ดูแลเด็ก ใน พญาไท, กรุงเทพมหานคร

ดูแลเด็ก ใน พญาไท, กรุงเทพมหานคร

คุณต้องการใช้บริการนี้เมื่อไหร่?
ระบุวันที่

วิธีการทำงาน

Saijai

ติดต่อเรา

ติดต่อเราโดยตรงผ่าน LINE OA เพื่อจองบริการที่คุณต้องการ

Saijai

แจ้งรายละเอียดให้เราทราบ

เลือกบริการ วันที่ เวลา และสถานที่ที่คุณต้องการให้ตรงกับความต้องการของคุณ

Saijai

ยืนยันการจองของคุณ

เราจะยืนยันการจองของคุณภายใน 24 ชั่วโมงผ่านทาง LINE OA

ยุวพัตรา พุทธอภิบาล
ยุวพัตรา พุทธอภิบาล
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี
Saijai อายุ 30 ปี

นิสัย : ใจเย็น รักเด็ก รักผู้สูงอายุ ไม่เหวี่ยง ไม่วีน ใส่ใจ สะอาด พูดน้อย ไม่จุกจิก

แสดงเพิ่มเติม
จารุนันท์ สุวรรณกูฎ
จารุนันท์ สุวรรณกูฎ
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี

เป็นคนเรียบง่ายไม่เรื่องมากเลี้ยงน้องตามแพทย์แนะนำและผู้ปกครองแนะนำได้

แสดงเพิ่มเติม
อานนท์ ทองแสง
อานนท์ ทองแสง
Saijai ประสบการณ์ 1-2 ปี
Saijai อายุ 29 ปี

ผมเป็นคนสุภาพ เรียบร้อย ไม่ยุ่งอบายมุข ไม่พูดคำหยาบ ตั้งใจทำงานที่ได้รับมอบหมาย ทำได้ทุกอย่างครับ สอนได้ทุกวิชา ค่าจ้างเป็นต่อชั่วโมงหรือให้เป็นรายเดือนก็ได้ครับ

แสดงเพิ่มเติม
Piyatida Dumluck
Piyatida Dumluck
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี
Saijai อายุ 38 ปี
ศิริวิมล ทรงศิริ
ศิริวิมล ทรงศิริ
Saijai ประสบการณ์ 0-1 ปี
Saijai อายุ 41 ปี

ที่บ้านมีห้องแอร์สถานที่ให้วิ่งเล่น เรียนได้เกรดเฉลี่ยอยู่ที่ 3.40 เรียนโรงเรียนเทพศิรินทร์ร่มเกล้า มีประสบการณ์ดูแลหลานๆของตนเองหลายคน มากกว่า5คน ตั้งแต่อายุ 1 ขวบ ถึง 15 ปี

แสดงเพิ่มเติม
กัญญาภัทร บุตรพรม
กัญญาภัทร บุตรพรม
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี

สวัสดีค่ะ ชือ ภัทรค่ะ อายุ 52 ถนัดดูแลเด็กแรกคลอด คุณแม่หลังคลอดค่ะ นวดเด็กแรกเล็กได้ ช้วยให้เด็ก อารมณ์ดีไม่งอแง ช่วยระบบขับถ่าย เลือดลมไหลเวียนดี ร่างกายแข็งแรง.นวดประคบสมุนไพร คุณแม่หลังคลอดช่วยในการอยู่ไฟสมัยโบราณ ทำให้มดลูกเข้าอู่ไว้ ร่างกายแข็งแรง รับงานได้ทั้งในและต่างประเทศค่ะ รับดูแลทั้งคนไทยและต่างชาติ

แสดงเพิ่มเติม
วนิดา ชัยวร
วนิดา ชัยวร
Saijai ประสบการณ์ 1-2 ปี
Saijai อายุ 32 ปี
ฉันทนา สิทธิ
ฉันทนา สิทธิ
Saijai ประสบการณ์ 1-2 ปี
Saijai อายุ 44 ปี

เป็นคนง่ายๆรักเด็กใจเย็นไม่เคยโกรธหรือโมโหอะไรง่ายๆนอนน้อยทําได้หมดแต่ไม่ชอบจู้จี้

แสดงเพิ่มเติม
ฮามีด๊ะฮ์ โต๊ะขวัญ
ฮามีด๊ะฮ์ โต๊ะขวัญ
Saijai อายุ 29 ปี

มีความอดทน ขยัน รักความสะอาด ใจเย็น

แสดงเพิ่มเติม
วิไล นันต๊ะภาพ
วิไล นันต๊ะภาพ
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี
Saijai อายุ 46 ปี
Pavana Suntudchaiyo
Pavana Suntudchaiyo
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี
Saijai อายุ 56 ปี

I am in good health, kind and responsible, polite and gentle. สุภาพ สุขภาพแข็งแรง พูดเพราะ มีความรับผิดชอบ

แสดงเพิ่มเติม
	ปรีชญา ขัดเรือน
ปรีชญา ขัดเรือน
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี

ใจเย็น รักเด็ก มีความอดทนสูง สามารถแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าได้ดี ยิ้มแย้มแจ่มใจ เสริมสร้างพัฒนาการเด็กตามช่วงวัยได้ค่ะ

แสดงเพิ่มเติม
เสาวณีย์ เขาพระจันทร์
เสาวณีย์ เขาพระจันทร์
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี
Saijai อายุ 37 ปี

ใส่ใจดูแลเหมือนลูกเจ้าของเองใจเย็น ดูแลได้ตลอด

แสดงเพิ่มเติม
ทิพวรรณ์ ราศรี
ทิพวรรณ์ ราศรี
Saijai ประสบการณ์ 1-2 ปี
Saijai อายุ 26 ปี

เป็นคนอัธยาศัยดีค่ะ ใจเย็นค่ะชอบเล่นกับเด็ก ส่งเสริมพัฒนาการของน้องได้ค่ะ

แสดงเพิ่มเติม
มัณฑนา ศรีโชติ
มัณฑนา ศรีโชติ
Saijai ประสบการณ์ 1-2 ปี
Saijai อายุ 48 ปี

ใจเย็น รักเด็ก พร้อมเรียนรู้ปรับตัว

แสดงเพิ่มเติม
อคัมย์สิริ ศศิชลพินทุ์
อคัมย์สิริ ศศิชลพินทุ์
Saijai ประสบการณ์ 0-1 ปี
Saijai อายุ 41 ปี
ณัฐมน ถาเป็นบุญ
ณัฐมน ถาเป็นบุญ
Saijai ประสบการณ์ 0-1 ปี
Saijai อายุ 27 ปี
อารตี อับดลราหมาน
อารตี อับดลราหมาน
Saijai ประสบการณ์ 0-1 ปี
Saijai อายุ 26 ปี

ข้อมูลสถิติน่าสนใจเกี่ยวกับ

Saijai จำนวนประชากร
Saijai จำนวนประชากรเด็ก (แรกเกิด-14 ปี)
Saijai จำนวนประชากรสูงอายุ (60 ปี ขึ้นไป)
Saijai จำนวนสัตว์เลี้ยง สุนัข

รีวิวล่าสุด

ดิฉันกับสามีทำงานประจำทั้งคู่ค่ะ ไม่มีใครคอยอยู่ดูแลลูกที่บ้านเลย ลูกติดนิสัยชอบอยู่แต่ในบ้านและซนกับพี่เลี้ยงมาก จนพี่เลี้ยงหลาย ๆ คนทนไม่ไหวถึงกับขอลาออกเอง โชคดีที่ได้เจอพี่เลี้ยงคนนี้บนเว็บใส่ใจ พี่ลี้ยงเข้ากับน้องได้ดีค่ะ
Saijai
วิลาภรณ์ สุทธิรักษ์
3 ปีที่แล้ว
ลาคลอดได้แค่ 3 เดือน ค่ะ ต้องกลับไปทำงานต่อ จะฝากลูกไว้กับยายก็กลัวแกจะดูไม่ไหว เลยลองหาพี่เลี้ยงจากเว็บใส่ใจดู ตอนแรกก็กังวลอยู่เหมือนกันค่ะ ไม่กล้าทิ้งลูกไว้กับพี่เลี้ยง แต่ก็วางใจอย่างนึงว่าพี่เลี้ยงมีประสบการณ์ ตอนนี้ทุกอย่างลงตัว โอเคมาก ๆ ค่ะ
Saijai
สุชาดา มิ่งมงคล
3 ปีที่แล้ว
ลูกยังเล็กเราจ้างพี่เลี้ยงมา ตกลงเวลาเริ่มงาน 9.30-17.30 น. (พี่เลี้ยงมา 8.30 น. ทุกวัน ) ประสบการณ์ เคยดูแล เด็กเล็ก 4 เดือน – 2 ขวบ พอเด็กเข้าโรงเรียน ก็ว่าง พอดีที่บ้านช่วยกันหา เจอเว็บนี้เห็นรีวิวประสบการณ์คนเลี้ยงเลย คุยดู พี่เลี้ยงทำงานดีมาก่อนเวลา เตรียมของใช้ ทำงานเป็นระเบียบเหมือนอบรมมาดี อุ่นใจ คิดถูกที่ใช้บริการใส่ใจ แนะนำค่ะ
Saijai
ณัฐวรรณ แสงสีเงิน
3 ปีที่แล้ว
เป็นครั้งแรกที่เลือกใช้บริการพี่เลี้ยงเด็กในเว็บใส่ใจ ตอนแรกคิดว่าจะยุ่งยากในจอง แต่พอเข้าไปในเว็บไซต์ เว็บไซต์ใช้งานง่ายมาก ๆ มีความสะดวกในการใช้งาน อีกทั้งยังมี Guideline ให้อีกด้วย และขั้นตอนการนัดสัมภาษณ์พี่เลี้ยงเด็กก็ไม่ยุ่งยากอย่างที่คิดเพราะมีตัวเลือกให้เลือกด้วยว่าเราสะดวกสัมภาษณ์ทางไหน เหมาะแก่คนที่ไม่มีเวลาอย่างเราจริง ๆ
Saijai
สุริยา ดำรงรักษ์
3 ปีที่แล้ว
เมื่อก่อนไม่กล้าจ้างพี่เลี้ยงเด็ก แต่ลองจ้างผ่านทางใส่ใจดู พี่เลี้ยงทำงานได้น่าพอใจมาก ๆ พูดเพราะมาก จนลูกเราติดคำพูดเลยค่ะ ราคาก็ที่ไม่สูงเกินไป จับต้องได้สำหรับคนที่มีรายได้ไม่เยอะอย่ามากต่อเดือน คุณแม่คนไหนอยากหาพี่เลี้ยงเด็ก แนะนำเลยค่ะ
Saijai
ชื่นนภา วัฒนพันธ์
3 ปีที่แล้ว

คำถามที่พบบ่อยสำหรับการค้นหา ดูแลเด็ก

พี่เลี้ยงเด็กส่วนตัวหรือเนอสเซอรี่ (Nursery) อะไรคือคำตอบสำหรับคุณพ่อคุณแม่ยุคนี้
ข้อดีของการให้พี่เลี้ยงดูแลเด็กที่บ้านของคุณเอง

1. ลูกน้อยของคุณได้รับการดูแลจากพี่เลี้ยงแบบใกล้ชิด ทำให้เด็กรู้สึกได้ถึงความเอาใจใส่ และมีพัฒนาการทางอารมณ์ที่ดี
2. มีความยืดหยุ่นในการทำกิจวัตรประจำวันเพราะเด็กไม่ต้อง กิน นอน หรือ เล่นตามตารางเหมือนอยู่ในศูนย์รับเลี้ยงเด็กหรือเนอสเซอรี่ (Nursery)
3. พี่เลี้ยงเด็กสามารถปรับเวลาการทำงานให้สอดคล้องกับเวลาทำงานและวันหยุดของคุณพ่อคุณแม่
4. คุณพ่อคุณแม่มีเวลาอยู่กับลูกมากขึ้นเพราะไม่ต้องเผื่อเวลาในการรับส่ง ก่อนและหลังเลิกงาน
5. เด็กได้รับการดูแลในบรรยากาศที่คุ้นเคยและรู้สึกปลอดภัย
6. คุณพ่อคุณแม่ประหยัดเวลาในการเดินทางรับส่ง หมดปัญหาเรื่องรถติดและมลภาวะบนท้องถนน
7. คุณพ่อคุณแม่ประหยัดเวลาในการเตรียมตัวหรือจัดเตรียมของใช้ให้ลูก เช่น ขวดนม เสื้อผ้า หรือแพมเพิส
8. ลดความเสี่ยงของโรคติดต่อ โดยเฉพาะเด็กเล็กที่ภูมิต้านทานยังน้อยจะเจ็บป่วยได้ง่าย หากต้องอยู่ปะปนกับเด็ก ๆ อื่น
9. มีคนอยู่บ้านตลอดเวลาในขณะที่คุณพ่อคุณแม่ออกไปทำงาน

ข้อดีของการเข้าเนอสเซอรี่ (Nursery)

1. ฝึกทักษะการเข้าสังคมเพราะเด็กต้องอยู่ร่วมกับเด็กคนอื่น ๆ และครูพี่เลี้ยง
2. ค่าใช้จ่ายไม่สูงเมื่อเปรียบเทียบกับการจ้างพี่เลี้ยงส่วนตัว
3. เนอสเซอรี่มีกิจกรรมส่งเสริมการเรียนรู้เพื่อให้เด็กฝึกทักษะผ่านการทำกิจกรรมต่าง ๆ
คุณสมบัติอะไรบ้างที่พ่อแม่ควรมองหาจากพี่เลี้ยงเด็กก่อนตกลงจ้าง
ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่คุณพ่อคุณแม่สักคนจะตัดสินใจหาใครมาดูแลลูกน้อยที่เปรียบเสมือนแก้วตาดวงใจ วันนี้ใส่ใจมีข้อมูลของทักษะและคุณสมบัติที่พี่เลี้ยงเด็กควรมีมาฝากให้คุณพ่อคุณแม่ลองเช็คกันดูก่อนตัดสินใจจ้างพี่เลี้ยงสักคน

1. พี่เลี้ยงเด็กต้องมีความอดทนสูง คุณพ่อคุณแม่ต้องมั่นใจว่าพี่เลี้ยงเด็กต้องมีความเข้าใจเด็ก สามารถรับมือกับสถานการณ์ต่าง ๆ ได้ดี และที่สำคัญที่สุดคือเป็นคนที่มีความอดทนสูง
2. พี่เลี้ยงเด็กควรรู้วิธีการปฐมพยาบาลเบื้องต้น ในกรณีเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดหรืออุบัติเหตุ พี่เลี้ยงต้องมีความรู้และทักษะการปฐมพยาบาลเบื้องต้น และสามารถช่วยเหลือเด็กได้ทันที เช่น เด็กที่อยู่ภายใต้การดูแลเกิดอุบัติเหตุหกล้ม มีแผลถลอก พี่เลี้ยงต้องรีบปฐมพยาบาลเบื้องต้นเพื่อไม่ให้เกิดการติดเชื้อของแผล เป็นต้น ดังนั้นคุณพ่อและคุณแม่ควรเลือกพี่เลี้ยงที่มีทักษะด้านการปฐมพยาบาลเบื้องต้นเพราะเป็นสิ่งจำเป็นมาก ๆ
3. พี่เลี้ยงเด็กควรมีทักษะการแก้ไขปัญหา พี่เลี้ยงจะต้องรู้วิธีการแก้ไขปัญหาเบื้องต้นได้โดยไม่จำเป็นต้องแจ้งผู้ว่าจ้างเสมอไปหากปัญหานั้นไม่ใช่ปัญหาที่ร้ายแรง
4. ทำอาหารเป็น ถือเป็นอีกหนึ่งทักษะที่พี่เลี้ยงเด็กจำเป็นต้องมี พี่เลี้ยงไม่ได้มีหน้าที่แค่ดูแลเด็กอย่างเดียวเท่านั้น แต่พี่เลี้ยงอาจจะต้องเตรียมอาหารให้เด็ก ๆ รับประทานในแต่ละมื้อด้วย หากอาหารอร่อยถูกปาก เด็กจะเจริญอาหารและอารมณ์ดี ที่สำคัญที่สุดที่พี่เลี้ยงต้องใส่ใจและจดจำด้วยว่าเด็ก ๆ ที่ดูแลนั้น แพ้อาหารอะไรบ้าง เพื่อป้องกันอุบัติเหตุที่อาจจะเกิดขึ้นจากการรับประทานสิ่งที่แพ้เข้าไป
5. มีความคิดสร้างสรรค์ในการส่งเสริมพัฒนาการเด็ก พี่เลี้ยงจะต้องเป็นคนที่มีความคิดสร้างสรรค์ สามารถร่วมทำกิจกรรมกับเด็ก ๆ ในระหว่างวัน ไม่ว่าจะเป็นทางด้านวิชาการหรือสันทนาการ เช่น พี่เลี้ยงเด็กอาจจะสอนเด็กนับเลข ฝึกการอ่าน หรือระบายสีเพื่อให้เด็กได้เรียนรู้ผ่านกิจกรรมที่สร้างสรรค์เหล่านี้
ควรทำอย่างไรเพื่อคลายความกังวลเมื่อคุณพ่อคุณแม่ต้องปล่อยให้ลูกอยู่ตามลำพังกับพี่เลี้ยง
ไม่ใช่เรื่องง่ายที่สำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่จะไว้วางใจให้ลูก ๆ ของคุณอยู่ในความดูแลพี่เลี้ยงเด็ก แม้ว่าจะเป็นเวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมงก็ตามเด็กอาจเกิดความรู้สึกวิตกกังวลเมื่อต้องแยกจากคุณพ่อคุณแม่ ใส่ใจมีวิธีการที่จะช่วยลดความกังวลของทั้งคุณพ่อคุณแม่และลูกได้ดังนี้ค่ะ

1. คุณพ่อคุณแม่ควรพูดคุยและทำความเข้าใจกับเด็ก ถึงความจำเป็นที่ต้องให้เด็กๆ อยู่กับพี่เลี้ยง ให้ความมั่นใจกับเด็กว่าคุณพ่อคุณแม่หาคนที่สามารถดูแลพวกเขาได้ดี
2. คุณพ่อคุณแม่ควรหาพี่เลี้ยงที่เข้ากันได้กับลูก ๆ และมีความพร้อมในการดูแลเด็ก
3. แนะนำให้ลูก ๆ ทำความรู้จักกับพี่เลี้ยง โดยอาจจะเล่าให้ฟังว่าพี่เลี้ยงเห็นใคร ชื่ออะไร คุยกับพี่ผ่านทางวิดีโอคอลก่อนวันเริ่มงานจริง เพื่อนลดความตึงเครียดในการเจอกันครั้งแรก
4. คุณพ่อคุณแม่ควรบันทึกเบอร์โทรศัพท์ของตัวเอง เบอร์โทรฉุกเฉิน และสอนให้ลูกใช้โทรศัพท์เพื่อโทรหาคุณพ่อคุณแม่ได้ หรือโทรขอความช่วยเหลือได้ในกรณีฉุกเฉิน
5. มอบหมายงานบ้านเล็ก ๆ น้อย ๆ ให้เด็ก ๆ ทำระหว่างวัน เพื่อที่เด็ก ๆ จะได้มีกิจกรรมเบนความสนใจและไม่เอาแต่จดจ่อรอเวลาคุณพ่อคุณแม่กลับบ้าน
6. เมื่อถึงเวลาที่คุณพ่อคุณแม่ต้องออกจากบ้านและต้องให้เด็ก ๆ อยู่กับพี่เลี้ยงเด็ก คุณพ่อคุณแม่ควรให้ความมั่นใจกับเด็ก ๆ ว่าพี่เลี้ยงจะดูแลเด็ก ๆ เป็นอย่างดีและย้ำว่าพวกเขาสามารถโทรหาคุณได้เสมอ
ในวันสัมภาษณ์พ่อแม่ควรตกลงอะไรกับพี่เลี้ยงเด็ก
ขั้นตอนของการสัมภาษณ์พี่เลี้ยงเด็กนั้นถือเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่ง เพราะไม่ใช่แค่คุณจะได้ทำความรู้จักกับพี่เลี้ยงที่คุณจะจ้าง แต่ในขั้นตอนนี้คุณต้องทำการตกลงกับพี่เลี้ยงเด็กก่อนเริ่มงาน ดังนั้นวันนี้ใส่ใจมีข้อแนะนำให้คุณพ่อคุณแม่ที่กำลังจะสัมภาษณ์พี่เลี้ยงเด็กและพูดคุยถึงข้อตกลงที่สำคัญมีอะไรบ้างมาดูกันค่ะ

1) ขอบเขตหน้าที่ที่คุณต้องการให้พี่เลี้ยงทำ เช่น ช่วยเลี้ยงลูกคุณขณะคุณไม่อยู่บ้าน ช่วยเตรียมกับข้าวให้ลูกน้อยรับประทานในแต่ละมื้อ ช่วยสอนการบ้านหากพี่เลี้ยงมีความสามารถ
2) วันและเวลาการทำงาน ในวันที่สัมภาษณ์คุณและพี่เลี้ยงจะต้องตกลงเรื่องวันเวลาการทำงานให้อย่างชัดเจน และคุณควรจะมีวันหยุดให้พี่เลี้ยงตาม กฎหมายกระทรวงแรงงาน นายจ้างต้องให้ลูกจ้างมีวันหยุดประจำสัปดาห์ และวันพักร้อน ได้ 6 วัน ต่อ ปี และต้องหยุดตามประเพณี ปีละไม่น้อยกว่า 13 วัน
3) ค่าจ้าง คุณจะต้องตกลงเรื่องค่าจ้างกับพี่เลี้ยงให้ชัดเจน หากพี่เลี้ยงปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างดี คุณควรที่จะเพิ่มเงินเดือนให้ตามความเหมาะสม ในกรณีที่พี่เลี้ยงเด็กทำงานในวันหยุดนายจ้างต้องจ่ายเงินค่าจ้างตามกฎหมายแรงงาน
4) ข้อตกลงในการอาศัยอยู่ในบ้าน หากคุณมีกฎระเบียบที่ต้องการให้พี่เลี้ยงเด็กปฏิบัติตามกฎที่คุณตั้งไว้ คุณต้องแจ้งให้พี่เลี้ยงเด็กรับทราบก่อนเริ่มงานเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต
5) ถ้าคุณเป็นหนึ่งคนที่ไม่อยากให้ลูกติดโทรศัพท์ คุณควรแจ้งให้พี่เลี้ยงทราบ และควรกำชับพี่เลี้ยงว่าไม่ให้ลูกของคุณเล่นโทรศัพท์ขณะที่คุณไม่อยู่ เพราะเด็กอาจได้รับผลกระทบจากการเล่นโทรศัพท์นานเกินไปจนส่งผลให้เกิดภาวะสมาธิสั้นและส่งผลกับสายตา ดังนั้นพี่เลี้ยงจะต้องหากิจกรรมที่ให้เด็กได้พัฒนาตนเองมากกว่าการเล่นโทรศัพท์มือถือ

พระยาไทย / เขตพญาไท

เขตพญาไทเป็นเขตชั้นในของกรุงเทพมหานคร มีพื้นที่เกือบสิบตารางกิโลเมตร ที่มีจำนวนประชากรค่อนข้างจะหนาแน่น เนื่องจากเป็นที่ตั้งของสถานที่ราชการ เช่น กระทรวงการคลัง กรมสรรพากร กรมธนารักษ์ กรมบัญชีกลาง เป็นต้น รวมทั้งสถานศึกษา โรงเรียนสามเสนวิทยาลัย และสถานพยาบาลอีกหลายๆ แห่ง เช่น โรงพยาบาลทหารผ่านศึก โรงพยาบาลเปาโล เมโมเรียล พหลโยธิน และ โรงพยาบาลพญาไท 2 หลายๆ คนคุ้นเคยกับถนนพญาไท และวังพญาไท โดยอาจไม่รู้ว่าทั้งถนนพญาไทและวังพญาไทนั้น ปัจจุบันไม่ได้อยู่ใน เขตพญาไทแล้ว หากอยู่ในเขตราชเทวี เขตใหม่ที่แยกออกไปเมื่อ พ.ศ.2537 อีกทั้งชื่อ พญาไท นั้น เดิมคือ พระยาไทย ตามหลักฐานใน สารบาญชี (การจัดวิธีเกณฑ์คนเข้ารับราชการฝ่ายทหารและพลเรือนในสมัยโบราณ ตั้งเป็นกรมเรียกว่า กรมพระสุรัสวดี คือ สัสดี) สำหรับเจ้าพนักงานไปรษณีย์ พ.ศ.2426 สมัยรัชกาลที่ 5 ที่มีการแบ่งพื้นที่เป็น คลองพระยาไทยบ้านแขกครัว และคลองพระยาไทยฝั่งใต้ และในแผนที่กรุงเทพฯ พ.ศ.2450 และ พ.ศ.2453 แสดงให้เห็นแนว คลองพระยาไทย เริ่มจากคลองสามเสน ทางทิศเหนือ ลงมาเชื่อมกับคลองบางกะปิทางทิศใต้ มีความยาวประมาณ 2 กิโลเมตร คลองพระยาไทย นั้นถูกถมไปเกือบหมดแล้วในปัจจุบัน ทุกวันนี้ยังคงปรากฏทางน้ำในพื้นที่โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า และเมื่อเปรียบเทียบกับแผนที่ประวัติศาสตร์และแผนที่กรุงเทพฯ จากคลองบางกะปิหรือในปัจจุบันเรียกว่าคลองแสนแสบ คลองพระยาไทยกลายเป็นซอยเพชรบุรี 12 ซอยเพชรบุรี 7 ซอยราชวิถี 15 จนข้ามไปโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้าที่เชื่อมกับคลองสามเสน โดยข้อมูลของสำนักการระบายน้ำกรุงเทพมหานคร ระบุว่า คลองพญาไท เริ่มต้นจากคลองบางกะปิถึงถนนเพชรบุรี มีประกาศพระราชกฤษฎีกาตั้งอำเภอพญาไท อีกครั้งในปี พ.ศ.2509 โดยมีเหตุผลประกอบว่าตำบลเพชรบุรี ตำบลทุ่งพญาไท ตำบลถนนพญาไท ตำบลมักกะสัน ตำบลสามเสนใน ในอำเภอดุสิต และตำบลบางกะปิ ตำบลห้วยขวาง ในอำเภอบางกะปิ จังหวัดพระนคร มีท้องที่กว้างขวาง มีชุมนุมชนและชุมนุมการค้าหนาแน่น สมควรแยกตำบลดังกล่าว ออกจากอำเภอดุสิตและอำเภอบางกะปิ และยกฐานะขึ้นเป็นอำเภอพญาไท

ต่อมาเมื่อมีการจัดตั้งกรุงเทพมหานคร พ.ศ.2515 จึงเปลี่ยนสถานะจากอำเภอเป็นเขตพญาไท รวมทั้งมีการเปลี่ยนแปลงพื้นที่ปกครองของเขตพญาไทหลายครั้ง ดังนี้ พ.ศ.2516 มีการยกฐานะแขวงห้วยขวาง และแขวงบางกะปิ เป็นเขตห้วยขวาง พ.ศ.2521 แยกแขวงดินแดง และบางส่วนของแขวงสามเสน ไปขึ้นกับเขตห้วยขวาง และ พ.ศ.2532 ยกสี่แขวงทางทิศใต้ ของเขตพญาไท เป็นเขตราชเทวี ปัจจุบันเขตพญาไทจึงประกอบด้วย แขวงพญาไท และแขวงสามเสนในเท่านั้น

พระราชวังพญาไท ที่เป็นที่มาของชื่อเขต รวมทั้งถนนพญาไท จึงไม่ได้อยู่ในพื้นที่ของเขตพญาไท ด้วยเหตุนี้เอง



วิธีเตรียมพร้อมลูกสำหรับไปสถานที่รับเลี้ยงเด็ก

หลังจากคู่รักใช้เวลาด้วยกันมาช่วงเวลาหนึ่ง เมื่อมีลูกน้อยเป็นโซ่คล้องดวงใจ ใช้เวลาด้วยกัน ในโลกของความเป็นพ่อ แม่ ลูก เต็มไปด้วยช่วงเวลาแรกช่วงเวลามหัศจรรย์ จนถึงเวลาที่คุณพ่อคุณแม่ต้องกลับไปทำงาน การเดินทางบทใหม่ เริ่มขึ้น อีกครั้ง ความตื่นเต้น ความกังวล กับการพาลูกน้อยไปสถานที่รับเลี้ยงเด็กเป็นครั้งแรก อย่างไรก็ตามการวางแผนเพิ่มเติมเล็กน้อยจะใช้เวลาไม่นาน ในการเตรียมลูก สำหรับสถานที่รับเลี้ยงเด็กเพื่อให้แน่ใจว่าการเปลี่ยนแปลงจะราบรื่นที่สุด สำหรับเราและลูกน้อยของเรา

1.เราควรพาลูกไป เยี่ยมชมโรงเรียน ไปทำความรู้จัก ก่อนไปจริงๆ วันแรก การไปส่งครั้งแรกน่าจะราบรื่นขึ้นหากลูกของคุณเรา จำพื้นที่และครูของเขาได้แล้ว “เมื่อคุณพบครูครั้งแรก คุณครูยังคงเป็นคนแปลกหน้าสำหรับเราและเป็นคนแปลกหน้ามากๆ สำหรับลูกของเราดังนั้น เราต้องรู้สึกสบายใจ ไว้ใจ เมื่ออยู่กับคุณครู” เราขอแนะนำให้ไป ดูช่วงกลางวันกับลูกของคุณมากกว่าหนึ่งครั้ง ก่อนวันสำคัญจะมาถึง เพื่อความคุ้นเคยไม่แปลกแยก

2.พูดคุยเกี่ยวกับกิจกรรมใหม่ ให้ลูกรู้เข้าใจในสิ่งที่จะเกิดขึ้น การเล่นกับเพื่อน อยู่ในสังคมวัยเดียวกัน เรียนรู้กับคุณครู ล้วนเป็นประสบการณ์ที่ดีสำหรับลูกของเรา แต่ก็เป็นเรื่องปกติที่พวกเขาจะรู้สึกหวาดกลัว นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมการพูดถึงกิจวัตรใหม่ก่อนเริ่มจึงสำคัญมาก “การเปลี่ยนแปลงเป็นเรื่องน่ากลัวสำหรับคนทุกวัย เราควรอธิบายให้ลูกฟังว่าพวกเขาจะไปที่ไหนและไปทำไมและพูดถึงเรื่องนี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่าในช่วงวันแรก”

3.ฝึกช่วยเหลือตัวเอง เนื่องจากคุณครูในสถานที่รับเลี้ยงเด็กต้องดูแลเด็กหลายคนพร้อมกัน หากลูกเรามีทักษะและสามารถทำบางสิ่งได้ด้วยตนเองโดยไม่ต้องมีคนช่วย จะทำให้คุณครูพี่เลี้ยงมีโอกาสที่จะส่งเสริมพัฒนาการและทักษะอื่นๆ ได้มากขึ้น ตัวอย่างเช่น หากเด็กสามารถใส่เสื้อผ้าหรือล้างมือได้นั่นจะช่วยได้มาก หรือสามารถบอกว่าต้องการเข้าห้องน้ำ ห้องสุขาได้

4.นำสิ่งของสุดที่รัก ที่ชอบ หรือช่วยให้หลับสบาย “ให้เด็กโต – เด็กวัยเตาะแตะขึ้นไปนำสิ่งของที่ทำให้นึกถึงบ้านและช่วยให้พวกเขาเข้านอนในช่วงเวลางีบหลับเช่นผ้าห่มหรือตุ๊กตาสัตว์” ปล. มีคำแนะนำนิดหนึ่ง สำหรับเด็กทารกหรือเด็กอายุต่ำกว่า 1 ขวบ ไม่ควรมีสิ่งของเหล่านี้บนที่นอน ด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัยในการนอนหลับ

5.คุณพ่อแม่ต้องอดทน “ถึงแม้ว่าวันนั้นเป็นวันที่ลูกของเราไม่ต้องการให้เราเดินจากไปและเพราะลูกมักจะคิดว่า เราเป็นผู้ดูแลหลักของลูก พ่อและแม่คือคนของลูก เด็ก ๆ มีความยืดหยุ่นและพวกเขาจะปรับตัวเมื่อได้ใช้เวลาและความเข้าใจจากผู้คนรอบข้าง “ถ้าพวกลูกรับรู้ว่าสิ่งแวดล้อมปลอดภัยและผู้คนที่อยู่รอบ ๆ สภาพแวดล้อมนั้นคอยให้การสนับสนุนและดูแลพวกเขา

ทุกช่วงเวลาของวัยมีการเปลี่ยนแปลงเสมอ ศึกษา ให้เข้าใจ และโตไปพร้อมๆ กับลูก



“Phya Thai Palace Hotel”

“Phya Thai Palace Hotel”

หากนำชื่อนี้ไปหาในเว็บไซด์ หรือแอปพริเคชั่นรับจองโรงแรม ..ก็คงได้โรงแรมที่มีชื่อใกล้เคียง หากแต่โรงแรมนี้เคยเป็นโรงแรมที่ มีชื่อเสียงและหรูหรา เทียบเท่าหรือมากกว่า โรงแรมออเรียนเต็ล ในสมัยหนึ่งโรงแรมนี้มีชื่อว่า โฮเต็ลพญาไท โฮเต็ลพญาไท จัดเป็นโรงแรมที่หรูหรามากในยุคนั้น และได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในโรงแรมที่ ยอดเยี่ยมที่สุดในภาคพื้นตะวันออกไกล (Far East) เดิมที่ โรงแรมแห่งนี้ คือ พระราชวัง และ พระราชวังเก่าแห่งนี้ถูกเปลี่ยนสถานะไปหลายรูปแบบ เริ่มต้นด้วยการเป็นพระราชวังเล็ก ๆ ที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 5) ทรงประทับและสร้างขึ้นตั้งแต่ พ.ศ. พ.ศ. 2452 (ค.ศ. 1909) หลังจากนั้นในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 6 ได้มีรับสั่งให้ปรับโครงสร้างพระราชวังและสร้างพระที่นั่งที่ประทับเพิ่มเติมขึ้นอีก 4 แห่ง เป็น พระที่นั่งไวกูณฐเทพยสถาน พิมานจักรี ศรีสุทธนิวาส เทวราชสภารมย์ และอุดมวนาภรณ์ ก่อนที่จะเปลี่ยนสถานที่ในโรงแรมพญาไทซึ่งเป็นโรงแรมที่หรูหราที่สุดของโลกตะวันออก แต่การบริหารโรงแรมนั้นยากยิ่งนัก ประจวบกับเพิ่งผ่านสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง มาได้ไม่นาน จากโรงแรม โฮเต็ลพญาไท ก็เปลี่ยนเป็นสถานีวิทยุและหน่วยแพทย์ประจำกองทัพซึ่งเป็นต้นกำเนิดของโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้าซึ่งตั้งอยู่ใกล้กับพระราชวังแห่งนี้ สถานะล่าสุดของพระราชวังพญาไทคือพิพิธภัณฑ์ที่ยิ่งใหญ่ที่รวบรวมประวัติศาสตร์ทุกกระเบียดนิ้ว นอกจากนี้ยังมีหอสูงและซุ้มประตูสูงบนชั้นดาดฟ้าของพระตำหนักพิมานมหาจักรพรรดิ์ได้กลายเป็นสถานที่สำคัญที่ผู้คนจดจำ รวมถึงพระบรมราชานุสาวรีย์สำริดที่มีขนาดเท่ากับพระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัวที่ประทับในพระอิริยาบถยืนตรงหน้าอาคารอู่รถพระที่นั่ง ควรค่าแก่การไปสักการะ สักครั้งในชีวิต หากเป็นม้วนฟิล์มมองย้อนกลับไปภาพที่ครึกครื้นตอนเริ่มสร้างในปลายรัชสมัยรัชกาลที่ 5 โปรดที่จะเสวยพระกระยาหารเรียบง่ายที่โรงนาหลวง ในบริเวณพระราชวังพญาไท เช่นเดียวกับฝ่ายใน นำโดยสมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ พร้อมด้วยฝ่ายในและพระบรมวงศานุวงศ์ ก็โปรดที่จะทำนาปลูกข้าว มาอีกรัชสมัยที่ วงดนตรีสากลชนิดออเคสตร้า ๒๐ คน ใช้นักดนตรีจากกองดุริยางค์ทหารบก บรรเลงให้เต้นรำในวันสุดสัปดาห์ จวบจนหลวงสุขุมนัยประดิษฐ์ จบการศึกษาจากสหรัฐอเมริกากลับมา ก็ได้นำวงดนตรีแจ็สมาบรรเลงที่โฮเต็ลแห่งนี้ จนมาถึงวันที่สงบนิ่งพักผ่อนท่ามกลางเมืองหลวงที่เปลี่ยนไป ...