ดูแลเด็ก ใน บางแค, กรุงเทพมหานคร

ดูแลเด็ก ใน บางแค, กรุงเทพมหานคร

คุณต้องการใช้บริการนี้เมื่อไหร่?
ระบุวันที่

วิธีการทำงาน

Saijai

ติดต่อเรา

ติดต่อเราโดยตรงผ่าน LINE OA เพื่อจองบริการที่คุณต้องการ

Saijai

แจ้งรายละเอียดให้เราทราบ

เลือกบริการ วันที่ เวลา และสถานที่ที่คุณต้องการให้ตรงกับความต้องการของคุณ

Saijai

ยืนยันการจองของคุณ

เราจะยืนยันการจองของคุณภายใน 24 ชั่วโมงผ่านทาง LINE OA

เป็นคนเรียบง่ายไม่เรื่องมากเลี้ยงน้องตามแพทย์แนะนำและผู้ปกครองแนะนำได้

แสดงเพิ่มเติม
Pavana Suntudchaiyo
Pavana Suntudchaiyo
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี
Saijai อายุ 57 ปี

I am in good health, kind and responsible, polite and gentle. สุภาพ สุขภาพแข็งแรง พูดเพราะ มีความรับผิดชอบ

แสดงเพิ่มเติม

มีความอดทน ขยัน รักความสะอาด ใจเย็น

แสดงเพิ่มเติม
	ปรีชญา ขัดเรือน
ปรีชญา ขัดเรือน
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี

ใจเย็น รักเด็ก มีความอดทนสูง สามารถแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าได้ดี ยิ้มแย้มแจ่มใจ เสริมสร้างพัฒนาการเด็กตามช่วงวัยได้ค่ะ

แสดงเพิ่มเติม
วริวรรณ อยู่ไพร
วริวรรณ อยู่ไพร
Saijai ประสบการณ์ 0-1 ปี
Saijai อายุ 36 ปี
อานนท์ ทองแสง
อานนท์ ทองแสง
Saijai ประสบการณ์ 1-2 ปี
Saijai อายุ 30 ปี

ผมเป็นคนสุภาพ เรียบร้อย ไม่ยุ่งอบายมุข ไม่พูดคำหยาบ ตั้งใจทำงานที่ได้รับมอบหมาย ทำได้ทุกอย่างครับ สอนได้ทุกวิชา ค่าจ้างเป็นต่อชั่วโมงหรือให้เป็นรายเดือนก็ได้ครับ

แสดงเพิ่มเติม
Piyatida Dumluck
Piyatida Dumluck
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี
Saijai อายุ 39 ปี
เสาวณีย์ เขาพระจันทร์
เสาวณีย์ เขาพระจันทร์
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี
Saijai อายุ 38 ปี

ใส่ใจดูแลเหมือนลูกเจ้าของเองใจเย็น ดูแลได้ตลอด

แสดงเพิ่มเติม
ศิริวิมล ทรงศิริ
ศิริวิมล ทรงศิริ
Saijai ประสบการณ์ 0-1 ปี
Saijai อายุ 42 ปี

ที่บ้านมีห้องแอร์สถานที่ให้วิ่งเล่น เรียนได้เกรดเฉลี่ยอยู่ที่ 3.40 เรียนโรงเรียนเทพศิรินทร์ร่มเกล้า มีประสบการณ์ดูแลหลานๆของตนเองหลายคน มากกว่า5คน ตั้งแต่อายุ 1 ขวบ ถึง 15 ปี

แสดงเพิ่มเติม
วิไล นันต๊ะภาพ
วิไล นันต๊ะภาพ
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี
Saijai อายุ 47 ปี

ดิฉันชื่อ นวพร ค่ะ ปัจจุบันทำงานเป็นแม่บ้านรายชั่วโมงค่ะ ด้วยความที่ต้องดูแลลูก ๆ 3 คนด้วยตนเองมาตลอดเลยทำให้ใช้ชีวิตประจำวันอยู่กับการดูแลบ้าน ดูแลลูก ๆ ค่ะ ดิฉันมั่นใจว่าจะสามารถทำวามสะอาดบ้านของคุณได้อย่างดีค่ะ ขอบคุณค่ะ

แสดงเพิ่มเติม
ทิพวรรณ์ ราศรี
ทิพวรรณ์ ราศรี
Saijai ประสบการณ์ 1-2 ปี
Saijai อายุ 26 ปี

เป็นคนอัธยาศัยดีค่ะ ใจเย็นค่ะชอบเล่นกับเด็ก ส่งเสริมพัฒนาการของน้องได้ค่ะ

แสดงเพิ่มเติม
ฉันทนา สิทธิ
ฉันทนา สิทธิ
Saijai ประสบการณ์ 1-2 ปี
Saijai อายุ 45 ปี

เป็นคนง่ายๆรักเด็กใจเย็นไม่เคยโกรธหรือโมโหอะไรง่ายๆนอนน้อยทําได้หมดแต่ไม่ชอบจู้จี้

แสดงเพิ่มเติม

ข้อมูลสถิติน่าสนใจเกี่ยวกับ

Saijai จำนวนประชากร
Saijai จำนวนประชากรเด็ก (แรกเกิด-14 ปี)
Saijai จำนวนประชากรสูงอายุ (60 ปี ขึ้นไป)
Saijai จำนวนสัตว์เลี้ยง สุนัข

รีวิวล่าสุด

เปลี่ยนพี่เลี้ยงเด็กมาหลายคน ส่วนมากราคาสูง ๆ ทั้งนั้น แต่อยู่ไม่ได้นานก็ลาออก ลองจองพี่เลี้ยงผ่านเวปใส่ใจ เยี่ยมมากเลยครับ แฟนสบายใจ หมดปัญหา ไม่ต้องจ้างพี่เลี้ยงราคาแพง ได้ราคาแบบสมเหตุสมผล แถมมีคุณภาพครับ
Saijai
จิตวัชร จันประทีป
4 ปีที่แล้ว
เราทำงานนอกบ้าน เลยหาพี่เลี้ยงเด็กมาดูแลน้องที่บ้าน ค้นหาข้อมูลดูเวปนี้ให้รายละเอียดพี่เลี้ยงน่าสนใจ ราคาเรารับได้ เราเลยให้น้องมาทดลองงานก่อนเราไปทำงาน น้องมีประสบการณ์มา เลยปรับตัวไม่ยาก เวลาเราอยู่น้องจะช่วยหยิบจับของทำโน่นทำนี่ไป ประทับใจคะ สองเดือนแล้วน้องทำงานดี มีระเบียบเรียบร้อย คุ้มค่ากับเงินที่เสียไป เราไว้ใจให้น้องคนนี้ดูแล
Saijai
แม่น้องกัญ
4 ปีที่แล้ว
ลองค้นหาบริการพี่เลี้ยงเด็กอยู่หลายที่ จนได้มาเจอเว็บใส่ใจ ลองเข้าไปดู รู้สึกว่าทุกอย่างเป็นไปอย่างมีขั้นตอน เริ่มตั้งแต่ให้เลือกพี่เลี้ยง ขั้นตอนนัดสัมภาษณ์ รายละเอียดและคำแนะนำต่าง ๆ พี่เลี้ยงที่ได้มาก็ตรงตามความต้องการสุด ๆ รู้สึกประทับใจมาก
Saijai
ณัฐณิชา ทิวาสวัสดิ์
4 ปีที่แล้ว
เมื่อก่อนไม่กล้าจ้างพี่เลี้ยงเด็ก แต่ลองจ้างผ่านทางใส่ใจดู พี่เลี้ยงทำงานได้น่าพอใจมาก ๆ พูดเพราะมาก จนลูกเราติดคำพูดเลยค่ะ ราคาก็ที่ไม่สูงเกินไป จับต้องได้สำหรับคนที่มีรายได้ไม่เยอะอย่ามากต่อเดือน คุณแม่คนไหนอยากหาพี่เลี้ยงเด็ก แนะนำเลยค่ะ
Saijai
ชื่นนภา วัฒนพันธ์
4 ปีที่แล้ว
อยู่ ๆ พี่เลี้ยงคนเก่าลาออกโดยไม่แจ้งล่วงหน้าต้องรีบหาพี่เลี้ยงใหม่แบบเร่งด่วน ไม่รู้จะทำยังไง บังเอิญมาเจอเว็บใส่ใจ หาพี่เลี้ยงคนใหม่ได้ง่ายมาก ๆ แถมได้คนดี มีประสบการณ์ ทำงานคล่อง เยี่ยมเลยค่ะ ประทับใจสุด ที่สำคัญคุณแม่สบายใจได้คนมาทำงานทันที
Saijai
ภัทรา กิจบำรุง
4 ปีที่แล้ว

คำถามที่พบบ่อยสำหรับการค้นหา ดูแลเด็ก

หากคุณพ่อคุณแม่ต้องทำงานนอกบ้านและไม่มีเวลาเลี้ยงลูกเอง ลองเปรียบเทียบกันระหว่างส่งลูกไปเนอสเซอรี่และจ้างพี่เลี้ยงเด็กมาดูแลลูกที่บ้าน อะไรจะตรงใจคุณพ่อคุณแม่มากที่สุด
บริการรับเลี้ยงเด็กในปัจจุบันมีหลายทางเลือก ไม่ว่าจะเป็นพี่เลี้ยงเด็ก หรือเนอสเซอรี่ เรามาดูข้อดีข้อเสียกันเลยค่ะ

ข้อดีของพี่เลี้ยงเด็กที่บ้านมีดังนี้

1) พี่เลี้ยงสามารถดูแลลูกน้อยของคุณได้อย่างใกล้ชิด ลูกของคุณจะได้รับความเอาใจใส่ที่ส่งผลต่อพัฒนาการเด็กทางด้านอารมณ์
2) พี่เลี้ยงสามารถช่วยส่งเสริมพัฒนาการเด็กผ่านการทำกิจกรรมต่าง
3) พ่อแม่ประหยัดเวลามากขึ้น หากจ้างพี่เลี้ยงมาดูแลที่บ้าน
4) เด็กจะไม่ป่วยบ่อย เนื่องจากเด็กจะอยู่ในบ้านของตนเอง

ข้อดีของเนอสเซอรี่

1) เด็ก ๆ จะรู้จักการเข้าสังคม
2) เนอสเซอรี่มีบริเวณกว้างเพื่อให้เด็กได้ทำกิจกรรมหลากหลายรูปแบบ
3) เด็กจะได้ฝึกดูแลตัวเอง เพราะครูพี่เลี้ยงไม่ได้ดูแลเด็กแบบใกล้ชิด

ข้อเสียของพี่เลี้ยง

1) ค่าใช้จ่ายอาจจะสูงกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับเข้าศูนย์เนอสเซอรี่
2) เด็กอาจจะติดพี่เลี้ยงเกินไป
3) ลดความเป็นส่วนตัวของครอบครัว

ข้อเสียของเนอสเซอรี่

1) เด็กป่วยบ่อยเพราะมีภูมิคุ้มกันที่น้อยเนื่องจากอยู่กับเด็กหลายคน
2) ลูกจะไม่ได้รับการดูแลใกล้ชิดแบบตัวต่อตัวอาจส่งผลถึงอารมณ์ของเด็กได้
3) เด็กจะอยู่ห่างไกลจากพ่อแม่

หากคุณพ่อคุณแม่กำลังมองหาบริการพี่เลี้ยงเด็ก ใส่ใจมีบริการพี่เลี้ยงมืออาชีพที่พร้อมจะให้บริการคุณค่ะ
คุณสมบัติอะไรบ้างที่พ่อแม่ควรมองหาจากพี่เลี้ยงเด็กก่อนตกลงจ้าง
ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่คุณพ่อคุณแม่สักคนจะตัดสินใจหาใครมาดูแลลูกน้อยที่เปรียบเสมือนแก้วตาดวงใจ วันนี้ใส่ใจมีข้อมูลของทักษะและคุณสมบัติที่พี่เลี้ยงเด็กควรมีมาฝากให้คุณพ่อคุณแม่ลองเช็คกันดูก่อนตัดสินใจจ้างพี่เลี้ยงสักคน

1. พี่เลี้ยงเด็กต้องมีความอดทนสูง คุณพ่อคุณแม่ต้องมั่นใจว่าพี่เลี้ยงเด็กต้องมีความเข้าใจเด็ก สามารถรับมือกับสถานการณ์ต่าง ๆ ได้ดี และที่สำคัญที่สุดคือเป็นคนที่มีความอดทนสูง
2. พี่เลี้ยงเด็กควรรู้วิธีการปฐมพยาบาลเบื้องต้น ในกรณีเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดหรืออุบัติเหตุ พี่เลี้ยงต้องมีความรู้และทักษะการปฐมพยาบาลเบื้องต้น และสามารถช่วยเหลือเด็กได้ทันที เช่น เด็กที่อยู่ภายใต้การดูแลเกิดอุบัติเหตุหกล้ม มีแผลถลอก พี่เลี้ยงต้องรีบปฐมพยาบาลเบื้องต้นเพื่อไม่ให้เกิดการติดเชื้อของแผล เป็นต้น ดังนั้นคุณพ่อและคุณแม่ควรเลือกพี่เลี้ยงที่มีทักษะด้านการปฐมพยาบาลเบื้องต้นเพราะเป็นสิ่งจำเป็นมาก ๆ
3. พี่เลี้ยงเด็กควรมีทักษะการแก้ไขปัญหา พี่เลี้ยงจะต้องรู้วิธีการแก้ไขปัญหาเบื้องต้นได้โดยไม่จำเป็นต้องแจ้งผู้ว่าจ้างเสมอไปหากปัญหานั้นไม่ใช่ปัญหาที่ร้ายแรง
4. ทำอาหารเป็น ถือเป็นอีกหนึ่งทักษะที่พี่เลี้ยงเด็กจำเป็นต้องมี พี่เลี้ยงไม่ได้มีหน้าที่แค่ดูแลเด็กอย่างเดียวเท่านั้น แต่พี่เลี้ยงอาจจะต้องเตรียมอาหารให้เด็ก ๆ รับประทานในแต่ละมื้อด้วย หากอาหารอร่อยถูกปาก เด็กจะเจริญอาหารและอารมณ์ดี ที่สำคัญที่สุดที่พี่เลี้ยงต้องใส่ใจและจดจำด้วยว่าเด็ก ๆ ที่ดูแลนั้น แพ้อาหารอะไรบ้าง เพื่อป้องกันอุบัติเหตุที่อาจจะเกิดขึ้นจากการรับประทานสิ่งที่แพ้เข้าไป
5. มีความคิดสร้างสรรค์ในการส่งเสริมพัฒนาการเด็ก พี่เลี้ยงจะต้องเป็นคนที่มีความคิดสร้างสรรค์ สามารถร่วมทำกิจกรรมกับเด็ก ๆ ในระหว่างวัน ไม่ว่าจะเป็นทางด้านวิชาการหรือสันทนาการ เช่น พี่เลี้ยงเด็กอาจจะสอนเด็กนับเลข ฝึกการอ่าน หรือระบายสีเพื่อให้เด็กได้เรียนรู้ผ่านกิจกรรมที่สร้างสรรค์เหล่านี้
อะไรที่จะช่วยให้คุณพ่อคุณแม่คลายความกังวลเมื่อต้องปล่อยให้ลูก ๆ อยู่กับพี่เลี้ยงตามลำพัง
เมื่อคุณพ่อคุณแม่จำเป็นต้องจ้างพี่เลี้ยงมาดูแลลูก ๆ ของคุณ ความไว้วางใจและความน่าเชื่อถือเป็นหัวใจสำคัญในการตัดสินใจ คุณพ่อคุณแม่มีวิธีการใดบ้างที่จะหาพี่เลี้ยงที่วางใจได้ ใส่ใจมีวิธีการที่ช่วยให้คุณพ่อคุณแม่รู้จักตัวตนของพี่เลี้ยงเด็กมากขึ้น

1. ถือเป็นการเริ่มต้นที่ดีหากครอบครัวหรือเพื่อนของคุณพ่อคุณแม่เป็นผู้แนะนำพี่เลี้ยงเด็กที่พวกเขารู้จัก อย่างน้อยก็มีคนรับรองพวกเขาได้ แต่สิ่งสำคัญก็คือต้องทำการสัมภาษณ์พี่เลี้ยงเด็กและตรวจสอบประวัติของคุณเองเพื่อให้แน่ใจว่าเชื่อถือได้มากที่สุด
2. สำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่มองหาพี่เลี้ยงจากสื่อออนไลน์ หรือโซเชียลมีเดีย (Social Media) เช่น เฟสบุ๊ค หรือไลน์ มองหาพี่เลี้ยงเด็กที่มีรีวิวจากผู้ที่เคยใช้บริการก่อนหน้า ใช้เวลาอ่านและศึกษารีวิวเหล่านั้น
3. เชื่อสัญชาตญาณของตัวเอง เมื่อคุณพ่อคุณแม่มีโอกาสสัมภาษณ์พี่เลี้ยงเด็กก่อนเริ่มงาน หากมีสัญญาณที่ทำให้คุณพ่อคุณแม่รู้สึกไม่สบายใจ เช่น พี่เลี้ยงเด็กดูเป็นคนไม่กระตือรือร้น หรือไม่ยิ้มแย้มแจ่มใส จงเชื่อสัญชาตญาณของตัวเองที่ชี้ว่าคนคนนี้ไม่เหมาะสมกับงาน
4. ตรวจสอบประวัติ คุณพ่อคุณแม่อาจร้องขอให้พี่เลี้ยงตรวจสอบประวัติอาชญากรรมกับกองทะเบียนประวัติอาชญากร( http://www.criminal.police.go.th/ ) เพื่อให้แน่ใจว่าพี่เลี้ยงเด็กไม่มีประวัติกระทำผิดกฎหมายทั้งหมดนี้เป็นส่วนหนึ่งที่คุณพ่อคุณแม่สามารถทำได้เพื่อตรวจสอบความน่าเชื่อถือและช่วยในการตัดสินใจ
ในวันสัมภาษณ์พ่อแม่ควรตกลงอะไรกับพี่เลี้ยงเด็ก
ขั้นตอนของการสัมภาษณ์พี่เลี้ยงเด็กนั้นถือเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่ง เพราะไม่ใช่แค่คุณจะได้ทำความรู้จักกับพี่เลี้ยงที่คุณจะจ้าง แต่ในขั้นตอนนี้คุณต้องทำการตกลงกับพี่เลี้ยงเด็กก่อนเริ่มงาน ดังนั้นวันนี้ใส่ใจมีข้อแนะนำให้คุณพ่อคุณแม่ที่กำลังจะสัมภาษณ์พี่เลี้ยงเด็กและพูดคุยถึงข้อตกลงที่สำคัญมีอะไรบ้างมาดูกันค่ะ

1) ขอบเขตหน้าที่ที่คุณต้องการให้พี่เลี้ยงทำ เช่น ช่วยเลี้ยงลูกคุณขณะคุณไม่อยู่บ้าน ช่วยเตรียมกับข้าวให้ลูกน้อยรับประทานในแต่ละมื้อ ช่วยสอนการบ้านหากพี่เลี้ยงมีความสามารถ
2) วันและเวลาการทำงาน ในวันที่สัมภาษณ์คุณและพี่เลี้ยงจะต้องตกลงเรื่องวันเวลาการทำงานให้อย่างชัดเจน และคุณควรจะมีวันหยุดให้พี่เลี้ยงตาม กฎหมายกระทรวงแรงงาน นายจ้างต้องให้ลูกจ้างมีวันหยุดประจำสัปดาห์ และวันพักร้อน ได้ 6 วัน ต่อ ปี และต้องหยุดตามประเพณี ปีละไม่น้อยกว่า 13 วัน
3) ค่าจ้าง คุณจะต้องตกลงเรื่องค่าจ้างกับพี่เลี้ยงให้ชัดเจน หากพี่เลี้ยงปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างดี คุณควรที่จะเพิ่มเงินเดือนให้ตามความเหมาะสม ในกรณีที่พี่เลี้ยงเด็กทำงานในวันหยุดนายจ้างต้องจ่ายเงินค่าจ้างตามกฎหมายแรงงาน
4) ข้อตกลงในการอาศัยอยู่ในบ้าน หากคุณมีกฎระเบียบที่ต้องการให้พี่เลี้ยงเด็กปฏิบัติตามกฎที่คุณตั้งไว้ คุณต้องแจ้งให้พี่เลี้ยงเด็กรับทราบก่อนเริ่มงานเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต
5) ถ้าคุณเป็นหนึ่งคนที่ไม่อยากให้ลูกติดโทรศัพท์ คุณควรแจ้งให้พี่เลี้ยงทราบ และควรกำชับพี่เลี้ยงว่าไม่ให้ลูกของคุณเล่นโทรศัพท์ขณะที่คุณไม่อยู่ เพราะเด็กอาจได้รับผลกระทบจากการเล่นโทรศัพท์นานเกินไปจนส่งผลให้เกิดภาวะสมาธิสั้นและส่งผลกับสายตา ดังนั้นพี่เลี้ยงจะต้องหากิจกรรมที่ให้เด็กได้พัฒนาตนเองมากกว่าการเล่นโทรศัพท์มือถือ

รูู้จักบางแค

คำขวัญของเขตบางแคนั้นมีอยู่ว่า “ลำคลองสี่ทิศ แหล่งเศรษฐกิจใหม่ สุขใจบ้านบางแค งามแท้สวนเพชรกาญจนารมย์ ชมวิถีเกษตรพอเพียง” แม้ว่าย่านบางแคจะอยู่ห่างจากใจกลางเมืองกรุงเทพฯ พอสมควร ทั้งยังมีแม่น้ำเจ้าพระยากั้นเอาไว้อีก ทำให้ผู้คนที่อยู่ทางฝั่งพระนครรู้สึกว่าเป็นย่านที่เข้าถึงลำบาก แต่ยังมีผู้คนทางย่านฝั่งธนและจากจังหวัดข้างเคียง เช่น นครปฐมและสมุทรสาคร แวะเวียนเข้ามาในย่านบางแคอยู่เสมอ คำว่า“บางแค” มาจากคำว่า “บาง” หมายถึงทางน้ำเล็ก ๆ หรือทางน้ำที่ไหลขึ้นลงตามระดับน้ำในแม่น้ำลำคลองหรือทะเล และยังหมายถึงหมู่บ้านที่อยู่หรือเคยอยู่ในบริเวณที่เคยเป็นบางมาก่อน ส่วนคำว่า “แค” นั้น ในสมัยก่อนอาจมีชาวบ้านชาวสวนปลูกต้นแคไว้เป็นจำนวนมาก หรืออาจเป็นเพราะว่าในอดีตมีต้นแคขึ้นอยู่ทั่วไปในท้องที่นี้ จึงเป็นที่มาของชื่อ ‘บางแค’

ปัจจุบันสำนักงานเขตบางแคจึงได้มีนโยบายปลูกต้นแค ตามโครงการสร้างเอกลักษณ์เมืองด้วย มาวันนี้ ย่าน ‘บางแค’ เดินทางจากชุมชนเก่าแก่ของฝั่งธนบุรี ไปสู่การเติบโตมาจากตัวเมืองหลวงเก่า กรุงธนบุรี และการที่มีคนไทยเชื้อสายจีนบางส่วนที่ขยับขยายเข้ามาอยู่อาศัยและค้าขายในย่านนี้ จนกลายเป็นชุมชนขนาดใหญ่ การเข้ามาของตลาดบางแคจึงเริ่มต้นของการขยายตัวของชุมชนเมือง และค่อย ๆ ขยายตัวตามการเติบโตของเมือง จนเกิดเป็นตลาดสดย่อย ๆ หลายตลาดรวมกันในพื้นที่เดียว กลายเป็นตลาดสดขนาดใหญ่ โดยตลาดสดแห่งนี้ เป็นตลาดสดเก่าแก่กว่า 60 ปี ที่มีของขายมากมาย เช่น ผัก ผลไม้ ขนมหวาน ข้าวแกงต่าง ๆ ตลาดบางแค จึงเป็นศูนย์รวมการค้าขายขนาดใหญ่ของฝั่งธนบุรี จึงมีผลให้พื้นที่โดยรอบของตลาดบางแคมีการค้าขายมากขึ้น กลุ่มร้านค้าชื่อดัง สินค้าแบรนด์ดังต่างต้องตามมาเปิดสาขา ณ บริเวณนี้ ด้วยกันนั้นโครงการรถไฟฟ้า MRT สายสีน้ำเงิน ช่วงหัวลำโพง-หลักสอง ก่อสร้างแล้วเสร็จ และเปิดให้บริการแล้ว เช่นเดียวกับรถไฟฟ้า MRT สายสีน้ำเงิน ช่วงบางซื่อ-ท่าพระ แม้ด้านหน้าริมถนนเพชรเกษมจะมีการเปลี่ยนไปตามจังหวะของเมือง บรรยากาศบ้านสวนริมน้ำของบางแคนั้น จะซ่อนสายตาอยู่หลังแนวอาคารพาณิชย์สองฟากถนนเพชรเกษม ต้องเดินเท้าลงไปสำรวจจึงจะได้สัมผัสกับบรรยากาศที่ว่าไว้ตามคำขวัญ สำหรับจุดน่าสนใจที่อยากแนะนำให้ไปเดินซอกแซกกันในเที่ยวนี้ ต้นทางอยู่ไม่ไกลจากหน้าตลาดบางแค เท่าไรนัก



ย่านบางแค

ตั้งแต่อดีตสายน้ำที่ล้อมรอบเขตบางแค คือเส้นทางที่ใช้สัญจรในเขตบางแคและนำความเจริญสู่บางแค จนมีถนนเพชรเกษมถนนสายใหม่ที่ขยายความเจริญ และปัจจุบันที่กำลังมีการขยายเส้นทางรถรางลอยฟ้า ถือเป็นถนนแห่งอนาคต บางแค จึงเหมือนมี 3 ยุคสมัยที่แตกต่างหลอมรวมขนานเป็นเส้นทางเดียวกัน หากมองว่าเป็นเสน่ห์ที่ไม่เหมือนย่านไหนๆ ที่นี่เหมือนการเดินทางอยู่ ใน 3 ช่วงเวลาจริงๆ ย้อนไปก่อนที่ถนนเพชรเกษมจะถูกตัดขึ้นเป็นทางหลวงสายหลักมุ่งหน้าสู่ภาคใต้ใน พ.ศ. 2493 คลองภาษีเจริญเคยเป็นเส้นทางคมนาคมสายหลักของคนแถบนี้มาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 ทอดยาวจากปากน้ำคลองบางกอกใหญ่ไปจนถึงแม่น้ำท่าจีนที่สมุทรสาคร จากนั้นคลอง เชื่อมต่อกับคลองดำเนินสะดวกไปถึงราชบุรี คลองเหมือนสายเลือดหล่อเลี้ยงชีวิต หากนึกภาพวิถีชีวิตไม่ออก ลองนึกภาพอังสุมาลินเล่นน้ำอยู่ในคลอง ที่ในละแวกนั้นมีการทำสวน ก่อนโกโบริจะมาเจอ คลองที่ขุดทำให้เรือกสวนไร่นาแถบนี้ไปมาถึงกันหมด เมื่อมีผลผลิตมาก เกิดเป็นจุดนัดพบแลกเปลี่ยนสินค้ากันที่บริเวณหน้าวัดนิมมานรดี ในวันนี้ สภาพโดยรวมของวัดนิมมานนรดี แทบจะไม่ได้มีสถาปัตยกรรมเก่าแก่หลงเหลือให้ชมอีกแล้ว แต่ยังคงเป็นวัดที่โดดเด่นแห่งหนึ่งในย่านบางแค หากมีโอกาสมาเที่ยวช่วงวันลอยกระทง จะเห็นวิถีชีวิตชาวบ้านที่เติบโตมากับสายน้ำ เพราะมีทำเลอยู่ตรงปากคลองราชมนตรีและคลองภาษีเจริญ ใครที่อยากเห็นรากเหง้าความเจริญในย่านตลาดบางแค ย้อนกลับไปสัมผัสกับบรรยากาศน่าถวิลหาในสมัยก่อนมีถนนเพชรเกษม ก็คงต้องหาเวลามาเดินเล่นบันทึกภาพชุมชนแถวนี้ และคงไม่พลาดที่จะไปเดินซอกแซกย่านริมน้ำวัดนิมมานนรดีดูสักครั้ง แม้ว่าวันนี้จะไม่มีตลาดน้ำ แต่ก็รับรองว่าได้ไปเยือนแล้ว…คุ้มค่าคุ้มเวลาแน่นอน จากตลาดน้ำมาเดินดูตลาดบางแค หรือ ตลาดสดบางแค เป็นตลาดสดขนาดใหญ่ เก่าแก่และยาวนานแห่งหนึ่งของกรุงเทพมหานครและฝั่งธนบุรี จุดเริ่มต้นตั้งอยู่ที่ ซอยเพชรเกษม 39/1 (ชุมชนแสงหิรัญ) ในแขวงบางหว้า เขตภาษีเจริญ กรุงเทพมหานคร ข้ามคลองราชมนตรีเข้าสู่พื้นที่แขวงบางแค เขตบางแค กรุงเทพมหานคร และ พื้นที่บริเวณตลาดสดบางแคนี้ไปสิ้นสุดตรงทางแยกบางแค (ถนนบางแค) ในแขวงบางแค เขตบางแค กรุงเทพมหานคร จริงๆ แล้วก็เหมือนตลาดทั่วๆ ไปแต่ที่นี่คือหัวใจของฝั่งธนบุรี ที่เป็นจุดเริ่มต้นขายความเจริญไปยังส่วนอื่นๆ



สิ่งที่พ่อแม่ทำได้ เพื่อช่วยพัฒนาการทางสังคมและอารมณ์: อายุ 8-10 ปี

กิจกรรมและข้อเสนอแนะต่อไปนี้สามารถนำมาใช้เพื่อเป็นส่วนช่วยในการพัฒนาสังคมและอารมณ์ของเด็กวัยนี้:

1. ส่งเสริมให้บุตรหลานเข้าร่วมกลุ่มโรงเรียนและชุมชน เช่น ทีมกีฬา หรือใช้ประโยชน์จากโอกาสในการเป็นอาสาสมัคร เพื่อให้เกิดแรงจูงใจ พ่อแม่สามารถทำด้วยกันกับลูก หรือทำเป็นตัวอย่าง เพราะพ่อและแม่คือ แบบอย่างที่ดีที่สุดของลูกเสมอ

2. พูดคุยกับบุตรหลานของคุณเกี่ยวกับแรงกดดันจากเพื่อนฝูง และพูดคุยถึงข้อกังวลใดๆ เกี่ยวกับเพื่อนและพฤติกรรมของพวกเขา รับฟังเรื่องราวอย่างตั้งใจ และเติบโตไปพร้อมๆกับลูก

3. ช่วยลูกของคุณกำหนดเป้าหมายที่ทำได้ ซึ่งจะช่วยให้พวกเขาพัฒนาความภาคภูมิใจและมีความเป็นอิสระมากขึ้นในการทำงานบ้านและการเรียน

4. พูดคุยกับลูกของคุณเกี่ยวกับการเคารพผู้อื่นและช่วยเหลือผู้อื่น ซึ่งจะทำให้เกิดความรู้สึกเห็นอกเห็นใจและเข้าใจ เมื่อลูกเข้าใจแล้ว แล้วทำสิ่งเหล่านี้จะทำได้โดยอัตโนมัติ จนเป็นนิสัยไปเลย

5. ส่งเสริมให้ลูกคิดเกี่ยวกับผลที่อาจจะเกิดขึ้นก่อนดำเนินการ

6. ชื่นชมลูกของคุณเสมอสำหรับพฤติกรรมที่ดีและตระหนักถึงความสำเร็จของพวกเขาเสมอ

7. พูดคุยกับลูกของคุณเกี่ยวกับสิ่งที่ควรทำเมื่อคนอื่นดูหมิ่นหรือไม่สุภาพ ให้เรียนรู้เข้าใจและปล่อยวาง

8. จงรักใคร่และซื่อสัตย์กับลูกของคุณและทำกิจกรรมร่วมกันในครอบครัว

9. สนับสนุนความสนใจของบุตรหลานของคุณในโลกนี้โดยให้โอกาสในการทำกิจกรรมต่างๆ เช่น การสร้างสิ่งของ เยี่ยมชมสวนสัตว์ หรือปลูกสวน

10. ช่วยให้ลูกของคุณพัฒนาความรู้สึกถูกหรือผิด เตือนพวกเขาเกี่ยวกับสิ่งที่มีความเสี่ยงที่เพื่อนอาจพยายามเกลี้ยกล่อมให้พวกเขาทำ

11. พบกับครอบครัวของเพื่อนของบุตรหลานของคุณ

12. พูดคุยกับลูกของคุณเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงทางร่างกายและอารมณ์ตามปกติของวัยแรกรุ่น

13. สังเกตว่าลูกของคุณตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงที่พวกเขาหรือเพื่อนกำลังประสบอยู่อย่างไร