ดูแลเด็ก ใน ลาดพร้าว, กรุงเทพมหานคร

ดูแลเด็ก ใน ลาดพร้าว, กรุงเทพมหานคร

คุณต้องการใช้บริการนี้เมื่อไหร่?
ตอนนี้
ระบุวันที่

วิธีการทำงาน

Saijai

ติดต่อเรา

ติดต่อเราโดยตรงผ่าน LINE OA เพื่อจองบริการที่คุณต้องการ

Saijai

แจ้งรายละเอียดให้เราทราบ

เลือกบริการ วันที่ เวลา และสถานที่ที่คุณต้องการให้ตรงกับความต้องการของคุณ

Saijai

ยืนยันการจองของคุณ

เราจะยืนยันการจองของคุณภายใน 24 ชั่วโมงผ่านทาง LINE OA

เจนจิรา เจริญลาภ
เจนจิรา เจริญลาภ
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี

ดิฉันชื่อเจนค่ะ รักเด็ก มีความอดทนสูง มีบุตรมาแล้วเข้าใจการดูแลเด็กค่ะ สามารถพาเด็กทำกิจกรรมที่มีประโยชน์กับเด็กค่ะ ได้รับวัคซีนครบสองเข็มแล้วค่ะ ฝากคุณลูกค้าพิจารณาด้วยนะคะ😊

แสดงเพิ่มเติม
Thipsuda Pornsurat
Thipsuda Pornsurat
Saijai ประสบการณ์ 0-1 ปี

Helloo, My name is noon and i'm 27 years old. graduated from kasetsart university, i very love the kid from my background and just want to have a good experience, wanna play with your kid!! my personality is always smile, happy girl with a kindness. I have been in USA about 4 months and have experience to play with kid of my host.

สวัสดีค่ะ ชื่อนุ่น อายุ 27ปี จบป.ตรี มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เป็นคนรักเด็กมากๆและชอบเล่นกับเด็กๆ พื้นฐานเคยเลี้ยงน้องๆมา2คน และอยากมาหาประสบการณ์วันว่างเสาร์อาทิตย์

แสดงเพิ่มเติม
Narumon
Narumon
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี

จบหลักสูตร NA ฝึกงานที่โรงพยาบาลสุขุมวิทหลักสูตรดูแลเด็กตั้งแต่แรกเกิดและผู้สูงอายุเป็นผู้ช่วยเหลือคนไข้ เคยดูแลเด็กตามบ้านผู้ว่าจ้างและเลี้ยงที่บ้านตัวเอง

แสดงเพิ่มเติม
อาซียะห์  บินฮะเก็ต
อาซียะห์ บินฮะเก็ต
Saijai ประสบการณ์ 4-5 ปี
Saijai อายุ 31 ปี
ผ่านการตรวจสอบประวัติบุคคล

ฉีดวัคซีนครบ 3 เข็มแล้วค่ะ เป็นคนอัธยาศัยดี ร่าเริง ใจเย็น รักเด็ก พูดคุยและเสริมพัฒนาการเด็กได้ดี มีประสบการณ์เลี้ยงเด็กทั้งแรกเกิดและเด็กโต 5ปี ใส่ใจและมีความรับผิดชอบต่อหน้าที่ และปรับตัวเข้ากับผู้คนได้ง่าย ซื่อสัตย์

แสดงเพิ่มเติม

คุณแม่มี passion ในการดูแลเด็ก และชอบเล่นกับเด็กๆมาก มีความสุขทุกครั้งที่ได้ใช้เวลากับเด็กๆ ด้วยประสบการณ์เลี้ยงลูกคนเดียวกว่า 10 ปี" - ปลอดภัย ไว้ใจได้ มีที่อยู่แน่นอน (ยินดีมอบสำเนาบัตรประชาชนและสำเนาทะเบียนบ้านให้แก่ผู้ว่าจ้าง)- สามารถสอนทำการบ้านทุกวิชา (กรณีหลักสูตรอินเตอร์อาจจะไม่ 100% นะคะ)- สามารถ request activities ได้ เช่น สอนอ่าน-เขียน ตีแบด ขี่จักรยาน เย็บปัก เป็นต้น- ให้คำปรึกษา วางแผนในการเลี้ยงดูได้- พาออกไปเที่ยวนอกสถานที่ (เบิกค่าใช้จ่ายตามจริง + ค่าเดินทาง) เช่น Haborland ดูหนัง เป็นต้น- ทำอาหาร และล้างจาน- ซื้อของใช้เข้าบ้าน (เบิกราคาตามจริง + ค่าเดินทาง) ส่วนเพิ่มเติม- เปลี่ยนผ้าปูที่นอน 100 บาท/ห้อง- กวาดถูบ้าน 400 บาท/ครั้ง (ไม่รวมล้างห้องน้ำ)- ซัก ตาก พับผ้า 200 บาท/ครั้ง

แสดงเพิ่มเติม
พัชรี   อ่อนศรี
พัชรี อ่อนศรี
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี
ผ่านการตรวจสอบประวัติบุคคล

สวัสดีค่ะ พี่ชื่อ พัชรี อ่อนศรีค่ะ

เคยผ่านการทำงานเลี้ยงเด็กมา10ปีค่ะตั้งแต่แรกเกิดถึงเข้าโรงเรียนค่ะพี่ดูแลทุกอย่างเกี่ยวกับเด็กค่ะ

ช่วยส่งเสริมพัฒนาการเด็กแต่ระช่วงวัยดูแลความปลอดภัยขั้นสูงสุดในแต่ระช่วงวัยค่ะ

ทำอาหารได้ทุกช่วงวัยของเด็กค่ะเน้นความสะอาด ใจเย็น มีสติในการทำงานตลอดเวลาค่ะ

เลี้ยงเด็กตามความประสงของพ่อและแม่ค่ะแต่ระบ้านจะมีวิธีการเลี้ยงแตกต่างกันค่ะ ใส่ใจรายระเอียดทุกอย่างค่ะ ขอบคุณมากๆๆค่ะ

แสดงเพิ่มเติม
สายใจ ชื่นทรวง
สายใจ ชื่นทรวง
Saijai ประสบการณ์ 0-1 ปี

เป็นคนใจเย็นชอบเด็ก

ทำอาหารเป็นนิดหน่อยคะ

แสดงเพิ่มเติม
กัญญารัตน์  สาธรณ์
กัญญารัตน์ สาธรณ์
Saijai ประสบการณ์ 1-2 ปี

ดิฉันชื่อหวาน ค่ะรักเด็กชอบอยู่กับเด็ก มีความอดทนสูงเป็นคนใจเย็นค่ะ มีประสบการการทำงานcall center มา2ปี6เดือนค่ะวันหยุดมีสอนพิเศษวิชาสังคมภาษาไทยให้เด็กอนุบาลกับน้องวัยประถม เคยเลี้ยงหลานมา3ปี สามารถสอนหนังสือเพิ่มเติมให้น้องได้ค่ะหากทางผู้ปกครองของน้องต้องการ

แสดงเพิ่มเติม
พิมพ์พิชญา แสนลุน
พิมพ์พิชญา แสนลุน
Saijai ประสบการณ์ 3-4 ปี
Saijai อายุ 20 ปี

ยิ้มเก่ง มีมารยาท รักเด็ก

แสดงเพิ่มเติม
พิกุลทอง  รังวิจี
พิกุลทอง รังวิจี
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี
Saijai อายุ 54 ปี
ผ่านการตรวจสอบประวัติบุคคล

มีประสบการณ์เป็นครูศูนย์ 8 ปี พี่เลี้ยงเสริมพัฒนาการเด็ก แถวๆ หมู่บ้าน ดูแลเด็ก 2 ขวบขึ้น

แสดงเพิ่มเติม
กมลดา แย้มปัญญา
กมลดา แย้มปัญญา
Saijai ประสบการณ์ 1-2 ปี

เป็นคนอ่อนน้อม อัธยาศัยดี เรียบร้อย ตั้งใจทำงาน ตรงต่อเวลา มีความรับผิดชอบต่องานที่ได้รับมอบหมาย

แสดงเพิ่มเติม
ปราณี  ต่วนลา
ปราณี ต่วนลา
Saijai ประสบการณ์ 3-4 ปี
ผ่านการตรวจสอบประวัติบุคคล

ดูแลได้ตั้งแต่แรกเกิด - 10 ขวบ - ดูแลเด็กต่างชาติ มาเลย์ ดูไบ ออสเตรเลีย

ประมาณ 2 ปี กว่า ทำงานที่นี่ เพราะ อยากใช้เวลาว่าง สร้างรายได้เสริมคะ.

-อุปนิสัย

มองโลก เชิงบวก,ใจเย็น,พร้อมเรียนรู้ สิ่งใหม่ๆ

-สามารถ ว่ายน้ำ,ทำอาหาร,ขับรถมอเตอร์ไซค์,ขับรถยนต์ มีใบขับขี่.

แสดงเพิ่มเติม
Nisachon Chuaykhun
Nisachon Chuaykhun
Saijai ประสบการณ์ 1-2 ปี
ผ่านการตรวจสอบประวัติบุคคล

1.ชื่อ-นามสกุล (ไทย) : นิศาชล ช่วยขุน(อังกฤษ) : nisachon chuaykhunสถานะ : โสด2.อายุ : 31 3.ตำแหน่งงานที่สมัคร : ครูผู้ช่วย พี่เลี้ยงเด็กส่วนสูง : 165 ซ.มน้ำหนัก : 44ก.ก.ไม่มีรอยสักไม่ใส่เหล็กดัดฟันไม่สูบบุหรี่กินเหล้านิสัยส่วนตัว ใจดีมีเมตตาชอบเด็กๆเป็นอย่างมาก เรียบร้อย พูดเพราะไม่พูดคำหยาบ ชอบดูแลคนอื่น ชอบให้คำปรึกษา ชอบให้แรงจูงใจให้ความรักพร้อมความรู้พร้อมกัน ชีวิตและการทำงานทุกทางผูกพันธ์กับเด็ก เป็นพี่สาวคนโตเลี้ยงๆน้องที่บ้านเกิด ขยันชอบเอนเตอร์เทรน ประวิติการทำงานสายอีเว้นท์ช่วงว่างงานหรือวันหยุด-MC โฟนของเล่นเด็ก บ.คิดส์โด-MC โฟนงานวัคซีน ม.ไทย-ญี่ปุ่น- Staff แจกใบปลิว งานโบกป้าย เอกตร้า-ครูสอนเสริม สอนการบ้านบ้านเด็กกำพร้างานประจำที่เคยผ่าน-ฝึกงาน สถาบันคอม ม.ราม-พี่เลี้ยงสถานสงเคราะห์ บ.มหาเมฆ กรมเด็ก-ปัจจุบัน ครูผู้ช่วยโรงเรียนเด็กก่อนเรียนรามคำแหง 7.ระดับการศึกษา :ป.ตรี คณะมนุษยศาสตร์ ม.รามคำแหง8.ความสามารถพิเศษ : ร้องเพลงลูกทุ่ง โฟนMC เต้น นำกิจกรรมเอนเตอร์เทน9.สื่อสารภาษาอังกฤษ : พอได้บ้าง10.รอยสัก : ไม่มี11. ที่อยู่ : รามคำแหงมหาดไทย12. สถานะการฉีดวัคซีนโควิด : ฉีดแล้ว2เข็ม

แสดงเพิ่มเติม
ศิตอร  ภูสุวรรณ
ศิตอร ภูสุวรรณ
ผ่านการตรวจสอบประวัติบุคคล

มีประสบการณ์พี่เลี้ยงเด็ก เคยดูแลเด็กตั้งแต่แรกเกิดจนอายุ 8 ขวบค่ะ ชงนม ป้อนข้าว อาบน้ำ ดูแลทั่วไปค่ะ

แสดงเพิ่มเติม

ชื่อหนิงค่ะ ได้รับวัคซีนครบ 2 เข็ม ทำงานสอนดนตรี(กีตาร์คลาสสิก) สอนตั้งแต่เด็กจนถึงผู้ใหญ่ รวมถึงสอนเด็กที่มีความพิเศษ(ออทิสติกด้วยค่ะ) มีกิจกรรมที่ทำกับเด็กอยู่เรื่อยๆค่ะ รักเด็ก ชอบอยู่กับเด็กๆค่ะ

แสดงเพิ่มเติม
สุนีย์  กอศรีสกุล
สุนีย์ กอศรีสกุล
Saijai ประสบการณ์ 2-3 ปี
Saijai อายุ 53 ปี
ผ่านการตรวจสอบประวัติบุคคล

Hi my name is Sunee. I have an experince of babysitting for more than 2 years as well as raising my own kids. I was an exchange student and stay with a family in Canada in 1988. After graduated bechalor degree from Ramkhamhang University, I worked as a Thai Language Tutor for foreigners. I can communicate in English.

แสดงเพิ่มเติม

รู้หน้าที่ตัวเอง รับผิดชอบในงานตัวเองได้ดี เป็นคนตลก ร่าเริง สดใส ชอบเล่นกับเด็กๆ ขยันทำงาน แก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้

แสดงเพิ่มเติม
บุศรินทร์ พลอยศุภผล
บุศรินทร์ พลอยศุภผล
Saijai ประสบการณ์ 1-2 ปี
Saijai อายุ 36 ปี
Beya Ruangdech
Beya Ruangdech
Saijai ประสบการณ์ 0-1 ปี

สามารถเล่นกับเด็ก ๆ เสริมพัฒนาการทุก ๆ ด้าน

แสดงเพิ่มเติม
ผกากาญจน์  รื่นอุรา
ผกากาญจน์ รื่นอุรา
Saijai ประสบการณ์ 0-1 ปี
Saijai อายุ 49 ปี

มีประสบการณ์พี่เลี้ยงมา 1 ปี ค่ะ ดูแลเด็กได้ทุกวัย ตั้งแต่ 6 เดือน

แสดงเพิ่มเติม

ข้อมูลสถิติน่าสนใจเกี่ยวกับ

Saijai จำนวนประชากร
Saijai จำนวนประชากรเด็ก (แรกเกิด-14 ปี)
Saijai จำนวนประชากรสูงอายุ (60 ปี ขึ้นไป)
Saijai จำนวนสัตว์เลี้ยง สุนัข

รีวิวล่าสุด

ดิฉันเป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวค่ะ ทำงานทุกวัน ไม่มีเวลาดูแลลูก บางครั้งต้องเอาไปฝากญาติ ๆ แต่ตอนนี้เลยตัดสินใจจ้างพี่เลี้ยงเด็กของทางใส่ใจ ตอนแรกก็ไม่รู้เลยค่ะว่ามีขั้นตอนในการจ้างพี่เลี้ยงเด็กอย่างไรบ้าง เลยติดต่อเบอร์ของทางใส่ใจไป อยากจะบอกว่าประทับใจการให้บริการมาก ๆ ค่ะ ทางใส่ใจให้ข้อมูลทุกอย่างครบถ้วนตามที่เราต้องการอยากทราบ ประทับใจจริง ๆ ค่ะ
Saijai
ปารีณา ภักดีดำรงค์ศักดิ์
4 ปีที่แล้ว
เปลี่ยนพี่เลี้ยงเด็กมาหลายคน ส่วนมากราคาสูง ๆ ทั้งนั้น แต่อยู่ไม่ได้นานก็ลาออก ลองจองพี่เลี้ยงผ่านเวปใส่ใจ เยี่ยมมากเลยครับ แฟนสบายใจ หมดปัญหา ไม่ต้องจ้างพี่เลี้ยงราคาแพง ได้ราคาแบบสมเหตุสมผล แถมมีคุณภาพครับ
Saijai
จิตวัชร จันประทีป
4 ปีที่แล้ว
ลูกยังเล็กเราจ้างพี่เลี้ยงมา ตกลงเวลาเริ่มงาน 9.30-17.30 น. (พี่เลี้ยงมา 8.30 น. ทุกวัน ) ประสบการณ์ เคยดูแล เด็กเล็ก 4 เดือน – 2 ขวบ พอเด็กเข้าโรงเรียน ก็ว่าง พอดีที่บ้านช่วยกันหา เจอเว็บนี้เห็นรีวิวประสบการณ์คนเลี้ยงเลย คุยดู พี่เลี้ยงทำงานดีมาก่อนเวลา เตรียมของใช้ ทำงานเป็นระเบียบเหมือนอบรมมาดี อุ่นใจ คิดถูกที่ใช้บริการใส่ใจ แนะนำค่ะ
Saijai
ณัฐวรรณ แสงสีเงิน
4 ปีที่แล้ว
เป็นครั้งแรกที่เลือกใช้บริการพี่เลี้ยงเด็กในเว็บใส่ใจ ตอนแรกคิดว่าจะยุ่งยากในจอง แต่พอเข้าไปในเว็บไซต์ เว็บไซต์ใช้งานง่ายมาก ๆ มีความสะดวกในการใช้งาน อีกทั้งยังมี Guideline ให้อีกด้วย และขั้นตอนการนัดสัมภาษณ์พี่เลี้ยงเด็กก็ไม่ยุ่งยากอย่างที่คิดเพราะมีตัวเลือกให้เลือกด้วยว่าเราสะดวกสัมภาษณ์ทางไหน เหมาะแก่คนที่ไม่มีเวลาอย่างเราจริง ๆ
Saijai
สุริยา ดำรงรักษ์
4 ปีที่แล้ว
เมื่อก่อนไม่กล้าจ้างพี่เลี้ยงเด็ก แต่ลองจ้างผ่านทางใส่ใจดู พี่เลี้ยงทำงานได้น่าพอใจมาก ๆ พูดเพราะมาก จนลูกเราติดคำพูดเลยค่ะ ราคาก็ที่ไม่สูงเกินไป จับต้องได้สำหรับคนที่มีรายได้ไม่เยอะอย่ามากต่อเดือน คุณแม่คนไหนอยากหาพี่เลี้ยงเด็ก แนะนำเลยค่ะ
Saijai
ชื่นนภา วัฒนพันธ์
4 ปีที่แล้ว

คำถามที่พบบ่อยสำหรับการค้นหา ดูแลเด็ก

หากคุณพ่อคุณแม่ต้องทำงานนอกบ้านและไม่มีเวลาเลี้ยงลูกเอง ลองเปรียบเทียบกันระหว่างส่งลูกไปเนอสเซอรี่และจ้างพี่เลี้ยงเด็กมาดูแลลูกที่บ้าน อะไรจะตรงใจคุณพ่อคุณแม่มากที่สุด
บริการรับเลี้ยงเด็กในปัจจุบันมีหลายทางเลือก ไม่ว่าจะเป็นพี่เลี้ยงเด็ก หรือเนอสเซอรี่ เรามาดูข้อดีข้อเสียกันเลยค่ะ

ข้อดีของพี่เลี้ยงเด็กที่บ้านมีดังนี้

1) พี่เลี้ยงสามารถดูแลลูกน้อยของคุณได้อย่างใกล้ชิด ลูกของคุณจะได้รับความเอาใจใส่ที่ส่งผลต่อพัฒนาการเด็กทางด้านอารมณ์
2) พี่เลี้ยงสามารถช่วยส่งเสริมพัฒนาการเด็กผ่านการทำกิจกรรมต่าง
3) พ่อแม่ประหยัดเวลามากขึ้น หากจ้างพี่เลี้ยงมาดูแลที่บ้าน
4) เด็กจะไม่ป่วยบ่อย เนื่องจากเด็กจะอยู่ในบ้านของตนเอง

ข้อดีของเนอสเซอรี่

1) เด็ก ๆ จะรู้จักการเข้าสังคม
2) เนอสเซอรี่มีบริเวณกว้างเพื่อให้เด็กได้ทำกิจกรรมหลากหลายรูปแบบ
3) เด็กจะได้ฝึกดูแลตัวเอง เพราะครูพี่เลี้ยงไม่ได้ดูแลเด็กแบบใกล้ชิด

ข้อเสียของพี่เลี้ยง

1) ค่าใช้จ่ายอาจจะสูงกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับเข้าศูนย์เนอสเซอรี่
2) เด็กอาจจะติดพี่เลี้ยงเกินไป
3) ลดความเป็นส่วนตัวของครอบครัว

ข้อเสียของเนอสเซอรี่

1) เด็กป่วยบ่อยเพราะมีภูมิคุ้มกันที่น้อยเนื่องจากอยู่กับเด็กหลายคน
2) ลูกจะไม่ได้รับการดูแลใกล้ชิดแบบตัวต่อตัวอาจส่งผลถึงอารมณ์ของเด็กได้
3) เด็กจะอยู่ห่างไกลจากพ่อแม่

หากคุณพ่อคุณแม่กำลังมองหาบริการพี่เลี้ยงเด็ก ใส่ใจมีบริการพี่เลี้ยงมืออาชีพที่พร้อมจะให้บริการคุณค่ะ
ทักษะสำคัญที่พี่เลี้ยงเด็กควรมีคืออะไร
6 ทักษะสำคัญที่พี่เลี้ยงเด็กควรมี

1. ความรู้ด้านการส่งเสริมพัฒนาการ การส่งเสริมพัฒนาการทำได้ทั้งผ่านการเล่นและการทำกิจวัตรประจำวัน พี่เลี้ยงเด็กที่ดีควรหากิจกรรมเพื่อให้เด็กมีส่วนร่วมและช่วยเหลือตัวเองได้ตามวัยที่เหมาะสม
2. ความอดทนและใจรักเด็ก เด็กแต่ละคนมีความแตกต่างกันทั้งลักษณะนิสัย อารมณ์และการแสดงออก บางคนว่านอนสอนง่าย บางคนชอบเล่นซนทั้งวัน หรือบางคนงอแง พี่เลี้ยงเด็กที่ดีควรมีใจรักเด็กเป็นพื้นฐาน พร้อมทำความเข้าใจและมีความอดทน พยายามหาวิธีที่ทำให้เด็กรู้สึกวางใจ ปลอดภัย และยอมเชื่อฟังพี่เลี้ยงในที่สุด
3. ความรู้ด้านการปฐมพยาบาลเบื้องต้นและรู้เบอร์โทรศัพท์ในกรณีฉุกเฉิน ถ้าเด็กหกล้มมีแผลถลอกพี่เลี้ยงเด็กต้องรู้ว่าจะจัดการกับแผลถลอกอย่างไร ในกรณีฉุกเฉินพี่เลี้ยงเด็กต้องสามารถติดต่อหน่วยงานที่ให้ความช่วยเหลือได้
4. ทักษะการสื่อสาร เด็กมีความแตกต่างกันในแต่ละช่วงอายุ พี่เลี้ยงเด็กต้องเข้าใจการสื่อสารกับเด็ก เช่น เข้าใจภาษากายของทารก การสื่อสารของเด็กเล็ก สำหรับเด็กที่สามารถสื่อสารด้วยทำพูดได้แล้ว พี่เลี้ยงเด็กต้องพูดคุยเพื่อให้เด็กเชื่อฟังโดยไม่ใช้การบังคับและให้เด็กรู้สึกสบายใจ
5. ทักษะการแก้ปัญหา หากไม่ใช่เรื่องที่ร้ายแรงพี่เลี้ยงเด็กต้องรู้วิธีแก้ปัญหาหรือสถานการณ์ตรงหน้าตามสมควรโดยไม่จำเป็นต้องรายงานหรือรอให้คุณพ่อคุณแม่ตัดสินใจทุกครั้ง
6. ความคิดสร้างสรรค์ คงไม่ดีแน่หากพี่เลี้ยงเด็กดูแลเด็กด้วยการให้เด็กดูสมาร์ทโฟนเป็นชั่วโมง พี่เลี้ยงเด็กที่ดีควรมีความคิดสร้างสรรค์เล่นกับเด็กเพื่อให้เด็กเพลิดเพลินได้นานหลายชั่วโมงและให้เด็กได้พักผ่อนตามเวลา

ทั้งหมดนี้คือคุณสมบัติและทักษะที่ดีที่คุณพ่อและคุณแม่ควรมองหาในตัวพี่เลี้ยงเด็กที่คุณเลือกมาเพื่อดูแลลูกน้อยของคุณค่ะ
ควรทำอย่างไรเพื่อคลายความกังวลเมื่อคุณพ่อคุณแม่ต้องปล่อยให้ลูกอยู่ตามลำพังกับพี่เลี้ยง
ไม่ใช่เรื่องง่ายที่สำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่จะไว้วางใจให้ลูก ๆ ของคุณอยู่ในความดูแลพี่เลี้ยงเด็ก แม้ว่าจะเป็นเวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมงก็ตามเด็กอาจเกิดความรู้สึกวิตกกังวลเมื่อต้องแยกจากคุณพ่อคุณแม่ ใส่ใจมีวิธีการที่จะช่วยลดความกังวลของทั้งคุณพ่อคุณแม่และลูกได้ดังนี้ค่ะ

1. คุณพ่อคุณแม่ควรพูดคุยและทำความเข้าใจกับเด็ก ถึงความจำเป็นที่ต้องให้เด็กๆ อยู่กับพี่เลี้ยง ให้ความมั่นใจกับเด็กว่าคุณพ่อคุณแม่หาคนที่สามารถดูแลพวกเขาได้ดี
2. คุณพ่อคุณแม่ควรหาพี่เลี้ยงที่เข้ากันได้กับลูก ๆ และมีความพร้อมในการดูแลเด็ก
3. แนะนำให้ลูก ๆ ทำความรู้จักกับพี่เลี้ยง โดยอาจจะเล่าให้ฟังว่าพี่เลี้ยงเห็นใคร ชื่ออะไร คุยกับพี่ผ่านทางวิดีโอคอลก่อนวันเริ่มงานจริง เพื่อนลดความตึงเครียดในการเจอกันครั้งแรก
4. คุณพ่อคุณแม่ควรบันทึกเบอร์โทรศัพท์ของตัวเอง เบอร์โทรฉุกเฉิน และสอนให้ลูกใช้โทรศัพท์เพื่อโทรหาคุณพ่อคุณแม่ได้ หรือโทรขอความช่วยเหลือได้ในกรณีฉุกเฉิน
5. มอบหมายงานบ้านเล็ก ๆ น้อย ๆ ให้เด็ก ๆ ทำระหว่างวัน เพื่อที่เด็ก ๆ จะได้มีกิจกรรมเบนความสนใจและไม่เอาแต่จดจ่อรอเวลาคุณพ่อคุณแม่กลับบ้าน
6. เมื่อถึงเวลาที่คุณพ่อคุณแม่ต้องออกจากบ้านและต้องให้เด็ก ๆ อยู่กับพี่เลี้ยงเด็ก คุณพ่อคุณแม่ควรให้ความมั่นใจกับเด็ก ๆ ว่าพี่เลี้ยงจะดูแลเด็ก ๆ เป็นอย่างดีและย้ำว่าพวกเขาสามารถโทรหาคุณได้เสมอ
ข้อตกลงสำคัญที่พ่อแม่ควรตกลงกับพี่เลี้ยงเด็กก่อนเริ่มงานมีอะไรบ้าง?
สัญญาหรือข้อตกลงในการทำงานเป็นสิ่งที่คุณพ่อคุณแม่และพี่เลี้ยงเด็กต้องตกลงร่วมกันเพื่อความเข้าใจที่ตรงกันในขอบเขตการทำงานและค่าตอบแทน การทำสัญญาเป็นลายลักษณ์อักษรอาจจะไม่จำเป็นเสมอไป แต่การร่างหรือการบันทึกรายการช่วยให้ทั้งสองฝ่ายจดจำรายละเอียดต่าง ๆ ได้ง่ายขึ้น มีอะไรบ้างที่คุณพ่อคุณแม่และพี่เลี้ยงเด็กควรตกลงกันก่อนเริ่มงาน

1. วันเริ่มงาน ควรมีวันเริ่มงานให้ชัดเจนเพื่อประโยชน์และไม่เป็นการเสียเวลาของทั้งคุณพ่อคุณแม่และพี่เลี้ยงเด็ก
2. ชั่วโมงการทำงานและวันหยุด ตกลงเรื่องเวลาทำงาน จำนวนชั่วโมงการทำงานในแต่ละวันและวันหยุด เพื่อให้ตารางการทำงานของพี่เลี้ยงเด็กสอดคล้องกับเวลาทำงานของพ่อคุณแม่มากที่สุด และทั้งสองฝ่ายควรรักษาเวลา
3. ขอบเขตหน้าที่และความรับผิดชอบ กำหนดความรับผิดชอบของพี่เลี้ยงเด็กให้ชัดเจน
4. ค่าแรงและกำหนดการจ่าย ค่าแรงของพี่เลี้ยงเด็กอาจขึ้นอยู่กับลักษณะการทำงาน เช่นพี่เลี้ยงเด็กรายชั่วโมง รายวัน รายสัปดาห์และรายเดือน ซึ่งกำหนดการจ่ายเงินอาจจะแตกต่างกันไปตามลักษณะการทำงานนี้ด้วย
5. ค่าแรงในกรณีทำงานล่วงเวลา หากคุณพ่อคุณแม่ต้องการให้พี่เลี้ยงเด็กทำงานล่วงเวลา ควรสอบถามความสมัครใจของพี่เลี้ยงและตกลงกันให้ชัดเจนเรื่องค่าแรง
6. การโพสต์รูปหรือข้อความเกี่ยวกับเด็กลงสื่อออนไลน์ (Social Medias) คุณพ่อคุณแม่คงไม่อยากให้มีรูปภาพ หรือข้อความเกี่ยวกับลูก ๆ ถูกโพสต์ลงในโซเชียลมีเดีย เช่น เฟสบุ๊ค หรืออินสตาแกรม โดยไม่ได้รับอนุญาต ดังนั้นคุณพ่อคุณแม่ควรทำความตกลงกับพี่เลี้ยงเด็กในเรื่องนี้ด้วย
ทั้งหมดนี้คือสิ่งที่คุณพ่อและคุณแม่ควรพูดคุยตกลงกับพี่เลี้ยงเด็กให้ชัดเจนก่อนเริ่มงาน

หน้าของพี่เลี้ยงเด็กคืออะไร

พี่เลี้ยงเป็นผู้ให้บริการดูแลเด็กในบ้านที่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับเด็กและครอบครัวที่พวกเขาทำงานให้ แม้ว่าศูนย์รับเลี้ยงเด็กจะให้บริการดูแลเด็กในบางช่วงเวลาของวันเท่านั้น แต่พี่เลี้ยงมักจะอาศัยความช่วยเหลือเพิ่มเติมซึ่งมีบทบาทสำคัญในชีวิตของเด็กที่พวกเขาดูแล พี่เลี้ยงเป็นมากกว่าคนดูแลเด็ก พวกเขามักจะทำหน้าที่เป็นพ่อครัวและแม่บ้านส่วนตัว ด้วยเหตุนี้ พวกเขาจึงได้รับค่าตอบแทนเป็นอย่างดีและได้รับสภาพความเป็นอยู่ที่ดีเป็นการตอบแทนสำหรับการทำงานหนักของพวกเขา

หลายคนสามารถเป็นพี่เลี้ยงครอบครัวได้โดยไม่ต้องมีการฝึกอบรมทางวิชาชีพ แต่บ่อยครั้งที่บริษัทและบริการที่รับเลี้ยงเด็กจากภายนอกต้องการให้พนักงานของตนมีหนังสือรับรองการดูแลเด็ก การเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการดูแลเด็กอาจเป็นโอกาสการจ้างงานที่คุ้มค่าสำหรับบุคคลใดก็ตามที่มีที่ในใจสำหรับเด็กพี่เลี้ยงควรเป็นบุคคลที่มีความรักต่อเด็กและปรารถนาที่จะดูแลเด็กภายใต้การดูแลของพวกเขาเติบโตและเติบโตในสภาพแวดล้อมที่หล่อเลี้ยง พี่เลี้ยงควรเต็มใจทำกิจกรรมในบ้านที่เกี่ยวข้องกับเด็ก เช่น ทำความสะอาดห้อง ซักผ้า ให้ความบันเทิง อบรมสั่งสอนพวกเขา สอนมารยาทและดูแลพวกเขาเมื่อป่วยหรืออารมณ์ไม่ดี พี่เลี้ยงทำงานเป็นหุ้นส่วนกับพ่อแม่เพื่อช่วยเลี้ยงลูกให้มีความรับผิดชอบและมีความสามารถ

พี่เลี้ยงหลายคนอาศัยอยู่ในบ้านของครอบครัวเพื่อให้พวกเขาสามารถดูแลเด็กหรือเด็กเมื่อจำเป็น พี่เลี้ยงอาจต้องรับผิดชอบในการดูแลผู้อยู่ในอุปการะแม้ว่าพ่อแม่จะอยู่บ้านก็ตาม พี่เลี้ยงบางคนได้รับการว่าจ้างให้ดูแลเด็กในขณะที่พ่อแม่ทำงานจากที่บ้าน สิ่งนี้ทำให้ผู้ปกครองมีเวลาทำงานสำคัญให้เสร็จลุล่วงโดยที่ยังมีบ้านอยู่ ขณะที่อีกคนหนึ่งให้ความใส่ใจอย่างใกล้ชิดและเอาใจใส่ต่อเด็ก ๆ และสิ่งอื่น ๆ ที่ต้องดูแลรอบ ๆ บ้าน

พ่อแม่บางคนจ้างพี่เลี้ยงที่ได้รับการรับรองให้สอนลูก ทำให้พวกเขามีโอกาสเรียนรู้ขั้นสูงแทนที่จะนั่งเด็ก เป้าหมายสูงสุดของพี่เลี้ยงที่ดีคือการให้การดูแลที่ดีกับเด็กในขณะที่พวกเขาอยู่ภายใต้การดูแลของพวกเขา

สถานที่ทำงานของพี่เลี้ยงจะแตกต่างกันไปในแต่ละครอบครัวที่พวกเขาทำงานด้วย บรรยากาศในที่ทำงานเปลี่ยนไปขึ้นอยู่กับจำนวนเด็กที่ต้องดูแล ความต้องการที่เด็กมี หน้าที่ (นอกเหนือจากการดูแลเด็ก) ที่คาดว่าจะทำ และชั่วโมงที่คาดว่าจะทำงาน เป็นต้น

พี่เลี้ยงหลายคนอาศัยอยู่ในบ้านของครอบครัวในฐานะสมาชิกหรือครอบครัวขยาย ครอบครัวมักต้องการจ้างพี่เลี้ยงที่เป็นสมาชิกในครัวเรือนอย่างสม่ำเสมอจนกว่าเด็กจะอายุครบกำหนด พี่เลี้ยงต้องมีความคิดแบบทีม ทำงานเคียงข้างครอบครัวในฐานะสมาชิกในทีมเพื่อให้แน่ใจว่าเด็ก ๆ จะได้รับการเลี้ยงดูและดูแลที่ดีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้พี่เลี้ยงเป็นผู้ให้บริการดูแลเด็กในบ้านที่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับเด็กและครอบครัวที่พวกเขาทำงานให้ แม้ว่าศูนย์รับเลี้ยงเด็กจะให้บริการดูแลเด็กในบางช่วงเวลาของวันเท่านั้น แต่พี่เลี้ยงมักจะมีบทบาทสำคัญในชีวิตของเด็กที่พวกเขาดูแล พี่เลี้ยงเป็นมากกว่าคนดูแลเด็ก พวกเขามักจะทำหน้าที่เป็นพ่อครัวและแม่บ้านส่วนตัว ด้วยเหตุนี้ พวกเขาจึงได้รับค่าตอบแทนเป็นอย่างดีและได้รับสภาพความเป็นอยู่ที่ดีเป็นการตอบแทนสำหรับการทำงานหนักของพวกเขา

หลายคนสามารถเป็นพี่เลี้ยงครอบครัวได้โดยไม่ต้องมีการฝึกอบรมทางวิชาชีพ แต่บ่อยครั้งที่บริษัทและบริการที่รับเลี้ยงเด็กจากภายนอกต้องการให้พนักงานของตนมีหนังสือรับรองการดูแลเด็ก การเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการดูแลเด็กอาจเป็นโอกาสการจ้างงานที่คุ้มค่าสำหรับบุคคลใดก็ตามที่มีที่ในใจสำหรับเด็กพี่เลี้ยงควรเป็นบุคคลที่มีความรักต่อเด็กและปรารถนาที่จะดูแลเด็กภายใต้การดูแลของพวกเขาเติบโตและเติบโตในสภาพแวดล้อมที่ดี พี่เลี้ยงควรเต็มใจทำกิจกรรมในบ้านที่เกี่ยวข้องกับเด็ก เช่น ทำความสะอาดห้อง ซักผ้า ให้ความบันเทิง อบรมสั่งสอนพวกเขา สอนมารยาทและดูแลพวกเขาเมื่อป่วยหรืออารมณ์ไม่ดี พี่เลี้ยงทำงานเป็นผู้ช่วยพ่อแม่เพื่อช่วยเลี้ยงลูกให้มีความรับผิดชอบและมีความสามารถ

พี่เลี้ยงหลายคนอาศัยอยู่ในบ้านของครอบครัวเพื่อให้พวกเขาสามารถดูแลเด็กเมื่อจำเป็น พี่เลี้ยงอาจต้องรับผิดชอบในการดูแลเด็กแม้ว่าพ่อแม่จะอยู่บ้านก็ตาม พี่เลี้ยงบางคนได้รับการว่าจ้างให้ดูแลเด็กในขณะที่พ่อแม่ทำงานจากที่บ้าน สิ่งนี้ทำให้ผู้ปกครองมีเวลาทำงานสำคัญให้เสร็จลุล่วงโดยที่ยังอยู่บ้าน ขณะที่มีพี่เลี้ยงคอยให้ความใส่ใจอย่างใกล้ชิดและเอาใจใส่ต่อเด็ก ๆ และสิ่งอื่น ๆ ที่ต้องดูแลรอบ ๆ บ้าน

พ่อแม่บางคนจ้างพี่เลี้ยงที่ได้มีความรู้และทักษะในการสอน ให้พี่เลี้ยงรับผิดชอบเรื่องสอนการบ้าน ทบทวนบทเรียน หรือสอนเสริมให้เด็ก เป้าหมายสูงสุดของพี่เลี้ยงที่ดีคือการให้การดูแลที่ดีกับเด็กในขณะที่พวกเขาอยู่ภายใต้การดูแลของพวกเขา

สถานที่ทำงานของพี่เลี้ยงจะแตกต่างกันไปในแต่ละครอบครัวที่พวกเขาทำงานด้วย บรรยากาศในที่ทำงานเปลี่ยนไปขึ้นอยู่กับจำนวนเด็กที่ต้องดูแล ความต้องการที่เด็กมี หน้าที่ (นอกเหนือจากการดูแลเด็ก) ที่คาดว่าจะทำ และชั่วโมงที่คาดว่าจะทำงาน เป็นต้น



เขตลาดพร้าว

เขตลาดพร้าว ด้วยชื่อที่คุ้นหูหลาย ๆ คน คุ้นเคยกับเขตลาดพร้าวมากที่สุดเขตหนึ่งของกรุงเทพ แต่เดิมนั้น เขตลาดพร้าวเป็นส่วนหนึ่งของพื้นที่เขตบางกะปิ ซึ่งเป็นที่รู้กันว่า เป็นย่านอยู่อาศัยขนาดใหญ่ แต่เมื่อมีการปรับเปลี่ยนเขตการปกครองใหม่ ในวันที่ 24 มกราคม พ.ศ. 2545 กระทรวงมหาดไทยได้โอนพื้นที่บางส่วนของเขตวังทองหลางมาเป็นส่วนหนึ่งของแขวงลาดพร้าว รองรับการเจริญเติบโตของเมือง ลาดพร้าวก็แยกออกจากบางกะปิ โดยย่านลาดพร้าวมีถนนสายหลัก คือ ถนนลาดพร้าว โดยเขตนี้มีพื้นที่ทั้งหมด 22.157 ตร.กม และมีประชากรอาศัยอยู่ 117,108คน โดยมีถนนหลักคือถนนลาดพร้าว ซึ่งมีจุดเริ่มต้นที่ห้าแยกลาดพร้าว เป็นจุดตัดกับถนนพหลโยธินและถนนวิภาวดีรังสิต มีทิศทางมุ่งไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ ผ่านจุดตัดกับถนนรัชดาภิเษก ผ่านแยกถนนโชคชัย 4 (ลาดพร้าว 53) ผ่านแยกประดิษฐ์มนูธรรม ผ่านแยกถนนลาดพร้าว 101 (วัดบึงทองหลาง) เข้าพื้นที่เขตบางกะปิ ผ่านสามแยกบางกะปิ ซึ่งเป็นจุดตัดกับถนนศรีนครินทร์ สิ้นสุดที่สี่แยกบางกะปิตัดกับถนนนวมินทร์และถนนพ่วงศิริ โดยจากแยกนี้ไปจะเป็นถนนเสรีไทย ส่วนที่มีความใกล้เมืองมากที่สุด คือ ย่านห้าแยกลาดพร้าว และย่านรัชดาฯ-ลาดพร้าว แต่กว่าจะเป็นย่านที่ได้รับความสนใจในทุกวันนี้ ย่านห้าแยกลาดพร้าวในอดีต ไม่ได้เป็นย่านที่นักลงทุนสนใจมากนัก เพราะเดิมความเจริญกระจุกตัวอยู่เฉพาะย่านจตุจักร บริเวณขนส่งหมอชิตเก่า และบริเวณเซ็นทรัลพลาซา ลาดพร้าวเท่านั้น โดยจุดเริ่มต้นความน่าสนใจของพื้นโดยที่บริเวณนี้เริ่มจากการเข้ามา ลงทุนเปิดศูนย์การค้าเซ็นทรัล ลาดพร้าว ประมาณปี พ.ศ. 2525 เป็นศูนย์การค้าแบบครบวงจรแห่งแรกของกลุ่มเซ็นทรัล ที่มีทั้งศูนย์การค้าและโรงแรม ตั้งอยู่บนพื้นที่เช่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (และมีการขยายต่อสัญญาเรียบร้อยแล้ว) บริเวณถนนพหลโยธินที่ถัดจากห้าแยกลาดพร้าว คู่ขนานกับฝั่งถนนลาดพร้าว เป็นศูนย์การค้าขนาดใหญ่ที่ดึงให้คนในพื้นที่ใกล้เคียงจากทุกฝั่งทั้งฝั่งพหลโยธิน ฝั่งลาดพร้าว ฝั่งวิภาวดีรังสิต ตัวพิกัดของสถานีรถไฟฟ้าห้าแยกลาดพร้าวที่ค่อนไปทางศูนย์การค้าเซ็นทรัลฯ ซึ่งอยู่ฝั่งถนนพหลโยธิน ก็จะยังคงทำให้ความเจริญเติบโตกระจุกตัวอยู่บริเวณเดิม นั่นคือ โซนศูนย์การค้าเซ็นทรัลฯ และมีแนวโน้มว่าอาคารพาณิชย์บริเวณนั้นจะถูกเปลี่ยนมือเพื่อการขยายตัวของการลงทุนอย่างต่อเนื่อง เป็นสิ่งที่น่าสนใจและจับตามองว่าอนาคตของเขตลาดพร้าวนี้จะขึ้นกลายเป็นว่าที่ศูนย์กลางเศรษฐกิจแห่งใหม่ของกรุงเทพฯ หรือ New CBD (Central Business District) ได้หรือไม่ ศูนย์การค้าและโรงแรม ตั้งอยู่บนพื้นที่เช่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (และมีการขยายต่อสัญญาเรียบร้อยแล้ว) บริเวณถนนพหลโยธินที่ถัดจากห้าแยกลาดพร้าว คู่ขนานกับฝั่งถนนลาดพร้าว เป็นศูนย์การค้าขนาดใหญ่ที่ดึงให้คนในพื้นที่ใกล้เคียงจากทุกฝั่งทั้งฝั่งพหลโยธิน ฝั่งลาดพร้าว ฝั่งวิภาวดีรังสิต ตัวพิกัดของสถานีรถไฟฟ้าห้าแยกลาดพร้าวที่ค่อนไปทางศูนย์การค้าเซ็นทรัลฯซึ่งอยู่ฝั่งถนนพหลโยธิน ก็จะยังคงทำให้ความเจริญเติบโตกระจุกตัวอยู่บริเวณเดิม นั่นคือ โซนศูนย์การค้าเซ็นทรัลฯและมีแนวโน้มว่าอาคารพาณิชย์บริเวณนั้นจะถูกเปลี่ยนมือเพื่อการขยายตัวของการลงทุนอย่างต่อเนื่อง เป็นสิ่งที่น่าสนใจและจับตามองว่าอนาคตของเขตลาดพร้าวนี้จะขึ้นกลายเป็นว่าที่ศูนย์กลางเศรษฐกิจแห่งใหม่ของกรุงเทพฯหรือ New CBD (Central Business District)



ทางเลือกสำหรับครอบชาวต่างชาติที่ย้ายมาอยู่กรุงเทพฯ

คำถามและความกังวลของชาวต่างชาติที่ต้องการย้ายถิ่นฐานและครอบครัวมากรุงเทพฯ โดยเฉพาะครอบครัวที่มีเด็กมักจะเป็นห่วงเรื่องการศึกษาว่าจะมีโรงเรียนหรือศูนย์ดูแลเด็กที่เหมาะสำหรับบุตรหลานของตนหรือไม่แล้ว

กรุงเทพมหานครเป็นเมืองหลวงของไทยที่มีความสะดวกสบายในด้านการดูแลเด็กครบครัน ตั้งแต่สถานรับเลี้ยงเด็ก ศูนย์รับเลี้ยงเด็ก และกลุ่มเพื่อนเล่น ไปจนถึงพี่เลี้ยงเด็กแบบส่วนตัว ทำให้พ่อแม่ชาวต่างชาติมั่นใจได้ว่ามีตัวเลือกมากมายที่จะทำให้เด็ก ๆ ของคุณปลอดภัยและสนุกสนาน ในประเทศไทยไม่มีระบบก่อนวัยเรียนที่บังคับ แต่โรงเรียนอนุบาลบางแห่งดำเนินการโดยโรงเรียนของรัฐโดยมีค่าธรรมเนียมในการบริหารเล็กน้อย และมีสถานรับเลี้ยงเด็กที่พูดภาษาอังกฤษได้ส่วนใหญ่ยินดีต้อนรับเด็กอายุตั้งแต่หนึ่งถึงสามขวบ เพราะในกรุงเทพฯ มีผู้ให้บริการดูแลเด็กที่ดีมากมาย

บริการดูแลเด็กหรือพี่เลี้ยงเด็ก

หาพี่เลี้ยงเด็กในกรุงเทพฯ ไม่ใช่เรื่องยาก (บริการของ saiji.io ยินดีให้คำปรึกษา) อัตราค่าบริการพี่เลี้ยงเด็กในประเทศไทยได้ ยังอยู่ในระดับที่ไม่สูงมาก ซึ่งทำให้ชีวิตในฐานะผู้ปกครองสะดวกยิ่งขึ้น พ่อแม่ชาวต่างชาติจำนวนหนึ่งอาจคุ้นเคยกับผู้ให้บริการดูแลเด็กที่ได้รับการรับรองในประเทศบ้านเกิดของคุณ แต่ในประเทศไทยไม่มีข้อบังคับสำหรับพี่เลี้ยง ดังนั้นจึงเป็นการดีที่จะมีคำแนะนำส่วนตัวจากเพื่อนที่อยู่ในประเทศไทย ซึ่งเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการหาคนที่เหมาะสมในการดูแลเด็ก อย่างไรก็ตาม มีพี่เลี้ยงที่มีประสบการณ์จำนวนมากที่กำลังมองหาการจ้างงานโดยครอบครัวที่พูดภาษาอังกฤษ และคุณสามารถหาพวกเขาได้ที่ saiji.io

ระบบการศึกษาของประเทศไทย

การศึกษาในประเทศไทยส่วนใหญ่เป็นความรับผิดชอบของรัฐบาลโดยกระทรวงศึกษาธิการ ภายใต้พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พลเมืองไทยมีสิทธิ์ได้รับการศึกษาของรัฐฟรี 12 ปี อย่างไรก็ตาม มีเพียงหกปีของการศึกษาระดับประถมศึกษาและมัธยมศึกษาตอนต้นสามปีเท่านั้นที่เป็นภาคบังคับ

โรงเรียนสองภาษาและนานาชาติในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล

ข้อมูลในปี 2563 พบว่าในกรุงเทพมหานครและปริมณฑลมีโรงเรียนนานาชาติเกือบ 100 แห่ง ซึ่งจำนวนนี้ยังไม่รวมโรงเรียนไทยที่มีหลักสูตรสองภาษา ดังนั้นพ่อแม่ชาวต่างชาติที่ย้ายมาอยู่กรุงเทพฯ จึงไม่ต้องกังวลเรื่องการเรียน สามารถเลือกที่จะให้บุตรหลานของตนเข้าเรียนในโรงเรียนเอกชนที่มีโปรแกรมสองภาษาหรือภาษาอังกฤษ หรือในโรงเรียนนานาชาติ ความแตกต่างระหว่างโรงเรียนสองภาษาและโรงเรียนนานาชาติ คือ โรงเรียนสองภาษาจะจัดการเรียนการสอนตามหลักสูตรของชาติไทย แต่ชั้นเรียนส่วนใหญ่สอนเป็นภาษาอังกฤษ ส่วนโรงเรียนนานาชาติจะปฏิบัติตามหลักสูตรของโปรแกรมระดับชาติอื่น เช่น หลักสูตรของอเมริกาหรืออังกฤษ คนไทยที่มีฐานะดีส่วนหนึ่งนิยมที่จะส่งลูกไปเรียนที่โรงเรียนนานาชาติมากกว่าโรงเรียนเอกชน เนื่องจากวิธีการสอนและสิ่งอำนวยความสะดวกที่ดีกว่า และมีการเตรียมการที่ดีกว่าสำหรับเด็กที่จะไปเรียนต่อในมหาวิทยาลัยในต่างประเทศ ชาวต่างชาติที่มีแผนจะเดินทางกลับประเทศบ้านเกิดในอนาคต การเลือกโรงเรียนในประเทศไทยที่มีโครงสร้างหลักสูตรที่สอดคล้องกับโรงเรียนในประเทศบ้านเกิดจะทำให้การเรียนมีความต่อเนื่องและสามารถโอนถ่ายผลการเรียนได้

อย่างไรก็ตาม โรงเรียนนานาชาติมีราคาแพงกว่าโรงเรียนเอกชน และโรงเรียนนานาชาติบางแห่งเป็นโรงเรียนประถมศึกษาอย่างเคร่งครัดสำหรับนักเรียนอายุไม่เกิน 12 ปี ในขณะที่โรงเรียนอื่นๆ รวมถึงโรงเรียนมัธยมศึกษาสำหรับเด็กอายุไม่เกิน 18 ปี