วิธีการทำงาน
ติดต่อเรา
ติดต่อเราโดยตรงผ่าน LINE OA เพื่อจองบริการที่คุณต้องการ
แจ้งรายละเอียดให้เราทราบ
เลือกบริการ วันที่ เวลา และสถานที่ที่คุณต้องการให้ตรงกับความต้องการของคุณ
ยืนยันการจองของคุณ
เราจะยืนยันการจองของคุณภายใน 24 ชั่วโมงผ่านทาง LINE OA
ประเภทงานบริการ
พี่เลี้ยงเด็ก พี่เลี้ยงเด็กชั่วคราว รับเลี้ยงเด็กที่บ้านตัวเอง พี่เลี้ยงสองภาษา พี่เลี้ยงวันหยุดบริการในเมืองยอดนิยม
บางเขน บางกอกน้อย ป้อมปราบศัตรูพ่า พระนคร บางพลัด บางบอน พระโขนง ภาษีเจริญ คลองสามวา ตลิ่งชันข้อมูลสถิติน่าสนใจเกี่ยวกับ
รีวิวล่าสุด
คำถามที่พบบ่อยสำหรับการค้นหา ดูแลเด็ก
1. ความรู้ด้านการส่งเสริมพัฒนาการ การส่งเสริมพัฒนาการทำได้ทั้งผ่านการเล่นและการทำกิจวัตรประจำวัน พี่เลี้ยงเด็กที่ดีควรหากิจกรรมเพื่อให้เด็กมีส่วนร่วมและช่วยเหลือตัวเองได้ตามวัยที่เหมาะสม
2. ความอดทนและใจรักเด็ก เด็กแต่ละคนมีความแตกต่างกันทั้งลักษณะนิสัย อารมณ์และการแสดงออก บางคนว่านอนสอนง่าย บางคนชอบเล่นซนทั้งวัน หรือบางคนงอแง พี่เลี้ยงเด็กที่ดีควรมีใจรักเด็กเป็นพื้นฐาน พร้อมทำความเข้าใจและมีความอดทน พยายามหาวิธีที่ทำให้เด็กรู้สึกวางใจ ปลอดภัย และยอมเชื่อฟังพี่เลี้ยงในที่สุด
3. ความรู้ด้านการปฐมพยาบาลเบื้องต้นและรู้เบอร์โทรศัพท์ในกรณีฉุกเฉิน ถ้าเด็กหกล้มมีแผลถลอกพี่เลี้ยงเด็กต้องรู้ว่าจะจัดการกับแผลถลอกอย่างไร ในกรณีฉุกเฉินพี่เลี้ยงเด็กต้องสามารถติดต่อหน่วยงานที่ให้ความช่วยเหลือได้
4. ทักษะการสื่อสาร เด็กมีความแตกต่างกันในแต่ละช่วงอายุ พี่เลี้ยงเด็กต้องเข้าใจการสื่อสารกับเด็ก เช่น เข้าใจภาษากายของทารก การสื่อสารของเด็กเล็ก สำหรับเด็กที่สามารถสื่อสารด้วยทำพูดได้แล้ว พี่เลี้ยงเด็กต้องพูดคุยเพื่อให้เด็กเชื่อฟังโดยไม่ใช้การบังคับและให้เด็กรู้สึกสบายใจ
5. ทักษะการแก้ปัญหา หากไม่ใช่เรื่องที่ร้ายแรงพี่เลี้ยงเด็กต้องรู้วิธีแก้ปัญหาหรือสถานการณ์ตรงหน้าตามสมควรโดยไม่จำเป็นต้องรายงานหรือรอให้คุณพ่อคุณแม่ตัดสินใจทุกครั้ง
6. ความคิดสร้างสรรค์ คงไม่ดีแน่หากพี่เลี้ยงเด็กดูแลเด็กด้วยการให้เด็กดูสมาร์ทโฟนเป็นชั่วโมง พี่เลี้ยงเด็กที่ดีควรมีความคิดสร้างสรรค์เล่นกับเด็กเพื่อให้เด็กเพลิดเพลินได้นานหลายชั่วโมงและให้เด็กได้พักผ่อนตามเวลา
ทั้งหมดนี้คือคุณสมบัติและทักษะที่ดีที่คุณพ่อและคุณแม่ควรมองหาในตัวพี่เลี้ยงเด็กที่คุณเลือกมาเพื่อดูแลลูกน้อยของคุณค่ะ
1. ความปลอดภัยของลูกน้อย สิ่งที่คุณพ่อคุณแม่เป็นกังวลมากที่สุดคือความปลอดภัย ไม่ว่าจะเกิดจากอุบัติเหตุหรือการกระทำรุนแรงของพี่เลี้ยงเด็ก คุณพ่อคุณแม่ต้องหมั่นสังเกตความเปลี่ยนแปลงของลูกน้อยทั้งทางร่างกายและพฤติกรรม ควรพูดคุย ซักถามเด็กอยู่เป็นประจำเกี่ยวกับกิจกรรมระหว่างวันที่ลูก ๆ ทำกับพี่เลี้ยง การติดตั้งกล้องวงจรปิดภายในบ้านเป็นอีกวิธีที่ทำให้คุณพ่อคุณแม่อุ่นใจขึ้น
2. ประสบการณ์การทำงาน บางครั้งพี่เลี้ยงเด็กอาจไม่ได้ให้ข้อเท็จจริงทั้งหมดเกี่ยวกับประสบการณ์ทำงานและความชำนาญของตน นอกจากการสัมภาษณ์พี่เลี้ยงเด็ก คุณพ่อคุณแม่อาจจะให้มีการทดลองงานสักระยะหนึ่งเพื่อดูว่าพี่เลี้ยงเด็กมีความชำนาญหรือสามารถทำงานได้ตามมอบหมายหรือไม่
3. พี่เลี้ยงเด็กหยิบฉวยทรัพย์สินในบ้าน หลายครั้งที่คุณพ่อคุณแม่เจอพี่เลี้ยงที่มีประสบการณ์แต่ยังกังวลว่าพี่เลี้ยงเด็กอาจพยายามขโมยสิ่งของมีค่าภายในบ้าน แนวทางป้องกันที่คุณพ่อคุณแม่ทำได้คือ ไม่วางสิ่งของมีค่าไว้ในที่เปิดเผย ล็อคลิ้นชักเก็บของและประตูห้องที่พี่เลี้ยงเด็กไม่จำเป็นต้องใช้ คุณพ่อคุณแม่อาจจะติดตั้งกล้องวงจรปิดไว้ภายในบ้านเพื่อช่วยเป็นหูเป็นตาได้อีกทาง
1. วันเริ่มงาน ควรมีวันเริ่มงานให้ชัดเจนเพื่อประโยชน์และไม่เป็นการเสียเวลาของทั้งคุณพ่อคุณแม่และพี่เลี้ยงเด็ก
2. ชั่วโมงการทำงานและวันหยุด ตกลงเรื่องเวลาทำงาน จำนวนชั่วโมงการทำงานในแต่ละวันและวันหยุด เพื่อให้ตารางการทำงานของพี่เลี้ยงเด็กสอดคล้องกับเวลาทำงานของพ่อคุณแม่มากที่สุด และทั้งสองฝ่ายควรรักษาเวลา
3. ขอบเขตหน้าที่และความรับผิดชอบ กำหนดความรับผิดชอบของพี่เลี้ยงเด็กให้ชัดเจน
4. ค่าแรงและกำหนดการจ่าย ค่าแรงของพี่เลี้ยงเด็กอาจขึ้นอยู่กับลักษณะการทำงาน เช่นพี่เลี้ยงเด็กรายชั่วโมง รายวัน รายสัปดาห์และรายเดือน ซึ่งกำหนดการจ่ายเงินอาจจะแตกต่างกันไปตามลักษณะการทำงานนี้ด้วย
5. ค่าแรงในกรณีทำงานล่วงเวลา หากคุณพ่อคุณแม่ต้องการให้พี่เลี้ยงเด็กทำงานล่วงเวลา ควรสอบถามความสมัครใจของพี่เลี้ยงและตกลงกันให้ชัดเจนเรื่องค่าแรง
6. การโพสต์รูปหรือข้อความเกี่ยวกับเด็กลงสื่อออนไลน์ (Social Medias) คุณพ่อคุณแม่คงไม่อยากให้มีรูปภาพ หรือข้อความเกี่ยวกับลูก ๆ ถูกโพสต์ลงในโซเชียลมีเดีย เช่น เฟสบุ๊ค หรืออินสตาแกรม โดยไม่ได้รับอนุญาต ดังนั้นคุณพ่อคุณแม่ควรทำความตกลงกับพี่เลี้ยงเด็กในเรื่องนี้ด้วย
ทั้งหมดนี้คือสิ่งที่คุณพ่อและคุณแม่ควรพูดคุยตกลงกับพี่เลี้ยงเด็กให้ชัดเจนก่อนเริ่มงาน
ที่มาของ "บางรัก"
ก่อนจะรู้จักบางรัก มารู้จักคำว่า “บาง” กันหน่อย ในสมัยก่อนคำว่า “บาง” ตามคำจำกัดความของราชบัณฑิตยสถาน คำว่าบางมี เป็นคำนามหมายถึงทางนํ้าเล็ก ๆ ทางนํ้าเล็กที่ไหลขึ้นลงตามระดับนํ้าในแม่นํ้า ลำคลอง หรือทะเล และจากคำสันนิษฐานว่าบริเวณเขตบางรักนี้ในอดีตมีต้นรักขึ้นอยู่เป็นจำนวนมากจนเป็นที่มาของชื่อ “บางรัก “พื้นที่ที่มีต้นรักอยู่ริมน้ำ และเป็นความเชื่อนี้ในปัจจุบันที่ได้รับการยอมรับมาก โดยสังเกตจากตราสัญลักษณ์ประจำเขตนั้นใช้รูปดอกรักประกอบ ตามความเชื่อว่าเป็นที่มาของชื่อเขต หากแต่ว่าบางรัก คือชื่อย่านการค้าสําคัญในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวจนถึงปัจจุบัน ด้วยเหตุเพราะเคยเป็นย่านที่อยู่อาศัยและสถานที่ราชการ เช่น สถานทูตของชาวตะวันตกหลายชาติหลายภาษา ยังมีข้อสันนิษฐานว่าชื่อบางรักษ์ มาจากชื่อโรงพยาบาล หรือที่ เรียกกันในสมัยนั้นว่า โรงหมอ เชื่อกันว่าเป็นหมอมิชชันนารีรักษาตาม แบบแพทย์สมัยใหม่ และมีชื่อเสียงในการรักษาพยาบาล ผู้คนนิยมเดินทางมารับการรักษา จึงเรียกสถานที่นี้ว่า “บางรักษ์” และกลายเป็นบางรัก ทั้งคําว่า บางรักษ์ และบางรัก ปรากฏในประกาศกระทรวงนครบาล เรื่องรวมอําเภอชั้นใน 4 อําเภอ ลงวันที่ 5 มิถุนายน ร.ศ. 127 ตรงกับ พ.ศ. 2450 เรียกว่า อําเภอบางรักษ์ แต่ในประกาศเรื่องเก็บเงินค่าราชการ (“เงินค่าราชการ”คือเงินทั้งหลายที่รัฐจัดเก็บมาเพื่อนำมาใช้เป็นเบี้ยหวัดเงินเดือนให้กับขุนนางที่มาทำงานราชการ โดยจัดเก็บเอาจากชายฉกรรจ์ (อายุตั้งแต่ 18-60 ปี) ทุกคน โดยเก็บในอัตราไม่เกินคนละ 6 บาทต่อปี) มณฑลกรุงเทพฯ ลงวันที่ 25 มีนาคม ร.ศ. 129 ตรงกับ พ.ศ. 2452 เรียกว่า บางรัก และเมื่อเป็นตําบล อําเภอ ปัจจุบันเป็นเขตก็เรียกว่า บางรัก สมัยก่อนเราบันทึกเอกสารด้วยบุคคล คัดเอาบ้าง เขียนเอาบ้าง ตัวอักษร ก็อาจตกหล่น ย่อหาย เมื่อลอกต่อๆ กันมา จากบางรักษ์ จึงเหลือแค่บางรัก
สมัยรัชกาลที่ 4 ได้ประกาศให้ชาวจีนในกรุงรัตนโกสินทร์หยุดขยายตัวทางทิศใต้ไปตลาดน้อย และให้ชาวยุโรปเข้าไปตั้งถิ่นฐานในย่านบางรัก ซึ่งชาวยุโรปได้ขอให้สร้างถนนเพื่อให้เดินทางสะดวกสบาย เลยกลายเป็นที่มาของถนนเจริญกรุง เมื่อสร้างถนนเจริญกรุงเสร็จใหม่ ๆ นั้น ยังไม่ได้พระราชทานนาม จึงเรียกกันทั่วไปว่า ถนนใหม่ และชาวยุโรปเรียกว่า นิวโรด (New Road) ชาวจีนเรียกตามสำเนียงแต้จิ๋วว่า ซิงพะโล่ว แปลว่าถนนตัดใหม่ ต่อมา พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวจึงโปรดเกล้าฯ พระราชทานนามถนนว่า "ถนนเจริญกรุง" ซึ่งมีความหมายถึงความเจริญรุ่งเรืองของบ้านเมือง เช่นเดียวกับชื่อถนนบำรุงเมืองและถนนเฟื่องนคร ที่โปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นในคราวเดียวกัน ถนนเจริญกรุงที่ผ่านบางรัก จึงเป็นถนนที่ตัดด้วยวิธีการสมัยใหม่และเป็นถนนสายแรกของกรุงเทพฯ หลังจากนั้น ย่านบางรักก็เปลี่ยนแปลงไปตามช่วงเวลา และกลายเป็นแหล่งของอาคารประวัติศาสตร์ต่าง ๆ ถ้าจะให้ไล่เรียง มีทั้ง บ้านเลขที่ 1 ซอยกัปตันบุช เป็นบ้านหลังแรกที่มีรหัสไปรษณีย์ สำนักงานแห่งแรกของธนาคารเอชเอสบีซี ถนนสายสถานทูตของประเทศแถบยุโรป ทั้งโปรตุเกส ฝรั่งเศส เนเธอร์แลนด์ และอังกฤษและ สถานทูตต่างที่ตั้งอยู่ในชุมชน
ตลาดบางรัก บนถนนเจริญกรุง
ตลาดบางรัก ตั้งอยู่บน ถนนเจริญกรุง เขตบางรัก ชื่อนี้มีมาตั้งแต่ในรัชสมัย พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช รัชกาลที่ 1 เนื่องด้วย"บางรัก" ติดริมแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งเป็นท่าเรือที่เรือหลักที่ต่างชาติจะเข้ามาจอดทอดสมอเพื่อขึ้น-ลงสินค้า บางรัก จึงเป็นชุมชนใหญ่ ที่มีผู้คนหลายเชื้อชาติอาศัยอยู่ที่นี่ ตลาดบางรักคือชุมชนการค้าเก่าแก่รองจากเยาวราช และสิ่งก่อสร้างในสมัยเดิมยังหลงเหลืออยู่ มีร้านค้าเก่าแก่ บางแห่งอายุมากกว่า 80 ปี ที่สืบทอดกันมารุ่นต่อรุ่น เช่น ร้านหยั่นหว่อหยุ่น (ร้านน้ำขม หว่าโถ่ว บางรัก) เป็นร้านโชห่วย ซึ่งเป็นร้านแรกของผู้ผลิตซีอิ้วตราเด็กสมบูรณ์ ที่เป็นที่รู้จักกันดีในปัจจุบัน และยังเปิดกิจการอยู่ บนถนนเจริญกรุง
ถนนเจริญกรุงยังเป็นถนนลาดยางสายแรกของเมืองไทย ที่มีพระดำริสร้างตั้งแต่สมัย พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่ ซึ่งในรัชสมัยดังกล่าวมีชาวต่างประเทศ เข้ามาอยู่อาศัยเป็นจำนวนมาก และพวกกงสุลได้เข้าชื่อกันขอให้สร้างถนนสายยาว สำหรับขี่ม้า หรือ นั่งรถตากอากาศ และอ้างว่าเข้ามาอยู่ที่กรุงเทพมหานคร ไม่มีถนนหนทางที่จะขี่รถม้าไปเที่ยว พากันเจ็บไข้เนืองๆ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ สร้างถนนดังกล่าวขึ้นมา หากว่ากันว่า ตลาดบางลำพูเป็นที่จับจ่ายของคนไทย ตลาดเก่า เยาวราช สำหรับชาวจีนเช่นใด ตลาดบางรักก็เป็น ตลาดสดที่จับจ่ายของชาวต่างชาติเช่นนั้น เพราะแต่เดิมถนนเจริญกรุง มีบ้านของพ่อค้าแล ชาวต่างชาติที่มาทำการทูต หรือมารับราชการในไทย อยู่เป็นจำนวนมาก อาทิ ใน ซอยกัปตันบุช หรือ ตรอกกัปตันบุชหรือชื่ออย่างเป็นทางการว่า ซอยเจริญกรุง 30 เป็นซอยแยกจากถนนเจริญกรุงในพื้นที่แขวงสี่พระยา เขตบางรัก กรุงเทพมหานคร ใกล้กับถนนสี่พระยาและท่าน้ำสี่พระยา ติดกับริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาชื่อซอยกัปตันบุช มาจาก พระยาวิสูตรสาครดิฐ หรือ กัปตัน จอห์น บุช (Captain John Bush) นักเดินเรือชาวอังกฤษ ผู้เข้ามาอาศัยและรับราชการในรัชสมัยรัชกาลที่ 5 จนมีตำแหน่งเป็นอธิบดีกรมเจ้าท่า จึงได้รับบรรดาศักดิ์เป็นพระยาวิสูตรสาครดิฐ ซึ่งเคยมีบ้านพำนักอยู่บริเวณแถบนี้ โดยในซอยเป็นที่ตั้งของบ้านเลขที่ 1 ของถนนเจริญกรุงเป็นบ้านที่มีสถาปัตยกรรมสวยงามแบบยุโรปนีโอคลาสสิก แต่เดิมเป็นที่ตั้งของร้านค้าชาวต่างประเทศจำนวนมาก โรงแรมโอเรียลเต็ล บริษัทอีสเอเชียติก หรือ บริษัท หลุยส์ ตีเลียวโนเว็น สถานทูตโปรตุเกส อันเป็นสถานทูตต่างประเทศแห่งแรกที่มีขึ้นในพื้นที่กรุงเทพมหานคร โดยสร้างมาตั้งแต่รัชสมัยรัชกาลที่ 2 ตัวอาคารสร้างด้วยสถาปัตยกรรมแบบโคโลเนียลโปรตุเกส อาคารศุลกสถาน หรือโรงภาษีร้อยชักสาม โรงภาษีเก็บค่าภาษีจากเรือสินค้าต่างชาติ ตัวอาคารเป็นสถาปัตยกรรมแบบปัลลาดีโอ ที่ทำการของฮ่องกงและเซี่ยงไฮ้แบงกิ้งคอร์ปอเรชั่น ธนาคารสัญชาติฮ่องกง ที่เข้ามาเปิดกิจการในประเทศไทยตั้งแต่ปี พ.ศ. 2431 เป็นต้น
6 เคล็ดลับในการดูแลลูกน้อยสำหรับพ่อแม่มือใหม่
แม้ว่าลูกน้อยจะได้รับการปกป้อง แต่ไม่ได้หมายความว่าคุณจะให้ลูกอยู่บ้านตลอดเวลา คุณจะมีส่วนร่วมกับทารกในกิจกรรมอื่น ๆ ได้อย่างไร
6 เคล็ดลับในการดูแลทารกดังต่อไปนี้
1.รับแสงแดดเพื่อสุขภาพ กุมารแพทย์แนะนำว่าแสงแดดมีประโยชน์สำหรับทารกในช่วงเดือนแรกของชีวิต ทารกควรได้รับรับแสงแดดเป็นเวลา 15 นาที สามครั้งต่อวัน แต่เคล็ดลับสำคัญคือในช่วงแปดวันแรก ขอแนะนำให้นำทารกแรกเกิดใส่ผ้าอ้อมเพื่อให้เขาได้รับแสงแดดทั่วร่างกาย เวลาที่เหมาะสมในการรับแสงแดดคือระหว่าง 07:00 น. ถึง 09:00 น. ในตอนเช้า และหลังเวลา 16:30 น. การบำบัดนี้มีความสำคัญเนื่องจากช่วยป้องกันโรคดีซ่าน ซึ่งเป็นโรคที่เกิดขึ้นเนื่องจากตับของทารกส่วนใหญ่ยังไม่พัฒนาเต็มที่ จึงไม่สามารถกำจัดบิลิรูบินได้อย่างสมบูรณ์ ซึ่งจะทำให้ผิวลูกมีสีเหลือง
2.เลี้ยงลูกด้วยนมแม่ กุมารแพทย์แนะนำให้มารดาเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ เนื่องจากน้ำนมแม่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง นมแม่เป็นอาหารที่ดีที่สุดสำหรับทารก คงไม่มีใครปฏิเสธคำกล่าวนี้ นอกจากสารอาหารและโภชนาการแล้ว นมแม่ยังช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันต้านทานโรค เปรียบเสมือนวัคซีนแรกของลูก และมีส่วนช่วยในการเจริญเติบโต นี่คืออาหารที่ต้องการและจำเป็นอย่างมาก ในช่วงหกเดือนแรกของชีวิต นอกจากคุณค่าทางโภชนการ การให้ทารกได้ดื่มนมจากอกแม่ เป็นการสร้างสายสัมพันธ์รักระหว่างแม่และลูกได้อย่างดีเยี่ยม
3.การกระตุ้นทารก ประกอบด้วยการออกกำลังกายส่วนบนและส่วนล่าง ด้วยการเคลื่อนไหวเป็นวงกลมอย่างน้อยวันละสามครั้งในช่วงหกเดือนแรกของชีวิต สิ่งนี้เสริมสร้างการสื่อสารระหว่างลูกน้อยกับคุณแม่ เพราะทารกไม่สามารถขยับตัวเองได้ คุณพ่อคุณแม่จึงต้องให้ความช่วยเหลือในการขยับ แขนขาของลูกด้วยความอ่อนโยน และไม่ควรใส่ผ้าอ้อมแน่นเกินไปจนลูกขยับไม่ได้
4.สุขอนามัย สุขอนามัยของทารกมีความสำคัญเช่นกัน ขอแนะนำให้ทำความสะอาดสะดือด้วยแอลกอฮอล์สามครั้งต่อวัน ไม่ควรใช้ไอโอดีนในกรณีนี้ นอกจากนี้อวัยวะเพศยังได้รับการทำความสะอาดอย่างระมัดระวังเพื่อหลีกเลี่ยงการติดเชื้อ ช่วงเวลาอาบน้ำไม่ใช่เพียงเพื่อความสะอาดร่างกายให้ทารก ประสบการณ์จากประสาทสัมผัสหลายๆ ทางมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อรูปแบบการเจริญเติบโตทางสมองของสมองทารก ช่วงเวลาอาบน้ำซึ่งเปิดโอกาสให้ได้รับการกระตุ้นประสาทสัมผัสทั้งกายสัมผัส การมองเห็น กลิ่น และเสียง จึงเป็นช่วงเวลาพิเศษสำหรับคุณพ่อและคุณแม่ในการส่งเสริมพัฒนาการของลูกน้อย
5.มุ้งกันยุง การใช้มุ้งกันยุง นอกจากป้องกันยุงแล้วยัง ช่วยป้องกันไม่ให้ฝุ่นละอองเข้ามา นอกจากนี้ยังป้องกันการติดเชื้อจากแมลงสัตว์กัดต่อยชนิดอื่นๆ ได้อีกด้วย แต่หมั่นทำความสะอาดเพราะฝุ่นละอองขนาดเล็กอาจทำให้ทารกเกิดอาการแพ้ได้ ขอแนะนำให้ล้างมุ้งทุกสอง – สามวัน
6.ข้อสุดท้ายสำคัญไม่แพ้กันคือ การได้รับการฉีดวัคซีนที่ครบถ้วน เช่น BCG ต่อต้านวัณโรค ใช้เพียงครั้งเดียวภายในผิวหนังและไม่จำเป็นต้องมีการเสริม ไวรัสตับอักเสบบีเป็นสารชีวภาพสำหรับไวรัสตับอักเสบบีโดยให้ยา 3 ขนาดเพื่อให้ได้ภูมิคุ้มกันที่ยั่งยืน ครั้งแรกใช้หลังคลอดไม่นาน ถัดมาคือ DTaP ซึ่งมีสามชนิดในนัดเดียว: คอตีบบาดทะยักและไอกรน มีให้ใน 5 ขนาด IPV ป้องกันโรคโปลิโอ มีให้ในการฉีดและมีให้ในสี่ขนาดวัคซีนฮิบป้องกันไข้หวัดใหญ่ชนิดบี ให้ 3 ถึง 4 โดสและชนิดอื่นๆ ตามกุมารแพทย์แนะนำ
SAIJAI "ใส่ใจ" เป็นเพียงแพลตฟอร์มที่ใช้สำหรับติดต่อสื่อสารระหว่างผู้ใช้บริการกับผู้ให้บริการดูแลเด็ก ดูแลผู้สูงอายุ ครูสอนพิเศษ/ติวเตอร์ แม่บ้าน/ทำความสะอาด คนขับรถ ดูแลสัตว์เลี้ยง เสริมสวย และช่างซ่อมบำรุงเท่านั้น "SAIJAI" ไม่ได้เป็นผู้ให้บริการหรือจ้างบุคคลใดให้บริการ ไม่มีสถานะเป็นนายจ้าง ผู้ว่าจ้าง ตัวแทน ผู้ร่วมทุน อย่างหนึ่งอย่างใดทั้งสิ้นของผู้ให้บริการ ผู้ให้บริการเป็นผู้รับจ้างอิสระ ซึ่งผู้รับบริการเป็นผู้ว่าจ้าง คุณภาพการให้บริการเป็นความรับผิดชอบทั้งสิ้นของผู้ให้บริการเอง การเรียกใช้บริการจากผู้ให้บริการ อาจมีความเสี่ยง ซึ่งผู้รับบริการรับทราบและยินดีใช้บริการ บนความเสี่ยงใด ๆ ในความรับผิดชอบของตัวท่านเอง