วิธีการทำงาน
ติดต่อเรา
ติดต่อเราโดยตรงผ่าน LINE OA เพื่อจองบริการที่คุณต้องการ
แจ้งรายละเอียดให้เราทราบ
เลือกบริการ วันที่ เวลา และสถานที่ที่คุณต้องการให้ตรงกับความต้องการของคุณ
ยืนยันการจองของคุณ
เราจะยืนยันการจองของคุณภายใน 24 ชั่วโมงผ่านทาง LINE OA
ประเภทงานบริการ
ผู้ดูแลผู้สูงอายุชั่วคราว ผู้ดูแลผู้สูงอายุสองภาษา ผู้ดูแลผู้ป่วยระยะสุดท้าย รับอยู่เป็นเพื่อนผู้สูงอายุ ผู้ดูแลผู้ป่วยติดเตียง ผู้ดูแลผู้ป่วยพักฟื้น/เฝ้าไข้ ผู้ดูแลผู้ป่วยโรคสมองเสื่อมบริการในเมืองยอดนิยม
บางเขน บางกอกน้อย ป้อมปราบศัตรูพ่า พระนคร บางพลัด บางบอน พระโขนง ภาษีเจริญ คลองสามวา ตลิ่งชันข้อมูลสถิติน่าสนใจเกี่ยวกับ
รีวิวล่าสุด
คำถามที่พบบ่อยสำหรับการค้นหา ดูแลผู้สูงอายุ
1. เป็นผู้ที่บรรลุนิติภาวะ คืออายุ 18 ปีขึ้นไป สามารถคิดและตัดสินใจได้อย่างมีเหตุผล มีวุฒิภาวะที่ดี
2. เนื่องจากการดูแลผู้สูงอายุเป็นเรื่องละเอียดอ่อน คนดูแลผู้สูงอายุจึงควรเป็นคนที่มีความรู้ทั้งในเรื่องจิตวิทยา และด้านโภชนาการอาหาร รวมทั้งความสะอาดทั่วไปด้วย แม้ว่าการจ้างคนดูแลผู้สูงอายุที่มีความรู้อาจจะต้องมีค่าใช้จ่ายเยอะกว่าการจ้างคนทั่วไป แต่ก็ถือว่าคุ้มค่า เพราะหากผู้สูงอายุได้รับการดูแลที่ไม่ดี คนดูแลขาดความรู้แล้ว อาจส่งผลต่อสุขภาพทั้งร่างกายและจิตใจอีกด้วย
3. มีความน่าไว้วางใจ เมื่อจ้างคนดูแลผู้สูงอายุเข้ามาอยู่ในบ้าน อาจจะต้องรับรู้ในส่วนของที่เก็บของต่างๆ รู้ตารางชีวิตประจำวันของคนในครอบครัว คนดูแลผู้สูงอายุจึงต้องเป็นคนที่ไว้ใจได้ มีประวัติที่ดี และมีทัศนคติที่ดี
4. มีความอดทน เนื่องจากการดูแลผู้สูงอายุไม่ใช่เรื่องง่ายๆ บางครั้งอาจจะต้องดูแลทั้งร่างกายและจิตใจของผู้สูงอายุอีกด้วย โดยเฉพาะหากเป็นผู้สูงอายุที่มีอาการป่วยหรือโรคประจำตัว ก็จะมีความยุ่งยากและซับซ้อนมากขึ้นไปอีก
5. ควรจบหลักสูตรผู้ช่วยการพยาบาล หรือสาขาที่เกี่ยวข้องและหากมีประสบการณ์มักจะได้รับการพิจารณาเป็นพิเศษ แต่หากไม่จบหลักสูตรดังกล่าว แต่มีประสบการณ์ในการดูแลผู้สูงอายุมาก่อน ก็จะได้รับการพิจารณาเช่นกัน
6. มีความซื่อสัตย์สุจริต เนื่องจากในบางครั้งอาจจะต้องอยู่กับผู้สูงอายุเพียงลำพัง
7. มีความขยันและสามารถช่วยเหลืองานอย่างอื่นได้ตามความเหมาะสม
1. ตรวจสอบประวัติย้อนหลังของผู้ดูแลผู้สูงอายุที่ทำการว่าจ้างมา เพื่อให้แน่ใจว่าคนดูแลที่จ้างมานั้นไม่เคยมีประวัติการกระทำที่ผิดกฎหมายมาก่อน โดยสามารถตรวจสอบประวัติอาชญากรรมกับกองทะเบียนประวัติอาชญากรได้ที่ http://www.criminal.police.go.th/
2. สอบถามประวัติการทำงานต่าง ๆ ที่ผ่านมา โดยอาจสอบถามจากผู้ว่าจ้างโดยตรงว่าเคยดูแลผู้สูงอายุมาอย่างไรบ้าง มีประสบการณ์มากน้อยแค่ไหนในการดูแลผู้สูงอายุ ไม่ว่าจะเป็นผู้สูงอายุที่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ หรือผู้สูงอายุที่เป็นผู้ป่วยติดเตียง ขณะเดียวกันก็สามารถสอบถามจากผู้ว่าจ้างที่เคยทำการจ้างก่อนหน้านี้ได้เช่นเดียวกัน
3. ฝากฝังทางเพื่อนบ้านให้ช่วยสอดส่องดูแลอีกทีหนึ่ง ซึ่งเพื่อนบ้านจะสามารถติดต่อหาเราได้ทันทีหากมีสถานการณ์ฉุกเฉินเกิดขึ้น
4. หากว่าจ้างคนดูแลผู้สูงอายุโดยหาจากสื่อออนไลน์ต่าง ๆ ควรศึกษาคำวิจารณ์หรือรีวิวจากผู้ใช้ก่อนหน้าว่ามีความคิดเห็นต่อการบริการอย่างไร เพื่อให้มั่นใจว่าคนดูแลที่จ้างมานั้นน่าเชื่อถือและเป็นคนมีความเป็นมืออาชีพจริง ๆ
5. การติดตั้งกล้องวงจรปิดบริเวณบ้านช่วยให้สามารถตรวจสอบความเคลื่อนไหวได้ตลอดเวลา ถือเป็นการป้องกันความปลอดภัยที่ดีอย่างหนึ่งเช่นกัน
1. ทำสัญญาจ้างเป็นลายลักษณ์อักษร โดยสิ่งที่ควรระบุอยู่ในสัญญาอย่างชัดเจนได้แก่ ระยะเวลาการดูแล วันที่เท่าไหร่ถึงเท่าไหร่ ชั่วโมงการทำงาน จำนวนค่าจ้าง รวมไปถึงสวัสดิการและวันหยุดที่ผู้ดูแลควรได้รับตามกฎหมายแรงงาน โดยที่ทั้งสองฝ่ายต้องเซ็นยินยอมเพื่อเป็นการรับรู้ต่อสัญญาและข้อกำหนดที่ได้ตกลงกันไว้
2. ผู้ว่าจ้างควรอธิบายข้อมูลส่วนตัวของผู้สูงอายุให้กับผู้ดูแลอย่างละเอียดถี่ถ้วน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอุปนิสัย ความชอบส่วนตัว อาหารที่กินได้และไม่ได้ ที่สำคัญหากผู้สูงอายุมีโรคประจำตัว ผู้ว่าจ้างควรบอกให้ผู้ดูแลรับรู้ก่อนเพื่อให้ผู้ดูแลสามารถรับมือกับสถานการณ์ฉุกเฉินได้
3. อธิบายขอบเขตและวิธีการทำงานให้กับผู้ดูแลอย่างชัดเจน สิ่งใดที่ทำได้และไม่ได้ เพื่อเป็นการป้องกันขั้นเบื้องต้น
4. ข้อตกลงเรื่องที่อยู่อาศัย หากผู้ว่าจ้างต้องการให้ผู้ดูแลอาศัยอยู่ที่บ้านตลอดช่วงระยะการดูแลผู้สูงอายุ ควรจัดเตรียมที่พักอาศัยให้กับผู้ดูแล รวมไปถึงแจกแจงเรื่องกฎในการใช้สิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ภายในบ้านตลอดช่วงระยะเวลาเช่นกัน
5. ใส่ใจในเรื่องของสุขอนามัยของผู้ดูแลที่ทำการว่าจ้างมา หากผู้ดูแลมีอาการป่วยกะทันหัน ผู้ว่าจ้างควรออกค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล ซึ่งถือว่าเป็นอีกหนึ่งสวัสดิการที่ผู้ดูแลควรได้รับ และควรให้ผู้ดูแลลางานได้ทันที เพื่อเป็นการช่วยลดความเสี่ยงในการแพร่เชื้อต่อผู้สูงอายุภายในบ้าน
การทำข้อตกลงในการว่าจ้างนั้นนอกจากจะเป็นการช่วยให้ทำความเข้าใจอย่างชัดเจนแล้ว ยังช่วยสร้างความสบายใจให้กับทั้งสองฝ่ายได้อีกด้วย
เขตทวีวัฒนา พัฒนามากจากคลอง
เขตทวีวัฒนา ตั้งชื่อตามคลองทวีวัฒนา เป็นคลองที่มีความยาวมาก ไหลผ่านพื้นที่ของเขตในแนวตะวันตกเฉียงเหนือ-ตะวันออกเฉียงใต้ คลองทวีวัฒนา ว่ากันว่าในรัชสมัยรัชกาลที่ 3-5 เป็นช่วงที่มีการขุดคลอง เมื่อใช้ในการสัญจรมากขึ้น อีกทั้งเพื่อทำให้แม่น้ำเจ้าพระยาไม่คดเคี้ยวเพื่อความสะดวกในการเดินเรือ คลองทวีวัฒนาก็เช่นกัน เป็นคลองที่ขุดในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ได้มีการขุดหลังจากจากคลองเปรมประชากร โดยได้เริ่มขุดในปี พ.ศ. 2421 และทำพิธีเปิดคลองเมื่อวันศุกร์ เดือน 6 แรม 1 คำ ปีขาล พ.ศ. 2421 โดยพระราชทานนามว่า คลองทวีวัฒนา ด้วยทรงเห็นว่าคลองที่ใช้เชื่อมแม่น้ำเจ้าพระยากับแม่น้ำท่าจีน อีกทั้งคลองภาษีเจริญและคลองมหาสวัสดิ์เริ่มตื้นเขิน จึงมีรับสั่งให้ขุดคลองนี้ขึ้นในแนวทิศตะวันออกเฉียงใต้-ตะวันตกเฉียงเหนือ เพื่อชักน้ำจากแม่น้ำท่าจีนให้ไหลลงทิศใต้ มาแก้ปัญหาลำคลองตื้นเขิน ดังพระราชดำรัสว่า อนึ่ง คลองมหาสวัสดิ์ แลคลองภาษีเจริญ แขวงเมืองนครชัยศรี ซึ่งเป็นของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวโปรดให้ขุดขึ้นไว้นั้น ดูตื้นเสียไปทั้งสองคลอง ถ้าขุดคลองในระหว่าง ให้ตลอดถึงกัน คงจะชักกับแก้ให้หายตื้นไปได้ บัดนี้คลองนั้นก็สำเร็จแล้ว เป็นระยะคลองยาว 340 เส้น / 13.6 กิโลเมตร (25 เส้น = 1 กิโลเมตร) ให้ชื่อว่า "คลองทวีวัฒนา" แลบัดนี้ยังได้ขุดต่อไป ไปออกบ้านสี่พระยา แม่น้ำเมืองนครชัยศรี ระยะทาง 540 เส้น ด้วย/ 21.6 กิโลเมตร ปัจจุบัน ผ่านเขตทวีวัฒนา ออกจากกรุงเทพมหานคร เป็นเส้นแบ่งเขตการปกครองระหว่างอำเภอบางกรวย อำเภอบางใหญ่ และอำเภอไทรน้อยของจังหวัดนนทบุรี กับอำเภอพุทธมณฑลและอำเภอบางเลนของจังหวัดนครปฐม ไปสิ้นสุดที่แม่น้ำท่าจีนในเขตอำเภอบางเลน มีความยาว 35.2 กิโลเมตร คลองทวีวัฒนามีทิศทางขวางคลองอื่นๆ จำนวนมาก เนื่องมาจากลำคลองในละแวกนั้นล้วนแต่ขุดอยู่ในแนวตะวันออกสู่ตะวันตก ชาวบ้านจึงเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า "คลองขวาง" ส่วนช่วงจังหวัดนนทบุรีและนครปฐม นิยมเรียกว่า "คลองนราภิรมย์" ตามชื่อวัดนราภิรมย์ ซึ่งตั้งอยู่ริมคลองในจังหวัดนครปฐม ปัจจุบันคลองทวีวัฒนาได้ชื่อว่าเป็นคลองที่ยังมีสภาพแวดล้อมดีที่สุดคลองหนึ่งของกรุงเทพมหานคร จึงได้เป็นแหล่งท่องเที่ยวในระบบนิเวศน์เชิงเกษตร บนพื้นที่ทำนา และยังเป็นที่ตั้งของวังทวีวัฒนา (วังทวีวัฒนา เป็นวังที่สร้างขึ้นเพื่อเป็นที่ประทับส่วนพระองค์รัชกาลปัจจุบันเมื่อครั้งเป็น สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร) อีกด้วย โดยเริ่มแรกนั้น ท้องที่เขตทวีวัฒนาอยู่ในการปกครองของอำเภอตลิ่งชันของจังหวัดธนบุรี โดยเป็นส่วนหนึ่งของตำบลศาลาธรรมสพน์ (เดิมเรียกว่าตำบลศาลาทำศพ คนไทยเห็นว่าไม่เป็นมงคล เลยเปลี่ยนวิธีการเขียนใหม่ จึงแปลงเป็น “ธรรมสพน์” มีที่มาจาก “ธรรมสวนะ” ซึ่ง ว.แหวน และ พ.พาน สามารถแทนกันได้ จึงกลายเป็น ธรรมสพนะ-ธรรมสพน์ ซึ่งอ่านออกเสียงตรงกับคำว่าทำศพนั่นเอง) เนื่องจากตำบลนี้มีอาณาเขตกว้างขวางและมีประชากรเพิ่มขึ้น กระทรวงมหาดไทยจึงได้โอนพื้นที่ 7 หมู่บ้านทางทิศใต้ของตำบลนี้มาจัดตั้งเป็น ตำบลทวีวัฒนา ในเดือนธันวาคม พ.ศ. 2500 ภายหลังได้มีการยุบรวมจังหวัดธนบุรีและจังหวัดพระนคร เปลี่ยนฐานะเป็นจังหวัดนครหลวงกรุงเทพธนบุรี และต่อมาเปลี่ยนเป็นกรุงเทพมหานคร ซึ่งได้เปลี่ยนการเรียกตำบลและอำเภอใหม่ ตำบลทวีวัฒนาจึงได้รับการเปลี่ยนแปลงฐานะเป็น แขวงทวีวัฒนา เขตตลิ่งชัน กรุงเทพมหานคร ต่อมาท้องที่แขวงทวีวัฒนาและแขวงศาลาธรรมสพน์ (รวมกับท้องที่แขวงฉิมพลี แขวงบางระมาด แขวงบางพรม และแขวงบางเชือกหนัง เฉพาะทางฟากตะวันตกของถนนกาญจนาภิเษก) ก็ได้รับการยกฐานะขึ้นเป็น เขตทวีวัฒนา กรุงเทพมหานคร ตามประกาศกระทรวงมหาดไทย เปลี่ยนแปลงพื้นที่เขตตลิ่งชันและจัดตั้งเขตทวีวัฒนา มีผลตั้งแต่วันที่ 6 มีนาคม พ.ศ. 2541
5 เคล็ดลับดูแลพ่อแม่สูงวัย
สิ่งที่เราควรตระหนักว่าพ่อแม่ของเราอายุมากขึ้นและต้องการความช่วยเหลือเพิ่มเติมจากลูก ๆ หรือผู้อยู่ใกล้ชิด ในบางสถานการณ์ฉุกเฉิน เช่น อุบัติเหตุ หรือปัญหาสุขภาพ เราต้องสามารถให้ความช่วยเหลือหรือแก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้อย่างทันท่วงที หากผู้สูงอายุต้องการความช่วยเหลือและการดูแลเพิ่มเติมโปรดคำนึงถึงเคล็ดลับเหล่านี้
1. การปฏิเสธความช่วยเหลือจากผู้อื่น เมื่อผู้สูงอายุมีอายุเดินทางเข้ามาถึงวัยหนึ่ง ทุกคนอาจจะไม่ตระหนักได้ว่าสุขภาพจิตหรือร่างกายของตนเองเปลี่ยนแปลงไปมากเพียงใด ผู้สูงอายุส่วนหนึ่งมักจะปฏิเสธหรือไม่ร้องขอความช่วยเหลือจากคนรอบข้าง เพราะหลายๆ ท่านยังเชื่อมั่นในตัวเองว่ายังทำได้อยู่ ยังแข็งแรงอยู่ จึงเป็นหน้าที่ของผู้ดูแลที่ต้องคอยสังเกต และคอยระวังไม่ให้เกิดสิ่งไม่คาดคิด ผู้ดูแลต้องพยายามสร้างความเข้าใจ โดยไม่แสดงการตำหนิ ทั้งทางสีหน้า ท่าทางและภาษาพูด
2. อย่าคาดหวังว่าพ่อแม่จะขอความช่วยเหลือ บางครั้งคุณจะต้องสังเกตพวกเขาเพื่อให้รู้ว่าพวกเขาต้องการความช่วยเหลือ ถามอย่างสุภาพและอ่อนโยนว่าพวกเขาต้องการความช่วยเหลือจากคุณหรือไม่ เราสามารถช่วยโดยไม่ต้องรอให้ท่านร้องขอ คอยดูแลอย่างใกล้ชิด ช่วยเพื่อไม่ให้ท่านทำเองเพราะอาจมีความเสี่ยง เช่นการทานยา ด้วยระบบความจำท่านอาจหลงลืมว่าทานไปแล้วหรือยัง ทำให้ยาบางตัวขาดไปหรือมากเกินไป ท่านไม่ขอให้เราช่วยแต่เราสามารถช่วยได้
3. ยอมรับว่าสิ่งต่างๆ มีการเปลี่ยนแปลง พูดคุยทำความเข้าใจให้เห็นถึงความเปลี่ยนแปลง ทั้งสุขภาพจิต สุขภาพร่างกาย การพูดคุยอย่างตรงไปตรงมา ด้วยท่าทีห่วงใยเอาใจใส่ จะทำให้ผู้สูงวัยยอมรับความเปลี่ยนแปลงต่างๆ ได้เร็วขึ้น
4. ขอความช่วยเหลือจากภายนอก แม้ว่าทางเลือกในการดูแลจะมีราคาแพง แต่มีแหล่งข้อมูลมากมายที่จะช่วยได้ อย่าง https://saijai.io/ ที่จะช่วยคุณค้นหาผู้ให้บริการดูแลผู้สูงวัย ยังมีข้อมูลน่าสนใจในพื้นที่เกี่ยวกับการดูแลและแหล่งข้อมูลอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องและผู้ดูแลที่โรงพยาบาลในพื้นที่สาขาของสมาคม (เช่นสมาคมโรคอัลไซเมอร์) หน่วยงานรัฐบาลและธุรกิจดูแลบ้าน
5. ตรวจสอบการเงินและเอกสาร หากยังไม่มี ก็ต้องวางแผนการจัดการ ไปจนถึงผู้รับมอบฉันทะด้านการดูแลสุขภาพและงบประมาณในการดูแลคุณจะทำให้ชีวิตของคุณง่ายขึ้นในที่สุดหากคุณรู้ว่าสิ่งต่างๆ อยู่ตรงไหนในกรณีที่พวกเขาต้องการการดูแลสุขภาพทางการเงินหรือระยะยาว
รูปแบบการดูแลผู้สูงอายุ
รูปแบบการดูแลผู้สูงอายุในเขตทวีวัฒนา เป็นเช่นเดียวกับส่วนอื่นของประเทศไทย ระบบบริการทางการแพทย์และสาธารณสุขในปัจจุบันยังคงให้ความสำคัญกับการดูแลแบบเฉียบพลันเป็นหลัก เช่นระบบการดูแลในโรงพยาบาล ซึ่งเมื่อพ้นระยะเฉียบพลันไปแล้ว แต่ยังมีช่องว่างในการให้บริการอยู่ในระบบบริการปฐมภูมิก็มีข้อจำกัดด้านบุคลากรทั้งในแง่ของ จำนวนและศักยภาพของ บุคลากร ในการให้บริการที่เหมาะสมแก่ผู้สูงอายุ โรงพยาบาล ชุมชนหลายแห่งได้มีการจ้างนักกายภาพบำบัดในการให้บริการ ในโรงพยาบาลและบริการเชิงรุก และโรงพยาบาลมีการจัดตั้งศูนย์ดูแลผู้ป่วยต่อเนื่อง จัดทีมให้บริการเชิงรุก ในการดูแลผู้ป่วยที่บ้าน (Home health care) เพื่อรองรับการดูแล ผู้ป่วยโรคเรื้อรังมิติด้านสุขภาพของผู้สูงอายุนั้นกว้างกว่ามิติ ทางการแพทย์และสาธารณสุข อีกทั้งทักษะและความรู้ของ เจ้าหน้าที่สถานีอนามัยและอาสาสมัครในชุมชน (อสม. และดูแล ด้านโภชนาการ ด้านการรักษาโรค ด้านคำแนะนำต่าง ๆ สำหรับผู้สูงอายุ ชมรมผู้สูงอายุ เป็นที่รวมตัวกันของผู้สูงอายุเพื่อมี กิจกรรมร่วมกันและให้การช่วยเหลือซึ่งกันและกัน)
ปัจจุบันในประเทศไทยได้มีการจัดตั้งชมรมผู้สูงอายุ การดูแลที่บ้านในชุมชนส่วนใหญ่ในสังคมไทย จะเป็นการให้บริการการดูแลสุขภาพโดยคณะเจ้าหน้าที่ สาธารณสุข ที่ไปติดตามดูแลผู้ป่วยเรื้อรังที่บ้านและให้คำแนะนำ เรื่องของการดูแลสุขภาพให้แก่ประชาชนกลุ่มต่างๆ ในชุมชน ในหมู่บ้าน ซึ่งมีทีมเจ้าหน้าที่สาธารณสุขที่ประกอบด้วยบุคลากร ในหลายๆด้าน ได้แก่ กลุ่มแพทย์ กลุ่มพยาบาล กลุ่มเภสัชกร กลุ่มนักกายภาพบำบัด กลุ่มนักสังคมสงเคราะห์ กลุ่มนักอาชีวบำบัด และอาจมีผู้ช่วยฯ ที่ดูแลสุขภาพที่บ้าน และคนทำงานที่บ้าน เจ้าหน้าที่สาธารณสุข ที่ปฏิบัติงานในพื้นที่รูปแบบการที่ดูแลผู้สูงอายุในชุมชน
1. การไปเยี่ยมบ้าน (Home visit) ในผู้สูงอายุควรมีเจ้าหน้าที่สถานีอนามัยและอาสาสมัครในชุมชน การเยี่ยมบ้านที่มีลักษณะเฉพาะดังนี้
- Illness home visit เป็นการเยี่ยมบ้านผู้สูงอายุที่เจ็บป่วย
- Dying patient home visit เป็นการเยี่ยม บ้านผู้สูงอายุที่อยู่ในระยะสุดท้ายของชีวิต
- Assessment home visit เป็นการเยี่ยมบ้าน เพื่อประเมินผู้สูงอายุ
- Hospitalization follow up home visit เป็นการเยี่ยมบ้านเพื่อติดตามการรักษาหลังจากออกจาก โรงพยาบาลสู่บ้าน เป็นการดูแลต่อเนื่องของระบบบริการ สุขภาพจากโรงพยาบาลสู่ชุมชน
2. การดูแลสุขภาพที่บ้าน (Home health care) เป็นการดูแลสุขภาพที่มีแบบแผนการดูแลให้บริการที่เป็นทางการและสม่ำเสมอ โดยบุคลากรทางการแพทย์เช่นพยาบาล ชุมชน ที่ติดตามผู้ป่วยที่มีปัญหาสุขภาพที่ต้องติดตามดูแลเป็น ระยะๆ อย่างใกล้ชิดโดยศูนย์บริการสาธารณสุขจะดำเนินการ มีการติดตามเยี่ยมเป็นประจำ โดยใช้บ้านเปรียบเสมือนเป็น Ward โดยที่มีเตียงที่บ้านเป็นเตียงผู้ป่วย และเน้นครอบครัวเป็นหลักในการดูแล มีพยาบาลเวชปฏิบัติหรือเจ้าหน้าที่สาธารณสุข คอยเป็นผู้ให้คำแนะนำ ประเมินอาการเป็นระยะๆ อาสาสมัครสาธารณสุขเป็น ผู้ช่วยพยาบาลในการเฝ้าระวังร่วมและประสานข้อมูลการดูแล กับทีมงาน
3. การบริการที่จัดในชุมชน เป็นศูนย์รับจัดส่ง พี่เลี้ยงเด็ก แม่บ้าน แม่ครัว ผู้ช่วยพยาบาล คนดูแลผู้สูงอายุ
SAIJAI "ใส่ใจ" เป็นเพียงแพลตฟอร์มที่ใช้สำหรับติดต่อสื่อสารระหว่างผู้ใช้บริการกับผู้ให้บริการดูแลเด็ก ดูแลผู้สูงอายุ ครูสอนพิเศษ/ติวเตอร์ แม่บ้าน/ทำความสะอาด คนขับรถ ดูแลสัตว์เลี้ยง เสริมสวย และช่างซ่อมบำรุงเท่านั้น "SAIJAI" ไม่ได้เป็นผู้ให้บริการหรือจ้างบุคคลใดให้บริการ ไม่มีสถานะเป็นนายจ้าง ผู้ว่าจ้าง ตัวแทน ผู้ร่วมทุน อย่างหนึ่งอย่างใดทั้งสิ้นของผู้ให้บริการ ผู้ให้บริการเป็นผู้รับจ้างอิสระ ซึ่งผู้รับบริการเป็นผู้ว่าจ้าง คุณภาพการให้บริการเป็นความรับผิดชอบทั้งสิ้นของผู้ให้บริการเอง การเรียกใช้บริการจากผู้ให้บริการ อาจมีความเสี่ยง ซึ่งผู้รับบริการรับทราบและยินดีใช้บริการ บนความเสี่ยงใด ๆ ในความรับผิดชอบของตัวท่านเอง