ดูแลผู้สูงอายุ ใน ราษฎร์บูรณะ, กรุงเทพมหานคร

ดูแลผู้สูงอายุ ใน ราษฎร์บูรณะ, กรุงเทพมหานคร

คุณต้องการใช้บริการนี้เมื่อไหร่?
ตอนนี้
ระบุวันที่
ผู้ให้บริการดูแลผู้สูงอายุ ใน ราษฎร์บูรณะ, กรุงเทพมหานคร:

วิธีการทำงาน

Saijai

ติดต่อเรา

ติดต่อเราโดยตรงผ่าน LINE OA เพื่อจองบริการที่คุณต้องการ

Saijai

แจ้งรายละเอียดให้เราทราบ

เลือกบริการ วันที่ เวลา และสถานที่ที่คุณต้องการให้ตรงกับความต้องการของคุณ

Saijai

ยืนยันการจองของคุณ

เราจะยืนยันการจองของคุณภายใน 24 ชั่วโมงผ่านทาง LINE OA

ปนัดดา ราชสี
ปนัดดา ราชสี
Saijai ประสบการณ์ 0-1 ปี
Saijai อายุ 26 ปี

อดนอนได้ ความอดทนสูงใจรักในงานบริการ ซื้อสัตย์ รักงานชอบคุย

แสดงเพิ่มเติม

ข้อมูลสถิติน่าสนใจเกี่ยวกับ

Saijai จำนวนประชากร
Saijai จำนวนประชากรเด็ก (แรกเกิด-14 ปี)
Saijai จำนวนประชากรสูงอายุ (60 ปี ขึ้นไป)
Saijai จำนวนสัตว์เลี้ยง สุนัข

รีวิวล่าสุด

ประทับใจในการให้บริการมาก ๆ ค่ะ
Saijai
สุดาพร มณีทอง
4 ปีที่แล้ว
ราคาไม่สูงเหมือนจ้างพยาบาลตามโรงพยาบาล และผู้ดูแลยังมีประสบการณ์ มั่นใจ หายห่วงเลยค่ะ
Saijai
ศรีรัตน์ สุขสวัสดิ์
4 ปีที่แล้ว
พ่อเกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์เมื่อสามเดือนก่อน ผมเลยหาคนดูแลจากเว็บไซต์ของใส่ใจ ขั้นตอนต่าง ๆ ง่ายมากครับ และทางผู้ดูแลที่ทางใส่ใจส่งมา บริการได้น่าประทับใจมากครับ นอกจากจะใส่ใจคอยดูแลคุณพ่อผมแล้วยังคอยพูดคุยรับฟังเรื่องต่าง ๆ อีกด้วย ตอนนี้ผมจ้างพี่เค้าดูแลตลอดจนกว่าพ่อจะหายเลยครับ
Saijai
อนันต์ บุญเกิด
4 ปีที่แล้ว
ได้คนคอยดูแลแม่ผมอย่างดี และถ่ายภาพรายงานเรื่องแม่ให้ผมทางไลน์อีกด้วยครับ คุ้มราคามากครับ
Saijai
ปราโมทย์ มนตรา
4 ปีที่แล้ว
ได้คนดูแลดี ผมก็หายห่วงครับ จะใช้บริการบ่อย ๆ
Saijai
สุชาดา เอี่ยมจินดา
4 ปีที่แล้ว

คำถามที่พบบ่อยสำหรับการค้นหา ดูแลผู้สูงอายุ

ตัวเลือกใดที่ดีกว่าระหว่างจ้างคนดูแลผู้สูงอายุที่บ้านหรือให้ผู้สูงอายุอยู่บ้านพักคนชรา
คาดการณ์ว่าในปี 2564 ประเทศไทยจะมีผู้สูงอายุ ร้อยละ 16.2 ของประชากรทั้งหมด ผู้สูงอายุที่เคยดูแลเราในวันก่อนก็เปลี่ยนบทบาทมาเป็นคนที่เราต้องดูแล วิถีชีวิตปัจจุบัน หลายครอบครัวไม่สามารถดูแลผู้สูงอายุได้ด้วยตัวเอง อะไรที่ดีกว่าระหว่างจ้างคนดูแลผู้สูงอายุที่บ้านหรือให้ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุดูแล

ข้อดีของการดูแลผู้สูงอายุที่บ้าน

การที่ผู้สูงอายุได้อยู่อาศัยในบ้าน ทำให้ไม่รู้สึกแปลกสถานที่ รู้สึกว่าอยู่กับครอบครัวลูกหลาน ไม่เกิดความว้าเหว่ ผู้สูงอายุยังอยู่ในสิ่งแวดล้อมเดิมและไม่รู้สึกว่ามีใครหายไป การดูแลยังอยู่ในสายตาของลูกหลาน หากเกิดข้อบกพร่องหรือสิ่งที่ทำให้ผู้สูงอายุไม่สบายใจ ผู้สูงอายุสามารถพูดขึ้นกับลูกหลานและแก้ไขปัญหาได้ในทันที

ข้อเสียของการดูแลผู้สูงอายุที่บ้าน

คือค่าใช้จ่ายที่สูง เพราะต้องใช้ผู้ที่ผ่านการอบรมเป็นพิเศษ และอาจต้องจ้าง ตลอด 24 ชั่วโมง หรืออาจต้องใช้ 1-2 คนในการดูแล ผู้ว่าจ้างไม่สามารถรู้ล่วงหน้าได้เลยว่านิสัยของคนที่จ้างมาเป็นอย่างไร รักการทำงานบริการผู้สูงอายุหรือไม่ หรือสามารถการปรับตัวให้เข้ากับผู้สูงอายุได้หรือไม่

ข้อดีของการใช้บริการศูนย์ดูแลผู้สูงอายุหรือบ้านพักคนชรา

คือมีสถานที่พร้อมในการดูแลผู้สูงอายุ มีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกในการดูแล บางแห่งมีเครื่องมือแพทย์ หรือพยาบาลวิชาชีพดูแล ผู้สูงอายุได้พบปะกับอื่น ๆ ในวัยเดียวกัน ซึ่งจะช่วยคลายความกังวลใจของผู้สูงอายุลงไปได้บ้าง หากมีเหตุฉุกเฉิน เกิดอุบัติเหตุ ไม่สบาย ทางศูนย์ดูแลพร้อมให้ปฐมพยาบาลและนำส่งโรงพยาบาล

ข้อเสียของการใช้บริการศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ
ค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูงและเราจะไม่มีทางรู้หรือเห็นเหตุการณ์อื่นใดนอกเหนือจากตอนที่ไปถึงศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ ซึ่งอาจปล่อยปละละเลย ผู้สูงอายุอาจไม่มีความสุขที่ต้องจากครอบครัว สุขภาพจิตอาจแย่ลง

ท้ายที่สุดแล้วความใส่ใจและความพร้อมของสมาชิกครอบครัวมีส่วนในการพิจารณาการตัดสินใจ และที่สำคัญคือตัวของผู้สูงอายุที่เราต้องดูแลว่าท่านมีความพร้อมและยินยอมเห็นสมควรกับแนวทางการเลือกดูแลของสมาชิกครอบครัว
คุณสมบัติของผู้ดูแลผู้สูงอายุมีอะไรบ้าง
1. สิ่งแรกที่ควรคำนึงถึงเลยคือ คุณสมบัติทางด้านอารมณ์ความรู้สึก (moral attitude and belief) คือความพึงพอใจ ความศรัทธา เลื่อมใสที่จะใช้จริยธรรมมาเป็นแนวปฏิบัติงานดูแลผู้สูงอายุ
2. การฝึกอบรมเพื่อให้มีทักษะในการดูแลผู้สูงอายุ และมีความรู้ความสามารถในการดูแลผู้สูงอายุให้ถูกวิธี เพื่อให้เกิดความปลอดภัย
3. อุปนิสัย ผู้ดูแลผู้สูงอายุต้องมีใจรักในงานบริการ มีบุคลิกชอบช่วยเหลือผู้อื่น มีความจริงใจ มีความรัก ความสงสาร ความเห็นอกเห็นใจ ปรารถนาดีต่อผู้สูงอายุ เข้าใจและรับฟังเรื่องราวของผู้สูงอายุ เพราะสิ่งเหล่านี้มีผลต่อการดูแลผู้สูงอายุให้มีความสุข
4. รู้จักผิดชอบชั่วดี ต้องรู้จักแยกแยะว่าสิ่งใดควรทำ สิ่งใดไม่ควรทำและเข้าใจในเหตุผลของความถูกต้องดีงาม (moral reasoning)
5. อายุที่เหมาะสม หลายคนอาจมองข้ามเรื่องของช่วงอายุไป แต่ต้องเข้าใจว่าช่วงอายุมีผลต่อวุฒิภาวะ ถ้าเด็กมากเกินไปก็อาจจะมีความอดทนที่ต่ำเพราะประสบการณ์การในชีวิตยังน้อย หรือถ้าอายุมากเกินไปก็ทำให้ความคล่องตัวในการดูแลผู้สูงวัยอาจจะมีน้อยลง
6. ประสบการณ์นั้นถือว่าเป็นสิ่งที่สำคัญ เพราะบ่งบอกว่าคนคนนั้นเคยผ่านงานดูแลผู้สูงวัยมาก่อน ทำให้เข้าใจเนื้องานได้อย่างรวดเร็ว เข้าใจรายละเอียดของการดูแลผู้สูงอายุ ซึ่งโดยรวมแล้วผู้ที่ดูแลผู้สูงอายุจำเป็นต้องมีใจรักในงานเป็นพิเศษ ต้องใช้ความอดทนและใช้ความรู้ความสามารถที่มีให้เกิดประโยชน์สูงสุด เพื่อให้สามารถดูแลได้ถูกวิธีและถูกใจกันทุกฝ่ายอีกด้วย
7. เป็นผู้ประสานงานและเชื่อมโยงระหว่างบุตรหลานและญาติมิตรกับผู้สูงอายุ เมื่อได้รับความไว้วางใจให้มาดูแลผู้สูงอายุแล้ว ผู้ดูแลต้องสามารถสื่อสารส่งต่อข้อมูลที่จะช่วยให้ทำงานได้ดีและเข้าใจผู้สูงอายุมากขึ้น
อะไรที่ช่วยให้คุณคลายความกังวลเมื่อต้องปล่อยให้ผู้สูงอายุ คนชราอยู่กับผู้ดูแลตามลำพัง
แม้ว่าคุณจะพิจารณาคุณสมบัติของผู้ดูแลที่ทำการว่าจ้างอย่างครบถ้วนและได้ตัดสินใจจ้างผู้ดูแลผู้สูงอายุมาแล้วนั้น เป็นเรื่องปกติหากคุณจะยังคงกังวลเกี่ยวกับสิ่งต่าง ๆ อยู่ สิ่งที่จะช่วยให้คุณคลายความกังวลหากต้องปล่อยให้ผู้สูงอายุอยู่กับผู้ดูแลตามลำพังที่บ้านมีดังนี้

1. ตรวจสอบประวัติย้อนหลังของผู้ดูแลผู้สูงอายุที่ทำการว่าจ้างมา เพื่อให้แน่ใจว่าคนดูแลที่จ้างมานั้นไม่เคยมีประวัติการกระทำที่ผิดกฎหมายมาก่อน โดยสามารถตรวจสอบประวัติอาชญากรรมกับกองทะเบียนประวัติอาชญากรได้ที่ http://www.criminal.police.go.th/
2. สอบถามประวัติการทำงานต่าง ๆ ที่ผ่านมา โดยอาจสอบถามจากผู้ว่าจ้างโดยตรงว่าเคยดูแลผู้สูงอายุมาอย่างไรบ้าง มีประสบการณ์มากน้อยแค่ไหนในการดูแลผู้สูงอายุ ไม่ว่าจะเป็นผู้สูงอายุที่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ หรือผู้สูงอายุที่เป็นผู้ป่วยติดเตียง ขณะเดียวกันก็สามารถสอบถามจากผู้ว่าจ้างที่เคยทำการจ้างก่อนหน้านี้ได้เช่นเดียวกัน
3. ฝากฝังทางเพื่อนบ้านให้ช่วยสอดส่องดูแลอีกทีหนึ่ง ซึ่งเพื่อนบ้านจะสามารถติดต่อหาเราได้ทันทีหากมีสถานการณ์ฉุกเฉินเกิดขึ้น
4. หากว่าจ้างคนดูแลผู้สูงอายุโดยหาจากสื่อออนไลน์ต่าง ๆ ควรศึกษาคำวิจารณ์หรือรีวิวจากผู้ใช้ก่อนหน้าว่ามีความคิดเห็นต่อการบริการอย่างไร เพื่อให้มั่นใจว่าคนดูแลที่จ้างมานั้นน่าเชื่อถือและเป็นคนมีความเป็นมืออาชีพจริง ๆ
5. การติดตั้งกล้องวงจรปิดบริเวณบ้านช่วยให้สามารถตรวจสอบความเคลื่อนไหวได้ตลอดเวลา ถือเป็นการป้องกันความปลอดภัยที่ดีอย่างหนึ่งเช่นกัน
ข้อตกลงที่สำคัญในการดูแลผู้สูงอายุมีอะไรบ้าง
เมื่อตัดสินใจจ้างคนดูแลผู้สูงอายุแล้ว ควรทำข้อตกลงสำคัญระหว่างผู้ว่าจ้างและผู้ดูแลที่คุณทำการได้จ้างมา เพื่อเป็นการรับประกันความปลอดภัยให้กับผู้สูงอายุตลอดระยะเวลาการดูแล ซึ่งข้อตกลงที่จำเป็นต้องทำความเข้าใจระหว่างสองฝ่ายมีดังนี้

1. ทำสัญญาจ้างเป็นลายลักษณ์อักษร โดยสิ่งที่ควรระบุอยู่ในสัญญาอย่างชัดเจนได้แก่ ระยะเวลาการดูแล วันที่เท่าไหร่ถึงเท่าไหร่ ชั่วโมงการทำงาน จำนวนค่าจ้าง รวมไปถึงสวัสดิการและวันหยุดที่ผู้ดูแลควรได้รับตามกฎหมายแรงงาน โดยที่ทั้งสองฝ่ายต้องเซ็นยินยอมเพื่อเป็นการรับรู้ต่อสัญญาและข้อกำหนดที่ได้ตกลงกันไว้
2. ผู้ว่าจ้างควรอธิบายข้อมูลส่วนตัวของผู้สูงอายุให้กับผู้ดูแลอย่างละเอียดถี่ถ้วน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอุปนิสัย ความชอบส่วนตัว อาหารที่กินได้และไม่ได้ ที่สำคัญหากผู้สูงอายุมีโรคประจำตัว ผู้ว่าจ้างควรบอกให้ผู้ดูแลรับรู้ก่อนเพื่อให้ผู้ดูแลสามารถรับมือกับสถานการณ์ฉุกเฉินได้
3. อธิบายขอบเขตและวิธีการทำงานให้กับผู้ดูแลอย่างชัดเจน สิ่งใดที่ทำได้และไม่ได้ เพื่อเป็นการป้องกันขั้นเบื้องต้น
4. ข้อตกลงเรื่องที่อยู่อาศัย หากผู้ว่าจ้างต้องการให้ผู้ดูแลอาศัยอยู่ที่บ้านตลอดช่วงระยะการดูแลผู้สูงอายุ ควรจัดเตรียมที่พักอาศัยให้กับผู้ดูแล รวมไปถึงแจกแจงเรื่องกฎในการใช้สิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ภายในบ้านตลอดช่วงระยะเวลาเช่นกัน
5. ใส่ใจในเรื่องของสุขอนามัยของผู้ดูแลที่ทำการว่าจ้างมา หากผู้ดูแลมีอาการป่วยกะทันหัน ผู้ว่าจ้างควรออกค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล ซึ่งถือว่าเป็นอีกหนึ่งสวัสดิการที่ผู้ดูแลควรได้รับ และควรให้ผู้ดูแลลางานได้ทันที เพื่อเป็นการช่วยลดความเสี่ยงในการแพร่เชื้อต่อผู้สูงอายุภายในบ้าน

การทำข้อตกลงในการว่าจ้างนั้นนอกจากจะเป็นการช่วยให้ทำความเข้าใจอย่างชัดเจนแล้ว ยังช่วยสร้างความสบายใจให้กับทั้งสองฝ่ายได้อีกด้วย

ข้อมูลเขตราษฎร์บูรณะ

เขตราษฎร์บูรณะนั้นมีพื้นที่ ที่ติดกับ อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ ซึ่งเป็นชุมชนเก่าแก่ขนาดใหญ่ที่ประชากรอยู่อาศัยหลายเชื้อชาติมายาวนาน ดังนั้นย่านราษฎร์บูรณะจึงได้รับอิทธิพลบางส่วนมาจาก อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ ด้วยเหตุประกอบกับการขยายตัวของเมืองทางฝั่งใต้ของกรุงเทพฯ จึงทำให้ย่านราษฎร์บูรณะนั้นเป็นอีกหนึ่งพื้นที่ในกรุงเทพฯ ที่มีคนอยู่อาศัยจำนวนมาก แต่ยังคงจัดเป็นย่านอยู่อาศัยแบบเงียบสงบ โดยมีสถานที่สำคัญหลายแห่ง ทั้งหน่วยงานราชการ สำนักงานเขตราษฎร์บูรณะ วัดราษฎร์บูรณะ โรงเรียน โรงพยาบาล ดิสเคาน์สโตร์ ที่เติมเต็มองค์ประกอบการอยู่อาศัยย่านนี้ เขตราษฎร์บูรณะมีพื้นที่ทั้งหมด 15.782 ตารางกิโลเมตร และมีประชากรอยู่ที่ 79,000 คน ในความเป็นย่านการค้า ราษฎร์บูรณะ ก็เป็นแหล่งการค้าในแบบเอสเอ็มอีหรือธุรกิจรายย่อย อาคารพาณิชย์ คลังสินค้าขนาดเล็ก ซึ่งตั้งอยู่คู่กับชุมชนอยู่อาศัย เมื่อข้ามแม่น้ำเจ้าพระยามาเขตราษำร์บูรณะก็จะเห็นสำนักงานใหญ่ธนาคารกสิกรไทย อยู่ทางด้านขวามือ ซึ่งเป็นหนึ่งในแหล่งงานขนาดใหญ่ที่ทำให้ย่านราษฎร์บูรณะเจริญเติบโต ด้วยรูปลักษณ์อาคารที่โดดเด่น และตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ด้วยกันนั้นอาคารสำนักงานใหญ่ธนาคารกสิกรไทย จึงเปรียบเสมือนเป็นแลนด์มาร์คสำคัญของย่านนี้ ส่วนตลาดที่อยู่อาศัยได้ขยายตัวมายังเขตราษฎร์บูรณะ ที่เป็นโครงการจัดสรรใหม่ ๆ ในย่านราษฎร์บูรณะเกิดขึ้นน้อยมาก ซึ่งอาจเป็นเพราะราคาที่ดินย่านนี้ค่อนข้างสูง การพัฒนาโครงการบ้านแนวราบใหม่ ๆ จึงอยู่บริเวณใกล้เคียง เช่น ย่านสุขสวัสดิ์ ย่านพุทธบูชา ย่านบางปะกอก เป็นหลัก อนาคตโครงการรถไฟฟ้า MRT สายสีม่วง ฝั่งใต้ เป็นเส้นทางส่วนต่อขยายจากสายสีม่วงปัจจุบัน ซึ่งตามแผนดำเนินงานของภาครัฐได้ประเมินว่า จะเป็นเส้นทางที่มีคนใช้บริการจำนวนมาก เพราะเป็นเส้นที่วิ่งเข้าเขตเมืองชั้นในรองรับการเดินทางของประชาชนฝั่งเมืองเก่า โดยเริ่มต้นจากสถานีเตาปูน เชื่อมต่อกับรถไฟฟ้า MRT สายสีม่วง ช่วงเตาปูน-บางใหญ่ และรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT วิ่งมาทางรัฐสภาใหม่ เกียกกาย ผ่านเมืองเก่า แล้วข้ามมาฝั่งธนบุรี วงเวียนใหญ่ สำเหร่ ดาวคะนอง บางปะแก้ว บางปะกอกสะพานพระรามเก้า ราษฎร์บูรณะ พระประแดง ครุใน ซึ่งหากโครงการแล้วเสร็จจะมีผลให้ย่านราษฎร์บูรณะ โดยเฉพาะพื้นที่รอบสถานีมีการเปลี่ยนแปลงมากขึ้น



วิธีเติมความสุขให้ชีวิตสู่การเป็นผู้สูงวัยที่มีความสุข

จะใช้ชีวิตวัยชราอย่างไรให้มีความสุข ต่อไปนี้เป็นเคล็ดลับในการสร้างความสุขที่คนทุกวัยสามารถนำไปใช้ และก้าวไปเป็นผู้สูงอายุที่มีคุณภาพชีวิตที่ดี

1. รักษาความสัมพันธ์ที่ดีกับครอบครัวและเพื่อน

ไม่ว่าคุณจะเป็นเด็ก คนหนุ่มสาว หรือคนแก่ ระลึกไว้เสมอว่าครอบครัว คือ คนที่รักและคอยอยู่เคียงข้างคุณเสมอ นอกจากครอบครัวคุณอาจมีเพื่อนสนิทสักไม่กี่คนที่จริงใจกับคุณ จงรักษาความสัมพันธ์ที่ดีกับคนเหล่านั้น โทรหาหรือไปเยี่ยมพวกเขาทุกครั้งที่ทำได้

2. ยิ้มเข้าไว้

ฟังดูง่าย การที่คุณจะเป็นคนที่ยิ้มได้แม้จะเจอกับความอยากลำบากนั้น คุณต้องเป็นคนคิดบวก หรือมองทุกอย่างในแง่บวก รู้จักเห็นอกเห็นใจคนอื่น การคิดบอกและรอยยิ้มจะกระตุ้นฮอร์โมนในร่างกายที่เกี่ยวข้องกับความสุข ยิ้มในกระจกเมื่อตื่นนอนตอนเช้าเป็นครั้งแรก เริ่มต้นวันด้วยรอยยิ้มจะสร้างสิ่งดี ๆ ได้ทั้งวัน

3. เรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ

เทคโนโลยีต่าง ๆ ถูกพัฒนาอยู่ตลอดเวลา อย่าทำตัวล้าหลัง ก้าวให้ทันโลก อย่าหยุดเรียนรู้ คุณอาจพบงานอดิเรกหรือกิจกรรมใหม่ ๆ ที่สร้างความสุขได้ง่ายขึ้น

4. รักษาสุขภาพ

ปัญหาสุขภาพเล็ก ๆ น้อย ๆ จะกลายเป็นปัญหาใหญ่ที่ลดความสุขได้ ตัวอย่างเช่น อาการบาดเจ็บที่ไม่รักษาอาจนำไปสู่ความเจ็บปวดเรื้อรังที่ทำให้รู้สึกมีความสุขได้ยาก ผู้สูงอายุควรให้คำมั่นสัญญากับตัวเองว่าจะนัดตรวจสุขภาพตามกำหนดเวลาและไปตรวจเมื่อมีอาการผิดปกติ

5. มีอารมณ์ขัน

ดูหนังตลกหรือเล่าเรื่องตลกกับเพื่อน ๆ สร้างอารมณ์ขัน เสียงหัวเราะ ทำให้สุขภาพจิตดี ทำให้จิตใจของเขาดีขึ้น

6. ออกไปข้างนอกทุกวัน

แสงแดดเป็นตัวกระตุ้นอารมณ์ที่สำคัญ ออกไปเดินเล่นข้างนอกสักครู่ บนระเบียงท่ามกลางแสงแดดสักสองสามนาทีก็สามารถสร้างสิ่งมหัศจรรย์สำหรับสุขภาพทางอารมณ์ได้

7. ทำประโยชน์ให้กับชุมชน

ใช้ความรู้และความสามารถที่มีในการทำงานหรือทำประโยชน์ให้กับชุมชน ทำงานจิตอาสาโดยไม่หวังสิ่งตอบแทน



ค้นหาความหมายและความสุขของวัยสูงอายุ

ค้นหาความหมายและความสุขตามวัย

นักอายุรศาสตร์เรียกสิ่งนี้ว่าความขัดแย้งของวัย: เนื่องจากผู้คนประสบกับทักษะทางปัญญาหรือสุขภาพกายที่ลดลง แทนที่จะรู้สึกแย่ พวกเขารู้สึกมีความสุขมากกว่าตอนเด็กๆ

แก่กว่าแต่ฉลาดทางอารมณ์ โดยเฉลี่ยแล้วผู้สูงอายุอาจมีความสุขมากขึ้นเพราะสติปัญญาที่พวกเขาได้รับจากประสบการณ์ชีวิต จากการศึกษาของมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ดในด้านจิตวิทยาและการสูงวัย เมื่ออายุและขอบเขตเวลาของผู้คนสั้นลง พวกเขาลงทุนในสิ่งที่พวกเขาเห็นว่าสำคัญที่สุด โดยทั่วไปแล้วนั่นคือความสัมพันธ์ที่มีความหมาย และพวกเขาได้รับความพึงพอใจมากขึ้นจากการลงทุนในความสัมพันธ์เหล่านั้น

นักวิจัยรายงานว่า ชีวิตทางอารมณ์ดีขึ้นตามอายุ ซึ่งเป็นกุญแจสู่ความสุขที่มากขึ้นเมื่อคนมีอายุมากขึ้น ความชราสัมพันธ์กับความผาสุกทางอารมณ์ในเชิงบวกที่มากขึ้น ความมั่นคงทางอารมณ์ที่มากขึ้น และความลึกทางอารมณ์ที่มากขึ้น ผลการศึกษายังเผยอีกว่า ผู้ที่มีอารมณ์ด้านบวกมักมีอายุยืนยาวกว่าผู้ที่มีความรู้สึกด้านลบบ่อยกว่า

แนวโน้มการสูงวัยในเชิงบวกส่งเสริมสุขภาพ

คุณรู้หรือไม่ว่าผู้คนคิดอย่างไรเกี่ยวกับการสูงวัยส่งผลต่อสุขภาพของพวกเขา

ทัศนะเชิงบวกเกี่ยวกับการสูงวัยเชื่อมโยงกับความเสี่ยงที่ลดลงของโรคเรื้อรังและภาวะสมองเสื่อม ความโดดเดี่ยวและความเหงาน้อยลง การรับมือกับความเครียดได้ดีขึ้น และการฟื้นตัวจากความทุพพลภาพได้เร็วและดีขึ้น บุคคลที่มีความตระหนักในตนเองในเชิงบวกเกี่ยวกับวัยสูงอายุมีแนวโน้มที่จะมีส่วนร่วมในพฤติกรรมสุขภาพเชิงป้องกันเมื่อเวลาผ่านไป ตามข้อมูลของเวชศาสตร์ป้องกัน ผลที่ได้คือ การให้ความรู้และส่งเสริมให้ผู้คนมีทัศนคติเชิงบวกมากขึ้นในเรื่องอายุ อาจช่วยเพิ่มพฤติกรรมที่ดีต่อสุขภาพของผู้สูงวัยได้

วัตถุประสงค์ ความหมาย และความสำเร็จในการแก่ชรา

การสร้างความหมายและจุดประสงค์ส่วนบุคคลผ่านช่วงต่างๆ ของชีวิตยังเป็นกุญแจสำคัญในการส่งเสริมสุขภาพและการสูงวัยที่ประสบความสำเร็จตามการศึกษาด้านจิตวิทยาของแคนาดา สิ่งเหล่านี้เป็นสาเหตุสำคัญของความพึงพอใจในชีวิตและการเติบโตเมื่อต้องเผชิญกับความทุพพลภาพหรือความสูญเสียอื่นๆ ที่มักมาพร้อมกับความชรา

การศึกษาพบว่าความมุ่งมั่น การมองโลกในแง่ดี และความผาสุกทางวิญญาณเป็นวิธีที่พบได้บ่อยและมีประสิทธิภาพสำหรับผู้สูงอายุในการค้นหาและเพิ่มความหมายและจุดประสงค์ส่วนตัว การรำลึกถึงซึ่งเกี่ยวข้องกับการดึงบทเรียนจากเหตุการณ์ในอดีตเพื่อแก้ปัญหาในปัจจุบัน หรือการส่งต่อปัญญาจากการเรียนรู้ตลอดชีวิตไปสู่รุ่นน้อง เป็นอีกกลยุทธ์หนึ่งที่ช่วยเสริมสร้างความหมายที่เกี่ยวข้องกับการสูงวัยที่ประสบความสำเร็จ