ดูแลเด็ก ใน ปทุมวัน, กรุงเทพมหานคร

ดูแลเด็ก ใน ปทุมวัน, กรุงเทพมหานคร

คุณต้องการใช้บริการนี้เมื่อไหร่?
ตอนนี้
ระบุวันที่

วิธีการทำงาน

Saijai

ติดต่อเรา

ติดต่อเราโดยตรงผ่าน LINE OA เพื่อจองบริการที่คุณต้องการ

Saijai

แจ้งรายละเอียดให้เราทราบ

เลือกบริการ วันที่ เวลา และสถานที่ที่คุณต้องการให้ตรงกับความต้องการของคุณ

Saijai

ยืนยันการจองของคุณ

เราจะยืนยันการจองของคุณภายใน 24 ชั่วโมงผ่านทาง LINE OA

ยังไม่มีข้อมูลผู้ให้บริการ
ยังไม่มีข้อมูลผู้ให้บริการ

ข้อมูลสถิติน่าสนใจเกี่ยวกับ

Saijai จำนวนประชากร
Saijai จำนวนประชากรเด็ก (แรกเกิด-14 ปี)
Saijai จำนวนประชากรสูงอายุ (60 ปี ขึ้นไป)
Saijai จำนวนสัตว์เลี้ยง สุนัข

รีวิวล่าสุด

พี่เลี้ยงเด็กที่จ้างผ่านเว็บใส่ใจคือดีจริง ๆ พี่เลี้ยงเด็กมีประสบการณ์ในการเลี้ยงดูเด็กและเป็นคนที่ซื่อสัตย์มาก ทำให้คนเป็นแม่อย่างเราหายห่วงลูกเลยจริง ๆ หากใครที่กำลังมองหาพี่เลี้ยงเด็ก บริการของทางใส่ใจถือเป็นตัวเลือกที่ดีเลยทีเดียวสำหรับคุณพ่อคุณแม่ยุคใหม่ที่ต้องทำงานนอกบ้าน
Saijai
กรรชัย วงศ์พานิชญ์
3 ปีที่แล้ว
ดิฉันกับสามีทำงานประจำทั้งคู่ค่ะ ไม่มีใครคอยอยู่ดูแลลูกที่บ้านเลย ลูกติดนิสัยชอบอยู่แต่ในบ้านและซนกับพี่เลี้ยงมาก จนพี่เลี้ยงหลาย ๆ คนทนไม่ไหวถึงกับขอลาออกเอง โชคดีที่ได้เจอพี่เลี้ยงคนนี้บนเว็บใส่ใจ พี่ลี้ยงเข้ากับน้องได้ดีค่ะ
Saijai
วิลาภรณ์ สุทธิรักษ์
3 ปีที่แล้ว
เปลี่ยนพี่เลี้ยงเด็กมาหลายคน ส่วนมากราคาสูง ๆ ทั้งนั้น แต่อยู่ไม่ได้นานก็ลาออก ลองจองพี่เลี้ยงผ่านเวปใส่ใจ เยี่ยมมากเลยครับ แฟนสบายใจ หมดปัญหา ไม่ต้องจ้างพี่เลี้ยงราคาแพง ได้ราคาแบบสมเหตุสมผล แถมมีคุณภาพครับ
Saijai
จิตวัชร จันประทีป
3 ปีที่แล้ว
บ้านอยู่แถว สุขุมวิท71 ลองใช้เว็บใส่ใจครั้งแรก เพราะเพื่อนๆ แนะนำมา อยากได้พี่เลี้ยงเด็ก มองหามาหลายที่ ที่นี่รายละเอียดครบ ราคาชัดเจน โทรปรึกษาพนักงานก็อธิบายเข้าใจง่ายมาก สะดวกสบาย ง่ายกว่า search หาเองใน Google ชอบมากๆ ค่ะ
Saijai
นงคราญ แซ่ตั้ง
3 ปีที่แล้ว
เมื่อก่อนไม่กล้าจ้างพี่เลี้ยงเด็ก แต่ลองจ้างผ่านทางใส่ใจดู พี่เลี้ยงทำงานได้น่าพอใจมาก ๆ พูดเพราะมาก จนลูกเราติดคำพูดเลยค่ะ ราคาก็ที่ไม่สูงเกินไป จับต้องได้สำหรับคนที่มีรายได้ไม่เยอะอย่ามากต่อเดือน คุณแม่คนไหนอยากหาพี่เลี้ยงเด็ก แนะนำเลยค่ะ
Saijai
ชื่นนภา วัฒนพันธ์
3 ปีที่แล้ว

คำถามที่พบบ่อยสำหรับการค้นหา ดูแลเด็ก

หากคุณพ่อคุณแม่ต้องทำงานนอกบ้านและไม่มีเวลาเลี้ยงลูกเอง ลองเปรียบเทียบกันระหว่างส่งลูกไปเนอสเซอรี่และจ้างพี่เลี้ยงเด็กมาดูแลลูกที่บ้าน อะไรจะตรงใจคุณพ่อคุณแม่มากที่สุด
บริการรับเลี้ยงเด็กในปัจจุบันมีหลายทางเลือก ไม่ว่าจะเป็นพี่เลี้ยงเด็ก หรือเนอสเซอรี่ เรามาดูข้อดีข้อเสียกันเลยค่ะ

ข้อดีของพี่เลี้ยงเด็กที่บ้านมีดังนี้

1) พี่เลี้ยงสามารถดูแลลูกน้อยของคุณได้อย่างใกล้ชิด ลูกของคุณจะได้รับความเอาใจใส่ที่ส่งผลต่อพัฒนาการเด็กทางด้านอารมณ์
2) พี่เลี้ยงสามารถช่วยส่งเสริมพัฒนาการเด็กผ่านการทำกิจกรรมต่าง
3) พ่อแม่ประหยัดเวลามากขึ้น หากจ้างพี่เลี้ยงมาดูแลที่บ้าน
4) เด็กจะไม่ป่วยบ่อย เนื่องจากเด็กจะอยู่ในบ้านของตนเอง

ข้อดีของเนอสเซอรี่

1) เด็ก ๆ จะรู้จักการเข้าสังคม
2) เนอสเซอรี่มีบริเวณกว้างเพื่อให้เด็กได้ทำกิจกรรมหลากหลายรูปแบบ
3) เด็กจะได้ฝึกดูแลตัวเอง เพราะครูพี่เลี้ยงไม่ได้ดูแลเด็กแบบใกล้ชิด

ข้อเสียของพี่เลี้ยง

1) ค่าใช้จ่ายอาจจะสูงกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับเข้าศูนย์เนอสเซอรี่
2) เด็กอาจจะติดพี่เลี้ยงเกินไป
3) ลดความเป็นส่วนตัวของครอบครัว

ข้อเสียของเนอสเซอรี่

1) เด็กป่วยบ่อยเพราะมีภูมิคุ้มกันที่น้อยเนื่องจากอยู่กับเด็กหลายคน
2) ลูกจะไม่ได้รับการดูแลใกล้ชิดแบบตัวต่อตัวอาจส่งผลถึงอารมณ์ของเด็กได้
3) เด็กจะอยู่ห่างไกลจากพ่อแม่

หากคุณพ่อคุณแม่กำลังมองหาบริการพี่เลี้ยงเด็ก ใส่ใจมีบริการพี่เลี้ยงมืออาชีพที่พร้อมจะให้บริการคุณค่ะ
คุณสมบัติอะไรบ้างที่พ่อแม่ควรมองหาจากพี่เลี้ยงเด็กก่อนตกลงจ้าง
ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่คุณพ่อคุณแม่สักคนจะตัดสินใจหาใครมาดูแลลูกน้อยที่เปรียบเสมือนแก้วตาดวงใจ วันนี้ใส่ใจมีข้อมูลของทักษะและคุณสมบัติที่พี่เลี้ยงเด็กควรมีมาฝากให้คุณพ่อคุณแม่ลองเช็คกันดูก่อนตัดสินใจจ้างพี่เลี้ยงสักคน

1. พี่เลี้ยงเด็กต้องมีความอดทนสูง คุณพ่อคุณแม่ต้องมั่นใจว่าพี่เลี้ยงเด็กต้องมีความเข้าใจเด็ก สามารถรับมือกับสถานการณ์ต่าง ๆ ได้ดี และที่สำคัญที่สุดคือเป็นคนที่มีความอดทนสูง
2. พี่เลี้ยงเด็กควรรู้วิธีการปฐมพยาบาลเบื้องต้น ในกรณีเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดหรืออุบัติเหตุ พี่เลี้ยงต้องมีความรู้และทักษะการปฐมพยาบาลเบื้องต้น และสามารถช่วยเหลือเด็กได้ทันที เช่น เด็กที่อยู่ภายใต้การดูแลเกิดอุบัติเหตุหกล้ม มีแผลถลอก พี่เลี้ยงต้องรีบปฐมพยาบาลเบื้องต้นเพื่อไม่ให้เกิดการติดเชื้อของแผล เป็นต้น ดังนั้นคุณพ่อและคุณแม่ควรเลือกพี่เลี้ยงที่มีทักษะด้านการปฐมพยาบาลเบื้องต้นเพราะเป็นสิ่งจำเป็นมาก ๆ
3. พี่เลี้ยงเด็กควรมีทักษะการแก้ไขปัญหา พี่เลี้ยงจะต้องรู้วิธีการแก้ไขปัญหาเบื้องต้นได้โดยไม่จำเป็นต้องแจ้งผู้ว่าจ้างเสมอไปหากปัญหานั้นไม่ใช่ปัญหาที่ร้ายแรง
4. ทำอาหารเป็น ถือเป็นอีกหนึ่งทักษะที่พี่เลี้ยงเด็กจำเป็นต้องมี พี่เลี้ยงไม่ได้มีหน้าที่แค่ดูแลเด็กอย่างเดียวเท่านั้น แต่พี่เลี้ยงอาจจะต้องเตรียมอาหารให้เด็ก ๆ รับประทานในแต่ละมื้อด้วย หากอาหารอร่อยถูกปาก เด็กจะเจริญอาหารและอารมณ์ดี ที่สำคัญที่สุดที่พี่เลี้ยงต้องใส่ใจและจดจำด้วยว่าเด็ก ๆ ที่ดูแลนั้น แพ้อาหารอะไรบ้าง เพื่อป้องกันอุบัติเหตุที่อาจจะเกิดขึ้นจากการรับประทานสิ่งที่แพ้เข้าไป
5. มีความคิดสร้างสรรค์ในการส่งเสริมพัฒนาการเด็ก พี่เลี้ยงจะต้องเป็นคนที่มีความคิดสร้างสรรค์ สามารถร่วมทำกิจกรรมกับเด็ก ๆ ในระหว่างวัน ไม่ว่าจะเป็นทางด้านวิชาการหรือสันทนาการ เช่น พี่เลี้ยงเด็กอาจจะสอนเด็กนับเลข ฝึกการอ่าน หรือระบายสีเพื่อให้เด็กได้เรียนรู้ผ่านกิจกรรมที่สร้างสรรค์เหล่านี้
อะไรที่จะช่วยให้คุณพ่อคุณแม่คลายความกังวลเมื่อต้องปล่อยให้ลูก ๆ อยู่กับพี่เลี้ยงตามลำพัง
เมื่อคุณพ่อคุณแม่จำเป็นต้องจ้างพี่เลี้ยงมาดูแลลูก ๆ ของคุณ ความไว้วางใจและความน่าเชื่อถือเป็นหัวใจสำคัญในการตัดสินใจ คุณพ่อคุณแม่มีวิธีการใดบ้างที่จะหาพี่เลี้ยงที่วางใจได้ ใส่ใจมีวิธีการที่ช่วยให้คุณพ่อคุณแม่รู้จักตัวตนของพี่เลี้ยงเด็กมากขึ้น

1. ถือเป็นการเริ่มต้นที่ดีหากครอบครัวหรือเพื่อนของคุณพ่อคุณแม่เป็นผู้แนะนำพี่เลี้ยงเด็กที่พวกเขารู้จัก อย่างน้อยก็มีคนรับรองพวกเขาได้ แต่สิ่งสำคัญก็คือต้องทำการสัมภาษณ์พี่เลี้ยงเด็กและตรวจสอบประวัติของคุณเองเพื่อให้แน่ใจว่าเชื่อถือได้มากที่สุด
2. สำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่มองหาพี่เลี้ยงจากสื่อออนไลน์ หรือโซเชียลมีเดีย (Social Media) เช่น เฟสบุ๊ค หรือไลน์ มองหาพี่เลี้ยงเด็กที่มีรีวิวจากผู้ที่เคยใช้บริการก่อนหน้า ใช้เวลาอ่านและศึกษารีวิวเหล่านั้น
3. เชื่อสัญชาตญาณของตัวเอง เมื่อคุณพ่อคุณแม่มีโอกาสสัมภาษณ์พี่เลี้ยงเด็กก่อนเริ่มงาน หากมีสัญญาณที่ทำให้คุณพ่อคุณแม่รู้สึกไม่สบายใจ เช่น พี่เลี้ยงเด็กดูเป็นคนไม่กระตือรือร้น หรือไม่ยิ้มแย้มแจ่มใส จงเชื่อสัญชาตญาณของตัวเองที่ชี้ว่าคนคนนี้ไม่เหมาะสมกับงาน
4. ตรวจสอบประวัติ คุณพ่อคุณแม่อาจร้องขอให้พี่เลี้ยงตรวจสอบประวัติอาชญากรรมกับกองทะเบียนประวัติอาชญากร( http://www.criminal.police.go.th/ ) เพื่อให้แน่ใจว่าพี่เลี้ยงเด็กไม่มีประวัติกระทำผิดกฎหมายทั้งหมดนี้เป็นส่วนหนึ่งที่คุณพ่อคุณแม่สามารถทำได้เพื่อตรวจสอบความน่าเชื่อถือและช่วยในการตัดสินใจ
ในวันสัมภาษณ์พ่อแม่ควรตกลงอะไรกับพี่เลี้ยงเด็ก
ขั้นตอนของการสัมภาษณ์พี่เลี้ยงเด็กนั้นถือเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่ง เพราะไม่ใช่แค่คุณจะได้ทำความรู้จักกับพี่เลี้ยงที่คุณจะจ้าง แต่ในขั้นตอนนี้คุณต้องทำการตกลงกับพี่เลี้ยงเด็กก่อนเริ่มงาน ดังนั้นวันนี้ใส่ใจมีข้อแนะนำให้คุณพ่อคุณแม่ที่กำลังจะสัมภาษณ์พี่เลี้ยงเด็กและพูดคุยถึงข้อตกลงที่สำคัญมีอะไรบ้างมาดูกันค่ะ

1) ขอบเขตหน้าที่ที่คุณต้องการให้พี่เลี้ยงทำ เช่น ช่วยเลี้ยงลูกคุณขณะคุณไม่อยู่บ้าน ช่วยเตรียมกับข้าวให้ลูกน้อยรับประทานในแต่ละมื้อ ช่วยสอนการบ้านหากพี่เลี้ยงมีความสามารถ
2) วันและเวลาการทำงาน ในวันที่สัมภาษณ์คุณและพี่เลี้ยงจะต้องตกลงเรื่องวันเวลาการทำงานให้อย่างชัดเจน และคุณควรจะมีวันหยุดให้พี่เลี้ยงตาม กฎหมายกระทรวงแรงงาน นายจ้างต้องให้ลูกจ้างมีวันหยุดประจำสัปดาห์ และวันพักร้อน ได้ 6 วัน ต่อ ปี และต้องหยุดตามประเพณี ปีละไม่น้อยกว่า 13 วัน
3) ค่าจ้าง คุณจะต้องตกลงเรื่องค่าจ้างกับพี่เลี้ยงให้ชัดเจน หากพี่เลี้ยงปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างดี คุณควรที่จะเพิ่มเงินเดือนให้ตามความเหมาะสม ในกรณีที่พี่เลี้ยงเด็กทำงานในวันหยุดนายจ้างต้องจ่ายเงินค่าจ้างตามกฎหมายแรงงาน
4) ข้อตกลงในการอาศัยอยู่ในบ้าน หากคุณมีกฎระเบียบที่ต้องการให้พี่เลี้ยงเด็กปฏิบัติตามกฎที่คุณตั้งไว้ คุณต้องแจ้งให้พี่เลี้ยงเด็กรับทราบก่อนเริ่มงานเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต
5) ถ้าคุณเป็นหนึ่งคนที่ไม่อยากให้ลูกติดโทรศัพท์ คุณควรแจ้งให้พี่เลี้ยงทราบ และควรกำชับพี่เลี้ยงว่าไม่ให้ลูกของคุณเล่นโทรศัพท์ขณะที่คุณไม่อยู่ เพราะเด็กอาจได้รับผลกระทบจากการเล่นโทรศัพท์นานเกินไปจนส่งผลให้เกิดภาวะสมาธิสั้นและส่งผลกับสายตา ดังนั้นพี่เลี้ยงจะต้องหากิจกรรมที่ให้เด็กได้พัฒนาตนเองมากกว่าการเล่นโทรศัพท์มือถือ

ปทุมวัน วันก่อน จน วันนี้

ปทุมวัน วันก่อน จน วันนี้

ก่อนเขตปทุมวันจะมาเป็นศูนย์กลาง ทางธุรกิจย่านหนึ่งของกรุงเทพมหานคร ย้อนกลับไปประมาณสองร้อยปีก่อน ในพื้นที่เขตปทุมวันมีลักษณะเป็นทุ่งนา มีสภาพเป็นชนบทชานเมือง การไปมาหาสู่ใช้เส้นทางคมนาคม เพียงทางเดียวคือทางเรือโดยมีคลองแสนแสบ เป็นเส้นทางคมนาคม เชื่อมกับคลองผดุงกรุงเกษม ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระองค์ได้เสด็จทอดพระเนตรบริเวณคลองแสนแสบ ด้านทิศตะวันออกซึ่งเป็นเขตนาหลวง มีบัวพันธุ์ขึ้นตามหนองบึงอยู่มากจึงมีพระราชประสงค์ จัดทำเป็นสระบัวชานกรุงขึ้นไว้สำหรับเป็นที่ประทับพักผ่อน จึงได้ทรงนิมนต์พระสงฆ์มารับบิณฑบาตโดยสม่ำเสมอ ต่อมาได้ทรงโปรดเกล้าฯ ให้สร้างพระอารามหลวงขึ้น และพระราชทานพระอารามหลวงนั้น ว่า "วัดปทุมวนารามราชวรวิหาร" ซึ่งมีความหมายว่า"ป่าบัว" บริเวณ ดังกล่าวจึงมีชื่อเรียกว่า "ตำบลปทุมวัน" ซึ่งได้แก่วัดปทุมวนารามและบริเวณใกล้เคียง ส่วนที่ประทับยามเสด็จประพาสสวนสระบัวก็คือ "พระราชตำหนักวังสระปทุม" ซึ่งในปัจจุบันเป็นวังสระปทุม (วังที่ประทับของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี) บริเวณดังกล่าวจึงมีชื่อเรียกว่า ปทุมวัน

ปัจจุบันเขตปทุมวันเป็นเขตเศรษฐกิจหลักแห่งหนึ่งของกรุงเทพ และจัดเป็นศูนย์กลางพาณิชยกรรม โดยทั้งหมดจะตั้งอยู่ ตลอดแนวถนนสายหลัก ได้แก่ ถนนพญาไท ถนนพระรามที่ 1 ถนนพระรามที่ 4 และถนนเพลินจิต อาคารสำนักงานต่างๆ นอกจากนั้นเขตปทุมวัน เป็นพื้นที่ที่มีย่านพาณิชยกรรมหลักของกรุงเทพมหานคร ได้แก่ ย่านสยาม-ปทุมวัน และย่านราชประสงค์ ซึ่งประกอบด้วยห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ เช่น เซ็นทรัลเวิลด์ สยามพารากอน และมีย่านพาณิชยกรรมสำนักงานสำคัญ ได้แก่ ย่านถนนวิทยุ อยู่ในพื้นที่ จึงมีค่าคะแนนเฉลี่ยประเภทแหล่งจับจ่ายใช้สอย สถานที่บริการสาธารณะ และธุรกรรม อยู่ในเกณฑ์สูง เป็นแหล่งท่องเที่ยวของกรุงเทพมหานคร มีร้านค้า ร้านอาหารนานาชาติ สถานประกอบการ จำนวนมาก จากข้อมูลธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ว่า ความเคลื่อนไหวด้านมูลค่ารวมด้านเงินฝากและเงินให้สินเชื่อของธนาคารพาณิชย์ทั้งระบบ ซึ่งแยกเป็นรายเขตในกรุงเทพฯ จำนวน 50 เขต พบว่า เขตที่ครองแชมป์มียอดเงินฝากสูงสุด 5 อันดับในเดือนสิงหาคม 2557 ได้แก่ 1.เขตปทุมวัน มียอดเงินฝาก 424,998 ล้านบาท 2.เขตคลองเตย 323,858 ล้านบาท 3.เขตพญาไท 306,787 ล้านบาท ซึ่งประชาชนกว่า 80 % ในเขตปทุมวัน ประกอบอาชีพการค้า การธนาคารและการพาณิชย์ อยู่ในพื้นที่ของเขตปทุมวันนั้น ที่มีเนื้อที่ โดยประมาณ 8.369 ตารางกิโลเมตร และได้ แบ่งพื้นที่การปกครองเป็น 4 แขวง ได้แก่ แขวงปทุมวัน แขวงวังใหม่ แขวงรองเมือง และแขวงลุมพินี



สักการะ 6 ศาลเทพเจ้าทางศาสนาฮินดู แยกราชประสงค์ เขตปทุมวัน

สักการะ 6 ศาลเทพเจ้าทางศาสนาฮินดู แยกราชประสงค์ เขตปทุมวัน

เมื่อมีโอกาสเดินทางมาถึงเขตปทุมวันแล้ว ลองหาโอกาสไหว้สักการะ 6 ศาลเทพเจ้า ทางศาสนาฮินดู แยกราชประสงค์ ความเชื่อที่อยู่ควบคู่กับสังคมไทยบนแยกราชประสงค์ เขตปทุมวัน 6 องค์เทพที่ขึ้นชื่อในเรื่องความศักดิ์สิทธิ์ และเป็นที่เคารพบูชาจากนักท่องเที่ยวที่มีจุดหมายมาสักการะ เทพเจ้าตามความเชื่อ ทั้งคนไทยและชาวต่างชาติ เพื่อเสริมสิริมงคลให้กับชีวิต

ศาลท่านท้าวมหาพรหม หน้าโรงแรมแกรนด์ ไฮแอท เอราวัณ ถนนราชดำริ แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน ณ ศาลท้าวมหาพรหมแห่งนี้ มีความเชื่อในด้านทรงประทานโชคลาภ โดยที่องค์ท้าวมหาพรหมจะมีพระพักตร์ 4 พระพักตร์ และในแต่ละพักตร์แทนทิศทั้ง 4 ซึ่งมีความหมายที่แตกต่างกัน โดยมีความเชื่อว่า ทิศเหนือ-ขอพรเรื่องหน้าที่การงาน ทิศใต้-ขอพรเรื่องเกียรติยศ ชื่อเสียง ทิศตะวันตก-ขอพรเรื่องอนาคต และทิศตะวันออก-ขอพรเรื่องครอบครัว อีกทั้งยังมีความเชื่อที่ว่า พระพักตร์ สี่พระพักตร์ ทำให้พระองค์สามารถมองเห็นและปกปักรักษาได้ทั้งโลกมนุษย์และสวรรค์ พระองค์ช่วยปัดเป่าความขัดข้อง อุปสรรค และส่งเสริมโชคและความสำเร็จ

ศาลพระตรีมูรติ หน้าห้างสรรพสินค้า เซ็นทรัลเวิลด์ (ส่วนห้างอิเซตัน) เดิมศาลพระตรีมูรติตั้งอยู่บริเวณหัวมุมแยกราชประสงค์ แต่เมื่อเซ็นทรัลพัฒนาเข้าปรับปรุงศูนย์การค้าและเปลี่ยนชื่อจาก "เวิลด์เทรดเซ็นเตอร์" เป็น "เซ็นทรัลเวิลด์" ได้ย้ายศาลดังกล่าวไปอยู่คู่กับศาลพระพิฆเนศวร โดย พระตรีมูรติเป็นรูปเคารพหนึ่งที่รวมเทพทั้ง 3 ไว้ในรูปเดียวกัน อันได้แก่ พระพรหม (ผู้สร้าง) พระวิษณุ (ผู้ปกป้อง) และพระศิวะ (ทำลาย) ด้วยการรวมตัวกันของ “พลังทั้งสาม” ที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดไว้ในรูปเดียว จะมีความหมายที่แสดงถึงความอุดมสมบูรณ์ทั้งในชีวิต ความรัก และการงาน พระตรีมูรติเป็นที่นิยมบูชาในหมู่หนุ่มสาวในฐานะ “เทพแห่งความรัก”

พระนารายณ์ทรงสุบรรณ หน้าโรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล ด้วยความเชื่อมาสักการะบูชาเพื่อความเจริญทางด้านธุรกิจ ซึ่งพระนารายณ์นั้น ถือเป็นเทพ ที่ทำหน้าที่คุ้มครองและรักษาโลก และด้วยความเชื่อที่มีต่อองค์พระนารายณ์ว่าเป็นเทพที่คอยรักษาปัดเป่าสิ่งไม่ดี เคราะห์ ภยันตราย โชคร้าย และมารทั้งปวง

พระพิฆเนศวร หน้า ห้างสรรพสินค้า อิเซตัน ด้วยความเชื่อว่า พระองค์ทรงเป็นที่นับถือในฐานะเทพแห่งศิลปวิทยาการ เทพผู้ขจัดอุปสรรค อีกทั้งทรงเป็นเทพผู้ทรงบันดาลความสำเร็จและพระผู้ปกป้องคุ้มครองจากภยันตรายและเป็นยอดกตัญญู

พระแม่ลักษมี บนชั้น 4 ของศูนย์การค้าเกษรวิลเลจ หลายคน เข้ามาสักการะเพื่อขอเรื่องโชคลาภและความรัก พระแม่ลักษมีเป็นมเหสีคู่ทุกข์คู่ยากของพระนารายณ์ และพระนารายณ์มีชายาเพียงองค์เดียว และ พระแม่ลักษมีเป็นมารดาพระกามเทพ

ศาลพระอินทร์ หรือท้าวอัมรินทราธิราชศูนย์การค้าอัมรินทร์พลาซ่า เป็นเทพเจ้าองค์แรกสุดของศาสนาพราหมณ์ฮินดู องค์อัมรินทราธิราชที่มีพระวรกายสีเขียวหยกเข้มมีพระเนตรถึงพันดวงนี้ คือเทวดาผู้เป็นใหญ่ในสวรรค์ชั้นดาวดึงค์ มอบความสุข ความสมบูรณ์ เกษตรมักมาขอพรเพราะพระอินทร์เป็นราชาแห่งเทพ บันดาลฟ้าฝนได้

ไม่ว่าวันเวลาจะเปลี่ยนไปเท่าใด คนทุกคนต่างหาสิ่งยึดเหนี่ยวทางจิตใจ ยังคงรักษาไว้ซึ่งความเชื่อ และการปฏิบัติ สักการบูชาเมื่อมีโอกาส และจะยังคงอยู่คู่ สี่แยกเศรษฐกิจนี้ต่อๆ ไป ณ แยกราชประสงค์ เขตปทุมวัน



เขตปทุมวัน ศูนย์กลางโรงเรียนกวดวิชาในตำนาน

เขตปทุมวัน ศูนย์กลางโรงเรียนกวดวิชาในตำนาน

เชื่อหรือไม่ว่าการกวดวิชา ไม่ใช่เรื่องใหม่เลยสำหรับประเทศไทย ย้อนกลับไปในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ชาวจีนที่มีฐานะดีได้มีการจ้างครูจีนเข้ามาสอนภาษาจีนให้แก่ลูกหลาน และบุคคลที่จะไปเรียนต่อในประเทศจีน และจากในเอกสารโครงการวิจัยโดยสำนักนโยบายและยุทธศาสตร์ ได้บันทึกไว้ว่า ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ราชการส่งนักเรียนไทยจำนวน 206 คน ไปศึกษาต่างประเทศตามความต้องการของกระทรวงต่างๆ มีการสอบชิงทุน มีการเรียนภาษาเพื่อเตรียมตัวไปต่างประเทศในยุคนี้ด้วย ต่อมามีการระบุถึง "โรงเรียนกลางคืน" ในสมัยรัชกาลที่ 6 เปิดสอนในเวลาหนึ่งทุ่มจนถึงสามทุ่ม ส่วนใหญ่เปิดสอนภาษาอังกฤษ นักเรียนที่มาเรียนเพื่อเตรียมตัวสอบชิงทุนคิง (King’ s Scholarship) เพื่อไปศึกษาต่อยังต่างประเทศ

หลังยุคฟองสบู่แตก หรือต้มยำกุ้ง พ.ศ. 2540 ศูนย์กลางของโรงเรียนกวดวิชาจะอยู่ที่ สยามสแควร์ เขตปทุมวัน เพราะมีการเดินทางมาที่สะดวก มีรถไฟฟ้า มีห้างสรรพสินค้า มีร้านค้า ร้านอาหาร ให้ผู้ปกครองที่มาเฝ้ารอลูกหลาน ทุกๆ วันจะมีภาพ เด็กนักเรียนในชุดเครื่องแบบ แทบทุกสถาบัน มีทั้งเสื้อแขนยาว เสื้อแขนสั้น กางเกงขาสั้น หรือมาจากรั้วคอนแวนต์ และโรงเรียนดังๆ ของรัฐ เดินกันขวักไขว่อยู่บริเวณสยามสแควร์ ตลอดเวลา 10 ปี ด้วยเหตุที่จำนวนที่นั่งในโรงเรียนดังๆ มีจำกัด และต่อเนื่องไปยังคณะดังๆ ในมหาวิทยาลัยที่ต้องแข่งขัน นักเรียนจึงต้องมาหาความรู้เพิ่มเติม ทบทวน เพิ่มเทคนิคในการเรียนพิเศษ ทำให้เด็กนักเรียนจำนวนมากมาเรียนเพิ่มเติมที่สยามสแควร์ หลายๆ คนเมื่อมาถึงก็ตรงไปสมัครที่เรียนกวดวิชา ในวิชาที่ต้องการ ทำให้อุตสาหกรรมนี้เติบโต จนมีการคาดคะเนว่า น่าจะมีโรงเรียนกวดวิชา ที่มีรวมกันอยู่กว่า 30 โรงเรียน เด็กบางคนมาเพื่อที่จะเรียนเพียง 1 รอบ แต่หลายคนใช้เวลาวนเวียนหลายวิชาอยู่ในบริเวณนั้น โดยปรกติวันหนึ่งๆ จะมีนักเรียนประมาณ 10,000 – 20,000 คน หากเป็นวันเสาร์อาทิตย์ก็จะเพิ่มมากขึ้นเป็นเท่าตัว ใน 1 สัปดาห์จะมีนักเรียนหมุนเวียนมากวดวิชาในย่านนี้ ประมาณ 100,000 คน และกว่า 80 เปอร์เซ็นต์หลังจากเลิกเรียนแล้ว จะไม่กลับบ้าน มักจะเดินเลือกซื้อของ หาขนมอร่อยๆ ทาน เป็นปัจจัยหลักที่ขับเคลื่อน สยามสแควร์ จนเป็นตำนาน เป็นภาพจำ เป็นบทบันทึก ของคนรุ่นหนึ่ง ที่ผ่านการกวดวิชา แถวสยามสแควร์ แม้วันนี้ระบบ วิธีการเรียนรู้เปลี่ยนไปตามยุคสมัย แต่เรื่องราวของสยามสแควร์ยังดำเนินต่อไป เพื่อให้คนรุ่นใหม่กลับมาสร้างตำนานอีกครั้ง