วิธีการทำงาน
ติดต่อเรา
ติดต่อเราโดยตรงผ่าน LINE OA เพื่อจองบริการที่คุณต้องการ
แจ้งรายละเอียดให้เราทราบ
เลือกบริการ วันที่ เวลา และสถานที่ที่คุณต้องการให้ตรงกับความต้องการของคุณ
ยืนยันการจองของคุณ
เราจะยืนยันการจองของคุณภายใน 24 ชั่วโมงผ่านทาง LINE OA
มีความรักและความเมตตาต่อลูกศิษย์มีความเสียสละ หมั่นเพียรศึกษาปรับปรุงวิธีการสอนเพื่อพัฒนาตนเองอยู่เสมอมีความเข้าใจและเอาใจใส่ตัวศิษย์ทุกคนเป็นกำลังใจและช่วยสร้างแรงบันดาลใจเพื่อให้ผู้เรียนเป็นคนที่ใฝ่รู้เป็นแบบอย่างที่ดีมีจรรยาบรรณ มีจิตวิญญาณของความเป็นครูสามารถถ่ายทอดความรู้ได้เป็นอย่างดีมีวิธีการสอนที่หลากหลายมีวิสัยทัศน์กว้างไกลมีความยุติธรรมยอมรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น รวมถึงการยอมยอมรับและเข้าใจความแตกต่างของเด็กแต่ละคน
ประสบการณ์ทำงานกว่า 12 ปี ด้านนำเข้าและส่งออก ในสถาบันการเงินที่มีชื่อเสียง 2 แห่ง และได้ไปศึกษาต่อระดับปริญญาโทที่ประเทศอังกฤษ ด้าน International Business and Finance ตอนนี้กลับมาเนื่องจากสถานการณ์โรคระบาด และทำงานเป็นฟรีแลนด์ ไม่เคยมีประสบการณ์ด้ารการสอนหนังสือตามบริษัทหรือนายหน้า แต่ตอนนี้สอนภาษาอังกฤษให้กับหลาน ป.2 และ ป.6 โดยเน้นในส่วนของ Grammar
ข้อมูลสถิติน่าสนใจเกี่ยวกับ
รีวิวล่าสุด
คำถามที่พบบ่อยสำหรับการค้นหา ติวเตอร์
1) ความใส่ใจ หลายท่านอาจค้านว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับครูสอนพิเศษหรือติวเตอร์คือความรู้และประสบการณ์ ซึ่งมีส่วนถูก แต่ถ้ามองในมุมของนักเรียน นักเรียนแต่ละคนมีความแตกต่างกันทั้งด้านสติปัญญา การคิด การตัดสินใจ และความสามารถในการเรียนรู้ ครูสอนพิเศษหรือติวเตอร์ที่ดีต้องมีความเข้าใจในตัวนักเรียน เพื่อหาเทคนิค วางแผนการสอนที่เหมาะสม มีวิธีการสื่อสาร และสามารถดึงดูดความสนใจของนักเรียน เพื่อให้นักเรียนได้รับความรู้อย่างเต็มที่
2) ความรู้ความชำนาญในเนื้อหาที่สอน ครูสอนพิเศษหรือติวเตอร์ต้องมีความรู้และความชำนาญในเนื้อหาวิชาที่สอนเป็นอย่างดี ต้องสามารถตอบคำถามและอธิบายในสิ่งที่นักเรียนสงสัยได้
3) ความยืดหยุ่น ในที่นี้หมายถึงครูสอนพิเศษหรือติวเตอร์ยินดีที่จะปรับเปลี่ยนเทคนิคการสอนเพื่อให้สอดคล้องกับรูปแบบการเรียนรู้ของนักเรียนแต่ละคนมากที่สุด
4) ความอดทน ในกรณีที่นักเรียนมีข้อสงสัยในเนื้อหาที่เรียน นักเรียนอาจจะถามคำถามเดิมซ้ำๆ ครูสอนพิเศษหรือติวเตอร์ต้องไม่แสดงความรำคาญทั้งน้ำเสียงและท่าทาง
5) เป็นผู้ฟังที่ดี ครูสอนพิเศษหรือติวเตอร์ไม่ได้มีหน้าที่แค่ถ่ายทอดความรู้ด้วยการสื่อสารเพียงฝั่งเดียว กระบวนการเรียนรู้จะมีประสิทธิภาพมากขึ้นเมื่อให้นักเรียนมีโอกาสโต้ตอบ โต้แย้ง และหาข้อสรุปร่วมกัน ดังนั้นหากจะมองหาครูสอนพิเศษสักคนคุณพ่อคุณแม่อย่าลืมดูคุณสมบัติและทักษะเหล่าของติวเตอร์เพื่อประกอบการตัดสินใจนะคะ
• เมื่อเรียนพิเศษตัวต่อตัว นักเรียนจะมีความใกล้ชิดกับติวเตอร์ ในด้านของนักเรียนหากมีข้อสงสัยนักเรียนสามารถสอบถามติวเตอร์ได้ตลอดเวลา อีกทั้งยังมีสมาธิกว่าการเรียนกลุ่มใหญ่ ๆ อีกด้วย ส่วนในด้านของติวเตอร์เมื่อรับงานสอนพิเศษตัวต่อตัวแล้ว เป้าหมายที่สำคัญที่สุดคือการถ่ายทอดวิชาความรู้ให้นักเรียนอย่างสุดความสามารถ และติวเตอร์เองจะมุ่งเน้นความใส่ใจไปที่เด็กนักเรียนคนเดียวจึงทำให้เด็กได้รับความรู้อย่างมีประสิทธิภาพ เมื่อนักเรียนเข้าใจในสิ่งที่ติวเตอร์สอน นักเรียนจะสามารถทำข้อสอบที่โรงเรียนได้และได้ผลลัพธ์ที่ดีอีกด้วย
• การเรียนพิเศษนั้นนักเรียนจะได้ฝึกทำข้อสอบ หรือแบบฝึกหัดและสามารถทำข้อสอบได้เมื่อเรียนที่โรงเรียนเพราะแน่นอนจุดสำคัญที่สุดของการเรียนของเด็กไทยเพื่อให้ได้คะแนนดี ๆ หรือเกรดสวย ๆ นั้นมาจากการทำข้อสอบเป็นหลัก ดังนั้นติวเตอร์จะให้ทริคการทำโจทย์ต่าง ๆ ให้นักเรียนเพื่อให้นักเรียนสามารถเอาไปใช้ในสนามสอบได้
ดังนั้นการเรียนพิเศษแบบตัวต่อตัวกับติวเตอร์ส่วนตัวนั้นทำให้เกิดผลลัพธ์ที่ดีต่อตัวนักเรียน อีกทั้งยังทำให้นักเรียนนั้นมีผลการเรียนที่ดีขึ้นอีกด้วย
1) คุณต้องอ่านประวัติติวเตอร์ให้ดีก่อนทำการจ้าง สถาบันการศึกษา ข้อมูลการติดต่อติวเตอร์ ดูประวัติการทำงาน ประสบการ์ณต่าง ๆ ในการสอน เพื่อประกอบการตัดสินใจในการจ้าง หากติวเตอร์มีประสบการณ์มากเท่าไหร่ ถือว่าติวเตอร์มีคุณภาพที่จะถ่ายทอดวิชาความรู้ให้คุณค่ะ
2) ก่อนจะทำการจ้างคุณควรจะสอบถามติวเตอร์ให้แน่ชัดถึงเนื้อหาที่สอน บทเรียนที่ติวเตอร์จะสอนมีอะไรบ้าง หรืออาจจะถามติวเตอร์โดยตรงเลยว่าติวเตอร์จะเน้นบทไหนเป็นพิเศษ อีกทั้งน้อง ๆ ยังสามารถสอบถามถึงสื่อการสอนที่ติวเตอร์เตรียมให้กับผู้เรียน ไม่ว่าจะเป็นหนังสือหรือมีชีทแจกให้
3) ข้อตกลงเรื่องเวลาและสถานที่ คุณจะต้องคุยกับติวเตอร์ถึงวันเวลาและสถานที่ที่ต้องการเรียนให้ชัดเจน หากคุณสะดวกเรียนที่บ้านของคุณ คุณจะต้องแจ้งกับติวเตอร์โดยตรง หากในกรณีคุณสะดวกเรียนตามที่สาธารณะ เช่น ร้านกาแฟ ห้องสมุด คุณจะต้องแจ้งให้ติวเตอร์ทราบก่อนการเรียนเสมอ อย่างไรก็ดีใส่ใจแนะนำให้น้อง ๆ เลือกสถานที่ที่เหมาะสม หากสถานที่มีเสียงดังและมีคนพลุกพล่าน จะทำให้น้อง ๆ เสียสมาธิในการเรียนได้ค่ะ
หากน้อง ๆ ตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้นดังกล่าวแล้ว น้อง ๆ สามารถจองติวเตอร์บนเว็บไซต์ใส่ใจได้เลยค่ะ ติวเตอร์คุณภาพรอที่จะถ่ายทอดความรู้ให้น้อง ๆ อยู่ค่ะ
ติวเองหรือเรียนพิเศษ ทางเลือกใดเหมาะกับการเตรียมตัวสอบ
การเตรียมตัวสอบเข้าโรงเรียนที่มีชื่อเสียงอาจเป็นอุปสรรคสำคัญสำหรับนักเรียนหลายคน สำหรับนักเรียนส่วนใหญ่ การทดสอบที่ท้าทายและมีการแข่งขันสูงเหล่านี้เป็นประสบการณ์ครั้งแรก เนื่องจากการทำข้อสอบเป็นทักษะที่ไม่ได้สอนในโรงเรียนเสมอไป ครอบครัวส่วนใหญ่จึงต้องหาวิธีเตรียมตัวนอกเวลาเรียน ทางเลือกหนึ่งที่ได้รับความนิยมสำหรับการเตรียมสอบคือการเรียนพิเศษ หลายครอบครัวใช้ติวเตอร์ส่วนตัวหรือหาศูนย์กวดวิชาเพื่อพัฒนาคะแนนสอบของบุตรหลาน แต่การเรียนพิเศษอาจมีราคาสูง บางครอบครัวต้องเสียเงินพอสมควรสำหรับฤดูกาลสอบเพียงครั้งเดียว การเรียนพิเศษเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพสำหรับนักเรียนในการเพิ่มคะแนนสอบได้อย่างมาก หลายครอบครัวเห็นตรงกันว่าการเรียนพิเศษเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้สอบได้ เพื่อให้คุณพ่อคุณแม่แน่ใจว่าการเรียนพิเศษนั้นคุ้มกับเวลาและเงินหรือไม่ ก่อนตัดสินใจเรียนพิเศษหรือกวดวิชาใด ๆ ก่อนอื่นต้องประเมินว่าบุตรหลานมีจุดอ่อนตรงไหน ต้องการเน้นย้ำเรื่องใด เพื่อนให้แน่ใจว่าติวเตอร์จะช่วยกวดขันและเน้นเนื้อหาที่ต้องการเพื่อให้การเรียนพิเศษะประสบความสำเร็จอย่างแท้จริง
ความเชี่ยวชาญในเนื้อหา การเรียนพิเศษ ไม่ว่าจะเป็นการเรียนตัวต่อตัวกับติวเตอร์ หรือเรียนในชั้นเรียนตามสถาบันกวดวิชา ติวเตอร์จะเน้นเนื้อหาที่ใช้ในการสอบ ทักษะและกลยุทธ์ในการทำข้อสอบ ติวเตอร์จะมีเทคนิคที่จะช่วยให้นักเรียนทำข้อสอบได้ทันเวลา
ความมั่นใจ การเรียนพิเศษจะส่งเสริมความมั่นใจและลดความวิตกกังวลในการทำข้อสอบให้กับนักเรียน
หากคุณเป็นผู้ปกครองที่กำลังพิจารณาว่าการเรียนพิเศษแบบตัวต่อตัวนั้นมีความจำเป็นกบบุตรหลานคุณแค่ไหน ให้ลองถามตัวเองด้วยคำถามสำคัญสองสามข้อนี้:
- คุณเข้าใจเนื้อหาในการทดสอบอย่างถ่องแท้หรือไม่ และคุณสามารถช่วยให้บุตรหลานของคุณให้เข้าใจได้หรือไม่
- คุณมีความรู้เกี่ยวกับเทคนิคในการทำข้อสอบหรือไม่ และสามารถถ่ายทอดเทคนิคเหล่านั้นให้กับบุตรหลานของคุณได้อย่างสมบูรณ์หรือไม่
- ถ้าคุณมั่นใจว่าคุณเข้าใจเนื้อหาวิชาและรู้เทคนิคการทำข้อสอบ แล้วคุณแน่ใจหรือไม่ว่าคุณจะสามารถสอนลูก ๆ ของคุณเองได้ หลายครั้งที่พ่อแม่ที่เรียนเก่งแต่ไม่สามารถแม้จะสอนการบ้านให้ลูกได้ด้วยตัวเอง ถ้ายังไม่แน่ใจว่าตัวเองจะทำหน้าที่สอนได้ดี ก็ยกหน้าที่นี้ให้กับติวเตอร์จะดีกว่า
ยตนเอง อย่างไรก็ตาม หากคุณไม่แน่ใจในความเชี่ยวชาญของคุณหรือเชื่อในการจ้างผู้เชี่ยวชาญภายนอก การสอนพิเศษอาจเป็นทางเลือกที่เหมาะสมสำหรับคุณสามประเด็นหลักของการทำแบบทดสอบที่นักเรียนต้องเชี่ยวชาญเพื่อที่จะประสบความสำเร็จ:
ความเชี่ยวชาญด้านเนื้อหา นักเรียนของคุณเข้าใจเนื้อหาที่จะทดสอบหรือไม่
ทักษะและกลยุทธ์ในการทำข้อสอบ นักเรียนของคุณเป็นผู้สอบที่มีประสิทธิภาพหรือไม่? พวกเขารู้วิธีจัดการเวลาในการทดสอบตามกำหนดเวลาหรือไม่ และพวกเขาเข้าใจวิธีการทำการทดสอบแบบปรนัยอย่างมีกลยุทธ์หรือไม่?
ความมั่นใจซึ่งสามารถทำได้โดยความสำเร็จและการปรับปรุงอย่างต่อเนื่องในการทดสอบการปฏิบัติ
นักเรียนสามารถเรียนรู้เครื่องมือเหล่านี้ได้ด้วยตัวเอง แต่บางครั้งพวกเขาต้องการคำแนะนำเพิ่มเติมจากผู้ปกครอง ครู หรือผู้สอน
หากคุณเป็นผู้ปกครองที่กำลังพิจารณาการสอนพิเศษแบบตัวต่อตัวกับการเตรียมบุตรหลานด้วยตัวเอง ให้ถามตัวเองด้วยคำถามสำคัญสองสามข้อ:
คุณเข้าใจเนื้อหาในการทดสอบอย่างมั่นใจหรือไม่ และคุณสามารถช่วยให้บุตรหลานของคุณเข้าใจได้หรือไม่
คุณมีความรู้เกี่ยวกับกลยุทธ์การทำข้อสอบหรือไม่ และสามารถช่วยบุตรหลานของคุณให้สมบูรณ์แบบได้หรือไม่
แม้ว่าคุณจะมั่นใจในความสามารถของตนเองในการ "เก่ง" แบบทดสอบมาตรฐานการแข่งขัน คุณเป็นคนที่ดีที่สุดในการสอนลูกของคุณหรือไม่?
หากคุณตอบว่าใช่สำหรับคำถามทั้งหมดข้างต้น คุณอาจพบว่าประสบความสำเร็จอย่างมากหรือโดยการให้บุตรหลานของคุณใช้ระบบออนไลน์ด้วยตนเอง อย่างไรก็ตาม หากคุณไม่แน่ใจในความเชี่ยวชาญของคุณหรือเชื่อในการจ้างผู้เชี่ยวชาญภายนอก การสอนพิเศษอาจเป็นทางเลือกที่เหมาะสมสำหรับคุณ เพราะเวลาไม่คอยท่า การตัดสินใจที่ดีที่สุด ถูกต้องที่สุดเพื่อเป้าหมายของบุตรหลานเราเอง
เคล็ดลับในการเตรียมตัวสอบ
saijai.io มีคำแนะนำสี่ข้อสำหรับการเตรียมตัวสอบ
1. รู้ข้อสอบ
ถามครูผู้สอนเกี่ยวกันแนวการออกข้อสอบว่าจะประกอบด้วยคำถามแบบปรนัยหรือเรียงความสั้น ๆ เกี่ยวข้องกับการแก้ปัญหาหรือการท่องจำ นักเรียนหลายคนมักจะจดบันทึกรายละเอียดเนื้อหาวิชา และทำสรุปเนื้อหาที่สำคัญ และใช้เทคนิคต่าง ๆ ในการช่วยจำ เพราะคงจะเป็นไปไม่ได้ที่นักเรียนจะสามารถจดจำได้ทุกรายละเอียด โดยเฉพาะการเร่งจำเนื้อหาในช่วงสุดท้ายก่อนสอบ saijai ขอแนะนำให้ทบทวนบทเรียนอย่างน้อยหนึ่งครั้งต่อสัปดาห์เพื่อทำความเข้าใจเนื้อหาให้แน่น หาเวลาทบทวนและแลกเปลี่ยนความรู้กับติวเตอร์หรือกลุ่มเพื่อนนักเรียนเพื่อแบ่งปัน จดบันทึกและพูดคุยถึงสิ่งที่ได้เรียนรู้ ก่อนถึงวันสอบควรให้เวลาตัวเองได้พักผ่อนบ้างจะได้ไม่เครียดกับการสอบจนเกินไป
2. รู้จักตัวเอง
นักเรียนต้องเข้าใจรูปแบบการเรียนรู้ของตนเอง ไม่ว่าจะเป็นผู้ที่เรียนรู้ด้วยภาพ การได้ยิน หรือการเคลื่อนไหว หรือว่าเรียนรู้ได้ดีที่สุดผ่านการอ่านและการเขียน แนะนำให้ทำงานกับติวเตอร์หรือกลุ่มเพื่อนนักเรียน อธิบายเนื้อหาหรือบทเรียนที่ต้องการทบทวนออกมาด้วยเสียงดัง ๆ จะช่วยให้เราจำเนื้อหานั้น ๆ ได้มากกว่าการท่องจำอยู่เงียบ ๆ คนเดียว
3. รู้จักแหล่งทรัพยากรความรู้
นักเรียนที่มีผลการเรียนดีมักเคยชินกับการพึ่งพาตนเองและไม่ชอบขอความช่วยเหลือจากผู้อื่น saijai แนะนำว่าการพูดคุยหรือขอคำแนะนำจากรุ่นพี่ย่อมผู้มีประสบการณ์ย่อมมีประโยชน์ต่อตัวนักเรียนอย่างแน่นอน
4. รู้ขีดจำกัดของตัวเอง
อย่าหักโหมหรือเคร่งเครียดกับการเตรียมสอบจนมากเกินเพราะจะทำให้หมดไฟได้ง่าย การทำข้อสอบที่ประสบความสำเร็จต้องใช้ความแข็งแกร่งและสมาธิ นักเรียนต้องจัดสรรเวลาในทุกวันเพื่อพักผ่อน รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ และออกกำลังกาย โดยปกติแล้ว การดูแลตนเองเป็นสิ่งแรกที่ต้องทำในสถานการณ์ที่มีความเครียดสูง การได้ดูแลตัวเองและพัฒนานิสัยที่ดีต่อสุขภาพในโรงเรียนแพทย์จะทำให้คุณพร้อมสำหรับความสำเร็จในการทำข้อสอบ
ท่าฉลอม
เสียงนุ่มนวลของ คุณชรินทร์ นันทนาคร ร้องให้นึกถึงเสียงเพลงท่อนที่ร้องว่า “ท่าฉลอม กับมหาชัย จะคิดทำไมว่าไกล เชื่อมความรักไว้ดีกว่า” ความรักสวยงามเสมอ แม้มีแม่น้ำขวางกั้น ปัจจุบันท่าเรือข้ามฟากแห่งนี้แทบจะไม่หลับใหล ให้ “พี่” ต้องไกล “พยอม” อีก แต่ภาพมะพร้าวลอยเท้งเต้งเหนี่ยวนำความรักของพี่จากฝั่งท่าฉลอมสู่มหาชัย ยังอยู่ในใจพยอมทั้งสองฝั่งอยู่เสมอ เนื้อหาของเพลงได้พูดพรรณนาถึงหนุ่มประมงชาวท่าฉลอมที่ไปหลงรักสาวมหาชัย ในสมัยนั้นเพลงนี้ดังมาก ร้องกันทั้งบ้านทั้งเมือง แต่สำหรับชาวสมุทรสาครถือเป็นเพลงฮิตประจำจังหวัดเลยก็ว่าได้ วันนี้เมื่อนึกถึง ท่าฉลอม รถสามล้อถีบโบราณ ท่าเรือข้ามฟาก ท่าฉลอม-มหาชัย และถนนถวาย 3 สิ่งสามัญประจำถิ่นซึ่งเฉลยคำว่า “ท่าฉลอม” ด้วยอัตลักษณ์และเรื่องเล่า การเป็นสุขาภิบาลหัวเมืองแห่งแรกของสยามประเทศ สรุปบันทึกเหตุการณ์ได้ว่า พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ทรงมีพระราชดํารัสในวันประชุมเสนาบดี ภายหลังเสด็จประพาสเมืองนครเขื่อนขันธ์ (ปัจจุบันคือ อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ) ว่า ‘โสโครกเหมือนกับตลาดท่าจีน (ท่าฉลอม) ปัจจุบัน ท่าฉลอมเป็นส่วนหนึ่งของชุมชนบ้านท่าจีน หรือสมุทรสาครในปัจจุบัน แต่เพราะสมัยก่อนบริเวณริมฝั่งท่าฉลอมมี ‘เรือฉลอม’ (เรือต่อชนิดหนึ่ง คล้ายเรือกระแชง หัวท้ายงอนเรียวกลางป่อง ตัวเรือเป็นเหลี่ยม กระดานข้างเรือเป็นทับเกล็ด นิยมใช้ตามหัวเมืองชายทะเลแถบปากอ่าว สำหรับบรรทุกสินค้าหรือหาปลาสมัยโบราณเวลาเกิดศึกสงครามก็จะถูกเกณฑ์ไปใช้ในราชการทัพด้วยอาจติดใบหรือไม่ก็ได้) เรือฉลอม จำนวนมากเข้ามาเทียบท่าจอดขายปลาและซื้อสินค้า ก็เลยมีชื่อเรียกท่านี้ว่าท่าฉลอม ที่น่าสนใจคือ ท่าฉลอมมีลักษณะเกือบเป็นเกาะ มีแม่น้ำท่าจีนล้อมรอบเกือบทั้งหมด ยกเว้นที่ท้ายบ้านของท่าฉลอม ซึ่งกว้างเพียงราว 200 เมตรที่แม่น้ำท่าจีนไม่ได้ล้อมรอบไว้ อีกอย่างที่นี่ยังเคยเป็นชุมชนประมงสำคัญ ตอนนี้ก็ยังเป็น แต่อาจน้อยกว่าอดีต บริเวณสำคัญอยู่ที่ถนนถวาย เป็นถนนที่ชาวท่าฉลอมสร้างถวายรัชกาลที่ 5 เป็นย่านการค้าสำคัญ ถนนตรงนี้ให้เป็นเส้นทางหลักสำหรับเยือนชุมชน หากมีโอกาสได้ไปเยี่ยมเยือนท่าฉลอมลองหาโอกาส นั่งสามล้อ ปั่นออกจากศูนย์ท่องเที่ยวและชุมชนท่าฉลอม มุ่งหน้าไปตามถนนถวาย ซึ่งสามล้อปั่นที่ว่าไม่มีให้เห็นนานแล้ว จะเห็นก็แต่ในแหล่งท่องเที่ยวบางแห่งเท่านั้น ที่ท่าฉลอมนี้นี่ก็เช่นกัน มีไว้สำหรับบริการนักท่องเที่ยวทุกเสาร์-อาทิตย์ ส่วนวันธรรมดาก็มีบ้างแต่ไม่มากการได้ ชมวิวสองข้างทางที่มีบ้านเรือนของคนในชุมชนและร้านค้าขายของชำ ขายอาหารทะเลแล้ว เรามีความรู้สึกว่านับเป็นความโชคดีที่ได้นั่งชมบรรยากาศแบบช้าๆ ได้ใกล้ชิดช่วยเหลือชุมชนให้มีแรงก้าวเดินต่อไป
SAIJAI "ใส่ใจ" เป็นเพียงแพลตฟอร์มที่ใช้สำหรับติดต่อสื่อสารระหว่างผู้ใช้บริการกับผู้ให้บริการดูแลเด็ก ดูแลผู้สูงอายุ ครูสอนพิเศษ/ติวเตอร์ แม่บ้าน/ทำความสะอาด คนขับรถ ดูแลสัตว์เลี้ยง เสริมสวย และช่างซ่อมบำรุงเท่านั้น "SAIJAI" ไม่ได้เป็นผู้ให้บริการหรือจ้างบุคคลใดให้บริการ ไม่มีสถานะเป็นนายจ้าง ผู้ว่าจ้าง ตัวแทน ผู้ร่วมทุน อย่างหนึ่งอย่างใดทั้งสิ้นของผู้ให้บริการ ผู้ให้บริการเป็นผู้รับจ้างอิสระ ซึ่งผู้รับบริการเป็นผู้ว่าจ้าง คุณภาพการให้บริการเป็นความรับผิดชอบทั้งสิ้นของผู้ให้บริการเอง การเรียกใช้บริการจากผู้ให้บริการ อาจมีความเสี่ยง ซึ่งผู้รับบริการรับทราบและยินดีใช้บริการ บนความเสี่ยงใด ๆ ในความรับผิดชอบของตัวท่านเอง