ดูแลเด็ก ใน จอมทอง, กรุงเทพมหานคร

ดูแลเด็ก ใน จอมทอง, กรุงเทพมหานคร

คุณต้องการใช้บริการนี้เมื่อไหร่?
ตอนนี้
ระบุวันที่

วิธีการทำงาน

Saijai

ติดต่อเรา

ติดต่อเราโดยตรงผ่าน LINE OA เพื่อจองบริการที่คุณต้องการ

Saijai

แจ้งรายละเอียดให้เราทราบ

เลือกบริการ วันที่ เวลา และสถานที่ที่คุณต้องการให้ตรงกับความต้องการของคุณ

Saijai

ยืนยันการจองของคุณ

เราจะยืนยันการจองของคุณภายใน 24 ชั่วโมงผ่านทาง LINE OA

Narumon
Narumon
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี

จบหลักสูตร NA ฝึกงานที่โรงพยาบาลสุขุมวิทหลักสูตรดูแลเด็กตั้งแต่แรกเกิดและผู้สูงอายุเป็นผู้ช่วยเหลือคนไข้ เคยดูแลเด็กตามบ้านผู้ว่าจ้างและเลี้ยงที่บ้านตัวเอง

แสดงเพิ่มเติม
Nisachon Chuaykhun
Nisachon Chuaykhun
Saijai ประสบการณ์ 1-2 ปี
ผ่านการตรวจสอบประวัติบุคคล

1.ชื่อ-นามสกุล (ไทย) : นิศาชล ช่วยขุน(อังกฤษ) : nisachon chuaykhunสถานะ : โสด2.อายุ : 31 3.ตำแหน่งงานที่สมัคร : ครูผู้ช่วย พี่เลี้ยงเด็กส่วนสูง : 165 ซ.มน้ำหนัก : 44ก.ก.ไม่มีรอยสักไม่ใส่เหล็กดัดฟันไม่สูบบุหรี่กินเหล้านิสัยส่วนตัว ใจดีมีเมตตาชอบเด็กๆเป็นอย่างมาก เรียบร้อย พูดเพราะไม่พูดคำหยาบ ชอบดูแลคนอื่น ชอบให้คำปรึกษา ชอบให้แรงจูงใจให้ความรักพร้อมความรู้พร้อมกัน ชีวิตและการทำงานทุกทางผูกพันธ์กับเด็ก เป็นพี่สาวคนโตเลี้ยงๆน้องที่บ้านเกิด ขยันชอบเอนเตอร์เทรน ประวิติการทำงานสายอีเว้นท์ช่วงว่างงานหรือวันหยุด-MC โฟนของเล่นเด็ก บ.คิดส์โด-MC โฟนงานวัคซีน ม.ไทย-ญี่ปุ่น- Staff แจกใบปลิว งานโบกป้าย เอกตร้า-ครูสอนเสริม สอนการบ้านบ้านเด็กกำพร้างานประจำที่เคยผ่าน-ฝึกงาน สถาบันคอม ม.ราม-พี่เลี้ยงสถานสงเคราะห์ บ.มหาเมฆ กรมเด็ก-ปัจจุบัน ครูผู้ช่วยโรงเรียนเด็กก่อนเรียนรามคำแหง 7.ระดับการศึกษา :ป.ตรี คณะมนุษยศาสตร์ ม.รามคำแหง8.ความสามารถพิเศษ : ร้องเพลงลูกทุ่ง โฟนMC เต้น นำกิจกรรมเอนเตอร์เทน9.สื่อสารภาษาอังกฤษ : พอได้บ้าง10.รอยสัก : ไม่มี11. ที่อยู่ : รามคำแหงมหาดไทย12. สถานะการฉีดวัคซีนโควิด : ฉีดแล้ว2เข็ม

แสดงเพิ่มเติม
พัชรี   อ่อนศรี
พัชรี อ่อนศรี
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี
ผ่านการตรวจสอบประวัติบุคคล

สวัสดีค่ะ พี่ชื่อ พัชรี อ่อนศรีค่ะ

เคยผ่านการทำงานเลี้ยงเด็กมา10ปีค่ะตั้งแต่แรกเกิดถึงเข้าโรงเรียนค่ะพี่ดูแลทุกอย่างเกี่ยวกับเด็กค่ะ

ช่วยส่งเสริมพัฒนาการเด็กแต่ระช่วงวัยดูแลความปลอดภัยขั้นสูงสุดในแต่ระช่วงวัยค่ะ

ทำอาหารได้ทุกช่วงวัยของเด็กค่ะเน้นความสะอาด ใจเย็น มีสติในการทำงานตลอดเวลาค่ะ

เลี้ยงเด็กตามความประสงของพ่อและแม่ค่ะแต่ระบ้านจะมีวิธีการเลี้ยงแตกต่างกันค่ะ ใส่ใจรายระเอียดทุกอย่างค่ะ ขอบคุณมากๆๆค่ะ

แสดงเพิ่มเติม
สุนีย์  กอศรีสกุล
สุนีย์ กอศรีสกุล
Saijai ประสบการณ์ 2-3 ปี
Saijai อายุ 52 ปี
ผ่านการตรวจสอบประวัติบุคคล

Hi my name is Sunee. I have an experince of babysitting for more than 2 years as well as raising my own kids. I was an exchange student and stay with a family in Canada in 1988. After graduated bechalor degree from Ramkhamhang University, I worked as a Thai Language Tutor for foreigners. I can communicate in English.

แสดงเพิ่มเติม
ปราณี  ต่วนลา
ปราณี ต่วนลา
Saijai ประสบการณ์ 3-4 ปี
ผ่านการตรวจสอบประวัติบุคคล

ดูแลได้ตั้งแต่แรกเกิด - 10 ขวบ - ดูแลเด็กต่างชาติ มาเลย์ ดูไบ ออสเตรเลีย

ประมาณ 2 ปี กว่า ทำงานที่นี่ เพราะ อยากใช้เวลาว่าง สร้างรายได้เสริมคะ.

-อุปนิสัย

มองโลก เชิงบวก,ใจเย็น,พร้อมเรียนรู้ สิ่งใหม่ๆ

-สามารถ ว่ายน้ำ,ทำอาหาร,ขับรถมอเตอร์ไซค์,ขับรถยนต์ มีใบขับขี่.

แสดงเพิ่มเติม
พิกุลทอง  รังวิจี
พิกุลทอง รังวิจี
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี
Saijai อายุ 53 ปี
ผ่านการตรวจสอบประวัติบุคคล

มีประสบการณ์เป็นครูศูนย์ 8 ปี พี่เลี้ยงเสริมพัฒนาการเด็ก แถวๆ หมู่บ้าน ดูแลเด็ก 2 ขวบขึ้น

แสดงเพิ่มเติม
ศิตอร  ภูสุวรรณ
ศิตอร ภูสุวรรณ
ผ่านการตรวจสอบประวัติบุคคล

มีประสบการณ์พี่เลี้ยงเด็ก เคยดูแลเด็กตั้งแต่แรกเกิดจนอายุ 8 ขวบค่ะ ชงนม ป้อนข้าว อาบน้ำ ดูแลทั่วไปค่ะ

แสดงเพิ่มเติม
อาซียะห์  บินฮะเก็ต
อาซียะห์ บินฮะเก็ต
Saijai ประสบการณ์ 4-5 ปี
Saijai อายุ 30 ปี
ผ่านการตรวจสอบประวัติบุคคล

ฉีดวัคซีนครบ 3 เข็มแล้วค่ะ เป็นคนอัธยาศัยดี ร่าเริง ใจเย็น รักเด็ก พูดคุยและเสริมพัฒนาการเด็กได้ดี มีประสบการณ์เลี้ยงเด็กทั้งแรกเกิดและเด็กโต 5ปี ใส่ใจและมีความรับผิดชอบต่อหน้าที่ และปรับตัวเข้ากับผู้คนได้ง่าย ซื่อสัตย์

แสดงเพิ่มเติม
บุศรินทร์ พลอยศุภผล
บุศรินทร์ พลอยศุภผล
Saijai ประสบการณ์ 1-2 ปี
Saijai อายุ 35 ปี
ณิชชา อภิปาลกุล
ณิชชา อภิปาลกุล
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี

ทำงานบ้านนายเลี้ยงเด็กที่ไม่ใช่ลูกมามากกว่า 5 ปี สามารถขับรถได้ ดูแลเด็กได้ดี ใจเย็น ทำอาหารได้ สามารถทำงานตามที่นายสั่งได้

แสดงเพิ่มเติม
วิมลทิพย์  โถสโมสร
วิมลทิพย์ โถสโมสร
Saijai ประสบการณ์ 0-1 ปี

กำลังศีกษาหลักสูตร NA ค่ะ

แสดงเพิ่มเติม
ศุภลักษณ์ สติภา
ศุภลักษณ์ สติภา
Saijai ประสบการณ์ 0-1 ปี

สวัสดีดีคะฉันสามารถเลี้ยงเด็กได้คะฉันรักเด็กใส่ใจและเสริมพัฒนาการเด็กได้คะฉันร่าเริงยิ้มง่ายใส่ใจความสะอาดเกี่ยวกับตัวเองและเด็กหรือคนรอบข้างดิฉันมีความตั้งใจใส่ใจในการทำงานมากถ้าผลตอบแทนดีและเหมาะสมจะทำงานสุดความสามารถคะ

แสดงเพิ่มเติม
วาสนา แหยมแก้ว
วาสนา แหยมแก้ว
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี
Saijai อายุ 46 ปี
อลิสา  อารีย์
อลิสา อารีย์
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี

ดิฉันอลิสา อารีย์ ปัจจุบันอายุ 52 ปี ประสบการณ์การทำงาน 15 ปีขึ้นไป จบหลักสูตรพี่เลี้ยงเด็กจาก รพ.ศิริราช ดูแลเด็กแรกเกิดจนถึง 6 ปี แล้วแต่อายุงาน

แสดงเพิ่มเติม
กัญชพร เชื้อแถว
กัญชพร เชื้อแถว
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี

งานประจำเป็นครูพี่เลี้ยงอยู่เนอสเซอรี่ ทำงานมา 6 ปี เป็นคนขี้เล่น เฟรนลี่ อยู่ที่ทำงานเป็นครูผู้นำสอนน้องทำกิจกรรมในด้านพัฒนาการต่างๆ

แสดงเพิ่มเติม
เพรียวพร ลูกเพชร
เพรียวพร ลูกเพชร
Saijai อายุ 22 ปี

มีประสบการณ์ เป็นพี่เลี้ยงเด็กในศูนย์เลี้ยงเด็ก 4 เดือน สามารถดูแลเด็กอายุ 4 ขวบขึ้นไป รับวัคซีนแล้ว 3 เข็ม สะดวกให้บริการสะดวกรับตามสถานที่ที่เดินทางโดย mrt สอนภาษาอังกฤษได้ เล่นกีต้าเป็น วาดรูปและร้องเพลงได้ สามารถเป็นเพื่อนน้องทำกิจกรรมที่เหมาะสมตามวัยได้ค่ะ

แสดงเพิ่มเติม

ชื่อหนิงค่ะ ได้รับวัคซีนครบ 2 เข็ม ทำงานสอนดนตรี(กีตาร์คลาสสิก) สอนตั้งแต่เด็กจนถึงผู้ใหญ่ รวมถึงสอนเด็กที่มีความพิเศษ(ออทิสติกด้วยค่ะ) มีกิจกรรมที่ทำกับเด็กอยู่เรื่อยๆค่ะ รักเด็ก ชอบอยู่กับเด็กๆค่ะ

แสดงเพิ่มเติม
rasita pimpakorn
rasita pimpakorn
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี

ชื่อ รสิตา พิมพกร ชื่อเล่น ปูสถานะภาพ มีครอบครัวแล้วเบอร์โทร 098-9954465ว-ด-ป เกิด 5ธันวาคม 2527สัญชาติ ไทยตำแหน่งที่ต้องการสมัคร พี่เลี้ยงน้องค่ะการสื่อสารภาษา อังกฤษ พออ่านออกเขียนได้ค่ะไทย ดีมากค่ะปัจจุบันพักอยู่ที่ สระแก้วประสบการณ์ทำงาน -เลี้ยงน้อง1ขวบถึง4ขวบลาดพร้าว-เลี้ยงน้อง2ขวบถึง4ขวบทองหล่อ-เลี้ยงน้อง3เดือนถึง3ขวบ7เดือนชิดลมได้รับวัคซีนมาแล้ว ....3... เข็ม

แสดงเพิ่มเติม
พิมพ์พิชญา แสนลุน
พิมพ์พิชญา แสนลุน
Saijai ประสบการณ์ 3-4 ปี
Saijai อายุ 19 ปี

ยิ้มเก่ง มีมารยาท รักเด็ก

แสดงเพิ่มเติม
อรวรรณ มีมุข
อรวรรณ มีมุข
Saijai ประสบการณ์ 0-1 ปี

สวัสดีค่ะ ชื่อจอยนะคะ อายุ 22 ปีค่ะ เพิ่งจบปริญญาตรีจากมหาวิทยาลันหอการค้าไทย สาขาภาษาอังกฤษและการแปลค่ะ เคยช่วยพี่เลี้ยงหลานตอนช่วงปิดเทอมค่ะ และตอนนี้อยากหาประสบการณ์เลี้ยงเด็กเพิ่มค่ะ เพื่อที่จะสมัครเป็นออแพร์ที่ต่างประเทศค่ะ เป็นคนใจเย็นและใจดีค่ะ สามารถสอนภาษาอังกฤษน้องและสอนการบ้านน้องได้ค่ะ เข้ากับเด็กได้ดีและชอบอยู่กับเด็กค่ะ

แสดงเพิ่มเติม

ข้อมูลสถิติน่าสนใจเกี่ยวกับ

Saijai จำนวนประชากร
Saijai จำนวนประชากรเด็ก (แรกเกิด-14 ปี)
Saijai จำนวนประชากรสูงอายุ (60 ปี ขึ้นไป)
Saijai จำนวนสัตว์เลี้ยง สุนัข

รีวิวล่าสุด

ดิฉันกับสามีทำงานประจำทั้งคู่ค่ะ ไม่มีใครคอยอยู่ดูแลลูกที่บ้านเลย ลูกติดนิสัยชอบอยู่แต่ในบ้านและซนกับพี่เลี้ยงมาก จนพี่เลี้ยงหลาย ๆ คนทนไม่ไหวถึงกับขอลาออกเอง โชคดีที่ได้เจอพี่เลี้ยงคนนี้บนเว็บใส่ใจ พี่ลี้ยงเข้ากับน้องได้ดีค่ะ
Saijai
วิลาภรณ์ สุทธิรักษ์
3 ปีที่แล้ว
ลาคลอดได้แค่ 3 เดือน ค่ะ ต้องกลับไปทำงานต่อ จะฝากลูกไว้กับยายก็กลัวแกจะดูไม่ไหว เลยลองหาพี่เลี้ยงจากเว็บใส่ใจดู ตอนแรกก็กังวลอยู่เหมือนกันค่ะ ไม่กล้าทิ้งลูกไว้กับพี่เลี้ยง แต่ก็วางใจอย่างนึงว่าพี่เลี้ยงมีประสบการณ์ ตอนนี้ทุกอย่างลงตัว โอเคมาก ๆ ค่ะ
Saijai
สุชาดา มิ่งมงคล
3 ปีที่แล้ว
เปลี่ยนพี่เลี้ยงเด็กมาหลายคน ส่วนมากราคาสูง ๆ ทั้งนั้น แต่อยู่ไม่ได้นานก็ลาออก ลองจองพี่เลี้ยงผ่านเวปใส่ใจ เยี่ยมมากเลยครับ แฟนสบายใจ หมดปัญหา ไม่ต้องจ้างพี่เลี้ยงราคาแพง ได้ราคาแบบสมเหตุสมผล แถมมีคุณภาพครับ
Saijai
จิตวัชร จันประทีป
3 ปีที่แล้ว
ลูกยังเล็กเราจ้างพี่เลี้ยงมา ตกลงเวลาเริ่มงาน 9.30-17.30 น. (พี่เลี้ยงมา 8.30 น. ทุกวัน ) ประสบการณ์ เคยดูแล เด็กเล็ก 4 เดือน – 2 ขวบ พอเด็กเข้าโรงเรียน ก็ว่าง พอดีที่บ้านช่วยกันหา เจอเว็บนี้เห็นรีวิวประสบการณ์คนเลี้ยงเลย คุยดู พี่เลี้ยงทำงานดีมาก่อนเวลา เตรียมของใช้ ทำงานเป็นระเบียบเหมือนอบรมมาดี อุ่นใจ คิดถูกที่ใช้บริการใส่ใจ แนะนำค่ะ
Saijai
ณัฐวรรณ แสงสีเงิน
3 ปีที่แล้ว
เมื่อก่อนไม่กล้าจ้างพี่เลี้ยงเด็ก แต่ลองจ้างผ่านทางใส่ใจดู พี่เลี้ยงทำงานได้น่าพอใจมาก ๆ พูดเพราะมาก จนลูกเราติดคำพูดเลยค่ะ ราคาก็ที่ไม่สูงเกินไป จับต้องได้สำหรับคนที่มีรายได้ไม่เยอะอย่ามากต่อเดือน คุณแม่คนไหนอยากหาพี่เลี้ยงเด็ก แนะนำเลยค่ะ
Saijai
ชื่นนภา วัฒนพันธ์
3 ปีที่แล้ว

คำถามที่พบบ่อยสำหรับการค้นหา ดูแลเด็ก

หากคุณพ่อคุณแม่ต้องทำงานนอกบ้านและไม่มีเวลาเลี้ยงลูกเอง ลองเปรียบเทียบกันระหว่างส่งลูกไปเนอสเซอรี่และจ้างพี่เลี้ยงเด็กมาดูแลลูกที่บ้าน อะไรจะตรงใจคุณพ่อคุณแม่มากที่สุด
บริการรับเลี้ยงเด็กในปัจจุบันมีหลายทางเลือก ไม่ว่าจะเป็นพี่เลี้ยงเด็ก หรือเนอสเซอรี่ เรามาดูข้อดีข้อเสียกันเลยค่ะ

ข้อดีของพี่เลี้ยงเด็กที่บ้านมีดังนี้

1) พี่เลี้ยงสามารถดูแลลูกน้อยของคุณได้อย่างใกล้ชิด ลูกของคุณจะได้รับความเอาใจใส่ที่ส่งผลต่อพัฒนาการเด็กทางด้านอารมณ์
2) พี่เลี้ยงสามารถช่วยส่งเสริมพัฒนาการเด็กผ่านการทำกิจกรรมต่าง
3) พ่อแม่ประหยัดเวลามากขึ้น หากจ้างพี่เลี้ยงมาดูแลที่บ้าน
4) เด็กจะไม่ป่วยบ่อย เนื่องจากเด็กจะอยู่ในบ้านของตนเอง

ข้อดีของเนอสเซอรี่

1) เด็ก ๆ จะรู้จักการเข้าสังคม
2) เนอสเซอรี่มีบริเวณกว้างเพื่อให้เด็กได้ทำกิจกรรมหลากหลายรูปแบบ
3) เด็กจะได้ฝึกดูแลตัวเอง เพราะครูพี่เลี้ยงไม่ได้ดูแลเด็กแบบใกล้ชิด

ข้อเสียของพี่เลี้ยง

1) ค่าใช้จ่ายอาจจะสูงกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับเข้าศูนย์เนอสเซอรี่
2) เด็กอาจจะติดพี่เลี้ยงเกินไป
3) ลดความเป็นส่วนตัวของครอบครัว

ข้อเสียของเนอสเซอรี่

1) เด็กป่วยบ่อยเพราะมีภูมิคุ้มกันที่น้อยเนื่องจากอยู่กับเด็กหลายคน
2) ลูกจะไม่ได้รับการดูแลใกล้ชิดแบบตัวต่อตัวอาจส่งผลถึงอารมณ์ของเด็กได้
3) เด็กจะอยู่ห่างไกลจากพ่อแม่

หากคุณพ่อคุณแม่กำลังมองหาบริการพี่เลี้ยงเด็ก ใส่ใจมีบริการพี่เลี้ยงมืออาชีพที่พร้อมจะให้บริการคุณค่ะ
คุณสมบัติอะไรบ้างที่พ่อแม่ควรมองหาจากพี่เลี้ยงเด็กก่อนตกลงจ้าง
ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่คุณพ่อคุณแม่สักคนจะตัดสินใจหาใครมาดูแลลูกน้อยที่เปรียบเสมือนแก้วตาดวงใจ วันนี้ใส่ใจมีข้อมูลของทักษะและคุณสมบัติที่พี่เลี้ยงเด็กควรมีมาฝากให้คุณพ่อคุณแม่ลองเช็คกันดูก่อนตัดสินใจจ้างพี่เลี้ยงสักคน

1. พี่เลี้ยงเด็กต้องมีความอดทนสูง คุณพ่อคุณแม่ต้องมั่นใจว่าพี่เลี้ยงเด็กต้องมีความเข้าใจเด็ก สามารถรับมือกับสถานการณ์ต่าง ๆ ได้ดี และที่สำคัญที่สุดคือเป็นคนที่มีความอดทนสูง
2. พี่เลี้ยงเด็กควรรู้วิธีการปฐมพยาบาลเบื้องต้น ในกรณีเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดหรืออุบัติเหตุ พี่เลี้ยงต้องมีความรู้และทักษะการปฐมพยาบาลเบื้องต้น และสามารถช่วยเหลือเด็กได้ทันที เช่น เด็กที่อยู่ภายใต้การดูแลเกิดอุบัติเหตุหกล้ม มีแผลถลอก พี่เลี้ยงต้องรีบปฐมพยาบาลเบื้องต้นเพื่อไม่ให้เกิดการติดเชื้อของแผล เป็นต้น ดังนั้นคุณพ่อและคุณแม่ควรเลือกพี่เลี้ยงที่มีทักษะด้านการปฐมพยาบาลเบื้องต้นเพราะเป็นสิ่งจำเป็นมาก ๆ
3. พี่เลี้ยงเด็กควรมีทักษะการแก้ไขปัญหา พี่เลี้ยงจะต้องรู้วิธีการแก้ไขปัญหาเบื้องต้นได้โดยไม่จำเป็นต้องแจ้งผู้ว่าจ้างเสมอไปหากปัญหานั้นไม่ใช่ปัญหาที่ร้ายแรง
4. ทำอาหารเป็น ถือเป็นอีกหนึ่งทักษะที่พี่เลี้ยงเด็กจำเป็นต้องมี พี่เลี้ยงไม่ได้มีหน้าที่แค่ดูแลเด็กอย่างเดียวเท่านั้น แต่พี่เลี้ยงอาจจะต้องเตรียมอาหารให้เด็ก ๆ รับประทานในแต่ละมื้อด้วย หากอาหารอร่อยถูกปาก เด็กจะเจริญอาหารและอารมณ์ดี ที่สำคัญที่สุดที่พี่เลี้ยงต้องใส่ใจและจดจำด้วยว่าเด็ก ๆ ที่ดูแลนั้น แพ้อาหารอะไรบ้าง เพื่อป้องกันอุบัติเหตุที่อาจจะเกิดขึ้นจากการรับประทานสิ่งที่แพ้เข้าไป
5. มีความคิดสร้างสรรค์ในการส่งเสริมพัฒนาการเด็ก พี่เลี้ยงจะต้องเป็นคนที่มีความคิดสร้างสรรค์ สามารถร่วมทำกิจกรรมกับเด็ก ๆ ในระหว่างวัน ไม่ว่าจะเป็นทางด้านวิชาการหรือสันทนาการ เช่น พี่เลี้ยงเด็กอาจจะสอนเด็กนับเลข ฝึกการอ่าน หรือระบายสีเพื่อให้เด็กได้เรียนรู้ผ่านกิจกรรมที่สร้างสรรค์เหล่านี้
หากคุณพ่อคุณแม่มีความกังวลเมื่อต้องปล่อยให้ลูก ๆ อยู่กับพี่เลี้ยงตามลำพัง ควรทำอย่างไร
ใส่ใจขอพูดถึงข้อกังวลและแนวทางแก้ไขเมื่อคุณพ่อคุณแม่จำเป็นต้องจ้างพี่เลี้ยงเด็กมาดูแลลูกๆ ที่บ้าน

1. ความปลอดภัยของลูกน้อย สิ่งที่คุณพ่อคุณแม่เป็นกังวลมากที่สุดคือความปลอดภัย ไม่ว่าจะเกิดจากอุบัติเหตุหรือการกระทำรุนแรงของพี่เลี้ยงเด็ก คุณพ่อคุณแม่ต้องหมั่นสังเกตความเปลี่ยนแปลงของลูกน้อยทั้งทางร่างกายและพฤติกรรม ควรพูดคุย ซักถามเด็กอยู่เป็นประจำเกี่ยวกับกิจกรรมระหว่างวันที่ลูก ๆ ทำกับพี่เลี้ยง การติดตั้งกล้องวงจรปิดภายในบ้านเป็นอีกวิธีที่ทำให้คุณพ่อคุณแม่อุ่นใจขึ้น
2. ประสบการณ์การทำงาน บางครั้งพี่เลี้ยงเด็กอาจไม่ได้ให้ข้อเท็จจริงทั้งหมดเกี่ยวกับประสบการณ์ทำงานและความชำนาญของตน นอกจากการสัมภาษณ์พี่เลี้ยงเด็ก คุณพ่อคุณแม่อาจจะให้มีการทดลองงานสักระยะหนึ่งเพื่อดูว่าพี่เลี้ยงเด็กมีความชำนาญหรือสามารถทำงานได้ตามมอบหมายหรือไม่
3. พี่เลี้ยงเด็กหยิบฉวยทรัพย์สินในบ้าน หลายครั้งที่คุณพ่อคุณแม่เจอพี่เลี้ยงที่มีประสบการณ์แต่ยังกังวลว่าพี่เลี้ยงเด็กอาจพยายามขโมยสิ่งของมีค่าภายในบ้าน แนวทางป้องกันที่คุณพ่อคุณแม่ทำได้คือ ไม่วางสิ่งของมีค่าไว้ในที่เปิดเผย ล็อคลิ้นชักเก็บของและประตูห้องที่พี่เลี้ยงเด็กไม่จำเป็นต้องใช้ คุณพ่อคุณแม่อาจจะติดตั้งกล้องวงจรปิดไว้ภายในบ้านเพื่อช่วยเป็นหูเป็นตาได้อีกทาง
ข้อตกลงสำคัญที่พ่อแม่ควรตกลงกับพี่เลี้ยงเด็กก่อนเริ่มงานมีอะไรบ้าง?
สัญญาหรือข้อตกลงในการทำงานเป็นสิ่งที่คุณพ่อคุณแม่และพี่เลี้ยงเด็กต้องตกลงร่วมกันเพื่อความเข้าใจที่ตรงกันในขอบเขตการทำงานและค่าตอบแทน การทำสัญญาเป็นลายลักษณ์อักษรอาจจะไม่จำเป็นเสมอไป แต่การร่างหรือการบันทึกรายการช่วยให้ทั้งสองฝ่ายจดจำรายละเอียดต่าง ๆ ได้ง่ายขึ้น มีอะไรบ้างที่คุณพ่อคุณแม่และพี่เลี้ยงเด็กควรตกลงกันก่อนเริ่มงาน

1. วันเริ่มงาน ควรมีวันเริ่มงานให้ชัดเจนเพื่อประโยชน์และไม่เป็นการเสียเวลาของทั้งคุณพ่อคุณแม่และพี่เลี้ยงเด็ก
2. ชั่วโมงการทำงานและวันหยุด ตกลงเรื่องเวลาทำงาน จำนวนชั่วโมงการทำงานในแต่ละวันและวันหยุด เพื่อให้ตารางการทำงานของพี่เลี้ยงเด็กสอดคล้องกับเวลาทำงานของพ่อคุณแม่มากที่สุด และทั้งสองฝ่ายควรรักษาเวลา
3. ขอบเขตหน้าที่และความรับผิดชอบ กำหนดความรับผิดชอบของพี่เลี้ยงเด็กให้ชัดเจน
4. ค่าแรงและกำหนดการจ่าย ค่าแรงของพี่เลี้ยงเด็กอาจขึ้นอยู่กับลักษณะการทำงาน เช่นพี่เลี้ยงเด็กรายชั่วโมง รายวัน รายสัปดาห์และรายเดือน ซึ่งกำหนดการจ่ายเงินอาจจะแตกต่างกันไปตามลักษณะการทำงานนี้ด้วย
5. ค่าแรงในกรณีทำงานล่วงเวลา หากคุณพ่อคุณแม่ต้องการให้พี่เลี้ยงเด็กทำงานล่วงเวลา ควรสอบถามความสมัครใจของพี่เลี้ยงและตกลงกันให้ชัดเจนเรื่องค่าแรง
6. การโพสต์รูปหรือข้อความเกี่ยวกับเด็กลงสื่อออนไลน์ (Social Medias) คุณพ่อคุณแม่คงไม่อยากให้มีรูปภาพ หรือข้อความเกี่ยวกับลูก ๆ ถูกโพสต์ลงในโซเชียลมีเดีย เช่น เฟสบุ๊ค หรืออินสตาแกรม โดยไม่ได้รับอนุญาต ดังนั้นคุณพ่อคุณแม่ควรทำความตกลงกับพี่เลี้ยงเด็กในเรื่องนี้ด้วย
ทั้งหมดนี้คือสิ่งที่คุณพ่อและคุณแม่ควรพูดคุยตกลงกับพี่เลี้ยงเด็กให้ชัดเจนก่อนเริ่มงาน

ตลาดน้ำวัดไทรในอดีต

ตลาดน้ำฝั่งบางขุนเทียนที่โด่งดังมานานมีอยู่เพียงตลาดเดียวคือ ตลาดน้ำวัดไทร ตั้งอยู่ ถนนเอกชัย ซอย 23 (ซอยวัดไทร) แขวงบางขุนเทียน เขตจอมทอง กรุงเทพฯ ตลาดน้ำวัดไทร เคยเป็นตลาดน้ำที่รุ่งเรืองมากในอดีต และเป็นตลาดน้ำที่สวยงามที่สุด เป็นตลาดน้ำในคลองสนามชัย (บางคนเรียกคลองด่าน) บริเวณหน้าวัดไทร ซึ่งเป็นวัดที่สันนิษฐานกันว่าสร้างขึ้นตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา บริเวณวัดแต่ก่อนเป็นชุมชนใหญ่ มีผู้คนอาศัยหนาแน่น มีคลองสนามชัยเป็นคลองที่เชื่อมต่อไปยังคลองต่างๆ เพื่อออกสู่แม่น้ำเจ้าพระยา ท่าน้ำหน้าวัดไทรจึงเป็นแหล่งรวมผู้คนที่สัญจรไปมา มีการค้าขายผักผลไม้โดยนำใส่เรือเพื่อมาจำหน่ายและขนส่งไปต่างถิ่นโดยรถไฟที่สถานีรถไฟมหาชัย-วงเวียนใหญ่ซึ่งตั้งอยู่หลังวัด เดิมทีที่บริเวณตลาดน้ำวัดไทรจะมีห้องแถวอยู่ประมาณ 80 ห้อง บริเวณทั้งสองฝั่งคลอง มีสะพานไม้ทอดยาวตลอดด้านหน้าตลาด เป็นท่าขนส่งสินค้าจากสวนที่จะมีเรือเข้ามาประมาณ 100-150 ลำ ต่อวัน ด้วยภาพวิถีชีวิตของคนฝั่งคลองและสภาพตลาดที่สวยงามทำให้มีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติมาเยี่ยมชมตลาดอยู่เนืองๆ กลายเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศมาเกือบ 40 ปี จนกระทั่งราว พ.ศ. 2520 ความเจริญเริ่มเข้ามา เริ่มมีเรือแท็กซี่ เรือยนต์ของนักท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้น จนเรือค้าขายของพ่อค้าแม่ค้าเริ่มลดน้อยลง อีกทั้งยังมีการสร้างถนนหนทางในเขตพื้นที่จอมทองเพิ่มมากขึ้นด้วย ตลาดน้ำวัดไทรจึงเริ่มเข้าสู่ระยะถดถอย ไม่ค่อยมีพ่อค้าแม่ค้าพายเรือมาขายของ ความคึกคักของตลาดเริ่มหายไป ทำให้บรรดาไกด์นำเที่ยวต้องพานักท่องเที่ยวย้ายไปชมตลาดน้ำกันแถววัดหลัก 6 อ. บ้านแพ้ว และตลาดน้ำดำเนินสะดวก อ. ดำเนินสะดวก จ. ราชบุรี ตลาดน้ำวัดไทรจึงถูกทิ้งให้ร้างไป

ต่อมาในปี พ.ศ. 2545 ตลาดน้ำวัดไทรได้รับการฟื้นฟูให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวร่วมสมัยโดยสำนักงานเขตจอมทอง ทำให้ตลาดน้ำวัดไทรกลับมาคึกคักอีกครั้ง มีการแสดงภายในตลาด เช่นการเล่นเรือของศิลปินแห่งชาติ การแสดงของเด็กนักเรียนในสังกัดสำนักงานเขตจอมทอง มีการจำหน่ายสินค้าการเกษตร และจัดล่องเรือชมวิถีชีวิตสองฝั่งคลอง ชื่นชมทัศนียภาพและชุมชนตลอดแนวลำคลอง ชมการแสดงงู แวะชมตำหนักทอง หอกลองเก่า สถาปัตยกรรมสมัยอยุธยาในวัดไทร และเข้าชมวัดเก่าแก่เช่นวัดราชโอรสารามฯ วัดบางประทุนนอก และวัดนางนอนวัดหนัง ซึ่งปัจจุบันตลาดน้ำวัดไทรยังเปิดให้เที่ยวชมและมีนักท่องเที่ยวมาเที่ยวเรื่อยๆโดยเฉพาะวันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์



พาชมพิพิธภัณฑ์ท้องถิ่น เขตจอมทอง

พิพิธภัณฑ์ท้องถิ่นกรุงเทพมหานคร เขตจอมทอง ตั้งอยู่ภายในวัดยายร่ม ถ. พระรามที่ 2 ซอย 33 แขวงบางมด เขตจอมทอง วัดยายร่มเป็นวัดเก่าแก่อายุเกือบ 200 ปี มีโบสถ์ 2 ชั้น ชั้นบนประดิษฐานพระหลวงพ่อพุ่ม ที่ชาวบ้านเขตนี้เคารพบูชาอย่างมาก ชั้นล่างของโบสถ์ประดับตกแต่งด้วยไม้สักทองแกะสลักสวยงาม ทำให้โบสถ์ที่วัดยายร่มมีความโดดเด่นจากหลายๆวัดในแถบนี้ ภายในพิพิธภัณฑ์ได้แบ่งออกเป็น 5 ส่วน ส่วนแรกจะนำเสนอความเป็นมาของ “บางกอก” เมืองหน้าด่านที่สำคัญ และมีการจัดแสดงเรื่องราวการขุดคลองในสมัย สมเด็จพระไชยราชาธิราช ซึ่งทำให้เกิดคลองสำคัญคือ คลองบางกอกน้อย คลองบางกอกใหญ่ และแม่น้ำเจ้าพระยาในปัจจุบัน

ส่วนที่ 2 กล่าวถึง “คลองด่าน” ซึ่งเป็นลำคลองสายสำคัญของชาวบ้านเขตจอมทอง เป็นเส้นทางการคมนาคม แหล่งน้ำสำคัญของการทำสวนผลไม้ มี “คลองสนามชัย” เป็นคลองเชื่อมต่อกับคลองด่านเพื่อเป็นทางในการขนส่งสินค้า อาหารทะเล เกลือทะเล และถ่านไม้โกงกาง และเป็นที่ตั้งของตลาดน้ำวัดไทร ตลาดน้ำที่โด่งดังมากในสมัยนั้นเพราะเป็นแหล่งรวมผลผลิตทางการเกษตรในย่านฝั่งธนบุรี นอกจากนี้ยังมีการจัดแสดงเส้นทางรถไฟสาย มหาชัย-วงเวียนใหญ่ ซึ่งเป็นสายการค้า พ่อค้าแม่ค้าจะขนส่งอาหารทะเลโดยทางรถไฟเสียส่วนมาก ปัจจุบันรถไฟสายนี้ยังคงดำเนินการอยู่ โดยจะออกทุก 1 ชั่วโมง

ส่วนที่ 3 เสนอภูมิปัญญาของชาวสวนลิ้นจี่ คือ เครื่องมือไล่กระรอกและค้างคาว ที่มากินผลไม้ในสวน ซึ่งจะทำจากไม้ผ่าตรงกลาง ร้อยด้วยเชือกและนำไปแขวนเป็นระยะๆ ตามต้นไม้ ตกกลางคืนชาวสวนจะออกมาดึงเชือกเพื่อให้เกิดเสียง เป็นการไล่สัตว์ที่มากินผลไม้ ชาวสวนเรียกเครื่องมือนี้ว่า “ตะขาบ”

ส่วนที่ 4 กล่าวถึงศิลปะเฉพาะซึ่งเป็นศิลปกรรมแบบพระราชนิยมในสมัยรัชกาลที่ 3 คือ ศิลปะแบบวัดนอกอย่าง โดยมีวัดราชโอรส เป็นต้นแบบของวัดนอกอย่าง นอกจากนี้ยังมี วัดนางนอง และวัดหนัง จุดเด่นของวัดนอกอย่างคือ หน้าบันที่มีช่อฟ้า ใบระกาทำด้วยการก่ออิฐถือปูนแทนที่จะทำด้วยไม้เหมือนวัดทั่วๆไป และยังนิยมประดับด้วยเครื่องเคลือบสีต่างๆ ศิลปะส่วนใหญ่ตามกระถางธูป กระถางต้นไม้ จะมีลวดลายแบบจีน เพราะรัชกาลที่ 3 ทรงติดต่อค้าขายกับพ่อค้าชาวจีน ด้วยเหตุนี้เรามักได้ยินคำกล่าวถึงเขตจอมทองว่า “จอมทองจุดกำเนิดวัดนอกอย่าง”

ส่วนที่ 5 เป็นส่วนสุดท้ายของพิพิธภัณฑ์ที่แบ่งการจัดแสดงเป็น 2 หัวข้อ หัวข้อแรกคือเรื่องของศิลปวัฒนธรรมในเขตจอมทอง เช่น ลิเกเด็กของคณะมงคลศิลป์ โรงเรียนวัดมงคลวราราม หรือ โขนจิ๋วจากโรงเรียนอนุบาลบ้านยิ้ม และโขนเด็กจากโรงเรียนศาลาครืน ส่วนประเพณีสำคัญของเขตนี้คือ การก่อเจดีย์ทรายในงานประเพณีสงกรานต์ วัดบางขุนเทียน และประเพณีแห่เทียนพรรษาทางน้ำของวัดบางประทุนนอก รวมไปถึงประเพณีแข่งเรือของวัดบางขุนเทียนกลาง หัวข้อที่สองคือบุคคลสำคัญของเขตจอมทอง อาทิเช่น ครูเพลงที่เป็นศิลปินแห่งชาติสาขาศิลปะการแสดงหลายคน เช่น ครูบุญเลิศ ครูบุญยง และครูบุญยัง เกตุคง รวมไปถึงหลวงปู่วัดหนัง อดีตเจ้าอาวาสวัดหนังผู้เคร่งครัดในพระธรรมวินัย เป็นที่ศรัทธาเลื่อมใสของชาวบ้านจอมทอง

พิพิธภัณฑ์ท้องถิ่นกรุงเทพมหานคร เขตจอมทอง เปิดให้เข้าชมทุกวันพุธ-วันอาทิตย์ เวลา 9:00-16:30 น. โดยไม่มีค่าใช้จ่าย การเดินทางก็สะดวกสบาย สามารถขับรถส่วนตัวไปได้ มีลานจอดรถให้บริการ



รับมือเด็กวัยทอง 2 ขวบ

เด็กวัยทอง 2 ขวบ หรือ Terrible Two เป็นช่วงที่เด็กกำลังเติบโต แข็งแรงมากกว่าตอนทารก พฤติกรรมเกเรจะเริ่มตั้งแต่ 18 เดือน ถึง 4 ขวบ พวกเขาเริ่มมีความเป็นตัวของตัวเองสูง เริ่มรู้ว่าตัวเองอยากได้อะไร อยากทำอะไร เริ่มมีปฏิกิริยาต่อต้านหากถูกบังคับ มีการเรียกร้องความสนใจด้วยการอาละวาด กรีดร้อง แสดงความไม่พอใจ ขว้างปาสิ่งของ แสดงความท้าทายต่อคำสั่ง เรียกว่าเด็กในวัยนี้มีการเปลี่ยนแปลงทางด้านอารมณ์สูง สมองส่วนควบคุมอารมณ์เติบโตเร็วกว่าสมองส่วนควบคุมเหตุผล ซึ่งถือเป็นพัฒนาการของเด็กอย่างหนึ่งที่กำลังทำความรู้จักกับสิ่งรอบตัว และเริ่มแสดงพฤติกรรม มีการแสดงออกที่เปลี่ยนไป ทั้งนี้พฤติกรรมที่เปลี่ยนไปต่างๆอาจกลายเป็นการปล่อยให้ลูกใช้อารมณ์และเอาแต่ใจตัวเองมากเกินไป คุณพ่อคุณแม่จึงควรเตรียมรับมือเด็กวัยนี้ เพื่อไม่ให้ตัวเองเผลอใช้อารมณ์ตอบโต้ลูกๆวัยทอง

อาการหลักๆของเด็กวัยทองคือมักมีอารมณ์ฉุนเฉียว อาจจะเพราะหิว ไม่ได้รับความสนใจ กังวล หรือรู้สึกเหนื่อย งานวิจัยของรัฐแคลิฟอร์เนีย แบ่งเด็กวัยทองออกเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มที่ถูกบังคับจากครอบครัว และ กลุ่มที่ได้รับความเข้าใจจากครอบครัว กลุ่มแรกเกิดจากการที่พ่อแม่ไม่เข้าใจพฤติกรรมของลูก จึงเกิดการดุด่าว่ากล่าว ไปจนถึงใช้กำลังหรือตีเพื่อให้เด็กหยุดก้าวร้าว แต่ไม่ได้อธิบายเหตุผลและไม่รับฟังเหตุผลของลูก กลุ่มที่สองคือ เด็กที่พ่อแม่เข้าใจภาวะวัยทอง และเตรียมพร้อมรับมือไว้แล้ว ใช้เหตุผลพูดคุยเมื่อเกิดปัญหา ลดความขัดแย้ง เมื่อมีปัญหาเกิดขึ้นเด็กจะเข้าหาพ่อแม่เอง

วิธีรับมือเด็กวัยทอง

1. ให้ลูกนอนหลับพักผ่อนเต็มที่ เพื่อไม่ให้เขาหงุดหงิดเวลาตื่น รวมถึงพยายามให้ลูกรับประทานอาหารตรงเวลา ฝึกให้เป็นกิจวัตร เพราะหากเขาหิวมากเกินไปก็อาจเป็นสาเหตุให้เขาโมโห หรือมีอารมณ์ฉุนเฉียว

2. พ่อแม่ควรพยายามทำความเข้าใจเด็กวัยนี้ และมีความอดทนอดกลั้น ใช้วิธีเบี่ยงเบนความสนใจเมื่อลูกเริ่มแสดงอารมณ์ฉุนเฉียว หงุดหงิด พร้อมทั้งลองยื่นข้อเสนอเพื่อเป็นทางเลือกให้ลูกได้รู้สึกว่าเขามีอำนาจในการตัดสินใจเลือกเองได้

3. ลองเปลี่ยนแปลงวิธีพูดกับลูก เปลี่ยนการ “ห้าม” เป็นบอก “ให้ทำ” เลี่ยงคำว่า “อย่า” หรือ “ห้าม” เช่นลูกจะปาของ ควรบอกให้เขา “ค่อยๆหยิบวางนะลูก” แทนการพูดว่า “อย่าโยน”

4. สร้างตารางเวลาให้ลูกชัดเจน เพื่อให้เขารู้ว่าเวลาไหนควรจะทำอะไร และหากิจกรรมสนุกๆให้ลูกได้ใช้พลังให้เต็มที่ ไม่ให้เกิดความเบื่อหน่ายกับการทำสิ่งเดิมๆนานๆ

หากพ่อแม่เตรียมความพร้อมรับมือเด็กวัยทองไว้อย่างดี ก็จะไม่เกิดปัญหาภายในครอบครัวให้ต้องหงุดหงิดทั้งพ่อแม่และลูกรัก