ดูแลเด็ก ใน สมุทรปราการ

ดูแลเด็ก ใน สมุทรปราการ

คุณต้องการใช้บริการนี้เมื่อไหร่?
ตอนนี้
ระบุวันที่
ผู้ให้บริการดูแลเด็ก ใน สมุทรปราการ:

วิธีการทำงาน

Saijai

ติดต่อเรา

ติดต่อเราโดยตรงผ่าน LINE OA เพื่อจองบริการที่คุณต้องการ

Saijai

แจ้งรายละเอียดให้เราทราบ

เลือกบริการ วันที่ เวลา และสถานที่ที่คุณต้องการให้ตรงกับความต้องการของคุณ

Saijai

ยืนยันการจองของคุณ

เราจะยืนยันการจองของคุณภายใน 24 ชั่วโมงผ่านทาง LINE OA

ณัฐวิกา พุ่มมาก
ณัฐวิกา พุ่มมาก
Saijai ประสบการณ์ 3-4 ปี

เป็นครูอนุบาล มีใบประกอบวิชาชีพค่ะ เรียนจบการศึกษาปฐมวัยผ่านสังเกตการสอน ฝึกสอน มีประสบการณ์ในการทำงานค่ะ รักเด็กชอบเด็กเลี้ยงเด็กเหมือนลูกตัวเองใส่ใจทุกรายละเอียดของเด็กค่ะ นิสัยร่าเริง ชอบร้องเพลง ชอบพาเด็กๆทำอาหาร ขนม และทำกิจกรรมสร้างสรรค์ต่างๆค่ะ

แสดงเพิ่มเติม
ณัฐวรินทร์ ภานุโรจนรัศมี
ณัฐวรินทร์ ภานุโรจนรัศมี
Saijai ประสบการณ์ 4-5 ปี

รักเด็ก, ใจเย็น, ละเอียด, รักสะอาด, ยืดหยุ่น, รับฟังและพร้อมเรียนรู้

แสดงเพิ่มเติม

ผ่านหลักสูตร คุรุศาสตร๋มหาบัณฑิตด้วยค่ะ

แสดงเพิ่มเติม
วิไล นันต๊ะภาพ
วิไล นันต๊ะภาพ
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี
Saijai อายุ 47 ปี
วนิดา ชัยวร
วนิดา ชัยวร
Saijai ประสบการณ์ 1-2 ปี
Saijai อายุ 33 ปี
ศรีทอง  เด่นดวง
ศรีทอง เด่นดวง
Saijai ประสบการณ์ 1-2 ปี

ทำอาหารได้

เลี้ยงเด็กเล็กได้

เล่านิทานได้

แสดงเพิ่มเติม
Khaimuk  Homberg
Khaimuk Homberg
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี

มีประสบการณ์ในการดูแลเด็กและทำงานร่วมกับเด็กมากกว่า 5 ปี

รักเด็กค่ะ พูดได้ 2 ภาษา ไทย-อังกฤษ สามารถสอนการบ้านน้องและช่วยเหลือในด้านอื่นๆได้

มีใบขับขี่ทั้งรถยนต์และมอเตอร์ไซค์ค่ะ

แสดงเพิ่มเติม
ลัดดา เหล่าทา
ลัดดา เหล่าทา
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี

มีประสบการณ์เลี้ยงเด็กมากกว่า 10 ปี

แสดงเพิ่มเติม
เสาวณีย์ เขาพระจันทร์
เสาวณีย์ เขาพระจันทร์
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี
Saijai อายุ 38 ปี

ใส่ใจดูแลเหมือนลูกเจ้าของเองใจเย็น ดูแลได้ตลอด

แสดงเพิ่มเติม
ณัฎฐ์ชญานิศ ศรีสุขรัตนา
ณัฎฐ์ชญานิศ ศรีสุขรัตนา
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี

เป็นคนรักเด็ก ถึงแม้ตัวเองจะไม่มีบุตร เคยรับเลี้ยงเด็กในซอยวัยก่อนเข้าเรียน เพราะพ่อแม่เด็กต้องทำงาน จะซื้อของเล่นและพาไปเที่ยวในละแวกใกล้ หรือถ้าพ่อแม่อนุญาตก็พาไปไกลได้ ชอบซื้อขนมและสิ่งของต่างๆแจกเด็กในซอย

แสดงเพิ่มเติม
ทิพวรรณ์ ราศรี
ทิพวรรณ์ ราศรี
Saijai ประสบการณ์ 1-2 ปี
Saijai อายุ 27 ปี

เป็นคนอัธยาศัยดีค่ะ ใจเย็นค่ะชอบเล่นกับเด็ก ส่งเสริมพัฒนาการของน้องได้ค่ะ

แสดงเพิ่มเติม
อานนท์ ทองแสง
อานนท์ ทองแสง
Saijai ประสบการณ์ 1-2 ปี
Saijai อายุ 30 ปี

ผมเป็นคนสุภาพ เรียบร้อย ไม่ยุ่งอบายมุข ไม่พูดคำหยาบ ตั้งใจทำงานที่ได้รับมอบหมาย ทำได้ทุกอย่างครับ สอนได้ทุกวิชา ค่าจ้างเป็นต่อชั่วโมงหรือให้เป็นรายเดือนก็ได้ครับ

แสดงเพิ่มเติม
ฮามีด๊ะฮ์ โต๊ะขวัญ
ฮามีด๊ะฮ์ โต๊ะขวัญ
Saijai อายุ 30 ปี

มีความอดทน ขยัน รักความสะอาด ใจเย็น

แสดงเพิ่มเติม
	ปรีชญา ขัดเรือน
ปรีชญา ขัดเรือน
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี

ใจเย็น รักเด็ก มีความอดทนสูง สามารถแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าได้ดี ยิ้มแย้มแจ่มใจ เสริมสร้างพัฒนาการเด็กตามช่วงวัยได้ค่ะ

แสดงเพิ่มเติม
นันทิรา ระยับศรี
นันทิรา ระยับศรี
Saijai ประสบการณ์ 3-4 ปี

ตอนนี้ทำงานเป็นพี่เลี้ยงเด็กที่โรงเรียนนานาชาติ เป็นคนอารมณ์ดี ยิ้มแย้มแจ่มใสเข้ากับเด็กได้ดีสามารถสอนพื้นฐานให้เด็กวัยก่อนเข้าเรียนได้ ตามพัฒนาการของน้องค่ะ

แสดงเพิ่มเติม

ข้อมูลสถิติน่าสนใจเกี่ยวกับ

Saijai จำนวนประชากร
Saijai จำนวนประชากรเด็ก (แรกเกิด-14 ปี)
Saijai จำนวนประชากรสูงอายุ (60 ปี ขึ้นไป)
Saijai จำนวนสัตว์เลี้ยง สุนัข

รีวิวล่าสุด

พี่เลี้ยงเด็กที่จ้างผ่านเว็บใส่ใจคือดีจริง ๆ พี่เลี้ยงเด็กมีประสบการณ์ในการเลี้ยงดูเด็กและเป็นคนที่ซื่อสัตย์มาก ทำให้คนเป็นแม่อย่างเราหายห่วงลูกเลยจริง ๆ หากใครที่กำลังมองหาพี่เลี้ยงเด็ก บริการของทางใส่ใจถือเป็นตัวเลือกที่ดีเลยทีเดียวสำหรับคุณพ่อคุณแม่ยุคใหม่ที่ต้องทำงานนอกบ้าน
Saijai
กรรชัย วงศ์พานิชญ์
4 ปีที่แล้ว
ดิฉันกับสามีทำงานประจำทั้งคู่ค่ะ ไม่มีใครคอยอยู่ดูแลลูกที่บ้านเลย ลูกติดนิสัยชอบอยู่แต่ในบ้านและซนกับพี่เลี้ยงมาก จนพี่เลี้ยงหลาย ๆ คนทนไม่ไหวถึงกับขอลาออกเอง โชคดีที่ได้เจอพี่เลี้ยงคนนี้บนเว็บใส่ใจ พี่ลี้ยงเข้ากับน้องได้ดีค่ะ
Saijai
วิลาภรณ์ สุทธิรักษ์
4 ปีที่แล้ว
ดิฉันเป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวค่ะ ทำงานทุกวัน ไม่มีเวลาดูแลลูก บางครั้งต้องเอาไปฝากญาติ ๆ แต่ตอนนี้เลยตัดสินใจจ้างพี่เลี้ยงเด็กของทางใส่ใจ ตอนแรกก็ไม่รู้เลยค่ะว่ามีขั้นตอนในการจ้างพี่เลี้ยงเด็กอย่างไรบ้าง เลยติดต่อเบอร์ของทางใส่ใจไป อยากจะบอกว่าประทับใจการให้บริการมาก ๆ ค่ะ ทางใส่ใจให้ข้อมูลทุกอย่างครบถ้วนตามที่เราต้องการอยากทราบ ประทับใจจริง ๆ ค่ะ
Saijai
ปารีณา ภักดีดำรงค์ศักดิ์
4 ปีที่แล้ว
ลูกยังเล็กเราจ้างพี่เลี้ยงมา ตกลงเวลาเริ่มงาน 9.30-17.30 น. (พี่เลี้ยงมา 8.30 น. ทุกวัน ) ประสบการณ์ เคยดูแล เด็กเล็ก 4 เดือน – 2 ขวบ พอเด็กเข้าโรงเรียน ก็ว่าง พอดีที่บ้านช่วยกันหา เจอเว็บนี้เห็นรีวิวประสบการณ์คนเลี้ยงเลย คุยดู พี่เลี้ยงทำงานดีมาก่อนเวลา เตรียมของใช้ ทำงานเป็นระเบียบเหมือนอบรมมาดี อุ่นใจ คิดถูกที่ใช้บริการใส่ใจ แนะนำค่ะ
Saijai
ณัฐวรรณ แสงสีเงิน
4 ปีที่แล้ว
ลองค้นหาบริการพี่เลี้ยงเด็กอยู่หลายที่ จนได้มาเจอเว็บใส่ใจ ลองเข้าไปดู รู้สึกว่าทุกอย่างเป็นไปอย่างมีขั้นตอน เริ่มตั้งแต่ให้เลือกพี่เลี้ยง ขั้นตอนนัดสัมภาษณ์ รายละเอียดและคำแนะนำต่าง ๆ พี่เลี้ยงที่ได้มาก็ตรงตามความต้องการสุด ๆ รู้สึกประทับใจมาก
Saijai
ณัฐณิชา ทิวาสวัสดิ์
4 ปีที่แล้ว

คำถามที่พบบ่อยสำหรับการค้นหา ดูแลเด็ก

พี่เลี้ยงเด็กส่วนตัวหรือเนอสเซอรี่ (Nursery) อะไรคือคำตอบสำหรับคุณพ่อคุณแม่ยุคนี้
ข้อดีของการให้พี่เลี้ยงดูแลเด็กที่บ้านของคุณเอง

1. ลูกน้อยของคุณได้รับการดูแลจากพี่เลี้ยงแบบใกล้ชิด ทำให้เด็กรู้สึกได้ถึงความเอาใจใส่ และมีพัฒนาการทางอารมณ์ที่ดี
2. มีความยืดหยุ่นในการทำกิจวัตรประจำวันเพราะเด็กไม่ต้อง กิน นอน หรือ เล่นตามตารางเหมือนอยู่ในศูนย์รับเลี้ยงเด็กหรือเนอสเซอรี่ (Nursery)
3. พี่เลี้ยงเด็กสามารถปรับเวลาการทำงานให้สอดคล้องกับเวลาทำงานและวันหยุดของคุณพ่อคุณแม่
4. คุณพ่อคุณแม่มีเวลาอยู่กับลูกมากขึ้นเพราะไม่ต้องเผื่อเวลาในการรับส่ง ก่อนและหลังเลิกงาน
5. เด็กได้รับการดูแลในบรรยากาศที่คุ้นเคยและรู้สึกปลอดภัย
6. คุณพ่อคุณแม่ประหยัดเวลาในการเดินทางรับส่ง หมดปัญหาเรื่องรถติดและมลภาวะบนท้องถนน
7. คุณพ่อคุณแม่ประหยัดเวลาในการเตรียมตัวหรือจัดเตรียมของใช้ให้ลูก เช่น ขวดนม เสื้อผ้า หรือแพมเพิส
8. ลดความเสี่ยงของโรคติดต่อ โดยเฉพาะเด็กเล็กที่ภูมิต้านทานยังน้อยจะเจ็บป่วยได้ง่าย หากต้องอยู่ปะปนกับเด็ก ๆ อื่น
9. มีคนอยู่บ้านตลอดเวลาในขณะที่คุณพ่อคุณแม่ออกไปทำงาน

ข้อดีของการเข้าเนอสเซอรี่ (Nursery)

1. ฝึกทักษะการเข้าสังคมเพราะเด็กต้องอยู่ร่วมกับเด็กคนอื่น ๆ และครูพี่เลี้ยง
2. ค่าใช้จ่ายไม่สูงเมื่อเปรียบเทียบกับการจ้างพี่เลี้ยงส่วนตัว
3. เนอสเซอรี่มีกิจกรรมส่งเสริมการเรียนรู้เพื่อให้เด็กฝึกทักษะผ่านการทำกิจกรรมต่าง ๆ
ทักษะสำคัญที่พี่เลี้ยงเด็กควรมีคืออะไร
6 ทักษะสำคัญที่พี่เลี้ยงเด็กควรมี

1. ความรู้ด้านการส่งเสริมพัฒนาการ การส่งเสริมพัฒนาการทำได้ทั้งผ่านการเล่นและการทำกิจวัตรประจำวัน พี่เลี้ยงเด็กที่ดีควรหากิจกรรมเพื่อให้เด็กมีส่วนร่วมและช่วยเหลือตัวเองได้ตามวัยที่เหมาะสม
2. ความอดทนและใจรักเด็ก เด็กแต่ละคนมีความแตกต่างกันทั้งลักษณะนิสัย อารมณ์และการแสดงออก บางคนว่านอนสอนง่าย บางคนชอบเล่นซนทั้งวัน หรือบางคนงอแง พี่เลี้ยงเด็กที่ดีควรมีใจรักเด็กเป็นพื้นฐาน พร้อมทำความเข้าใจและมีความอดทน พยายามหาวิธีที่ทำให้เด็กรู้สึกวางใจ ปลอดภัย และยอมเชื่อฟังพี่เลี้ยงในที่สุด
3. ความรู้ด้านการปฐมพยาบาลเบื้องต้นและรู้เบอร์โทรศัพท์ในกรณีฉุกเฉิน ถ้าเด็กหกล้มมีแผลถลอกพี่เลี้ยงเด็กต้องรู้ว่าจะจัดการกับแผลถลอกอย่างไร ในกรณีฉุกเฉินพี่เลี้ยงเด็กต้องสามารถติดต่อหน่วยงานที่ให้ความช่วยเหลือได้
4. ทักษะการสื่อสาร เด็กมีความแตกต่างกันในแต่ละช่วงอายุ พี่เลี้ยงเด็กต้องเข้าใจการสื่อสารกับเด็ก เช่น เข้าใจภาษากายของทารก การสื่อสารของเด็กเล็ก สำหรับเด็กที่สามารถสื่อสารด้วยทำพูดได้แล้ว พี่เลี้ยงเด็กต้องพูดคุยเพื่อให้เด็กเชื่อฟังโดยไม่ใช้การบังคับและให้เด็กรู้สึกสบายใจ
5. ทักษะการแก้ปัญหา หากไม่ใช่เรื่องที่ร้ายแรงพี่เลี้ยงเด็กต้องรู้วิธีแก้ปัญหาหรือสถานการณ์ตรงหน้าตามสมควรโดยไม่จำเป็นต้องรายงานหรือรอให้คุณพ่อคุณแม่ตัดสินใจทุกครั้ง
6. ความคิดสร้างสรรค์ คงไม่ดีแน่หากพี่เลี้ยงเด็กดูแลเด็กด้วยการให้เด็กดูสมาร์ทโฟนเป็นชั่วโมง พี่เลี้ยงเด็กที่ดีควรมีความคิดสร้างสรรค์เล่นกับเด็กเพื่อให้เด็กเพลิดเพลินได้นานหลายชั่วโมงและให้เด็กได้พักผ่อนตามเวลา

ทั้งหมดนี้คือคุณสมบัติและทักษะที่ดีที่คุณพ่อและคุณแม่ควรมองหาในตัวพี่เลี้ยงเด็กที่คุณเลือกมาเพื่อดูแลลูกน้อยของคุณค่ะ
หากคุณพ่อคุณแม่มีความกังวลเมื่อต้องปล่อยให้ลูก ๆ อยู่กับพี่เลี้ยงตามลำพัง ควรทำอย่างไร
ใส่ใจขอพูดถึงข้อกังวลและแนวทางแก้ไขเมื่อคุณพ่อคุณแม่จำเป็นต้องจ้างพี่เลี้ยงเด็กมาดูแลลูกๆ ที่บ้าน

1. ความปลอดภัยของลูกน้อย สิ่งที่คุณพ่อคุณแม่เป็นกังวลมากที่สุดคือความปลอดภัย ไม่ว่าจะเกิดจากอุบัติเหตุหรือการกระทำรุนแรงของพี่เลี้ยงเด็ก คุณพ่อคุณแม่ต้องหมั่นสังเกตความเปลี่ยนแปลงของลูกน้อยทั้งทางร่างกายและพฤติกรรม ควรพูดคุย ซักถามเด็กอยู่เป็นประจำเกี่ยวกับกิจกรรมระหว่างวันที่ลูก ๆ ทำกับพี่เลี้ยง การติดตั้งกล้องวงจรปิดภายในบ้านเป็นอีกวิธีที่ทำให้คุณพ่อคุณแม่อุ่นใจขึ้น
2. ประสบการณ์การทำงาน บางครั้งพี่เลี้ยงเด็กอาจไม่ได้ให้ข้อเท็จจริงทั้งหมดเกี่ยวกับประสบการณ์ทำงานและความชำนาญของตน นอกจากการสัมภาษณ์พี่เลี้ยงเด็ก คุณพ่อคุณแม่อาจจะให้มีการทดลองงานสักระยะหนึ่งเพื่อดูว่าพี่เลี้ยงเด็กมีความชำนาญหรือสามารถทำงานได้ตามมอบหมายหรือไม่
3. พี่เลี้ยงเด็กหยิบฉวยทรัพย์สินในบ้าน หลายครั้งที่คุณพ่อคุณแม่เจอพี่เลี้ยงที่มีประสบการณ์แต่ยังกังวลว่าพี่เลี้ยงเด็กอาจพยายามขโมยสิ่งของมีค่าภายในบ้าน แนวทางป้องกันที่คุณพ่อคุณแม่ทำได้คือ ไม่วางสิ่งของมีค่าไว้ในที่เปิดเผย ล็อคลิ้นชักเก็บของและประตูห้องที่พี่เลี้ยงเด็กไม่จำเป็นต้องใช้ คุณพ่อคุณแม่อาจจะติดตั้งกล้องวงจรปิดไว้ภายในบ้านเพื่อช่วยเป็นหูเป็นตาได้อีกทาง
พ่อแม่ควรตกลงอะไรบ้างก่อนจ้างพี่เลี้ยงเด็ก?
เมื่อคุณพ่อคุณแม่สามารถหาพี่เลี้ยงเด็กที่ถูกใจได้แล้ว ควรพูดคุยและตกลงกันเรื่องใดบ้างก่อนเริ่มงาน

1. วันและเวลาทำงาน คุณพ่อและคุณแม่ควรมีแผนการทำงานของพี่เลี้ยงที่ชัดเจน เช่นกำหนดวันทำงาน วันหยุด และเวลาทำงานในแต่ละวันให้ชัดเจน และควรถามความสมัครใจหากต้องการให้พี่เลี้ยงทำงานล่วงเวลา
2. ขอบเขตหน้าที่และความรับผิดชอบ คุณพ่อคุณแม่ควรระบุขอบเขตหน้าที่และความรับผิดชอบของพี่เลี้ยงเด็กให้ชัดเจน หากต้องการให้พี่เลี้ยงทำงานบ้านหรืองานอื่น ๆ นอกจากดูแลเด็ก ควรตกลงกันให้ชัดเจนก่อนเริ่มงาน
3. ระยะเวลาการทดลองงาน หาดคุณพ่อคุณแม่ต้องการให้พี่เลี้ยงทดลองงานก่อนสักระยะหนึ่งก่อนทำสัญญาว่าจ้าง ควรระบุช่วงระยะเวลาและเงื่อนไขในการทดลองงานให้ชัดเจน
4. ค่าจ้าง คุณพ่อคุณแม่ควรสอบถามและตกลงค่าจ้างของพี่เลี้ยงให้ชัดเจน และค่าจ้างควรจะสอดคล้องกับหน้าที่ความรับผิดชอบ และจำนวนชั่วโมงทำงานในแต่ละวัน ประสบการณ์ในการทำงานอาจเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่คุณพ่อคุณแม่สามารถใช้ประกอบการพิจารณาอัตราค่าจ้างได้
5. กรณีจ้างพี่เลี้ยงประจำแบบพักอาศัยร่วม คุณพ่อคุณแม่ต้องจัดการเรื่องที่พักให้กับพี่เลี้ยง รวมถึงอาหารในแต่ละวันตามตกลงกัน
6. ข้อตกลงในการอยู่อาศัยร่วมกัน คุณพ่อคุณแม่ควรบอกกล่าวพี่เลี้ยงให้ชัดเจนถึงกฎระเบียบต่าง ๆ สิ่งใดไม่ควรปฏิบัติของการอาศัยอยู่ร่วมกัน

ทั้งหมดนี้คือสิ่งที่คุณพ่อและคุณแม่ควรพูดคุยตกลงกับพี่เลี้ยงเด็กให้ชัดเจนก่อนเริ่มงาน

สมุทรปราการ เมืองแห่งอุตสาหกรรม

จังหวัดสมุทรปราการ เป็นจังหวัดในเขตปริมณฑลของกรุงเทพมหานคร มีพื้นที่ 1,004,092 ตร.กม. มีความหนาแน่นของประชากรเป็นอันดับ 3 ของประเทศ เนื่องจากเป็นจังหวัดที่รองรับการขยายตัวของกรุงเทพมหานคร เป็นที่ตั้งของสนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิ และมีการเจริญเติบโตของภาคอุตสาหกรรมสูง ซึ่งทำรายได้ให้กับจังหวัดสมุทรปราการสูงสุด

จังหวัดสมุทรปราการมีโรงงานอุตสาหกรรมตั้งอยู่ในทุกอำเภอ และมีนิคมอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ 2 แห่ง คือ นิคมอุตสาหกรรมบางพลี และ นิคมอุตสาหกรรมบางปู

นิคมอุตสาหกรรมบางพลี อำเภอบางพลี มีเนื้อที่ 1,004 ไร่ มีโรงงานมากถึง 160 โรง ประกอบอุตสาหกรรมต่างๆ ทั้งโรงงานประกอบกิจการอิเล็กทรอนิกส์ โรงงานประกอบกิจการสารเคมี โรงงานประกอบการกิจการฉีดพลาสติกและผลิตภัณฑ์งานพลาสติก

นิคมอุตสาหกรรมบางปู เทศบาลตำบลบางปู อำเภอเมืองสมุทรปราการ เป็นนิคมอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ถึง 4,000 ไร่ แบ่งเป็นอุตสาหกรรมทั่วไป 3,400 ไร่ เขตอุตสาหกรรมส่งออก 270 ไร่ เขตพาณิชยกรรมและที่อยู่อาศัย 250 ไร่ ส่วนพื้นที่ที่เหลือเป็นสาธารณูปโภค และโรงกำจัดน้ำเสียส่วนกลางของนิคมอุตสาหกรรม มีโรงงาน 510 โรง ส่วนใหญ่เป็นอุตสาหกรรมแปรรูป สิ่งทอ ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ เคมีภัณฑ์ โละ พลาสติก เครื่องจักร รวมทั้งอุปกรณ์ชิ้นส่วนรถยนต์

เมื่อจำนวนโรงงานมีมาก จำนวนประชากรก็มีมากขึ้นตามมา รวมทั้งกิจการที่พักอาศัย เช่น หอพักทั่วไป หอพักพนักงาน บ้านเช่า เพื่อรองรับจำนวนพนักงานในแต่ละโรงงาน ยิ่งภาคอุตสาหกรรมเติบโตมากขึ้นเท่าไหร่ ผู้คนก็ยิ่งโยกย้ายเข้ามาเพื่อหางานทำในพื้นที่จังหวัดสมุทรปราการมากขึ้นเท่านั้น เพราะจังหวัดสมุทรปราการเป็นเมืองอุตสาหกรรมที่มีโอกาสการจ้างงานสูง



แพขนานยนต์ข้ามฟากพระประแดง ระบบขนส่งสาธารณะที่อยู่คู่ชาวพระประแดงมาช้านาน

เมื่ออำเภอพระประแดง ถูกคั่นด้วยแม่น้ำ การเดินทางข้ามไปมายังเมืองพระประแดงสมัยก่อนจึงใช้เรือและแพขนาดใหญ่เป็นยานพาหนะ แพขนานยนต์เปิดให้บริการข้ามฟากมาก่อนที่จะมีการสร้าง สะพานภูมิพล และเปิดใช้งานในปี พ.ศ. 2549 แพขนานยนต์สามารถบรรทุกรถยนต์ และรถจักรยานยนต์ข้ามฟากไปมาได้เพื่อความสะดวกสบายในการเดินทางของชาวพระประแดงและผู้ที่ต้องเดินทางมาพระประแดง

ปัจจุบัน สะพานภูมิพล ทำให้การเดินทางโดยรถยนต์ หรือรถบรรทุก และรถขนส่งขนาดใหญ่สามารถวิ่งข้ามฝั่งไปมาสะดวกมากขึ้น แต่เป็นปัญหาสำหรับผู้ใช้รถมอเตอร์ไซค์ เพราะมอเตอร์ไซค์ไม่ได้การอนุญาตให้ขึ้นสะพานภูมิพล ทำให้ผู้ขับขี่มอเตอร์ไซค์ข้ามไปมายังพระประแดงจะต้องขี่รถอ้อมไกลเพื่อไปใช้สะพานกรุงเทพฯ ซึ่งเป็นสะพานที่ใกล้ที่สุดในละแวกนี้ ทำให้ใช้การเดินทางเวลานานขึ้น ต้องเผื่อเวลาออกจากบ้านเพื่อให้ทันเวลาเข้างาน ทันเวลานัดหมาย หรือทันเวลานัดส่งของ ระบบขนส่งทางน้ำที่มีมาช้านานอย่างแพขนานยนต์ข้ามฟากของชาวพระประแดงจึงยังคงเปิดให้บริการอยู่ และยังมีผู้นิยมเดินทางด้วยเส้นทางนี้เพราะช่วยย่นเวลาได้มาก อีกทั้งระหว่างยังได้ชมทัศนียภาพของแม่น้ำเจ้าพระยา และชมวิวสะพานภูมิพลที่เป็นสะพานแขวนที่ยาวและสวยที่สุดในประเทศไทย

แพขนานยนต์ข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาไปยังพระประแดงมี 2 แห่ง คือ แพที่แล่นระหว่างพระประแดง-สุขสวัสดิ์ และ พระประแดง-ปู่เจ้าสมิงพราย เพื่อเชื่อมต่อไปยังบางนา โดยแพขนานยนต์ทั้งสองจุดนี้ สามารถบรรทุกได้ทั้งรถยนต์และรถมอเตอร์ไซค์เหมือนเมื่อครั้งที่ยังไม่มีการสร้างสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา ค่าใช้จ่ายสำหรับรถมอเตอร์ไซค์อยู่ที่คันละ 10 บาท และสำหรับรถยนต์คันละ 20 บาท ถ้ามาจากทางสุขสวัสดิ์ จุดข้ามแพจะอยู่บริเวณสถานีตำรวจภูธรอำเภอพระประแดง เป็นอาคารไม้ดั้งเดิมที่ได้รับการอนุรักษ์และปรับปรุงอย่างสวยงาม จุดข้ามตรงนี้มีจุดชมวิวริมเขื่อนเพื่อชมความงามของสะพานภูมิพล 1 และ 2 โดยเฉพาะช่วงเย็นที่พระอาทิตย์กำลังตก และก่อนจะถึงท่าขึ้นแพ ยังมีตลาดเก่าพระประแดง ศาลเจ้าพ่อพระประแดง และตัวเมืองเก่าให้ได้แวะชม การเดินทางข้ามฟากโดยใช้แพขนานยนต์สามารถช่วยย่นระยะเวลาได้ แถมบนแพยังมีไอศกรีมโบราณขายให้ได้ซื้อกินคลายร้อนอีกด้วย

ใครจะไปพระประแดง แล้วอยากลองใช้วิธีการเดินทางสุดคลาสสิคพร้อมกับชมวิวแม่น้ำและสะพานสวยๆ ต้องมาลองนำรถลงแพดูสักครั้ง แต่เตือนก่อนนะว่า บนแพไม่มีหลังคารหลบร้อน และไม่มีขอบกั้น เพราะฉะนั้นต้องขับรถขึ้นลงแพอย่างระมัดระวัง ดับเครื่องและจอดรถให้สนิทเมื่ออยู่บนแพ จะมีพนักงานนำขอนไม้มาหนุนล้อรถของเราไว้เพื่อความปลอดภัย



6 วิธีป้องกันโรคมือ เท้า ปาก (hand-foot-mouth disease)

โรคฮิตของเด็กในช่วงฤดูฝนที่พ่อแม่ทุกคนไม่อยากให้เกิด คือ โรคมือ เท้า ปาก (hand-foot-mouth disease) โดยสถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี กรมการแพทย์ ระบุว่า โรคมือ เท้า ปาก พบบ่อยในเด็กทารกและเด็กเล็กอายุต่ำกว่า 5 ปี และมีพบประปรายในเด็กโต โรคมือ เท้า ปาก เกิดจากการติดเชื้อไวรัสในกลุ่มเอนเทอโรไวรัส สายพันธุ์คอกซากีไวรัส เอ 16 (coxsackievirus A16) และเอนเทอโรไวรัส 71 (enterovirus 71)

หลังจากเด็กได้รับเชื้อประมาณ 3-6 วัน อาการส่วนใหญ่จะเริ่มจากมีไข้ อ่อนเพลีย อาเจียนบ่อย และมีแผลในปาก รวมทั้งมีผื่นที่มือและเท้า แผลจะปากพบได้หลายตำแหน่ง ตั้งแต่บริเวณเพดานบน กระพุ้งแก้ม หรือลิ้น ทำให้มีอาการเจ็บหรือกลืนน้ำลายไม่ได้ และไม่ยอมทานอาหาร เด็กบางคนที่เป็นเยอะอาจลามออกมาที่ริมฝีปากหรือรอบๆริมฝีปาก ส่วนผื่นมีมือและเท้าจะเป็นลักษณะตุ่มแดงๆ หรือบางครั้งอาจเป็นตุ่มใสที่บริเวณฝ่ามือฝ่าเท้า หรือง่ามนิ้วมือและนิ้วเท้า ซึ่งจะหายเป็นปกติภายใน 7-10 วัน

โรคมือ เท้า ปาก แพร่กระจายได้ 2 ทาง คือ การสัมผัสโดยตรงหรืออุจจาระของผู้ป่วยซึ่งมีเชื้อไวรัส ระยะที่แพร่เชื้อได้มากคือช่วงภายใน 7 วันแรก หลังจากเริ่มมีอาการ

ปัจจุบันโรคมือ เท้า ปาก ยังไม่มียารักษาโดยเฉพาะ แพทย์จะทำการรักษาตามอาการ ซึ่งโดยปกติเด็กจะไม่มีอาการรุนแรงและสามารถหายได้เอง แต่หากเด็กบางคนที่เจ็บในช่องปากจนไม่ยอมทานอาหาร อาจต้องพบแพทย์เพื่อให้น้ำเกลือทางหลอดเลือด จนกว่าอาการจะดีขึ้น ทั้งนี้บางรายอาจมีภาวะแทรกซ้อนทางสมองและหัวใจ โดยภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรงที่สุดที่มีโอกาสเสียชีวิตคือ ก้านสมองอักเสบ ซึ่งพบน้อยมากๆ เฉลี่ย 1-5 รายต่อปี ดังนั้น เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้ลูกเป็นโรคมือ เท้า ปาก พ่อแม่ควรหมั่นดูแลรักษาสุขอนามัยของลูกดังนี้

1. รักษาความสะอาด ล้างมือด้วยน้ำและสบู่ก่อนรับประทานอาหาร หลังมีการสัมผัสน้ำมูก น้ำลาย หรือภายหลังการขับถ่าย หรือเปลี่ยนผ้าอ้อมทุกครั้ง

2. หลีกเลี่ยงการใช้ของร่วมกัน เช่น จาน ชาม หลอดดูด แก้วน้ำ ขวดนม ผ้าเช็ดหน้า และใช้ช้อนกลางเวลารับประทานอาหารร่วมกัน

3. รับประทานอาหารที่ปรุงสุก สะอาด ไม่มีแมลงวันตอม และดื่มน้ำสะอาด

4. หลีกเลี่ยงสถานที่แออัด โดยเฉพาะช่วงที่มีการระบาดของโรค และอย่าให้เด็กคลุกคลีหรือใกล้ชิดกับผู้ป่วย

5. ตัดเล็บเด็กให้สั้นเพื่อป้องกันการเกา

6. กรณีเด็กในวัยเรียนหรืออยู่ในสถานรับเลี้ยงเด็ก หากแพทย์วินิจฉัยว่าเป็นโรคนี้ ควรให้เด็กหยุดเรียนเพื่อป้องกันการแพร่เชื้อไปยังเด็กคนอื่นๆ และควรแจ้งทางโรงเรียนหรือสถานรับเลี้ยงเด็กให้ทราบ เพื่อปฏิบัติตามแนวทางป้องกันต่อไป

สิ่งสำคัญที่สุดคือ ผู้ปกครองควรหมั่นสังเกตอาการ หากมีอาการผิดปกติ หรือรุนแรง ควรพาเด็กเข้าพบแพทย์ทันที