหาเบื้องต้นได้โดยไม่จำเป็นต้องแจ้งผู้ว่าจ้างเสมอไปหากปัญหานั้นไม่ใช่ปัญหาที่ร้ายแรง
4. ทำอาหารเป็น ถือเป็นอีกหนึ่งทักษะที่พี่เลี้ยงเด็กจำเป็นต้องมี พี่เลี้ยงไม่ได้มีหน้าที่แค่ดูแลเด็กอย่างเดียวเท่านั้น แต่พี่เลี้ยงอาจจะต้องเตรียมอาหารให้เด็ก ๆ รับประทานในแต่ละมื้อด้วย หากอาหารอร่อยถูกปาก เด็กจะเจริญอาหารและอารมณ์ดี ที่สำคัญที่สุดที่พี่เลี้ยงต้องใส่ใจและจดจำด้วยว่าเด็ก ๆ ที่ดูแลนั้น แพ้อาหารอะไรบ้าง เพื่อป้องกันอุบัติเหตุที่อาจจะเกิดขึ้นจากการรับประทานสิ่งที่แพ้เข้าไป
5. มีความคิดสร้างสรรค์ในการส่งเสริมพัฒนาการเด็ก พี่เลี้ยงจะต้องเป็นคนที่มีความคิดสร้างสรรค์ สามารถร่วมทำกิจกรรมกับเด็ก ๆ ในระหว่างวัน ไม่ว่าจะเป็นทางด้านวิชาการหรือสันทนาการ เช่น พี่เลี้ยงเด็กอาจจะสอนเด็กนับเลข ฝึกการอ่าน หรือระบายสีเพื่อให้เด็กได้เรียนรู้ผ่านกิจกรรมที่สร้างสรรค์เหล่านี้
ควรทำอย่างไรเพื่อคลายความกังวลเมื่อคุณพ่อคุณแม่ต้องปล่อยให้ลูกอยู่ตามลำพังกับพี่เลี้ยง
ไม่ใช่เรื่องง่ายที่สำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่จะไว้วางใจให้ลูก ๆ ของคุณอยู่ในความดูแลพี่เลี้ยงเด็ก แม้ว่าจะเป็นเวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมงก็ตามเด็กอาจเกิดความรู้สึกวิตกกังวลเมื่อต้องแยกจากคุณพ่อคุณแม่ ใส่ใจมีวิธีการที่จะช่วยลดความกังวลของทั้งคุณพ่อคุณแม่และลูกได้ดังนี้ค่ะ

1. คุณพ่อคุณแม่ควรพูดคุยและทำความเข้าใจกับเด็ก ถึงความจำเป็นที่ต้องให้เด็กๆ อยู่กับพี่เลี้ยง ให้ความมั่นใจกับเด็กว่าคุณพ่อคุณแม่หาคนที่สามารถดูแลพวกเขาได้ดี
2. คุณพ่อคุณแม่ควรหาพี่เลี้ยงที่เข้ากันได้กับลูก ๆ และมีความพร้อมในการดูแลเด็ก
3. แนะนำให้ลูก ๆ ทำความรู้จักกับพี่เลี้ยง โดยอาจจะเล่าให้ฟังว่าพี่เลี้ยงเห็นใคร ชื่ออะไร คุยกับพี่ผ่านทางวิดีโอคอลก่อนวันเริ่มงานจริง เพื่อนลดความตึงเครียดในการเจอกันครั้งแรก
4. คุณพ่อคุณแม่ควรบันทึกเบอร์โทรศัพท์ของตัวเอง เบอร์โทรฉุกเฉิน และสอนให้ลูกใช้โทรศัพท์เพื่อโทรหาคุณพ่อคุณแม่ได้ หรือโทรขอความช่วยเหลือได้ในกรณีฉุกเฉิน
5. มอบหมายงานบ้านเล็ก ๆ น้อย ๆ ให้เด็ก ๆ ทำระหว่างวัน เพื่อที่เด็ก ๆ จะได้มีกิจกรรมเบนความสนใจและไม่เอาแต่จดจ่อรอเวลาคุณพ่อคุณแม่กลับบ้าน
6. เมื่อถึงเวลาที่คุณพ่อคุณแม่ต้องออกจากบ้านและต้องให้เด็ก ๆ อยู่กับพี่เลี้ยงเด็ก คุณพ่อคุณแม่ควรให้ความมั่นใจกับเด็ก ๆ ว่าพี่เลี้ยงจะดูแลเด็ก ๆ เป็นอย่างดีและย้ำว่าพวกเขาสามารถโทรหาคุณได้เสมอ
ในวันสัมภาษณ์พ่อแม่ควรตกลงอะไรกับพี่เลี้ยงเด็ก
ขั้นตอนของการสัมภาษณ์พี่เลี้ยงเด็กนั้นถือเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่ง เพราะไม่ใช่แค่คุณจะได้ทำความรู้จักกับพี่เลี้ยงที่คุณจะจ้าง แต่ในขั้นตอนนี้คุณต้องทำการตกลงกับพี่เลี้ยงเด็กก่อนเริ่มงาน ดังนั้นวันนี้ใส่ใจมีข้อแนะนำให้คุณพ่อคุณแม่ที่กำลังจะสัมภาษณ์พี่เลี้ยงเด็กและพูดคุยถึงข้อตกลงที่สำคัญมีอะไรบ้างมาดูกันค่ะ

1) ขอบเขตหน้าที่ที่คุณต้องการให้พี่เลี้ยงทำ เช่น ช่วยเลี้ยงลูกคุณขณะคุณไม่อยู่บ้าน ช่วยเตรียมกับข้าวให้ลูกน้อยรับประทานในแต่ละมื้อ ช่วยสอนการบ้านหากพี่เลี้ยงมีความสามารถ
2) วันและเวลาการทำงาน ในวันที่สัมภาษณ์คุณและพี่เลี้ยงจะต้องตกลงเรื่องวันเวลาการทำงานให้อย่างชัดเจน และคุณควรจะมีวันหยุดให้พี่เลี้ยงตาม กฎหมายกระทรวงแรงงาน นายจ้างต้องให้ลูกจ้างมีวันหยุดประจำสัปดาห์ และวันพักร้อน ได้ 6 วัน ต่อ ปี และต้องหยุดตามประเพณี ปีละไม่น้อยกว่า 13 วัน
3) ค่าจ้าง คุณจะต้องตกลงเรื่องค่าจ้างกับพี่เลี้ยงให้ชัดเจน หากพี่เลี้ยงปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างดี คุณควรที่จะเพิ่มเงินเดือนให้ตามความเหมาะสม ในกรณีที่พี่เลี้ยงเด็กทำงานในวันหยุดนายจ้างต้องจ่ายเงินค่าจ้างตามกฎหมายแรงงาน
4) ข้อตกลงในการอาศัยอยู่ในบ้าน หากคุณมีกฎระเบียบที่ต้องการให้พี่เลี้ยงเด็กปฏิบัติตามกฎที่คุณตั้งไว้ คุณต้องแจ้งให้พี่เลี้ยงเด็กรับทราบก่อนเริ่มงานเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต
5) ถ้าคุณเป็นหนึ่งคนที่ไม่อยากให้ลูกติดโทรศัพท์ คุณควรแจ้งให้พี่เลี้ยงทราบ และควรกำชับพี่เลี้ยงว่าไม่ให้ลูกของคุณเล่นโทรศัพท์ขณะที่คุณไม่อยู่ เพราะเด็กอาจได้รับผลกระทบจากการเล่นโทรศัพท์นานเกินไปจนส่งผลให้เกิดภาวะสมาธิสั้นและส่งผลกับสายตา ดังนั้นพี่เลี้ยงจะต้องหากิจกรรมที่ให้เด็กได้พัฒนาตนเองมากกว่าการเล่นโทรศัพท์มือถือ

วัดพระยาไกร วัดที่เหลือแต่ชื่อ

วัดพระยาไกร นอกจากจะเป็นชื่อแขวงหนึ่งในสามแขวงของ เขตบางคอแหลม แล้ว ยังมีประวัติอื่น ๆ ที่ทิ้งไว้เป็นชื่อมาถึงปัจจุบัน วัดพระยาไกร หรือ วัดโชตนาราม ในอดีตตั้งอยู่ในแขวงวัดพระยาไกร เขตบางคอแหลม ปัจจุบันเป็นที่ตั้งของ เอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์ ศูนย์การค้าแนวราบริมแม่น้ำที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย วัดพระยาไกรสร้างก่อน พ.ศ. 2344 ต่อมาพระยาโชฏึกราชเศรษฐี (บุญมา) หัวหน้าคนจีน ตำแหน่งเจ้ากรมท่าซ้ายในขณะนั้นได้คุมคนงานจีนทำการบูรณปฏิสังขรณ์วัด แล้วน้อมถวายเป็นพระอารามหลวงในสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้พระราชทานนามวัดว่า “วัดโชตนาราม” จากจดหมายเหตุพบว่า ต่อมาวัดพระยาไกรถูกทิ้งเป็นวัดร้าง อาจเพราะท่านเจ้าสัวบุญมาไม่มีทายาทสืบสายสกุลทำให้ขาดผู้ดูแลอุปถัมภ์วัด จนกระทั่งในสมัยรัชกาลที่ 5 บริษัท อีสท์ เอเชียติก จำกัด แห่งประเทศเดนมาร์ก ซึ่งเป็นบริษัททำธุรกิจค้าไม้สักส่งออกต่างประเทศได้แจ้งความประสงค์ขอเช่าพื้นที่วัดโชตนารามเพื่อตั้งโรงเลื่อยจักรของบริษัท เมื่อได้รับอนุญาตจึงได้ทำการรื้อถอนเสนาสนะที่ปรักหักพังทั้งหมด เหลือไว้เพียงพระอุโบสถ จึงมีการย้ายพระพุทธรูปปูนปั้นสำคัญ 2 องค์ภายในพระอุโบสถ คือ พระพุทธมหาสุวรรณปฏิมากร (พระพุทธรูปทองคำ) ไปยังวัดไตรมิตรวิทยาราม (เดิมชื่อวัดสามจีน) และหลวงพ่อสัมฤทธิ์พระพุทธรูปหล่อด้วยโลหะสำริดปางมารวิชัย สมัยสุโขทัยไปยัง วัดไผ่เงินโชตนาราม (เดิมชื่อวัดเงิน ยุบรวมกับวัดไผ่ล้อม จึงได้ชื่อว่า วัดไผ่เงิน) เนื่องจากวัดถูกทิ้งให้รกร้างจนยากแก่การบูรณะ แต่ชื่อวัดและที่ดินยังมีอยู่จึงยังมีปรากฏชื่อวัดในทำเนียบวัดจนกระทั่งปี พ.ศ. 2539 จึงมีประกาศยุบวัด (ร้าง) ตามประกาศของกระทรวงศึกษาธิการเมื่อ 7 สิงหาคม พ.ศ. 2539 ปรากฏในราชกิจจานุเบกษา เล่มที่ 113 ตอนที่ 67 ง หน้า 20 ลงวันที่ 20 สิงหาคม 2539 ปัจจุบันชื่อ วัดพระยาไกร ยังมีปรากฏให้เห็นแม้จะไม่มีตัววัดหลงเหลืออยู่แล้ว อาทิเช่น แขวงวัดพระยาไกร เขตการปกครองหนึ่งของเขตบางคอแหลม กรุงเทพมหานคร สถานีตำรวจนครบาลวัดพระยาไกร ที่ทำการไปรษณีย์วัดพระยาไกร รวมไปถึงท่าเรือด่วนแม่น้ำเจ้าพระยา ท่าน้ำวัดพระยาไกร



3 โรงแรมหรูริมแม่น้ำเจ้าพระยา เขตบางคอแหลม

โรงแรมติดริมแม่น้ำเจ้าพระยาตลอดสายในเขตกรุงเทพมหานครส่วนใหญ่ล้วนแล้วแต่เป็นโรงแรมหรู ในระดับ 4 ดาวขึ้นไป เนื่องจากตั้งอยู่ริมแม่น้ำ โรงแรมจึงมีวิวที่สวยงามทั้งห้องพักและห้องอาหารภายในโรงแรมมักหันหน้าออกไปทางฝั่งแม่น้ำเพื่อให้ลูกค้าที่มาพักหรือมารับประทานอาหารที่ห้องอาหารของโรงแรมได้ลิ้มรสอาหารที่แสนอร่อยไปพร้อมกับชื่นชมวิวทิวทัศน์ของสายน้ำแม่น้ำเจ้าพระยา ไม่เพียงแต่นักท่องเที่ยวชาวไทยที่ชื่นชอบการพักผ่อนในโรงแรมริมแม่น้ำ นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติโดยเฉพาะกลุ่มนักธุรกิจมักจะเลือกเข้าพักตามโรงแรมหรูริมแม่น้ำเจ้าพระยาเช่นกัน เรามาดูกันว่าในเขตบางคอแหลมมีโรงแรมหรูติดริมแม่น้ำเจ้าพระยาที่ไหนบ้าง

เริ่มที่โรงแรมหรูระดับ 5 ดาว ที่เป็นโรงแรมเก่าแก่และเป็นที่รู้จักทั้งกับชาวไทยและชาวต่างชาติคือ โรงแรมมณเฑียร ริเวอร์ไซด์ กรุงเทพ (Montien Riverside Hotel) ตั้งอยู่ที่ 372 ถ. พระรามที่ 3 แขวงบางโคล่ เขตบางคอแหลม กรุงเทพฯ โรงแรมมณเฑียร ริเวอร์ไซด์ กรุงเทพ มีห้องพักมากถึง 462 ห้อง และทุกประเภทห้องสามารถมองเห็นวิวแม่น้ำเจ้าพระยา ห้องพักมีให้เลือกตั้งแต่ห้องสุพีเรียไปจนถึงห้องคิงสวีท ตกแต่งหรูหราและมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันทุกประเภทห้องพัก พร้อมด้วยการบริการที่ดูแลเอาใจใส่ลูกค้าอย่างมืออาชีพ นอกจากนี้โรงแรมยังมีบริการห้องอาหาร คอฟฟี่ช็อป บาร์ ห้องประชุม บริการนวด ห้องฟิตเนส ซาวน่า ห้องอบไอน้ำ สนามเทนนิส สระว่ายน้ำกลางแจ้ง และสวน ถือว่าครบวงจร ส่วนราคาห้องพักนั้นเริ่มต้นตั้งแต่หนึ่งพันปลายๆไปจนถึงราว 40,000 บาท รับรองว่าพักที่นี่ต้องประทับใจทั้งห้องพัก การบริการ และวิวที่สวยงามแน่นอน

โรงแรมสุดหรูแห่งที่ 2 คือ โรงแรมแม่น้ำ รามาดาพลาซา กรุงเทพ (Ramada Plaza by Wyndham Bangkok Menam Riverside) เป็นโรงแรม 5 ดาว สูง 16 ชั้น ตั้งอยู่ที่ 2074 ถ. เจริญกรุง แขวงวัดพระยาไกร เขตบางคอแหลม กรุงเทพ โรงแรมแม่น้ำ รามาดาพลาซา นอกจากจะตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาแล้ว ยังตั้งอยู่ตรงข้ามเอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์ สถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตและเป็นศูนย์การค้าริมน้ำที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย จุดเด่นอีกอย่างของโรงแรมนี้คือมีห้องพักให้เลือกมากถึง 12 ประเภท รวมทั้งหมด 525 ห้อง ตกแต่งในสไตล์ไทยโมเดิร์น มีสิ่งความสะดวกภายในห้องพักครบครัน เช่นคอฟฟี่ช็อป บริการนวด จาคุซซี ห้องฟิตเนส ซาวน่า ห้องอบไอน้ำ สปา และสระว่ายน้ำกลางแจ้ง ถือว่ามีตัวเลือกห้องพักที่พร้อมรองรับนักท่องเที่ยวทุกระดับ ราคาห้องพักเริ่มต้นตั้งแต่ 2,000 บาท ไปจนถึงราว 20,000 บาท

โรงแรมสุดท้ายเป็นโรงแรมขนาดเล็กสุดชิคในระดับ 4 ดาว โฮเต็ล วันซ์ แบงค็อก (Hotel Once Bangkok) โรงแรมสไตล์บูติกของย่านเจริญกรุง ตั้งอยู่ที่ 2074/99 ถ. เจริญกรุง ซ. 72/2 แขวงวัดพระยาไกร เขตบางคอแหลม กรุงเทพ โฮเต็ล วันซ์ แบงค็อก ตั้งอยู่ในทำเลที่เดินทางสะดวกง่ายดายเพราะอยู่ใกล้สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส สะพานตากสิน และท่าเรือรับส่ง ห้องพักมีทั้งหมด 43 ห้องออกแบบหรูหราและทันสมัย พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกมากมายเช่น ห้องอาหาร บาร์ คอฟฟี่ช็อป ห้องฟิตเนส สำหรับห้องอาหารมีที่นั่งบนชั้นดาดฟ้ามองเห็นวิวแม่น้ำเจ้าพระยาและวิวของกรุงเทพมหานครอีกด้วย ราคาห้องพักเริ่มต้นตั้งแต่พันต้นๆไปจนถึงประมาณ 9,000 บาท ถือว่าเป็นโรงแรมริมแม่น้ำเจ้าพระยาที่มีราคาสบายกระเป๋าและเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจมากๆ



ทำไมลูกถึงพูดช้า

ปกติแล้วเด็กจะมีพัฒนาการทางภาษาและการสื่อสารตามลำดับตั้งแต่แรกเกิด เริ่มจากส่งเสียงร้อง มีเสียงอ้อแอ้ตอน 1-3 เดือน มีพัฒนาการในการตอบสนองการพูดคุยกับพ่อแม่ มีเสียงหัวเราะ เล่นน้ำลาย ทำรูปปากเลียนแบบพ่อแม่ที่กำลังคุยเล่นอยู่ด้วย และเริ่มพยายามเลียนเสียงออกจากลำคอ เปล่งออกมาเป็นคำสั้นๆเช่น หม่ำหม่ำ ปะป๋า หม่าม๊า ในวัยประมาณ 1 ขวบ หลังจากนั้นคลังคำศัพท์ของเด็กจะค่อยๆสะสมเพิ่มมากขึ้นตั้งแต่ 50-200 คำ ในวัย 2 ขวบ โดยเริ่มพูด 2-3 คำติดกันได้ และพัฒนาการจนสามารถพูดเป็นประโยคสั้นๆ ได้ ตอบคำถามได้

หากลูกไม่สามารถพูดคำที่มีความหมายได้เลยเมื่อถึงวัย 2 ขวบ หรือหากเด็กไม่มีสัญญาณการพูด ไม่ส่งเสียงเลียนแบบ หรือไม่หันตามเสียงเรียกตั้งแต่ช่วง 6-10 เดือน เป็นไปได้ว่าลูกเป็นเด็กพูดช้า

สาเหตุของการพูดช้าเกิดจากอะไรบ้าง

1. ความผิดปกติของการได้ยิน เช่น หูตึง หูหนวก หรือประสาทหูพิการ ทำให้ไม่สามารถพูดได้ โดยพ่อแม่สามารถสังเกตอาการได้ตั้งแต่วัยทารกหากลูกไม่ค่อยตอบสนองต่อเสียง แต่มักจะพยายามจ้องมองปากหรือท่าทางของพ่อแม่หรือผู้เลี้ยงดูเพื่อสื่อสาร

2. ความผิดปกติทางสติปัญญา เด็กมีพัฒนาการล่าช้าในหลายๆด้านหากเทียบกับเด็กในวัยเดียว เช่น ด้านความจำ ด้านกล้ามเนื้อ หรือระบบประสาทที่ควบคุมการเคลื่อนไหว

3. ภาวะออทิสติก เด็กจะมีพัฒนาการทางภาษาล่าช้าร่วมกับมีความบกพร่องในการเข้าสังคม โดยสามารถสังเกตพฤติกรรมได้ตั้งแต่ก่อนอายุ 30 เดือน เช่น เด็กไม่เข้าใจคำสั่ง ไม่มองหน้า ไม่สบตา ไม่มีอารมณ์ร่วมในการสนทนา เรียกชื่อไม่หัน เล่นคนเดียว ส่งเสียงไม่เป็นภาษา และชอบเล่นแบบเดิมซ้ำๆ

4. พัฒนาทางภาษาผิดปกติหรือล่าช้าโดยที่พัฒนาการด้านอื่นปกติ เด็กกลุ่มนี้อาจจะเกิดจากพัฒนาการด้านความเข้าใจภาษาและการใช้ภาษาล่าช้า ทำให้ปัญหาในการเรียน การอ่าน การเขียน และการสะกดคำ ซึ่งควรได้รับการรักษาและติดตามอาการอย่างต่อเนื่อง แต่เด็กบางคนในกลุ่มนี้อาจจัดอยู่ในกลุ่มที่เราเรียกว่า “เด็กปากหนัก” คือเด็กมีความเข้าใจทางภาษาปกติ แต่ยังไม่เปล่งเสียงพูด จะใช้ท่าทางเพื่อสื่อสารและบอกความต้องการเช่น ส่ายหัว หรือพยักหน้า เด็กกลุ่มนี้สามารถพัฒนาจนมีทักษะภาษาปกติได้ดี

5. ขาดการกระตุ้นพัฒนาการที่เหมาะสม ซึ่งเป็นสาเหตุจากการเลี้ยงดู เช่นปล่อยให้เด็กอยู่คนเดียวบ่อยๆ หรืออยู่กับสื่อหน้าจอมากเกินไปจนไม่มีปฏิสัมพันธ์กับผู้เลี้ยงดู การเลี้ยงดูที่ไม่เหมาะสมนี้อาจส่งผลให้เด็กมีอาการที่รุนแรงมากขึ้นแพทย์จึงไม่แนะนำให้เด็กอายุต่ำกว่า 2 ปี ใช้สื่ออิเล็กทรอนิกส์ทุกประเภท

หากคุณพ่อคุณแม่หรือผู้ที่เลี้ยงดูเด็กสังเกตพฤติกรรมแล้วรู้สึกว่าเด็กอาจมีความผิดปกติในการพัฒนาการทางภาษา การพูด และการสื่อสารที่ล่าช้า ควรพามาปรึกษากุมารแพทย์เพื่อวินิจฉัยอาการตามความเหมาะสมและถูกต้อง เพื่อส่งเสริมพัฒนาการทางการพูดและพัฒนาการด้านอื่นๆต่อไป