ดูแลเด็ก ใน ประเวศ, กรุงเทพมหานคร

ดูแลเด็ก ใน ประเวศ, กรุงเทพมหานคร

คุณต้องการใช้บริการนี้เมื่อไหร่?
ตอนนี้
ระบุวันที่

วิธีการทำงาน

Saijai

ติดต่อเรา

ติดต่อเราโดยตรงผ่าน LINE OA เพื่อจองบริการที่คุณต้องการ

Saijai

แจ้งรายละเอียดให้เราทราบ

เลือกบริการ วันที่ เวลา และสถานที่ที่คุณต้องการให้ตรงกับความต้องการของคุณ

Saijai

ยืนยันการจองของคุณ

เราจะยืนยันการจองของคุณภายใน 24 ชั่วโมงผ่านทาง LINE OA

ญาณิศา  เฟื่องฟู
ญาณิศา เฟื่องฟู
Saijai ประสบการณ์ 1-2 ปี

สวัสดีค่ะชื่อแพ็คนะคะเป็นคนซื่อสัตย์ค่ะเต็มที่กับงานสามารถแยกแยะเรื่องส่วนตัวกับการทำงานได้มีความรับผิดชอบ ชอบเล่นกับเด็กรักเด็กชอบทำอาหารขับรถได้ค่ะเรียนจบมหาวิทยาลัยรามคำแหงคณะรัฐศาสตร์

การทำงาน ทำงานกับเด็กมาตลอดชีวิตเลยถนัดในการทำงานที่เกี่ยวข้องกับเด็กทำแล้วมีความสุขค่ะอยากช่วยปลูกฝั่งเด็กๆทุกคนให้โตมาเเบบมีศักยภาพ

แสดงเพิ่มเติม
อังคณา ภักดิ์ชัยภูมิ
อังคณา ภักดิ์ชัยภูมิ

อดทน มีความตั้งใจในการทำงาน ขยัน

แสดงเพิ่มเติม
อลิสา  อารีย์
อลิสา อารีย์
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี

ดิฉันอลิสา อารีย์ ปัจจุบันอายุ 52 ปี ประสบการณ์การทำงาน 15 ปีขึ้นไป จบหลักสูตรพี่เลี้ยงเด็กจาก รพ.ศิริราช ดูแลเด็กแรกเกิดจนถึง 6 ปี แล้วแต่อายุงาน

แสดงเพิ่มเติม
วิมลทิพย์  โถสโมสร
วิมลทิพย์ โถสโมสร
Saijai ประสบการณ์ 0-1 ปี

กำลังศีกษาหลักสูตร NA ค่ะ

แสดงเพิ่มเติม
เบญญาภา โฉมแพ
เบญญาภา โฉมแพ
Saijai ประสบการณ์ 0-1 ปี

สวัสดีคะ ชื่อเบญ จบป.ตรี มีประสบการณ์ครูพี่เลี้ยงเนอสซารี่ รร.นานาชาติ ครูพี่เลี้ยงตามบ้าน ไม่มีลูกคะ อยากมีลูกเลยมารับเลี้ยงเด็กแทน

แสดงเพิ่มเติม

สวัสดีค่ะ ชื่อรภัทร เมธินรัตน์ หรือแอมมี่นะคะ ตอนนี้อายุ 27 ค่ะ จบการศึกษาจากคณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต มีความสนใจเกี่ยวกับจิตวิทยาจึงได้มีการศึกษาเพิ่มเติมในส่วนของจิตวิทยาเด็ก จนถึงผู้ใหญ่ ซึ่งเชื่อว่าทักษะที่ได้เรียนรู้มา สามารถนำมาทำงานด้านนี้ หรือที่เกี่ยวข้องได้อย่างดี นอกเหนือจากนี้แล้วยังมีความสามารถด้านอื่นเพิ่มเติม เช่น ความสามารถด้านศิลปะ (สามารถเป็นติวเตอร์ หรือให้ความรู้ด้านศิลปะได้), ความสามารถด้านการให้คำปรึกษา (เรื่องเรียน, บุคลิกภาพ), ความสามารถด้านนาฏศิลป์ไทย, และอื่นๆ เป็นคนมีความสามารถที่หลากหลาย สามารถทำงานได้ multi skills มีความอดทน เข้ากับผู้อื่นได้งาน มีความตรงต่อเวลา ซื่อสัตย์และมีความรับผิดชอบ

แสดงเพิ่มเติม
พิมพ์พิชญา แสนลุน
พิมพ์พิชญา แสนลุน
Saijai ประสบการณ์ 3-4 ปี
Saijai อายุ 19 ปี

ยิ้มเก่ง มีมารยาท รักเด็ก

แสดงเพิ่มเติม
วาสนา แหยมแก้ว
วาสนา แหยมแก้ว
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี
Saijai อายุ 46 ปี

ใจเย็น มีความรู้ด้านศิลปะ ช่วยเสิรมสร้างพัฒนาเด็ก

แสดงเพิ่มเติม
อรวรรณ มีมุข
อรวรรณ มีมุข
Saijai ประสบการณ์ 0-1 ปี

สวัสดีค่ะ ชื่อจอยนะคะ อายุ 22 ปีค่ะ เพิ่งจบปริญญาตรีจากมหาวิทยาลันหอการค้าไทย สาขาภาษาอังกฤษและการแปลค่ะ เคยช่วยพี่เลี้ยงหลานตอนช่วงปิดเทอมค่ะ และตอนนี้อยากหาประสบการณ์เลี้ยงเด็กเพิ่มค่ะ เพื่อที่จะสมัครเป็นออแพร์ที่ต่างประเทศค่ะ เป็นคนใจเย็นและใจดีค่ะ สามารถสอนภาษาอังกฤษน้องและสอนการบ้านน้องได้ค่ะ เข้ากับเด็กได้ดีและชอบอยู่กับเด็กค่ะ

แสดงเพิ่มเติม
กัญชพร เชื้อแถว
กัญชพร เชื้อแถว
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี

งานประจำเป็นครูพี่เลี้ยงอยู่เนอสเซอรี่ ทำงานมา 6 ปี เป็นคนขี้เล่น เฟรนลี่ อยู่ที่ทำงานเป็นครูผู้นำสอนน้องทำกิจกรรมในด้านพัฒนาการต่างๆ

แสดงเพิ่มเติม
เพรียวพร ลูกเพชร
เพรียวพร ลูกเพชร
Saijai อายุ 22 ปี

มีประสบการณ์ เป็นพี่เลี้ยงเด็กในศูนย์เลี้ยงเด็ก 4 เดือน สามารถดูแลเด็กอายุ 4 ขวบขึ้นไป รับวัคซีนแล้ว 3 เข็ม สะดวกให้บริการสะดวกรับตามสถานที่ที่เดินทางโดย mrt สอนภาษาอังกฤษได้ เล่นกีต้าเป็น วาดรูปและร้องเพลงได้ สามารถเป็นเพื่อนน้องทำกิจกรรมที่เหมาะสมตามวัยได้ค่ะ

แสดงเพิ่มเติม

ชื่อหนิงค่ะ ได้รับวัคซีนครบ 2 เข็ม ทำงานสอนดนตรี(กีตาร์คลาสสิก) สอนตั้งแต่เด็กจนถึงผู้ใหญ่ รวมถึงสอนเด็กที่มีความพิเศษ(ออทิสติกด้วยค่ะ) มีกิจกรรมที่ทำกับเด็กอยู่เรื่อยๆค่ะ รักเด็ก ชอบอยู่กับเด็กๆค่ะ

แสดงเพิ่มเติม
นรีรัตน์  ฝอยทอง
นรีรัตน์ ฝอยทอง
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี
ผ่านการตรวจสอบประวัติบุคคล

สนใจงานพี่เลี้ยงเด็กค่ะ มีประสบการณ์บ้านนายจ้างมา8ปี เลี้ยงได้ตั้งแต่แรกเกิดจนถึงเด็กโต ตอนนี้ว่างงานอยู่ค่ะ กำลังมองหางาน สามารถรับฟังและเรียนรุ้สิ่งใหม่ๆ ได้ค่ะ

แสดงเพิ่มเติม
ชลาลัย แสงอร่าม
ชลาลัย แสงอร่าม
ผ่านการตรวจสอบประวัติบุคคล

สวัสดีค่ะ ชื่อกิ๊ฟนะคะ เป็นคนรักเด็กถึงไม่มีลูกเป็นของตัวเองแต่มีหลานที่รักมากๆ ค่ะ เราจะดูแลลูกหลานคุณให้เหมือนดูแลหลานเราเลยค่ะ ปัจุบันทำงานประจำอยู่อยากหารายได้เพิ่ม โดยดูแลเด็กหลังเลิกเรียน หรือ เสาร์ อาทิตย์ ฝากพิจารณาด้วยนะคะ

แสดงเพิ่มเติม
วริวรรณ อยู่ไพร
วริวรรณ อยู่ไพร
Saijai ประสบการณ์ 0-1 ปี
Saijai อายุ 36 ปี
ศิริวิมล ทรงศิริ
ศิริวิมล ทรงศิริ
Saijai ประสบการณ์ 0-1 ปี
Saijai อายุ 41 ปี

ที่บ้านมีห้องแอร์สถานที่ให้วิ่งเล่น เรียนได้เกรดเฉลี่ยอยู่ที่ 3.40 เรียนโรงเรียนเทพศิรินทร์ร่มเกล้า มีประสบการณ์ดูแลหลานๆของตนเองหลายคน มากกว่า5คน ตั้งแต่อายุ 1 ขวบ ถึง 15 ปี

แสดงเพิ่มเติม
อานนท์ ทองแสง
อานนท์ ทองแสง
Saijai ประสบการณ์ 1-2 ปี
Saijai อายุ 29 ปี

ผมเป็นคนสุภาพ เรียบร้อย ไม่ยุ่งอบายมุข ไม่พูดคำหยาบ ตั้งใจทำงานที่ได้รับมอบหมาย ทำได้ทุกอย่างครับ สอนได้ทุกวิชา ค่าจ้างเป็นต่อชั่วโมงหรือให้เป็นรายเดือนก็ได้ครับ

แสดงเพิ่มเติม
Piyatida Dumluck
Piyatida Dumluck
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี
Saijai อายุ 38 ปี
Pavana Suntudchaiyo
Pavana Suntudchaiyo
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี
Saijai อายุ 56 ปี

I am in good health, kind and responsible, polite and gentle. สุภาพ สุขภาพแข็งแรง พูดเพราะ มีความรับผิดชอบ

แสดงเพิ่มเติม

ข้อมูลสถิติน่าสนใจเกี่ยวกับ

Saijai จำนวนประชากร
Saijai จำนวนประชากรเด็ก (แรกเกิด-14 ปี)
Saijai จำนวนประชากรสูงอายุ (60 ปี ขึ้นไป)
Saijai จำนวนสัตว์เลี้ยง สุนัข

รีวิวล่าสุด

ลาคลอดได้แค่ 3 เดือน ค่ะ ต้องกลับไปทำงานต่อ จะฝากลูกไว้กับยายก็กลัวแกจะดูไม่ไหว เลยลองหาพี่เลี้ยงจากเว็บใส่ใจดู ตอนแรกก็กังวลอยู่เหมือนกันค่ะ ไม่กล้าทิ้งลูกไว้กับพี่เลี้ยง แต่ก็วางใจอย่างนึงว่าพี่เลี้ยงมีประสบการณ์ ตอนนี้ทุกอย่างลงตัว โอเคมาก ๆ ค่ะ
Saijai
สุชาดา มิ่งมงคล
3 ปีที่แล้ว
เปลี่ยนพี่เลี้ยงเด็กมาหลายคน ส่วนมากราคาสูง ๆ ทั้งนั้น แต่อยู่ไม่ได้นานก็ลาออก ลองจองพี่เลี้ยงผ่านเวปใส่ใจ เยี่ยมมากเลยครับ แฟนสบายใจ หมดปัญหา ไม่ต้องจ้างพี่เลี้ยงราคาแพง ได้ราคาแบบสมเหตุสมผล แถมมีคุณภาพครับ
Saijai
จิตวัชร จันประทีป
3 ปีที่แล้ว
บ้านอยู่แถว สุขุมวิท71 ลองใช้เว็บใส่ใจครั้งแรก เพราะเพื่อนๆ แนะนำมา อยากได้พี่เลี้ยงเด็ก มองหามาหลายที่ ที่นี่รายละเอียดครบ ราคาชัดเจน โทรปรึกษาพนักงานก็อธิบายเข้าใจง่ายมาก สะดวกสบาย ง่ายกว่า search หาเองใน Google ชอบมากๆ ค่ะ
Saijai
นงคราญ แซ่ตั้ง
3 ปีที่แล้ว
ลูกยังเล็กเราจ้างพี่เลี้ยงมา ตกลงเวลาเริ่มงาน 9.30-17.30 น. (พี่เลี้ยงมา 8.30 น. ทุกวัน ) ประสบการณ์ เคยดูแล เด็กเล็ก 4 เดือน – 2 ขวบ พอเด็กเข้าโรงเรียน ก็ว่าง พอดีที่บ้านช่วยกันหา เจอเว็บนี้เห็นรีวิวประสบการณ์คนเลี้ยงเลย คุยดู พี่เลี้ยงทำงานดีมาก่อนเวลา เตรียมของใช้ ทำงานเป็นระเบียบเหมือนอบรมมาดี อุ่นใจ คิดถูกที่ใช้บริการใส่ใจ แนะนำค่ะ
Saijai
ณัฐวรรณ แสงสีเงิน
3 ปีที่แล้ว
ลองค้นหาบริการพี่เลี้ยงเด็กอยู่หลายที่ จนได้มาเจอเว็บใส่ใจ ลองเข้าไปดู รู้สึกว่าทุกอย่างเป็นไปอย่างมีขั้นตอน เริ่มตั้งแต่ให้เลือกพี่เลี้ยง ขั้นตอนนัดสัมภาษณ์ รายละเอียดและคำแนะนำต่าง ๆ พี่เลี้ยงที่ได้มาก็ตรงตามความต้องการสุด ๆ รู้สึกประทับใจมาก
Saijai
ณัฐณิชา ทิวาสวัสดิ์
3 ปีที่แล้ว

คำถามที่พบบ่อยสำหรับการค้นหา ดูแลเด็ก

หากคุณพ่อคุณแม่ต้องทำงานนอกบ้านและไม่มีเวลาเลี้ยงลูกเอง ลองเปรียบเทียบกันระหว่างส่งลูกไปเนอสเซอรี่และจ้างพี่เลี้ยงเด็กมาดูแลลูกที่บ้าน อะไรจะตรงใจคุณพ่อคุณแม่มากที่สุด
บริการรับเลี้ยงเด็กในปัจจุบันมีหลายทางเลือก ไม่ว่าจะเป็นพี่เลี้ยงเด็ก หรือเนอสเซอรี่ เรามาดูข้อดีข้อเสียกันเลยค่ะ

ข้อดีของพี่เลี้ยงเด็กที่บ้านมีดังนี้

1) พี่เลี้ยงสามารถดูแลลูกน้อยของคุณได้อย่างใกล้ชิด ลูกของคุณจะได้รับความเอาใจใส่ที่ส่งผลต่อพัฒนาการเด็กทางด้านอารมณ์
2) พี่เลี้ยงสามารถช่วยส่งเสริมพัฒนาการเด็กผ่านการทำกิจกรรมต่าง
3) พ่อแม่ประหยัดเวลามากขึ้น หากจ้างพี่เลี้ยงมาดูแลที่บ้าน
4) เด็กจะไม่ป่วยบ่อย เนื่องจากเด็กจะอยู่ในบ้านของตนเอง

ข้อดีของเนอสเซอรี่

1) เด็ก ๆ จะรู้จักการเข้าสังคม
2) เนอสเซอรี่มีบริเวณกว้างเพื่อให้เด็กได้ทำกิจกรรมหลากหลายรูปแบบ
3) เด็กจะได้ฝึกดูแลตัวเอง เพราะครูพี่เลี้ยงไม่ได้ดูแลเด็กแบบใกล้ชิด

ข้อเสียของพี่เลี้ยง

1) ค่าใช้จ่ายอาจจะสูงกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับเข้าศูนย์เนอสเซอรี่
2) เด็กอาจจะติดพี่เลี้ยงเกินไป
3) ลดความเป็นส่วนตัวของครอบครัว

ข้อเสียของเนอสเซอรี่

1) เด็กป่วยบ่อยเพราะมีภูมิคุ้มกันที่น้อยเนื่องจากอยู่กับเด็กหลายคน
2) ลูกจะไม่ได้รับการดูแลใกล้ชิดแบบตัวต่อตัวอาจส่งผลถึงอารมณ์ของเด็กได้
3) เด็กจะอยู่ห่างไกลจากพ่อแม่

หากคุณพ่อคุณแม่กำลังมองหาบริการพี่เลี้ยงเด็ก ใส่ใจมีบริการพี่เลี้ยงมืออาชีพที่พร้อมจะให้บริการคุณค่ะ
คุณสมบัติอะไรบ้างที่พ่อแม่ควรมองหาจากพี่เลี้ยงเด็กก่อนตกลงจ้าง
ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่คุณพ่อคุณแม่สักคนจะตัดสินใจหาใครมาดูแลลูกน้อยที่เปรียบเสมือนแก้วตาดวงใจ วันนี้ใส่ใจมีข้อมูลของทักษะและคุณสมบัติที่พี่เลี้ยงเด็กควรมีมาฝากให้คุณพ่อคุณแม่ลองเช็คกันดูก่อนตัดสินใจจ้างพี่เลี้ยงสักคน

1. พี่เลี้ยงเด็กต้องมีความอดทนสูง คุณพ่อคุณแม่ต้องมั่นใจว่าพี่เลี้ยงเด็กต้องมีความเข้าใจเด็ก สามารถรับมือกับสถานการณ์ต่าง ๆ ได้ดี และที่สำคัญที่สุดคือเป็นคนที่มีความอดทนสูง
2. พี่เลี้ยงเด็กควรรู้วิธีการปฐมพยาบาลเบื้องต้น ในกรณีเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดหรืออุบัติเหตุ พี่เลี้ยงต้องมีความรู้และทักษะการปฐมพยาบาลเบื้องต้น และสามารถช่วยเหลือเด็กได้ทันที เช่น เด็กที่อยู่ภายใต้การดูแลเกิดอุบัติเหตุหกล้ม มีแผลถลอก พี่เลี้ยงต้องรีบปฐมพยาบาลเบื้องต้นเพื่อไม่ให้เกิดการติดเชื้อของแผล เป็นต้น ดังนั้นคุณพ่อและคุณแม่ควรเลือกพี่เลี้ยงที่มีทักษะด้านการปฐมพยาบาลเบื้องต้นเพราะเป็นสิ่งจำเป็นมาก ๆ
3. พี่เลี้ยงเด็กควรมีทักษะการแก้ไขปัญหา พี่เลี้ยงจะต้องรู้วิธีการแก้ไขปัญหาเบื้องต้นได้โดยไม่จำเป็นต้องแจ้งผู้ว่าจ้างเสมอไปหากปัญหานั้นไม่ใช่ปัญหาที่ร้ายแรง
4. ทำอาหารเป็น ถือเป็นอีกหนึ่งทักษะที่พี่เลี้ยงเด็กจำเป็นต้องมี พี่เลี้ยงไม่ได้มีหน้าที่แค่ดูแลเด็กอย่างเดียวเท่านั้น แต่พี่เลี้ยงอาจจะต้องเตรียมอาหารให้เด็ก ๆ รับประทานในแต่ละมื้อด้วย หากอาหารอร่อยถูกปาก เด็กจะเจริญอาหารและอารมณ์ดี ที่สำคัญที่สุดที่พี่เลี้ยงต้องใส่ใจและจดจำด้วยว่าเด็ก ๆ ที่ดูแลนั้น แพ้อาหารอะไรบ้าง เพื่อป้องกันอุบัติเหตุที่อาจจะเกิดขึ้นจากการรับประทานสิ่งที่แพ้เข้าไป
5. มีความคิดสร้างสรรค์ในการส่งเสริมพัฒนาการเด็ก พี่เลี้ยงจะต้องเป็นคนที่มีความคิดสร้างสรรค์ สามารถร่วมทำกิจกรรมกับเด็ก ๆ ในระหว่างวัน ไม่ว่าจะเป็นทางด้านวิชาการหรือสันทนาการ เช่น พี่เลี้ยงเด็กอาจจะสอนเด็กนับเลข ฝึกการอ่าน หรือระบายสีเพื่อให้เด็กได้เรียนรู้ผ่านกิจกรรมที่สร้างสรรค์เหล่านี้
อะไรที่จะช่วยให้คุณพ่อคุณแม่คลายความกังวลเมื่อต้องปล่อยให้ลูก ๆ อยู่กับพี่เลี้ยงตามลำพัง
เมื่อคุณพ่อคุณแม่จำเป็นต้องจ้างพี่เลี้ยงมาดูแลลูก ๆ ของคุณ ความไว้วางใจและความน่าเชื่อถือเป็นหัวใจสำคัญในการตัดสินใจ คุณพ่อคุณแม่มีวิธีการใดบ้างที่จะหาพี่เลี้ยงที่วางใจได้ ใส่ใจมีวิธีการที่ช่วยให้คุณพ่อคุณแม่รู้จักตัวตนของพี่เลี้ยงเด็กมากขึ้น

1. ถือเป็นการเริ่มต้นที่ดีหากครอบครัวหรือเพื่อนของคุณพ่อคุณแม่เป็นผู้แนะนำพี่เลี้ยงเด็กที่พวกเขารู้จัก อย่างน้อยก็มีคนรับรองพวกเขาได้ แต่สิ่งสำคัญก็คือต้องทำการสัมภาษณ์พี่เลี้ยงเด็กและตรวจสอบประวัติของคุณเองเพื่อให้แน่ใจว่าเชื่อถือได้มากที่สุด
2. สำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่มองหาพี่เลี้ยงจากสื่อออนไลน์ หรือโซเชียลมีเดีย (Social Media) เช่น เฟสบุ๊ค หรือไลน์ มองหาพี่เลี้ยงเด็กที่มีรีวิวจากผู้ที่เคยใช้บริการก่อนหน้า ใช้เวลาอ่านและศึกษารีวิวเหล่านั้น
3. เชื่อสัญชาตญาณของตัวเอง เมื่อคุณพ่อคุณแม่มีโอกาสสัมภาษณ์พี่เลี้ยงเด็กก่อนเริ่มงาน หากมีสัญญาณที่ทำให้คุณพ่อคุณแม่รู้สึกไม่สบายใจ เช่น พี่เลี้ยงเด็กดูเป็นคนไม่กระตือรือร้น หรือไม่ยิ้มแย้มแจ่มใส จงเชื่อสัญชาตญาณของตัวเองที่ชี้ว่าคนคนนี้ไม่เหมาะสมกับงาน
4. ตรวจสอบประวัติ คุณพ่อคุณแม่อาจร้องขอให้พี่เลี้ยงตรวจสอบประวัติอาชญากรรมกับกองทะเบียนประวัติอาชญากร( http://www.criminal.police.go.th/ ) เพื่อให้แน่ใจว่าพี่เลี้ยงเด็กไม่มีประวัติกระทำผิดกฎหมายทั้งหมดนี้เป็นส่วนหนึ่งที่คุณพ่อคุณแม่สามารถทำได้เพื่อตรวจสอบความน่าเชื่อถือและช่วยในการตัดสินใจ
ในวันสัมภาษณ์พ่อแม่ควรตกลงอะไรกับพี่เลี้ยงเด็ก
ขั้นตอนของการสัมภาษณ์พี่เลี้ยงเด็กนั้นถือเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่ง เพราะไม่ใช่แค่คุณจะได้ทำความรู้จักกับพี่เลี้ยงที่คุณจะจ้าง แต่ในขั้นตอนนี้คุณต้องทำการตกลงกับพี่เลี้ยงเด็กก่อนเริ่มงาน ดังนั้นวันนี้ใส่ใจมีข้อแนะนำให้คุณพ่อคุณแม่ที่กำลังจะสัมภาษณ์พี่เลี้ยงเด็กและพูดคุยถึงข้อตกลงที่สำคัญมีอะไรบ้างมาดูกันค่ะ

1) ขอบเขตหน้าที่ที่คุณต้องการให้พี่เลี้ยงทำ เช่น ช่วยเลี้ยงลูกคุณขณะคุณไม่อยู่บ้าน ช่วยเตรียมกับข้าวให้ลูกน้อยรับประทานในแต่ละมื้อ ช่วยสอนการบ้านหากพี่เลี้ยงมีความสามารถ
2) วันและเวลาการทำงาน ในวันที่สัมภาษณ์คุณและพี่เลี้ยงจะต้องตกลงเรื่องวันเวลาการทำงานให้อย่างชัดเจน และคุณควรจะมีวันหยุดให้พี่เลี้ยงตาม กฎหมายกระทรวงแรงงาน นายจ้างต้องให้ลูกจ้างมีวันหยุดประจำสัปดาห์ และวันพักร้อน ได้ 6 วัน ต่อ ปี และต้องหยุดตามประเพณี ปีละไม่น้อยกว่า 13 วัน
3) ค่าจ้าง คุณจะต้องตกลงเรื่องค่าจ้างกับพี่เลี้ยงให้ชัดเจน หากพี่เลี้ยงปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างดี คุณควรที่จะเพิ่มเงินเดือนให้ตามความเหมาะสม ในกรณีที่พี่เลี้ยงเด็กทำงานในวันหยุดนายจ้างต้องจ่ายเงินค่าจ้างตามกฎหมายแรงงาน
4) ข้อตกลงในการอาศัยอยู่ในบ้าน หากคุณมีกฎระเบียบที่ต้องการให้พี่เลี้ยงเด็กปฏิบัติตามกฎที่คุณตั้งไว้ คุณต้องแจ้งให้พี่เลี้ยงเด็กรับทราบก่อนเริ่มงานเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต
5) ถ้าคุณเป็นหนึ่งคนที่ไม่อยากให้ลูกติดโทรศัพท์ คุณควรแจ้งให้พี่เลี้ยงทราบ และควรกำชับพี่เลี้ยงว่าไม่ให้ลูกของคุณเล่นโทรศัพท์ขณะที่คุณไม่อยู่ เพราะเด็กอาจได้รับผลกระทบจากการเล่นโทรศัพท์นานเกินไปจนส่งผลให้เกิดภาวะสมาธิสั้นและส่งผลกับสายตา ดังนั้นพี่เลี้ยงจะต้องหากิจกรรมที่ให้เด็กได้พัฒนาตนเองมากกว่าการเล่นโทรศัพท์มือถือ

พาเด็กเที่ยว สวนหลวง ร. 9

ตามธรรมชาติเด็กส่วนใหญ่ชอบการเคลื่อนไหว ซุกซน ไม่อยู่นิ่ง ซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งในพัฒนาการด้านร่างกายและกระบวนการคิด พ่อ แม่ ผู้ปกครอง ควรส่งเสริมให้เด็ก ๆ ได้ทำกิจกรรมต่าง ๆ โดยเฉพาะกิจกรรมกลางแจ้ง ในเขตประเวศมีสถานที่ที่เหมาะสำหรับครอบครัวได้พักผ่อนและทำกิจกรรมร่วมกัน

สวนหลวง ร. 9 ตั้งอยู่ที่ตำบลหนองบอน เขตประเวศ กรุงเทพมหานคร บนพื้นที่ 500 ไร่ สวนสาธารณะสวนหลวง ร. 9 แบ่งออกได้เป็น 6 ส่วน คือ

บริเวณที่ 1สวนสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีพื้นที่ 21 ไร่ เป็นสวนหลวงเป็นที่ตั้งของศาลาราชมังคลาฯ ด้านหน้าศาลาเป็นสวนหลวง ร. 9 สวนราชพฤกษ์ (ขี้เหล็กทวาร) และสระน้ำขนาดใหญ่ 3 สระพร้อมน้ำพุที่ประดับประดาอย่างสวยงามด้วยไม้ดอกและไม้ประดับ ภายในศาลามีห้องกระจก 9 ห้อง ที่เด็กจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับสถาบันกษัตริย์ไทย ในห้องต่างเป็นที่จัดแสดงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับ พระชนม์ชีพ สิ่งประดิษฐ์ และข้อมูลเบื้องหลังของโครงการต่าง ๆ ที่ริเริ่มโดยราชวงศ์จักรีนอกจากนี้ยังมีห้องประชุมที่มีความจุ 500 ที่นั่ง

พื้นที่ 2 สวนพฤกษศาสตร์ ภายในสวนมีเนื้อที่ 150 ไร่ และมีพันธุ์ไม้นานาชนิด พืชเหล่านี้จัดตามการจัดอนุกรมวิธานและนิเวศวิทยา พืชเหล่านี้ใช้เพื่อวัตถุประสงค์ในการวิจัย การอนุรักษ์ และการศึกษา นอกจากนี้ ยังมีสมุนไพร ห้องสมุด และสำนักงานสำหรับเจ้าหน้าที่ธุรการและด้านเทคนิคของสวนอยู่ภายใน Botanical Hall เรือนกระจกเฟิร์นและกล้วยไม้ เรือนกระจกในร่ม โดมเรขาคณิต และศาลากลางสระบัว หรือที่รู้จักในชื่อศาลาท่ากนพระเกียรติ ศาลาใช้เป็นศูนย์การประชุมหรือสัมมนา อาคารสำนักงานสวนสาธารณะสวนสาธารณะสวนหลวง ร. 9 ของกรุงเทพมหานคร มีหน้าที่หลักในการดูแลสวนตลอดจนการปลูกต้นไม้และการขยายพันธุ์

บริเวณที่ 3 อ่างเก็บน้ำ (ตระพังแก้วเก็บน้ำ) ตามพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงสร้างอ่างเก็บน้ำเพื่อลดผลกระทบจากน้ำท่วมในเขตชานเมืองด้านตะวันออกของกรุงเทพฯ และครอบคลุมพื้นที่ 40 ไร่ วันนี้อ่างเก็บน้ำเป็นที่นิยมสำหรับกีฬาทางน้ำ ศาลาชายชล ตั้งอยู่ริมฝั่งทิศเหนือของอ่างเก็บน้ำ ประกอบด้วย คณะกรรมการบริหารสำนักงานสวนสาธารณะสวนหลวง ร. 9 ร้านขายของที่ระลึกและร้านอาหาร

พื้นที่ 4 สวนรมณีย์ ใช้เนื้อที่ประมาณ 50 ไร่ สวนรมณีย์ได้รับการออกแบบให้คล้ายกับที่อยู่อาศัยและสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติที่พบได้ทั่วไปในต่างจังหวัดของประเทศไทย โขดหิน ต้นไม้ และดอกไม้ นำมาจากส่วนต่างๆ ของประเทศ และจัดเรียงให้เลียนแบบธรรมชาติ จึงนำพาผู้มาเยือนเข้าสู่ผืนป่าที่สวยงามของประเทศไทย ภูเขา น้ำตก และลำห้วยวางอยู่กลางสวน และได้ปลูกพันธุ์ไม้หอมรอบศาลาพุฒ จันทร์ สามารถชมประติมากรรมเฉลิมพระเกียรติแสดงภาพกิจกรรมของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ณ ริมฝั่งอ่างเก็บน้ำ

บริเวณที่ 5 สวนน้ำ สวนน้ำมีพื้นที่ประมาณ 40 ไร่ โดยมีพระบัญชาจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สวนน้ำ ถูกสร้างขึ้นให้มีลักษณะเป็นที่อยู่อาศัยของ 'พรุ' (บึง) ตามธรรมชาติ และเป็นที่อยู่อาศัยของนกน้ำและสัตว์น้ำชนิดอื่นๆ ผู้เข้าชมสวนสามารถศึกษารูปแบบพฤติกรรมของผู้อยู่อาศัยในสวนและเรียนรู้เกี่ยวกับพืชชนิดต่างๆ และจุดประสงค์ของสวน

พื้นที่ 6-สนามรัษฎาฯ และศูนย์กีฬาสนามรัษฎาฯ และศูนย์กีฬา ครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 70 ไร่ ศาลาดนตรีและสนามหญ้าขนาดใหญ่ด้านหน้าใช้เป็นเวทีกลางแจ้งสำหรับการแสดงต่างๆ สนามหญ้ายังถูกใช้เป็นตลาดขายไม้ประดับในช่วง 'ไม้งามประดับเทศกาลดอกไม้สวนหลวง ร. 9 ที่จัดขึ้นเมื่อต้นเดือนธันวาคม ศูนย์กีฬาประกอบด้วยสระว่ายน้ำและสนามเทนนิส สวนนานาชาติเพิ่มเติมจากหกพื้นที่ดังกล่าว สวนนานาชาติที่มีการจัดวางจากภูมิภาคต่างๆ ของโลก สามารถพบได้ในสวนสาธารณะสวนหลวง ร. 9 สวนจีนและสวนญี่ปุ่นเป็นตัวแทนของทิศตะวันออก ประเทศต่างๆ ของโลก- สเปน อังกฤษ ฝรั่งเศส และอิตาลี สวนเป็นตัวแทนของประเทศในโลกตะวันตก- สหรัฐอเมริกามีโดมทรงโดมที่ใช้สำหรับปลูกพืชทนแล้ง เช่น กระบองเพชร



เคล็ดลับเลี้ยงลูกให้มีความสุข

สำหรับคนเป็น พ่อ แม่ ผู้ปกครอง ที่ต้องดูแลเด็ก ลูก หลานคงอยากให้มีคู่มือสำหรับเลี้ยงเด็กให้ถูกต้องและสมบูรณ์ที่สุด แต่ในความเป็นจริง ไม่มีหนังสือหรือคู่มือเล่มไหนที่ถือกล้าการันตีว่า ถ้าทำตามคู่มือนี้รับรองผล 100 เปอร์เซ็นต์ว่าเด็ก ๆ จะเป็นเด็กที่เก่ง ฉลาด จิตใจดี และสุขภาพแข็งแรง เมื่อไม่มีวิธีที่เพอร์เฟค พ่อ แม่ ผู้ปกครอง ควรตระหนักว่าเด็กแต่ละคนมีความแตกต่างกัน การเลี้ยงเด็กสักคนให้เป็นคนที่มีความสุขสำคัญกว่าการเลี้ยงเด็กให้เป็นเด็กที่สมบูรณ์แบบ

คำว่า "ความสุข" มีความหมายที่แตกต่างกันสำหรับทุกคน ไม่มีเด็กคนไหนที่จะได้หรือมีความสุข ตลอด 24 ชั่วโมงทุกวัน (โชคดี!) และอารมณ์ของเด็กทุกคนก็มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว แต่สิ่งที่ พ่อ แม่ ผู้ปกครอง สามารถมอบให้และทำให้เด็กมีความสุขอย่างแน่นอนคือ

ความรัก

มีคำกล่าวอยู่ว่าการเลี้ยงลูกให้มีความสุขและมองโลกในแง่ดีเริ่มต้นด้วยพ่อแม่ ผู้ปกครอง และรวมไปถึงพี่เลี้ยงเด็ก ที่รักและแสดงความรักต่อกันและต่อเด็ก ๆ “สิ่งนี้ทำให้เด็กๆ รู้สึกปลอดภัยและเป็นรากฐานของความสุข” บอกเด็ก ๆ ของคุณทุกวันว่าคุณรักพวกเขามากแค่ไหน

เวลา

การมีเวลาให้เด็กเป็นอีกวิธีหนึ่งในการแสดงความรัก “เด็ก ๆ ต้องการเวลากับพ่อแม่ หรือผู้ปกครอง เด็กที่โตมาอย่างปลอดภัยที่สุดคือผู้ที่ได้รับเวลาจากพ่อแม่มากที่สุด” อาจเป็นเรื่องง่าย ๆ เช่น การทำกิจวัตรประจำวันหรือประจำสัปดาห์ เช่น การอ่านนิทานก่อนนอนหรือการไปกินไอศกรีม พ่อแม่ทุกคนมีงานยุ่งและงานเล็กๆ น้อยๆ ในชีวิตอาจดูเหมือนหนักหนาสาหัส แต่สิ่งสำคัญคือต้องจัดสรรเวลาทุกวันสำหรับลูก ๆ แต่ละคน

แสดงความใส่ใจและกล่าวชม

พ่อ แม่ หรือผู้ปกครอง ต้องใส่ใจ สังเกตและให้รางวัลสำหรับการตัดสินใจ และพฤติกรรมที่ดี เด็กที่ได้รับความใส่ใจและคำชมจาก พ่อแม่ หรือผู้ปกครองของพวกเขา มีแนวโน้มที่จะตัดสินใจดี ๆ ซ้ำๆ และรู้สึกมั่นใจในตัวเองมากขึ้น

เคารพสิทธิ์

"การเข้าใจถึงความแตกต่างระหว่างสิทธิและสิทธิพิเศษ" เป็นสิ่งสำคัญในการสร้างเด็กที่มีความสุข เด็กควรรู้สึกเสมอว่าคนที่ตนรักจะปกป้องสิทธิ์ของตน



ปัจจัยสำคัญเพื่อให้เด็กเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่ประสบความสำเร็จ

ดร. ฮาร์ลีย์ ร็อตบาร์ต (Dr. Harley Rotbart) แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านกุมารศาสตร์ ได้เปิดเผยผลงานวิจัยด้านพัฒนาการของเด็กเกี่ยวกับปัจจัยสำคัญที่ทำให้เด็กเติบโตขึ้นไปเป็นผู้ใหญ่ที่มีความสุขและประสบความสำเร็จ

1. ความปลอดภัย

พ่อ แม่ ผู้ปกครอง รวมถึงพี่เลี้ยงเด็ก ต้องทำให้เด็กรู้สึกปลอดภัย ดูแลเรื่องพื้นฐาน ได้แก่ ที่พัก อาหาร เครื่องนุ่งห่ม การดูแลทางการแพทย์ และการป้องกันอันตราย

2. ความมั่นคง

ความมั่นคงมาจากครอบครัวและชุมชน พ่อ แม่ ผู้ปกครองควรให้เด็กส่วนหนึ่งของครอบครัว เด็กมีสิทธิ์ที่จะแสดงความคิดเห็น ให้เด็กมีตัวตน เป็นที่รู้จักและให้เด็กรู้สึกถึงความเป็นเจ้าของและเป็นส่วนหนึ่งของชุมชน

3. ความสม่ำเสมอ

พ่อ แม่ ผู้ปกครองและพี่เลี้ยงเด็ก ควรดูแลเด็กไปในแนวทางเดียวกัน ไม่ใช่ พ่อสอนแบบหนึ่ง แต่แม่สอนอีกแบบ จะทำให้เด็กเกิดความสับสน และไม่รู้ว่าต้องปฏิบัติตัวเช่นไรกันแน่

4.การสนับสนุนทางอารมณ์

คำพูดและการกระทำของผู้ปกครองควรส่งเสริมความไว้วางใจ ความเคารพ ความนับถือตนเอง และความเป็นอิสระของเด็กในที่สุด

5. ความรัก

การพูดและแสดงความรักต่อเด็ก ๆ จะช่วยแก้ไขปัญหาได้ในเกือบทุกสถานการณ์ แม้ว่าเด็กจะไม่เชื่อฟัง โกรธ หงุดหงิด และต่อต้าน สิ่งที่ พ่อ แม่ ผู้ปกครอง พยายามสอน จงแสดงให้เด็กว่าคุณรักพวกเขาและคุณจะรักพวกเขาตลอดไป

6. การศึกษา

พ่อ แม่ และผู้ปกครอง ควรให้เด็กได้รับการศึกษาที่ดีที่สุดสำหรับอนาคตของพวกเขา ไม่ใช่แค่โรงเรียนแต่ยังรวมถึงบทเรียนชีวิตอันล้ำค่าที่คุณให้ไว้ในช่วงเวลาที่คุณใช้ร่วมกัน

7. แบบอย่างที่ดี

พ่อแม่เป็นแบบอย่างแรกและสำคัญที่สุดของลูก ปลูกฝังค่านิยมและสอนเด็ก ๆ ให้เอาใจใส่ด้วยการเป็นคนแบบที่คุณอยากให้พวกเขาเป็น

8. โครงสร้าง

กฎ ขอบเขต และข้อจำกัด: หากไม่มีสิ่งเหล่านี้ เด็ก ๆ จะถูกบังคับให้เป็นผู้ใหญ่ก่อนที่พวกเขาจะพร้อม และพวกเขาสูญเสียความเคารพต่อคุณและผู้ใหญ่คนอื่นๆ