วิธีการทำงาน
ติดต่อเรา
ติดต่อเราโดยตรงผ่าน LINE OA เพื่อจองบริการที่คุณต้องการ
แจ้งรายละเอียดให้เราทราบ
เลือกบริการ วันที่ เวลา และสถานที่ที่คุณต้องการให้ตรงกับความต้องการของคุณ
ยืนยันการจองของคุณ
เราจะยืนยันการจองของคุณภายใน 24 ชั่วโมงผ่านทาง LINE OA
ประเภทงานบริการ
พี่เลี้ยงเด็ก พี่เลี้ยงเด็กชั่วคราว รับเลี้ยงเด็กที่บ้านตัวเอง พี่เลี้ยงสองภาษา พี่เลี้ยงวันหยุดบริการในเมืองยอดนิยม
บางเขน บางกอกน้อย ป้อมปราบศัตรูพ่า พระนคร บางพลัด บางบอน พระโขนง ภาษีเจริญ คลองสามวา ตลิ่งชันสวัสดีค่ะ ชือ ภัทรค่ะ อายุ 52 ถนัดดูแลเด็กแรกคลอด คุณแม่หลังคลอดค่ะ นวดเด็กแรกเล็กได้ ช้วยให้เด็ก อารมณ์ดีไม่งอแง ช่วยระบบขับถ่าย เลือดลมไหลเวียนดี ร่างกายแข็งแรง.นวดประคบสมุนไพร คุณแม่หลังคลอดช่วยในการอยู่ไฟสมัยโบราณ ทำให้มดลูกเข้าอู่ไว้ ร่างกายแข็งแรง รับงานได้ทั้งในและต่างประเทศค่ะ รับดูแลทั้งคนไทยและต่างชาติ
ข้อมูลสถิติน่าสนใจเกี่ยวกับ
รีวิวล่าสุด
คำถามที่พบบ่อยสำหรับการค้นหา ดูแลเด็ก
1. พี่เลี้ยงเด็กต้องมีความอดทนสูง คุณพ่อคุณแม่ต้องมั่นใจว่าพี่เลี้ยงเด็กต้องมีความเข้าใจเด็ก สามารถรับมือกับสถานการณ์ต่าง ๆ ได้ดี และที่สำคัญที่สุดคือเป็นคนที่มีความอดทนสูง
2. พี่เลี้ยงเด็กควรรู้วิธีการปฐมพยาบาลเบื้องต้น ในกรณีเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดหรืออุบัติเหตุ พี่เลี้ยงต้องมีความรู้และทักษะการปฐมพยาบาลเบื้องต้น และสามารถช่วยเหลือเด็กได้ทันที เช่น เด็กที่อยู่ภายใต้การดูแลเกิดอุบัติเหตุหกล้ม มีแผลถลอก พี่เลี้ยงต้องรีบปฐมพยาบาลเบื้องต้นเพื่อไม่ให้เกิดการติดเชื้อของแผล เป็นต้น ดังนั้นคุณพ่อและคุณแม่ควรเลือกพี่เลี้ยงที่มีทักษะด้านการปฐมพยาบาลเบื้องต้นเพราะเป็นสิ่งจำเป็นมาก ๆ
3. พี่เลี้ยงเด็กควรมีทักษะการแก้ไขปัญหา พี่เลี้ยงจะต้องรู้วิธีการแก้ไขปัญหาเบื้องต้นได้โดยไม่จำเป็นต้องแจ้งผู้ว่าจ้างเสมอไปหากปัญหานั้นไม่ใช่ปัญหาที่ร้ายแรง
4. ทำอาหารเป็น ถือเป็นอีกหนึ่งทักษะที่พี่เลี้ยงเด็กจำเป็นต้องมี พี่เลี้ยงไม่ได้มีหน้าที่แค่ดูแลเด็กอย่างเดียวเท่านั้น แต่พี่เลี้ยงอาจจะต้องเตรียมอาหารให้เด็ก ๆ รับประทานในแต่ละมื้อด้วย หากอาหารอร่อยถูกปาก เด็กจะเจริญอาหารและอารมณ์ดี ที่สำคัญที่สุดที่พี่เลี้ยงต้องใส่ใจและจดจำด้วยว่าเด็ก ๆ ที่ดูแลนั้น แพ้อาหารอะไรบ้าง เพื่อป้องกันอุบัติเหตุที่อาจจะเกิดขึ้นจากการรับประทานสิ่งที่แพ้เข้าไป
5. มีความคิดสร้างสรรค์ในการส่งเสริมพัฒนาการเด็ก พี่เลี้ยงจะต้องเป็นคนที่มีความคิดสร้างสรรค์ สามารถร่วมทำกิจกรรมกับเด็ก ๆ ในระหว่างวัน ไม่ว่าจะเป็นทางด้านวิชาการหรือสันทนาการ เช่น พี่เลี้ยงเด็กอาจจะสอนเด็กนับเลข ฝึกการอ่าน หรือระบายสีเพื่อให้เด็กได้เรียนรู้ผ่านกิจกรรมที่สร้างสรรค์เหล่านี้
1. ความปลอดภัยของลูกน้อย สิ่งที่คุณพ่อคุณแม่เป็นกังวลมากที่สุดคือความปลอดภัย ไม่ว่าจะเกิดจากอุบัติเหตุหรือการกระทำรุนแรงของพี่เลี้ยงเด็ก คุณพ่อคุณแม่ต้องหมั่นสังเกตความเปลี่ยนแปลงของลูกน้อยทั้งทางร่างกายและพฤติกรรม ควรพูดคุย ซักถามเด็กอยู่เป็นประจำเกี่ยวกับกิจกรรมระหว่างวันที่ลูก ๆ ทำกับพี่เลี้ยง การติดตั้งกล้องวงจรปิดภายในบ้านเป็นอีกวิธีที่ทำให้คุณพ่อคุณแม่อุ่นใจขึ้น
2. ประสบการณ์การทำงาน บางครั้งพี่เลี้ยงเด็กอาจไม่ได้ให้ข้อเท็จจริงทั้งหมดเกี่ยวกับประสบการณ์ทำงานและความชำนาญของตน นอกจากการสัมภาษณ์พี่เลี้ยงเด็ก คุณพ่อคุณแม่อาจจะให้มีการทดลองงานสักระยะหนึ่งเพื่อดูว่าพี่เลี้ยงเด็กมีความชำนาญหรือสามารถทำงานได้ตามมอบหมายหรือไม่
3. พี่เลี้ยงเด็กหยิบฉวยทรัพย์สินในบ้าน หลายครั้งที่คุณพ่อคุณแม่เจอพี่เลี้ยงที่มีประสบการณ์แต่ยังกังวลว่าพี่เลี้ยงเด็กอาจพยายามขโมยสิ่งของมีค่าภายในบ้าน แนวทางป้องกันที่คุณพ่อคุณแม่ทำได้คือ ไม่วางสิ่งของมีค่าไว้ในที่เปิดเผย ล็อคลิ้นชักเก็บของและประตูห้องที่พี่เลี้ยงเด็กไม่จำเป็นต้องใช้ คุณพ่อคุณแม่อาจจะติดตั้งกล้องวงจรปิดไว้ภายในบ้านเพื่อช่วยเป็นหูเป็นตาได้อีกทาง
1. วันและเวลาทำงาน คุณพ่อและคุณแม่ควรมีแผนการทำงานของพี่เลี้ยงที่ชัดเจน เช่นกำหนดวันทำงาน วันหยุด และเวลาทำงานในแต่ละวันให้ชัดเจน และควรถามความสมัครใจหากต้องการให้พี่เลี้ยงทำงานล่วงเวลา
2. ขอบเขตหน้าที่และความรับผิดชอบ คุณพ่อคุณแม่ควรระบุขอบเขตหน้าที่และความรับผิดชอบของพี่เลี้ยงเด็กให้ชัดเจน หากต้องการให้พี่เลี้ยงทำงานบ้านหรืองานอื่น ๆ นอกจากดูแลเด็ก ควรตกลงกันให้ชัดเจนก่อนเริ่มงาน
3. ระยะเวลาการทดลองงาน หาดคุณพ่อคุณแม่ต้องการให้พี่เลี้ยงทดลองงานก่อนสักระยะหนึ่งก่อนทำสัญญาว่าจ้าง ควรระบุช่วงระยะเวลาและเงื่อนไขในการทดลองงานให้ชัดเจน
4. ค่าจ้าง คุณพ่อคุณแม่ควรสอบถามและตกลงค่าจ้างของพี่เลี้ยงให้ชัดเจน และค่าจ้างควรจะสอดคล้องกับหน้าที่ความรับผิดชอบ และจำนวนชั่วโมงทำงานในแต่ละวัน ประสบการณ์ในการทำงานอาจเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่คุณพ่อคุณแม่สามารถใช้ประกอบการพิจารณาอัตราค่าจ้างได้
5. กรณีจ้างพี่เลี้ยงประจำแบบพักอาศัยร่วม คุณพ่อคุณแม่ต้องจัดการเรื่องที่พักให้กับพี่เลี้ยง รวมถึงอาหารในแต่ละวันตามตกลงกัน
6. ข้อตกลงในการอยู่อาศัยร่วมกัน คุณพ่อคุณแม่ควรบอกกล่าวพี่เลี้ยงให้ชัดเจนถึงกฎระเบียบต่าง ๆ สิ่งใดไม่ควรปฏิบัติของการอาศัยอยู่ร่วมกัน
ทั้งหมดนี้คือสิ่งที่คุณพ่อและคุณแม่ควรพูดคุยตกลงกับพี่เลี้ยงเด็กให้ชัดเจนก่อนเริ่มงาน
ส่องเรื่องน่ารู้ในภาษีเจริญ
ชื่อของ เขตภาษีเจริญ มาจากชื่อของ คลองภาษีเจริญ เป็นคลองที่ขุดเชื่อมแม่น้ำท่าจีน (ที่ตำบลดอนไก่ดี อำเภอกระทุ่มแบน แขวงเมืองสมุทรสาคร) กับคลองบางกอกใหญ่ เพื่อใช้คลองเป็นเส้นทางในการเดินทาง โดยเฉพาะการทำค้าขายส่งอ้อยและน้ำตาลจากต่างจังหวัดเข้าสู่เมืองหลวง มีการเริ่มขุดตั้งแต่ปี พ.ศ. 2401 เสร็จในปี พ.ศ. 2415 ส่วนชื่อคลองนั้น เป็นการตั้งตามชื่อพระภาษีสมบัติบริบูรณ์ ผู้เป็นแม่กองดูแลงานขุดคลองนี้ ซึ่งต่อมาเป็น พระยาพิสณฑ์สมบัติบริบูรณ์ ต้นสกุลพิศลยบุตร และบรรพบุรุษของราชสกุลกิติยากร นับได้ว่า คลองภาษีเจริญ เป็นเส้นทางสำคัญในการติดต่อทำการค้าระหว่างชุมชนในอดีต
ปัจจุบันเขตภาษีเจริญ มีพื้นที่ทั้งสิ้น 17.834 ตารางกิโลเมตร เป็นหนึ่งในห้าสิบเขตของพื้นที่ในกรุงเทพมหานคร ตั้งอยู่ฝั่งธนบุรี บริเวณฝั่งตะวันตกของแม่น้ำเจ้าพระยา มีอาณาเขตติดต่อกับพื้นที่ เรียงตามเข็มนาฬิกา คือ ทิศเหนือ ติดกับเขตตลิ่งชัน ทิศตะวันออก ติดกับเขตบางกอกใหญ่และเขตธนบุรี ทิศใต้ ติดกับเขตจอมทองและเขตบางบอน ทิศตะวันตก ติดกับเขตบางแค มีคลองต่าง ๆ เป็นที่กั้นระหว่างเขต คือ คลองบางเชือกหนัง คลองบางกอกใหญ่ คลองด่าน คลองวัดนางชี (คลองวัดเพลง) คลองตาม่วง คลองวัดโคนอน (คลองวัดอ่างแก้ว) คลองบางหว้า คลองสวนหลวงใต้ คลองรางบัว คลองตาฉ่ำ คลองบางประทุน ลำรางสาธารณะ คลองวัดสิงห์ คลองบางโคลัดคลองพระยาราชมนตรี คลองบางแวก คลองบางไผ่ และคลองลัดตากลั่น มีการแบ่งเขตการปกครองเป็น 7 แขวง ได้แก่ แขวงบางหว้า แขวงบางด้วน แขวงบางจาก แขวงบางแวก แขวงคลองขวาง แขวงปากคลองภาษีเจริญ และแขวงคูหาสวรรค์ สภาพชุมชนทั่วไปมีลักษณะกึ่งชนบทกึ่งชุมชนเมือง อดีตเป็นชุมชนเกษตร แต่มีการขยาย พัฒนาเมืองตลอดเวลา โดยเฉพาะด้านการคมนาคม จึงเกิดการเปลี่ยนแปลงเป็นชุมชนเมืองในปัจจุบันนี้
การเดินทางในภาษีเจริญ
เขตภาษีเจริญ เริ่มเปลี่ยนสภาพสู่สังคมเมืองมากขึ้น โดยเฉพาะการเข้าถึงรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ที่เชื่อมต่อหัวลำโพงถึงบางแค ทำให้พื้นที่นี้กลายเป็นทำเลทองแหล่งใหม่ ดึงดูดให้กลุ่มนายทุนที่เห็นโอกาสนี้เพื่อเข้ามาแสวงหาผลกำไร มีการสร้างห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ ตึกคอนโดมิเนียมตามเส้นทางรถไฟฟ้าตั้งแต่รถไฟฟ้าสายนี้ยังอยู่ในขั้นตอนการก่อสร้าง และเปิดให้จับจองตั้งแต่เริ่มสร้างเพื่อรองรับผู้คนที่หลั่งไหลเข้ามา วิธีการเดินทางในเขตภาษีเจริญมีมากมายหลายวิธี เช่น
1) รถไฟฟ้า
1.1 รถไฟฟ้ามหานคร สายเฉลิมรัชมงคล หรือสายสีน้ำเงิน
-เป็นโครงการยกระดับตามแนวเกาะกลางถนนเพชรเกษม ต่อเนื่องมาจากเขตบางกอกใหญ่ ผ่านพื้นที่เขตภาษีเจริญ มุ่งหน้าไปทางทิศตะวันตกและเข้าสู่เขตบางแค ที่ถูกพัฒนาขยายต่อมาจาก ช่วงหัวลำโพง-บางแค
-สถานีที่เปิดให้บริการอยู่ในเขตภาษีเจริญในขณะนี้มี 4 สถานี โดยเป็นสถานียกระดับทั้งหมด ได้แก่ สถานีบางไผ่ สถานีบางหว้า สถานีเพชรเกษม 48 และ สถานีภาษีเจริญ
1.2 รถไฟฟ้าบีทีเอส สายสีลม
- เป็นโครงการส่วนต่อขยาย วงเวียนใหญ่-บางหว้า โดยเริ่มต้นเข้าสู่พื้นที่เขตภาษีเจริญจากเขตธนบุรี เป็นโครงการยกระดับตามแนวถนนราชพฤกษ์
- มีสถานีอยู่ในเขตภาษีเจริญ 1 สถานี คือ สถานีภาษีเจริญ และเป็นสถานีปลายทาง คือ สถานีบางหว้า
2) เรือโดยสารคลองภาษีเจริญ
เรียกอีกชื่อว่า ท่าเรือบางหว้า / ท่าเรือตากสิน–เพชรเกษม เป็นการให้บริการเรือด่วนในคลองภาษีเจริญ
3) รถเมล์
- สาย 7 สถานีรถไฟหัวลำโพง
- สาย 7ปอ AC ท่ารถสมุทรสาคร
- สาย 7ก พาหุรัด
- สาย 80 ซอยเพชรเกษม 77/7 หมู่บ้านเพชรเกษม1
- สาย 80ปอ AC สนามหลวง(ตรงข้ามวันมหาธาตุ)
- สาย 80ก สำนักงานบางกอกใหญ่
- สาย 84 BTS กรุงธนบุรี ทางออกที่3
- สาย 84ก บางยี่เรือ ขาเข้า
- สาย 81ปอ AC ท่าปล่อยรถสนามหลวง
- สาย 91ก ตรงข้ามหมู่บ้านพรทวีวิลล่า
- สาย 101 อู่บรมราชชนนี
- สาย 146 หมู่บ้านเปี่ยมรัก
กิจกรรมช่วงปิดเทอมของเด็ก
เด็กเสมือนผ้าขาว ที่ไม่ว่าพ่อ แม่ ผู้ปกครอง พี่เลี้ยง หรือ คนรอบข้าง เติมแต่งอะไรลงไป จะทำให้เด็กมีนิสัยคล้อยตามนั้น ดังนั้นผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการเลี้ยงดู จึงมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการเจริญเติบโตของเด็กแต่ละคน หากครอบครัวใดต้องการให้เด็กเติบโตมาเป็นผู้ใหญ่ที่ดี ทำประโยชน์ให้ครอบครัว ให้กับประเทศของชาติของตนในอนาคต ผู้ใหญ่ในวันนี้ ควรมอบและปลูกฝังในสิ่งที่ดีให้กับพวกเขา ในทางตรงกันข้ามเมื่อมองไปยังเด็กที่ไม่ได้รับการดูแลในหนทางที่ถูกที่ควร อาจทำให้เด็กเหล่านั้นมีปัญหา เป็นภาระกับครอบครัว และอาจนำไปสู่ภาระของชาติได้
เนื่องด้วยเด็กยุคสมัยนี้ เป็นเด็กยุคดิจิตอลที่เทคโนโลยีการสื่อสารเข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันเป็นอย่างมาก สังเกตได้จากสิ่งของเครื่องใช้รอบตัว เช่น ทีวี มือถือ คอมพิวเตอร์ ฯลฯ ที่เข้ามามีบทบาทและมีความจำเป็นต่อการใช้ชีวิตมากขึ้นทุกวัน ซึ่งเทคโนโลยีเหล่านี้มีทั้งคุณและโทษ หากเด็กไม่ได้รับการแนะนำให้ใช้ในทางที่ถูกวิธี อาจนำไปสู่เรื่องไม่ดีได้ โดยเฉพาะช่วงปิดเทอม ที่เป็นที่ชื่นชอบของเด็กหลายคน เพราะเป็นเวลาที่ได้พักจากการเรียนแบบยาวๆ หาก พ่อ แม่ ผู้ปกครอง ไม่อยากให้การปิดเทอมผ่านไปอย่างไร้ประโยชน์ ควรหากิจกรรมช่วงปิดเทอมให้เด็กทำ แทนการทิ้งเด็กให้ใช้ชีวิตกับมือถือ โทรทัศน์ เกมออนไลน์ ไปวัน ๆ
ตัวอย่างกิจกรรมช่วงปิดเทอมที่น่าสนใจ อาทิ
-กิจกรรมเข้า วัด ฟังธรรม หรือประกอบกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับศาสนาที่ตัวเองนับถือ
เป็นกิจกรรมที่ได้ฝึกสมาธิ ทำให้เด็กมีจิตใจสงบ ได้รับรู้บทคำสอน บาป บุญ คุณโทษ หากได้ร่วมกิจกรรมกับครอบครัว และบุคคลภายนอกด้วย ยิ่งทำให้เสริมสร้างความกล้าแสดงออกในการออกสังคม อีกทั้งทำให้เด็กจะมีความมั่นใจมากขึ้น
-กิจกรรมงานบ้าน การสอนงานบ้าน แบ่งงานบ้านเล็ก ๆ น้อย ๆ ให้เด็กทำ สามารถสอนเด็กให้มีความรับผิดชอบได้
-กิจกรรมเลี้ยงสัตว์ เช่น การเลี้ยงปลา แมว สุนัข ฯลฯ ช่วยให้เด็กมีความอ่อนโยน รับผิดชอบในสิ่งที่ตัวเองรัก ช่วยคลายความเหงา
-กิจกรรมปลูกต้นไม้ ทำสวนเล็ก ๆ เสมือนการได้ออกกำลังกายไปในตัว ได้เรียนรู้สิ่งรอบตัว ฝึกความรับผิดชอบ การแก้ไขปัญหา
SAIJAI "ใส่ใจ" เป็นเพียงแพลตฟอร์มที่ใช้สำหรับติดต่อสื่อสารระหว่างผู้ใช้บริการกับผู้ให้บริการดูแลเด็ก ดูแลผู้สูงอายุ ครูสอนพิเศษ/ติวเตอร์ แม่บ้าน/ทำความสะอาด คนขับรถ ดูแลสัตว์เลี้ยง เสริมสวย และช่างซ่อมบำรุงเท่านั้น "SAIJAI" ไม่ได้เป็นผู้ให้บริการหรือจ้างบุคคลใดให้บริการ ไม่มีสถานะเป็นนายจ้าง ผู้ว่าจ้าง ตัวแทน ผู้ร่วมทุน อย่างหนึ่งอย่างใดทั้งสิ้นของผู้ให้บริการ ผู้ให้บริการเป็นผู้รับจ้างอิสระ ซึ่งผู้รับบริการเป็นผู้ว่าจ้าง คุณภาพการให้บริการเป็นความรับผิดชอบทั้งสิ้นของผู้ให้บริการเอง การเรียกใช้บริการจากผู้ให้บริการ อาจมีความเสี่ยง ซึ่งผู้รับบริการรับทราบและยินดีใช้บริการ บนความเสี่ยงใด ๆ ในความรับผิดชอบของตัวท่านเอง