ดูแลเด็ก ใน ประเวศ, กรุงเทพมหานคร

ดูแลเด็ก ใน ประเวศ, กรุงเทพมหานคร

คุณต้องการใช้บริการนี้เมื่อไหร่?
ระบุวันที่

วิธีการทำงาน

Saijai

ติดต่อเรา

ติดต่อเราโดยตรงผ่าน LINE OA เพื่อจองบริการที่คุณต้องการ

Saijai

แจ้งรายละเอียดให้เราทราบ

เลือกบริการ วันที่ เวลา และสถานที่ที่คุณต้องการให้ตรงกับความต้องการของคุณ

Saijai

ยืนยันการจองของคุณ

เราจะยืนยันการจองของคุณภายใน 24 ชั่วโมงผ่านทาง LINE OA

วนิดา ชัยวร
วนิดา ชัยวร
Saijai ประสบการณ์ 1-2 ปี
Saijai อายุ 32 ปี
ฉันทนา สิทธิ
ฉันทนา สิทธิ
Saijai ประสบการณ์ 1-2 ปี
Saijai อายุ 44 ปี

เป็นคนง่ายๆรักเด็กใจเย็นไม่เคยโกรธหรือโมโหอะไรง่ายๆนอนน้อยทําได้หมดแต่ไม่ชอบจู้จี้

แสดงเพิ่มเติม

รักเด็ก, ใจเย็น, ละเอียด, รักสะอาด, ยืดหยุ่น, รับฟังและพร้อมเรียนรู้

แสดงเพิ่มเติม
ฮามีด๊ะฮ์ โต๊ะขวัญ
ฮามีด๊ะฮ์ โต๊ะขวัญ
Saijai อายุ 29 ปี

มีความอดทน ขยัน รักความสะอาด ใจเย็น

แสดงเพิ่มเติม
กิติยา คำมา
กิติยา คำมา
Saijai ประสบการณ์ 1-2 ปี
Saijai อายุ 37 ปี

เคยทำงานพี่เลี้ยงเด็กอยู่ต่างจังหวัด รับน้องมาเลี้ยงที่บ้าน รายเดือน 10000/เดือน หรือตามข้อตกลงกับนานจ้าง

ทำงานโรงงานจิวรี่เครืาองประดับส่งออกเงิ/ทอง เป็งช่างขัดงานละเอียด

นิสัยส่วนตัวแล้วเข้ากับทุกคนได้ ร่าเริง รับฟังยอมรับกับคำแนะนำคำติเตือนในแต่ละเหตุหรือหน้าที่การงาน ตรงต่อเวลา ใจเย็น ชอบดนตรี ชอบทำงานประดิษฐ์งานฝีมือ ชอบทำกับข้าว ใช้หรือฝากทำธุระได้ ชำนาญคล่องตัวในการขับรถจักรยานยนต์

แสดงเพิ่มเติม
เสาวณีย์ เขาพระจันทร์
เสาวณีย์ เขาพระจันทร์
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี
Saijai อายุ 37 ปี

ใส่ใจดูแลเหมือนลูกเจ้าของเองใจเย็น ดูแลได้ตลอด

แสดงเพิ่มเติม
วิไล นันต๊ะภาพ
วิไล นันต๊ะภาพ
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี
Saijai อายุ 46 ปี
Ponchai Srivichian
Ponchai Srivichian
Saijai ประสบการณ์ 3-4 ปี

เป็นคนใจเย็น รักเด็ก ชอบเล่นกับเด็ก ปัจจุบันมีลูกสาว 1 คน 3 ขวบ ศึกษาข้อมูลในการเลี้ยงเด็กสมัยใหม่มาค่อนข้างเยอะ สามารถนำมาประยุกต์ปรับใช้ให้เกิดประโยชน์ได้

แสดงเพิ่มเติม
ทิพวรรณ์ ราศรี
ทิพวรรณ์ ราศรี
Saijai ประสบการณ์ 1-2 ปี
Saijai อายุ 26 ปี

เป็นคนอัธยาศัยดีค่ะ ใจเย็นค่ะชอบเล่นกับเด็ก ส่งเสริมพัฒนาการของน้องได้ค่ะ

แสดงเพิ่มเติม
กัญญาภัทร บุตรพรม
กัญญาภัทร บุตรพรม
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี

สวัสดีค่ะ ชือ ภัทรค่ะ อายุ 52 ถนัดดูแลเด็กแรกคลอด คุณแม่หลังคลอดค่ะ นวดเด็กแรกเล็กได้ ช้วยให้เด็ก อารมณ์ดีไม่งอแง ช่วยระบบขับถ่าย เลือดลมไหลเวียนดี ร่างกายแข็งแรง.นวดประคบสมุนไพร คุณแม่หลังคลอดช่วยในการอยู่ไฟสมัยโบราณ ทำให้มดลูกเข้าอู่ไว้ ร่างกายแข็งแรง รับงานได้ทั้งในและต่างประเทศค่ะ รับดูแลทั้งคนไทยและต่างชาติ

แสดงเพิ่มเติม
อคัมย์สิริ ศศิชลพินทุ์
อคัมย์สิริ ศศิชลพินทุ์
Saijai ประสบการณ์ 0-1 ปี
Saijai อายุ 41 ปี
มัณฑนา ศรีโชติ
มัณฑนา ศรีโชติ
Saijai ประสบการณ์ 1-2 ปี
Saijai อายุ 48 ปี

ใจเย็น รักเด็ก พร้อมเรียนรู้ปรับตัว

แสดงเพิ่มเติม
อารตี อับดลราหมาน
อารตี อับดลราหมาน
Saijai ประสบการณ์ 0-1 ปี
Saijai อายุ 26 ปี
ธันย์ชนก วิสุทธิศักดิ์
ธันย์ชนก วิสุทธิศักดิ์
Saijai ประสบการณ์ 0-1 ปี
Saijai อายุ 27 ปี

ฉันใจดี เข้ากับเด็กได้ง่าย เด็กไปมักจะชอบมาเล่นกับฉัน

แสดงเพิ่มเติม

ใจเย็น รักเด็ก มีความอดทนสูง สามารถแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าได้ดี ยิ้มแย้มแจ่มใจ เสริมสร้างพัฒนาการเด็กตามช่วงวัยได้ค่ะ

แสดงเพิ่มเติม

ข้อมูลสถิติน่าสนใจเกี่ยวกับ

Saijai จำนวนประชากร
Saijai จำนวนประชากรเด็ก (แรกเกิด-14 ปี)
Saijai จำนวนประชากรสูงอายุ (60 ปี ขึ้นไป)
Saijai จำนวนสัตว์เลี้ยง สุนัข

รีวิวล่าสุด

ดิฉันกับสามีทำงานประจำทั้งคู่ค่ะ ไม่มีใครคอยอยู่ดูแลลูกที่บ้านเลย ลูกติดนิสัยชอบอยู่แต่ในบ้านและซนกับพี่เลี้ยงมาก จนพี่เลี้ยงหลาย ๆ คนทนไม่ไหวถึงกับขอลาออกเอง โชคดีที่ได้เจอพี่เลี้ยงคนนี้บนเว็บใส่ใจ พี่ลี้ยงเข้ากับน้องได้ดีค่ะ
Saijai
วิลาภรณ์ สุทธิรักษ์
3 ปีที่แล้ว
เปลี่ยนพี่เลี้ยงเด็กมาหลายคน ส่วนมากราคาสูง ๆ ทั้งนั้น แต่อยู่ไม่ได้นานก็ลาออก ลองจองพี่เลี้ยงผ่านเวปใส่ใจ เยี่ยมมากเลยครับ แฟนสบายใจ หมดปัญหา ไม่ต้องจ้างพี่เลี้ยงราคาแพง ได้ราคาแบบสมเหตุสมผล แถมมีคุณภาพครับ
Saijai
จิตวัชร จันประทีป
3 ปีที่แล้ว
ลูกยังเล็กเราจ้างพี่เลี้ยงมา ตกลงเวลาเริ่มงาน 9.30-17.30 น. (พี่เลี้ยงมา 8.30 น. ทุกวัน ) ประสบการณ์ เคยดูแล เด็กเล็ก 4 เดือน – 2 ขวบ พอเด็กเข้าโรงเรียน ก็ว่าง พอดีที่บ้านช่วยกันหา เจอเว็บนี้เห็นรีวิวประสบการณ์คนเลี้ยงเลย คุยดู พี่เลี้ยงทำงานดีมาก่อนเวลา เตรียมของใช้ ทำงานเป็นระเบียบเหมือนอบรมมาดี อุ่นใจ คิดถูกที่ใช้บริการใส่ใจ แนะนำค่ะ
Saijai
ณัฐวรรณ แสงสีเงิน
3 ปีที่แล้ว
เราทำงานนอกบ้าน เลยหาพี่เลี้ยงเด็กมาดูแลน้องที่บ้าน ค้นหาข้อมูลดูเวปนี้ให้รายละเอียดพี่เลี้ยงน่าสนใจ ราคาเรารับได้ เราเลยให้น้องมาทดลองงานก่อนเราไปทำงาน น้องมีประสบการณ์มา เลยปรับตัวไม่ยาก เวลาเราอยู่น้องจะช่วยหยิบจับของทำโน่นทำนี่ไป ประทับใจคะ สองเดือนแล้วน้องทำงานดี มีระเบียบเรียบร้อย คุ้มค่ากับเงินที่เสียไป เราไว้ใจให้น้องคนนี้ดูแล
Saijai
แม่น้องกัญ
3 ปีที่แล้ว
อยู่ ๆ พี่เลี้ยงคนเก่าลาออกโดยไม่แจ้งล่วงหน้าต้องรีบหาพี่เลี้ยงใหม่แบบเร่งด่วน ไม่รู้จะทำยังไง บังเอิญมาเจอเว็บใส่ใจ หาพี่เลี้ยงคนใหม่ได้ง่ายมาก ๆ แถมได้คนดี มีประสบการณ์ ทำงานคล่อง เยี่ยมเลยค่ะ ประทับใจสุด ที่สำคัญคุณแม่สบายใจได้คนมาทำงานทันที
Saijai
ภัทรา กิจบำรุง
3 ปีที่แล้ว

คำถามที่พบบ่อยสำหรับการค้นหา ดูแลเด็ก

พี่เลี้ยงเด็กส่วนตัวหรือเนอสเซอรี่ (Nursery) อะไรคือคำตอบสำหรับคุณพ่อคุณแม่ยุคนี้
ข้อดีของการให้พี่เลี้ยงดูแลเด็กที่บ้านของคุณเอง

1. ลูกน้อยของคุณได้รับการดูแลจากพี่เลี้ยงแบบใกล้ชิด ทำให้เด็กรู้สึกได้ถึงความเอาใจใส่ และมีพัฒนาการทางอารมณ์ที่ดี
2. มีความยืดหยุ่นในการทำกิจวัตรประจำวันเพราะเด็กไม่ต้อง กิน นอน หรือ เล่นตามตารางเหมือนอยู่ในศูนย์รับเลี้ยงเด็กหรือเนอสเซอรี่ (Nursery)
3. พี่เลี้ยงเด็กสามารถปรับเวลาการทำงานให้สอดคล้องกับเวลาทำงานและวันหยุดของคุณพ่อคุณแม่
4. คุณพ่อคุณแม่มีเวลาอยู่กับลูกมากขึ้นเพราะไม่ต้องเผื่อเวลาในการรับส่ง ก่อนและหลังเลิกงาน
5. เด็กได้รับการดูแลในบรรยากาศที่คุ้นเคยและรู้สึกปลอดภัย
6. คุณพ่อคุณแม่ประหยัดเวลาในการเดินทางรับส่ง หมดปัญหาเรื่องรถติดและมลภาวะบนท้องถนน
7. คุณพ่อคุณแม่ประหยัดเวลาในการเตรียมตัวหรือจัดเตรียมของใช้ให้ลูก เช่น ขวดนม เสื้อผ้า หรือแพมเพิส
8. ลดความเสี่ยงของโรคติดต่อ โดยเฉพาะเด็กเล็กที่ภูมิต้านทานยังน้อยจะเจ็บป่วยได้ง่าย หากต้องอยู่ปะปนกับเด็ก ๆ อื่น
9. มีคนอยู่บ้านตลอดเวลาในขณะที่คุณพ่อคุณแม่ออกไปทำงาน

ข้อดีของการเข้าเนอสเซอรี่ (Nursery)

1. ฝึกทักษะการเข้าสังคมเพราะเด็กต้องอยู่ร่วมกับเด็กคนอื่น ๆ และครูพี่เลี้ยง
2. ค่าใช้จ่ายไม่สูงเมื่อเปรียบเทียบกับการจ้างพี่เลี้ยงส่วนตัว
3. เนอสเซอรี่มีกิจกรรมส่งเสริมการเรียนรู้เพื่อให้เด็กฝึกทักษะผ่านการทำกิจกรรมต่าง ๆ
คุณสมบัติอะไรบ้างที่พ่อแม่ควรมองหาจากพี่เลี้ยงเด็กก่อนตกลงจ้าง
ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่คุณพ่อคุณแม่สักคนจะตัดสินใจหาใครมาดูแลลูกน้อยที่เปรียบเสมือนแก้วตาดวงใจ วันนี้ใส่ใจมีข้อมูลของทักษะและคุณสมบัติที่พี่เลี้ยงเด็กควรมีมาฝากให้คุณพ่อคุณแม่ลองเช็คกันดูก่อนตัดสินใจจ้างพี่เลี้ยงสักคน

1. พี่เลี้ยงเด็กต้องมีความอดทนสูง คุณพ่อคุณแม่ต้องมั่นใจว่าพี่เลี้ยงเด็กต้องมีความเข้าใจเด็ก สามารถรับมือกับสถานการณ์ต่าง ๆ ได้ดี และที่สำคัญที่สุดคือเป็นคนที่มีความอดทนสูง
2. พี่เลี้ยงเด็กควรรู้วิธีการปฐมพยาบาลเบื้องต้น ในกรณีเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดหรืออุบัติเหตุ พี่เลี้ยงต้องมีความรู้และทักษะการปฐมพยาบาลเบื้องต้น และสามารถช่วยเหลือเด็กได้ทันที เช่น เด็กที่อยู่ภายใต้การดูแลเกิดอุบัติเหตุหกล้ม มีแผลถลอก พี่เลี้ยงต้องรีบปฐมพยาบาลเบื้องต้นเพื่อไม่ให้เกิดการติดเชื้อของแผล เป็นต้น ดังนั้นคุณพ่อและคุณแม่ควรเลือกพี่เลี้ยงที่มีทักษะด้านการปฐมพยาบาลเบื้องต้นเพราะเป็นสิ่งจำเป็นมาก ๆ
3. พี่เลี้ยงเด็กควรมีทักษะการแก้ไขปัญหา พี่เลี้ยงจะต้องรู้วิธีการแก้ไขปัญหาเบื้องต้นได้โดยไม่จำเป็นต้องแจ้งผู้ว่าจ้างเสมอไปหากปัญหานั้นไม่ใช่ปัญหาที่ร้ายแรง
4. ทำอาหารเป็น ถือเป็นอีกหนึ่งทักษะที่พี่เลี้ยงเด็กจำเป็นต้องมี พี่เลี้ยงไม่ได้มีหน้าที่แค่ดูแลเด็กอย่างเดียวเท่านั้น แต่พี่เลี้ยงอาจจะต้องเตรียมอาหารให้เด็ก ๆ รับประทานในแต่ละมื้อด้วย หากอาหารอร่อยถูกปาก เด็กจะเจริญอาหารและอารมณ์ดี ที่สำคัญที่สุดที่พี่เลี้ยงต้องใส่ใจและจดจำด้วยว่าเด็ก ๆ ที่ดูแลนั้น แพ้อาหารอะไรบ้าง เพื่อป้องกันอุบัติเหตุที่อาจจะเกิดขึ้นจากการรับประทานสิ่งที่แพ้เข้าไป
5. มีความคิดสร้างสรรค์ในการส่งเสริมพัฒนาการเด็ก พี่เลี้ยงจะต้องเป็นคนที่มีความคิดสร้างสรรค์ สามารถร่วมทำกิจกรรมกับเด็ก ๆ ในระหว่างวัน ไม่ว่าจะเป็นทางด้านวิชาการหรือสันทนาการ เช่น พี่เลี้ยงเด็กอาจจะสอนเด็กนับเลข ฝึกการอ่าน หรือระบายสีเพื่อให้เด็กได้เรียนรู้ผ่านกิจกรรมที่สร้างสรรค์เหล่านี้
ควรทำอย่างไรเพื่อคลายความกังวลเมื่อคุณพ่อคุณแม่ต้องปล่อยให้ลูกอยู่ตามลำพังกับพี่เลี้ยง
ไม่ใช่เรื่องง่ายที่สำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่จะไว้วางใจให้ลูก ๆ ของคุณอยู่ในความดูแลพี่เลี้ยงเด็ก แม้ว่าจะเป็นเวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมงก็ตามเด็กอาจเกิดความรู้สึกวิตกกังวลเมื่อต้องแยกจากคุณพ่อคุณแม่ ใส่ใจมีวิธีการที่จะช่วยลดความกังวลของทั้งคุณพ่อคุณแม่และลูกได้ดังนี้ค่ะ

1. คุณพ่อคุณแม่ควรพูดคุยและทำความเข้าใจกับเด็ก ถึงความจำเป็นที่ต้องให้เด็กๆ อยู่กับพี่เลี้ยง ให้ความมั่นใจกับเด็กว่าคุณพ่อคุณแม่หาคนที่สามารถดูแลพวกเขาได้ดี
2. คุณพ่อคุณแม่ควรหาพี่เลี้ยงที่เข้ากันได้กับลูก ๆ และมีความพร้อมในการดูแลเด็ก
3. แนะนำให้ลูก ๆ ทำความรู้จักกับพี่เลี้ยง โดยอาจจะเล่าให้ฟังว่าพี่เลี้ยงเห็นใคร ชื่ออะไร คุยกับพี่ผ่านทางวิดีโอคอลก่อนวันเริ่มงานจริง เพื่อนลดความตึงเครียดในการเจอกันครั้งแรก
4. คุณพ่อคุณแม่ควรบันทึกเบอร์โทรศัพท์ของตัวเอง เบอร์โทรฉุกเฉิน และสอนให้ลูกใช้โทรศัพท์เพื่อโทรหาคุณพ่อคุณแม่ได้ หรือโทรขอความช่วยเหลือได้ในกรณีฉุกเฉิน
5. มอบหมายงานบ้านเล็ก ๆ น้อย ๆ ให้เด็ก ๆ ทำระหว่างวัน เพื่อที่เด็ก ๆ จะได้มีกิจกรรมเบนความสนใจและไม่เอาแต่จดจ่อรอเวลาคุณพ่อคุณแม่กลับบ้าน
6. เมื่อถึงเวลาที่คุณพ่อคุณแม่ต้องออกจากบ้านและต้องให้เด็ก ๆ อยู่กับพี่เลี้ยงเด็ก คุณพ่อคุณแม่ควรให้ความมั่นใจกับเด็ก ๆ ว่าพี่เลี้ยงจะดูแลเด็ก ๆ เป็นอย่างดีและย้ำว่าพวกเขาสามารถโทรหาคุณได้เสมอ
ในวันสัมภาษณ์พ่อแม่ควรตกลงอะไรกับพี่เลี้ยงเด็ก
ขั้นตอนของการสัมภาษณ์พี่เลี้ยงเด็กนั้นถือเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่ง เพราะไม่ใช่แค่คุณจะได้ทำความรู้จักกับพี่เลี้ยงที่คุณจะจ้าง แต่ในขั้นตอนนี้คุณต้องทำการตกลงกับพี่เลี้ยงเด็กก่อนเริ่มงาน ดังนั้นวันนี้ใส่ใจมีข้อแนะนำให้คุณพ่อคุณแม่ที่กำลังจะสัมภาษณ์พี่เลี้ยงเด็กและพูดคุยถึงข้อตกลงที่สำคัญมีอะไรบ้างมาดูกันค่ะ

1) ขอบเขตหน้าที่ที่คุณต้องการให้พี่เลี้ยงทำ เช่น ช่วยเลี้ยงลูกคุณขณะคุณไม่อยู่บ้าน ช่วยเตรียมกับข้าวให้ลูกน้อยรับประทานในแต่ละมื้อ ช่วยสอนการบ้านหากพี่เลี้ยงมีความสามารถ
2) วันและเวลาการทำงาน ในวันที่สัมภาษณ์คุณและพี่เลี้ยงจะต้องตกลงเรื่องวันเวลาการทำงานให้อย่างชัดเจน และคุณควรจะมีวันหยุดให้พี่เลี้ยงตาม กฎหมายกระทรวงแรงงาน นายจ้างต้องให้ลูกจ้างมีวันหยุดประจำสัปดาห์ และวันพักร้อน ได้ 6 วัน ต่อ ปี และต้องหยุดตามประเพณี ปีละไม่น้อยกว่า 13 วัน
3) ค่าจ้าง คุณจะต้องตกลงเรื่องค่าจ้างกับพี่เลี้ยงให้ชัดเจน หากพี่เลี้ยงปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างดี คุณควรที่จะเพิ่มเงินเดือนให้ตามความเหมาะสม ในกรณีที่พี่เลี้ยงเด็กทำงานในวันหยุดนายจ้างต้องจ่ายเงินค่าจ้างตามกฎหมายแรงงาน
4) ข้อตกลงในการอาศัยอยู่ในบ้าน หากคุณมีกฎระเบียบที่ต้องการให้พี่เลี้ยงเด็กปฏิบัติตามกฎที่คุณตั้งไว้ คุณต้องแจ้งให้พี่เลี้ยงเด็กรับทราบก่อนเริ่มงานเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต
5) ถ้าคุณเป็นหนึ่งคนที่ไม่อยากให้ลูกติดโทรศัพท์ คุณควรแจ้งให้พี่เลี้ยงทราบ และควรกำชับพี่เลี้ยงว่าไม่ให้ลูกของคุณเล่นโทรศัพท์ขณะที่คุณไม่อยู่ เพราะเด็กอาจได้รับผลกระทบจากการเล่นโทรศัพท์นานเกินไปจนส่งผลให้เกิดภาวะสมาธิสั้นและส่งผลกับสายตา ดังนั้นพี่เลี้ยงจะต้องหากิจกรรมที่ให้เด็กได้พัฒนาตนเองมากกว่าการเล่นโทรศัพท์มือถือ

พาเด็กเที่ยว สวนหลวง ร. 9

ตามธรรมชาติเด็กส่วนใหญ่ชอบการเคลื่อนไหว ซุกซน ไม่อยู่นิ่ง ซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งในพัฒนาการด้านร่างกายและกระบวนการคิด พ่อ แม่ ผู้ปกครอง ควรส่งเสริมให้เด็ก ๆ ได้ทำกิจกรรมต่าง ๆ โดยเฉพาะกิจกรรมกลางแจ้ง ในเขตประเวศมีสถานที่ที่เหมาะสำหรับครอบครัวได้พักผ่อนและทำกิจกรรมร่วมกัน

สวนหลวง ร. 9 ตั้งอยู่ที่ตำบลหนองบอน เขตประเวศ กรุงเทพมหานคร บนพื้นที่ 500 ไร่ สวนสาธารณะสวนหลวง ร. 9 แบ่งออกได้เป็น 6 ส่วน คือ

บริเวณที่ 1สวนสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีพื้นที่ 21 ไร่ เป็นสวนหลวงเป็นที่ตั้งของศาลาราชมังคลาฯ ด้านหน้าศาลาเป็นสวนหลวง ร. 9 สวนราชพฤกษ์ (ขี้เหล็กทวาร) และสระน้ำขนาดใหญ่ 3 สระพร้อมน้ำพุที่ประดับประดาอย่างสวยงามด้วยไม้ดอกและไม้ประดับ ภายในศาลามีห้องกระจก 9 ห้อง ที่เด็กจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับสถาบันกษัตริย์ไทย ในห้องต่างเป็นที่จัดแสดงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับ พระชนม์ชีพ สิ่งประดิษฐ์ และข้อมูลเบื้องหลังของโครงการต่าง ๆ ที่ริเริ่มโดยราชวงศ์จักรีนอกจากนี้ยังมีห้องประชุมที่มีความจุ 500 ที่นั่ง

พื้นที่ 2 สวนพฤกษศาสตร์ ภายในสวนมีเนื้อที่ 150 ไร่ และมีพันธุ์ไม้นานาชนิด พืชเหล่านี้จัดตามการจัดอนุกรมวิธานและนิเวศวิทยา พืชเหล่านี้ใช้เพื่อวัตถุประสงค์ในการวิจัย การอนุรักษ์ และการศึกษา นอกจากนี้ ยังมีสมุนไพร ห้องสมุด และสำนักงานสำหรับเจ้าหน้าที่ธุรการและด้านเทคนิคของสวนอยู่ภายใน Botanical Hall เรือนกระจกเฟิร์นและกล้วยไม้ เรือนกระจกในร่ม โดมเรขาคณิต และศาลากลางสระบัว หรือที่รู้จักในชื่อศาลาท่ากนพระเกียรติ ศาลาใช้เป็นศูนย์การประชุมหรือสัมมนา อาคารสำนักงานสวนสาธารณะสวนสาธารณะสวนหลวง ร. 9 ของกรุงเทพมหานคร มีหน้าที่หลักในการดูแลสวนตลอดจนการปลูกต้นไม้และการขยายพันธุ์

บริเวณที่ 3 อ่างเก็บน้ำ (ตระพังแก้วเก็บน้ำ) ตามพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงสร้างอ่างเก็บน้ำเพื่อลดผลกระทบจากน้ำท่วมในเขตชานเมืองด้านตะวันออกของกรุงเทพฯ และครอบคลุมพื้นที่ 40 ไร่ วันนี้อ่างเก็บน้ำเป็นที่นิยมสำหรับกีฬาทางน้ำ ศาลาชายชล ตั้งอยู่ริมฝั่งทิศเหนือของอ่างเก็บน้ำ ประกอบด้วย คณะกรรมการบริหารสำนักงานสวนสาธารณะสวนหลวง ร. 9 ร้านขายของที่ระลึกและร้านอาหาร

พื้นที่ 4 สวนรมณีย์ ใช้เนื้อที่ประมาณ 50 ไร่ สวนรมณีย์ได้รับการออกแบบให้คล้ายกับที่อยู่อาศัยและสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติที่พบได้ทั่วไปในต่างจังหวัดของประเทศไทย โขดหิน ต้นไม้ และดอกไม้ นำมาจากส่วนต่างๆ ของประเทศ และจัดเรียงให้เลียนแบบธรรมชาติ จึงนำพาผู้มาเยือนเข้าสู่ผืนป่าที่สวยงามของประเทศไทย ภูเขา น้ำตก และลำห้วยวางอยู่กลางสวน และได้ปลูกพันธุ์ไม้หอมรอบศาลาพุฒ จันทร์ สามารถชมประติมากรรมเฉลิมพระเกียรติแสดงภาพกิจกรรมของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ณ ริมฝั่งอ่างเก็บน้ำ

บริเวณที่ 5 สวนน้ำ สวนน้ำมีพื้นที่ประมาณ 40 ไร่ โดยมีพระบัญชาจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สวนน้ำ ถูกสร้างขึ้นให้มีลักษณะเป็นที่อยู่อาศัยของ 'พรุ' (บึง) ตามธรรมชาติ และเป็นที่อยู่อาศัยของนกน้ำและสัตว์น้ำชนิดอื่นๆ ผู้เข้าชมสวนสามารถศึกษารูปแบบพฤติกรรมของผู้อยู่อาศัยในสวนและเรียนรู้เกี่ยวกับพืชชนิดต่างๆ และจุดประสงค์ของสวน

พื้นที่ 6-สนามรัษฎาฯ และศูนย์กีฬาสนามรัษฎาฯ และศูนย์กีฬา ครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 70 ไร่ ศาลาดนตรีและสนามหญ้าขนาดใหญ่ด้านหน้าใช้เป็นเวทีกลางแจ้งสำหรับการแสดงต่างๆ สนามหญ้ายังถูกใช้เป็นตลาดขายไม้ประดับในช่วง 'ไม้งามประดับเทศกาลดอกไม้สวนหลวง ร. 9 ที่จัดขึ้นเมื่อต้นเดือนธันวาคม ศูนย์กีฬาประกอบด้วยสระว่ายน้ำและสนามเทนนิส สวนนานาชาติเพิ่มเติมจากหกพื้นที่ดังกล่าว สวนนานาชาติที่มีการจัดวางจากภูมิภาคต่างๆ ของโลก สามารถพบได้ในสวนสาธารณะสวนหลวง ร. 9 สวนจีนและสวนญี่ปุ่นเป็นตัวแทนของทิศตะวันออก ประเทศต่างๆ ของโลก- สเปน อังกฤษ ฝรั่งเศส และอิตาลี สวนเป็นตัวแทนของประเทศในโลกตะวันตก- สหรัฐอเมริกามีโดมทรงโดมที่ใช้สำหรับปลูกพืชทนแล้ง เช่น กระบองเพชร



เคล็ดลับเลี้ยงลูกให้มีความสุข

สำหรับคนเป็น พ่อ แม่ ผู้ปกครอง ที่ต้องดูแลเด็ก ลูก หลานคงอยากให้มีคู่มือสำหรับเลี้ยงเด็กให้ถูกต้องและสมบูรณ์ที่สุด แต่ในความเป็นจริง ไม่มีหนังสือหรือคู่มือเล่มไหนที่ถือกล้าการันตีว่า ถ้าทำตามคู่มือนี้รับรองผล 100 เปอร์เซ็นต์ว่าเด็ก ๆ จะเป็นเด็กที่เก่ง ฉลาด จิตใจดี และสุขภาพแข็งแรง เมื่อไม่มีวิธีที่เพอร์เฟค พ่อ แม่ ผู้ปกครอง ควรตระหนักว่าเด็กแต่ละคนมีความแตกต่างกัน การเลี้ยงเด็กสักคนให้เป็นคนที่มีความสุขสำคัญกว่าการเลี้ยงเด็กให้เป็นเด็กที่สมบูรณ์แบบ

คำว่า "ความสุข" มีความหมายที่แตกต่างกันสำหรับทุกคน ไม่มีเด็กคนไหนที่จะได้หรือมีความสุข ตลอด 24 ชั่วโมงทุกวัน (โชคดี!) และอารมณ์ของเด็กทุกคนก็มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว แต่สิ่งที่ พ่อ แม่ ผู้ปกครอง สามารถมอบให้และทำให้เด็กมีความสุขอย่างแน่นอนคือ

ความรัก

มีคำกล่าวอยู่ว่าการเลี้ยงลูกให้มีความสุขและมองโลกในแง่ดีเริ่มต้นด้วยพ่อแม่ ผู้ปกครอง และรวมไปถึงพี่เลี้ยงเด็ก ที่รักและแสดงความรักต่อกันและต่อเด็ก ๆ “สิ่งนี้ทำให้เด็กๆ รู้สึกปลอดภัยและเป็นรากฐานของความสุข” บอกเด็ก ๆ ของคุณทุกวันว่าคุณรักพวกเขามากแค่ไหน

เวลา

การมีเวลาให้เด็กเป็นอีกวิธีหนึ่งในการแสดงความรัก “เด็ก ๆ ต้องการเวลากับพ่อแม่ หรือผู้ปกครอง เด็กที่โตมาอย่างปลอดภัยที่สุดคือผู้ที่ได้รับเวลาจากพ่อแม่มากที่สุด” อาจเป็นเรื่องง่าย ๆ เช่น การทำกิจวัตรประจำวันหรือประจำสัปดาห์ เช่น การอ่านนิทานก่อนนอนหรือการไปกินไอศกรีม พ่อแม่ทุกคนมีงานยุ่งและงานเล็กๆ น้อยๆ ในชีวิตอาจดูเหมือนหนักหนาสาหัส แต่สิ่งสำคัญคือต้องจัดสรรเวลาทุกวันสำหรับลูก ๆ แต่ละคน

แสดงความใส่ใจและกล่าวชม

พ่อ แม่ หรือผู้ปกครอง ต้องใส่ใจ สังเกตและให้รางวัลสำหรับการตัดสินใจ และพฤติกรรมที่ดี เด็กที่ได้รับความใส่ใจและคำชมจาก พ่อแม่ หรือผู้ปกครองของพวกเขา มีแนวโน้มที่จะตัดสินใจดี ๆ ซ้ำๆ และรู้สึกมั่นใจในตัวเองมากขึ้น

เคารพสิทธิ์

"การเข้าใจถึงความแตกต่างระหว่างสิทธิและสิทธิพิเศษ" เป็นสิ่งสำคัญในการสร้างเด็กที่มีความสุข เด็กควรรู้สึกเสมอว่าคนที่ตนรักจะปกป้องสิทธิ์ของตน



ปัจจัยสำคัญเพื่อให้เด็กเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่ประสบความสำเร็จ

ดร. ฮาร์ลีย์ ร็อตบาร์ต (Dr. Harley Rotbart) แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านกุมารศาสตร์ ได้เปิดเผยผลงานวิจัยด้านพัฒนาการของเด็กเกี่ยวกับปัจจัยสำคัญที่ทำให้เด็กเติบโตขึ้นไปเป็นผู้ใหญ่ที่มีความสุขและประสบความสำเร็จ

1. ความปลอดภัย

พ่อ แม่ ผู้ปกครอง รวมถึงพี่เลี้ยงเด็ก ต้องทำให้เด็กรู้สึกปลอดภัย ดูแลเรื่องพื้นฐาน ได้แก่ ที่พัก อาหาร เครื่องนุ่งห่ม การดูแลทางการแพทย์ และการป้องกันอันตราย

2. ความมั่นคง

ความมั่นคงมาจากครอบครัวและชุมชน พ่อ แม่ ผู้ปกครองควรให้เด็กส่วนหนึ่งของครอบครัว เด็กมีสิทธิ์ที่จะแสดงความคิดเห็น ให้เด็กมีตัวตน เป็นที่รู้จักและให้เด็กรู้สึกถึงความเป็นเจ้าของและเป็นส่วนหนึ่งของชุมชน

3. ความสม่ำเสมอ

พ่อ แม่ ผู้ปกครองและพี่เลี้ยงเด็ก ควรดูแลเด็กไปในแนวทางเดียวกัน ไม่ใช่ พ่อสอนแบบหนึ่ง แต่แม่สอนอีกแบบ จะทำให้เด็กเกิดความสับสน และไม่รู้ว่าต้องปฏิบัติตัวเช่นไรกันแน่

4.การสนับสนุนทางอารมณ์

คำพูดและการกระทำของผู้ปกครองควรส่งเสริมความไว้วางใจ ความเคารพ ความนับถือตนเอง และความเป็นอิสระของเด็กในที่สุด

5. ความรัก

การพูดและแสดงความรักต่อเด็ก ๆ จะช่วยแก้ไขปัญหาได้ในเกือบทุกสถานการณ์ แม้ว่าเด็กจะไม่เชื่อฟัง โกรธ หงุดหงิด และต่อต้าน สิ่งที่ พ่อ แม่ ผู้ปกครอง พยายามสอน จงแสดงให้เด็กว่าคุณรักพวกเขาและคุณจะรักพวกเขาตลอดไป

6. การศึกษา

พ่อ แม่ และผู้ปกครอง ควรให้เด็กได้รับการศึกษาที่ดีที่สุดสำหรับอนาคตของพวกเขา ไม่ใช่แค่โรงเรียนแต่ยังรวมถึงบทเรียนชีวิตอันล้ำค่าที่คุณให้ไว้ในช่วงเวลาที่คุณใช้ร่วมกัน

7. แบบอย่างที่ดี

พ่อแม่เป็นแบบอย่างแรกและสำคัญที่สุดของลูก ปลูกฝังค่านิยมและสอนเด็ก ๆ ให้เอาใจใส่ด้วยการเป็นคนแบบที่คุณอยากให้พวกเขาเป็น

8. โครงสร้าง

กฎ ขอบเขต และข้อจำกัด: หากไม่มีสิ่งเหล่านี้ เด็ก ๆ จะถูกบังคับให้เป็นผู้ใหญ่ก่อนที่พวกเขาจะพร้อม และพวกเขาสูญเสียความเคารพต่อคุณและผู้ใหญ่คนอื่นๆ