ติวเตอร์ภาษาอังกฤษ ใน สารภี, เชียงใหม่

ติวเตอร์ภาษาอังกฤษ ใน สารภี, เชียงใหม่

คุณต้องการใช้บริการนี้เมื่อไหร่?
ตอนนี้
ระบุวันที่
ผู้ให้บริการติวเตอร์ภาษาอังกฤษ ใน สารภี, เชียงใหม่:

วิธีการทำงาน

Saijai

ติดต่อเรา

ติดต่อเราโดยตรงผ่าน LINE OA เพื่อจองบริการที่คุณต้องการ

Saijai

แจ้งรายละเอียดให้เราทราบ

เลือกบริการ วันที่ เวลา และสถานที่ที่คุณต้องการให้ตรงกับความต้องการของคุณ

Saijai

ยืนยันการจองของคุณ

เราจะยืนยันการจองของคุณภายใน 24 ชั่วโมงผ่านทาง LINE OA

อัลภาชน์ เมืองศรี
อัลภาชน์ เมืองศรี
Saijai ประสบการณ์ 1-2 ปี

ไม่มีสิ่งใดบนโลกที่เป็นเรื่องยาก หากได้รับการอธิบายที่ดี

แสดงเพิ่มเติม
วรินธร  โขพิมพ์
วรินธร โขพิมพ์
Saijai ประสบการณ์ 3-4 ปี

วรินธร โขพิมพ์ ชื่อเล่นไอซ์ นักศึกษาชั้นปีที่ 2 คณะศิลปศาสตร์

- มีประสบการณ์การสอนพิเศษกับทางสถาบัน IQEQ Town Tutorial School สอนตั้งแต่ระดับอนุบาลไปจนถึงมัธยมปลาย

- มีประสบการณ์ทางด้านภาษามามากกว่า 10 ปี เรียนในห้องเรียน Intensive English Program ในระดับชั้นประถมศึกษา ห้องเรียนพิเศษ 2 ภาษา English Program ในระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น และ ห้องเรียนสายการเรียนภาษาอังกฤษ-ภาษาญี่ปุ่น ในมัธยมศึกษาตอนปลาย ปัจจุบันศึกษาอยู่คณะศิลปศาสตร์ สาขาวิชาภาษาอังกฤษ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ เชียงใหม่

- เป็นนักเรียนแลกเปลี่ยน ณ Nishinomiyakofu High School ประเทศญี่ปุ่น

- รับเป็นครอบครัวอุปถัมภ์ โดยมีนนักเรียนญี่ปุ่นมาอยู่ที่บ้าน

- มีโอกาสไป Summer กับโครงการ Hanamaru ณ จังหวัด Shimane ประเทศญี่ปุ่น

ลักษณะและนิสัยของติวเตอร์

- สอนในรูปแบบพี่สอนนอน

- มีกิจกรรมให้ทำตลอด เน้นการสนานาในชีวิตจริง

- มีไฟล์เอกสารส่งให้ฟรี โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย

- ใจดี และใจเย็น รักเด็ก

- ปรึกษาได้ทุกอย่าง สามารถถามได้ตลอดเวลาที่ไม่เข้าใจ

แสดงเพิ่มเติม
ชัญญา อุประคำ
ชัญญา อุประคำ
Saijai ประสบการณ์ 3-4 ปี
Saijai อายุ 27 ปี

ใจดี สอนสนุก เข้าใจคนไม่รู้

แสดงเพิ่มเติม
Nantanat Kangwansong
Nantanat Kangwansong
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี
Saijai อายุ 47 ปี

หากคุณกำลังมองหาติวเตอร์สอนภาษาอังกฤษ ภาษาไทย คณิตศาสตร์ สังคมศาสตร์ มาเรียนกับดิฉันสิคะ

- จากประสบการณ์การทำงานกับชาวต่างชาติมากกว่า 13 ปี ให้กับแผนก Visiting Schools Program แคมปัสเดียวกับโรงเรียนนานาชาติเปรมติณสูลานนท์ ดิฉันได้เป็นติวเตอร์ใหกับนักเรียนหลายคน

- ดิฉันมีทักษะ ความรู้ในการสอนนักเรียนชาวไทยและชาวต่างชาติและ มีความอดทน มีความเข้าใจถึงความต้องการของนักเรียน

- ขณะนี้ดิฉันได้ทำการสอนวิชาภาษาอังกฤษ ภาษาไทยและคณิตศาสตร์ ทั้งแบบออนไลน์แบะแบบตัวต่อตัวให้กับนักเรียนและผู้ใหญ่ชาวไทยและชาวต่างชาติ

แสดงเพิ่มเติม

ข้อมูลสถิติน่าสนใจเกี่ยวกับ

Saijai จำนวนประชากร
Saijai จำนวนประชากรเด็ก (แรกเกิด-14 ปี)
Saijai จำนวนประชากรสูงอายุ (60 ปี ขึ้นไป)
Saijai จำนวนสัตว์เลี้ยง สุนัข

รีวิวล่าสุด

มองหาและเปรียบเทียบราคาจากหลายๆ เว็บ เว็บนี้มีราคาแสดงไว้ชัดเจน จดไว้เป็นตัวเลือกอันดับหนึ่งในตอนแรก พอไปดูเว็บอื่น บางเว็บไม่ยอมบอกราคาไว้ ทำให้ต้องติดต่อหาเจ้าหน้าที่หลายขั้นตอน เสียเวลามากค่ะ สุดท้ายตัดสินใจเลือกที่นี่เพราะนอกจากราคาจะดีงามแล้ว ยังได้ติวเตอร์ดี มีประสบการณ์ คุ้มค่ากับที่จ่ายไปจริง ๆ ค่ะ
Saijai
สาลิณี อนันชัยกูร
4 ปีที่แล้ว
ประทับใจครับ ครูติวเตอร์สอนดี ให้เล่นเกมส์ฝึกภาษาอังกฤษควบคู่กับการเรียนทำให้ไม่น่าเบื่อ ส่วนตัวคิดว่าคุ้มค่ากับการจ้างมาก ๆ ครับ
Saijai
รัฐการ พูนพานิชย์
4 ปีที่แล้ว
ส่วนตัวเป็นคนไม่ชอบเรียนภาษาอังกฤษเลยเพราะคิดว่ามันยากเกินไป แต่จะบอกว่าติวเตอร์สอนภาษาอังกฤษที่เราจ้างผ่านใส่ใจทำให้เราเปลี่ยนวิธีคิดไปเลยจากที่เคยมองเรื่องภาษาเป็นเรื่องที่ยาก จนตอนนี้ทำให้เราสนใจอยากที่จะพัฒนาตัวเองในด้านการสื่อสารมาก ๆ ติวเตอร์สอนสนุก เป็นกันเอง ทำให้เราหายกังวลไปเลยค่ะ
Saijai
รริชา นาคนาวา
4 ปีที่แล้ว
ลูกเพิ่งเข้าเรียนโรงเรียนหลักสูตร2ภาษาครับ แต่ลูกมีปัญหาไม่กล้าพูดและใช้ภาษาอังกฤษที่โรงเรียนเพราะกลัวเรื่องแกรมม่าและการออกเสียงคำศัพท์มากๆ จนต้องตัดสินใจหาติวเตอร์มาช่วยสอน ซึ่งตัวของติวเตอร์ช่วยสอนและฝึกให้ลูกพูดสนทนาออกเสียง ตอนนี้ลูกมีความกล้าและมั่นใจในตัวเองมากขึ้นมากเลยครับ
Saijai
ชาธิต ประทีบศาสตร์
4 ปีที่แล้ว
จริงๆ ก็กังวลนะ ถึงแม้เราได้ภาษามาบ้าง เกรดก็โอเคแต่อยากเพิ่มความมั่นใจ ได้ติวเตอร์ภาษาอังกฤษจากเว็บใส่ใจ สอนเข้าใจง่าย แก้ไขปัญหาให้ตรงจุด ไวยากรณ์ภาษาอังกฤษเราแน่นขึ้น จากความกังวลเรื่อง TENSE ทั้ง12 ฝึกสนทนาและฟังจริงทุกรอบ แถมสอนการบ้านด้วย ตอนนี้สบายใจละ
Saijai
ญาณิน ธาดาวริศกุล
5 ปีที่แล้ว

คำถามที่พบบ่อยสำหรับการค้นหา ติวเตอร์ภาษาอังกฤษ

มีวิธีการอย่างไรให้เก่งภาษาอังกฤษมากขึ้น
ในสังคมปัจจุบันภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่ 2 ที่มีความสำคัญรองจากภาษาแม่ของเรา เพื่อที่เราจะได้ติดต่อสื่อสาร ทำงาน ทำธุรกิจกับชาวต่างชาติได้และอาจจะทำให้เราได้รับค่าตอบแทนที่สูงขึ้นเมื่อเทียบกับการที่ไม่มีความรู้ภาษาอังกฤษ ดังนั้นการเรียนภาษาอังกฤษให้เก่งจึงมีความสำคัญเป็นอย่างมาก

เรามีวิธีเรียนภาษาอังกฤษให้เก่งมาแนะนำกันค่ะ

1 เริ่มต้นง่าย ๆ ด้วยการพูดสื่อสารภาษาอังกฤษ คุณอาจจะพูดและอัดเสียงตัวเองไว้แล้วฝึกฝนบ่อย ๆ เพราะการฝึกซ้ำ ๆ จะทำให้เราเกิดความชำนาญและสามารถพัฒนาการพูดของเราได้อย่างมาก หรือการใช้ภาษาอังกฤษเพื่อพูดคุยกับเพื่อนในชีวิตประจำวันเป็นการช่วยฝึกภาษาอังกฤษได้อีกทางหนึ่งเช่นกัน
2 ฝึกการฟัง การที่เราฟังอย่างมีประสิทธิภาพจะช่วยให้เราเข้าใจและทำให้เราพูดเก่งขึ้นอีกด้วย เช่น ลองฟังเพลงภาษาอังกฤษ เพลงที่เราชอบไม่ว่าจะเก่าหรือใหม่ ลองฟังและหาเนื้อเพลงมาอ่านไปด้วย หรืออาจจะเป็นการดูภาพยนตร์แบบ Soundtrack ดูแบบ DVD ก็ได้ ซึ่งสามารถดูซ้ำไปซ้ำมาได้หลายรอบ เริ่มต้นจากการดูโดยมี Subtitle หลังจากเริ่มชินแล้วให้ลองปิด Subtitle อีกหนึ่งตัวเลือกก็คือ เปิดฟังคลื่นวิทยุภาษาอังกฤษจะทำให้เรารู้สึกชินกับเสียงและสำเนียงภาษาอังกฤษมากขึ้น
3 ลองอ่านหนังสือหรือบทความภาษาอังกฤษบน Website หรือหนังสือที่นำมาสร้างเป็นภาพยนตร์ ลองเริ่มจากเล่มง่าย ๆ อาจเป็นหนังสือเด็กหรือการ์ตูนซึ่งมีภาพประกอบที่ช่วยให้เข้าใจง่าย
4 การเขียน เริ่มต้นง่ายๆ จากการเขียนบันทึกประจำวัน ไดอารี่ หรือเขียนความคิดเห็น ใน Blog ภาษาอังกฤษ เริ่มต้นจากการเขียนโดยใช้ภาษาง่าย ๆ ไม่กี่ประโยคแล้วค่อย ๆ พัฒนาขึ้นเรื่อย ๆ

แม้จะมีคำกล่าวว่าไม่เก่งภาษาอังกฤษไม่ได้แปลว่าโง่ แต่เชื่อเถอะว่าความชำนาญภาษาอังกฤษส่งผลดีให้คุณแน่นอน
ครูสอนพิเศษหรือติวเตอร์ส่วนตัวจะช่วยให้คุณเก่งภาษาอังกฤษได้จริงหรือไม่
บทเรียนแรกของการเรียนภาษาอังกฤษ คือต้องก้าวข้ามความกลัว เพราะต่อให้เราเรียนภาษาอังกฤษมามากแค่ไหน แต่ถ้าเรากลัวจนไม่กล้าเอามาใช้ ทำให้การเรียนนั้นสูญเปล่า ความกลัวที่ว่าอาจเกิดจากการกลัวความผิดพลาด จนทำให้ความก้าวหน้าหยุดชะงัก เราสามารถแก้ปัญหาความกลัวได้โดยการด้วยการฝึกใช้บ่อย ๆ การฝึกใช้ภาษาอังกฤษเป็นประจำทำอย่างไร เราอาจเริ่มต้นจากการเรียนพิเศษภาษาอังกฤษกับติวเตอร์ตัวต่อตัว ซึ่งช่วยในเรื่องของการลดความตื่นเต้น ลดความประหม่า เพราะเป็นการฝึกฝนภาษาแบบตัวต่อตัว ไม่มีใครคอยจับตามาอง เมื่อเราได้ฝึกฝนและการทำซ้ำ ๆ ในทุก ๆ วัน จนเกิดเป็นความเคยชินและกลายเป็นนิสัยที่ติดตัวเราไปได้ เมื่อเราเริ่มต้นเราไม่ต้องสนใจว่ามันผิดหรือถูก ติวเตอร์จะเป็นคนคอยแนะนำและแก้ ประโยค ศัพท์ สอนทริคให้จำง่าย ติวเตอร์ยังสามารถพัฒนาสำเนียงเราได้ เพราะเมื่อหูของเราคุ้นชิน โดยธรรมชาติเราสามารถปรับสำเนียงให้เป็นไปตามคู่สนทนานั้น จากที่เราเริ่มใช้ศัพท์และประโยคที่ถูกต้องไปทีละนิด จนเกิดเป็นการพัฒนาให้กับตัวเราเอง เมื่อเราผ่านบทเรียนแรกกับติวเตอร์แล้ว บทเรียนต่อไปเราไม่ต้องกลัวอะไรแล้ว เปิดโอกาสให้กับตัวเอง กล้าที่จะสื่อสาร กล้าที่จะเขียนภาษาอังกฤษ ฝึกจดบันทึกเป็นภาษาอังกฤษ ที่มีติวเตอร์ส่วนตัวคอยชี้แนะ ในที่สุดเราได้ทักษะครบ ฟัง พูด อ่านและเขียน และภาษาอังกฤษสำหรับเราจะเป็นเรื่องง่ายนิดเดียว
จุดอ่อนของเด็กไทยในการเรียนภาษาอังกฤษคืออะไร และควรทำอย่างไรเพื่อพัฒนาการเรียนภาษาอังกฤษให้ดียิ่งขึ้น
อะไรคือจุดอ่อนของการเรียนภาษาอังกฤษของนักเรียนไทย แล้วเราจะแก้ได้อย่างไร ปัจจุบันหลายโรงเรียน มีการสอนภาษาอังกฤษตั้งแต่ชั้นอนุบาลและต่อเนื่องในทุกระดับชั้น แต่ทำไมภาษาอังกฤษยังคงเป็นจุดอ่อนสำหรับน้อง ๆ หลาย ๆ คน จากการค้นคว้าข้อมูลจากหลายแหล่งได้สรุปสาเหตุไว้คร่าว ๆ ดังนี้ว่า

1. ขาดการฝึกฝน ขาดคำศัพท์ เพราะส่วนใหญ่นักเรียน จะเรียนภาษาอังกฤษในห้องเรียน 45 นาทีถึง 1 ชั่วโมง ต่อวัน แต่เวลาที่เหลือแทบจะไม่ได้ใช้ภาษาอังกฤษเลย การเรียนการสอนส่วนใหญ่เน้นไปที่ให้ทำข้อสอบได้ ดังนั้นเด็กนักเรียนไทยส่วนหนึ่งเรียนภาษาอังกฤษเพื่อจะใช้ในห้องสอบ ทักษะอื่น ๆ และคำศัพท์นอกเหนือจากที่เรียนในห้องเรียนแทบจะไม่ได้ใช้เลย ทางแก้ไขคือน้อง ๆ นักเรียน ต้องฝึกฝน เรียนรู้เพิ่มเติม และเพิ่มคำศัพท์แล้วพยายามใช้ภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวัน อาจมีการรวมกลุ่มหรือชมรม ห้องเรียนพิเศษที่มีโอกาสได้ใช้ภาษาอังกฤษมากกว่าในห้องเรียน
2. เป็นเหตุต่อเนื่องจากข้อแรก คือขาดความมั่นใจเพราะกลัวพูดผิด กลัวพูดออกไปแล้วสื่อสารไม่ได้เลยไม่กล้าที่จะพูด บวกกับนิสัยของคนไทยที่ขี้อาย เกรงใจ เขิน ไม่กล้าแสดงออก จนไม่กล้าพูด ทางแก้ไขคือ เมื่อมีโอกาสได้ใช้ภาษาควรแสดงความสามารถและพยายามสื่อสารทั้งด้วยคำพูด น้ำเสียงและท่าทางประกอบกัน เมื่อผ่านไปได้ครั้งหนึ่งแล้ว ครั้งต่อ ๆไปจะตามมา ที่สำคัญต้องจำคำศัพท์ให้ได้มาก ๆ จะช่วยให้เราสื่อสารได้มากขึ้น
3. การเรียนการสอนที่ไม่ถูกหลัก ทำให้ไม่ชอบเรียนภาษาอังกฤษ อย่างที่รู้กันอยู่ว่าทุกวันนี้เด็กไทยของเราเริ่มเรียนภาษาอังกฤษ ตั้งแต่ระดับชั้นอนุบาล และได้รับการสอนภาษาอังกฤษอย่างต่อเนื่องมาเรื่อย ๆ มากกว่า 10 ปี แต่คนไทยเรายังไม่สามารถพูดภาษาอังกฤษได้ จากการศึกษาข้อมูลทำให้พบว่า การสอนภาษาอังกฤษที่ไม่ถูกต้องตั้งแต่แรก โดยที่เราเริ่มต้นสอนทักษะภาษาอังกฤษจากการอ่าน การเขียน ก่อนที่จะเรียนการฟังและการพูดภาษาอังกฤษ จึงทำให้การเรียนรู้การพูดภาษาอังกฤษของเด็กไทยนั้นเป็นเรื่องที่ยาก เพราะเมื่อทำไม่ได้เลยรู้สึกไม่สนุก ไม่อยากเรียน ครูผู้สอนควรสร้างบรรยากาศการเรียนให้สนุก เช่นเรียนภาษาอังกฤษจากเพลง แล้วค่อย ๆ แทรกเนื้อหาหลักไวยากรณ์หรือคำศัพท์ลงไป นักเรียนจะซึมซับความรู้เหล่านั้นไปโดยไม่รู้ตัว

ปัจจัยทั้งหมดนอกจากตัวของน้อง ๆ นักเรียนเอง ยังมีเรื่องของสภาพแวดล้อม ที่ส่งผลกระทบต่อผู้เรียนโดยตรง ถ้าปรับเปลี่ยนการเรียนการสอนสามารถทำให้นักเรียนได้ใช้ภาษาอังกฤษเป็นประจำ และได้ช่วยพัฒนาจุดอ่อนของน้องๆนักเรียนอย่างตรงจุด จะสามารถช่วยพัฒนานักเรียนได้อย่างมีประสิทธิภาพ

TOEIC, TOEFL และ IELTS มีความสำคัญอย่างไร ใส่ใจมีติวเตอร์สอนหรือไม่
TOEIC (Test of English for International Communication) หรือที่เราเรียกกันสั้น ๆ ว่า “โทอิก” เป็นการทดสอบวัดระดับภาษาอังกฤษสำหรับคนที่ต้องการจะสมัครงานจำพวกการบิน การโรงแรม งานท่องเที่ยว ขนส่ง รวมไปถึงบริษัทเอกชนอีกหลายแห่ง โดยการสอบโทอิกนี้จะเน้นไปที่การวัดระดับทักษะการฟังและการอ่านเป็นหลัก ปัจจุบันนี้การสอบโทอิกได้แบ่งออกเป็น 2 พาร์ทด้วยกันคือ การฟังและการอ่าน (TOEIC Listening and Reading Test) และพาร์ท การพูดและการฟัง (TOEIC Speaking and Writing Tests) ซึ่งข้อสอบจะเป็นแบบปรนัย รวมทั้งสิ้น 990 คะแนน

TOEL (Test of English as a Foreign Language) หรือที่เราเรียกสั้น ๆ ว่า “โทเฟิล” หรือ “โทเฟล” นั่นเอง เป็นแบบทดสอบวัดระดับภาษาอังกฤษสำหรับผู้ที่ไม่ได้ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาหลักในการสื่อสาร หรือภาษาประจำชาติ การสอบชนิดนี้จะครอบคลุมทั้ง 4 ทักษะ คือ การอ่าน การพูด การฟัง และการเขียน รวมทั้งสิ้น 120 คะแนน โทเฟลยังสามารถใช้ยื่นในการสอบเข้าเรียนในต่างประเทศอย่างอเมริกาได้อีกด้วย

IELTS (International English Language Testing System) นิยมเรียกกันว่า “ไอเอลส์” เป็นการทดสอบวัดระดับภาษาอังกฤษสำหรับผู้ที่มีความสนใจทั่วไป หรือผู้ที่ต้องการจะเรียนต่อหรือสมัครงานในต่างประเทศฝั่งยุโรป โดยจะมีการสอบทั้งหมด 9 ระดับด้วยกัน แน่นอนว่าการทดสอบทั้ง 3 อย่างนี้เป็นการทดสอบเกี่ยวกับภาษา สำหรับผู้ที่สนใจจะสมัครเรียนหรือทำงานต่อในสายงานที่ต้องใช้ภาษาอังกฤษในการสื่อสาร เช่น การบิน การโรงแรม ท่องเที่ยว หรือบริษัทเอกชนต่าง ๆ ผลสอบเหล่านี้จะช่วยยืนยันว่าคุณมีความสามารถในการใช้ภาษาอังกฤษ และเปิดโอกาสในการทำงานให้กับคุณมากยิ่งขึ้นนั่นเอง