ดูแลเด็ก ใน บางแค, กรุงเทพมหานคร

ดูแลเด็ก ใน บางแค, กรุงเทพมหานคร

คุณต้องการใช้บริการนี้เมื่อไหร่?
ระบุวันที่

วิธีการทำงาน

Saijai

ติดต่อเรา

ติดต่อเราโดยตรงผ่าน LINE OA เพื่อจองบริการที่คุณต้องการ

Saijai

แจ้งรายละเอียดให้เราทราบ

เลือกบริการ วันที่ เวลา และสถานที่ที่คุณต้องการให้ตรงกับความต้องการของคุณ

Saijai

ยืนยันการจองของคุณ

เราจะยืนยันการจองของคุณภายใน 24 ชั่วโมงผ่านทาง LINE OA

ทิพวรรณ์ ราศรี
ทิพวรรณ์ ราศรี
Saijai ประสบการณ์ 1-2 ปี
Saijai อายุ 27 ปี

เป็นคนอัธยาศัยดีค่ะ ใจเย็นค่ะชอบเล่นกับเด็ก ส่งเสริมพัฒนาการของน้องได้ค่ะ

แสดงเพิ่มเติม
ฉันทนา สิทธิ
ฉันทนา สิทธิ
Saijai ประสบการณ์ 1-2 ปี
Saijai อายุ 46 ปี

เป็นคนง่ายๆรักเด็กใจเย็นไม่เคยโกรธหรือโมโหอะไรง่ายๆนอนน้อยทําได้หมดแต่ไม่ชอบจู้จี้

แสดงเพิ่มเติม
เสาวณีย์ เขาพระจันทร์
เสาวณีย์ เขาพระจันทร์
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี
Saijai อายุ 39 ปี

ใส่ใจดูแลเหมือนลูกเจ้าของเองใจเย็น ดูแลได้ตลอด

แสดงเพิ่มเติม
Pavana Suntudchaiyo
Pavana Suntudchaiyo
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี
Saijai อายุ 58 ปี

I am in good health, kind and responsible, polite and gentle. สุภาพ สุขภาพแข็งแรง พูดเพราะ มีความรับผิดชอบ

แสดงเพิ่มเติม
ศิริวิมล ทรงศิริ
ศิริวิมล ทรงศิริ
Saijai ประสบการณ์ 0-1 ปี
Saijai อายุ 43 ปี

ที่บ้านมีห้องแอร์สถานที่ให้วิ่งเล่น เรียนได้เกรดเฉลี่ยอยู่ที่ 3.40 เรียนโรงเรียนเทพศิรินทร์ร่มเกล้า มีประสบการณ์ดูแลหลานๆของตนเองหลายคน มากกว่า5คน ตั้งแต่อายุ 1 ขวบ ถึง 15 ปี

แสดงเพิ่มเติม

เป็นคนเรียบง่ายไม่เรื่องมากเลี้ยงน้องตามแพทย์แนะนำและผู้ปกครองแนะนำได้

แสดงเพิ่มเติม
นวพร ทัตตวุฒิคุณ
นวพร ทัตตวุฒิคุณ
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี
Saijai อายุ 49 ปี

ดิฉันชื่อ นวพร ค่ะ ปัจจุบันทำงานเป็นแม่บ้านรายชั่วโมงค่ะ ด้วยความที่ต้องดูแลลูก ๆ 3 คนด้วยตนเองมาตลอดเลยทำให้ใช้ชีวิตประจำวันอยู่กับการดูแลบ้าน ดูแลลูก ๆ ค่ะ ดิฉันมั่นใจว่าจะสามารถทำวามสะอาดบ้านของคุณได้อย่างดีค่ะ ขอบคุณค่ะ

แสดงเพิ่มเติม

มีความอดทน ขยัน รักความสะอาด ใจเย็น

แสดงเพิ่มเติม
วริวรรณ อยู่ไพร
วริวรรณ อยู่ไพร
Saijai ประสบการณ์ 0-1 ปี
Saijai อายุ 37 ปี

ใจเย็น รักเด็ก มีความอดทนสูง สามารถแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าได้ดี ยิ้มแย้มแจ่มใจ เสริมสร้างพัฒนาการเด็กตามช่วงวัยได้ค่ะ

แสดงเพิ่มเติม
วิไล นันต๊ะภาพ
วิไล นันต๊ะภาพ
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี
Saijai อายุ 48 ปี
Piyatida Dumluck
Piyatida Dumluck
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี
Saijai อายุ 40 ปี

ข้อมูลสถิติน่าสนใจเกี่ยวกับ

Saijai จำนวนประชากร
Saijai จำนวนประชากรเด็ก (แรกเกิด-14 ปี)
Saijai จำนวนประชากรสูงอายุ (60 ปี ขึ้นไป)
Saijai จำนวนสัตว์เลี้ยง สุนัข

รีวิวล่าสุด

ดิฉันกับสามีทำงานประจำทั้งคู่ค่ะ ไม่มีใครคอยอยู่ดูแลลูกที่บ้านเลย ลูกติดนิสัยชอบอยู่แต่ในบ้านและซนกับพี่เลี้ยงมาก จนพี่เลี้ยงหลาย ๆ คนทนไม่ไหวถึงกับขอลาออกเอง โชคดีที่ได้เจอพี่เลี้ยงคนนี้บนเว็บใส่ใจ พี่ลี้ยงเข้ากับน้องได้ดีค่ะ
Saijai
วิลาภรณ์ สุทธิรักษ์
4 ปีที่แล้ว
ลาคลอดได้แค่ 3 เดือน ค่ะ ต้องกลับไปทำงานต่อ จะฝากลูกไว้กับยายก็กลัวแกจะดูไม่ไหว เลยลองหาพี่เลี้ยงจากเว็บใส่ใจดู ตอนแรกก็กังวลอยู่เหมือนกันค่ะ ไม่กล้าทิ้งลูกไว้กับพี่เลี้ยง แต่ก็วางใจอย่างนึงว่าพี่เลี้ยงมีประสบการณ์ ตอนนี้ทุกอย่างลงตัว โอเคมาก ๆ ค่ะ
Saijai
สุชาดา มิ่งมงคล
4 ปีที่แล้ว
ลูกยังเล็กเราจ้างพี่เลี้ยงมา ตกลงเวลาเริ่มงาน 9.30-17.30 น. (พี่เลี้ยงมา 8.30 น. ทุกวัน ) ประสบการณ์ เคยดูแล เด็กเล็ก 4 เดือน – 2 ขวบ พอเด็กเข้าโรงเรียน ก็ว่าง พอดีที่บ้านช่วยกันหา เจอเว็บนี้เห็นรีวิวประสบการณ์คนเลี้ยงเลย คุยดู พี่เลี้ยงทำงานดีมาก่อนเวลา เตรียมของใช้ ทำงานเป็นระเบียบเหมือนอบรมมาดี อุ่นใจ คิดถูกที่ใช้บริการใส่ใจ แนะนำค่ะ
Saijai
ณัฐวรรณ แสงสีเงิน
5 ปีที่แล้ว
ลองค้นหาบริการพี่เลี้ยงเด็กอยู่หลายที่ จนได้มาเจอเว็บใส่ใจ ลองเข้าไปดู รู้สึกว่าทุกอย่างเป็นไปอย่างมีขั้นตอน เริ่มตั้งแต่ให้เลือกพี่เลี้ยง ขั้นตอนนัดสัมภาษณ์ รายละเอียดและคำแนะนำต่าง ๆ พี่เลี้ยงที่ได้มาก็ตรงตามความต้องการสุด ๆ รู้สึกประทับใจมาก
Saijai
ณัฐณิชา ทิวาสวัสดิ์
5 ปีที่แล้ว
อยู่ ๆ พี่เลี้ยงคนเก่าลาออกโดยไม่แจ้งล่วงหน้าต้องรีบหาพี่เลี้ยงใหม่แบบเร่งด่วน ไม่รู้จะทำยังไง บังเอิญมาเจอเว็บใส่ใจ หาพี่เลี้ยงคนใหม่ได้ง่ายมาก ๆ แถมได้คนดี มีประสบการณ์ ทำงานคล่อง เยี่ยมเลยค่ะ ประทับใจสุด ที่สำคัญคุณแม่สบายใจได้คนมาทำงานทันที
Saijai
ภัทรา กิจบำรุง
5 ปีที่แล้ว

คำถามที่พบบ่อยสำหรับการค้นหา ดูแลเด็ก

พี่เลี้ยงเด็กส่วนตัวหรือเนอสเซอรี่ (Nursery) อะไรคือคำตอบสำหรับคุณพ่อคุณแม่ยุคนี้
ข้อดีของการให้พี่เลี้ยงดูแลเด็กที่บ้านของคุณเอง

1. ลูกน้อยของคุณได้รับการดูแลจากพี่เลี้ยงแบบใกล้ชิด ทำให้เด็กรู้สึกได้ถึงความเอาใจใส่ และมีพัฒนาการทางอารมณ์ที่ดี
2. มีความยืดหยุ่นในการทำกิจวัตรประจำวันเพราะเด็กไม่ต้อง กิน นอน หรือ เล่นตามตารางเหมือนอยู่ในศูนย์รับเลี้ยงเด็กหรือเนอสเซอรี่ (Nursery)
3. พี่เลี้ยงเด็กสามารถปรับเวลาการทำงานให้สอดคล้องกับเวลาทำงานและวันหยุดของคุณพ่อคุณแม่
4. คุณพ่อคุณแม่มีเวลาอยู่กับลูกมากขึ้นเพราะไม่ต้องเผื่อเวลาในการรับส่ง ก่อนและหลังเลิกงาน
5. เด็กได้รับการดูแลในบรรยากาศที่คุ้นเคยและรู้สึกปลอดภัย
6. คุณพ่อคุณแม่ประหยัดเวลาในการเดินทางรับส่ง หมดปัญหาเรื่องรถติดและมลภาวะบนท้องถนน
7. คุณพ่อคุณแม่ประหยัดเวลาในการเตรียมตัวหรือจัดเตรียมของใช้ให้ลูก เช่น ขวดนม เสื้อผ้า หรือแพมเพิส
8. ลดความเสี่ยงของโรคติดต่อ โดยเฉพาะเด็กเล็กที่ภูมิต้านทานยังน้อยจะเจ็บป่วยได้ง่าย หากต้องอยู่ปะปนกับเด็ก ๆ อื่น
9. มีคนอยู่บ้านตลอดเวลาในขณะที่คุณพ่อคุณแม่ออกไปทำงาน

ข้อดีของการเข้าเนอสเซอรี่ (Nursery)

1. ฝึกทักษะการเข้าสังคมเพราะเด็กต้องอยู่ร่วมกับเด็กคนอื่น ๆ และครูพี่เลี้ยง
2. ค่าใช้จ่ายไม่สูงเมื่อเปรียบเทียบกับการจ้างพี่เลี้ยงส่วนตัว
3. เนอสเซอรี่มีกิจกรรมส่งเสริมการเรียนรู้เพื่อให้เด็กฝึกทักษะผ่านการทำกิจกรรมต่าง ๆ
ทักษะสำคัญที่พี่เลี้ยงเด็กควรมีคืออะไร
6 ทักษะสำคัญที่พี่เลี้ยงเด็กควรมี

1. ความรู้ด้านการส่งเสริมพัฒนาการ การส่งเสริมพัฒนาการทำได้ทั้งผ่านการเล่นและการทำกิจวัตรประจำวัน พี่เลี้ยงเด็กที่ดีควรหากิจกรรมเพื่อให้เด็กมีส่วนร่วมและช่วยเหลือตัวเองได้ตามวัยที่เหมาะสม
2. ความอดทนและใจรักเด็ก เด็กแต่ละคนมีความแตกต่างกันทั้งลักษณะนิสัย อารมณ์และการแสดงออก บางคนว่านอนสอนง่าย บางคนชอบเล่นซนทั้งวัน หรือบางคนงอแง พี่เลี้ยงเด็กที่ดีควรมีใจรักเด็กเป็นพื้นฐาน พร้อมทำความเข้าใจและมีความอดทน พยายามหาวิธีที่ทำให้เด็กรู้สึกวางใจ ปลอดภัย และยอมเชื่อฟังพี่เลี้ยงในที่สุด
3. ความรู้ด้านการปฐมพยาบาลเบื้องต้นและรู้เบอร์โทรศัพท์ในกรณีฉุกเฉิน ถ้าเด็กหกล้มมีแผลถลอกพี่เลี้ยงเด็กต้องรู้ว่าจะจัดการกับแผลถลอกอย่างไร ในกรณีฉุกเฉินพี่เลี้ยงเด็กต้องสามารถติดต่อหน่วยงานที่ให้ความช่วยเหลือได้
4. ทักษะการสื่อสาร เด็กมีความแตกต่างกันในแต่ละช่วงอายุ พี่เลี้ยงเด็กต้องเข้าใจการสื่อสารกับเด็ก เช่น เข้าใจภาษากายของทารก การสื่อสารของเด็กเล็ก สำหรับเด็กที่สามารถสื่อสารด้วยทำพูดได้แล้ว พี่เลี้ยงเด็กต้องพูดคุยเพื่อให้เด็กเชื่อฟังโดยไม่ใช้การบังคับและให้เด็กรู้สึกสบายใจ
5. ทักษะการแก้ปัญหา หากไม่ใช่เรื่องที่ร้ายแรงพี่เลี้ยงเด็กต้องรู้วิธีแก้ปัญหาหรือสถานการณ์ตรงหน้าตามสมควรโดยไม่จำเป็นต้องรายงานหรือรอให้คุณพ่อคุณแม่ตัดสินใจทุกครั้ง
6. ความคิดสร้างสรรค์ คงไม่ดีแน่หากพี่เลี้ยงเด็กดูแลเด็กด้วยการให้เด็กดูสมาร์ทโฟนเป็นชั่วโมง พี่เลี้ยงเด็กที่ดีควรมีความคิดสร้างสรรค์เล่นกับเด็กเพื่อให้เด็กเพลิดเพลินได้นานหลายชั่วโมงและให้เด็กได้พักผ่อนตามเวลา

ทั้งหมดนี้คือคุณสมบัติและทักษะที่ดีที่คุณพ่อและคุณแม่ควรมองหาในตัวพี่เลี้ยงเด็กที่คุณเลือกมาเพื่อดูแลลูกน้อยของคุณค่ะ
อะไรที่จะช่วยให้คุณพ่อคุณแม่คลายความกังวลเมื่อต้องปล่อยให้ลูก ๆ อยู่กับพี่เลี้ยงตามลำพัง
เมื่อคุณพ่อคุณแม่จำเป็นต้องจ้างพี่เลี้ยงมาดูแลลูก ๆ ของคุณ ความไว้วางใจและความน่าเชื่อถือเป็นหัวใจสำคัญในการตัดสินใจ คุณพ่อคุณแม่มีวิธีการใดบ้างที่จะหาพี่เลี้ยงที่วางใจได้ ใส่ใจมีวิธีการที่ช่วยให้คุณพ่อคุณแม่รู้จักตัวตนของพี่เลี้ยงเด็กมากขึ้น

1. ถือเป็นการเริ่มต้นที่ดีหากครอบครัวหรือเพื่อนของคุณพ่อคุณแม่เป็นผู้แนะนำพี่เลี้ยงเด็กที่พวกเขารู้จัก อย่างน้อยก็มีคนรับรองพวกเขาได้ แต่สิ่งสำคัญก็คือต้องทำการสัมภาษณ์พี่เลี้ยงเด็กและตรวจสอบประวัติของคุณเองเพื่อให้แน่ใจว่าเชื่อถือได้มากที่สุด
2. สำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่มองหาพี่เลี้ยงจากสื่อออนไลน์ หรือโซเชียลมีเดีย (Social Media) เช่น เฟสบุ๊ค หรือไลน์ มองหาพี่เลี้ยงเด็กที่มีรีวิวจากผู้ที่เคยใช้บริการก่อนหน้า ใช้เวลาอ่านและศึกษารีวิวเหล่านั้น
3. เชื่อสัญชาตญาณของตัวเอง เมื่อคุณพ่อคุณแม่มีโอกาสสัมภาษณ์พี่เลี้ยงเด็กก่อนเริ่มงาน หากมีสัญญาณที่ทำให้คุณพ่อคุณแม่รู้สึกไม่สบายใจ เช่น พี่เลี้ยงเด็กดูเป็นคนไม่กระตือรือร้น หรือไม่ยิ้มแย้มแจ่มใส จงเชื่อสัญชาตญาณของตัวเองที่ชี้ว่าคนคนนี้ไม่เหมาะสมกับงาน
4. ตรวจสอบประวัติ คุณพ่อคุณแม่อาจร้องขอให้พี่เลี้ยงตรวจสอบประวัติอาชญากรรมกับกองทะเบียนประวัติอาชญากร( http://www.criminal.police.go.th/ ) เพื่อให้แน่ใจว่าพี่เลี้ยงเด็กไม่มีประวัติกระทำผิดกฎหมายทั้งหมดนี้เป็นส่วนหนึ่งที่คุณพ่อคุณแม่สามารถทำได้เพื่อตรวจสอบความน่าเชื่อถือและช่วยในการตัดสินใจ
พ่อแม่ควรตกลงอะไรบ้างก่อนจ้างพี่เลี้ยงเด็ก?
เมื่อคุณพ่อคุณแม่สามารถหาพี่เลี้ยงเด็กที่ถูกใจได้แล้ว ควรพูดคุยและตกลงกันเรื่องใดบ้างก่อนเริ่มงาน

1. วันและเวลาทำงาน คุณพ่อและคุณแม่ควรมีแผนการทำงานของพี่เลี้ยงที่ชัดเจน เช่นกำหนดวันทำงาน วันหยุด และเวลาทำงานในแต่ละวันให้ชัดเจน และควรถามความสมัครใจหากต้องการให้พี่เลี้ยงทำงานล่วงเวลา
2. ขอบเขตหน้าที่และความรับผิดชอบ คุณพ่อคุณแม่ควรระบุขอบเขตหน้าที่และความรับผิดชอบของพี่เลี้ยงเด็กให้ชัดเจน หากต้องการให้พี่เลี้ยงทำงานบ้านหรืองานอื่น ๆ นอกจากดูแลเด็ก ควรตกลงกันให้ชัดเจนก่อนเริ่มงาน
3. ระยะเวลาการทดลองงาน หาดคุณพ่อคุณแม่ต้องการให้พี่เลี้ยงทดลองงานก่อนสักระยะหนึ่งก่อนทำสัญญาว่าจ้าง ควรระบุช่วงระยะเวลาและเงื่อนไขในการทดลองงานให้ชัดเจน
4. ค่าจ้าง คุณพ่อคุณแม่ควรสอบถามและตกลงค่าจ้างของพี่เลี้ยงให้ชัดเจน และค่าจ้างควรจะสอดคล้องกับหน้าที่ความรับผิดชอบ และจำนวนชั่วโมงทำงานในแต่ละวัน ประสบการณ์ในการทำงานอาจเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่คุณพ่อคุณแม่สามารถใช้ประกอบการพิจารณาอัตราค่าจ้างได้
5. กรณีจ้างพี่เลี้ยงประจำแบบพักอาศัยร่วม คุณพ่อคุณแม่ต้องจัดการเรื่องที่พักให้กับพี่เลี้ยง รวมถึงอาหารในแต่ละวันตามตกลงกัน
6. ข้อตกลงในการอยู่อาศัยร่วมกัน คุณพ่อคุณแม่ควรบอกกล่าวพี่เลี้ยงให้ชัดเจนถึงกฎระเบียบต่าง ๆ สิ่งใดไม่ควรปฏิบัติของการอาศัยอยู่ร่วมกัน

ทั้งหมดนี้คือสิ่งที่คุณพ่อและคุณแม่ควรพูดคุยตกลงกับพี่เลี้ยงเด็กให้ชัดเจนก่อนเริ่มงาน

รูู้จักบางแค

คำขวัญของเขตบางแคนั้นมีอยู่ว่า “ลำคลองสี่ทิศ แหล่งเศรษฐกิจใหม่ สุขใจบ้านบางแค งามแท้สวนเพชรกาญจนารมย์ ชมวิถีเกษตรพอเพียง” แม้ว่าย่านบางแคจะอยู่ห่างจากใจกลางเมืองกรุงเทพฯ พอสมควร ทั้งยังมีแม่น้ำเจ้าพระยากั้นเอาไว้อีก ทำให้ผู้คนที่อยู่ทางฝั่งพระนครรู้สึกว่าเป็นย่านที่เข้าถึงลำบาก แต่ยังมีผู้คนทางย่านฝั่งธนและจากจังหวัดข้างเคียง เช่น นครปฐมและสมุทรสาคร แวะเวียนเข้ามาในย่านบางแคอยู่เสมอ คำว่า“บางแค” มาจากคำว่า “บาง” หมายถึงทางน้ำเล็ก ๆ หรือทางน้ำที่ไหลขึ้นลงตามระดับน้ำในแม่น้ำลำคลองหรือทะเล และยังหมายถึงหมู่บ้านที่อยู่หรือเคยอยู่ในบริเวณที่เคยเป็นบางมาก่อน ส่วนคำว่า “แค” นั้น ในสมัยก่อนอาจมีชาวบ้านชาวสวนปลูกต้นแคไว้เป็นจำนวนมาก หรืออาจเป็นเพราะว่าในอดีตมีต้นแคขึ้นอยู่ทั่วไปในท้องที่นี้ จึงเป็นที่มาของชื่อ ‘บางแค’

ปัจจุบันสำนักงานเขตบางแคจึงได้มีนโยบายปลูกต้นแค ตามโครงการสร้างเอกลักษณ์เมืองด้วย มาวันนี้ ย่าน ‘บางแค’ เดินทางจากชุมชนเก่าแก่ของฝั่งธนบุรี ไปสู่การเติบโตมาจากตัวเมืองหลวงเก่า กรุงธนบุรี และการที่มีคนไทยเชื้อสายจีนบางส่วนที่ขยับขยายเข้ามาอยู่อาศัยและค้าขายในย่านนี้ จนกลายเป็นชุมชนขนาดใหญ่ การเข้ามาของตลาดบางแคจึงเริ่มต้นของการขยายตัวของชุมชนเมือง และค่อย ๆ ขยายตัวตามการเติบโตของเมือง จนเกิดเป็นตลาดสดย่อย ๆ หลายตลาดรวมกันในพื้นที่เดียว กลายเป็นตลาดสดขนาดใหญ่ โดยตลาดสดแห่งนี้ เป็นตลาดสดเก่าแก่กว่า 60 ปี ที่มีของขายมากมาย เช่น ผัก ผลไม้ ขนมหวาน ข้าวแกงต่าง ๆ ตลาดบางแค จึงเป็นศูนย์รวมการค้าขายขนาดใหญ่ของฝั่งธนบุรี จึงมีผลให้พื้นที่โดยรอบของตลาดบางแคมีการค้าขายมากขึ้น กลุ่มร้านค้าชื่อดัง สินค้าแบรนด์ดังต่างต้องตามมาเปิดสาขา ณ บริเวณนี้ ด้วยกันนั้นโครงการรถไฟฟ้า MRT สายสีน้ำเงิน ช่วงหัวลำโพง-หลักสอง ก่อสร้างแล้วเสร็จ และเปิดให้บริการแล้ว เช่นเดียวกับรถไฟฟ้า MRT สายสีน้ำเงิน ช่วงบางซื่อ-ท่าพระ แม้ด้านหน้าริมถนนเพชรเกษมจะมีการเปลี่ยนไปตามจังหวะของเมือง บรรยากาศบ้านสวนริมน้ำของบางแคนั้น จะซ่อนสายตาอยู่หลังแนวอาคารพาณิชย์สองฟากถนนเพชรเกษม ต้องเดินเท้าลงไปสำรวจจึงจะได้สัมผัสกับบรรยากาศที่ว่าไว้ตามคำขวัญ สำหรับจุดน่าสนใจที่อยากแนะนำให้ไปเดินซอกแซกกันในเที่ยวนี้ ต้นทางอยู่ไม่ไกลจากหน้าตลาดบางแค เท่าไรนัก



ย่านบางแค

ตั้งแต่อดีตสายน้ำที่ล้อมรอบเขตบางแค คือเส้นทางที่ใช้สัญจรในเขตบางแคและนำความเจริญสู่บางแค จนมีถนนเพชรเกษมถนนสายใหม่ที่ขยายความเจริญ และปัจจุบันที่กำลังมีการขยายเส้นทางรถรางลอยฟ้า ถือเป็นถนนแห่งอนาคต บางแค จึงเหมือนมี 3 ยุคสมัยที่แตกต่างหลอมรวมขนานเป็นเส้นทางเดียวกัน หากมองว่าเป็นเสน่ห์ที่ไม่เหมือนย่านไหนๆ ที่นี่เหมือนการเดินทางอยู่ ใน 3 ช่วงเวลาจริงๆ ย้อนไปก่อนที่ถนนเพชรเกษมจะถูกตัดขึ้นเป็นทางหลวงสายหลักมุ่งหน้าสู่ภาคใต้ใน พ.ศ. 2493 คลองภาษีเจริญเคยเป็นเส้นทางคมนาคมสายหลักของคนแถบนี้มาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 ทอดยาวจากปากน้ำคลองบางกอกใหญ่ไปจนถึงแม่น้ำท่าจีนที่สมุทรสาคร จากนั้นคลอง เชื่อมต่อกับคลองดำเนินสะดวกไปถึงราชบุรี คลองเหมือนสายเลือดหล่อเลี้ยงชีวิต หากนึกภาพวิถีชีวิตไม่ออก ลองนึกภาพอังสุมาลินเล่นน้ำอยู่ในคลอง ที่ในละแวกนั้นมีการทำสวน ก่อนโกโบริจะมาเจอ คลองที่ขุดทำให้เรือกสวนไร่นาแถบนี้ไปมาถึงกันหมด เมื่อมีผลผลิตมาก เกิดเป็นจุดนัดพบแลกเปลี่ยนสินค้ากันที่บริเวณหน้าวัดนิมมานรดี ในวันนี้ สภาพโดยรวมของวัดนิมมานนรดี แทบจะไม่ได้มีสถาปัตยกรรมเก่าแก่หลงเหลือให้ชมอีกแล้ว แต่ยังคงเป็นวัดที่โดดเด่นแห่งหนึ่งในย่านบางแค หากมีโอกาสมาเที่ยวช่วงวันลอยกระทง จะเห็นวิถีชีวิตชาวบ้านที่เติบโตมากับสายน้ำ เพราะมีทำเลอยู่ตรงปากคลองราชมนตรีและคลองภาษีเจริญ ใครที่อยากเห็นรากเหง้าความเจริญในย่านตลาดบางแค ย้อนกลับไปสัมผัสกับบรรยากาศน่าถวิลหาในสมัยก่อนมีถนนเพชรเกษม ก็คงต้องหาเวลามาเดินเล่นบันทึกภาพชุมชนแถวนี้ และคงไม่พลาดที่จะไปเดินซอกแซกย่านริมน้ำวัดนิมมานนรดีดูสักครั้ง แม้ว่าวันนี้จะไม่มีตลาดน้ำ แต่ก็รับรองว่าได้ไปเยือนแล้ว…คุ้มค่าคุ้มเวลาแน่นอน จากตลาดน้ำมาเดินดูตลาดบางแค หรือ ตลาดสดบางแค เป็นตลาดสดขนาดใหญ่ เก่าแก่และยาวนานแห่งหนึ่งของกรุงเทพมหานครและฝั่งธนบุรี จุดเริ่มต้นตั้งอยู่ที่ ซอยเพชรเกษม 39/1 (ชุมชนแสงหิรัญ) ในแขวงบางหว้า เขตภาษีเจริญ กรุงเทพมหานคร ข้ามคลองราชมนตรีเข้าสู่พื้นที่แขวงบางแค เขตบางแค กรุงเทพมหานคร และ พื้นที่บริเวณตลาดสดบางแคนี้ไปสิ้นสุดตรงทางแยกบางแค (ถนนบางแค) ในแขวงบางแค เขตบางแค กรุงเทพมหานคร จริงๆ แล้วก็เหมือนตลาดทั่วๆ ไปแต่ที่นี่คือหัวใจของฝั่งธนบุรี ที่เป็นจุดเริ่มต้นขายความเจริญไปยังส่วนอื่นๆ



สิ่งที่พ่อแม่ทำได้ เพื่อช่วยพัฒนาการทางสังคมและอารมณ์: อายุ 8-10 ปี

กิจกรรมและข้อเสนอแนะต่อไปนี้สามารถนำมาใช้เพื่อเป็นส่วนช่วยในการพัฒนาสังคมและอารมณ์ของเด็กวัยนี้:

1. ส่งเสริมให้บุตรหลานเข้าร่วมกลุ่มโรงเรียนและชุมชน เช่น ทีมกีฬา หรือใช้ประโยชน์จากโอกาสในการเป็นอาสาสมัคร เพื่อให้เกิดแรงจูงใจ พ่อแม่สามารถทำด้วยกันกับลูก หรือทำเป็นตัวอย่าง เพราะพ่อและแม่คือ แบบอย่างที่ดีที่สุดของลูกเสมอ

2. พูดคุยกับบุตรหลานของคุณเกี่ยวกับแรงกดดันจากเพื่อนฝูง และพูดคุยถึงข้อกังวลใดๆ เกี่ยวกับเพื่อนและพฤติกรรมของพวกเขา รับฟังเรื่องราวอย่างตั้งใจ และเติบโตไปพร้อมๆกับลูก

3. ช่วยลูกของคุณกำหนดเป้าหมายที่ทำได้ ซึ่งจะช่วยให้พวกเขาพัฒนาความภาคภูมิใจและมีความเป็นอิสระมากขึ้นในการทำงานบ้านและการเรียน

4. พูดคุยกับลูกของคุณเกี่ยวกับการเคารพผู้อื่นและช่วยเหลือผู้อื่น ซึ่งจะทำให้เกิดความรู้สึกเห็นอกเห็นใจและเข้าใจ เมื่อลูกเข้าใจแล้ว แล้วทำสิ่งเหล่านี้จะทำได้โดยอัตโนมัติ จนเป็นนิสัยไปเลย

5. ส่งเสริมให้ลูกคิดเกี่ยวกับผลที่อาจจะเกิดขึ้นก่อนดำเนินการ

6. ชื่นชมลูกของคุณเสมอสำหรับพฤติกรรมที่ดีและตระหนักถึงความสำเร็จของพวกเขาเสมอ

7. พูดคุยกับลูกของคุณเกี่ยวกับสิ่งที่ควรทำเมื่อคนอื่นดูหมิ่นหรือไม่สุภาพ ให้เรียนรู้เข้าใจและปล่อยวาง

8. จงรักใคร่และซื่อสัตย์กับลูกของคุณและทำกิจกรรมร่วมกันในครอบครัว

9. สนับสนุนความสนใจของบุตรหลานของคุณในโลกนี้โดยให้โอกาสในการทำกิจกรรมต่างๆ เช่น การสร้างสิ่งของ เยี่ยมชมสวนสัตว์ หรือปลูกสวน

10. ช่วยให้ลูกของคุณพัฒนาความรู้สึกถูกหรือผิด เตือนพวกเขาเกี่ยวกับสิ่งที่มีความเสี่ยงที่เพื่อนอาจพยายามเกลี้ยกล่อมให้พวกเขาทำ

11. พบกับครอบครัวของเพื่อนของบุตรหลานของคุณ

12. พูดคุยกับลูกของคุณเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงทางร่างกายและอารมณ์ตามปกติของวัยแรกรุ่น

13. สังเกตว่าลูกของคุณตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงที่พวกเขาหรือเพื่อนกำลังประสบอยู่อย่างไร