ติวเตอร์ภาษาไทย

ติวเตอร์ภาษาไทย

คุณต้องการใช้บริการนี้เมื่อไหร่?
ตอนนี้
ระบุวันที่

วิธีการทำงาน

Saijai

ติดต่อเรา

ติดต่อเราโดยตรงผ่าน LINE OA เพื่อจองบริการที่คุณต้องการ

Saijai

แจ้งรายละเอียดให้เราทราบ

เลือกบริการ วันที่ เวลา และสถานที่ที่คุณต้องการให้ตรงกับความต้องการของคุณ

Saijai

ยืนยันการจองของคุณ

เราจะยืนยันการจองของคุณภายใน 24 ชั่วโมงผ่านทาง LINE OA

ศิริวิมล ทรงศิริ
ศิริวิมล ทรงศิริ
Saijai ประสบการณ์ 0-1 ปี
Saijai อายุ 42 ปี

สามารถเข้ากับเด็กได้ง่าย และพยายามทำความเข้าใจเขาด้วยไม่ใช่แค่สอนค่ะ ต้องการเป็นเพื่อนๆกับน้องๆมากกว่า แค่ติว

แสดงเพิ่มเติม

รีวิวล่าสุด

คือว่าหนูอยากเข้าเรียนเอกภาษาไทยค่ะ เพราะว่าตัวเองพอมีทักษะทางด้านภาษาไทยอยู่บ้างคะ เคยแต่งคำประพันธ์ เขียนเรียงความ แล้วก็เคยแข่งอะไรที่เกี่ยวกับภาษาไทยอีกมากมาย การเลือกมาติวเพิ่ม เพื่อฝึกฝนทักษะเพิ่มเติม ทำความเข้าใจให้มากขึ้น ภาษาไทยเป็นภาษาที่สวยงาม ความฝันของหนูคือการเป็นนักเขียน ติวเตอร์ที่นี่ให้แนวทางดีมากๆ เลยคะ
Saijai
ณัชชา โสภณวัชรากุล
4 ปีที่แล้ว
จ้างติวเตอร์ภาษาไทย เรียนไปเรียนมาสนุกขึ้น พบความสละสลวย คำคล้องจอง ทำให้ เราเอาไปประยุกต์ใช้ในการเขียนรายงานได้มากขึ้น เรามีความกล้าที่จะพรีเซนต์รายงานหน้าห้องมากขึ้น
Saijai
ฑิมพิกา อภิวัชช์คุณากร
4 ปีที่แล้ว
เรทค่าจ้างติวเตอร์มีหลากหลายแล้วแต่ระยะเวลาที่เราต้องการให้สอนเลย มีให้เลือกตามความสะดวกเลยค่ะ ติวเตอร์ก็คุณภาพดีคุ้มค่าคุ้มราคาจริง ๆ
Saijai
เฮนน่า ก้องพิทักษ์
4 ปีที่แล้ว
เราอยากสอบเข้ากระทรวงต่างประเทศให้ได้ แต่ภาษาไทยเรายังไม่แข็งแรงเท่าไหร่ เนื่องจากเรียนต่างประเทศมาตลอด เลยจ้างติวเตอร์สอนภาษาไทยส่วนตัว หลังจากเรียนตอนนี้เริ่มใช้คำที่ถูกต้อง เริ่มเขียนเป็นทางการมากขึ้น ติวเตอร์สอนสนุก ทำให้เราได้เห็นความสำคัญของภาษาไทยมากขึ้น
Saijai
กฤษดา ผลิตผล
4 ปีที่แล้ว
ติวเตอร์คนนี้สอนให้ลูกสนุกไปกับเนื้อหาภาษาไทย สอนไม่น่าเบื่อแถมยังเก็งโจทย์ข้อสอบต่าง ๆให้ลูกอีกด้วยครับ
Saijai
ธนากร วิจิตรไพฑูล
4 ปีที่แล้ว

คำถามที่พบบ่อยสำหรับการค้นหา ติวเตอร์ภาษาไทย

เมื่อภาษาไทยกลายเป็นจุดอ่อนของเด็กไทย เราสมารถทำอย่างไรได้บ้างเพื่อแก้ปัญหาเหล่านี้
ภาษาไทยเป็นภาษาที่มีเอกลักษณ์และเปรียบเสมือนวัฒนธรรมที่อยู่คู่กับชาวไทยมาเนิ่นนาน ในปัจจุบันยุคสมัยได้เปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา สิ่งที่ตามมาคือความก้าวหน้าทางภาษา ซึ่งตัวแปรสำคัญของความก้าวหน้าเหล่านี้คือเทคโนโลยีต่าง ๆ ที่ทำให้การสื่อสารของผู้คนนั้นเป็นไปอย่างง่ายดาย จนบางครั้งอาจมีมากเกินไปและทำให้เกิดปัญหาตามมาในที่สุด

ปัญหาที่เห็นได้ชัดในผู้คนสมัยนี้คือการให้ความสำคัญกับการใช้ภาษาไทยน้อยกว่าเมื่อก่อน เนื่องจากมีภาษาอื่น ๆ อีกมากมายที่คนรุ่นใหม่สนใจศึกษาหาความรู้กันจนมองข้ามภาษาบ้านเกิดของตนเองไป ส่งผลให้ภาษาไทยกลายเป็นจุดอ่อนของคนรุ่นใหม่ บางคนไม่รู้วิธีการใช้ที่ถูกต้อง ประกอบกับการมองว่าการใช้เทคโนโลยีต่าง ๆ ช่วยให้สะดวกและรวดเร็วในการสื่อสารมากกว่า ทำให้เกิดหลักการของภาษาและคำศัพท์ใหม่ ๆ ขึ้นมาแทนอีกมากมายโดยมองข้ามวิธีใช้ที่ถูกต้อง ยกตัวอย่างจุดอ่อนในการใช้ภาษาไทยของผู้คนสมัยนี้ที่เห็นได้บ่อย ๆ คือ ความสับสนในการใช้คำลงท้ายอย่าง ‘ค่ะ’ กับ ‘นะคะ’ เป็นต้น

การผันวรรณยุกต์ของคนไทยเป็นอีกสิ่งที่คนมักมองข้ามกัน อีกหนึ่งปัญหาคือ การใช้คำศัพท์ใหม่ ๆ มาแทนคำเดิมเพื่อความสะดวกสบายในการสื่อสาร จนทำให้เกิดเป็นภาษาใหม่ขึ้นในสังคม หรือที่เราเรียกกันว่า ‘ภาษาวิบัติ’ นั่นเอง

แนวทางการแก้ปัญหาการใช้ภาษาไทยอย่างผิด ๆ ถูก ๆ คือการช่วยกันสอดส่องดูแลอย่างสม่ำเสมอ สามารถเริ่มได้ง่าย ๆ ภายในครอบครัวของตนเอง โดยการปลูกฝังการใช้ภาษาไทยที่ถูกต้องตั้งแต่วัยเยาว์เพื่อให้เกิดความคุ้นเคยในการใช้ภาษาตั้งแต่เด็ก ๆ ขณะเดียวกันในส่วนของสถาบันการศึกษาก็ควรให้ความสำคัญกับการใช้ภาษาไทยของเยาวชนเช่นกัน โดยการสอนหลักสูตรที่เกี่ยวข้องกับภาษาไทยที่ถูกต้อง เช่นการเขียน การอ่าน วรรณคดีไทยต่าง ๆ เพื่อฝึกฝนและพัฒนาทักษะการใช้ภาษาไทยอย่างถูกวิธีของคนรุ่นใหม่หลาย ๆ คน เมื่อเราตระหนักถึงความสำคัญของการใช้ภาษาไทยที่ถูกต้องแล้ว เราจะมีความภาคภูมิใจในภาษาบ้านเกิดซึ่งถือเป็นเอกลักษณ์และวัฒนธรรมที่อยู่คู่กับคนไทยสืบทอดกันมายาวนาน
อยากเพิ่มเกรดวิชาภาษาไทยจ้างครูสอนพิเศษส่วนตัวดีหรือไม่
การใช้ภาษาไทยอย่างถูกต้องนั้นมีความซับซ้อนระดับหนึ่ง จนทำให้หลาย ๆ คนคิดว่าการเรียนภาษาไทยนั้นเป็นเรื่องยากและน่าเบื่อ ทำให้นักเรียนไม่ให้ความสนใจกับการเรียนภาษาไทยเท่าที่ควร ผลที่ออกมาคือระดับความรู้ในการใช้ภาษาไทยของนักเรียนไทยเองกลับอยู่ในระดับที่ไม่สูงมากนัก แม้ว่าเราจะใช้ภาษาไทยกันอยู่ทุก ๆ วันก็ตาม การเรียนเสริมหรือเรียนพิเศษแบบตัวต่อตัวกับติวเตอร์เป็นการช่วยให้นักเรียนมีความสนใจและเข้าใจวิชาภาษาไทยมากขึ้น เพราะโดยส่วนใหญ่แล้วครูสอนพิเศษที่มีประสบการณ์จะมีเทคนิคต่าง ๆ ในการสอน เพื่อให้นักเรียนนั้นเข้าใจบทเรียนได้ง่าย โดยบางครั้งอาจไม่จำเป็นต้องอ่านในตำราหนังสือด้วยซ้ำ แผนการสอนของครูสอนพิเศษยังมีรูปแบบที่ชัดเจน ทำให้นักเรียนสามารถเห็นภาพรวมได้ชัดเจน และครูสอนพิเศษมักจะให้นักเรียนทำแบบฝึกหัดที่หลากหลายเพื่อเป็นการฝึกฝนทักษะการใช้ภาษาไทยให้แก่นักเรียน ไม่ว่าจะเป็นแบบฝึกหัดเกี่ยวกับคำราชาศัพท์ บทกลอนและวรรณคดีไทย ฯลฯ ซึ่งทั้งหมดนี้นั้นอยู่ในหลักสูตรการเรียนการสอนภาษาไทยและแน่นอนว่าจำเป็นต้องมีอยู่ในข้อสอบเช่นกัน หากนักเรียนหมั่นฝึกฝนและทำแบบฝึกหัดบ่อย ๆ จะช่วยให้นักเรียนเกิดความเคยชินและสามารถเพิ่มเกรดวิชาภาษาไทยให้แก่ตัวนักเรียนได้ ที่สำคัญการเรียนพิเศษแบบตัวต่อตัวสามารถทำให้นักเรียนได้รับการอธิบายเนื้อหาจากครูอย่างใกล้ชิดและไม่จำกัดเวลา เมื่อนักเรียนไม่เข้าใจตรงไหนครูก็จะสามารถช่วยอธิบายจนกว่าจะเข้าใจได้ โดยไม่ปล่อยผ่านเนื้อหาใดเนื้อหาหนึ่งไปเหมือนตอนเรียนในห้องเรียนเนื่องจากเวลาการสอนที่จำกัด เมื่อนักเรียนได้รับการเรียนการสอนอย่างละเอียดจากครูสอนพิเศษแล้ว จะทำให้นักเรียนมีความเข้าใจในภาษาไทยมากยิ่งขึ้น และสุดท้ายภาษาไทยก็จะไม่ได้ยากอีกต่อไป

อยากจ้างติวเตอร์สอนภาษาไทยให้กับชาวต่างชาติ ใส่ใจมีบริการดังกล่าวหรือไม่
ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีชาวต่างชาติอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก ทั้งเพื่อทำธุรกิจ ทำงาน หรือแต่งงานกับคู่สมรสชาวไทย แน่นอนว่าเมื่อมาอยู่ในเมืองไทยภาษาหลักที่ใช้สื่อสารในประเทศไทยคือ ภาษาไทย
มีชาวต่างชาติจำนวนมากที่อยากเรียนรู้ภาษาไทยไว้เพื่อใช้ในการติดต่อสื่อสารในชีวิตประจำวันและเพื่อความสะดวกหลาย ๆ อย่าง ทั้งยังสามารถเพิ่มโอกาสในการทำงานในเมืองไทยอีกด้วย ใส่ใจมีข้อมูลของครูสอนพิเศษหรือติวเตอร์ภาษาไทยสำหรับชาวต่างชาติค่ะ

ข้อดีของการเรียนภาษาไทยกับติวเตอร์ส่วนตัวคือ

1. เรียนกับติวเตอร์ภาษาไทยแบบตัวต่อตัวจะมีประสิทธิภาพในการเรียนมากกว่า เนื่องจากเป็นการเรียนแบบส่วนตัว ติวเตอร์จะสามารถดูแลผู้เรียนได้อย่างใกล้ชิดและเข้าใจพื้นฐานภาษาไทยของผู้เรียนได้อย่างลึกซึ้ง อีกทั้งผู้เรียนสามารถซักถามข้อสงสัยได้ตลอดเวลาเมื่อไม่เข้าใจ เพราะภาษาไทยเป็นภาษาที่ละเอียดอ่อนและค่อนข้างซับซ้อนด้วยสระที่ต้องเรียนรู้ ต่างจากภาษาอังกฤษซึ่งไม่มีสระ ดังนั้นชาวต่างชาติจะต้องปรับในส่วนนี้ค่อนข้างมาก การใช้เวลาในการเรียนมากน้อยต่างกันขึ้นอยู่กับตัวบุคคล
2. ผู้เรียนได้ความรู้ตรงตามวัตถุประสงค์ที่ต้องการ สามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้อย่างตรงจุด ไม่ว่าจะเป็นในชีวิตประจำวันหรือในส่วนของการทำงาน เนื่องจากหลักสูตรจะถูกออกแบบมาให้เหมาะสมกับผู้เรียนแต่ละคน
3. ชั่วโมงในการเรียนจะมีความยืดหยุ่นสูง เนื่องจากผู้เรียนสามารถเลือกวัน เวลา และสถานที่จะเรียนเองได้ หากมีเหตุจำเป็นสามารถแจ้งเปลี่ยนแปลงวัน/เวลาในการเรียนได้
4. ผู้เรียนสามารถเลือกติวเตอร์ได้ตรงตามความต้องการ เนื่องจากสามารถเลือกติวเตอร์ได้เองก่อนตัดสินใจเรียน
บทเรียนเริ่มต้นสำหรับชาวต่างชาติที่อยากเรียนภาษาไทย ควรเริ่มด้วยอะไร
อยากเรียนภาษาไทย ควรเริ่มต้นจากตรงไหนดี ? สำหรับชาวต่างชาติที่อยากเรียนภาษาไทยกับครูสอนพิเศษหรือติวเตอร์ภาษาไทยควรเริ่มต้นอย่างไรมาดูกันค่ะ

1. ฝึดการฟัง ฟังคำง่ายๆ ประกอบท่าทาง เช่น สวัสดี ขอบคุณ ขอโทษ หรือ มีภาพประกอบเป็นคำเกี่ยวกับอวัยวะต่าง ๆ ของร่างกาย สิ่งของรอบตัว สัตว์เลี้ยง โดยติวเตอร์จะพูดซ้ำ 3-5 ครั้ง ให้ผู้เรียนจดจำได้ และอาจจะมีการสอนการฟังสอดแทรกวันละ 15-20 นาที และวันแรกไม่เกิน 10 คำ เพราะถ้าสอนมากไปจะจำไม่ได้และสับสน ค่อย ๆ เพิ่มคำศัพท์ในวันต่อ ๆ ไป
2. ฝึกการพูด ให้ฝึกพูดเกี่ยวกับสิ่งใกล้ตัวผู้เรียนก่อน ได้แก่ คำทักทาย สวัสดี ขอโทษ ขอบคุณ ต่อมาให้รู้จักพูดชื่อครูและชื่อตนเอง พูดเกี่ยวกับอวัยวะส่วนต่างๆ ของร่างกาย เช่น หน้า ผม ตา จมูก มือ เท้า แขน ขา และอิริยาบถต่างๆ ของร่างกาย เช่น ยืน เดิน นั่ง นอน วิ่ง ต่อมาให้ผู้เรียนสามารถ เรียกชื่อวัตถุสิ่งของเครื่องใช้ต่าง ๆ เช่น สมุด ดินสอ ปากกา ยางลบ ไม้บรรทัด หน้าต่าง ประตู โต๊ะ เก้าอี้ กระดาษ
3. ฝึกการอ่าน อาจฝึกอ่านได้หลายวิธี แล้วแต่ความพร้อมของผู้เรียน โดยฝึกอ่านจากตัวพยัญชนะ เริ่มจาก ก ไปจนถึง ฮ แต่ให้ติวเตอร์จะสอนอ่านวันละ 5-10 ตัว และอาจฝึกอ่านคำจากภาพ เช่น ไก่ ไข่ ขวด ควาย ระฆัง งู จนถึงนกฮูก ต่อมาฝึกอ่านประโยค และอ่านเรื่อง ตามลำดับ
4. เริ่มฝึกเขียนพยัญชนะ ก ถึง ฮ ซึ่งวิธีนี้มักนิยมกันอย่างแพร่หลาย หรืออาจลองฝึกหัดเขียนโดยเน้นเขียนตัวที่ฝึกง่ายก่อนก็ได้ หรือตัวที่เขียนคล้าย ๆ กันก่อน เพราะฝึกเขียนง่ายและเป็นมีรูปแบบใกล้เคียงกัน
5 ฝึกถาม-ตอบ คำถามง่าย ๆ ที่ใช้บ่อยและสามารถนำไปใช้ต่อไปในชีวิตประจำวันได้ด้วย

เริ่มต้นง่าย ๆ กับติวเตอร์ภาษาไทยบนแพลตฟอร์มใส่ใจ ทำให้คุณค้นหาผู้ให้บริการที่ตรงใจคุณที่สุด