วิธีการทำงาน
ติดต่อเรา
ติดต่อเราโดยตรงผ่าน LINE OA เพื่อจองบริการที่คุณต้องการ
แจ้งรายละเอียดให้เราทราบ
เลือกบริการ วันที่ เวลา และสถานที่ที่คุณต้องการให้ตรงกับความต้องการของคุณ
ยืนยันการจองของคุณ
เราจะยืนยันการจองของคุณภายใน 24 ชั่วโมงผ่านทาง LINE OA
บริการในเมืองยอดนิยม
บางเขน บางกอกน้อย ป้อมปราบศัตรูพ่า พระนคร บางพลัด บางบอน พระโขนง ภาษีเจริญ คลองสามวา ตลิ่งชัน









ข้อมูลสถิติน่าสนใจเกี่ยวกับ
รีวิวล่าสุด
คำถามที่พบบ่อยสำหรับการค้นหา แม่บ้าน
2.ความสะอาด เป็นเรื่องที่ต้องเน้นความสะอาดเป็นหลัก การที่แม่บ้าน มาช่วยดูแลงานบ้าน เพราะสาเหตุ หลักคือเรื่องความสะอาด เป็นเรื่องที่ต้องใส่ใจ เริ่มต้นจากตัวแม่บ้านเอง การที่ต้องเข้าไปทำงานร่วมกับผู้อาศัย พนักงาน ในบ้านหรืออาคาร แม่บ้านต้องดูแลบุคลิกภาพของตัวเองเพื่อ สุขอนามัย จากนั้นก็ต้องดูแลความสะอาดให้ลูกค้า จากชิ้นงานเล็กๆ เช่น ภาชนะใส่อาหารจะต้องมั่นใจว่า การซัก ล้าง นั้นไม่มีคราบติดอยู่ ไปจนถึงงานที่ต้องใช้ทักษะการใช้เคมีภัณฑ์ที่อาจเกิดการแพ้เกิดขึ้นโดยเฉพาะบ้านที่มีเด็กเล็ก หากแม่บ้านใส่ใจเรื่องเหล่านี้ ก็จะแสดงถึงความเป็นมืออาชีพ
3.รู้จักใช้เทคนิคในการทำความสะอาด เทคนิคเป็นสิ่งที่ช่วยให้งานเสร็จเร็ว แต่ละคนมีเทคนิคในการทำความสะอาดที่ต่างกัน ตัวอย่างเช่น เริ่มทำความสะอาดจากส่วนที่สูงลงมาที่ต่ำ เริ่มจากปัดกวาดตู้ หลอดไฟ และตามฝาผนัง ฝุ่นและเศษผงจะตกลงมาที่พื้น เมื่อทำความสะอาดเรียบร้อยแล้ว จึงค่อยมากวาดพื้นและถูเป็นลำดับสุดท้าย หรือภายในอาคารจากห้องด้านในสู้พื้นที่ภายนอก การรู้จักการใช้เคมีภัณฑ์ที่เหมาะสมกับเนื้องาน หรือหาวิธีที่เหมาะสมกับงานนั้นๆ
4.ความปลอดโปร่งจะช่วยให้บ้านและอาคาร ดูโล่งขึ้น เพื่อให้บ้าน หรือพื้นที่ในอาคารสำนักงาน มีความปลอดโปร่งมากขึ้น งานของแม่บ้านมืออาชีพ ย่อมรู้ดีว่าต้องทำอย่างไร เช่น การเปิดหน้าต่าง ปล่อยให้อากาศภายในบ้านถ่ายเทอย่างสะดวก มีแสงส่องเข้ามา ว่ากันว่า แสงจากภายนอกที่ส่องเข้ามาทางหน้าต่างจะช่วยให้บรรยากาศในออฟฟิศดูปลอดโปร่งและอบอุ่นขึ้น อีกทั้งแสงธรรมชาติยังช่วยคลายความเครียด การมองเห็นวิวด้านนอกยังช่วยลดความอึดอัดจากการอยู่ในห้องนานๆ ได้อีกด้วย
5.แยกขยะเพื่อให้ง่ายต่อการจัดเก็บ เป็นสิ่งที่สำคัญมาก เพราะเมื่อแยกวัสดุส่วนที่ยังมีประโยชน์ เช่น แก้ว กระดาษ พลาสติก แก้ว โลหะ ฯลฯ จะเหลือขยะจริงๆ เพื่อนำไปกำจัดน้อยลง และหากแยกขยะเปียกและขยะแห้งออกจากกัน นอกจากจะช่วยให้ดูแลความสะอาดง่ายแล้ว ลดการหมักหมม ซึ่งนำมาถึงเรื่องสุขอนามัย การลดการทำงานซ้ำซ้อน
หาแม่บ้านจากที่ไหน แม้ปัจจุบันมีเครื่องมือค้นหา เพียงพิมพ์ข้อความลงไปในเสิร์ชเอนจิน (Search Engines) ก็ได้ข้อมูลแล้ว แต่เป็นเพียงข้อมูลเพื่อการติดต่อให้เข้าไปสอบถามเพิ่มเติม หลายท่านอาจนึกไปถึง
• รูปแบบการจ้างงาน ว่าต้องจ้างในรูปแบบรายเดือนแต่อาจไม่มีเหตุจำเป็นที่ต้องมีแม่บ้านอยู่ประจำ โดยเฉพาะที่พักอาศัยที่เพียงต้องการใช้บริการแม่บ้านอิสระเป็นครั้งคราวและไม่ต้องการเพิ่มภาระค่าใช้จ่ายรายเดือนโดยไม่จำเป็น คุณไม่อาจรู้ว่าจะจ้างแม่บ้านที่สามารถทำงานในลักษณะนี้และมีคุณภาพได้จากที่ไหน
• ค่าใช้จ่ายในการจ้างงาน บ่อยครั้งที่เราตั้งงบประมาณไว้ในใจตามเนื้องานที่จะจ้างแม่บ้านอิสระ แต่มักจะสวนทางกับความต้องการของแม่บ้าน เราจะรู้ได้อย่างไรว่าการจ้างแม่บ้านมาทำความสะอาดในแต่ละครั้งต้องมีค่าใช้จ่ายเท่าไหร่ ใช้เวลาเท่าไร ใช้เกณฑ์อะไรในการประเมินราคา แม้จะมีการแจ้งราคาให้แก่ผู้ใช้บริการทราบแต่ไม่มีใครสามารถการันตีผลงานได้
• แม่บ้านอิสระมีความน่าเชื่อถือมากแค่ไหน เมื่อได้ข้อมูลมาแล้ว การที่จะให้ใครสักคนเข้ามาในบ้านเป็นเรื่องที่น่ากังวลอยู่พอสมควร ยิ่งต้องมาทำความสะอาดในห้องส่วนตัวหรือห้องที่เก็บสิ่งของมีค่าต่าง ๆ อาจสร้างความไม่สบายใจแก่เจ้าของบ้านได้ ในบ้านที่มีเด็กเล็กหรือผู้สูงอายุอาศัยอยู่ด้วย ยิ่งสร้างความกังวลใจเข้าไปอีก ในปัจจุบันการหาแม่บ้านอิสระแม้มีความสะดวกในการหามากขึ้น แต่บางครั้งก็ไม่น่าไว้วางใจ
• สามารถนัดหมายวันเวลาแม่บ้านอิสระมาทำความสะอาดได้ตรงตามความต้องการหรือไม่ ช่วงเวลาที่ลูกค้าส่วนใหญ่ต้องการใช้บริการแม่บ้านอิสระคือวันหยุด แน่นอนว่าความต้องการแม่บ้านอิสระในช่วงดังกล่าวมีสูงมาก ต้องมีการจองล่วงหน้ากี่วัน หรือกำหนดสัญญาตารางเวลาเข้ามาทำงาน หากนัดแล้วมีการเลื่อนนัดผิดนัด หรือมีการเปลี่ยนแปลง สามารถหาคนแม่บ้านมาทำแทนได้หรือไม่ เช่นเรานัดแม่บ้านเข้ามาทำงานวันเสาร์ เพื่อต้อนรับแขกวันอาทิตย์ หากแม่บ้านไม่สามารถมาได้คงวุ่นน่าดู
จะดีไหมหากมีคนที่ดูแลความกังวลใจเหล่านี้ให้หมดไป ใส่ใจสามารถตอบคำถามได้หมดและมีแม่บ้านทำความสะอาดได้ตามที่ต้องการในการติดต่อเพียงครั้งเดียว
• พูดคุยรายละเอียดของงานที่ต้องการให้แม่บ้านรับผิดชอบ โดยแจกแจงให้ชัดเจนว่าต้องการให้ทำงานในวันไหน เวลาใด
• หากเป็นแม่บ้านที่ไม่มีประสบการณ์มาก่อน อาจต้องมีช่วงทดลองงาน โดยทดสอบการทำงานด้วยวิธีการต่าง ๆ ก่อนที่จะทำการประเมินผลอีกครั้งว่าจะรับแม่บ้านเข้าทำงานหรือไม่ สิ่งที่จะต้องทดสอบมากเป็นพิเศษก็คือเรื่องความสามารถและประสิทธิภาพในการทำงาน
• เรื่องของค่าตอบแทน ระยะเวลาในการทำงาน สวัสดิการต่าง ๆ เช่น มีอาหารให้กี่มื้อ และวันหยุดที่จะได้รับ
• แม่บ้านควรมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงเหมาะสมกับการทำงานและควรมีผลการตรวจร่างกายมาแสดงต่อนายจ้าง
• นายจ้างมีความคาดหวังว่าแม่บ้านอิสระควรมีความละเอียดรอบคอบ หลังจากทำงานเสร็จแล้วควรมีการตรวจสอบผลงานทุกครั้งเพื่อให้มั่นใจว่าไม่มีข้อผิดพลาด
• นายจ้างต้องการแม่บ้านอิสระที่มีความซื่อสัตย์เป็นหลัก เนื่องจากต้องเข้ามาดูแลและใกล้ชิดกับสิ่งของต่าง ๆ ที่มีค่าภายในบ้าน ทั้งในเวลาที่นายจ้างอยู่หรือไม่อยู่บ้านก็ตาม
• นายจ้างมีความต้องการแม่บ้านอิสระควรมีใจรักในงานบริการ และที่สำคัญควรรักความสะอาด
• การยืดหยุ่นของเวลาการทำงาน เนื่องจากอาจมีการทำงานเพิ่มเติมนอกเหนือจากงานที่ได้รับหรือเปลี่ยนแปลงชั่วโมงการทำงานตามความสะดวกของนายจ้าง
• หากแม่บ้านต้องการ ลากิจ หรือ ลาป่วย ต้องแจ้งนายจ้างล่วงหน้า
• แม่บ้านอิสระสมัครใจให้นายจ้างสามารถตรวจสอบประวัติส่วนตัว และประวัติการทำงานก่อนว่าจ้างได้
"ป้อมปราบศัตรูพ่าย" ชื่อนี้ได้มาอย่างไร
เดิมอำเภอ ป้อมปราบศัตรูพ่าย หรือสำนักงานเขต ป้อมปราบศัตรูพ่าย ตั้งอยู่บริเวณถนนหลวง หลังวัดเทพศิรินทราวาส แขวงหรือตำบล ป้อมปราบศัตรูพ่าย คำว่า " ป้อมปราบศัตรูพ่าย " ตั้งขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์ ชื่อ ป้อมป้องกันข้าศึกในสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ซึ่งเป็นป้อมปราการ 1 ในจำนวน 7 ป้อม ป้อมนี้ตั้งอยู่ใต้ตลาดนางเลิ้งบ้านญวน ต่อมา วันที่ 21 ตุลาคม พ.ศ.2485 ได้ประกาศกระทรวงนครบาลกำหนดเขตการปกครอง กรุงเทพมหานครขึ้นใหม่ให้อำเภอ ป้อมปราบศัตรูพ่าย รวมอยู่ในท้องที่จังหวัดพระนคร สมัยพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้ประกาศเปลี่ยนแปลงอำเภอในจังหวัดพระนคร ให้อำเภอ ป้อมปราบศัตรูพ่าย เป็นอำเภอชั้นใน และยุบอำเภอสามยอดรวมกับอำเภอ ป้อมปราบศัตรูพ่าย พ.ศ.2460 ให้ยุบอำเภอนางเลิ้ง ถนนหลานหลวง (หน้าโรงแรมราชศุภมิตร) ตำบล วัดโสมนัส
จากนั้นเมื่อปีพุทธศักราช 2514 คณะปฏิวัติได้ออกประกาศให้จังหวัดพระนครและจังหวัดกรุงธนบุรี รวมกันเป็นนครหลวงกรุงธนบุรี จึงเป็นที่มาของ "เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย " นับแต่นั้นมา ปัจจุบันที่ว่าการอำเภอป้อมปราบศัตรูพ่าย ได้ตั้งอยู่ที่บริเวณถนนศุภมิตร ตำบลวัดโสมนัส ชื่อของ ‘ป้อมปราบศัตรูพ่าย’ ถูกตั้งขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์ของป้อมปราการที่ถูกสร้างขึ้น เพื่อป้องกันศัตรูเข้ามารุกราน ซึ่งเป็น 1 ใน 7 ของป้อมปราการที่ถูกตั้งขึ้นบริเวณตลอดแนวฝั่งคลองผดุงเกษม
จะเห็นได้ว่าวัฒนธรรมประวัติศาสตร์ซึ่งดำเนินเรื่องราวมานับ 100 ปี ทำให้เห็นถึงรอยต่อของเรื่องราว ซึ่งในปัจจุบันหลายสิ่งอาจเปลี่ยนไป แต่วิถีชีวิตการเป็นอยู่ของผู้คนที่ใช้ชีวิตและการสัญจรในเขต ป้อมปราบศัตรูพ่าย ยังคงมีกลิ่นอายของอดีตตรงนั้นอยู่
ตลาดโบ๊เบ๊ ตลาดเก่าแก่ในย่านป้อมปราบศัตรูพ่าย
“โบ๊เบ๊” แต่เดิมเป็นที่รู้จักว่าย่าน “ตลาดเก่า” โดยตลาดเก่านี้ตั้งอยู่บนที่ดินผืนเดียวกับวัดบรมนิวาส ซึ่งวัดเป็นเจ้าของที่ดิน ในสมัยรัชกาลที่ 5 มีการสร้างทางรถไฟ ทำให้วัดกับตลาดเก่าถูกแบ่งแยกโดยทางรถไฟa href=" https://th.wikipedia.org/wiki/วัดบรมนิวาสราชวรวิหาร" target="_blank">วัดบรมนิวาส สร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 3 ส่วนตลาดเก่านี้ไม่ปรากฏข้อมูลแน่ชัดว่ากำเนิดขึ้นเมื่อใด รัชกาลใด แต่คงเป็นย่านการค้าที่สำคัญบริเวณคลองมหานาคมานาน เมื่อการค้าขายเจริญมากขึ้นก็ขยายตลาดออกไปด้านข้าง คือ “ตลาดกลาง” และ “ตลาดสามชั้น” ต่อมาได้ขยายออกไปฝั่งตรงข้ามคลองผดุงกรุงเกษม ในแขวงคลองมหานาค เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย หรือบริเวณโรงพยาบาลหัวเฉียว ไปจนถึงบริเวณสะพานเจริญราษฎร์ 32 และเมื่อ พ.ศ. 2535 ก็ขยายการค้าเลยสะพานเจริญราษฎร์ 32 ไปจนถึงถนนหลานหลวง หรือบริเวณโบ๊เบ๊ทาวเวอร์ในปัจจุบัน
ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 สินค้าอุปโภคบริโภคขาดแคลน โดยเฉพาะเสื้อผ้า-เครื่องนุ่งห่ม จึงมีผู้นำเสื้อผ้าเก่าสภาพดีมาขาย หรือแลกเปลี่ยนกับสินค้าจำเป็นอื่น ๆ เช่น ไข่ น้ำตาล ฯลฯ การค้าในสมัยนั้นทำโดยการวางขายกับพื้น ยังไม่มีการตั้งร้านถาวร เมื่อสงครามยุติ จึงตั้งร้านค้าเป็นระเบียบมากขึ้น
ดังนั้น ย่านโบ๊เบ๊ได้กลายเป็นย่านขายสินค้าจำพวกเสื้อผ้า-เครื่องนุ่งห่ม เมื่อหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 นี้เอง อย่างไรก็ตาม ย่านโบ๊เบ๊ไม่ใช่ย่านการค้าขายแต่เพียงอย่างเดียว แต่ยังเป็นย่านชุมชนที่อยู่อาศัยของคนหลากหลายเชื้อชาติ โดยเฉพาะคนจีน และในอดีตก็เคยมีโรงงานตั้งอยู่จำนวนมาก อย่างเช่น โรงซ่อมเรือ โรงเลื่อย โรงปูนกินหมาก โรงกระทะ โรงต้มถั่ว ฯลฯ
ความสะดวกในการใช้ชีวิตของเขตป้อมแราบศัตรูภ่าย
b>วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร ตั้งอยู่ริมคลองมหานาค เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย เป็นพระอารามหลวงชั้นโท ชนิดราชวรมหาวิหาร เป็นวัดโบราณในสมัยอยุธยา เดิมชื่อ วัดสะแก พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ทรงโปรดเกล้าฯ ให้ปฏิสังขรณ์และขุดคลองรอบพระอาราม แล้วพระราชทานนามใหม่ว่า วัดสระเกศ ซึ่งแปลว่า ชำระพระเกศา เนื่องจากเคยประทับทำพิธีพระกระยาสนาน เมื่อเสด็จกรีธาทัพกลับจากกัมพูชามาปราบจลาจลในกรุงธนบุรี และเสด็จขึ้นเถลิงถวัลยราชสมบัติใน พ.ศ. 2325 มูลเหตุที่พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกทรงพระราชทานเปลี่ยนชื่อวัดสะแก เป็นวัดสระเกศนี้ มีหลักฐานที่ควรอ้างถึงคือ พระราชวิจารณ์ในพระบาทสมเด็จ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เรื่องจดหมายเหตุความทรงจำของกรมหลวงนรินทรเทวีข้อ 11 ว่า “รับสั่งพระโองการ ตรัสวัดสะแกเรียกวัดสระเกศแล้วบูรณะปฏิสังขรณ์ เห็นควร ที่ต้นทางเสด็จพระนคร" ทรงพระราชวิจารณ์ไว้ว่า"ปฏิสังขรณ์วัดสะแกและเปลี่ยน ชื่อเป็น วัดสระเกศเอามากล่าวปนกับวัดโพธิ์เพราะเป็นต้นทางที่เสด็จเข้ามาพระนครมีคำ เล่าๆกันว่า เสด็จเข้าโขลนทวารสรงพระมุธาภิเษกตามประเพณีกลับจากทางไกลที่ วัดสะแก จึงเปลี่ยนนามว่า วัดสระเกศ
ในสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3 ทรงโปรดเกล้าฯ ให้บูรณะและสร้าง พระบรมบรรพต หรือ ภูเขาทอง ทรงกำหนดให้เป็นพระปรางค์มีฐานย่อมุมไม้สิบสอง แต่สร้างไม่สำเร็จในรัชกาล เมื่อถึงสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 จึงทรงให้เปลี่ยนแบบเป็นภูเขาก่อพระเจดีย์ไว้บนยอด เป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ การก่อสร้างแล้วเสร็จในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5
SAIJAI "ใส่ใจ" เป็นเพียงแพลตฟอร์มที่ใช้สำหรับติดต่อสื่อสารระหว่างผู้ใช้บริการกับผู้ให้บริการดูแลเด็ก ดูแลผู้สูงอายุ ครูสอนพิเศษ/ติวเตอร์ แม่บ้าน/ทำความสะอาด คนขับรถ ดูแลสัตว์เลี้ยง เสริมสวย และช่างซ่อมบำรุงเท่านั้น "SAIJAI" ไม่ได้เป็นผู้ให้บริการหรือจ้างบุคคลใดให้บริการ ไม่มีสถานะเป็นนายจ้าง ผู้ว่าจ้าง ตัวแทน ผู้ร่วมทุน อย่างหนึ่งอย่างใดทั้งสิ้นของผู้ให้บริการ ผู้ให้บริการเป็นผู้รับจ้างอิสระ ซึ่งผู้รับบริการเป็นผู้ว่าจ้าง คุณภาพการให้บริการเป็นความรับผิดชอบทั้งสิ้นของผู้ให้บริการเอง การเรียกใช้บริการจากผู้ให้บริการ อาจมีความเสี่ยง ซึ่งผู้รับบริการรับทราบและยินดีใช้บริการ บนความเสี่ยงใด ๆ ในความรับผิดชอบของตัวท่านเอง