พี่เลี้ยงสองภาษา ใน หลักสี่, กรุงเทพมหานคร

พี่เลี้ยงสองภาษา ใน หลักสี่, กรุงเทพมหานคร

คุณต้องการใช้บริการนี้เมื่อไหร่?
ตอนนี้
ระบุวันที่
ผู้ให้บริการพี่เลี้ยงสองภาษา ใน หลักสี่, กรุงเทพมหานคร:

วิธีการทำงาน

Saijai

ติดต่อเรา

ติดต่อเราโดยตรงผ่าน LINE OA เพื่อจองบริการที่คุณต้องการ

Saijai

แจ้งรายละเอียดให้เราทราบ

เลือกบริการ วันที่ เวลา และสถานที่ที่คุณต้องการให้ตรงกับความต้องการของคุณ

Saijai

ยืนยันการจองของคุณ

เราจะยืนยันการจองของคุณภายใน 24 ชั่วโมงผ่านทาง LINE OA

Thipsuda Pornsurat
Thipsuda Pornsurat
Saijai ประสบการณ์ 0-1 ปี

Helloo, My name is noon and i'm 27 years old. graduated from kasetsart university, i very love the kid from my background and just want to have a good experience, wanna play with your kid!! my personality is always smile, happy girl with a kindness. I have been in USA about 4 months and have experience to play with kid of my host.

สวัสดีค่ะ ชื่อนุ่น อายุ 27ปี จบป.ตรี มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เป็นคนรักเด็กมากๆและชอบเล่นกับเด็กๆ พื้นฐานเคยเลี้ยงน้องๆมา2คน และอยากมาหาประสบการณ์วันว่างเสาร์อาทิตย์

แสดงเพิ่มเติม
กัญญาภัทร บุตรพรม
กัญญาภัทร บุตรพรม
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี

สวัสดีค่ะ ชือ ภัทรค่ะ อายุ 52 ถนัดดูแลเด็กแรกคลอด คุณแม่หลังคลอดค่ะ นวดเด็กแรกเล็กได้ ช้วยให้เด็ก อารมณ์ดีไม่งอแง ช่วยระบบขับถ่าย เลือดลมไหลเวียนดี ร่างกายแข็งแรง.นวดประคบสมุนไพร คุณแม่หลังคลอดช่วยในการอยู่ไฟสมัยโบราณ ทำให้มดลูกเข้าอู่ไว้ ร่างกายแข็งแรง รับงานได้ทั้งในและต่างประเทศค่ะ รับดูแลทั้งคนไทยและต่างชาติ

แสดงเพิ่มเติม
อรวรรณ มีมุข
อรวรรณ มีมุข
Saijai ประสบการณ์ 0-1 ปี

สวัสดีค่ะ ชื่อจอยนะคะ อายุ 22 ปีค่ะ เพิ่งจบปริญญาตรีจากมหาวิทยาลันหอการค้าไทย สาขาภาษาอังกฤษและการแปลค่ะ เคยช่วยพี่เลี้ยงหลานตอนช่วงปิดเทอมค่ะ และตอนนี้อยากหาประสบการณ์เลี้ยงเด็กเพิ่มค่ะ เพื่อที่จะสมัครเป็นออแพร์ที่ต่างประเทศค่ะ เป็นคนใจเย็นและใจดีค่ะ สามารถสอนภาษาอังกฤษน้องและสอนการบ้านน้องได้ค่ะ เข้ากับเด็กได้ดีและชอบอยู่กับเด็กค่ะ

แสดงเพิ่มเติม

สวัสดีคะ ชื่อป่าน นะคะ อายุ 27 ปี เป็นคนรักเด็ก ประสบการณ์ครูผู้ช่วยสอนศิลปะเด็กเล็ก และโรงเรียนสอนภาษาอังกฤษค่ะ สนใจสอบถามเพิ่มเติมได้คะ Line ID: Phn.rati

Sawasdee Ka! ( It's Hello in Thai language :D) My name is Ratikorn, but please call me for shorten name Phannie. I am 27 years old. I am generous, patient, friendly, easy going, gentle,warmth, reasonable, honest, has a sense of responsibility. Moreover I am open- minded girl who try to learn new things around me. I also enjoy learning new things to develope myself in the future.About experience with kids, I worked at the school for kids for 1 year, there were 20children, aged about 3-12 years old.

แสดงเพิ่มเติม

ข้อมูลสถิติน่าสนใจเกี่ยวกับ

Saijai จำนวนประชากร
Saijai จำนวนประชากรเด็ก (แรกเกิด-14 ปี)
Saijai จำนวนประชากรสูงอายุ (60 ปี ขึ้นไป)
Saijai จำนวนสัตว์เลี้ยง สุนัข

รีวิวล่าสุด

Thank you so much to help me find a good nanny for our kids! We really happy with the service, it is good and reliable!
Saijai
Joe Huang
4 ปีที่แล้ว
อยากให้ลูกเก่งภาษาอังกฤษตั้งแต่เขายังเด็ก เราจึงตัดสินใจจ้างพี่เลี้ยงชาวฟิลิปปินส์ เพราะเราได้ทำการศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับการจ้างพี่เลี้ยงชาวฟิลิปปินส์ คุณแม่ส่วนใหญ่บอกเป็นเสียงเดียวกันว่าพี่เลี้ยงชาวฟิลิปปินส์มีมาตรฐานที่ดีในการเลี้ยงลูกที่ดีเลย อีกทั้งยังฝึกภาษาอังกฤษให้ลูกของเราอีกด้วย เราเลยตัดสินใจจ้างพี่เลี้ยงต่างชาติของทางใส่ใจ ตอนนี้พี่เลี้ยงเริ่มงานแล้ว 1 เดือน โดยรวมเราประทับใจในการบริการมาก ๆ และพี่เลียงเข้ากับลูกได้ดีเลยทีเดียว
Saijai
รุ้งลดา ทองสุข
4 ปีที่แล้ว
เลือกจ้างพี่เลี้ยงฟิลิปปินส์ค่ะ เข้ากันง่ายมากกับลูกทั้งเรื่องการสื่อสาร และการดูแล ลูกบอกพี่เลี้ยงใจดีมากๆ อยากให้อยู่เล่นด้วยกันบ่อยๆ ประทับใจจริงๆค่ะ
Saijai
เกศมณี พาศโยธี
4 ปีที่แล้ว
จองง่ายไม่ยุ่งยาก
Saijai
แอน คาล
4 ปีที่แล้ว
เราเจอพี่เลี้ยงเด็กชาวฟิลิปปินส์ผ่านเว็บไซต์ใส่ใจค่ะ มีความรับผิดชอบในงานสูง ตอนนี้เราจ้างมาแล้ว 2 เดือน ลูกได้ซึมซับภาษาอังกฤษทุกวัน คุ้มค่ากับการจ้างมาก ๆ คุณแม่คนไหนสนใจก็ลองหาดูที่เว็บใส่ใจนะคะ
Saijai
ศรีรัตน์ พุ่มเงิน
4 ปีที่แล้ว

คำถามที่พบบ่อยสำหรับการค้นหา พี่เลี้ยงสองภาษา

พี่เลี้ยงเด็กสองภาษาช่วยให้เด็กพัฒนาด้านภาษาได้จริงหรือไม่
มีการวิจัยว่าเด็กเล็กต้องได้รับรู้ภาษา 30% ของเวลาการตื่นนอนโดยประมาณ จึงจะมีความสามารถพูดภาษานั้น ๆ ได้คล่องแคล่ว

อย่างไรก็ตาม ความเชื่อที่ว่าเมื่อเด็กได้ฟังหลายภาษาทำให้พูดช้าลง เป็นความเชื่อที่ไม่เป็นความจริง เด็กจะพูดช้าหรือไม่ขึ้นอยู่กับตัวเด็กเองไม่ได้เกี่ยวกับการที่เขาได้ฟังหลายภาษา ดังนั้นพ่อแม่ที่ต้องการให้ลูกเป็นเด็กสองภาษา (Bilingual) ไม่จำเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับประเด็นนี้

เมื่อพ่อแม่ต้องไปทำงานและลูกต้องใช้ชีวิตอย่างน้อยวันละ 8 ชั่วโมงกับคนอื่น พัฒนาการด้านภาษาจึงขึ้นอยู่กับผู้ที่เลี้ยงดูเด็ก เด็กมักเลียนแบบและทำตามคนใกล้ชิดเสมอ และผู้ที่ใกล้ชิดเด็กนอกจากพ่อแม่นั้นคือพี่เลี้ยงเด็ก การอ่านและการเขียน (Reading and Writing) อาจยังไม่ใช่ปัญหาใหญ่เท่ากับการฟังและการพูด (listening and speaking) ซึ่งการฝึกฝนตั้งแต่เล็ก ๆ จะเป็นการปูพื้นฐานให้เด็กสามารถใช้ภาษาอังกฤษได้เป็นอย่างดีในอนาคต

ปัจจุบันในประเทศไทยพ่อแม่จำนวนมากจึงเทคะแนนนิยมหันมาจ้างพี่เลี้ยงเด็กชาวต่างชาติมากขึ้น เพื่อให้เด็กเกิดความคุ้นเคยกับการฟังและพูดภาษาอังกฤษไปโดยปริยาย ข้อดีอีกข้อหนึ่งคือทำให้ลูกได้ภาษาโดยไม่ต้องจ่ายเงินที่แพงมากเมื่อเทียบกับการไปเรียนภาษาเพิ่มเติมแบบหวังผลจริงจัง ตัวอย่างเช่น พี่เลี้ยงจากฟิลิปปินส์ส่วนมากจบการศึกษามาในระดับที่ดีและได้รับการฝึกอบรมมาอย่างถูกวิธี แต่การจ้างงานอาจจะมีความยุ่งยากอยู่บ้างเพราะทางไทยและฟิลิปปินส์เองยังไม่มีข้อตกลงว่าด้วยความร่วมมือด้านการจ้างแรงงานระหว่างรัฐ ทำให้การจ้างงานพี่เลี้ยงชาวฟิลิปปินส์ใช้หลักเกณฑ์เดียวกับการจ้างแรงงานต่างด้าวทั่วไปซึ่งต้องเป็นการจ้างผ่านนิติบุคคล ในส่วนนี้คุณพ่อคุณแม่ที่อยากจ้างพี่เลี้ยงฟิลิปปินส์สามารถทำตามขั้นตอนเดียวกับการจ้างแรงงานต่างด้าวจากประเทศอื่นได้เลย
เหตุผลที่ค่าจ้างพี่เลี้ยงเด็กสองภาษาสูงกว่าค่าจ้างพี่เลี้ยงทั่วไป
คุณสมบัติบางอย่างของพี่เลี้ยงเป็นหนึ่งปัจจัยที่ส่งผลต่ออัตราค่าแรงหรือค่าจ้าง หากพ่อแม่ผู้ปกครองลองสำรวจอัตราค่าจ้างพี่เลี้ยงเด็กโดยค้นหาข้อมูลจากอินเทอร์เน็ต จะพบว่าค่าจ้างของพี่เลี้ยงเด็กสองภาษามักสูงกว่าค่าจ้างของพี่เลี้ยงเด็กทั่วไป เหตุผลหลัก ๆ ที่ทำให้ค่าจ้างของพี่เลี้ยงเด็กสองภาษาแพงกว่าพี่เลี้ยงเด็กทั่วไปนั้นต้องเป็นเรื่องของทักษะด้านภาษาแน่นอนอยู่แล้ว และโดยส่วนมากพี่เลี้ยงเด็กสองภาษาเป็นชาวต่างชาติที่เข้ามาทำงานในประเทศไทยหรือพี่เลี้ยงสัญชาติไทยที่มีทักษะความรู้ด้านภาษาที่สอง พ่อแม่ผู้ปกครองส่วนหนึ่งยินดีที่จะจ่ายแพงกว่าเพราะต้องการให้เด็กมีความสามารถพูดภาษาอังกฤษได้หรือต้องการเลี้ยงลูกแบบ Bilingual

พี่เลี้ยงเด็กสองภาษามีทักษะด้านภาษาที่สามารถดูแลและสอนการบ้านที่เป็นภาษาอังกฤษให้แก่เด็กได้ ยิ่งในปัจจุบันที่มีการเรียนการสอนภาษาอังกฤษตั้งแต่ชั้นอนุบาล พี่เลี้ยงเด็กสองภาษาสามารถแบ่งเบาหน้าที่ของพ่อแม่ผู้ปกครองในการสอนการบ้านหรืออ่านหนังสือนิทานภาษาอังกฤษเพราะตัวพี่เลี้ยงเองมีความรู้ความสามารถด้านภาษาในระดับหนึ่ง

ไม่ได้มีแค่ครอบครัวคนไทยที่ต้องการใช้บริการพี่เลี้ยงสองภาษา แต่ยังมีครอบครัวของชาวต่างชาติที่อาศัยอยู่ในประเทศไทยและต้องการจ้างพี่เลี้ยงที่มีทักษะด้านภาษามาดูแลลูกของตน ดังนั้นจึงเป็นอะไรที่สะดวกกว่าหากเลือกจ้างพี่เลี้ยงที่สามารถเข้าใจและสื่อสารภาษาที่สองกับเด็กได้เป็นอย่างดี ที่สำคัญผู้ปกครองชาวต่างชาติส่วนใหญ่เต็มใจที่จะให้ค่าตอบแทนที่สูงกว่าปกติเช่นกัน สิ่งเหล่านี้จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้ค่าจ้างของพี่เลี้ยงเด็กสองภาษานั้นสูงกว่าค่าจ้างของพี่เลี้ยงทั่วไป
เทคนิคพิเศษที่พี่เลี้ยงสองภาษาควรมีเพื่อส่งเสริมพัฒนาการทางด้านภาษาของเด็กคืออะไร
เทคนิคพิเศษที่พี่เลี้ยงสองภาษาควรมีเพื่อส่งเสริมพัฒนาการทางด้านภาษาของเด็กมีดังต่อไปนี้

1. เทคนิคในการใช้สื่อการสอนเป็นภาษาที่สอง และมีกิจกรรมที่น่าสนใจให้เด็ก ๆ ทำโดยไม่ซ้ำกัน พี่เลี้ยงสองภาษาสามารถจัดเตรียมสื่อการสอนต่าง ๆ ที่เป็นภาษาที่สองไว้ให้เด็ก เช่น การ์ดเกมคำศัพท์ภาษาอังกฤษ โปสเตอร์คำศัพท์พร้อมรูปภาพ เกมฝึกทักษะด้านภาษาอย่าง Scrabble เป็นต้น สื่อการสอนเหล่านี้จะช่วยให้เด็กมีความสนใจในการเรียนรู้คำศัพท์มากกว่าต้องมานั่งจำหรืออ่านจากในตำราที่มีแต่ตัวหนังสือ
2. ดึงดูดความสนใจของเด็กด้วยวีดิโอหรือการ์ตูนที่เป็นภาษาอังกฤษ แทนที่พี่เลี้ยงจะให้เด็กดูแต่การ์ตูนภาษาไทย พี่เลี้ยงควรเปิดการ์ตูนภาษาอังกฤษให้เด็กดูบ่อย ๆ เพื่อให้เด็กได้ซึมซับจากการออกเสียง การได้ยินภาษาอังกฤษจากในการ์ตูนบ่อย ๆ จะทำให้เด็กเคยชินและเผลอใช้ภาษาอังกฤษออกมาโดยที่ไม่รู้ตัว
3. พี่เลี้ยงควรสอดแทรกคำศัพท์ภาษาที่สองในระหว่างปฏิบัติกิจวัตรประจำวันของเด็กทีละนิด เช่น หากเด็กต้องการอะไรบางอย่าง พี่เลี้ยงสามารถสอนให้เด็กพูดเป็นประโยคภาษาอังกฤษง่าย ๆ เพื่อเป็นการฝึกให้เด็กใช้ภาษาที่สองในการใช้ชีวิตประจำวัน
4. เทคนิคในการสอนคำศัพท์ภาษาอังกฤษจากสิ่งรอบตัวของเด็ก ปกติเด็กในวัย 2-5 ขวบขึ้นไปมักจดจำคำศัพท์จากสิ่งใกล้ตัว คงจะดีไม่น้อยหากพี่เลี้ยงสามารถสอนคำศัพท์ภาษาอังกฤษง่าย ๆ ให้กับเด็กได้เพื่อเป็นการสะสมคำศัพท์ขั้นพื้นฐานให้กับเด็กตั้งแต่เนิ่น ๆ ก่อนเตรียมตัวเข้าโรงเรียนอนุบาล
5. สร้างบรรยากาศการเรียนรู้ที่เอื้ออำนวยต่อตัวเด็ก บางครั้งพี่เลี้ยงสามารถลองพูดคุยสื่อสารกับเด็กด้วยประโยคภาษาอังกฤษง่าย ๆ แล้วลองให้เด็กตอบกลับมาเพื่อดูว่าเด็กมีความเข้าใจมากน้อยแค่ไหน หากเด็กตอบผิดให้พี่เลี้ยงพยายามอธิบายและช่วยบอกประโยคที่ถูกต้องให้ ทำให้เด็กรู้สึกรักและดื่มด่ำกับภาษา และทำให้ภาษาที่สองนั้นไม่ดูยากเกินไปสำหรับเด็ก
สิ่งที่คุณพ่อและคุณแม่ควรตกลงกับพี่เลี้ยงเด็กสองภาษามีอะไรบ้าง
สิ่งที่พ่อแม่ควรทำความตกลงกับพี่เลี้ยงสองภาษาในรายละเอียดดังต่อไปนี้

1. รายละเอียดเรื่องวันทำงาน ระยะเวลาในการทำงานแต่ละวัน วันหยุดมีกี่วันต่อปี จำนวนเด็กที่ต้องดูแลในครอบครัวนั้น ระยะเวลาการจ้างงาน
2. ตกลงอัตราค่าจ้างในการทำงาน รวมถึงอัตราค่าจ้างในการทำงานล่วงเวลาหรือในวันพิเศษอื่น ๆ ถ้ามี
3. ตกลงและทำความเข้าใจเรื่องรายละเอียดงาน เวลานอน เวลาทานนมหรืออาหารของเด็ก เพราะในหลายกรณีคุณพ่อคุณแม่อาจมีกำหนดตารางเวลาของกิจวัตรประจำวันที่ต้องการรักษาไว้อยู่แล้ว รวมทั้งต้องตกลงเกี่ยวกับความรับผิดชอบในหน้าที่อื่น ๆ ที่นอกเหนือจากการเลี้ยงดูลูกของท่าน เช่นพ่อแม่บางท่านอาจต้องการให้พี่เลี้ยงดูแลรับผิดชอบการทำความสะอาดบ้าน การทำหรือปรุงอาหารด้วย เป็นต้น
4. ตกลงหรือแจ้งให้พี่เลี้ยงทราบถึงพฤติกรรมที่พ่อแม่ผู้ปกครองต้องการ หรือไม่ต้องการให้พี่เลี้ยงปฏิบัติต่อลูกของท่าน ซึ่งแต่ละครอบครัวนั้นอาจมีพฤติกรรม หรือแนวทางการเลี้ยงที่แตกต่างกันไป เช่นบางครอบครัวอาจอนุญาตให้ลูกเล่นบนพื้นดิน หรือทรายนอกบ้านได้ แต่บางครอบครัวอาจไม่ บางครอบครัวอาจอนุญาตให้ลูกเล่นกับสัตว์เลี้ยงเช่นน้องหมาหรือแมวได้ เป็นต้น โดยพี่เลี้ยงจะต้องรับทราบถึงรสนิยม หรือลักษณะการเลี้ยงดูที่พึงประสงค์ของแต่ละครอบครัวที่แตกต่างกันออกไปนี้
5. แนวคิดการสอนหรือระดับภาษาที่พ่อแม่ผู้ปกครองคาดหวัง หรือต้องการให้พี่เลี้ยงสอนลูกได้ เช่น บางครอบครัวคุณอาจให้ลูกเรียกพ่อแม่ หรือคุณพ่อคุณแม่ บางครอบครัวใช้คำว่ากินข้าวแต่บางครอบครัวต้องใช้คำว่ารับประทานอาหาร จะต้องไม่มีการพูดคำหยาบคายให้ลูกคุณได้ยิน เป็นต้น
6. พ่อแม่ควรตกลงเรื่องการวัดผลการปฏิบัติงานอย่างสม่ำเสมอ และมีการตรวจสอบอย่างใกล้ชิดว่าเด็กมีพัฒนาการการเรียนรู้ทางภาษาแบบสองภาษาตามเกณฑ์มาตรฐานหรือไม่

โดยข้อตกลงที่กล่าวมาข้างต้นนี้ เป็นเพียงข้อตกลงมาตรฐาน แต่ละครอบครัวอาจมีความแตกต่าง หรือมีส่วนอื่นเพิ่มเติมขึ้นอยู่กับพฤติกรรมของแต่ละครอบครัว แต่สิ่งที่สำคัญและเพื่อประโยชน์ของทั้งสองฝ่ายข้อตกลงทั้งหมดนี้ควรทำกันเป็นสัญญาที่เป็นลายลักษณ์อักษร