พี่เลี้ยงสองภาษา ใน คลองสามวา, กรุงเทพมหานคร

พี่เลี้ยงสองภาษา ใน คลองสามวา, กรุงเทพมหานคร

คุณต้องการใช้บริการนี้เมื่อไหร่?
ตอนนี้
ระบุวันที่

วิธีการทำงาน

Saijai

ติดต่อเรา

ติดต่อเราโดยตรงผ่าน LINE OA เพื่อจองบริการที่คุณต้องการ

Saijai

แจ้งรายละเอียดให้เราทราบ

เลือกบริการ วันที่ เวลา และสถานที่ที่คุณต้องการให้ตรงกับความต้องการของคุณ

Saijai

ยืนยันการจองของคุณ

เราจะยืนยันการจองของคุณภายใน 24 ชั่วโมงผ่านทาง LINE OA

สวัสดีคะ ชื่อป่าน นะคะ อายุ 27 ปี เป็นคนรักเด็ก ประสบการณ์ครูผู้ช่วยสอนศิลปะเด็กเล็ก และโรงเรียนสอนภาษาอังกฤษค่ะ สนใจสอบถามเพิ่มเติมได้คะ Line ID: Phn.rati

Sawasdee Ka! ( It's Hello in Thai language :D) My name is Ratikorn, but please call me for shorten name Phannie. I am 27 years old. I am generous, patient, friendly, easy going, gentle,warmth, reasonable, honest, has a sense of responsibility. Moreover I am open- minded girl who try to learn new things around me. I also enjoy learning new things to develope myself in the future.About experience with kids, I worked at the school for kids for 1 year, there were 20children, aged about 3-12 years old.

แสดงเพิ่มเติม
Thipsuda Pornsurat
Thipsuda Pornsurat
Saijai ประสบการณ์ 0-1 ปี

Helloo, My name is noon and i'm 27 years old. graduated from kasetsart university, i very love the kid from my background and just want to have a good experience, wanna play with your kid!! my personality is always smile, happy girl with a kindness. I have been in USA about 4 months and have experience to play with kid of my host.

สวัสดีค่ะ ชื่อนุ่น อายุ 27ปี จบป.ตรี มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เป็นคนรักเด็กมากๆและชอบเล่นกับเด็กๆ พื้นฐานเคยเลี้ยงน้องๆมา2คน และอยากมาหาประสบการณ์วันว่างเสาร์อาทิตย์

แสดงเพิ่มเติม
อรวรรณ มีมุข
อรวรรณ มีมุข
Saijai ประสบการณ์ 0-1 ปี

สวัสดีค่ะ ชื่อจอยนะคะ อายุ 22 ปีค่ะ เพิ่งจบปริญญาตรีจากมหาวิทยาลันหอการค้าไทย สาขาภาษาอังกฤษและการแปลค่ะ เคยช่วยพี่เลี้ยงหลานตอนช่วงปิดเทอมค่ะ และตอนนี้อยากหาประสบการณ์เลี้ยงเด็กเพิ่มค่ะ เพื่อที่จะสมัครเป็นออแพร์ที่ต่างประเทศค่ะ เป็นคนใจเย็นและใจดีค่ะ สามารถสอนภาษาอังกฤษน้องและสอนการบ้านน้องได้ค่ะ เข้ากับเด็กได้ดีและชอบอยู่กับเด็กค่ะ

แสดงเพิ่มเติม
กัญญาภัทร บุตรพรม
กัญญาภัทร บุตรพรม
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี

สวัสดีค่ะ ชือ ภัทรค่ะ อายุ 52 ถนัดดูแลเด็กแรกคลอด คุณแม่หลังคลอดค่ะ นวดเด็กแรกเล็กได้ ช้วยให้เด็ก อารมณ์ดีไม่งอแง ช่วยระบบขับถ่าย เลือดลมไหลเวียนดี ร่างกายแข็งแรง.นวดประคบสมุนไพร คุณแม่หลังคลอดช่วยในการอยู่ไฟสมัยโบราณ ทำให้มดลูกเข้าอู่ไว้ ร่างกายแข็งแรง รับงานได้ทั้งในและต่างประเทศค่ะ รับดูแลทั้งคนไทยและต่างชาติ

แสดงเพิ่มเติม

ข้อมูลสถิติน่าสนใจเกี่ยวกับ

Saijai จำนวนประชากร
Saijai จำนวนประชากรเด็ก (แรกเกิด-14 ปี)
Saijai จำนวนประชากรสูงอายุ (60 ปี ขึ้นไป)
Saijai จำนวนสัตว์เลี้ยง สุนัข

รีวิวล่าสุด

ผมกับสองคนภรรยาตกลงกันว่าจะปูพื้นฐานภาษาอังกฤษ ให้ลูกก่อนเข้าโรงเรียน เลยเริ่มหาข้อมูลเปรียบเทียบ ทำให้รู้ว่า ค่าใช้จ่ายในการจ้างพี่เลี้ยงสองภาษาไม่มากอย่างที่คิด จนเจอข้อมูลของใส่ใจ เลยเปลี่ยนพี่เลี้ยงมาเป็นพี่เลี้ยงฟิลิปินส์ ดีมากครับ ค่าใช้จ่ายพี่เลี้ยงไทย กับ ฟิลิปปินส์ พอพอ กัน
Saijai
ไกรวพันธุ์ สุขสถิตย์
อีก 26 ปี
Thank you so much to help me find a good nanny for our kids! We really happy with the service, it is good and reliable!
Saijai
Joe Huang
3 ปีที่แล้ว
เพราะอยากให้ลูกได้ภาษา คุณพ่อบ้านนี้เลยพูดอังกฤษกับลูกๆ ค่ะ แถมจ้างพี่เลี้ยงที่พูดภาษาอังกฤษเป็นด้วย เน้นสื่อสารด้วยภาษาอังกฤษเป็นหลัก หาแนนนี่คุณสมบัติตามนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย แต่ในทีสุดเราก็เจอเพราะอยากให้ลูกได้ภาษาคนนี้ผ่านเว็บใส่ใจ ตรงใจ ถูกใจที่สุดค่ะ
Saijai
วันดี ดริ้งวอร์เตอร์
3 ปีที่แล้ว
อยากให้ลูกเก่งภาษาอังกฤษตั้งแต่เขายังเด็ก เราจึงตัดสินใจจ้างพี่เลี้ยงชาวฟิลิปปินส์ เพราะเราได้ทำการศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับการจ้างพี่เลี้ยงชาวฟิลิปปินส์ คุณแม่ส่วนใหญ่บอกเป็นเสียงเดียวกันว่าพี่เลี้ยงชาวฟิลิปปินส์มีมาตรฐานที่ดีในการเลี้ยงลูกที่ดีเลย อีกทั้งยังฝึกภาษาอังกฤษให้ลูกของเราอีกด้วย เราเลยตัดสินใจจ้างพี่เลี้ยงต่างชาติของทางใส่ใจ ตอนนี้พี่เลี้ยงเริ่มงานแล้ว 1 เดือน โดยรวมเราประทับใจในการบริการมาก ๆ และพี่เลียงเข้ากับลูกได้ดีเลยทีเดียว
Saijai
รุ้งลดา ทองสุข
4 ปีที่แล้ว
เราเจอพี่เลี้ยงเด็กชาวฟิลิปปินส์ผ่านเว็บไซต์ใส่ใจค่ะ มีความรับผิดชอบในงานสูง ตอนนี้เราจ้างมาแล้ว 2 เดือน ลูกได้ซึมซับภาษาอังกฤษทุกวัน คุ้มค่ากับการจ้างมาก ๆ คุณแม่คนไหนสนใจก็ลองหาดูที่เว็บใส่ใจนะคะ
Saijai
ศรีรัตน์ พุ่มเงิน
4 ปีที่แล้ว

คำถามที่พบบ่อยสำหรับการค้นหา พี่เลี้ยงสองภาษา

พี่เลี้ยงเด็กสองภาษามีความจำเป็นหรือไม่หากคุณพ่อคุณแม่ต้องการให้ลูกได้ภาษาที่ 2 จริงๆ
เมื่อพูดถึงเรื่องความจำเป็นของการใช้บริการพี่เลี้ยงเด็กสองภาษา พ่อแม่ผู้ปกครองต้องเข้าใจความต้องการและจุดมุ่งหมายของตัวเองเสียก่อนว่าทำไมจึงอยากให้ลูกสามารถพูดภาษาอื่นได้

พ่อแม่ผู้ปกครองส่วนใหญ่ตระหนักถึงความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีการและการสื่อสารไร้พรมแดน ที่ทำให้เราเข้าถึงข้อมูลความรู้ได้ทั่วทุกมุมโลก การที่เราสามารถสื่อสารภาษาที่สอง หรือหลายภาษาจึงถือเป็นข้อได้เปรียบ พ่อแม่ผู้ปกครองจึงให้ความสำคัญในการปูพื้นฐานและส่งเสริมพัฒนาการด้านภาษาให้กับเด็กตั้งแต่เนิ่น ๆ ทั้งตัวพ่อแม่เองที่พยายามใช้ภาษาที่สอง ซึ่งอาจจะเป็นภาษาอังกฤษ ภาษาจีน ฯลฯ สื่อสารกันในครอบครัว ให้ลูกเข้าเรียนในโรงเรียนที่มีโปรแกรมสองภาษา และเลือกใช้บริการพี่เลี้ยงเด็กสองภาษา เพื่อให้เด็กอยู่ในสภาพแวดล้อมที่มาการสื่อสารด้วยภาษาที่สอง

เนื่องจากความสามารถของเด็กในการเรียนรู้เสียงในภาษานั้นเป็นคุณสมบัติ หรือพรสวรรค์โดยธรรมชาติอย่างหนึ่งที่ทารกหรือเด็กมีมาตั้งแต่ยังอยู่ในครรภ์ของแม่ ซึ่งในเรื่องนี้ได้มีงานวิจัยที่ค้นพบว่าทารกนั้นมีความสามารถในการเรียนรู้และจะจำเสียงในภาษาได้โดยเฉพาะเสียงของแม่ได้ตั้งแต่ยังอยู่ในครรภ์ ทารกจะความสามารถพิเศษที่จะเรียนรู้ จดจำ และ แยกแยะภาษาที่สอง หรือสาม หรือมากกว่านั้นได้รวดเร็วกว่าผู้ใหญ่ เพราะฉะนั้นการเลี้ยงดูแบบสองภาษาควบคู่กันไปตั้งแต่เด็ก ยิ่งเป็นการส่งเสริมพัฒนาของสมองและวิธีการเข้าใจภาษาแบบสองภาษาไปพร้อม ๆ กัน

จากข้อมูลข้างต้นจึงพออธิบายให้ท่านได้เห็นแล้วถึงความจำเป็นของการใช้พี่เลี้ยงสองภาษาในการเลี้ยงดูลูกของท่านตั้งแต่ยังเป็นทารก พี่เลี้ยงก็เปรียบเสมือนพ่อแม่คนที่สอง หรือในบางกรณีพี่เลี้ยงเด็กนั้นเป็นผู้ที่มีเวลาได้อยู่กับลูกมากกว่าพ่อแม่ด้วยซ้ำไป พี่เลี้ยงสองภาษาจึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะหล่อหลอมหรือสร้างให้เด็กมีวิธีการคิด หรือการเข้าใจภาษาแบบสองภาษาไปพร้อม ๆ กัน ซึ่งจะแตกต่างไปจากการเรียนภาษาที่สองเพิ่มเติมจากภาษาหลัก เหมือนที่มีสอนกันในโรงเรียนโดยทั่วไป
คุณพ่อคุณแม่จำเป็นต้องจ่ายแพงกว่าจริงหรือหากต้องการจ้างพี่เลี้ยงเด็กสองภาษา
คุณพ่อคุณแม่จำเป็นต้องจ่ายแพงกว่าจริงหรือหากต้องการจ้างพี่เลี้ยงเด็กสองภาษา ก่อนอื่นต้องดูที่เป้าหมายของคุณพ่อคุณแม่ว่ามีความคาดหวังหรือต้องการเสริมพัฒนาการของลูกอย่างไร แน่นอนว่าการที่เด็กได้รับการปูพื้นฐานด้านภาษาตั้งแต่เล็กจะช่วยให้เด็กสามารถสื่อสารสองภาษาได้และได้เปรียบกว่าเด็กคนอื่นเมื่อเด็กต้อง เข้าเรียน โดยเฉพาะคุณพ่อคุณแม่ที่อยากให้ลูกเข้าเรียนในโปรแกรมสองภาษาหรือโปรแกรมนานาชาติ ปัจจุบันเราสามารถหาพี่เลี้ยงที่สามารถสื่อสารภาษาที่สองได้มาดูแลลูก ซึ่งหากดูอัตราค่าจ้างแล้วอาจจะสูงกว่าพี่เลี้ยงคนไทยไม่มากนัก แน่นอนว่าการได้อะไรที่พิเศษกว่าย่อมต้องมีค่าใช้จ่ายที่อาจจะมากกว่าอยู่บ้าง แต่ผลลัพธ์ที่ได้นั้นย่อมมากกว่าเช่นกัน พี่เลี้ยงเด็กชาวต่างชาติหลาย ๆ คนที่ผ่านการอบรม หรือมีประกาศนียบัตรรับรอง มีประสบการณ์ในการดูแลเด็กในช่วงวัยที่แตกต่าง และมีอัตราจ้างที่แตกต่าง (14,000 – 22,000 บาท/เดือน) ข้อมูลเหล่านี้คุณพ่อคุณแม่สามารถสืบค้น เปรียบเทียบและวางแผนก่อนตัดสินใจ

มีบทสัมภาษณ์ของคุณพ่อคุณแม่ที่มีประสบการณ์จ้างพี่เลี้ยงเด็กสองภาษามาดูแลลูกได้กล่าวไว้ว่า “เดิมที่คุณแม่จะสื่อสารภาษาอังกฤษกับลูก แต่เมื่อคุณแม่ต้องไปทำงานจึงมองหาพี่เลี้ยงที่พูดภาษาอังกฤษมาดูแล พี่เลี้ยงมีวุฒิการศึกษาดีทีเดียว มีประสบการณ์ ใช้เวลาไม่นาน ลูกและพี่เลี้ยงปรับตัวเข้าหากันได้ เวลาเราสื่อสารจะใช้ภาษาอังกฤษกับพี่เลี้ยง ทำให้ทุกคนในบ้านได้ฝึกไปด้วย คราวนี้สนุกกันไปลูกมีพัฒนาการภาษาที่ดีมีความสุข พี่เลี้ยงทำงานบ้านได้นิดหน่อย ไม่ใช่ปัญหาเพราะเป้าหมายคือพัฒนาการทางภาษาของลูก ในค่าใช้จ่ายที่เกือบเท่ากันกับแม่บ้านไทยแต่ลูกและครอบครัวได้ภาษาเพิ่มขึ้น”

เราจะไม่รู้สึกว่าจ่ายแพงเลยถ้าสิ่งที่ได้มาคุ้มค่าตามที่ตั้งใจไว้
พี่เลี้ยงสองภาษาควรมีวิธีการอย่างไรเพื่อส่งเสริมเด็กให้พูดภาษาที่สองได้
คำแนะนำเกี่ยวกับวิธีการส่งเสริมเด็กให้พูดภาษาที่สองได้สำหรับพี่เลี้ยงเด็กสองภาษาหรือสำหรับพ่อแม่ผู้ปกครองมีดังต่อไปนี้

1. พยายามเสริมสร้างบรรยากาศในการเรียนรู้ โดยหมั่นใช้ พูดคุยสื่อสารกับเด็กด้วยภาษาที่สองควบคู่ไปกับภาษาหลักอย่างเป็นประจำ และสม่ำเสมอ อาจชวนคุย เพื่อส่งเสริมให้เด็กคุ้นเคย และชินกับการสื่อสารสองภาษารวมทั้งรูปแบบการจัดรูปแบบประโยค การออกเสียง และสำเนียงในการพูด เด็กนั้นมีคุณลักษณะและความสามารถในการประมวลและแยกความแตกต่างของภาษาและเสียงได้เป็นอย่างดี ยิ่งพี่เลี้ยงพูดคุยหรือใช้ภาษาเหล่านั้นเป็นประจำจะยิ่งส่งเสริมพัฒนาการทางภาษาของเด็ก และเพิ่มความสามารถทางสติปัญญาของเด็ก
2. ด้วยความสะดวกสบายของเทคโนโลยีและนวัตกรรมการสื่อสาร พี่เลี้ยงควรสรรหารายการการ์ตูน หรือวิดีโอจากยูทูป (YouTube) ที่มีการพากย์เสียงเป็นภาษาต่าง ๆ เพลงกล่อมเด็ก หรือการ์ตูนอนิเมชั่น กิจกรรมเหล่านี้เป็นการเพิ่มความสนุกสนาน และทำให้เด็กเรียนรู้ และจดจำภาษาไปโดยไม่รู้ตัว ทั้งหมดนี้ควรอยู่ภายใต้การดูแลของพี่เลี้ยงเด็กอย่างใกล้ชิด ไม่ควรปล่อยให้เด็กใช้สื่อตามลำพังและเป็นเวลานานเกินไป เพราะส่งผลเสียต่อสายตาและสมาธิ
3. หากิจกรรมร้องเพลง หรือเต้นรำเพื่อเป็นการผ่อนคลายและ เรียนรู้ภาษาไปในเวลาเดียวกัน ซึ่งเด็กส่วนใหญ่ชื่นชอบกิจกรรมนันทนาการแบบนี้อยู่แล้วจึงไม่เป็นการยากที่พี่เลี้ยงจะชักชวนให้เด็กทำกิจกรรม
4. เสริมสร้างทักษะ ด้วยสื่อการสอนทางภาษา กิจกรรม หรือเกมต่าง ๆ ที่น่าสนใจ เช่น เกมต่อคำ (Scrabble หรือ Criss-Crosswords) อาจจะใช้บัตรคำ การ์ดเกมคำศัพท์ หรือหนังสือภาพสอนคำศัพท์ หรือหนังสือสอนภาษาสำหรับเด็ก โดยสื่อเหล่านี้จะช่วยให้เด็กได้เรียนรู้คำศัพท์ เสริมสร้างทักษะทางภาษา และ สร้างความเพลิดเพลินให้กับเด็กได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังเป็นการแลกเปลี่ยนการมีปฏิสัมพันธ์ที่ดีระหว่างเด็กกับพี่เลี้ยงด้วย
ก่อนจ้างพี่เลี้ยงเด็กสองภาษา คุณพ่อคุณแม่ควรทำการตกลงกับพี่เลี้ยงในเรื่องใดบ้าง
เมื่อคุณพ่อคุณแม่ตัดสินใจเลือกใช้บริการพี่เลี้ยงสองภาษา ข้อแรกที่ควรระลึกไว้เสมอว่าพี่เลี้ยงเป็นเพียงตัวช่วยหนึ่งเท่านั้น แม้ตลอด 8 ชั่วโมงต่อวันเป็นอย่างน้อยและ 5 วันต่อสัปดาห์ที่ลูกจะต้องอยู่ในการดูแลของพี่เลี้ยงลูกยังคงต้องการเวลาที่อบอุ่นจากคุณพ่อคุณแม่ มีเรื่องเล่ามากมายว่าได้เจออะไรได้ทำอะไร ดังนั้นก่อนจ้างพี่เลี้ยงเด็กสองภาษา

คุณพ่อคุณแม่ควรทำการตกลงกับพี่เลี้ยงในเรื่องใดบ้าง

1. เด็กอยู่ในวัยลอกเลียนแบบซึมซับพฤติกรรม ดังนั้นบุคลิกภาพและลักษณะนิสัยของพี่เลี้ยงสำคัญมากบางครั้งพี่เลี้ยงที่ต่างวัฒนธรรม อาจมีบุคลิกและการแสดงออกที่ต่างออกไป เราควรตกลงว่าพี่เลี้ยงควรแสดงพฤติกรรมกับลูกว่าอย่างไรบ้าง พี่เลี้ยงควรมีพื้นฐานเป็นคนอารมณ์ดี ใจเย็น รักเด็ก มีความอดทน และมีความเข้าใจเรื่องเด็ก การใช้คำพูด คำศัพท์ที่เหมาะสมตามวัย
2.พูดคุยเรื่องการรักษาความสะอาด สุขอนามัย และระเบียบวินัยภายในบ้านกับพี่เลี้ยง เพื่อสุขอนามัยของลูกวัฒนธรรมที่แตกต่าง หรือประสบการณ์ที่แตกต่าง บางครั้งต้องคุยกับพี่เลี้ยงให้เข้าใจ เพื่อจะได้คอยดูแลสภาพแวดล้อมรอบตัวให้เหมาะกับการเจริญเติบโตของเด็กอย่างปลอดภัย
3.แบ่งหน้าที่ทำงานให้ชัดเจน พี่เลี้ยงมาช่วยไม่ได้มารับผิดชอบทั้งหมดถ้างานหนักไปอาจทำให้การดูแลลูกไม่เต็มที่หรือทำงานภายใต้แรงกดดัน ดังนั้นตกลงเรื่องเงินเดือนและหน้าที่รับผิดชอบให้พี่เลี้ยงเข้าใจตั้งแต่เริ่มต้น เพื่อลดปัญหาภายหน้า
4.กำหนดกติกาสิ่งที่ลูกทำได้หรือไม่ได้ให้พี่เลี้ยงทราบอย่างชัดเจน เช่น พี่เลี้ยงไม่ควรปล่อยเด็กให้ดูโทรทัศน์นาน ๆ เพราะมีผลต่อสมาธิและพัฒนาการของลูก พี่เลี้ยงไม่ควรตามใจให้เด็กรับประทานขนมหวานมากเกินไป เป็นต้น คุณพ่อคุณแม่ควรพูดคุยและทำความเข้าใจกับพี่เรื่องให้เรื่องเหล่านี้กับพี่เลี้ยงก่อนเริ่มงาน