ติวเตอร์ภาษาอังกฤษ ใน พระประแดง, สมุทรปราการ

ติวเตอร์ภาษาอังกฤษ ใน พระประแดง, สมุทรปราการ

คุณต้องการใช้บริการนี้เมื่อไหร่?
ตอนนี้
ระบุวันที่

วิธีการทำงาน

Saijai

ติดต่อเรา

ติดต่อเราโดยตรงผ่าน LINE OA เพื่อจองบริการที่คุณต้องการ

Saijai

แจ้งรายละเอียดให้เราทราบ

เลือกบริการ วันที่ เวลา และสถานที่ที่คุณต้องการให้ตรงกับความต้องการของคุณ

Saijai

ยืนยันการจองของคุณ

เราจะยืนยันการจองของคุณภายใน 24 ชั่วโมงผ่านทาง LINE OA

Khaimuk  Homberg
Khaimuk Homberg
Saijai ประสบการณ์ 0-1 ปี

รักเด็กและมีประสบการณ์ในการดูแลเด็กมากกว่า 10 ปี

สามารถติวน้องๆให้เข้าใจเนื้อหาให้เข้าใจง่ายๆ ด้วยวิธีการที่สร้างสรรค์ ทำให้น้องๆไม่เบื่อที่จะเรียน

แสดงเพิ่มเติม
ฮูดาห์ คลังจันทร์
ฮูดาห์ คลังจันทร์
Saijai ประสบการณ์ 3-4 ปี
Saijai อายุ 49 ปี

อารมณ์ดี คุยสนุก ยิ้มเก่ง ไม่เรื่องมาก รักเด็ก

แสดงเพิ่มเติม
อานนท์ ทองแสง
อานนท์ ทองแสง
Saijai ประสบการณ์ 0-1 ปี
Saijai อายุ 30 ปี

เป็นคนสุภาพเรียบร้อย ไม่พูดคำหยาบ อัธยาศัยดี ตั้งใจทำงานที้ได้รับมอบหมาย ไม่ยุ่งอบายมุข สอนประจำได้

แสดงเพิ่มเติม
ชัญญารัตน์ บิลยะโฮร์
ชัญญารัตน์ บิลยะโฮร์
Saijai ประสบการณ์ 0-1 ปี
Saijai อายุ 26 ปี

เป็นคนใจเย็นค่ะ สามารถสอนเด็กเล็กได้ มีเทคนิคช่วยให้น้อง ๆ ตั้งใจเรียน ค่ะ มีความรับผิดชอบ

แสดงเพิ่มเติม
ไอริณ ทิพย์รักษา
ไอริณ ทิพย์รักษา
Saijai ประสบการณ์ 0-1 ปี
Saijai อายุ 28 ปี

เคยมีประสบการณ์สอนเด็กเล็กที่เตรียมพื้นฐานสำหรับเข้าประถมโดยส่วนตัวใจเย็นกับเด็กเพราะเวลาสอนจะเข้าใจว่าเด็กต้องควรเสริมหรือเพิ่มเติมเรื่องอะไรก็จะปรับการสอนให้เข้ากับสิ่งที่เด็กต้องการ

แสดงเพิ่มเติม
ชัชรียา ภักดีดำรงทรัพย์
ชัชรียา ภักดีดำรงทรัพย์
Saijai ประสบการณ์ 1-2 ปี
Saijai อายุ 27 ปี
Issatee Sayaka
Issatee Sayaka
Saijai ประสบการณ์ 1-2 ปี
Saijai อายุ 24 ปี

สวัสดีค่ะ ชื่อ อิสซาตี เรียกสั้นๆว่าตี้ได้ค่ะ ตี่เคยมีประสบการณ์การสอนการบ้าน และสอนพิเศษภาษาอะงกฤษให้กับน้องอนุบาลและประถมค่ะ ตี้กำลังศึกษาอยู่ชั้นปีที่2 ที่มหาวิทยาลัยอิสลามนานาชาติมาเลเซีย ที่ประเทศมาเลเซีย

แสดงเพิ่มเติม
เอมี่ อินทะวงค์
เอมี่ อินทะวงค์
Saijai อายุ 27 ปี

เป็นคนที่กระตือรือร้นในการทำงานและชอบพบปะทำความรู้จักกับคนใหม่ๆเสมอ

แสดงเพิ่มเติม
วรรณิภา กูหมัด
วรรณิภา กูหมัด
Saijai ประสบการณ์ 0-1 ปี
Saijai อายุ 28 ปี

ถนัดภาษาอินโดอีกหนึ่งภาษาค่ะ

แสดงเพิ่มเติม
Anucha Yoramin
Anucha Yoramin
Saijai ประสบการณ์ 0-1 ปี
Saijai อายุ 28 ปี

มีความรักและความเมตตาต่อลูกศิษย์มีความเสียสละ หมั่นเพียรศึกษาปรับปรุงวิธีการสอนเพื่อพัฒนาตนเองอยู่เสมอมีความเข้าใจและเอาใจใส่ตัวศิษย์ทุกคนเป็นกำลังใจและช่วยสร้างแรงบันดาลใจเพื่อให้ผู้เรียนเป็นคนที่ใฝ่รู้เป็นแบบอย่างที่ดีมีจรรยาบรรณ มีจิตวิญญาณของความเป็นครูสามารถถ่ายทอดความรู้ได้เป็นอย่างดีมีวิธีการสอนที่หลากหลายมีวิสัยทัศน์กว้างไกลมีความยุติธรรมยอมรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น รวมถึงการยอมยอมรับและเข้าใจความแตกต่างของเด็กแต่ละคน

แสดงเพิ่มเติม
ชยากร ปรีชากุล
ชยากร ปรีชากุล
Saijai ประสบการณ์ 0-1 ปี
Saijai อายุ 32 ปี
ผ่านการตรวจสอบประวัติบุคคล

ข้อมูลสถิติน่าสนใจเกี่ยวกับ

Saijai จำนวนประชากร
Saijai จำนวนประชากรเด็ก (แรกเกิด-14 ปี)
Saijai จำนวนประชากรสูงอายุ (60 ปี ขึ้นไป)
Saijai จำนวนสัตว์เลี้ยง สุนัข

รีวิวล่าสุด

ชื่นชมการสอนของตัวติวเตอร์มากค่ะ จากที่ลูกสาวเป็นคนไม่กล้าแสดงออกไม่กล้าพูดภาษาอังกฤษไม่ว่าจะที่โรงเรียนหรือทั่วไป หลังจากจ้างติวเตอร์ภาษาอังกฤษมาช่วยสอน ลูกมีผลการเรียนวิชาภาษาอังกฤษที่ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดและกล้าใช้ภาษาอังกฤษสื่อสารมากขึ้นค่ะ
Saijai
ปาลิดา อัศวไกรภพ
3 ปีที่แล้ว
พี่ติวเตอร์เก่งมาก ๆ ทำให้เราเข้าใจคำศัพท์ได้ง่าย ๆ วิธีการใช้ในประโยคในเวลาไม่กี่เดือน ตอนแรกจะจำศัพท์ไม่ค่อยได้ เพราะศัพท์เยอะมาก แต่พอท่องศัพท์และหัดใช้ ตอนนี้ดีขึ้นมากเลย คะแนนก็ดีขึ้น
Saijai
ชนกานต์ วรธีรนนท์
3 ปีที่แล้ว
ประทับใจครับ ครูติวเตอร์สอนดี ให้เล่นเกมส์ฝึกภาษาอังกฤษควบคู่กับการเรียนทำให้ไม่น่าเบื่อ ส่วนตัวคิดว่าคุ้มค่ากับการจ้างมาก ๆ ครับ
Saijai
รัฐการ พูนพานิชย์
3 ปีที่แล้ว
ส่วนตัวเป็นคนไม่ชอบเรียนภาษาอังกฤษเลยเพราะคิดว่ามันยากเกินไป แต่จะบอกว่าติวเตอร์สอนภาษาอังกฤษที่เราจ้างผ่านใส่ใจทำให้เราเปลี่ยนวิธีคิดไปเลยจากที่เคยมองเรื่องภาษาเป็นเรื่องที่ยาก จนตอนนี้ทำให้เราสนใจอยากที่จะพัฒนาตัวเองในด้านการสื่อสารมาก ๆ ติวเตอร์สอนสนุก เป็นกันเอง ทำให้เราหายกังวลไปเลยค่ะ
Saijai
รริชา นาคนาวา
3 ปีที่แล้ว
เข้า google ค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับติวเตอร์ภาษาอังกฤษ เพราะจะเตรียมตัวสอบ TOEIC มาเจอกับเว็บใส่ใจ หน้าเพจอ่านง่ายมากๆ มีข้อมูลติวเตอร์ พร้อมรูปภาพและคำบรรยาย แสดงราคาไว้ชัดเจน สามารถติดต่อเพื่อพูดคุยก่อนเลือกติวเตอร์ได้ แถมยังมีรีวิวจากคนที่เคยเรียนให้อ่านประกอบการตัดสินใจด้วย เริ่ดมาก บอกเลย
Saijai
สนธยา ไทรน้อย
4 ปีที่แล้ว

คำถามที่พบบ่อยสำหรับการค้นหา ติวเตอร์ภาษาอังกฤษ

อยากเก่งภาษาอังกฤษต้องทำอย่างไร
อยากเก่งภาษาอังกฤษต้องทำอย่างไร คำตอบคือเรียนภาษาอังกฤษนั้นไม่ยากแต่ต้องใช้ความพยายาม ต้องตั้งใจเรียน ทบทวน ฝึกหัดให้บ่อย ๆ ในปัจจุบันเรามีตัวช่วยให้เลือกว่าจะทำอย่างไรให้เก่งภาษาอังกฤษได้อย่างรวดเร็ว แต่การที่เราจะนำตัวเองให้ไปถึงจุด ๆ นั้นได้ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย คือการนำตัวเองไปสู่สังคมที่เป็นภาษาอังกฤษ หรือเข้าไปอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ใช้ภาษาอังกฤษ ยกตัวอย่างเช่น

1. มีความกระตือรือร้น อ่านภาษาอังกฤษจากสื่อรอบ ๆ ข้าง ข่าวในโทรศัพท์มือถือ อาจจะเริ่มเลือกอ่านในสิ่งที่เราชอบ เพื่อจะได้เข้าใจง่าย จากนั้น หัดฟัง พูด เขียนภาษาอังกฤษ ให้ได้มากที่สุดทั้งในและนอกห้องเรียน อาจจะเป็นการฟังเพลงที่เราชอบ ดูหนังฝรั่งที่ใช้ ภาษาต้นฉบับ (ภาษาอังกฤษ) เป็นต้น
2. เมื่อเจอคำศัพท์ให้จด จำ และนำไปใช้ให้บ่อยๆ แล้วเราจะจำได้เอง บางคนใช้วิธี แปะกระดาษไว้ที่ห้องนอน ห้องน้ำ แล้วฝึกอ่านออกเสียงไปด้วย เมื่อเราคุ้นเคยแล้วเราจะจำได้เอง ได้ทั้งคำศัพท์ได้ทั้งการอ่านออกเสียง เดี๋ยวนี้เราบันทึกคำศัพท์ไว้ได้ในโทรศัพท์มือถือ เจอ จด จากนั้นก็จำ แล้วนำไปใช้
3. พยายามใช้สื่อต่าง ๆ ใกล้ตัวเป็นภาษาอังกฤษทั้งหมด เช่น โทรศัพท์มือถือ/เกม ให้ใช้เมนูทุกอย่างเป็นภาษาอังกฤษ แรก ๆ อาจจะติด ๆ ขัด ๆ แต่เมื่อใช้ไปเรื่อย ๆ รับรองว่าคล่องแน่นอน
4. ไม่รู้ต้องถาม ถามผู้รู้ เช่นคุณครู เจ้าของภาษา หรือถ้าไม่อยากถามคน ลองคนหาจากเสิร์ชเอนจิน (Search Engines) เช่น Google สมัยนี้ปฏิเสธไม่ได้ว่าเสิร์ชเอนจินนั้นมีบทบาทมากขึ้นในชีวิตประจำวันของคนไทย และคนทั่วโลก ไม่ว่าเราจะต้องการข้อมูลอะไรสามารถหาได้ทั้งนั้น
5. ทำความรู้จักเพื่อน ๆ ชาวต่างชาติ คุณครูชาวต่างชาติ ซึ่งปัจจุบันมีนักเรียนและคุณครูชาวต่างชาติเข้ามาเรียน มาสอน มาใช้ชีวิตในประเทศไทย ถือเป็นโอกาสที่ดีของนักเรียนไทยที่จะได้ใช้ภาษาอังกฤษมากขึ้น โดยธรรมชาติคนไทยอาจจะเป็นคนขี้อายและไม่ค่อยมั่นใจในการใช้ภาษาอังกฤษ ถ้าเราพูดบ่อย ๆ เราจะชิน แล้วค่อยพัฒนาไปในระดับต่อไป
ครูสอนพิเศษหรือติวเตอร์ส่วนตัวจะช่วยให้คุณเก่งภาษาอังกฤษได้จริงหรือไม่
บทเรียนแรกของการเรียนภาษาอังกฤษ คือต้องก้าวข้ามความกลัว เพราะต่อให้เราเรียนภาษาอังกฤษมามากแค่ไหน แต่ถ้าเรากลัวจนไม่กล้าเอามาใช้ ทำให้การเรียนนั้นสูญเปล่า ความกลัวที่ว่าอาจเกิดจากการกลัวความผิดพลาด จนทำให้ความก้าวหน้าหยุดชะงัก เราสามารถแก้ปัญหาความกลัวได้โดยการด้วยการฝึกใช้บ่อย ๆ การฝึกใช้ภาษาอังกฤษเป็นประจำทำอย่างไร เราอาจเริ่มต้นจากการเรียนพิเศษภาษาอังกฤษกับติวเตอร์ตัวต่อตัว ซึ่งช่วยในเรื่องของการลดความตื่นเต้น ลดความประหม่า เพราะเป็นการฝึกฝนภาษาแบบตัวต่อตัว ไม่มีใครคอยจับตามาอง เมื่อเราได้ฝึกฝนและการทำซ้ำ ๆ ในทุก ๆ วัน จนเกิดเป็นความเคยชินและกลายเป็นนิสัยที่ติดตัวเราไปได้ เมื่อเราเริ่มต้นเราไม่ต้องสนใจว่ามันผิดหรือถูก ติวเตอร์จะเป็นคนคอยแนะนำและแก้ ประโยค ศัพท์ สอนทริคให้จำง่าย ติวเตอร์ยังสามารถพัฒนาสำเนียงเราได้ เพราะเมื่อหูของเราคุ้นชิน โดยธรรมชาติเราสามารถปรับสำเนียงให้เป็นไปตามคู่สนทนานั้น จากที่เราเริ่มใช้ศัพท์และประโยคที่ถูกต้องไปทีละนิด จนเกิดเป็นการพัฒนาให้กับตัวเราเอง เมื่อเราผ่านบทเรียนแรกกับติวเตอร์แล้ว บทเรียนต่อไปเราไม่ต้องกลัวอะไรแล้ว เปิดโอกาสให้กับตัวเอง กล้าที่จะสื่อสาร กล้าที่จะเขียนภาษาอังกฤษ ฝึกจดบันทึกเป็นภาษาอังกฤษ ที่มีติวเตอร์ส่วนตัวคอยชี้แนะ ในที่สุดเราได้ทักษะครบ ฟัง พูด อ่านและเขียน และภาษาอังกฤษสำหรับเราจะเป็นเรื่องง่ายนิดเดียว
จุดอ่อนของเด็กไทยในการเรียนภาษาอังกฤษคืออะไร และควรทำอย่างไรเพื่อพัฒนาการเรียนภาษาอังกฤษให้ดียิ่งขึ้น
อะไรคือจุดอ่อนของการเรียนภาษาอังกฤษของนักเรียนไทย แล้วเราจะแก้ได้อย่างไร ปัจจุบันหลายโรงเรียน มีการสอนภาษาอังกฤษตั้งแต่ชั้นอนุบาลและต่อเนื่องในทุกระดับชั้น แต่ทำไมภาษาอังกฤษยังคงเป็นจุดอ่อนสำหรับน้อง ๆ หลาย ๆ คน จากการค้นคว้าข้อมูลจากหลายแหล่งได้สรุปสาเหตุไว้คร่าว ๆ ดังนี้ว่า

1. ขาดการฝึกฝน ขาดคำศัพท์ เพราะส่วนใหญ่นักเรียน จะเรียนภาษาอังกฤษในห้องเรียน 45 นาทีถึง 1 ชั่วโมง ต่อวัน แต่เวลาที่เหลือแทบจะไม่ได้ใช้ภาษาอังกฤษเลย การเรียนการสอนส่วนใหญ่เน้นไปที่ให้ทำข้อสอบได้ ดังนั้นเด็กนักเรียนไทยส่วนหนึ่งเรียนภาษาอังกฤษเพื่อจะใช้ในห้องสอบ ทักษะอื่น ๆ และคำศัพท์นอกเหนือจากที่เรียนในห้องเรียนแทบจะไม่ได้ใช้เลย ทางแก้ไขคือน้อง ๆ นักเรียน ต้องฝึกฝน เรียนรู้เพิ่มเติม และเพิ่มคำศัพท์แล้วพยายามใช้ภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวัน อาจมีการรวมกลุ่มหรือชมรม ห้องเรียนพิเศษที่มีโอกาสได้ใช้ภาษาอังกฤษมากกว่าในห้องเรียน
2. เป็นเหตุต่อเนื่องจากข้อแรก คือขาดความมั่นใจเพราะกลัวพูดผิด กลัวพูดออกไปแล้วสื่อสารไม่ได้เลยไม่กล้าที่จะพูด บวกกับนิสัยของคนไทยที่ขี้อาย เกรงใจ เขิน ไม่กล้าแสดงออก จนไม่กล้าพูด ทางแก้ไขคือ เมื่อมีโอกาสได้ใช้ภาษาควรแสดงความสามารถและพยายามสื่อสารทั้งด้วยคำพูด น้ำเสียงและท่าทางประกอบกัน เมื่อผ่านไปได้ครั้งหนึ่งแล้ว ครั้งต่อ ๆไปจะตามมา ที่สำคัญต้องจำคำศัพท์ให้ได้มาก ๆ จะช่วยให้เราสื่อสารได้มากขึ้น
3. การเรียนการสอนที่ไม่ถูกหลัก ทำให้ไม่ชอบเรียนภาษาอังกฤษ อย่างที่รู้กันอยู่ว่าทุกวันนี้เด็กไทยของเราเริ่มเรียนภาษาอังกฤษ ตั้งแต่ระดับชั้นอนุบาล และได้รับการสอนภาษาอังกฤษอย่างต่อเนื่องมาเรื่อย ๆ มากกว่า 10 ปี แต่คนไทยเรายังไม่สามารถพูดภาษาอังกฤษได้ จากการศึกษาข้อมูลทำให้พบว่า การสอนภาษาอังกฤษที่ไม่ถูกต้องตั้งแต่แรก โดยที่เราเริ่มต้นสอนทักษะภาษาอังกฤษจากการอ่าน การเขียน ก่อนที่จะเรียนการฟังและการพูดภาษาอังกฤษ จึงทำให้การเรียนรู้การพูดภาษาอังกฤษของเด็กไทยนั้นเป็นเรื่องที่ยาก เพราะเมื่อทำไม่ได้เลยรู้สึกไม่สนุก ไม่อยากเรียน ครูผู้สอนควรสร้างบรรยากาศการเรียนให้สนุก เช่นเรียนภาษาอังกฤษจากเพลง แล้วค่อย ๆ แทรกเนื้อหาหลักไวยากรณ์หรือคำศัพท์ลงไป นักเรียนจะซึมซับความรู้เหล่านั้นไปโดยไม่รู้ตัว

ปัจจัยทั้งหมดนอกจากตัวของน้อง ๆ นักเรียนเอง ยังมีเรื่องของสภาพแวดล้อม ที่ส่งผลกระทบต่อผู้เรียนโดยตรง ถ้าปรับเปลี่ยนการเรียนการสอนสามารถทำให้นักเรียนได้ใช้ภาษาอังกฤษเป็นประจำ และได้ช่วยพัฒนาจุดอ่อนของน้องๆนักเรียนอย่างตรงจุด จะสามารถช่วยพัฒนานักเรียนได้อย่างมีประสิทธิภาพ

TOEIC, TOEFL และ IELTS มีความสำคัญอย่างไร ใส่ใจมีติวเตอร์ภาษาอังกฤษที่สอน TOEIC, TOEFL และ IELTS หรือไม่
TOEIC TOEFL IELTS มีความสำคัญต่อการทำงานอย่างไร

การทดสอบทั้ง 3 แบบนั้นเป็นการทดสอบทางด้านภาษา ในโลกการทำงานปัจจุบันหลาย ๆ บริษัทมีการติดต่อทำธุรกิจกับต่างประเทศ การรับคนเข้าทำงานจึงมีการทดสอบความสามารถด้านภาษาและผลคะแนนการสอบวัดความรู้ทางภาษาจึงมีความสำคัญ ก่อนหน้านี้หลายคนอาจมองว่าคะแนนของทั้งสามสถาบันนี้ ถูกใช้เพื่อประกอบการสมัครงานในสาย งานบริการ งานสายการบิน งานท่องเที่ยวและการโรงแรมเท่านั้น แต่ปัจจุบันผลคะแนนจะถูกแนบไปกับประวัติการทำงานเพื่อช่วยยืนยันว่าคุณมีความสามารถในการใช้ภาษา นอกจากนี้ผลการสอบวัดระดับภาษายังช่วยปรับเงินเดือน เลื่อนตำแหน่ง หรือโอกาศไปทำงานในสาขาต่างประเทศ

ทั้งนี้เกณฑ์มาตรฐานที่ได้รับการยอมรับ คะแนน TOEIC ที่ถือว่าผ่านเกณฑ์มาตรฐานคือ ตั้งแต่ 450 / 550 / 650 คะแนน ส่วนงานที่เกี่ยวกับธุรกิจการบินมักจะรับที่ 800 + คะแนน การสอบ TOEIC จึงเป็นที่นิยมมากในกลุ่มคนทำงาน (โดยผลสอบ TOEIC มีอายุ 2 ปี นับจากวันที่สอบ) คะแนน TOEFL ที่ถือว่าผ่านเกณฑ์มาตรฐานคือ 79/120 (สำหรับนักศึกษาที่ต้องการศึกษาต่อในระดับมหาวิทยาลัย) ส่วนคะแนน IELTS ที่ถือว่าผ่านเกณฑ์มาตรฐานคือ 5.5 หรือ 6.5 ขึ้นไป (สำหรับผู้ที่ต้องการไปศึกษาต่อในต่างประเทศหรือฝึกอบรม หรือฝึกอบรมในต่างประเทศ ในสหรราชอาณาจักร ออสเตรเลียหรือ นิวซีแลนด์ เป็นต้น) ที่ใส่ใจ (SAIJAI) มีติวเตอร์ภาษาอังกฤษที่สอน TOEIC, TOEFL และ IELTS เพื่อย่นระยะทางไปสู่จุดหมาย สรุปเทคนิค กลยุทธิ์และวิธีการทำข้อสอบให้เข้าใจง่ายขึ้น ช่วยให้คุณสอบได้อย่างมั่นใจยิ่งขึ้น