วิธีการทำงาน
ติดต่อเรา
ติดต่อเราโดยตรงผ่าน LINE OA เพื่อจองบริการที่คุณต้องการ
แจ้งรายละเอียดให้เราทราบ
เลือกบริการ วันที่ เวลา และสถานที่ที่คุณต้องการให้ตรงกับความต้องการของคุณ
ยืนยันการจองของคุณ
เราจะยืนยันการจองของคุณภายใน 24 ชั่วโมงผ่านทาง LINE OA
ชอบการสอน การถ่ายทอดให้น้องๆเข้าใจในสิ่งที่เรารัก
ชอบคุย มีจิตเมตตาเด็ก รักเด็ก
ประสบการณ์สอน 5 ปี
-ติวการบ้านทุกวิชาอสช. บางรัก (EP) อนุบาล1จนถึงประถมศึกษาปีที่2
-ติวม.3 คณิต วิทยาศาสตร์ แกรมม่า(ภาษาอังกฤษ)
ติวสอบเข้าเตรียมอุดม สามเสน ศึกษานารี และสตรีวิทยาค่ะ
-ติวเพิ่ม ม.ปลาย ฟิสิกส์ เคมี โรงเรียนสามเสน บางปะกอก สารสาสน์ประชาอุทิศ และสารสาสน์วิเทศศึกษา ติดมหาลัยชั้นนำ (วิศวะ ลาดกระบัง จุฬา )
มีความรักและความเมตตาต่อลูกศิษย์มีความเสียสละ หมั่นเพียรศึกษาปรับปรุงวิธีการสอนเพื่อพัฒนาตนเองอยู่เสมอมีความเข้าใจและเอาใจใส่ตัวศิษย์ทุกคนเป็นกำลังใจและช่วยสร้างแรงบันดาลใจเพื่อให้ผู้เรียนเป็นคนที่ใฝ่รู้เป็นแบบอย่างที่ดีมีจรรยาบรรณ มีจิตวิญญาณของความเป็นครูสามารถถ่ายทอดความรู้ได้เป็นอย่างดีมีวิธีการสอนที่หลากหลายมีวิสัยทัศน์กว้างไกลมีความยุติธรรมยอมรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น รวมถึงการยอมยอมรับและเข้าใจความแตกต่างของเด็กแต่ละคน
ประสบการณ์สอนมากกว่า 3 ปี ผู้สอนสอบผ่านการสอบวัดระดับภาษาจีน HSK5 และ TOCFL Level 3 แลกเปลี่ยน ณ Guangxi University of Foreign ประเทศจีน 1 ปี เคยเป็นวิทยากร ล่าม organizer จัดงานสัมพันธ์ไทย-จีน เคยได้ทุนปริญญาโท 100% ณ National Changhua University of Education ไต้หวัน รีวิวจากผู้เรียนจริงมีมากกว่า 30+ รีวิว สามารถขอดูได้ค่ะ
แสดงผล 1 ถึง 20 จาก 25 ผลการค้นหา
1 2ข้อมูลสถิติน่าสนใจเกี่ยวกับ
รีวิวล่าสุด
คำถามที่พบบ่อยสำหรับการค้นหา ติวเตอร์
1) ติวเตอร์ควรมีเทคนิคในการสอนเพื่อดึงดูดความสนใจของผู้เรียน การถ่ายทอดความรู้ให้แก่ผู้เรียนนั้น จำเป็นต้องใช้เทคนิคที่น่าสนใจและสนุก เพื่อทำให้ผู้เรียนได้รับความรู้ที่เราสอนอย่างมีประสิทธิภาพ หากติวเตอร์ถ่ายทอดความรู้ทางวิชาการที่ตึงเครียดมากเกินไป อาจทำให้เด็กไม่สนใจเรียนและทำให้เบื่อหน่ายได้
2) การเป็นติวเตอร์ควรมีความยืดหยุ่นทั้งในเวลาการสอนหรือสถานที่การสอน ในบางครั้งติวเตอร์อาจจะต้องเปลี่ยนแผนการสอนให้เข้ากับนักเรียนแต่ละคน บางครั้งนักเรียนของคุณไม่สะดวกเรียนที่บ้าน อาจจะสะดวกเรียนตามร้านกาแฟ ห้องสมุดหรือตามสถานที่สาธารณะต่าง ๆ ดังนั้นติวเตอร์จะต้องปรับการสอนให้เหมาะสมกับความต้องการของนักเรียนแต่ละคน
3) ติวเตอร์จะต้องมีความอดทนสูงและเข้าใจ หากนักเรียนของคุณมีข้อสงสัยในเนื้อหาที่เรียนนั้น คุณจะต้องอธิบายจนกว่านักเรียนจะเข้าใจโดยต้องใช้ความพยายามและความอดทนเพราะถือเป็นการช่วยเหลือนักเรียนให้มีผลการเรียนที่ดีขึ้น
4) ทักษะการสื่อสารกับนักเรียน แน่นอนว่าการสอนทักษะที่จำเป็นต้องใช้มากที่สุดคือทักษะการพูด ติวเตอร์ต้องใช้วิธีการพูด วิธีการอธิบายให้เข้าใจมากที่สุด บางครั้งเนื้อหาการเรียนนั้นยากแล้ว หากติวเตอร์ไม่มีวิธีการพูดให้เข้าใจได้ง่ายจะทำให้นักเรียนไม่เข้าใจในเนื้อหาที่ติวเตอร์สอน
นี่คือทักษะขั้นพื้นฐานที่ติวเตอร์ควรมี ดังนั้นหากจะหาติวเตอร์ที่ดีมาสอนลูก ๆ ของคุณที่บ้าน คุณสมบัติดังกล่าวของติวเตอร์สามารถประกอบการตัดสินใจของผู้ปกครองได้ค่ะ
1) เหตุผลหลัก ๆ ของการเรียนพิเศษคือ นักเรียนอาจจะไม่เข้าใจการเรียนในห้องเรียนจึงตัดสินใจเรียนเสริมเพื่อจะได้เรียนให้ทันเพื่อน ดังนั้นการเรียนพิเศษแบบตัวต่อตัวกับติวเตอร์จะช่วยทำให้นักเรียนเข้าใจเนื้อหาบทเรียนมากขึ้น เมื่อนักเรียนกลับไปเรียนที่โรงเรียน นักเรียนจะเข้าใจเนื้อหาที่อาจารย์สอนมากขึ้น
2) นักเรียนได้ฝึกทำข้อสอบหรือแบบฝึกหัด และสามารถทำข้อสอบได้เมื่อเรียนที่โรงเรียน เพราะแน่นอนจุดสำคัญที่สุดของการเรียนของเด็กไทยเพื่อให้ได้คะแนนดี ๆ หรือเกรดสวย ๆ นั้นมาจากการทำข้อสอบเป็นหลัก ดังนั้นติวเตอร์จะให้ทริคการทำโจทย์ต่าง ๆ ให้นักเรียนเพื่อให้นักเรียนสามารถเอาไปใช้ในสนามสอบได้
3) ติวเตอร์ส่วนตัวให้ความสนใจนักเรียนแบบใกล้ชิด การเรียนแบบกลุ่มใหญ่ในโรงเรียนคุณครูอาจไม่สามารถให้ความสนใจนักเรียนทุกคนได้ เมื่อนักเรียนมีข้อสงสัย ไม่เข้าใจเนื้อหา และไม่กล้าที่จะยกมือถามครูผู้สอน หากนักเรียนจ้างครูพิเศษมาสอนที่บ้าน นักเรียนสามารถถามหรือพูดคุยกับคุณครูสอนพิเศษได้ตลอด และหากนักเรียนอยากให้คุณครูเน้นเนื้อหาใดเป็นพิเศษก็สามารถบอกคุณครูผู้สอนได้เลย เพื่อที่นักเรียนจะได้เข้าใจวิชานั้น ๆ มากขึ้น
ดังนั้นการเรียนพิเศษนั้นสามารถช่วยให้นักเรียนมีผลการเรียนที่ดีขึ้นแน่นอนค่ะ
1) คุณต้องอ่านประวัติติวเตอร์ให้ดีก่อนทำการจ้าง สถาบันการศึกษา ข้อมูลการติดต่อติวเตอร์ ดูประวัติการทำงาน ประสบการ์ณต่าง ๆ ในการสอน เพื่อประกอบการตัดสินใจในการจ้าง หากติวเตอร์มีประสบการณ์มากเท่าไหร่ ถือว่าติวเตอร์มีคุณภาพที่จะถ่ายทอดวิชาความรู้ให้คุณค่ะ
2) ก่อนจะทำการจ้างคุณควรจะสอบถามติวเตอร์ให้แน่ชัดถึงเนื้อหาที่สอน บทเรียนที่ติวเตอร์จะสอนมีอะไรบ้าง หรืออาจจะถามติวเตอร์โดยตรงเลยว่าติวเตอร์จะเน้นบทไหนเป็นพิเศษ อีกทั้งน้อง ๆ ยังสามารถสอบถามถึงสื่อการสอนที่ติวเตอร์เตรียมให้กับผู้เรียน ไม่ว่าจะเป็นหนังสือหรือมีชีทแจกให้
3) ข้อตกลงเรื่องเวลาและสถานที่ คุณจะต้องคุยกับติวเตอร์ถึงวันเวลาและสถานที่ที่ต้องการเรียนให้ชัดเจน หากคุณสะดวกเรียนที่บ้านของคุณ คุณจะต้องแจ้งกับติวเตอร์โดยตรง หากในกรณีคุณสะดวกเรียนตามที่สาธารณะ เช่น ร้านกาแฟ ห้องสมุด คุณจะต้องแจ้งให้ติวเตอร์ทราบก่อนการเรียนเสมอ อย่างไรก็ดีใส่ใจแนะนำให้น้อง ๆ เลือกสถานที่ที่เหมาะสม หากสถานที่มีเสียงดังและมีคนพลุกพล่าน จะทำให้น้อง ๆ เสียสมาธิในการเรียนได้ค่ะ
หากน้อง ๆ ตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้นดังกล่าวแล้ว น้อง ๆ สามารถจองติวเตอร์บนเว็บไซต์ใส่ใจได้เลยค่ะ ติวเตอร์คุณภาพรอที่จะถ่ายทอดความรู้ให้น้อง ๆ อยู่ค่ะ
ความเป็นมาของเมืองสมุทรปราการ
สมุทรปราการ เป็นเมืองที่มีความสำคัญมาแต่โบราณ เนื่องจากที่ตั้งเป็นเขตยุทธศาสตร์ทางน้ำ"สมุทรปราการ" มาจากคำว่า "สมุทร" ซึ่งแปลว่าทะเล และ "ปราการ" ที่แปลว่า กำแพง จึงมีความหมายโดยรวมว่า "กำแพงริมน้ำ" และหากย้อนหลังไปราว 800 ปีเศษ ชนชาติขอมซึ่งมีความรุ่งเรืองอยู่ในขณะนั้นได้สร้าง เมืองพระประแดงบริเวณปากแม่น้ำเจ้าพระยาเพื่อเป็นเมืองหน้าด่านซึ่งสันนิษฐานว่าในปัจจุบันคือบริเวณ ท่าเรือคลองเตย และต่อมาแผ่นดินบริเวณรอบเมืองพระประแดงนั้นได้งอกออกไปในทะเลโดยทิศใต้แผ่นดิน งอกถึงแถบตำบลปากคลองบางปลากดซึ่งอยู่ทางฝั่งขวาของแม่น้ำเจ้าพระยา และทางฝั่งซ้ายของแม่น้ำ เจ้าพระยาแผ่นดินได้งอกถึงบริเวณตำบลบางด้วน คลองบางหมู และบางนางเกรง ทำให้เมืองพระประแดงมี ความสำคัญลดลง เนื่องจากอยู่ห่างจากบริเวณปากแม่น้ำ ต่อมาประมาณปี พ.ศ. 2163-2171 สมเด็จพระเจ้าทรงธรรมกษัตริย์แห่งกรุงศรีอยุธยา ได้โปรดให้สร้างเมืองสมุทรปราการขึ้นใหม่ เพื่อเป็นเมืองปากน้ำหน้าด่าน ของกรุงศรีอยุธยา และใช้เป็นสถานที่ทำการค้าขายกับชาวฮอลันดาโดยทรงพระราชทานที่ดินบริเวณคลองบาง ปลากด ให้ชาวฮอลันดาไว้เป็นเมืองการค้าซึ่งเรียกว่า "นิวอัมสเตอร์ดัม"
ในปี พ.ศ. 2306 สมัยกรุงธนบุรีเป็นสมัยที่สร้างราชธานีใหม่ สมเด็จพระเจ้าตากสินโปรดฯให้รื้อกำแพง เมืองพระประแดงเดิมที่ตำบลราษฎร์บูรณะ เพื่อไปสร้างกำแพงพระราชวังใหม่เมืองพระประแดงสูญหายสิ้นซากนับแต่นั้นมา ในปี พ.ศ. 2352 สมัยกรุงรัตนโกสินทร์พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ทรงเห็น ความสำคัญที่จะต้องสร้างเมืองทางชายฝั่ง เพื่อป้องกันศัตรูที่จะรุกล้ำมาจากทางทะเลสู่แม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งเดิม มีเมืองพระประแดงและเมืองสมุทรปราการเป็นเมืองหน้าด่าน แต่อยู่ในสภาพทรุดโทรมมาก พระองค์จึงทรง ดำริที่จะบูรณะเมืองพระประแดง ซึ่งอยู่ทางด้านขวาของแม่น้ำเจ้าพระยา ระหว่างเมืองสมุทรปราการและ กรุงเทพฯ โดยโปรดให้สมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาสุรสิงหนาท ลงสำรวจพื้นที่บริเวณปากน้ำเจ้าพระยา เพื่อสร้างเมืองขึ้นใหม่และสร้าง "ป้อมวิทยาคม" ที่ฝั่งซ้ายของแม่น้ำเจ้าพระยา
เรียนพิเศษอย่างไรให้ได้ความรู้มากที่สุด
การเรียนเสริม เรียนพิเศษ นอกเวลาเรียนปกติย่อมมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเรียนพิเศษกับติวเตอร์แบบตัวต่อตัว ที่ค่าเรียนก็ยิ่งสูงกว่าการเรียนแบบเป็นกลุ่ม แต่ไม่ว่าจะเลือกเรียนแบบเป็นกลุ่มหรือแบบตัวต่อตัว จุดมุ่งหมายของการเรียนพิเศษก็เพื่อพัฒนาการเรียนให้ดีขึ้น เข้าใจมากขึ้น และต้องเอาความรู้ที่ได้จากที่เรียนพิเศษหรือจากติวเตอร์ให้ได้มากที่สุด ซึ่งการที่จะเรียนให้เข้าใจและได้รับความรู้แบบเต็มที่นั้น ต้องเริ่มจากตัวผู้เรียนที่ต้องมีความตั้งใจเทคนิคและการตั้งใจในการเรียนที่ค่อนข้างสูง โดยเทคนิคในการเรียนที่ให้ได้ผลลัพธ์ออกมาดีอย่างที่หวังมีดังนี้
1.การตรงต่อเวลา เราเสียเงินไปกับการเรียนพิเศษทั้งทีไม่ใช่ถูกๆ เพราะฉะนั้นทุกนาทีมีค่าเราควรเก็บเกี่ยวความรู้เอามาให้มากที่สุด ควรเข้าเรียนให้ตรงเวลาจะได้ไม่เสียประโยชน์ที่จะได้รับ ยิ่งการเรียนแบบตัวต่อตัวผู้เรียนและติวเตอร์สามารถที่จะยึดยุ่นเวลาได้เล็กน้อยแล้วแต่สถานการณ์
2.เมื่อสงสัยให้ถาม เมื่อเรียนกับติวเตอร์ หรือคุณครูท่านไหน ถ้าเราเกิดสงสัยอะไรก็ควรรีบถามให้หายสงสัย อย่าปล่อยทิ้งไว้นานๆ อาจจะทำให้เราไม่สามารถทำความเข้าใจในบทถัด ๆ ไปได้ เสียเงินไปแล้วก็อย่าอายที่จะถาม
3.การอ่านทบทวน ในแต่ละวันที่เราได้ไปเรียนพิเศษมาว่าเราเรียนพิเศษอะไรมาบ้างแล้ว ก็อ่านผ่านตาสักหน่อยจะได้เป็นการทบทวนไปในตัวด้วย ซึ่งการอ่านทบทวนเป็นวิธีที่ดีในการทำให้เราสามารถเรียนรู้ได้เข้าใจยิ่งขึ้น
4.ตั้งใจเรียนให้มากๆ เพราะทุกบาทนั้นมีค่า เมื่อได้เรียนแล้วต้องตั้งใจเรียนให้ดีๆ เพื่ออนาคตที่ดีของตัวเราเอง เมื่อเราได้เรียนพิเศษเพิ่มเติมแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญคือ ต้องตั้งใจเรียนในห้องเรียนด้วย เพราะอย่างไรการเรียนในห้องเรียนเวลาเรียนปกติก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน
เทคนิควิธีต่าง ๆ ที่คนเรียนเก่งเขาใช้
นักเรียนหลายคนคงเคยเจอกับปัญหา เรียนไม่ทันเพื่อน สอบตก และคิดว่าตัวเองเป็นคนหัวไม่ดี แล้วจะมีวิธีแก้ไขอย่างไรที่จะทำให้นักเรียนกลายเป็นคนเรียนดีหรือเรียนเก่งได้ อันดับแรกควรเริ่มจากความตั้งใจและการปรับทัศนคติ มีความตั้งใจที่จะทำให้สำเร็จจริง ๆ และอย่าคิดว่าที่ตัวเองเรียนไม่ดี เป็นเพราะว่าหัวไม่ดี ทำอย่างไรก็ไม่มีทางเรียนดีได้ ทัศนคติด้านลบจะบั่นทอนกำลังใจ ทำให้เราท้อ และล้มเลิกความตั้งใจในการเรียน จำไว้ว่าไม่มีใครเก่งมาตั้งแต่เกิด และทุกอย่างต้องเริ่มจากความพยายามตัวเราเอง ถ้าเราขยัน หมั่นอ่านหนังสือทุกวัน ซึ่งไม่จำเป็นเลยว่าจะต้องอ่านทีละเยอะๆ อ่านนานๆ แค่เรารู้จักแบ่งเวลา จัดตารางอ่านหนังสือ แค่นี้ก็ไม่ใช่เรื่องยากแล้วที่เราจะสามารถกลายเป็นคนเรียนเก่ง ถ้าไม่รู้จะเริ่มต้นยังไง ลองมาดู เทคนิคของคนเรียนเก่งกันเลย
1.การแบ่งเวลาเป็น
เคล็ดลับข้อแรก ถึงแม้ว่าเราจะชอบเล่นเกม อ่านการ์ตูน เล่นกีฬา ดูหนัง ฟังเพลง ช้อปปิ้ง ฯลฯ ขอแค่เราแบ่งเวลาให้เป็น เวลาไหนเล่นก็เล่น เวลาไหนเรียนก็เรียน แต่ขอเจียดเวลามาเรียนนอกเหนือจากในห้องเรียนสักวันละ 30 นาที 1 ชั่วโมงก็พอแล้ว
2.ทบทวนล่วงหน้า-หลังเรียน
ข้อนี้อาจถูกใจคนขี้เกียจจำนวนไม่น้อย เคล็ดลับง่ายๆ อ่านล่วงหน้าก่อนเข้าห้องเรียนสัก 10-15 นาที อ่านผ่านๆ แค่หัวข้อก็พอว่าวันนี้เราจะเรียนอะไรบ้าง พอตกเย็น ก็อ่านทบทวนผ่านๆ อีกรอบว่าวันนี้เราเรียนอะไรไป วันต่อวัน มันจะเข้าไปอยู่ในหัวเองไม่ต้องออกแรงจำให้เมื่อย แถมทำบ่อยๆ มันจะปะติดปะต่อกันเอง
3. คนเรียนเก่ง ไม่ผัดวันประกันพรุ่ง
หลายๆ คนจะรู้อยู่ว่าดินพอกหางหมูไม่ดี แต่ก็เชื่อว่าทุกๆ คนก็เคย หรือยังมีดินพอกหางหมูอยู่ทั้งนั้น มันลำบากมากที่ต้องมาตามแก้ดินพอกหางหมู
4. ลงมือทำโจทย์ แบบฝึกหัด การบ้าน
หลายคนอาจมองข้ามการทำโจทย์และแบบฝึกหัดต่างๆ ไปโดยสิ้นเชิง แล้วกลับไปให้ความสำคัญกับการเรียนเนื้อหา หรือทฤษฎีต่างๆ หลายๆ คนหนักข้อ แบบฝึกหัดข้อแรกที่ได้ทำคือในห้องสอบนั่นเอง แล้วมันจะทำได้ยังไง นักฟุตบอลเก่งๆ อย่างเมสซี่ เขามีความลับในความเก่งซ่อนอยู่ นั่นคือ เขาใช้เวลาเรียนทฤษฎีนิดเดียว เอาให้ได้ครบสักรอบสองรอบก็พอ แล้วใช้เวลาที่เหลือไปทุ่มเทให้กับการซ้อมในสนามอย่างหนักทุกวันๆ ถ้าอยากเรียนเก่งเหมือนที่เมสซี่เล่นบอลเก่ง เราก็ต้องขยันทำแบบฝึกหัดเยอะๆ เข้าไว้ ข้อนี้สำคัญมากๆ
SAIJAI "ใส่ใจ" เป็นเพียงแพลตฟอร์มที่ใช้สำหรับติดต่อสื่อสารระหว่างผู้ใช้บริการกับผู้ให้บริการดูแลเด็ก ดูแลผู้สูงอายุ ครูสอนพิเศษ/ติวเตอร์ แม่บ้าน/ทำความสะอาด คนขับรถ ดูแลสัตว์เลี้ยง เสริมสวย และช่างซ่อมบำรุงเท่านั้น "SAIJAI" ไม่ได้เป็นผู้ให้บริการหรือจ้างบุคคลใดให้บริการ ไม่มีสถานะเป็นนายจ้าง ผู้ว่าจ้าง ตัวแทน ผู้ร่วมทุน อย่างหนึ่งอย่างใดทั้งสิ้นของผู้ให้บริการ ผู้ให้บริการเป็นผู้รับจ้างอิสระ ซึ่งผู้รับบริการเป็นผู้ว่าจ้าง คุณภาพการให้บริการเป็นความรับผิดชอบทั้งสิ้นของผู้ให้บริการเอง การเรียกใช้บริการจากผู้ให้บริการ อาจมีความเสี่ยง ซึ่งผู้รับบริการรับทราบและยินดีใช้บริการ บนความเสี่ยงใด ๆ ในความรับผิดชอบของตัวท่านเอง