ดูแลเด็ก ใน คลองสาน, กรุงเทพมหานคร

ดูแลเด็ก ใน คลองสาน, กรุงเทพมหานคร

คุณต้องการใช้บริการนี้เมื่อไหร่?
ตอนนี้
ระบุวันที่

วิธีการทำงาน

Saijai

ติดต่อเรา

ติดต่อเราโดยตรงผ่าน LINE OA เพื่อจองบริการที่คุณต้องการ

Saijai

แจ้งรายละเอียดให้เราทราบ

เลือกบริการ วันที่ เวลา และสถานที่ที่คุณต้องการให้ตรงกับความต้องการของคุณ

Saijai

ยืนยันการจองของคุณ

เราจะยืนยันการจองของคุณภายใน 24 ชั่วโมงผ่านทาง LINE OA

เสาวณีย์ เขาพระจันทร์
เสาวณีย์ เขาพระจันทร์
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี
Saijai อายุ 38 ปี

ใส่ใจดูแลเหมือนลูกเจ้าของเองใจเย็น ดูแลได้ตลอด

แสดงเพิ่มเติม
มัณฑนา ศรีโชติ
มัณฑนา ศรีโชติ
Saijai ประสบการณ์ 1-2 ปี
Saijai อายุ 49 ปี

ใจเย็น รักเด็ก พร้อมเรียนรู้ปรับตัว

แสดงเพิ่มเติม
กัญญาภัทร บุตรพรม
กัญญาภัทร บุตรพรม
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี

สวัสดีค่ะ ชือ ภัทรค่ะ อายุ 52 ถนัดดูแลเด็กแรกคลอด คุณแม่หลังคลอดค่ะ นวดเด็กแรกเล็กได้ ช้วยให้เด็ก อารมณ์ดีไม่งอแง ช่วยระบบขับถ่าย เลือดลมไหลเวียนดี ร่างกายแข็งแรง.นวดประคบสมุนไพร คุณแม่หลังคลอดช่วยในการอยู่ไฟสมัยโบราณ ทำให้มดลูกเข้าอู่ไว้ ร่างกายแข็งแรง รับงานได้ทั้งในและต่างประเทศค่ะ รับดูแลทั้งคนไทยและต่างชาติ

แสดงเพิ่มเติม
ฉันทนา สิทธิ
ฉันทนา สิทธิ
Saijai ประสบการณ์ 1-2 ปี
Saijai อายุ 45 ปี

เป็นคนง่ายๆรักเด็กใจเย็นไม่เคยโกรธหรือโมโหอะไรง่ายๆนอนน้อยทําได้หมดแต่ไม่ชอบจู้จี้

แสดงเพิ่มเติม

มีความอดทน ขยัน รักความสะอาด ใจเย็น

แสดงเพิ่มเติม
วิไล นันต๊ะภาพ
วิไล นันต๊ะภาพ
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี
Saijai อายุ 47 ปี
ทิพวรรณ์ ราศรี
ทิพวรรณ์ ราศรี
Saijai ประสบการณ์ 1-2 ปี
Saijai อายุ 26 ปี

เป็นคนอัธยาศัยดีค่ะ ใจเย็นค่ะชอบเล่นกับเด็ก ส่งเสริมพัฒนาการของน้องได้ค่ะ

แสดงเพิ่มเติม
นวพร ทัตตวุฒิคุณ
นวพร ทัตตวุฒิคุณ
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี
Saijai อายุ 48 ปี

ดิฉันชื่อ นวพร ค่ะ ปัจจุบันทำงานเป็นแม่บ้านรายชั่วโมงค่ะ ด้วยความที่ต้องดูแลลูก ๆ 3 คนด้วยตนเองมาตลอดเลยทำให้ใช้ชีวิตประจำวันอยู่กับการดูแลบ้าน ดูแลลูก ๆ ค่ะ ดิฉันมั่นใจว่าจะสามารถทำวามสะอาดบ้านของคุณได้อย่างดีค่ะ ขอบคุณค่ะ

แสดงเพิ่มเติม
Piyatida Dumluck
Piyatida Dumluck
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี
Saijai อายุ 39 ปี

ข้อมูลสถิติน่าสนใจเกี่ยวกับ

Saijai จำนวนประชากร
Saijai จำนวนประชากรเด็ก (แรกเกิด-14 ปี)
Saijai จำนวนประชากรสูงอายุ (60 ปี ขึ้นไป)
Saijai จำนวนสัตว์เลี้ยง สุนัข

รีวิวล่าสุด

พี่เลี้ยงเด็กที่จ้างผ่านเว็บใส่ใจคือดีจริง ๆ พี่เลี้ยงเด็กมีประสบการณ์ในการเลี้ยงดูเด็กและเป็นคนที่ซื่อสัตย์มาก ทำให้คนเป็นแม่อย่างเราหายห่วงลูกเลยจริง ๆ หากใครที่กำลังมองหาพี่เลี้ยงเด็ก บริการของทางใส่ใจถือเป็นตัวเลือกที่ดีเลยทีเดียวสำหรับคุณพ่อคุณแม่ยุคใหม่ที่ต้องทำงานนอกบ้าน
Saijai
กรรชัย วงศ์พานิชญ์
3 ปีที่แล้ว
ดิฉันเป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวค่ะ ทำงานทุกวัน ไม่มีเวลาดูแลลูก บางครั้งต้องเอาไปฝากญาติ ๆ แต่ตอนนี้เลยตัดสินใจจ้างพี่เลี้ยงเด็กของทางใส่ใจ ตอนแรกก็ไม่รู้เลยค่ะว่ามีขั้นตอนในการจ้างพี่เลี้ยงเด็กอย่างไรบ้าง เลยติดต่อเบอร์ของทางใส่ใจไป อยากจะบอกว่าประทับใจการให้บริการมาก ๆ ค่ะ ทางใส่ใจให้ข้อมูลทุกอย่างครบถ้วนตามที่เราต้องการอยากทราบ ประทับใจจริง ๆ ค่ะ
Saijai
ปารีณา ภักดีดำรงค์ศักดิ์
3 ปีที่แล้ว
บ้านอยู่แถว สุขุมวิท71 ลองใช้เว็บใส่ใจครั้งแรก เพราะเพื่อนๆ แนะนำมา อยากได้พี่เลี้ยงเด็ก มองหามาหลายที่ ที่นี่รายละเอียดครบ ราคาชัดเจน โทรปรึกษาพนักงานก็อธิบายเข้าใจง่ายมาก สะดวกสบาย ง่ายกว่า search หาเองใน Google ชอบมากๆ ค่ะ
Saijai
นงคราญ แซ่ตั้ง
4 ปีที่แล้ว
อยู่ ๆ พี่เลี้ยงคนเก่าลาออกโดยไม่แจ้งล่วงหน้าต้องรีบหาพี่เลี้ยงใหม่แบบเร่งด่วน ไม่รู้จะทำยังไง บังเอิญมาเจอเว็บใส่ใจ หาพี่เลี้ยงคนใหม่ได้ง่ายมาก ๆ แถมได้คนดี มีประสบการณ์ ทำงานคล่อง เยี่ยมเลยค่ะ ประทับใจสุด ที่สำคัญคุณแม่สบายใจได้คนมาทำงานทันที
Saijai
ภัทรา กิจบำรุง
4 ปีที่แล้ว
เมื่อก่อนไม่กล้าจ้างพี่เลี้ยงเด็ก แต่ลองจ้างผ่านทางใส่ใจดู พี่เลี้ยงทำงานได้น่าพอใจมาก ๆ พูดเพราะมาก จนลูกเราติดคำพูดเลยค่ะ ราคาก็ที่ไม่สูงเกินไป จับต้องได้สำหรับคนที่มีรายได้ไม่เยอะอย่ามากต่อเดือน คุณแม่คนไหนอยากหาพี่เลี้ยงเด็ก แนะนำเลยค่ะ
Saijai
ชื่นนภา วัฒนพันธ์
4 ปีที่แล้ว

คำถามที่พบบ่อยสำหรับการค้นหา ดูแลเด็ก

พี่เลี้ยงเด็กส่วนตัวหรือเนอสเซอรี่ (Nursery) อะไรคือคำตอบสำหรับคุณพ่อคุณแม่ยุคนี้
ข้อดีของการให้พี่เลี้ยงดูแลเด็กที่บ้านของคุณเอง

1. ลูกน้อยของคุณได้รับการดูแลจากพี่เลี้ยงแบบใกล้ชิด ทำให้เด็กรู้สึกได้ถึงความเอาใจใส่ และมีพัฒนาการทางอารมณ์ที่ดี
2. มีความยืดหยุ่นในการทำกิจวัตรประจำวันเพราะเด็กไม่ต้อง กิน นอน หรือ เล่นตามตารางเหมือนอยู่ในศูนย์รับเลี้ยงเด็กหรือเนอสเซอรี่ (Nursery)
3. พี่เลี้ยงเด็กสามารถปรับเวลาการทำงานให้สอดคล้องกับเวลาทำงานและวันหยุดของคุณพ่อคุณแม่
4. คุณพ่อคุณแม่มีเวลาอยู่กับลูกมากขึ้นเพราะไม่ต้องเผื่อเวลาในการรับส่ง ก่อนและหลังเลิกงาน
5. เด็กได้รับการดูแลในบรรยากาศที่คุ้นเคยและรู้สึกปลอดภัย
6. คุณพ่อคุณแม่ประหยัดเวลาในการเดินทางรับส่ง หมดปัญหาเรื่องรถติดและมลภาวะบนท้องถนน
7. คุณพ่อคุณแม่ประหยัดเวลาในการเตรียมตัวหรือจัดเตรียมของใช้ให้ลูก เช่น ขวดนม เสื้อผ้า หรือแพมเพิส
8. ลดความเสี่ยงของโรคติดต่อ โดยเฉพาะเด็กเล็กที่ภูมิต้านทานยังน้อยจะเจ็บป่วยได้ง่าย หากต้องอยู่ปะปนกับเด็ก ๆ อื่น
9. มีคนอยู่บ้านตลอดเวลาในขณะที่คุณพ่อคุณแม่ออกไปทำงาน

ข้อดีของการเข้าเนอสเซอรี่ (Nursery)

1. ฝึกทักษะการเข้าสังคมเพราะเด็กต้องอยู่ร่วมกับเด็กคนอื่น ๆ และครูพี่เลี้ยง
2. ค่าใช้จ่ายไม่สูงเมื่อเปรียบเทียบกับการจ้างพี่เลี้ยงส่วนตัว
3. เนอสเซอรี่มีกิจกรรมส่งเสริมการเรียนรู้เพื่อให้เด็กฝึกทักษะผ่านการทำกิจกรรมต่าง ๆ
ทักษะสำคัญที่พี่เลี้ยงเด็กควรมีคืออะไร
6 ทักษะสำคัญที่พี่เลี้ยงเด็กควรมี

1. ความรู้ด้านการส่งเสริมพัฒนาการ การส่งเสริมพัฒนาการทำได้ทั้งผ่านการเล่นและการทำกิจวัตรประจำวัน พี่เลี้ยงเด็กที่ดีควรหากิจกรรมเพื่อให้เด็กมีส่วนร่วมและช่วยเหลือตัวเองได้ตามวัยที่เหมาะสม
2. ความอดทนและใจรักเด็ก เด็กแต่ละคนมีความแตกต่างกันทั้งลักษณะนิสัย อารมณ์และการแสดงออก บางคนว่านอนสอนง่าย บางคนชอบเล่นซนทั้งวัน หรือบางคนงอแง พี่เลี้ยงเด็กที่ดีควรมีใจรักเด็กเป็นพื้นฐาน พร้อมทำความเข้าใจและมีความอดทน พยายามหาวิธีที่ทำให้เด็กรู้สึกวางใจ ปลอดภัย และยอมเชื่อฟังพี่เลี้ยงในที่สุด
3. ความรู้ด้านการปฐมพยาบาลเบื้องต้นและรู้เบอร์โทรศัพท์ในกรณีฉุกเฉิน ถ้าเด็กหกล้มมีแผลถลอกพี่เลี้ยงเด็กต้องรู้ว่าจะจัดการกับแผลถลอกอย่างไร ในกรณีฉุกเฉินพี่เลี้ยงเด็กต้องสามารถติดต่อหน่วยงานที่ให้ความช่วยเหลือได้
4. ทักษะการสื่อสาร เด็กมีความแตกต่างกันในแต่ละช่วงอายุ พี่เลี้ยงเด็กต้องเข้าใจการสื่อสารกับเด็ก เช่น เข้าใจภาษากายของทารก การสื่อสารของเด็กเล็ก สำหรับเด็กที่สามารถสื่อสารด้วยทำพูดได้แล้ว พี่เลี้ยงเด็กต้องพูดคุยเพื่อให้เด็กเชื่อฟังโดยไม่ใช้การบังคับและให้เด็กรู้สึกสบายใจ
5. ทักษะการแก้ปัญหา หากไม่ใช่เรื่องที่ร้ายแรงพี่เลี้ยงเด็กต้องรู้วิธีแก้ปัญหาหรือสถานการณ์ตรงหน้าตามสมควรโดยไม่จำเป็นต้องรายงานหรือรอให้คุณพ่อคุณแม่ตัดสินใจทุกครั้ง
6. ความคิดสร้างสรรค์ คงไม่ดีแน่หากพี่เลี้ยงเด็กดูแลเด็กด้วยการให้เด็กดูสมาร์ทโฟนเป็นชั่วโมง พี่เลี้ยงเด็กที่ดีควรมีความคิดสร้างสรรค์เล่นกับเด็กเพื่อให้เด็กเพลิดเพลินได้นานหลายชั่วโมงและให้เด็กได้พักผ่อนตามเวลา

ทั้งหมดนี้คือคุณสมบัติและทักษะที่ดีที่คุณพ่อและคุณแม่ควรมองหาในตัวพี่เลี้ยงเด็กที่คุณเลือกมาเพื่อดูแลลูกน้อยของคุณค่ะ
หากคุณพ่อคุณแม่มีความกังวลเมื่อต้องปล่อยให้ลูก ๆ อยู่กับพี่เลี้ยงตามลำพัง ควรทำอย่างไร
ใส่ใจขอพูดถึงข้อกังวลและแนวทางแก้ไขเมื่อคุณพ่อคุณแม่จำเป็นต้องจ้างพี่เลี้ยงเด็กมาดูแลลูกๆ ที่บ้าน

1. ความปลอดภัยของลูกน้อย สิ่งที่คุณพ่อคุณแม่เป็นกังวลมากที่สุดคือความปลอดภัย ไม่ว่าจะเกิดจากอุบัติเหตุหรือการกระทำรุนแรงของพี่เลี้ยงเด็ก คุณพ่อคุณแม่ต้องหมั่นสังเกตความเปลี่ยนแปลงของลูกน้อยทั้งทางร่างกายและพฤติกรรม ควรพูดคุย ซักถามเด็กอยู่เป็นประจำเกี่ยวกับกิจกรรมระหว่างวันที่ลูก ๆ ทำกับพี่เลี้ยง การติดตั้งกล้องวงจรปิดภายในบ้านเป็นอีกวิธีที่ทำให้คุณพ่อคุณแม่อุ่นใจขึ้น
2. ประสบการณ์การทำงาน บางครั้งพี่เลี้ยงเด็กอาจไม่ได้ให้ข้อเท็จจริงทั้งหมดเกี่ยวกับประสบการณ์ทำงานและความชำนาญของตน นอกจากการสัมภาษณ์พี่เลี้ยงเด็ก คุณพ่อคุณแม่อาจจะให้มีการทดลองงานสักระยะหนึ่งเพื่อดูว่าพี่เลี้ยงเด็กมีความชำนาญหรือสามารถทำงานได้ตามมอบหมายหรือไม่
3. พี่เลี้ยงเด็กหยิบฉวยทรัพย์สินในบ้าน หลายครั้งที่คุณพ่อคุณแม่เจอพี่เลี้ยงที่มีประสบการณ์แต่ยังกังวลว่าพี่เลี้ยงเด็กอาจพยายามขโมยสิ่งของมีค่าภายในบ้าน แนวทางป้องกันที่คุณพ่อคุณแม่ทำได้คือ ไม่วางสิ่งของมีค่าไว้ในที่เปิดเผย ล็อคลิ้นชักเก็บของและประตูห้องที่พี่เลี้ยงเด็กไม่จำเป็นต้องใช้ คุณพ่อคุณแม่อาจจะติดตั้งกล้องวงจรปิดไว้ภายในบ้านเพื่อช่วยเป็นหูเป็นตาได้อีกทาง
ในวันสัมภาษณ์พ่อแม่ควรตกลงอะไรกับพี่เลี้ยงเด็ก
ขั้นตอนของการสัมภาษณ์พี่เลี้ยงเด็กนั้นถือเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่ง เพราะไม่ใช่แค่คุณจะได้ทำความรู้จักกับพี่เลี้ยงที่คุณจะจ้าง แต่ในขั้นตอนนี้คุณต้องทำการตกลงกับพี่เลี้ยงเด็กก่อนเริ่มงาน ดังนั้นวันนี้ใส่ใจมีข้อแนะนำให้คุณพ่อคุณแม่ที่กำลังจะสัมภาษณ์พี่เลี้ยงเด็กและพูดคุยถึงข้อตกลงที่สำคัญมีอะไรบ้างมาดูกันค่ะ

1) ขอบเขตหน้าที่ที่คุณต้องการให้พี่เลี้ยงทำ เช่น ช่วยเลี้ยงลูกคุณขณะคุณไม่อยู่บ้าน ช่วยเตรียมกับข้าวให้ลูกน้อยรับประทานในแต่ละมื้อ ช่วยสอนการบ้านหากพี่เลี้ยงมีความสามารถ
2) วันและเวลาการทำงาน ในวันที่สัมภาษณ์คุณและพี่เลี้ยงจะต้องตกลงเรื่องวันเวลาการทำงานให้อย่างชัดเจน และคุณควรจะมีวันหยุดให้พี่เลี้ยงตาม กฎหมายกระทรวงแรงงาน นายจ้างต้องให้ลูกจ้างมีวันหยุดประจำสัปดาห์ และวันพักร้อน ได้ 6 วัน ต่อ ปี และต้องหยุดตามประเพณี ปีละไม่น้อยกว่า 13 วัน
3) ค่าจ้าง คุณจะต้องตกลงเรื่องค่าจ้างกับพี่เลี้ยงให้ชัดเจน หากพี่เลี้ยงปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างดี คุณควรที่จะเพิ่มเงินเดือนให้ตามความเหมาะสม ในกรณีที่พี่เลี้ยงเด็กทำงานในวันหยุดนายจ้างต้องจ่ายเงินค่าจ้างตามกฎหมายแรงงาน
4) ข้อตกลงในการอาศัยอยู่ในบ้าน หากคุณมีกฎระเบียบที่ต้องการให้พี่เลี้ยงเด็กปฏิบัติตามกฎที่คุณตั้งไว้ คุณต้องแจ้งให้พี่เลี้ยงเด็กรับทราบก่อนเริ่มงานเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต
5) ถ้าคุณเป็นหนึ่งคนที่ไม่อยากให้ลูกติดโทรศัพท์ คุณควรแจ้งให้พี่เลี้ยงทราบ และควรกำชับพี่เลี้ยงว่าไม่ให้ลูกของคุณเล่นโทรศัพท์ขณะที่คุณไม่อยู่ เพราะเด็กอาจได้รับผลกระทบจากการเล่นโทรศัพท์นานเกินไปจนส่งผลให้เกิดภาวะสมาธิสั้นและส่งผลกับสายตา ดังนั้นพี่เลี้ยงจะต้องหากิจกรรมที่ให้เด็กได้พัฒนาตนเองมากกว่าการเล่นโทรศัพท์มือถือ

ไหว้พระวัดทอง 4 วัด ในคลองสาน

เขตคลองสาน มีวัดเก่าแก่อยู่หลายวัด แต่ที่แปลกกว่าที่อื่นคือมีวัดที่มีชื่อเป็น “ทอง อยู่มากถึง 4 วัด คือ

1. วัดสุวรรณ เป็นวัดราษฎร์ ตั้งอยู่แขวงคลองต้นไทร เดิมชื่อ วัดสุวรรณอุบาสิการาม แต่สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส ได้ตัดคำว่า “อุบาสิการาม” ออกเพราะเห็นว่ายาวเยิ่นเย้อ วัดสุวรรณสร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2325 ปีเดียวกับ กรุงรัตนโกสินทร์ สันนิษฐานว่าสร้างโดยชาวจีน เพราะพระอุโบสถหลังเดิมมีลักษณะแบบจีน พระประธานในพระอุโบสถเป็นพระพุทธสมัยสุโขทัย ภายในพระอุโบสถมีภาพจิตรกรรมฝาผนัง เป็นภาพเจดีย์สำคัญต่างๆในประเทศไทยโดยฝีมือช่างพื้นบ้าน ข้างพระอุโบสถมีวิหาร “หลวงพ่อทรมานกาย” เป็นพระพุทธปูนปั้นปางพระพุทธเจ้าทรงบำเพ็ญทุกรกิริยา ด้านหน้าทางเข้าวัดมีพระแม่กวนอิมมหาโพธิสัตว์ (อวโลกิเตศวร) และวัดยังมีมณฑปเป็นที่เก็บพระพุทธรูปเก่าแก่หลายองค์

2. วัดทองธรรมชาติวรวิหาร หรือ วัดทองบน หรือวัดทอง เป็นพระอารามหลวงชั้นตรี ชนิดวรวิหาร ตั้งอยู่ในแขวงคลองสาน เหตุที่เรียกอีกชื่อว่าวัดทองบน เพราะยังมีอีกวัดที่ตั้งอยู่ใกล้เคียงกันคือ “วัดทองนพคุณ” หรือ “วัดทองล่าง” เพื่อไม่ให้ชาวบ้านสับสน เดิมวัดทองธรรมชาติเป็นวัดราษฎร์ สันนิษฐานว่าสร้างใน สมัยกรุงศรีอยุธยา ต่อมา รัชกาลที่ 1 กรมหลวงนรินทรเทวี พระขนิษฐาในรัชกาลที่ 1 และกรมหมื่นนรินทรพิทักษ์ พระภัสดา ได้ทรงร่วมกันปฏิสังขรณ์วัดขึ้นใหม่ จนสมัยรัชกาลที่ 3 มีการปฏิสังขรณ์จนเสร็จสมบูรณ์ และได้พระราชทานนามว่า “วัดทองธรรมชาติ” พระประธานในพระอุโบสถเป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ทรงพระราชทานนามว่า “พระพุทธชินชาติ มาศธรรมคุณ” ภายในพระอุโบสถมีภาพจิตรกรรมฝาผนังเป็นภาพไตรภูมิ และพระพุทธประวัติตอนมารผจญ ด้านข้างเป็นภาพเกี่ยวกับพุทธประวัติและเทพชุมนุม

3. วัดทองนพคุณ หรือ วัดทองล่าง เป็นพระอารามหลวงชั้นตรี ชนิดสามัญ ตั้งอยู่ในแขวงคลองสาน อยู่ใกล้กับวัดทองธรรมชาติ คาดว่าสร้างในสมัยอยุธยาตอนปลาย ต่อมาได้รับการบูรณะซ่อมแซมโดยพระยาโชฏึกราชเศรษฐี (ทองจีน) และถวายเป็นพระอารามหลวงในสมัยรัชกาลที่ 3 ได้มีการบูรณปฏิสังขรณ์ครั้งใหญ่อีกครั้งในสมัยรัชกาลที่ 4 วัดทองนพคุณได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานโดยกรมศิลปากร พระอุโบสถเป็นหลังคาลด 2 ชั้น หน้าบันแกะสลักสวยงาม ด้านหน้ามีรูปเทพอุ้มผ้าไตร ส่วนด้านหลังมีพานรองบาตร หน้าต่างพระอุโบสถมีความแปลกแตกต่างจากวัดอื่นคือเป็นหน้าต่างช่องกลม หน้านางด้านข้าง ข้างละ 4 ช่อง มีลวดลายปิดทองและประดับกระจกพระประธานเป็นพระพุทธรูปปูนปั้น ปางมารวิชัย มีจิตรกรรมฝาผนังเป็นเรื่องมหาเวสสันดรชาดก วาดโดยพระครูกสินสังวร (มี) ด้านหลังพระประธานเป็นรูปพระวิสูตรหรือผ้าม่าน มีเหล่าทวยเทพคลี่พระวิสูตรออกทั้งซ้ายและขวา พระวิหารหลังคาลด 2 ชั้น ไม่มีช่อฟ้า ใบระกา หน้าบันประดับกระเบื้องสีและถ้วย จาน ชาม

4. วัดทองเพลง เป็นวัดราษฎร์ ตั้งอยู่ในแขวงคลองต้นไทร วัดทองเพลงตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2334 เดิมมีชื่อว่า “วัดกลางทุ่ง” เพราะตั้งอยู่กลางทุ่งนาและสวนผลไม้ เหตุที่ชื่อว่า “วัดทองเพลง”เพราะ“นายทอง” นักร้องเพลงพื้นบ้านได้นิมนต์พระมาจำพรรษา และได้นำเงินที่ได้จากการร้องเพลงมาบูรณปฏิสังขรณ์วัด อุโบสถเป็นทรงไทยตามแบบสมัยอยุธยา ประดิษฐานพระประธาน เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย นามว่า “หลวงพ่อสิทธิชัย” เชื่อกันว่าเป็นพระพุทธรูปลอยน้ำมา บ้างก็เล่ากันว่าขุดพบที่วัดกก เขตบางขุนเทียน แล้วชาวบ้านพายเรือนำกลับมาที่วัด ภายในอุโบสถมีจิตรกรรมฝาผนังเป็นเรื่องพระพุทธเจ้าเปิดโลก มีภาพเจดีย์สำคัญในประเทศไทย และภาพประเพณีท้องถิ่นของทุกภาคในประเทศ

ใครมีโอกาสมาเยือนย่านคลองสาน แนะนำให้แวะไหว้พระทำบุญวัดทองทั้ง 4 วัดนี้ เพื่อขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์และเสริมความเป็นสิริมงคล



ศาลเจ้ากวนอูที่เก่าแก่ที่สุดในประเทศไทยอยู่ที่คลองสาน

ศาลเจ้ากวนอู (คลองสาน) ที่เก่าแก่ที่สุดในประเทศไทย อายุกว่า 281 ปี ตั้งอยู่ที่คลองสาน สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2279 สมัยสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ แห่งกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย ตรงกับสมัยของจักรพรรดิเฉียนหลงของราชวงศ์ชิง ซึ่งเป็นผู้สถาปนาให้กวนอูเป็น “จิอี้เสินอู่กวนเสิ้งต้าตี้” หมายความว่า มหาเทพกวนผู้ยิ่งใหญ่แห่งความจงรักภักดี คุณธรรม และความกล้าหาญ เฉพาะในกรุงปักกิ่งสมัยราชวงศ์จะมีศาลเจ้ากวนอูมากกว่าร้อยศาล ศาลเจ้ากวนอู (คลองสาน) ตั้งอยู่ฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ใกล้สวนสมเด็จย่า ด้านหลังวัดอนงคาราม เล่ากันว่าสมเด็จพระเจ้าตากสินเคยเสด็จมาสักการะเทพเจ้ากวนอูที่ศาลเจ้าแห่งนี้ก่อนจะออกกรีธาทัพ ภายในศาลเจ้ามีป้ายจารึกอักษรจีนโบราณใจความว่า “ศาลนี้บูชากวนอู บูชาความซื่อสัตย์มีคุณธรรมรักพี่รักน้องรักเพื่อนฝูง” เทวรูปกวนอูองค์ประธานมี 3 องค์ โดยองค์เก่าแก่สมัยอยุธยาจะตั้งอยู่หน้าสุด องค์กลางสร้างขึ้นในสมัยธนบุรี เป็นกวนอูในชุดนักรบอบบขอเฝ้าไม่ใช่ชุดในการออกรบ มีผู้อัญเชิญมาในปี พ.ศ. 2345 และองค์หลังสุดอัญเชิญมาในสมัยรัตนโกสินทร์ เมื่อปี พ.ศ. 2365

ด้านหน้าของศาลเจ้ากวนอูจะดูมีความเก่าแก่มีมนต์ขลัง ด้านบนหลังคามีรูปจำลองท้าวจตุโลกบาลแบบจีนประดิษฐานอยู่ พร้อมมังกรคู่ตามแบบศิลปะจีน ด้านหน้าศาลเจ้าติดริมฝั่งแม่น้ำมีเก๋งจีน ส่วนด้านล่างประดิษฐานรูปจำลองเจ้าแม่กวนอิม ชั้นสองประดิษฐานเง็กเซียนฮ่องเต้ เทพเจ้าแห่งโชคลาภ พระอรหันต์จี้กง และพระศรีอริยเมตไตยโพธิสัตว์ ชั้นบนสุดเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธเจ้านิกายมหายานสามพระองค์

การเดินทางที่ศาลเจ้ากวนอู มาได้ทั้งทางเรือท่องเที่ยวและทางรถ มีที่จอดบริเวณด้านหลังติดกับสวนสมเด็จย่า สามารถเข้าไปไหว้สักการะได้ตั้งแต่ 7:00 – 18:00 น. วิธีการขอพร ใช้ธูป 16 ดอก เทียน 2 เล่ม คือต้องเข้าไปจับที่เท้าของเทพเจ้ากวนอูแล้วอธิษฐาน และห้ามผู้หญิงที่มีประจำเดือนแตะต้องท่านเด็ดขาด เมื่อไหว้เสร็จให้ปักเทียนไว้ด้านใน และออกไปปักธูปด้านนอกตามจุดต่างๆที่มีตำแหน่งบอกไว้อีก 5 จุด เป็นที่เล่าขานกันว่าเจ้าพ่อกวนอูที่นี่มีความศักดิ์สิทธิ์มาก อย่าลืมหาโอกาสไปไหว้สักการะท่านนะคะ



ข้อดีข้อเสียของการเรียนออนไลน์ในยุคโควิด

เนื่องจากสถานการณ์โควิดในปัจจุบันยังไม่มีทีท่าว่าจะดีขึ้น โรงเรียนยังไม่สามารถเปิดทำการเรียนการสอนได้ นักเรียนนักศึกษาจึงต้องใช้วิธีการเรียนออนไลน์แทนเพื่อให้ยังอยู่ในระบบการศึกษา แต่การเรียนออนไลน์มีทั้งข้อดีและข้อเสีย ดังนี้

ข้อดีของการเรียนออนไลน์

1. สามารถย้อนกลับไปฟังหรือดูซ้ำได้ เพื่อเป็นการทบทวนบทเรียน

2. การเรียนออนไลน์ที่บ้านช่วยป้องกันการติดเชื้อและการแพร่ระบาดของไวรัสได้ตามหลักการเว้นระยะห่าง

3. เพิ่มความสามารถในการใช้งานเทคโนโลยี เพราะการเรียนออนไลน์ต้องอาศัยการใช้งานอุปกรณ์เทคโนโลยีต่างๆ เช่นโทรศัพท์แบบ Smart Phone คอมพิวเตอร์ โน้ตบุค และเรียนรู้การใช้แอปพลิชั่นต่างๆในการเรียนการสอน โปรแกรมคอมพิวเตอร์ต่างๆเพื่อใช้ทำการบ้านส่งครูอาจารย์

4. ช่องทางการสื่อสารในปัจจุบันมีหลายช่องทาง ทำให้ผู้เรียนและผู้สอนสามารถติดต่อกันได้สะดวกและรวดเร็ว เช่น Line, Facebook messenger, และ Email

ข้อเสียของการเรียนออนไลน์

1. การเข้าถึงอุปกรณ์ที่ใช้ในการเรียนออนไลน์มีจำกัด ทั้งตัวอุปกรณ์ เช่น โทรศัพท์มือถือ โทรทัศน์ รวมทั้งสัญญาณอินเทอร์เน็ต เด็กนักเรียนหลายคนไม่มีอุปกรณ์การเรียน ทำให้ไม่สามารถเรียนได้ ผู้ปกครองต้องพยายามหาอุปกรณ์ต่างๆให้ลูกหลานทำให้เป็นการเพิ่มภาระค่าใช้จ่าย

2. การเรียนออนไลน์เป็นการสื่อสารทางเดียว อาจทำให้เกิดความผิดพลาดในการรับรู้ของผู้เรียนได้

3. เด็กนักเรียนชั้นอนุบาล ชั้นประถมศึกษา ยังเล็กเกินกว่าจะสามารถใช้อุปกรณ์สื่อสารต่างๆในการเรียนออนไลน์ได้เอง ทำให้ผู้ปกครองต้องเข้ามาดูแล ซึ่งอาจไม่สะดวกนักหากผู้ปกครองต้องทำงานนอกบ้าน

4. ข้อเสียสำคัญอีกประการของการเรียนออนไลน์คือ ทำให้ไม่เกิด “การปฏิสัมพันธ์” การเรียนรู้การใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันในสังคม

อนาคตเราอาจยังต้องเรียนออนไลน์กันเพิ่มมากขึ้น ทั้งผู้เรียนและผู้สอนจึงต้องพยายามปรับตัวและปรับปรุงสื่อการสอนเพื่อให้เกิดการเรียนการสอนออนไลน์ที่มีคุณภาพ