ดูแลเด็ก ใน ประเวศ, กรุงเทพมหานคร

ดูแลเด็ก ใน ประเวศ, กรุงเทพมหานคร

คุณต้องการใช้บริการนี้เมื่อไหร่?
ระบุวันที่

วิธีการทำงาน

Saijai

ติดต่อเรา

ติดต่อเราโดยตรงผ่าน LINE OA เพื่อจองบริการที่คุณต้องการ

Saijai

แจ้งรายละเอียดให้เราทราบ

เลือกบริการ วันที่ เวลา และสถานที่ที่คุณต้องการให้ตรงกับความต้องการของคุณ

Saijai

ยืนยันการจองของคุณ

เราจะยืนยันการจองของคุณภายใน 24 ชั่วโมงผ่านทาง LINE OA

ฮามีด๊ะฮ์ โต๊ะขวัญ
ฮามีด๊ะฮ์ โต๊ะขวัญ
Saijai อายุ 30 ปี

มีความอดทน ขยัน รักความสะอาด ใจเย็น

แสดงเพิ่มเติม
กัญญาภัทร บุตรพรม
กัญญาภัทร บุตรพรม
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี

สวัสดีค่ะ ชือ ภัทรค่ะ อายุ 52 ถนัดดูแลเด็กแรกคลอด คุณแม่หลังคลอดค่ะ นวดเด็กแรกเล็กได้ ช้วยให้เด็ก อารมณ์ดีไม่งอแง ช่วยระบบขับถ่าย เลือดลมไหลเวียนดี ร่างกายแข็งแรง.นวดประคบสมุนไพร คุณแม่หลังคลอดช่วยในการอยู่ไฟสมัยโบราณ ทำให้มดลูกเข้าอู่ไว้ ร่างกายแข็งแรง รับงานได้ทั้งในและต่างประเทศค่ะ รับดูแลทั้งคนไทยและต่างชาติ

แสดงเพิ่มเติม
Piyatida Dumluck
Piyatida Dumluck
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี
Saijai อายุ 39 ปี
วิไล นันต๊ะภาพ
วิไล นันต๊ะภาพ
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี
Saijai อายุ 47 ปี
เสาวณีย์ เขาพระจันทร์
เสาวณีย์ เขาพระจันทร์
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี
Saijai อายุ 38 ปี

ใส่ใจดูแลเหมือนลูกเจ้าของเองใจเย็น ดูแลได้ตลอด

แสดงเพิ่มเติม
Ponchai Srivichian
Ponchai Srivichian
Saijai ประสบการณ์ 3-4 ปี

เป็นคนใจเย็น รักเด็ก ชอบเล่นกับเด็ก ปัจจุบันมีลูกสาว 1 คน 3 ขวบ ศึกษาข้อมูลในการเลี้ยงเด็กสมัยใหม่มาค่อนข้างเยอะ สามารถนำมาประยุกต์ปรับใช้ให้เกิดประโยชน์ได้

แสดงเพิ่มเติม
ทิพวรรณ์ ราศรี
ทิพวรรณ์ ราศรี
Saijai ประสบการณ์ 1-2 ปี
Saijai อายุ 26 ปี

เป็นคนอัธยาศัยดีค่ะ ใจเย็นค่ะชอบเล่นกับเด็ก ส่งเสริมพัฒนาการของน้องได้ค่ะ

แสดงเพิ่มเติม
อานนท์ ทองแสง
อานนท์ ทองแสง
Saijai ประสบการณ์ 1-2 ปี
Saijai อายุ 30 ปี

ผมเป็นคนสุภาพ เรียบร้อย ไม่ยุ่งอบายมุข ไม่พูดคำหยาบ ตั้งใจทำงานที่ได้รับมอบหมาย ทำได้ทุกอย่างครับ สอนได้ทุกวิชา ค่าจ้างเป็นต่อชั่วโมงหรือให้เป็นรายเดือนก็ได้ครับ

แสดงเพิ่มเติม

รักเด็ก, ใจเย็น, ละเอียด, รักสะอาด, ยืดหยุ่น, รับฟังและพร้อมเรียนรู้

แสดงเพิ่มเติม
ศิริวิมล ทรงศิริ
ศิริวิมล ทรงศิริ
Saijai ประสบการณ์ 0-1 ปี
Saijai อายุ 42 ปี

ที่บ้านมีห้องแอร์สถานที่ให้วิ่งเล่น เรียนได้เกรดเฉลี่ยอยู่ที่ 3.40 เรียนโรงเรียนเทพศิรินทร์ร่มเกล้า มีประสบการณ์ดูแลหลานๆของตนเองหลายคน มากกว่า5คน ตั้งแต่อายุ 1 ขวบ ถึง 15 ปี

แสดงเพิ่มเติม
กิติยา คำมา
กิติยา คำมา
Saijai ประสบการณ์ 1-2 ปี
Saijai อายุ 38 ปี

เคยทำงานพี่เลี้ยงเด็กอยู่ต่างจังหวัด รับน้องมาเลี้ยงที่บ้าน รายเดือน 10000/เดือน หรือตามข้อตกลงกับนานจ้าง

ทำงานโรงงานจิวรี่เครืาองประดับส่งออกเงิ/ทอง เป็งช่างขัดงานละเอียด

นิสัยส่วนตัวแล้วเข้ากับทุกคนได้ ร่าเริง รับฟังยอมรับกับคำแนะนำคำติเตือนในแต่ละเหตุหรือหน้าที่การงาน ตรงต่อเวลา ใจเย็น ชอบดนตรี ชอบทำงานประดิษฐ์งานฝีมือ ชอบทำกับข้าว ใช้หรือฝากทำธุระได้ ชำนาญคล่องตัวในการขับรถจักรยานยนต์

แสดงเพิ่มเติม
Pavana Suntudchaiyo
Pavana Suntudchaiyo
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี
Saijai อายุ 57 ปี

I am in good health, kind and responsible, polite and gentle. สุภาพ สุขภาพแข็งแรง พูดเพราะ มีความรับผิดชอบ

แสดงเพิ่มเติม
ฉันทนา สิทธิ
ฉันทนา สิทธิ
Saijai ประสบการณ์ 1-2 ปี
Saijai อายุ 45 ปี

เป็นคนง่ายๆรักเด็กใจเย็นไม่เคยโกรธหรือโมโหอะไรง่ายๆนอนน้อยทําได้หมดแต่ไม่ชอบจู้จี้

แสดงเพิ่มเติม

ข้อมูลสถิติน่าสนใจเกี่ยวกับ

Saijai จำนวนประชากร
Saijai จำนวนประชากรเด็ก (แรกเกิด-14 ปี)
Saijai จำนวนประชากรสูงอายุ (60 ปี ขึ้นไป)
Saijai จำนวนสัตว์เลี้ยง สุนัข

รีวิวล่าสุด

ดิฉันกับสามีทำงานประจำทั้งคู่ค่ะ ไม่มีใครคอยอยู่ดูแลลูกที่บ้านเลย ลูกติดนิสัยชอบอยู่แต่ในบ้านและซนกับพี่เลี้ยงมาก จนพี่เลี้ยงหลาย ๆ คนทนไม่ไหวถึงกับขอลาออกเอง โชคดีที่ได้เจอพี่เลี้ยงคนนี้บนเว็บใส่ใจ พี่ลี้ยงเข้ากับน้องได้ดีค่ะ
Saijai
วิลาภรณ์ สุทธิรักษ์
3 ปีที่แล้ว
ลาคลอดได้แค่ 3 เดือน ค่ะ ต้องกลับไปทำงานต่อ จะฝากลูกไว้กับยายก็กลัวแกจะดูไม่ไหว เลยลองหาพี่เลี้ยงจากเว็บใส่ใจดู ตอนแรกก็กังวลอยู่เหมือนกันค่ะ ไม่กล้าทิ้งลูกไว้กับพี่เลี้ยง แต่ก็วางใจอย่างนึงว่าพี่เลี้ยงมีประสบการณ์ ตอนนี้ทุกอย่างลงตัว โอเคมาก ๆ ค่ะ
Saijai
สุชาดา มิ่งมงคล
3 ปีที่แล้ว
เปลี่ยนพี่เลี้ยงเด็กมาหลายคน ส่วนมากราคาสูง ๆ ทั้งนั้น แต่อยู่ไม่ได้นานก็ลาออก ลองจองพี่เลี้ยงผ่านเวปใส่ใจ เยี่ยมมากเลยครับ แฟนสบายใจ หมดปัญหา ไม่ต้องจ้างพี่เลี้ยงราคาแพง ได้ราคาแบบสมเหตุสมผล แถมมีคุณภาพครับ
Saijai
จิตวัชร จันประทีป
4 ปีที่แล้ว
บ้านอยู่แถว สุขุมวิท71 ลองใช้เว็บใส่ใจครั้งแรก เพราะเพื่อนๆ แนะนำมา อยากได้พี่เลี้ยงเด็ก มองหามาหลายที่ ที่นี่รายละเอียดครบ ราคาชัดเจน โทรปรึกษาพนักงานก็อธิบายเข้าใจง่ายมาก สะดวกสบาย ง่ายกว่า search หาเองใน Google ชอบมากๆ ค่ะ
Saijai
นงคราญ แซ่ตั้ง
4 ปีที่แล้ว
เราทำงานนอกบ้าน เลยหาพี่เลี้ยงเด็กมาดูแลน้องที่บ้าน ค้นหาข้อมูลดูเวปนี้ให้รายละเอียดพี่เลี้ยงน่าสนใจ ราคาเรารับได้ เราเลยให้น้องมาทดลองงานก่อนเราไปทำงาน น้องมีประสบการณ์มา เลยปรับตัวไม่ยาก เวลาเราอยู่น้องจะช่วยหยิบจับของทำโน่นทำนี่ไป ประทับใจคะ สองเดือนแล้วน้องทำงานดี มีระเบียบเรียบร้อย คุ้มค่ากับเงินที่เสียไป เราไว้ใจให้น้องคนนี้ดูแล
Saijai
แม่น้องกัญ
4 ปีที่แล้ว

คำถามที่พบบ่อยสำหรับการค้นหา ดูแลเด็ก

หากคุณพ่อคุณแม่ไม่มีเวลาดูแลลูกน้อยควรเลือกใช้บริการการเลี้ยงเด็กแบบใด พี่เลี้ยงเด็กส่วนตัว หรือเนอสเซอรี่
สำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่กำลังมองหาพี่เลี้ยงเด็ก วันนี้เรามาดูข้อดีขอเสียของพี่เลี้ยงเด็กกันค่ะ ทำไมต้องเลือกใช้บริการพี่เลี้ยงเด็ก

1) พี่เลี้ยงช่วยแบ่งเบาภาระของคุณพ่อคุณแม่ได้ หากคุณไม่มีเวลาดูแลลูกน้อยเนื่องจากต้องทำงานนั้น พี่เลี้ยงเด็กคือทางออกของคุณค่ะ
2) หากคุณเลือกพี่เลี้ยงที่มีคุณสมบัติที่ดีสามารถช่วยส่งเสริมพัฒนาการของลูกของคุณได้ค่ะ
3) พี่เลี้ยงสามารถดูแลลูกน้อยของคุณแบบใกล้ชิดมากกว่าส่งลูกเข้าศูนย์เลี้ยงเด็ก เพราะศูนย์เลี้ยงเด็กนั้นไม่สามารถดูแลเด็ก ๆ แบบใกล้ชิดได้
4) พี่เลี้ยงสามารถยืดหยุ่นเวลาทำงานให้สอดคล้องกับการทำงานของคุณได้
5) คุณไม่ต้องเสียเวลาไปรับไปส่งลูกน้อยที่ศูนย์หากคุณจ้างพี่เลี้ยงมาที่บ้านเพื่อดูแลลูกน้อยของคุณ
6) ลูกของคุณจะไม่ป่วยบ่อยเหมือนเข้าศูนย์เลี้ยงเด็กที่มีเด็กมากกว่า20คน อาจจะเกิดความเสี่ยงติดโรคจากเพื่อน ๆ ได้
7) พี่เลี้ยงสามารถอยู่ดูแลลูกของคุณและเฝ้าบ้านของคุณได้หากในกรณีคุณกลับบ้านดึก
8) คุณสามารถบอกพี่เลี้ยงเด็กได้หากคุณต้องการให้พี่เลี้ยงมุ่งเน้นพัฒนาการของลูกคุณในด้านไหนเพราะพี่เลี้ยงของคุณจะดูแลเด็กแบบใกล้ชิด และมุ่งเน้นความสนใจให้ลูกของคุณ ต่างจากเข้าศูนย์เลี้ยงเด็กที่ต้องเฉลี่ยดูแลอย่างเท่าเทียมกัน

ข้อเสียของพี่เลี้ยงเด็ก

1) ลูกของคุณอาจจะติดพี่เลี้ยงมากเกินไป
2) ค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูงหากเทียบกับศูนย์เลี้ยงเด็ก
3) คุณอาจจะสูญเสียความเป็นส่วนตัวภายในครอบครัว

อย่างไรก็ดีข้อดีของพี่เลี้ยงเด็กนั้นจะช่วยแบ่งเบาหน้าที่ของคุณไปได้เยอะเลยทีเดียว หากคุณกำลังมองหาพี่เลี้ยงเด็กสักคน ใส่ใจมีบริการด้านนี้ค่ะ
ทักษะสำคัญที่พี่เลี้ยงเด็กควรมีคืออะไร
6 ทักษะสำคัญที่พี่เลี้ยงเด็กควรมี

1. ความรู้ด้านการส่งเสริมพัฒนาการ การส่งเสริมพัฒนาการทำได้ทั้งผ่านการเล่นและการทำกิจวัตรประจำวัน พี่เลี้ยงเด็กที่ดีควรหากิจกรรมเพื่อให้เด็กมีส่วนร่วมและช่วยเหลือตัวเองได้ตามวัยที่เหมาะสม
2. ความอดทนและใจรักเด็ก เด็กแต่ละคนมีความแตกต่างกันทั้งลักษณะนิสัย อารมณ์และการแสดงออก บางคนว่านอนสอนง่าย บางคนชอบเล่นซนทั้งวัน หรือบางคนงอแง พี่เลี้ยงเด็กที่ดีควรมีใจรักเด็กเป็นพื้นฐาน พร้อมทำความเข้าใจและมีความอดทน พยายามหาวิธีที่ทำให้เด็กรู้สึกวางใจ ปลอดภัย และยอมเชื่อฟังพี่เลี้ยงในที่สุด
3. ความรู้ด้านการปฐมพยาบาลเบื้องต้นและรู้เบอร์โทรศัพท์ในกรณีฉุกเฉิน ถ้าเด็กหกล้มมีแผลถลอกพี่เลี้ยงเด็กต้องรู้ว่าจะจัดการกับแผลถลอกอย่างไร ในกรณีฉุกเฉินพี่เลี้ยงเด็กต้องสามารถติดต่อหน่วยงานที่ให้ความช่วยเหลือได้
4. ทักษะการสื่อสาร เด็กมีความแตกต่างกันในแต่ละช่วงอายุ พี่เลี้ยงเด็กต้องเข้าใจการสื่อสารกับเด็ก เช่น เข้าใจภาษากายของทารก การสื่อสารของเด็กเล็ก สำหรับเด็กที่สามารถสื่อสารด้วยทำพูดได้แล้ว พี่เลี้ยงเด็กต้องพูดคุยเพื่อให้เด็กเชื่อฟังโดยไม่ใช้การบังคับและให้เด็กรู้สึกสบายใจ
5. ทักษะการแก้ปัญหา หากไม่ใช่เรื่องที่ร้ายแรงพี่เลี้ยงเด็กต้องรู้วิธีแก้ปัญหาหรือสถานการณ์ตรงหน้าตามสมควรโดยไม่จำเป็นต้องรายงานหรือรอให้คุณพ่อคุณแม่ตัดสินใจทุกครั้ง
6. ความคิดสร้างสรรค์ คงไม่ดีแน่หากพี่เลี้ยงเด็กดูแลเด็กด้วยการให้เด็กดูสมาร์ทโฟนเป็นชั่วโมง พี่เลี้ยงเด็กที่ดีควรมีความคิดสร้างสรรค์เล่นกับเด็กเพื่อให้เด็กเพลิดเพลินได้นานหลายชั่วโมงและให้เด็กได้พักผ่อนตามเวลา

ทั้งหมดนี้คือคุณสมบัติและทักษะที่ดีที่คุณพ่อและคุณแม่ควรมองหาในตัวพี่เลี้ยงเด็กที่คุณเลือกมาเพื่อดูแลลูกน้อยของคุณค่ะ
ควรทำอย่างไรเพื่อคลายความกังวลเมื่อคุณพ่อคุณแม่ต้องปล่อยให้ลูกอยู่ตามลำพังกับพี่เลี้ยง
ไม่ใช่เรื่องง่ายที่สำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่จะไว้วางใจให้ลูก ๆ ของคุณอยู่ในความดูแลพี่เลี้ยงเด็ก แม้ว่าจะเป็นเวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมงก็ตามเด็กอาจเกิดความรู้สึกวิตกกังวลเมื่อต้องแยกจากคุณพ่อคุณแม่ ใส่ใจมีวิธีการที่จะช่วยลดความกังวลของทั้งคุณพ่อคุณแม่และลูกได้ดังนี้ค่ะ

1. คุณพ่อคุณแม่ควรพูดคุยและทำความเข้าใจกับเด็ก ถึงความจำเป็นที่ต้องให้เด็กๆ อยู่กับพี่เลี้ยง ให้ความมั่นใจกับเด็กว่าคุณพ่อคุณแม่หาคนที่สามารถดูแลพวกเขาได้ดี
2. คุณพ่อคุณแม่ควรหาพี่เลี้ยงที่เข้ากันได้กับลูก ๆ และมีความพร้อมในการดูแลเด็ก
3. แนะนำให้ลูก ๆ ทำความรู้จักกับพี่เลี้ยง โดยอาจจะเล่าให้ฟังว่าพี่เลี้ยงเห็นใคร ชื่ออะไร คุยกับพี่ผ่านทางวิดีโอคอลก่อนวันเริ่มงานจริง เพื่อนลดความตึงเครียดในการเจอกันครั้งแรก
4. คุณพ่อคุณแม่ควรบันทึกเบอร์โทรศัพท์ของตัวเอง เบอร์โทรฉุกเฉิน และสอนให้ลูกใช้โทรศัพท์เพื่อโทรหาคุณพ่อคุณแม่ได้ หรือโทรขอความช่วยเหลือได้ในกรณีฉุกเฉิน
5. มอบหมายงานบ้านเล็ก ๆ น้อย ๆ ให้เด็ก ๆ ทำระหว่างวัน เพื่อที่เด็ก ๆ จะได้มีกิจกรรมเบนความสนใจและไม่เอาแต่จดจ่อรอเวลาคุณพ่อคุณแม่กลับบ้าน
6. เมื่อถึงเวลาที่คุณพ่อคุณแม่ต้องออกจากบ้านและต้องให้เด็ก ๆ อยู่กับพี่เลี้ยงเด็ก คุณพ่อคุณแม่ควรให้ความมั่นใจกับเด็ก ๆ ว่าพี่เลี้ยงจะดูแลเด็ก ๆ เป็นอย่างดีและย้ำว่าพวกเขาสามารถโทรหาคุณได้เสมอ
ข้อตกลงสำคัญที่พ่อแม่ควรตกลงกับพี่เลี้ยงเด็กก่อนเริ่มงานมีอะไรบ้าง?
สัญญาหรือข้อตกลงในการทำงานเป็นสิ่งที่คุณพ่อคุณแม่และพี่เลี้ยงเด็กต้องตกลงร่วมกันเพื่อความเข้าใจที่ตรงกันในขอบเขตการทำงานและค่าตอบแทน การทำสัญญาเป็นลายลักษณ์อักษรอาจจะไม่จำเป็นเสมอไป แต่การร่างหรือการบันทึกรายการช่วยให้ทั้งสองฝ่ายจดจำรายละเอียดต่าง ๆ ได้ง่ายขึ้น มีอะไรบ้างที่คุณพ่อคุณแม่และพี่เลี้ยงเด็กควรตกลงกันก่อนเริ่มงาน

1. วันเริ่มงาน ควรมีวันเริ่มงานให้ชัดเจนเพื่อประโยชน์และไม่เป็นการเสียเวลาของทั้งคุณพ่อคุณแม่และพี่เลี้ยงเด็ก
2. ชั่วโมงการทำงานและวันหยุด ตกลงเรื่องเวลาทำงาน จำนวนชั่วโมงการทำงานในแต่ละวันและวันหยุด เพื่อให้ตารางการทำงานของพี่เลี้ยงเด็กสอดคล้องกับเวลาทำงานของพ่อคุณแม่มากที่สุด และทั้งสองฝ่ายควรรักษาเวลา
3. ขอบเขตหน้าที่และความรับผิดชอบ กำหนดความรับผิดชอบของพี่เลี้ยงเด็กให้ชัดเจน
4. ค่าแรงและกำหนดการจ่าย ค่าแรงของพี่เลี้ยงเด็กอาจขึ้นอยู่กับลักษณะการทำงาน เช่นพี่เลี้ยงเด็กรายชั่วโมง รายวัน รายสัปดาห์และรายเดือน ซึ่งกำหนดการจ่ายเงินอาจจะแตกต่างกันไปตามลักษณะการทำงานนี้ด้วย
5. ค่าแรงในกรณีทำงานล่วงเวลา หากคุณพ่อคุณแม่ต้องการให้พี่เลี้ยงเด็กทำงานล่วงเวลา ควรสอบถามความสมัครใจของพี่เลี้ยงและตกลงกันให้ชัดเจนเรื่องค่าแรง
6. การโพสต์รูปหรือข้อความเกี่ยวกับเด็กลงสื่อออนไลน์ (Social Medias) คุณพ่อคุณแม่คงไม่อยากให้มีรูปภาพ หรือข้อความเกี่ยวกับลูก ๆ ถูกโพสต์ลงในโซเชียลมีเดีย เช่น เฟสบุ๊ค หรืออินสตาแกรม โดยไม่ได้รับอนุญาต ดังนั้นคุณพ่อคุณแม่ควรทำความตกลงกับพี่เลี้ยงเด็กในเรื่องนี้ด้วย
ทั้งหมดนี้คือสิ่งที่คุณพ่อและคุณแม่ควรพูดคุยตกลงกับพี่เลี้ยงเด็กให้ชัดเจนก่อนเริ่มงาน

พาเด็กเที่ยว สวนหลวง ร. 9

ตามธรรมชาติเด็กส่วนใหญ่ชอบการเคลื่อนไหว ซุกซน ไม่อยู่นิ่ง ซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งในพัฒนาการด้านร่างกายและกระบวนการคิด พ่อ แม่ ผู้ปกครอง ควรส่งเสริมให้เด็ก ๆ ได้ทำกิจกรรมต่าง ๆ โดยเฉพาะกิจกรรมกลางแจ้ง ในเขตประเวศมีสถานที่ที่เหมาะสำหรับครอบครัวได้พักผ่อนและทำกิจกรรมร่วมกัน

สวนหลวง ร. 9 ตั้งอยู่ที่ตำบลหนองบอน เขตประเวศ กรุงเทพมหานคร บนพื้นที่ 500 ไร่ สวนสาธารณะสวนหลวง ร. 9 แบ่งออกได้เป็น 6 ส่วน คือ

บริเวณที่ 1สวนสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีพื้นที่ 21 ไร่ เป็นสวนหลวงเป็นที่ตั้งของศาลาราชมังคลาฯ ด้านหน้าศาลาเป็นสวนหลวง ร. 9 สวนราชพฤกษ์ (ขี้เหล็กทวาร) และสระน้ำขนาดใหญ่ 3 สระพร้อมน้ำพุที่ประดับประดาอย่างสวยงามด้วยไม้ดอกและไม้ประดับ ภายในศาลามีห้องกระจก 9 ห้อง ที่เด็กจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับสถาบันกษัตริย์ไทย ในห้องต่างเป็นที่จัดแสดงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับ พระชนม์ชีพ สิ่งประดิษฐ์ และข้อมูลเบื้องหลังของโครงการต่าง ๆ ที่ริเริ่มโดยราชวงศ์จักรีนอกจากนี้ยังมีห้องประชุมที่มีความจุ 500 ที่นั่ง

พื้นที่ 2 สวนพฤกษศาสตร์ ภายในสวนมีเนื้อที่ 150 ไร่ และมีพันธุ์ไม้นานาชนิด พืชเหล่านี้จัดตามการจัดอนุกรมวิธานและนิเวศวิทยา พืชเหล่านี้ใช้เพื่อวัตถุประสงค์ในการวิจัย การอนุรักษ์ และการศึกษา นอกจากนี้ ยังมีสมุนไพร ห้องสมุด และสำนักงานสำหรับเจ้าหน้าที่ธุรการและด้านเทคนิคของสวนอยู่ภายใน Botanical Hall เรือนกระจกเฟิร์นและกล้วยไม้ เรือนกระจกในร่ม โดมเรขาคณิต และศาลากลางสระบัว หรือที่รู้จักในชื่อศาลาท่ากนพระเกียรติ ศาลาใช้เป็นศูนย์การประชุมหรือสัมมนา อาคารสำนักงานสวนสาธารณะสวนสาธารณะสวนหลวง ร. 9 ของกรุงเทพมหานคร มีหน้าที่หลักในการดูแลสวนตลอดจนการปลูกต้นไม้และการขยายพันธุ์

บริเวณที่ 3 อ่างเก็บน้ำ (ตระพังแก้วเก็บน้ำ) ตามพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงสร้างอ่างเก็บน้ำเพื่อลดผลกระทบจากน้ำท่วมในเขตชานเมืองด้านตะวันออกของกรุงเทพฯ และครอบคลุมพื้นที่ 40 ไร่ วันนี้อ่างเก็บน้ำเป็นที่นิยมสำหรับกีฬาทางน้ำ ศาลาชายชล ตั้งอยู่ริมฝั่งทิศเหนือของอ่างเก็บน้ำ ประกอบด้วย คณะกรรมการบริหารสำนักงานสวนสาธารณะสวนหลวง ร. 9 ร้านขายของที่ระลึกและร้านอาหาร

พื้นที่ 4 สวนรมณีย์ ใช้เนื้อที่ประมาณ 50 ไร่ สวนรมณีย์ได้รับการออกแบบให้คล้ายกับที่อยู่อาศัยและสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติที่พบได้ทั่วไปในต่างจังหวัดของประเทศไทย โขดหิน ต้นไม้ และดอกไม้ นำมาจากส่วนต่างๆ ของประเทศ และจัดเรียงให้เลียนแบบธรรมชาติ จึงนำพาผู้มาเยือนเข้าสู่ผืนป่าที่สวยงามของประเทศไทย ภูเขา น้ำตก และลำห้วยวางอยู่กลางสวน และได้ปลูกพันธุ์ไม้หอมรอบศาลาพุฒ จันทร์ สามารถชมประติมากรรมเฉลิมพระเกียรติแสดงภาพกิจกรรมของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ณ ริมฝั่งอ่างเก็บน้ำ

บริเวณที่ 5 สวนน้ำ สวนน้ำมีพื้นที่ประมาณ 40 ไร่ โดยมีพระบัญชาจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สวนน้ำ ถูกสร้างขึ้นให้มีลักษณะเป็นที่อยู่อาศัยของ 'พรุ' (บึง) ตามธรรมชาติ และเป็นที่อยู่อาศัยของนกน้ำและสัตว์น้ำชนิดอื่นๆ ผู้เข้าชมสวนสามารถศึกษารูปแบบพฤติกรรมของผู้อยู่อาศัยในสวนและเรียนรู้เกี่ยวกับพืชชนิดต่างๆ และจุดประสงค์ของสวน

พื้นที่ 6-สนามรัษฎาฯ และศูนย์กีฬาสนามรัษฎาฯ และศูนย์กีฬา ครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 70 ไร่ ศาลาดนตรีและสนามหญ้าขนาดใหญ่ด้านหน้าใช้เป็นเวทีกลางแจ้งสำหรับการแสดงต่างๆ สนามหญ้ายังถูกใช้เป็นตลาดขายไม้ประดับในช่วง 'ไม้งามประดับเทศกาลดอกไม้สวนหลวง ร. 9 ที่จัดขึ้นเมื่อต้นเดือนธันวาคม ศูนย์กีฬาประกอบด้วยสระว่ายน้ำและสนามเทนนิส สวนนานาชาติเพิ่มเติมจากหกพื้นที่ดังกล่าว สวนนานาชาติที่มีการจัดวางจากภูมิภาคต่างๆ ของโลก สามารถพบได้ในสวนสาธารณะสวนหลวง ร. 9 สวนจีนและสวนญี่ปุ่นเป็นตัวแทนของทิศตะวันออก ประเทศต่างๆ ของโลก- สเปน อังกฤษ ฝรั่งเศส และอิตาลี สวนเป็นตัวแทนของประเทศในโลกตะวันตก- สหรัฐอเมริกามีโดมทรงโดมที่ใช้สำหรับปลูกพืชทนแล้ง เช่น กระบองเพชร



เคล็ดลับเลี้ยงลูกให้มีความสุข

สำหรับคนเป็น พ่อ แม่ ผู้ปกครอง ที่ต้องดูแลเด็ก ลูก หลานคงอยากให้มีคู่มือสำหรับเลี้ยงเด็กให้ถูกต้องและสมบูรณ์ที่สุด แต่ในความเป็นจริง ไม่มีหนังสือหรือคู่มือเล่มไหนที่ถือกล้าการันตีว่า ถ้าทำตามคู่มือนี้รับรองผล 100 เปอร์เซ็นต์ว่าเด็ก ๆ จะเป็นเด็กที่เก่ง ฉลาด จิตใจดี และสุขภาพแข็งแรง เมื่อไม่มีวิธีที่เพอร์เฟค พ่อ แม่ ผู้ปกครอง ควรตระหนักว่าเด็กแต่ละคนมีความแตกต่างกัน การเลี้ยงเด็กสักคนให้เป็นคนที่มีความสุขสำคัญกว่าการเลี้ยงเด็กให้เป็นเด็กที่สมบูรณ์แบบ

คำว่า "ความสุข" มีความหมายที่แตกต่างกันสำหรับทุกคน ไม่มีเด็กคนไหนที่จะได้หรือมีความสุข ตลอด 24 ชั่วโมงทุกวัน (โชคดี!) และอารมณ์ของเด็กทุกคนก็มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว แต่สิ่งที่ พ่อ แม่ ผู้ปกครอง สามารถมอบให้และทำให้เด็กมีความสุขอย่างแน่นอนคือ

ความรัก

มีคำกล่าวอยู่ว่าการเลี้ยงลูกให้มีความสุขและมองโลกในแง่ดีเริ่มต้นด้วยพ่อแม่ ผู้ปกครอง และรวมไปถึงพี่เลี้ยงเด็ก ที่รักและแสดงความรักต่อกันและต่อเด็ก ๆ “สิ่งนี้ทำให้เด็กๆ รู้สึกปลอดภัยและเป็นรากฐานของความสุข” บอกเด็ก ๆ ของคุณทุกวันว่าคุณรักพวกเขามากแค่ไหน

เวลา

การมีเวลาให้เด็กเป็นอีกวิธีหนึ่งในการแสดงความรัก “เด็ก ๆ ต้องการเวลากับพ่อแม่ หรือผู้ปกครอง เด็กที่โตมาอย่างปลอดภัยที่สุดคือผู้ที่ได้รับเวลาจากพ่อแม่มากที่สุด” อาจเป็นเรื่องง่าย ๆ เช่น การทำกิจวัตรประจำวันหรือประจำสัปดาห์ เช่น การอ่านนิทานก่อนนอนหรือการไปกินไอศกรีม พ่อแม่ทุกคนมีงานยุ่งและงานเล็กๆ น้อยๆ ในชีวิตอาจดูเหมือนหนักหนาสาหัส แต่สิ่งสำคัญคือต้องจัดสรรเวลาทุกวันสำหรับลูก ๆ แต่ละคน

แสดงความใส่ใจและกล่าวชม

พ่อ แม่ หรือผู้ปกครอง ต้องใส่ใจ สังเกตและให้รางวัลสำหรับการตัดสินใจ และพฤติกรรมที่ดี เด็กที่ได้รับความใส่ใจและคำชมจาก พ่อแม่ หรือผู้ปกครองของพวกเขา มีแนวโน้มที่จะตัดสินใจดี ๆ ซ้ำๆ และรู้สึกมั่นใจในตัวเองมากขึ้น

เคารพสิทธิ์

"การเข้าใจถึงความแตกต่างระหว่างสิทธิและสิทธิพิเศษ" เป็นสิ่งสำคัญในการสร้างเด็กที่มีความสุข เด็กควรรู้สึกเสมอว่าคนที่ตนรักจะปกป้องสิทธิ์ของตน



ปัจจัยสำคัญเพื่อให้เด็กเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่ประสบความสำเร็จ

ดร. ฮาร์ลีย์ ร็อตบาร์ต (Dr. Harley Rotbart) แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านกุมารศาสตร์ ได้เปิดเผยผลงานวิจัยด้านพัฒนาการของเด็กเกี่ยวกับปัจจัยสำคัญที่ทำให้เด็กเติบโตขึ้นไปเป็นผู้ใหญ่ที่มีความสุขและประสบความสำเร็จ

1. ความปลอดภัย

พ่อ แม่ ผู้ปกครอง รวมถึงพี่เลี้ยงเด็ก ต้องทำให้เด็กรู้สึกปลอดภัย ดูแลเรื่องพื้นฐาน ได้แก่ ที่พัก อาหาร เครื่องนุ่งห่ม การดูแลทางการแพทย์ และการป้องกันอันตราย

2. ความมั่นคง

ความมั่นคงมาจากครอบครัวและชุมชน พ่อ แม่ ผู้ปกครองควรให้เด็กส่วนหนึ่งของครอบครัว เด็กมีสิทธิ์ที่จะแสดงความคิดเห็น ให้เด็กมีตัวตน เป็นที่รู้จักและให้เด็กรู้สึกถึงความเป็นเจ้าของและเป็นส่วนหนึ่งของชุมชน

3. ความสม่ำเสมอ

พ่อ แม่ ผู้ปกครองและพี่เลี้ยงเด็ก ควรดูแลเด็กไปในแนวทางเดียวกัน ไม่ใช่ พ่อสอนแบบหนึ่ง แต่แม่สอนอีกแบบ จะทำให้เด็กเกิดความสับสน และไม่รู้ว่าต้องปฏิบัติตัวเช่นไรกันแน่

4.การสนับสนุนทางอารมณ์

คำพูดและการกระทำของผู้ปกครองควรส่งเสริมความไว้วางใจ ความเคารพ ความนับถือตนเอง และความเป็นอิสระของเด็กในที่สุด

5. ความรัก

การพูดและแสดงความรักต่อเด็ก ๆ จะช่วยแก้ไขปัญหาได้ในเกือบทุกสถานการณ์ แม้ว่าเด็กจะไม่เชื่อฟัง โกรธ หงุดหงิด และต่อต้าน สิ่งที่ พ่อ แม่ ผู้ปกครอง พยายามสอน จงแสดงให้เด็กว่าคุณรักพวกเขาและคุณจะรักพวกเขาตลอดไป

6. การศึกษา

พ่อ แม่ และผู้ปกครอง ควรให้เด็กได้รับการศึกษาที่ดีที่สุดสำหรับอนาคตของพวกเขา ไม่ใช่แค่โรงเรียนแต่ยังรวมถึงบทเรียนชีวิตอันล้ำค่าที่คุณให้ไว้ในช่วงเวลาที่คุณใช้ร่วมกัน

7. แบบอย่างที่ดี

พ่อแม่เป็นแบบอย่างแรกและสำคัญที่สุดของลูก ปลูกฝังค่านิยมและสอนเด็ก ๆ ให้เอาใจใส่ด้วยการเป็นคนแบบที่คุณอยากให้พวกเขาเป็น

8. โครงสร้าง

กฎ ขอบเขต และข้อจำกัด: หากไม่มีสิ่งเหล่านี้ เด็ก ๆ จะถูกบังคับให้เป็นผู้ใหญ่ก่อนที่พวกเขาจะพร้อม และพวกเขาสูญเสียความเคารพต่อคุณและผู้ใหญ่คนอื่นๆ