วิธีการทำงาน
ติดต่อเรา
ติดต่อเราโดยตรงผ่าน LINE OA เพื่อจองบริการที่คุณต้องการ
แจ้งรายละเอียดให้เราทราบ
เลือกบริการ วันที่ เวลา และสถานที่ที่คุณต้องการให้ตรงกับความต้องการของคุณ
ยืนยันการจองของคุณ
เราจะยืนยันการจองของคุณภายใน 24 ชั่วโมงผ่านทาง LINE OA
ประเภทงานบริการ
ผู้ดูแลผู้สูงอายุชั่วคราว ผู้ดูแลผู้สูงอายุสองภาษา ผู้ดูแลผู้ป่วยระยะสุดท้าย รับอยู่เป็นเพื่อนผู้สูงอายุ ผู้ดูแลผู้ป่วยติดเตียง ผู้ดูแลผู้ป่วยพักฟื้น/เฝ้าไข้ ผู้ดูแลผู้ป่วยโรคสมองเสื่อมบริการในเมืองยอดนิยม
บางเขน บางกอกน้อย ป้อมปราบศัตรูพ่า พระนคร บางพลัด บางบอน พระโขนง ภาษีเจริญ คลองสามวา ตลิ่งชันเคยไปเฝ้าคนชราป่วยมะเร็ง ที่ รพ ศิริราชผู้ป่วยไปทำ คีโม 12 ครั้ง 6 เดือน ผู้ป่วยไปให้คีโม 2ครั้ง/1 เดือน ,เคยดูแลคนชรา ที่ลูกสาวลูกชายไปทำงานดูแลอยู่ 3 ปี,ไปเป็นเพื่อนพาคนชราไปหาหมอ ,เป็นเพื่อนอยู่ที่พักเวลาลูกหลานไปธุระ,เตรียมอาหาร,ยาตามหมอสั่ง ดิฉันเป็นคนสะอาดเรียบร้อย มีระเบียบ พูดเพราะ ใจดีใจเย็น
ชื่อเล่น เจี๊ยบอายุ ประสบการณ์ ด้าน การทำงาน และการบริบาล-ประสบการณ์ na โรงพยาบาลสุขุมวิท2ปีรับจ๊อบเฝ้าไข้ ความสามารถ ทางด้าน การบริบาล-ทำกายภาพเบื้องต้นได้ -วัดความดัน-วัดไข้ ปรอท-วัด ออกซิเจน ในเลือดได้-ฟีทซักซั่น ปากคอ- ทำแผล กดทับได้ -เช็ดตัว อาบน้ำ สระผม ตัดเล็บ บนเตียงได้ - เคลื่อนย้าย ผุ้ป่วย ได้ -ใส่เครื่อง ออกซิเจนได้ - ดูแลสายปัสสาวะได้ แต่เปลี่ยนสายไม่ได้ -สวนอุจาระได้- ทำอาหาร บด อาหาร สายยาง ได้ - สื่อสาร ภาษาอังกฤษ ฟัง พูด อ่าน เขียน ได้ระดับ พอใช้
แสดงผล 1 ถึง 20 จาก 40 ผลการค้นหา
1 2ข้อมูลสถิติน่าสนใจเกี่ยวกับ
รีวิวล่าสุด
คำถามที่พบบ่อยสำหรับการค้นหา ดูแลผู้สูงอายุ
1. เป็นผู้ที่บรรลุนิติภาวะ คืออายุ 18 ปีขึ้นไป สามารถคิดและตัดสินใจได้อย่างมีเหตุผล มีวุฒิภาวะที่ดี
2. เนื่องจากการดูแลผู้สูงอายุเป็นเรื่องละเอียดอ่อน คนดูแลผู้สูงอายุจึงควรเป็นคนที่มีความรู้ทั้งในเรื่องจิตวิทยา และด้านโภชนาการอาหาร รวมทั้งความสะอาดทั่วไปด้วย แม้ว่าการจ้างคนดูแลผู้สูงอายุที่มีความรู้อาจจะต้องมีค่าใช้จ่ายเยอะกว่าการจ้างคนทั่วไป แต่ก็ถือว่าคุ้มค่า เพราะหากผู้สูงอายุได้รับการดูแลที่ไม่ดี คนดูแลขาดความรู้แล้ว อาจส่งผลต่อสุขภาพทั้งร่างกายและจิตใจอีกด้วย
3. มีความน่าไว้วางใจ เมื่อจ้างคนดูแลผู้สูงอายุเข้ามาอยู่ในบ้าน อาจจะต้องรับรู้ในส่วนของที่เก็บของต่างๆ รู้ตารางชีวิตประจำวันของคนในครอบครัว คนดูแลผู้สูงอายุจึงต้องเป็นคนที่ไว้ใจได้ มีประวัติที่ดี และมีทัศนคติที่ดี
4. มีความอดทน เนื่องจากการดูแลผู้สูงอายุไม่ใช่เรื่องง่ายๆ บางครั้งอาจจะต้องดูแลทั้งร่างกายและจิตใจของผู้สูงอายุอีกด้วย โดยเฉพาะหากเป็นผู้สูงอายุที่มีอาการป่วยหรือโรคประจำตัว ก็จะมีความยุ่งยากและซับซ้อนมากขึ้นไปอีก
5. ควรจบหลักสูตรผู้ช่วยการพยาบาล หรือสาขาที่เกี่ยวข้องและหากมีประสบการณ์มักจะได้รับการพิจารณาเป็นพิเศษ แต่หากไม่จบหลักสูตรดังกล่าว แต่มีประสบการณ์ในการดูแลผู้สูงอายุมาก่อน ก็จะได้รับการพิจารณาเช่นกัน
6. มีความซื่อสัตย์สุจริต เนื่องจากในบางครั้งอาจจะต้องอยู่กับผู้สูงอายุเพียงลำพัง
7. มีความขยันและสามารถช่วยเหลืองานอย่างอื่นได้ตามความเหมาะสม
1. ตรวจสอบประวัติอาชญากรรมของคนดูแลผู้สูงอายุ โดยสามารถร้องขอให้ผู้ดูแลผู้สูงอายุทำการตรวจสอบประวัติอาชญากรรมกับกองทะเบียนประวัติอาชญากรได้ที่ http://www.criminal.police.go.th/
2. ตรวจสอบประวัติการทำงานกับนายจ้างคนเก่า ในกรณีที่ผู้ดูแลผู้สูงอายุเคยผ่านประสบการณ์การทำงานมาก่อน
3. หากเป็นผู้ดูแลที่มาจากบริษัท ทางบริษัทควรจะมีการส่งตัวแทนจากบริษัทเข้ามาเยี่ยมและตรวจสอบการทำงานของผู้ดูแลเป็นระยะๆ
4. คนในครอบครัวหมั่นตรวจตราและสอดส่องการทำงานของผู้ดูแลคนสูงอายุอยู่ตลอดเวลาในระยะแรกๆของการทำงาน
5. หากมีเพื่อนบ้านที่ไว้ใจได้ สามารถฝากให้เพื่อนบ้านช่วยสอดส่องดูแลขณะที่ผู้ดูแลอยู่ลำพังกับผู้สูงอายุ
6. ปัจจุบัน ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย ไม่ใช่เรื่องยากที่เราจะทำการติดตั้งกล้องวงจรปิดไว้ตามจุดต่างๆ ภายในบ้าน เพื่อตรวจสอบความเคลื่อนไหวภายในบ้านได้ตลอด 24 ชม.
1. ทำสัญญาจ้างเป็นลายลักษณ์อักษร โดยสิ่งที่ควรระบุอยู่ในสัญญาอย่างชัดเจนได้แก่ ระยะเวลาการดูแล วันที่เท่าไหร่ถึงเท่าไหร่ ชั่วโมงการทำงาน จำนวนค่าจ้าง รวมไปถึงสวัสดิการและวันหยุดที่ผู้ดูแลควรได้รับตามกฎหมายแรงงาน โดยที่ทั้งสองฝ่ายต้องเซ็นยินยอมเพื่อเป็นการรับรู้ต่อสัญญาและข้อกำหนดที่ได้ตกลงกันไว้
2. ผู้ว่าจ้างควรอธิบายข้อมูลส่วนตัวของผู้สูงอายุให้กับผู้ดูแลอย่างละเอียดถี่ถ้วน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอุปนิสัย ความชอบส่วนตัว อาหารที่กินได้และไม่ได้ ที่สำคัญหากผู้สูงอายุมีโรคประจำตัว ผู้ว่าจ้างควรบอกให้ผู้ดูแลรับรู้ก่อนเพื่อให้ผู้ดูแลสามารถรับมือกับสถานการณ์ฉุกเฉินได้
3. อธิบายขอบเขตและวิธีการทำงานให้กับผู้ดูแลอย่างชัดเจน สิ่งใดที่ทำได้และไม่ได้ เพื่อเป็นการป้องกันขั้นเบื้องต้น
4. ข้อตกลงเรื่องที่อยู่อาศัย หากผู้ว่าจ้างต้องการให้ผู้ดูแลอาศัยอยู่ที่บ้านตลอดช่วงระยะการดูแลผู้สูงอายุ ควรจัดเตรียมที่พักอาศัยให้กับผู้ดูแล รวมไปถึงแจกแจงเรื่องกฎในการใช้สิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ภายในบ้านตลอดช่วงระยะเวลาเช่นกัน
5. ใส่ใจในเรื่องของสุขอนามัยของผู้ดูแลที่ทำการว่าจ้างมา หากผู้ดูแลมีอาการป่วยกะทันหัน ผู้ว่าจ้างควรออกค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล ซึ่งถือว่าเป็นอีกหนึ่งสวัสดิการที่ผู้ดูแลควรได้รับ และควรให้ผู้ดูแลลางานได้ทันที เพื่อเป็นการช่วยลดความเสี่ยงในการแพร่เชื้อต่อผู้สูงอายุภายในบ้าน
การทำข้อตกลงในการว่าจ้างนั้นนอกจากจะเป็นการช่วยให้ทำความเข้าใจอย่างชัดเจนแล้ว ยังช่วยสร้างความสบายใจให้กับทั้งสองฝ่ายได้อีกด้วย
มารู้จัก บางบอน กันดีกว่า
ในอดีตส่วนใหญ่คนในเขตบางบอนจะมีอาชีพด้านเกษตรกรรม ไม่ว่าจะเป็น สวนผลไม้ สวนมะพร้าว หรือ สวนมะม่วง แต่ในปัจจุบัน บางบอน ถือว่าเป็นย่านธุรกิจสำคัญในกรุงเทพ และมีถนนหนทางเชื่อมต่อกับถนนหลักถึง 5 สาย ได้แก่ ถนนกาญจนาภิเษก, ถนนพระรามสอง, ถนนบางขุนเทียน, ถนนเพชรเกษม, ถนนกัลปพฤกษ์ แต่ปัญหาที่ตามมากคือ รถติด ในเขตนี้จะมีรถติดค่อนข้างมาก
สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในเขตบางบอน ได้แก่
-ถนนข้าวสาร เป็นถนนที่สร้างขึ้นใน พ.ศ. 2435 ตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 6 เป็นตรอกที่เอาไว้ขายข้าวสาร และเป็นแหล่งค้าขายข้าวสารที่ใหญ่ที่สุด ต่อมาจึงเปลี่ยนเป็นถนนข้าวสาร และเริ่มมีร้านขายของมากขึ้น และกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยามราตรีที่โด่งดังไปทั่วโลก ณ ปัจจุบันไม่ว่าจะเป็นชาวไทยหรือต่างชาติ ต่างรู้จักถนนข้าวสาร ซึ่งถือเป็น Landmark ที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งของกรุงเทพ ถนนข้าวสาร รวมระยะทาง 400 เมตร กว้าง 16 เมตร ปริมาณพื้นที่ 6,400 ตารางเมตร
-ตลาดประตูน้ำ เมื่อพูดถึงตลาดประตูน้ำ คงไม่มีใครไม่รู้จัก เพราะเป็นแหล่งของแฟชั่นเสื้อผ้า เครื่องประดับ และสินค้าอื่นๆ อีกมากมายในราคาที่ไม่แพง มีขายทั้งแบบราคาปลีกและราคาส่ง ส่วนมากแม่ค้าจะมารับสินค้าจะที่นี่ไปขายต่อ
-Terminal 21 ห้างสรรพสินค้าที่มีจุดขายโดดเด่น โดยเฉพาะ บันไดเลื่อนที่ยาวที่สุด ยาวถึง 36 เมตร โดยใช้เดินทางจากชั้น 1 ไปยัง ชั้น 3 ของห้าง หรือหากต้องการใช้บันไดเลื่อนแบบปกติก็ได้เช่นกัน โดยชั้นต่างๆ ภายในห้างจะตกแต่งโดยใช้ชื่อเมืองต่างๆ ได้แก่
LG — Caribbean
GF — Rome
MF — Paris
1F — Tokyo
2F — London
3F — Istanbul
4F — San Francisco
5F — Pier 21
6F — Hollywood
เข้าใจอารมณ์ ผู้สูงอายุ
ทุกคนคงทราบกันดีว่าสังคมไทยในปัจจุบัน กำลังเข้าสู่สังคมของผู้สูงอายุ ดังนั้นย่อมมีปัญหามากมายที่เกิดขึ้นกับผู้สูงอายุ ปัญหาที่เกิดขึ้นระหว่างผู้สูงอายุกับลูกหลานส่วนมาก คือ มองโลกกันคนละมุม รวมทั้งความจุกจิก จู้จี้ ขี้บ่น ของผู้สูงอายุ ตามที่ลูกหลานรู้สึก แต่ในความเป็นจริง อาจจะไม่ได้เป็นการบ่นก็ได้ แต่เป็นการทักทายจากผู้สูงอายุ โดยเริ่มต้นจากการบ่น เพื่อเปิดประเด็นพูดคุยกับลูกหลาน อีกประเด็นก็คือ การที่ผู้สูงอายุคอยถามคำถามเดิมๆ ซ้ำๆซากๆ อย่างเช่น ปิดประตูบ้านหรือยัง ปิดไฟในบ้านหรือยัง จริงๆ อาจจะเป็นความห่วงใย แต่ลูกหลานก็ควรหมั่นสังเกตด้วย หากผู้สูงอายุถามคำถามแบบนี้มากจนเกินไป เราก็สามารถจะเฝ้าระวังได้ว่า ผู้สูงอายุในบ้านเรามีโรคแทรกซ้อน อย่างเช่น โรคอัลไซเมอร์ หรือโรคซึมเศร้า ก็ได้เช่นกัน
สำหรับผู้สูงอายุบางท่านอาจจะมีปัญหาเรื่องการนอนหลับ คือ นอนหลับได้ไม่นานและตื่นเช้ามากๆ ในความเป็นจริงลูกหลานสามารถช่วยเหลือ ผู้สูงอายุ ได้ในจุดนี้ โดยการพาผู้สูงอายุไปออกกำลังกาย เพื่อสุขภาพของท่านและร่างกายที่แข็งแรงมากขึ้นอีกด้วย อีกประเด็นที่พบบ่อย คือ ผู้สูงอายุมักจะประหยัดและชอบเก็บข้าวของต่างๆ เอาไว้เยอะแยะเต็มบ้านไปหมด ลูกหลานส่วนใหญ่จะไม่เข้าใจเหตุผลว่าทำไมต้องประหยัดและเก็บของเก่าๆ ไว้มากมาย ดูเหมือนบ้านจะรกไปหมด แต่ในความเป็นจริงสิ่งของเหล่านั้นอาจจะมีคุณค่าทางจิตใจของผู้สูงอายุ เป็นของชิ้นแรกที่ซื้อหรือมีความทรงจำต่างๆ เกี่ยวกับของชิ้นนั้นๆ
ปัญหาที่สำคัญปัญหาสุดท้าย คือ การรับประทานอาหารของผู้สูงอายุ ส่วนมากผู้สูงอายุจะรับประทานอาหารได้น้อยลง ควรเน้นอาหารที่ย่อยง่าย ผัก ผลไม้ เพื่อหลีกเลี่ยงอาการท้องอืด หรือท้องเฟ้อ
บ้านพักคนชรากับสังคมผู้สูงอายุ
มีแนวโน้มว่าประเทศไทยจะกลายเป็นสังคมผู้สูงอายุอย่างเต็มรูปแบบภายในปี 2564 นี้ เพราะในปัจจุบัน คนไทยนิยมใช้ชีวิตโสดหรือไม่มีลูกหลานกันมากยิ่งขึ้น แต่ปัญหาในชีวิตบั้นปลายก็คือ ไม่มีคนดูแลยามแก่เฒ่าหรือในยามที่เจ็บป่วย ดังนั้น บ้านพักคนชรา จึงได้รับความสนใจอย่างมากในปัจจุบัน เรามาดูตัวอย่างโครงการบ้านพักคนชราที่เป็นที่นิยม ได้แก่
-สวางนิเวศ จ.สมุทรปราการ ซึ่งเป็นโครงการแรกๆ ที่เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางสำหรับบ้านพักคนชรา โดยที่นี่จะมีเจ้าหน้าที่แพทย์และพยาบาลคอยดูแลตลอด 24 ชม.ซึ่งที่นี่จะมีคอนโดมิเนียมทั้งหมด 9 อาคาร เป็นจำนวน 468 ห้อง ผู้ที่จะมาเข้าพักที่นี่จะต้องมีอายุ 55 ปีขึ้นไปและเป็นผู้ที่แข็งแรงสามารถดูแลช่วยเหลือตัวเองได้ หากต้องการเข้าพักที่นี่ต้องทำการจองล่วงหน้า ด้วยเงินแล้วรอการติดต่อกลับจากโครงการ 1-2 สัปดาห์ เมื่อเข้าพักที่นี่แล้ว หากเสียชีวิตหรือหมดสัญญาก็ต้องทำการคืนห้องให้กับโครงการ
-ศุภวัฒนาลัย จ.สระบุรี เป็นบ้านพักคนชราโครงการแรกของ ศุภาลัย แบบบ้านชั้นเดียว จำนวน 144 หลัง เป็นโครงการที่มีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกในบ้านเป็นที่เรียบร้อย สามารถเข้าอยู่ได้ทันที โดยจะมีเจ้าหน้าที่พยาบาลคอยดูแลที่นี่ตลอด 24 ชั่วโมงอีกด้วย ภายในโครงการจะมีสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ เช่น สระว่ายน้ำ สนามกอล์ฟ ห้องอาหาร สปา คาราโอเกะ ห้องสมุดและอื่นๆ อีกมากมาย สำหรับการเช่าที่นี่จะมี 2 รูปแบบ ได้แก่ เช่าระยะยาว 30 ปี หรือ เช่าตลอดชีพ โดยจะมีการทำสัญญาแตกต่างกันไปแล้วแต่ความจำนงของผู้สนใจเช่าซื้อ
SAIJAI "ใส่ใจ" เป็นเพียงแพลตฟอร์มที่ใช้สำหรับติดต่อสื่อสารระหว่างผู้ใช้บริการกับผู้ให้บริการดูแลเด็ก ดูแลผู้สูงอายุ ครูสอนพิเศษ/ติวเตอร์ แม่บ้าน/ทำความสะอาด คนขับรถ ดูแลสัตว์เลี้ยง เสริมสวย และช่างซ่อมบำรุงเท่านั้น "SAIJAI" ไม่ได้เป็นผู้ให้บริการหรือจ้างบุคคลใดให้บริการ ไม่มีสถานะเป็นนายจ้าง ผู้ว่าจ้าง ตัวแทน ผู้ร่วมทุน อย่างหนึ่งอย่างใดทั้งสิ้นของผู้ให้บริการ ผู้ให้บริการเป็นผู้รับจ้างอิสระ ซึ่งผู้รับบริการเป็นผู้ว่าจ้าง คุณภาพการให้บริการเป็นความรับผิดชอบทั้งสิ้นของผู้ให้บริการเอง การเรียกใช้บริการจากผู้ให้บริการ อาจมีความเสี่ยง ซึ่งผู้รับบริการรับทราบและยินดีใช้บริการ บนความเสี่ยงใด ๆ ในความรับผิดชอบของตัวท่านเอง