วิธีการทำงาน
ติดต่อเรา
ติดต่อเราโดยตรงผ่าน LINE OA เพื่อจองบริการที่คุณต้องการ
แจ้งรายละเอียดให้เราทราบ
เลือกบริการ วันที่ เวลา และสถานที่ที่คุณต้องการให้ตรงกับความต้องการของคุณ
ยืนยันการจองของคุณ
เราจะยืนยันการจองของคุณภายใน 24 ชั่วโมงผ่านทาง LINE OA
ประเภทงานบริการ
ผู้ดูแลผู้สูงอายุชั่วคราว ผู้ดูแลผู้สูงอายุสองภาษา ผู้ดูแลผู้ป่วยระยะสุดท้าย รับอยู่เป็นเพื่อนผู้สูงอายุ ผู้ดูแลผู้ป่วยติดเตียง ผู้ดูแลผู้ป่วยพักฟื้น/เฝ้าไข้ ผู้ดูแลผู้ป่วยโรคสมองเสื่อมบริการในเมืองยอดนิยม
บางเขน บางกอกน้อย ป้อมปราบศัตรูพ่า พระนคร บางพลัด บางบอน พระโขนง ภาษีเจริญ คลองสามวา ตลิ่งชันI am an honest woman without bad habits. I have experience in caring for post-stroke patients and patients with diabetes. You can also cook Thai and European food. If necessary, I can drive a car. (I have a driver's license) And keep the house clean at the request of the owner. Conscientious and kind attitude towards the patient is guaranteed.
ชื่อเล่น เจี๊ยบอายุ ประสบการณ์ ด้าน การทำงาน และการบริบาล-ประสบการณ์ na โรงพยาบาลสุขุมวิท2ปีรับจ๊อบเฝ้าไข้ ความสามารถ ทางด้าน การบริบาล-ทำกายภาพเบื้องต้นได้ -วัดความดัน-วัดไข้ ปรอท-วัด ออกซิเจน ในเลือดได้-ฟีทซักซั่น ปากคอ- ทำแผล กดทับได้ -เช็ดตัว อาบน้ำ สระผม ตัดเล็บ บนเตียงได้ - เคลื่อนย้าย ผุ้ป่วย ได้ -ใส่เครื่อง ออกซิเจนได้ - ดูแลสายปัสสาวะได้ แต่เปลี่ยนสายไม่ได้ -สวนอุจาระได้- ทำอาหาร บด อาหาร สายยาง ได้ - สื่อสาร ภาษาอังกฤษ ฟัง พูด อ่าน เขียน ได้ระดับ พอใช้
เคยไปเฝ้าคนชราป่วยมะเร็ง ที่ รพ ศิริราชผู้ป่วยไปทำ คีโม 12 ครั้ง 6 เดือน ผู้ป่วยไปให้คีโม 2ครั้ง/1 เดือน ,เคยดูแลคนชรา ที่ลูกสาวลูกชายไปทำงานดูแลอยู่ 3 ปี,ไปเป็นเพื่อนพาคนชราไปหาหมอ ,เป็นเพื่อนอยู่ที่พักเวลาลูกหลานไปธุระ,เตรียมอาหาร,ยาตามหมอสั่ง ดิฉันเป็นคนสะอาดเรียบร้อย มีระเบียบ พูดเพราะ ใจดีใจเย็น
แสดงผล 1 ถึง 20 จาก 39 ผลการค้นหา
1 2ข้อมูลสถิติน่าสนใจเกี่ยวกับ
รีวิวล่าสุด
คำถามที่พบบ่อยสำหรับการค้นหา ดูแลผู้สูงอายุ
2. การฝึกอบรมเพื่อให้มีทักษะในการดูแลผู้สูงอายุ และมีความรู้ความสามารถในการดูแลผู้สูงอายุให้ถูกวิธี เพื่อให้เกิดความปลอดภัย
3. อุปนิสัย ผู้ดูแลผู้สูงอายุต้องมีใจรักในงานบริการ มีบุคลิกชอบช่วยเหลือผู้อื่น มีความจริงใจ มีความรัก ความสงสาร ความเห็นอกเห็นใจ ปรารถนาดีต่อผู้สูงอายุ เข้าใจและรับฟังเรื่องราวของผู้สูงอายุ เพราะสิ่งเหล่านี้มีผลต่อการดูแลผู้สูงอายุให้มีความสุข
4. รู้จักผิดชอบชั่วดี ต้องรู้จักแยกแยะว่าสิ่งใดควรทำ สิ่งใดไม่ควรทำและเข้าใจในเหตุผลของความถูกต้องดีงาม (moral reasoning)
5. อายุที่เหมาะสม หลายคนอาจมองข้ามเรื่องของช่วงอายุไป แต่ต้องเข้าใจว่าช่วงอายุมีผลต่อวุฒิภาวะ ถ้าเด็กมากเกินไปก็อาจจะมีความอดทนที่ต่ำเพราะประสบการณ์การในชีวิตยังน้อย หรือถ้าอายุมากเกินไปก็ทำให้ความคล่องตัวในการดูแลผู้สูงวัยอาจจะมีน้อยลง
6. ประสบการณ์นั้นถือว่าเป็นสิ่งที่สำคัญ เพราะบ่งบอกว่าคนคนนั้นเคยผ่านงานดูแลผู้สูงวัยมาก่อน ทำให้เข้าใจเนื้องานได้อย่างรวดเร็ว เข้าใจรายละเอียดของการดูแลผู้สูงอายุ ซึ่งโดยรวมแล้วผู้ที่ดูแลผู้สูงอายุจำเป็นต้องมีใจรักในงานเป็นพิเศษ ต้องใช้ความอดทนและใช้ความรู้ความสามารถที่มีให้เกิดประโยชน์สูงสุด เพื่อให้สามารถดูแลได้ถูกวิธีและถูกใจกันทุกฝ่ายอีกด้วย
7. เป็นผู้ประสานงานและเชื่อมโยงระหว่างบุตรหลานและญาติมิตรกับผู้สูงอายุ เมื่อได้รับความไว้วางใจให้มาดูแลผู้สูงอายุแล้ว ผู้ดูแลต้องสามารถสื่อสารส่งต่อข้อมูลที่จะช่วยให้ทำงานได้ดีและเข้าใจผู้สูงอายุมากขึ้น
การเลือกแม่บ้านหรือผู้ดูแลผู้สูงอายุ เข้ามาดูแลพ่อแม่ ปู่ย่า ตายาย วัยชรา แม้จะคล้ายกับการดูแลเด็ก แต่มีความแตกต่างกันบ้างในส่วนของรายละเอียด เช่น เรื่องอาหารการกิน การทานยา และเรื่องของการอยู่เป็นเพื่อน ซึ่งเหตุผลหนึ่งที่เราเลือกใช้บริการ ผู้ดูแลผู้สูงอายุนั้น เพราะเราอยากให้ผู้สูงอายุได้อยู่ในบรรยากาศที่คุ้นเคย ใกล้ชิดลูกหลาน และได้รับการดูแลที่ถูกต้อง เหมาะสม ตามสภาพวัย ของผู้สูงอายุ หากเราต้องทำงานไปด้วยนั้นหมายถึงเราต้องปล่อยให้ผู้สูงอายุอยู่ตามลำพังกับผู้ดูแล เราสามารถลดความกังวลนั้นได้อย่างไร หากกังวลเรื่องอาหารการกิน การทานยาของคุณพ่อคุณแม่ที่ต้องอยู่บ้านลำพัง การที่ได้ผู้ดูแลผู้สูงอายุ เข้ามาดูแลปัญหาเรื่องการทานอาหาร ทานยาไม่ตรงเวลาก็จะหมดไป เมื่อเราได้สรุปงาน หน้าที่ของผู้ดูแลผู้สูงอายุ ผู้ที่เข้ามาปฏิบัติหน้าที่ก็จะทำตามตารางเวลาการทำงานที่เราได้จัดขึ้น แม้เราไม่อยู่เราก็จะแน่ใจได้ว่าผู้สูงอายุจะได้รับการดูแล เราต้องคิดว่า เมื่อเราต่างออกไปทำงาน และผู้สูงอายุที่ต้องอยู่บ้านคนเดียว ท่านอาจจะรู้สึกเหงาและเบื่อหน่าย หรือบางครั้งเราเองอาจจะรู้สึกกังวลหากเขาหกล้มหรือเกิดอุบัติเหตุแล้วไม่มีใครอยู่บ้าน แต่การมีผู้ดูแลผู้สูงอายุมาดูแลและอยู่เป็นเพื่อนก็จะช่วยให้ผู้สูงอายุรู้สึกดี หมดกังวลและไม่เบื่อหน่าย อาจมีกิจกรรมที่ช่วยให้ผู้สูงอายุฝึกคิด หรือบางครั้งผู้ดูแลผู้สูงอายุที่ดูแลยังสามารถพาไปออกกำลังกายเพื่อช่วยให้ผู้สูงอายุผ่อนคลายได้อีกด้วย กังวลเรื่องการดูแลทุก ๆ รายละเอียด ข้อนี้ถือว่าดีมากเนื่องจากพี่เลี้ยงที่จ้างมาดูแลผู้สูงอายุในบ้าน จะทำหน้าที่แทนเราทุกอย่าง เช่น เช็ดตัว ป้อนข้าว เปลี่ยนผ้าอ้อมผู้ใหญ่ โดยที่ไม่รังเกียจ เพราะมีการอบรมมาเป็นอย่างดี ช่วยดูแลขณะที่เราไม่อยู่ ความกังวลทั้งหมดนี้จะหมดไปหากเราเลือกผู้ดูแลผู้สูงอายุที่ผ่านการอบรมมาอย่างดี ใส่ใจในงานบริการ แม้อยู่ตามลำพังกับผู้ดูแล ก็ไม่ต่างกับเราดูแลท่านเอง
1. ทำสัญญาจ้างเป็นลายลักษณ์อักษร โดยสิ่งที่ควรระบุอยู่ในสัญญาอย่างชัดเจนได้แก่ ระยะเวลาการดูแล วันที่เท่าไหร่ถึงเท่าไหร่ ชั่วโมงการทำงาน จำนวนค่าจ้าง รวมไปถึงสวัสดิการและวันหยุดที่ผู้ดูแลควรได้รับตามกฎหมายแรงงาน โดยที่ทั้งสองฝ่ายต้องเซ็นยินยอมเพื่อเป็นการรับรู้ต่อสัญญาและข้อกำหนดที่ได้ตกลงกันไว้
2. ผู้ว่าจ้างควรอธิบายข้อมูลส่วนตัวของผู้สูงอายุให้กับผู้ดูแลอย่างละเอียดถี่ถ้วน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอุปนิสัย ความชอบส่วนตัว อาหารที่กินได้และไม่ได้ ที่สำคัญหากผู้สูงอายุมีโรคประจำตัว ผู้ว่าจ้างควรบอกให้ผู้ดูแลรับรู้ก่อนเพื่อให้ผู้ดูแลสามารถรับมือกับสถานการณ์ฉุกเฉินได้
3. อธิบายขอบเขตและวิธีการทำงานให้กับผู้ดูแลอย่างชัดเจน สิ่งใดที่ทำได้และไม่ได้ เพื่อเป็นการป้องกันขั้นเบื้องต้น
4. ข้อตกลงเรื่องที่อยู่อาศัย หากผู้ว่าจ้างต้องการให้ผู้ดูแลอาศัยอยู่ที่บ้านตลอดช่วงระยะการดูแลผู้สูงอายุ ควรจัดเตรียมที่พักอาศัยให้กับผู้ดูแล รวมไปถึงแจกแจงเรื่องกฎในการใช้สิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ภายในบ้านตลอดช่วงระยะเวลาเช่นกัน
5. ใส่ใจในเรื่องของสุขอนามัยของผู้ดูแลที่ทำการว่าจ้างมา หากผู้ดูแลมีอาการป่วยกะทันหัน ผู้ว่าจ้างควรออกค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล ซึ่งถือว่าเป็นอีกหนึ่งสวัสดิการที่ผู้ดูแลควรได้รับ และควรให้ผู้ดูแลลางานได้ทันที เพื่อเป็นการช่วยลดความเสี่ยงในการแพร่เชื้อต่อผู้สูงอายุภายในบ้าน
การทำข้อตกลงในการว่าจ้างนั้นนอกจากจะเป็นการช่วยให้ทำความเข้าใจอย่างชัดเจนแล้ว ยังช่วยสร้างความสบายใจให้กับทั้งสองฝ่ายได้อีกด้วย
วัดราชสิงขร
เขตบางคอแหลม แม้จะเป็นเขตเล็กๆ ที่มีเนื้อที่ประมาณ 10 ตารางกิโลเมตรกับประชากรประมาณ 83,000 คน เป็นเขตที่แยกตัวออกมาจากเขตยานนาวา เพื่อความสะดวกในการปกครอง และบริการประชาชน ถึงแม้จะเป็นเขตการปกครองเล็กๆ แต่มีพระอารามหลวง (พระอารามหลวง หรือ วัดหลวง คือ วัดที่พระมหากษัตริย์หรือพระบรมวงศานุวงศ์ทรงสร้างหรือทรงบูรณปฏิสังขรณ์ หรือมีผู้สร้างน้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวายเป็นวัดหลวง และวัดที่ราษฎรสร้าง หรือบูรณปฏิสังขรณ์ แล้วทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เข้าจำนวนในบัญชีเป็นพระอารามหลวง) คือ 'วัดราชสิงขร' ที่ตั้งอยู่เลขที่ 2114 ถนนเจริญกรุง 74 แขวงวัดพระยาไกร เขตบางคอแหลม มีที่ดินตั้งวัด เนื้อที่ 11 ไร่ 1 งาน 98 ตารางวา 'วัดราชสิงขร' เป็นวัดเก่าแก่วัดหนึ่ง ที่สร้างขึ้นในสมัยกรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานี ในรัชสมัยพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ (พุทธศักราช 2275-2301) ในสมัยรัชกาลที่ 1 สมเด็จกรมพระราชวังบวรมหาสุรสิงหนาท โปรดให้ช่างหลวงวังหน้าสร้างพระอุโบสถ มีหลักฐานที่ปรากฏคือใบเสมาหินชนวนที่ฝังไว้กับผนังด้านนอกพระอุโบสถ ซึ่งมีลักษณะ เดียวกันกับวัดชนะสงครามและวัดมหาธาตุ อันเป็นพระอาราม ที่ปรากฏหลักฐานชัดเจนว่า สมเด็จกรมพระราชวังบวรมหาสุรสิงหนาท ทรงเป็นผู้ปฏิสังขรณ์ ลักษณะของการใช้ใบเสมานั้นฝังติดกับผนังพระอุโบสถทั้ง ๘ ทิศ เป็นพุทธศิลปะที่สมเด็จกรมพระราชวังบวรมหาสุรสิงหนาททรงโปรดปรานเป็นการเฉพาะ นอกจากนั้นปรากฏหลักฐาน พระวิหาร สมเด็จกรมพระราชวังบวรมหาสุรสิงหนาทโปรดให้สร้างไปพร้อม ๆ กันกับการสร้างพระอุโบสถเพื่อประดิษฐาน พระพุทธสุโขทัยหรือหลวงพ่อแดง หลวงพ่อแดง' เป็นพระพุทธรูปสำคัญประจำวัดราชสิงขร ถูกชะลอลงมาพร้อมกับหลวงพ่อทองคำและหลวงพ่อสัมฤทธิ์ จากพระนครศรีอยุธยาทางแม่น้ำเจ้าพระยา ในระยะเวลาก่อนการเสียกรุง ขณะล่องแพมาใกล้วัดราชสิงขร ด้วยกระแสน้ำที่เชี่ยวกราก เนื่องจากเป็นฤดูน้ำหลาก ทำให้การควบคุมแพเป็นไปลำบาก แพเสียหลักและแตกจนทำให้หลวงพ่อแดงจมลงที่ฝั่งตรงกันข้ามกับวัด และยังไม่สามารถนำหลวงพ่อขึ้นจากน้ำได้ คงปล่อยให้จมอยู่ในน้ำ ณ ครั้งนั้นผู้คนชาวฝั่งธนบุรีได้ลือและแตกตื่น แม้จะได้ประกอบพิธีอัญเชิญหลวงพ่อแดงโดยประการใดๆ ก็ตามไม่สามารถนำหลวงพ่อแดงขึ้นจากน้ำได้ ต่อมาจะด้วยสิ่งดลใจหรือปาฏิหาริย์ ผู้คนฝั่งวัดราชสิงขร (กรุงเทพฯ) ทราบข่าวเหตุการณ์จึงได้ไปขอเจรจาขออัญเชิญหลวงพ่อแดงประดิษฐานไว้ ณ วัดราชสิงขร เป็นที่สำเร็จตามคำขออัญเชิญในฤดูน้ำลด เมื่อครั้งที่อัญเชิญมาสู่วัดราชสิงขร ได้ประดิษฐานองค์พระอยู่กลางแจ้ง ปรากฏว่าเมื่อชำระคราบโคลนตมและตะไคร่น้ำออกแล้ว ปรากฏว่าเกิดเป็นสีสนิมแดงจับทั่วทั้งองค์พระอย่างเห็นได้ชัด ชาวบ้านฝั่งวัดราชสิงขรจึงได้พากันนิยมขนานนามว่า หลวงพ่อแดง สืบต่อกันมาตราบทุกวันนี้
วิธีรับมือพ่อแม่สูงวัย
หน้าที่ดูแลผู้สูงอายุในครอบครัวมักตกเป็นหน้าที่ของเด็กที่โตแล้วหรือญาติๆ ถึงแม้ว่าผู้สูงอายุเหล่านั้นจะมีสุขภาพแข็งแรงและสามารถช่วยเหลือตัวเองได้ในระดับหนึ่ง แต่ผู้ดูแลยังต้องใส่ใจในรายละเอียดอื่น ๆ อีกมากมาย เพื่อให้ผู้สูงอายุมีคุณภาพชีวิตที่ดี
พยายามทำความเข้าใจ ผู้ดูแลควรพยายามทำความเข้าใจ ถึงความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นทั้งสุขภาพทางกายและทางใจ พูดคุยกันด้วยท่าทีอ่อนโยน และที่สำคัญควรใช้ความอดทนและใจเย็นให้มากๆ การพยายามสื่อสารจะทำให้คุณเข้าใจผู้สูงอายุมากขึ้น เมื่ออยู่ด้วยความเข้าใจซึ่งกันและกัน จะทำให้ความเครียดของทั้งสองฝ่ายลดลง และมีความสุขมากขึ้น
ทำกิจกรรมด้วยกัน ร่วมกิจกรรมสนุกๆ กับพ่อแม่ของคุณ เช่น เข้าชั้นเรียนเต้นรำ วาดภาพ หรือร้องเพลง ไปช้อปปิ้ง ทำอาหาร ออกไปกินข้าวนอกบ้าน หรือดูหนังด้วยกัน
อย่าพยายามควบคุมทุกอย่าง คุณไม่สามารถเปลี่ยนแปลงสิ่งที่พ่อแม่สูงวัยกำลังประสบได้ แต่คุณสามารถทำงานเพื่อทำความเข้าใจและให้ความช่วยเหลือและสนับสนุนได้ หากคุณเห็นว่าพ่อแม่ของคุณมีปัญหากับงานบ้าน ให้เสนอตัวช่วยเพื่อพวกเขาจะได้พักผ่อนหรือทำอะไรสนุกๆ แทน หากพวกเขารู้สึกเศร้าหรือผิดหวังกับการเปลี่ยนแปลงที่กำลังประสบอยู่ ให้พวกเขาระบายออกและพยายามอย่างเต็มที่เพื่ออยู่เคียงข้างพวกเขา
หากิจกรรมทำเพื่อสุขภาพ คุณอาจรู้ไม่พอใจ ไม่สบาย และหงุดหงิดเมื่อพยายามทำความเข้าใจพ่อแม่ของคุณ จนกลายเป็นความเครียดอย่าปล่อยให้ตัวเองจมอยู่กับความทุกข์เหล่านั้น เพราะจะยิ่งทำให้สถานการณ์ระหว่างคุณกับพ่อแม่ของคุณยิ่งแย่ลงไปอีก หาทางระบายความคับข้องใจของคุณเพื่อหลีกเลี่ยงความขัดแย้งกับพ่อแม่ของคุณ ลองคุยกับเพื่อนหรือพี่น้อง หรือใช้เวลาไปฟิตเนสหรือออกกำลังกายข้างนอกเมื่อคุณรู้สึกอึดอัด
การเป็นผู้ดูแลพ่อแม่ที่สูงวัยอาจทำให้คุณรู้สึกแปลกและเครียดในตอนแรก เพราะคุณอาจจะเคยชินกับการที่พ่อแม่ดูแลคุณ เมื่อถึงตาคุณที่จะดูแลพวกเขา การเปลี่ยนบทบาทไม่ใช่เรื่องง่ายเสมอไป แต่ด้วยคำแนะนำและการวางแผน คุณทั้งคู่จะคุ้นเคยกับบทบาทใหม่ได้ วันนี้เราจะให้เคล็ดลับที่เป็นประโยชน์เกี่ยวกับวิธีการรับมือกับผู้ปกครองที่แก่ชราแต่ยังคงรักษาความสัมพันธ์ที่มั่นคงและมีคุณภาพ
ความกลัวที่พบบ่อยของผู้สูงอายุ
กุญแจสำคัญประการหนึ่งในการทำความเข้าใจพ่อแม่ของคุณเมื่อโตขึ้นคือการรู้ว่าอะไรทำให้พวกเขานอนไม่หลับในตอนกลางคืน พ่อแม่ของคุณอาจไม่พูดอย่างเปิดเผยเกี่ยวกับความกลัวเหล่านี้ แต่มีแนวโน้มว่าพวกเขาจะประสบกับความกลัวเหล่านี้มากขึ้นเรื่อยๆ เมื่อเวลาผ่านไป การรู้ถึงความกลัวในวัยชราที่พบบ่อยที่สุดจะช่วยให้คุณพูดคุยอย่างเปิดเผยกับพ่อแม่เกี่ยวกับความกังวลของพวกเขา
1.ความเหงา ความรู้สึกเหงาเป็นเรื่องปกติสำหรับผู้สูงอายุ เนื่องจากพวกเขาสูญเสียเพื่อนฝูงและคนที่รัก ถึงแม้ว่าการสูญเสียเหล่านี้จะเป็นเรื่องปกติของวัย แต่อาจทำให้พ่อแม่ของคุณรู้สึกหดหู่ พ่อแม่ของคุณอาจมีปัญหาในการหาคนที่พวกเขาสามารถพูดคุยและใช้เวลาด้วยได้ พยายามพูดคุยกับพวกเขาเป็นประจำและเยี่ยมเยียนเมื่อทำได้
2.รู้สึกไม่ปลอดภัย เมื่ออายุมากขึ้น ผู้สูงอายุอาจเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุหรือรู้สึกไม่ปลอดภัยในบ้านของตัวเอง การหาอุปกรณ์เสริม หรือเครื่องมือช่วยเหลือจะทำให้ผู้สูงอายุรู้สึกปลอดภัยมากขึ้น เช่น การติดตั้งระบบเตือนภัยในบ้าน เพื่อให้ผู้สูงอายุสามารถขอความช่วยเหลือได้เมื่อต้องการ เพิ่มราวจับในห้องน้ำ เพื่อลดความเสี่ยงการลื่นล้ม เป็นต้น
3.สุขภาพไม่ดี เมื่ออายุมากขึ้น กระดูกมักจะหดตัวทั้งขนาดและความหนาแน่น ทำให้อ่อนแอลงและเปราะบางมากขึ้น กล้ามเนื้อมักจะสูญเสียความแข็งแรง ความอดทน และความยืดหยุ่น ซึ่งส่งผลต่อการทรงตัว การประสานงาน และความมั่นคง ผู้ดูแลควรพยายามส่งเสริมให้ผู้สูงอายุได้รับประทานอาหารและวิถีชีวิตที่ดีต่อสุขภาพเพื่อช่วยให้พวกเขามีชีวิตที่ยืนยาวและมีสุขภาพดีขึ้น
4. ปัญหาด้านการเงิน การเข้าสู่วัยเกษียณและไม่ได้ทำงานอีกต่อไปอาจทำให้ผู้สูงอายุเครียดเรื่องเงินได้ คุณสามารถช่วยพ่อแม่ของคุณวางแผนการเงิน อาจลองขอคำแนะนำจากที่ปรึกษาทางการเงินเพื่อหาวิธีบริหารเงินให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของพวกเขา
5.การสูญเสียความทรงจำ ความกลัวทั่วไปของผู้สูงอายุคือพวกเขาจะลืมทุกสิ่งที่พวกเขาเคยรู้จักและรัก ความกลัวนี้บางครั้งถูกแสดงในรูปแบบของความวิตกกังวล คุณสามารถช่วยให้พ่อแม่จำได้โดยการดูรูปถ่ายครอบครัวกับพวกเขาและพูดถึงความทรงจำที่คุณโปรดปรานบ่อยๆ การมีความเชื่อมโยงกับอดีตที่เป็นรูปธรรมสามารถสร้างความมั่นใจแก่พ่อแม่ของคุณได้
6.การสูญเสียความเป็นอิสระ ความเสื่อมถอยของสมรรถภาพทางกายทำให้ผู้สูงอายุต้องพึ่งพาผู้อื่นในการทำกิจวัตรประจำวันหรือกิจกรรมต่างๆ ที่เคยทำได้ด้วยตัวเอง ทำให้ผู้สูงอายุเกิดความกังวล ผู้ดูแลควรเสนอให้ความช่วยเหลือโดยที่ท่านไม่ต้องออกปากร้องของ หรืออาจจะช่วยในรูปแบบการเตรียมเครื่องมือหรืออุปกรณ์เสริมเพื่อให้ท่านทำอะไรได้ด้วยตัวเองมากขึ้น
SAIJAI "ใส่ใจ" เป็นเพียงแพลตฟอร์มที่ใช้สำหรับติดต่อสื่อสารระหว่างผู้ใช้บริการกับผู้ให้บริการดูแลเด็ก ดูแลผู้สูงอายุ ครูสอนพิเศษ/ติวเตอร์ แม่บ้าน/ทำความสะอาด คนขับรถ ดูแลสัตว์เลี้ยง เสริมสวย และช่างซ่อมบำรุงเท่านั้น "SAIJAI" ไม่ได้เป็นผู้ให้บริการหรือจ้างบุคคลใดให้บริการ ไม่มีสถานะเป็นนายจ้าง ผู้ว่าจ้าง ตัวแทน ผู้ร่วมทุน อย่างหนึ่งอย่างใดทั้งสิ้นของผู้ให้บริการ ผู้ให้บริการเป็นผู้รับจ้างอิสระ ซึ่งผู้รับบริการเป็นผู้ว่าจ้าง คุณภาพการให้บริการเป็นความรับผิดชอบทั้งสิ้นของผู้ให้บริการเอง การเรียกใช้บริการจากผู้ให้บริการ อาจมีความเสี่ยง ซึ่งผู้รับบริการรับทราบและยินดีใช้บริการ บนความเสี่ยงใด ๆ ในความรับผิดชอบของตัวท่านเอง