วิธีการทำงาน
ติดต่อเรา
ติดต่อเราโดยตรงผ่าน LINE OA เพื่อจองบริการที่คุณต้องการ
แจ้งรายละเอียดให้เราทราบ
เลือกบริการ วันที่ เวลา และสถานที่ที่คุณต้องการให้ตรงกับความต้องการของคุณ
ยืนยันการจองของคุณ
เราจะยืนยันการจองของคุณภายใน 24 ชั่วโมงผ่านทาง LINE OA
ประเภทงานบริการ
พี่เลี้ยงเด็ก พี่เลี้ยงเด็กชั่วคราว รับเลี้ยงเด็กที่บ้านตัวเอง พี่เลี้ยงสองภาษา พี่เลี้ยงวันหยุดบริการในเมืองยอดนิยม
บางเขน บางกอกน้อย ป้อมปราบศัตรูพ่า พระนคร บางพลัด บางบอน พระโขนง ภาษีเจริญ คลองสามวา ตลิ่งชันสวัสดีค่ะ ชือ ภัทรค่ะ อายุ 52 ถนัดดูแลเด็กแรกคลอด คุณแม่หลังคลอดค่ะ นวดเด็กแรกเล็กได้ ช้วยให้เด็ก อารมณ์ดีไม่งอแง ช่วยระบบขับถ่าย เลือดลมไหลเวียนดี ร่างกายแข็งแรง.นวดประคบสมุนไพร คุณแม่หลังคลอดช่วยในการอยู่ไฟสมัยโบราณ ทำให้มดลูกเข้าอู่ไว้ ร่างกายแข็งแรง รับงานได้ทั้งในและต่างประเทศค่ะ รับดูแลทั้งคนไทยและต่างชาติ
ข้อมูลสถิติน่าสนใจเกี่ยวกับ
รีวิวล่าสุด
คำถามที่พบบ่อยสำหรับการค้นหา ดูแลเด็ก
1. ความรู้ด้านการส่งเสริมพัฒนาการ การส่งเสริมพัฒนาการทำได้ทั้งผ่านการเล่นและการทำกิจวัตรประจำวัน พี่เลี้ยงเด็กที่ดีควรหากิจกรรมเพื่อให้เด็กมีส่วนร่วมและช่วยเหลือตัวเองได้ตามวัยที่เหมาะสม
2. ความอดทนและใจรักเด็ก เด็กแต่ละคนมีความแตกต่างกันทั้งลักษณะนิสัย อารมณ์และการแสดงออก บางคนว่านอนสอนง่าย บางคนชอบเล่นซนทั้งวัน หรือบางคนงอแง พี่เลี้ยงเด็กที่ดีควรมีใจรักเด็กเป็นพื้นฐาน พร้อมทำความเข้าใจและมีความอดทน พยายามหาวิธีที่ทำให้เด็กรู้สึกวางใจ ปลอดภัย และยอมเชื่อฟังพี่เลี้ยงในที่สุด
3. ความรู้ด้านการปฐมพยาบาลเบื้องต้นและรู้เบอร์โทรศัพท์ในกรณีฉุกเฉิน ถ้าเด็กหกล้มมีแผลถลอกพี่เลี้ยงเด็กต้องรู้ว่าจะจัดการกับแผลถลอกอย่างไร ในกรณีฉุกเฉินพี่เลี้ยงเด็กต้องสามารถติดต่อหน่วยงานที่ให้ความช่วยเหลือได้
4. ทักษะการสื่อสาร เด็กมีความแตกต่างกันในแต่ละช่วงอายุ พี่เลี้ยงเด็กต้องเข้าใจการสื่อสารกับเด็ก เช่น เข้าใจภาษากายของทารก การสื่อสารของเด็กเล็ก สำหรับเด็กที่สามารถสื่อสารด้วยทำพูดได้แล้ว พี่เลี้ยงเด็กต้องพูดคุยเพื่อให้เด็กเชื่อฟังโดยไม่ใช้การบังคับและให้เด็กรู้สึกสบายใจ
5. ทักษะการแก้ปัญหา หากไม่ใช่เรื่องที่ร้ายแรงพี่เลี้ยงเด็กต้องรู้วิธีแก้ปัญหาหรือสถานการณ์ตรงหน้าตามสมควรโดยไม่จำเป็นต้องรายงานหรือรอให้คุณพ่อคุณแม่ตัดสินใจทุกครั้ง
6. ความคิดสร้างสรรค์ คงไม่ดีแน่หากพี่เลี้ยงเด็กดูแลเด็กด้วยการให้เด็กดูสมาร์ทโฟนเป็นชั่วโมง พี่เลี้ยงเด็กที่ดีควรมีความคิดสร้างสรรค์เล่นกับเด็กเพื่อให้เด็กเพลิดเพลินได้นานหลายชั่วโมงและให้เด็กได้พักผ่อนตามเวลา
ทั้งหมดนี้คือคุณสมบัติและทักษะที่ดีที่คุณพ่อและคุณแม่ควรมองหาในตัวพี่เลี้ยงเด็กที่คุณเลือกมาเพื่อดูแลลูกน้อยของคุณค่ะ
1. คุณพ่อคุณแม่ควรพูดคุยและทำความเข้าใจกับเด็ก ถึงความจำเป็นที่ต้องให้เด็กๆ อยู่กับพี่เลี้ยง ให้ความมั่นใจกับเด็กว่าคุณพ่อคุณแม่หาคนที่สามารถดูแลพวกเขาได้ดี
2. คุณพ่อคุณแม่ควรหาพี่เลี้ยงที่เข้ากันได้กับลูก ๆ และมีความพร้อมในการดูแลเด็ก
3. แนะนำให้ลูก ๆ ทำความรู้จักกับพี่เลี้ยง โดยอาจจะเล่าให้ฟังว่าพี่เลี้ยงเห็นใคร ชื่ออะไร คุยกับพี่ผ่านทางวิดีโอคอลก่อนวันเริ่มงานจริง เพื่อนลดความตึงเครียดในการเจอกันครั้งแรก
4. คุณพ่อคุณแม่ควรบันทึกเบอร์โทรศัพท์ของตัวเอง เบอร์โทรฉุกเฉิน และสอนให้ลูกใช้โทรศัพท์เพื่อโทรหาคุณพ่อคุณแม่ได้ หรือโทรขอความช่วยเหลือได้ในกรณีฉุกเฉิน
5. มอบหมายงานบ้านเล็ก ๆ น้อย ๆ ให้เด็ก ๆ ทำระหว่างวัน เพื่อที่เด็ก ๆ จะได้มีกิจกรรมเบนความสนใจและไม่เอาแต่จดจ่อรอเวลาคุณพ่อคุณแม่กลับบ้าน
6. เมื่อถึงเวลาที่คุณพ่อคุณแม่ต้องออกจากบ้านและต้องให้เด็ก ๆ อยู่กับพี่เลี้ยงเด็ก คุณพ่อคุณแม่ควรให้ความมั่นใจกับเด็ก ๆ ว่าพี่เลี้ยงจะดูแลเด็ก ๆ เป็นอย่างดีและย้ำว่าพวกเขาสามารถโทรหาคุณได้เสมอ
1) ขอบเขตหน้าที่ที่คุณต้องการให้พี่เลี้ยงทำ เช่น ช่วยเลี้ยงลูกคุณขณะคุณไม่อยู่บ้าน ช่วยเตรียมกับข้าวให้ลูกน้อยรับประทานในแต่ละมื้อ ช่วยสอนการบ้านหากพี่เลี้ยงมีความสามารถ
2) วันและเวลาการทำงาน ในวันที่สัมภาษณ์คุณและพี่เลี้ยงจะต้องตกลงเรื่องวันเวลาการทำงานให้อย่างชัดเจน และคุณควรจะมีวันหยุดให้พี่เลี้ยงตาม กฎหมายกระทรวงแรงงาน นายจ้างต้องให้ลูกจ้างมีวันหยุดประจำสัปดาห์ และวันพักร้อน ได้ 6 วัน ต่อ ปี และต้องหยุดตามประเพณี ปีละไม่น้อยกว่า 13 วัน
3) ค่าจ้าง คุณจะต้องตกลงเรื่องค่าจ้างกับพี่เลี้ยงให้ชัดเจน หากพี่เลี้ยงปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างดี คุณควรที่จะเพิ่มเงินเดือนให้ตามความเหมาะสม ในกรณีที่พี่เลี้ยงเด็กทำงานในวันหยุดนายจ้างต้องจ่ายเงินค่าจ้างตามกฎหมายแรงงาน
4) ข้อตกลงในการอาศัยอยู่ในบ้าน หากคุณมีกฎระเบียบที่ต้องการให้พี่เลี้ยงเด็กปฏิบัติตามกฎที่คุณตั้งไว้ คุณต้องแจ้งให้พี่เลี้ยงเด็กรับทราบก่อนเริ่มงานเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต
5) ถ้าคุณเป็นหนึ่งคนที่ไม่อยากให้ลูกติดโทรศัพท์ คุณควรแจ้งให้พี่เลี้ยงทราบ และควรกำชับพี่เลี้ยงว่าไม่ให้ลูกของคุณเล่นโทรศัพท์ขณะที่คุณไม่อยู่ เพราะเด็กอาจได้รับผลกระทบจากการเล่นโทรศัพท์นานเกินไปจนส่งผลให้เกิดภาวะสมาธิสั้นและส่งผลกับสายตา ดังนั้นพี่เลี้ยงจะต้องหากิจกรรมที่ให้เด็กได้พัฒนาตนเองมากกว่าการเล่นโทรศัพท์มือถือ
วัดพระยาไกร วัดที่เหลือแต่ชื่อ
วัดพระยาไกร นอกจากจะเป็นชื่อแขวงหนึ่งในสามแขวงของ เขตบางคอแหลม แล้ว ยังมีประวัติอื่น ๆ ที่ทิ้งไว้เป็นชื่อมาถึงปัจจุบัน วัดพระยาไกร หรือ วัดโชตนาราม ในอดีตตั้งอยู่ในแขวงวัดพระยาไกร เขตบางคอแหลม ปัจจุบันเป็นที่ตั้งของ เอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์ ศูนย์การค้าแนวราบริมแม่น้ำที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย วัดพระยาไกรสร้างก่อน พ.ศ. 2344 ต่อมาพระยาโชฏึกราชเศรษฐี (บุญมา) หัวหน้าคนจีน ตำแหน่งเจ้ากรมท่าซ้ายในขณะนั้นได้คุมคนงานจีนทำการบูรณปฏิสังขรณ์วัด แล้วน้อมถวายเป็นพระอารามหลวงในสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้พระราชทานนามวัดว่า “วัดโชตนาราม” จากจดหมายเหตุพบว่า ต่อมาวัดพระยาไกรถูกทิ้งเป็นวัดร้าง อาจเพราะท่านเจ้าสัวบุญมาไม่มีทายาทสืบสายสกุลทำให้ขาดผู้ดูแลอุปถัมภ์วัด จนกระทั่งในสมัยรัชกาลที่ 5 บริษัท อีสท์ เอเชียติก จำกัด แห่งประเทศเดนมาร์ก ซึ่งเป็นบริษัททำธุรกิจค้าไม้สักส่งออกต่างประเทศได้แจ้งความประสงค์ขอเช่าพื้นที่วัดโชตนารามเพื่อตั้งโรงเลื่อยจักรของบริษัท เมื่อได้รับอนุญาตจึงได้ทำการรื้อถอนเสนาสนะที่ปรักหักพังทั้งหมด เหลือไว้เพียงพระอุโบสถ จึงมีการย้ายพระพุทธรูปปูนปั้นสำคัญ 2 องค์ภายในพระอุโบสถ คือ พระพุทธมหาสุวรรณปฏิมากร (พระพุทธรูปทองคำ) ไปยังวัดไตรมิตรวิทยาราม (เดิมชื่อวัดสามจีน) และหลวงพ่อสัมฤทธิ์พระพุทธรูปหล่อด้วยโลหะสำริดปางมารวิชัย สมัยสุโขทัยไปยัง วัดไผ่เงินโชตนาราม (เดิมชื่อวัดเงิน ยุบรวมกับวัดไผ่ล้อม จึงได้ชื่อว่า วัดไผ่เงิน) เนื่องจากวัดถูกทิ้งให้รกร้างจนยากแก่การบูรณะ แต่ชื่อวัดและที่ดินยังมีอยู่จึงยังมีปรากฏชื่อวัดในทำเนียบวัดจนกระทั่งปี พ.ศ. 2539 จึงมีประกาศยุบวัด (ร้าง) ตามประกาศของกระทรวงศึกษาธิการเมื่อ 7 สิงหาคม พ.ศ. 2539 ปรากฏในราชกิจจานุเบกษา เล่มที่ 113 ตอนที่ 67 ง หน้า 20 ลงวันที่ 20 สิงหาคม 2539 ปัจจุบันชื่อ วัดพระยาไกร ยังมีปรากฏให้เห็นแม้จะไม่มีตัววัดหลงเหลืออยู่แล้ว อาทิเช่น แขวงวัดพระยาไกร เขตการปกครองหนึ่งของเขตบางคอแหลม กรุงเทพมหานคร สถานีตำรวจนครบาลวัดพระยาไกร ที่ทำการไปรษณีย์วัดพระยาไกร รวมไปถึงท่าเรือด่วนแม่น้ำเจ้าพระยา ท่าน้ำวัดพระยาไกร
3 โรงแรมหรูริมแม่น้ำเจ้าพระยา เขตบางคอแหลม
โรงแรมติดริมแม่น้ำเจ้าพระยาตลอดสายในเขตกรุงเทพมหานครส่วนใหญ่ล้วนแล้วแต่เป็นโรงแรมหรู ในระดับ 4 ดาวขึ้นไป เนื่องจากตั้งอยู่ริมแม่น้ำ โรงแรมจึงมีวิวที่สวยงามทั้งห้องพักและห้องอาหารภายในโรงแรมมักหันหน้าออกไปทางฝั่งแม่น้ำเพื่อให้ลูกค้าที่มาพักหรือมารับประทานอาหารที่ห้องอาหารของโรงแรมได้ลิ้มรสอาหารที่แสนอร่อยไปพร้อมกับชื่นชมวิวทิวทัศน์ของสายน้ำแม่น้ำเจ้าพระยา ไม่เพียงแต่นักท่องเที่ยวชาวไทยที่ชื่นชอบการพักผ่อนในโรงแรมริมแม่น้ำ นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติโดยเฉพาะกลุ่มนักธุรกิจมักจะเลือกเข้าพักตามโรงแรมหรูริมแม่น้ำเจ้าพระยาเช่นกัน เรามาดูกันว่าในเขตบางคอแหลมมีโรงแรมหรูติดริมแม่น้ำเจ้าพระยาที่ไหนบ้าง
เริ่มที่โรงแรมหรูระดับ 5 ดาว ที่เป็นโรงแรมเก่าแก่และเป็นที่รู้จักทั้งกับชาวไทยและชาวต่างชาติคือ โรงแรมมณเฑียร ริเวอร์ไซด์ กรุงเทพ (Montien Riverside Hotel) ตั้งอยู่ที่ 372 ถ. พระรามที่ 3 แขวงบางโคล่ เขตบางคอแหลม กรุงเทพฯ โรงแรมมณเฑียร ริเวอร์ไซด์ กรุงเทพ มีห้องพักมากถึง 462 ห้อง และทุกประเภทห้องสามารถมองเห็นวิวแม่น้ำเจ้าพระยา ห้องพักมีให้เลือกตั้งแต่ห้องสุพีเรียไปจนถึงห้องคิงสวีท ตกแต่งหรูหราและมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันทุกประเภทห้องพัก พร้อมด้วยการบริการที่ดูแลเอาใจใส่ลูกค้าอย่างมืออาชีพ นอกจากนี้โรงแรมยังมีบริการห้องอาหาร คอฟฟี่ช็อป บาร์ ห้องประชุม บริการนวด ห้องฟิตเนส ซาวน่า ห้องอบไอน้ำ สนามเทนนิส สระว่ายน้ำกลางแจ้ง และสวน ถือว่าครบวงจร ส่วนราคาห้องพักนั้นเริ่มต้นตั้งแต่หนึ่งพันปลายๆไปจนถึงราว 40,000 บาท รับรองว่าพักที่นี่ต้องประทับใจทั้งห้องพัก การบริการ และวิวที่สวยงามแน่นอน
โรงแรมสุดหรูแห่งที่ 2 คือ โรงแรมแม่น้ำ รามาดาพลาซา กรุงเทพ (Ramada Plaza by Wyndham Bangkok Menam Riverside) เป็นโรงแรม 5 ดาว สูง 16 ชั้น ตั้งอยู่ที่ 2074 ถ. เจริญกรุง แขวงวัดพระยาไกร เขตบางคอแหลม กรุงเทพ โรงแรมแม่น้ำ รามาดาพลาซา นอกจากจะตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาแล้ว ยังตั้งอยู่ตรงข้ามเอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์ สถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตและเป็นศูนย์การค้าริมน้ำที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย จุดเด่นอีกอย่างของโรงแรมนี้คือมีห้องพักให้เลือกมากถึง 12 ประเภท รวมทั้งหมด 525 ห้อง ตกแต่งในสไตล์ไทยโมเดิร์น มีสิ่งความสะดวกภายในห้องพักครบครัน เช่นคอฟฟี่ช็อป บริการนวด จาคุซซี ห้องฟิตเนส ซาวน่า ห้องอบไอน้ำ สปา และสระว่ายน้ำกลางแจ้ง ถือว่ามีตัวเลือกห้องพักที่พร้อมรองรับนักท่องเที่ยวทุกระดับ ราคาห้องพักเริ่มต้นตั้งแต่ 2,000 บาท ไปจนถึงราว 20,000 บาท
โรงแรมสุดท้ายเป็นโรงแรมขนาดเล็กสุดชิคในระดับ 4 ดาว โฮเต็ล วันซ์ แบงค็อก (Hotel Once Bangkok) โรงแรมสไตล์บูติกของย่านเจริญกรุง ตั้งอยู่ที่ 2074/99 ถ. เจริญกรุง ซ. 72/2 แขวงวัดพระยาไกร เขตบางคอแหลม กรุงเทพ โฮเต็ล วันซ์ แบงค็อก ตั้งอยู่ในทำเลที่เดินทางสะดวกง่ายดายเพราะอยู่ใกล้สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส สะพานตากสิน และท่าเรือรับส่ง ห้องพักมีทั้งหมด 43 ห้องออกแบบหรูหราและทันสมัย พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกมากมายเช่น ห้องอาหาร บาร์ คอฟฟี่ช็อป ห้องฟิตเนส สำหรับห้องอาหารมีที่นั่งบนชั้นดาดฟ้ามองเห็นวิวแม่น้ำเจ้าพระยาและวิวของกรุงเทพมหานครอีกด้วย ราคาห้องพักเริ่มต้นตั้งแต่พันต้นๆไปจนถึงประมาณ 9,000 บาท ถือว่าเป็นโรงแรมริมแม่น้ำเจ้าพระยาที่มีราคาสบายกระเป๋าและเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจมากๆ
ทำไมลูกถึงพูดช้า
ปกติแล้วเด็กจะมีพัฒนาการทางภาษาและการสื่อสารตามลำดับตั้งแต่แรกเกิด เริ่มจากส่งเสียงร้อง มีเสียงอ้อแอ้ตอน 1-3 เดือน มีพัฒนาการในการตอบสนองการพูดคุยกับพ่อแม่ มีเสียงหัวเราะ เล่นน้ำลาย ทำรูปปากเลียนแบบพ่อแม่ที่กำลังคุยเล่นอยู่ด้วย และเริ่มพยายามเลียนเสียงออกจากลำคอ เปล่งออกมาเป็นคำสั้นๆเช่น หม่ำหม่ำ ปะป๋า หม่าม๊า ในวัยประมาณ 1 ขวบ หลังจากนั้นคลังคำศัพท์ของเด็กจะค่อยๆสะสมเพิ่มมากขึ้นตั้งแต่ 50-200 คำ ในวัย 2 ขวบ โดยเริ่มพูด 2-3 คำติดกันได้ และพัฒนาการจนสามารถพูดเป็นประโยคสั้นๆ ได้ ตอบคำถามได้
หากลูกไม่สามารถพูดคำที่มีความหมายได้เลยเมื่อถึงวัย 2 ขวบ หรือหากเด็กไม่มีสัญญาณการพูด ไม่ส่งเสียงเลียนแบบ หรือไม่หันตามเสียงเรียกตั้งแต่ช่วง 6-10 เดือน เป็นไปได้ว่าลูกเป็นเด็กพูดช้า
สาเหตุของการพูดช้าเกิดจากอะไรบ้าง
1. ความผิดปกติของการได้ยิน เช่น หูตึง หูหนวก หรือประสาทหูพิการ ทำให้ไม่สามารถพูดได้ โดยพ่อแม่สามารถสังเกตอาการได้ตั้งแต่วัยทารกหากลูกไม่ค่อยตอบสนองต่อเสียง แต่มักจะพยายามจ้องมองปากหรือท่าทางของพ่อแม่หรือผู้เลี้ยงดูเพื่อสื่อสาร
2. ความผิดปกติทางสติปัญญา เด็กมีพัฒนาการล่าช้าในหลายๆด้านหากเทียบกับเด็กในวัยเดียว เช่น ด้านความจำ ด้านกล้ามเนื้อ หรือระบบประสาทที่ควบคุมการเคลื่อนไหว
3. ภาวะออทิสติก เด็กจะมีพัฒนาการทางภาษาล่าช้าร่วมกับมีความบกพร่องในการเข้าสังคม โดยสามารถสังเกตพฤติกรรมได้ตั้งแต่ก่อนอายุ 30 เดือน เช่น เด็กไม่เข้าใจคำสั่ง ไม่มองหน้า ไม่สบตา ไม่มีอารมณ์ร่วมในการสนทนา เรียกชื่อไม่หัน เล่นคนเดียว ส่งเสียงไม่เป็นภาษา และชอบเล่นแบบเดิมซ้ำๆ
4. พัฒนาทางภาษาผิดปกติหรือล่าช้าโดยที่พัฒนาการด้านอื่นปกติ เด็กกลุ่มนี้อาจจะเกิดจากพัฒนาการด้านความเข้าใจภาษาและการใช้ภาษาล่าช้า ทำให้ปัญหาในการเรียน การอ่าน การเขียน และการสะกดคำ ซึ่งควรได้รับการรักษาและติดตามอาการอย่างต่อเนื่อง แต่เด็กบางคนในกลุ่มนี้อาจจัดอยู่ในกลุ่มที่เราเรียกว่า “เด็กปากหนัก” คือเด็กมีความเข้าใจทางภาษาปกติ แต่ยังไม่เปล่งเสียงพูด จะใช้ท่าทางเพื่อสื่อสารและบอกความต้องการเช่น ส่ายหัว หรือพยักหน้า เด็กกลุ่มนี้สามารถพัฒนาจนมีทักษะภาษาปกติได้ดี
5. ขาดการกระตุ้นพัฒนาการที่เหมาะสม ซึ่งเป็นสาเหตุจากการเลี้ยงดู เช่นปล่อยให้เด็กอยู่คนเดียวบ่อยๆ หรืออยู่กับสื่อหน้าจอมากเกินไปจนไม่มีปฏิสัมพันธ์กับผู้เลี้ยงดู การเลี้ยงดูที่ไม่เหมาะสมนี้อาจส่งผลให้เด็กมีอาการที่รุนแรงมากขึ้นแพทย์จึงไม่แนะนำให้เด็กอายุต่ำกว่า 2 ปี ใช้สื่ออิเล็กทรอนิกส์ทุกประเภท
หากคุณพ่อคุณแม่หรือผู้ที่เลี้ยงดูเด็กสังเกตพฤติกรรมแล้วรู้สึกว่าเด็กอาจมีความผิดปกติในการพัฒนาการทางภาษา การพูด และการสื่อสารที่ล่าช้า ควรพามาปรึกษากุมารแพทย์เพื่อวินิจฉัยอาการตามความเหมาะสมและถูกต้อง เพื่อส่งเสริมพัฒนาการทางการพูดและพัฒนาการด้านอื่นๆต่อไป
SAIJAI "ใส่ใจ" เป็นเพียงแพลตฟอร์มที่ใช้สำหรับติดต่อสื่อสารระหว่างผู้ใช้บริการกับผู้ให้บริการดูแลเด็ก ดูแลผู้สูงอายุ ครูสอนพิเศษ/ติวเตอร์ แม่บ้าน/ทำความสะอาด คนขับรถ ดูแลสัตว์เลี้ยง เสริมสวย และช่างซ่อมบำรุงเท่านั้น "SAIJAI" ไม่ได้เป็นผู้ให้บริการหรือจ้างบุคคลใดให้บริการ ไม่มีสถานะเป็นนายจ้าง ผู้ว่าจ้าง ตัวแทน ผู้ร่วมทุน อย่างหนึ่งอย่างใดทั้งสิ้นของผู้ให้บริการ ผู้ให้บริการเป็นผู้รับจ้างอิสระ ซึ่งผู้รับบริการเป็นผู้ว่าจ้าง คุณภาพการให้บริการเป็นความรับผิดชอบทั้งสิ้นของผู้ให้บริการเอง การเรียกใช้บริการจากผู้ให้บริการ อาจมีความเสี่ยง ซึ่งผู้รับบริการรับทราบและยินดีใช้บริการ บนความเสี่ยงใด ๆ ในความรับผิดชอบของตัวท่านเอง