ดูแลผู้สูงอายุ ใน สะพานสูง, กรุงเทพมหานคร

ดูแลผู้สูงอายุ ใน สะพานสูง, กรุงเทพมหานคร

คุณต้องการใช้บริการนี้เมื่อไหร่?
ตอนนี้
ระบุวันที่

วิธีการทำงาน

Saijai

ติดต่อเรา

ติดต่อเราโดยตรงผ่าน LINE OA เพื่อจองบริการที่คุณต้องการ

Saijai

แจ้งรายละเอียดให้เราทราบ

เลือกบริการ วันที่ เวลา และสถานที่ที่คุณต้องการให้ตรงกับความต้องการของคุณ

Saijai

ยืนยันการจองของคุณ

เราจะยืนยันการจองของคุณภายใน 24 ชั่วโมงผ่านทาง LINE OA

รัฐฑี มีกระแส
รัฐฑี มีกระแส
Saijai ประสบการณ์ 0-1 ปี
Saijai อายุ 49 ปี

อัธยาสัยดี ยี้มแย้ม พูดจาดีใจเย็น มีความอดทนสุง

แสดงเพิ่มเติม
วลัยพร ภู่รัตนกุล
วลัยพร ภู่รัตนกุล
Saijai ประสบการณ์ 3-4 ปี
ผ่านการตรวจสอบประวัติบุคคล

มีความอดทนสูง ตรงต่อเวลา ทำหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายได้ดี

แสดงเพิ่มเติม
วิมลทิพย์  โถสโมสร
วิมลทิพย์ โถสโมสร

กำลังศึกษาหลักสูตร NA ตอนนี้รับงานแม่บ้านออนไลน์ แบบรายชั่วโมงและรายววันค่ะ

แสดงเพิ่มเติม
ทิพปภา อินดี
ทิพปภา อินดี
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี

เคยทำงานเปนแม่บ้านโรงงานที่สมุทรสาคร 10 ปี เป็นแม่บ้านอยู่ลำปาง 6 ตอนทำงานอยู่ลำปางเป็นแม่บ้านและดูแลแม่นายจ้างด้วยค่ะ ให้บริการดูแลผู้สูงอายุเคสธรรมดา อยู่เป็นเพื่อนผู้สูงอายุค่ะ

แสดงเพิ่มเติม
สมใจ  เจริญสุข
สมใจ เจริญสุข
Saijai ประสบการณ์ 3-4 ปี
ประภาพร พัฒนะแสง
ประภาพร พัฒนะแสง
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี

บุคคลิคนิ่งๆ แต่เข้าหาคนง่าย รับผิดชอบในการทำงาน

เคยประจำที่ icu มากว่า 5ปี ยิ่งผุ้สูงอายุ่ที่ชอบเล่าความหลัง นั่งฟังนั่งซักได้ทั้งวัน

แสดงเพิ่มเติม
อนันธิดา  หงษ์คำภา
อนันธิดา หงษ์คำภา
Saijai ประสบการณ์ 4-5 ปี
Saijai อายุ 44 ปี

ประสบการณ์ ดูแลผู้ป่วยกายภาพ อาบน้ำ จัดยาเปลี่ยนแพมเพิส วัดความดันวัดไข้ ฉีดยาเบาหวาน

แสดงเพิ่มเติม
พิชญ์สิตา พงษ์เสถียรเตโช
พิชญ์สิตา พงษ์เสถียรเตโช
Saijai ประสบการณ์ 1-2 ปี
ผ่านการตรวจสอบประวัติบุคคล

ชื่อเล่น เจี๊ยบอายุ ประสบการณ์ ด้าน การทำงาน และการบริบาล-ประสบการณ์ na โรงพยาบาลสุขุมวิท2ปีรับจ๊อบเฝ้าไข้ ความสามารถ ทางด้าน การบริบาล-ทำกายภาพเบื้องต้นได้ -วัดความดัน-วัดไข้ ปรอท-วัด ออกซิเจน ในเลือดได้-ฟีทซักซั่น ปากคอ- ทำแผล กดทับได้ -เช็ดตัว อาบน้ำ สระผม ตัดเล็บ บนเตียงได้ - เคลื่อนย้าย ผุ้ป่วย ได้ -ใส่เครื่อง ออกซิเจนได้ - ดูแลสายปัสสาวะได้ แต่เปลี่ยนสายไม่ได้ -สวนอุจาระได้- ทำอาหาร บด อาหาร สายยาง ได้ - สื่อสาร ภาษาอังกฤษ ฟัง พูด อ่าน เขียน ได้ระดับ พอใช้

แสดงเพิ่มเติม
จันทร์ทิพย์ ธีระ
จันทร์ทิพย์ ธีระ
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี
Saijai อายุ 42 ปี
ธมลวรรณ สังข์แก้ว
ธมลวรรณ สังข์แก้ว
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี
Saijai อายุ 38 ปี

ใส่ใจ เข้าใจ สะอาด ดูแลเปรียญเสมือนญาติ

แสดงเพิ่มเติม

I am an honest woman without bad habits. I have experience in caring for post-stroke patients and patients with diabetes. You can also cook Thai and European food. If necessary, I can drive a car. (I have a driver's license) And keep the house clean at the request of the owner. Conscientious and kind attitude towards the patient is guaranteed.

แสดงเพิ่มเติม
นฐภัทร์ษร โภคสกุล
นฐภัทร์ษร โภคสกุล
Saijai ประสบการณ์ 3-4 ปี

เคยไปเฝ้าคนชราป่วยมะเร็ง ที่ รพ ศิริราชผู้ป่วยไปทำ คีโม 12 ครั้ง 6 เดือน ผู้ป่วยไปให้คีโม 2ครั้ง/1 เดือน ,เคยดูแลคนชรา ที่ลูกสาวลูกชายไปทำงานดูแลอยู่ 3 ปี,ไปเป็นเพื่อนพาคนชราไปหาหมอ ,เป็นเพื่อนอยู่ที่พักเวลาลูกหลานไปธุระ,เตรียมอาหาร,ยาตามหมอสั่ง ดิฉันเป็นคนสะอาดเรียบร้อย มีระเบียบ พูดเพราะ ใจดีใจเย็น

แสดงเพิ่มเติม
ชัยศรี  เผ่าม่วง
ชัยศรี เผ่าม่วง
Saijai ประสบการณ์ 1-2 ปี

ชื่อแจ้ค่ะ ทำงานดูแลผู้ป่วย ค่ะ งานที่ดูแลอยู่คือ สวนปัสสาวะวันละ 4 ครั้ง เปลี่ยนแพมเพิส ดูแลเรื่องอาหารและยา รวมทั้งความสะอาดของผู้ป่วย ทำอาหาร และทำงานบ้านได้ทุกอย่างยกเว้นงานสวนค่ะ ประสบการณ์2ปี1เดือน พร้อมเรียนรู้ค่ะถ้ามีอะไรนอกเหนือจากนี้

แสดงเพิ่มเติม
พิกุลทอง  รังวิจี
พิกุลทอง รังวิจี
Saijai อายุ 54 ปี
ผ่านการตรวจสอบประวัติบุคคล

มีประสบการณ์ดูแลผู้สูงอายุ ส่วนมากเป็นอยู่เป็นเพื่อนผู้สูงอายุที่ช่วยตัวเองได้ค่ะ ไม่ฟิตอาหาร ช่วยพยุงเดิน ใช้ไม้ค้ำ

แสดงเพิ่มเติม
อรวรรณ  บุ่งนาแซง
อรวรรณ บุ่งนาแซง
Saijai อายุ 36 ปี

สามารถดูแลผู้สูงอายุเคสธรรมดา เคสอยู่เป็นเพื่อนได้ค่ะ จัดยา วัดความดัน เจาะเบาหวานได้

แสดงเพิ่มเติม
ผกากาญจน์  รื่นอุรา
ผกากาญจน์ รื่นอุรา
Saijai ประสบการณ์ 3-4 ปี
Saijai อายุ 49 ปี

ปัจุบันทำงานดูแลผู้สูงอายุค่ะ มีประสบการณ์ด้านนี้ 3 ปี เข้าเวรดึกได้ค่ะ ฟีดได้ รับวัคซีนโควิค 4 เข็มแล้วค่ะ

แสดงเพิ่มเติม
บีบีซาหรา ลาฮิม
บีบีซาหรา ลาฮิม
Saijai ประสบการณ์ 1-2 ปี
ฐิติรัตน์ จันทวงษ์
ฐิติรัตน์ จันทวงษ์
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี

เป็นคนที่รูปร่างสูงใหญ่ สามารถประคอง พยุง ผู้สูงอายุหรือผู้ป่วยที่สูงได้สบายๆ อดทนกับผู้สูงอายุและผู้ป่วยได้ดี ไม่วีน ไม่เหวี่ยง สะดวกรับงาน freelance เพราะเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวค่ะ

แสดงเพิ่มเติม
Wanwisa Jaiaree
Wanwisa Jaiaree
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี

มีประสบการณ์ทำงานเป็นผู้ช่วยพยาบาล ดูแลผู้สูงอายุด้านอายุกรรมศาสตร์ รพ.ศิริราช 5 ปี อยู่ รพ.เอกชนใน จ มหาสารคาม 1 ปี แผนก ผู้ป่วยนอกและแผนก ฉุกเฉิน ออก EMS เป็นครั้งคราว เคยรับเฝ้าไข้ ผู้ป่วยติดเตียง ผู้ป่วยผ่าตัดสะโพก ผู้ป่วยสับสนอายุเยอะ ผู้ป่วยทางโรคมะเร็ง

แสดงเพิ่มเติม

ข้อมูลสถิติน่าสนใจเกี่ยวกับ

Saijai จำนวนประชากร
Saijai จำนวนประชากรเด็ก (แรกเกิด-14 ปี)
Saijai จำนวนประชากรสูงอายุ (60 ปี ขึ้นไป)
Saijai จำนวนสัตว์เลี้ยง สุนัข

รีวิวล่าสุด

ประทับใจในการให้บริการมาก ๆ ค่ะ
Saijai
สุดาพร มณีทอง
4 ปีที่แล้ว
ราคาไม่สูงเหมือนจ้างพยาบาลตามโรงพยาบาล และผู้ดูแลยังมีประสบการณ์ มั่นใจ หายห่วงเลยค่ะ
Saijai
ศรีรัตน์ สุขสวัสดิ์
4 ปีที่แล้ว
สะดวก ง่าย เพียงไม่กี่ขั้นตอนเราก็สามารถหาคนดูแลผู้สูงอายุได้ อีกอย่างในเว็บไซต์มีข้อมูลต่าง ๆ ที่ให้เราได้ศึกษาก่อนทำการจ้างอีกด้วย พอได้อ่านข้อมูลทำให้เราได้รู้วิธีการเตรียมตัวก่อนจ้างคนดูแลมาดูแลคุณแม่ เป็นข้อแนะนำที่ดีมาก ๆเลยค่ะ ประทับใจมาก ๆ ค่ะ
Saijai
วิกานดา ทองดี
4 ปีที่แล้ว
ได้คนดูแลดี ผมก็หายห่วงครับ จะใช้บริการบ่อย ๆ
Saijai
สุชาดา เอี่ยมจินดา
4 ปีที่แล้ว
เราจ้างคนดูแลผู้สูงอายุมาดูแลคุณยายที่บ้าน พี่เขาทำงานดีมาก ๆ ที่สำคัญเลยคือพี่เขามีประสบการณ์ในการดูแลคนชรา เคยผ่านการอบรมมาแล้ว เลยทำให้เรามั่นใจ และ หายห่วงมาก ๆ
Saijai
นารีรัตน์ ภัทรบัณฑิต
4 ปีที่แล้ว

คำถามที่พบบ่อยสำหรับการค้นหา ดูแลผู้สูงอายุ

ตัวเลือกใดที่ดีกว่าระหว่างจ้างคนดูแลผู้สูงอายุที่บ้านหรือให้ผู้สูงอายุอยู่บ้านพักคนชรา
คาดการณ์ว่าในปี 2564 ประเทศไทยจะมีผู้สูงอายุ ร้อยละ 16.2 ของประชากรทั้งหมด ผู้สูงอายุที่เคยดูแลเราในวันก่อนก็เปลี่ยนบทบาทมาเป็นคนที่เราต้องดูแล วิถีชีวิตปัจจุบัน หลายครอบครัวไม่สามารถดูแลผู้สูงอายุได้ด้วยตัวเอง อะไรที่ดีกว่าระหว่างจ้างคนดูแลผู้สูงอายุที่บ้านหรือให้ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุดูแล

ข้อดีของการดูแลผู้สูงอายุที่บ้าน

การที่ผู้สูงอายุได้อยู่อาศัยในบ้าน ทำให้ไม่รู้สึกแปลกสถานที่ รู้สึกว่าอยู่กับครอบครัวลูกหลาน ไม่เกิดความว้าเหว่ ผู้สูงอายุยังอยู่ในสิ่งแวดล้อมเดิมและไม่รู้สึกว่ามีใครหายไป การดูแลยังอยู่ในสายตาของลูกหลาน หากเกิดข้อบกพร่องหรือสิ่งที่ทำให้ผู้สูงอายุไม่สบายใจ ผู้สูงอายุสามารถพูดขึ้นกับลูกหลานและแก้ไขปัญหาได้ในทันที

ข้อเสียของการดูแลผู้สูงอายุที่บ้าน

คือค่าใช้จ่ายที่สูง เพราะต้องใช้ผู้ที่ผ่านการอบรมเป็นพิเศษ และอาจต้องจ้าง ตลอด 24 ชั่วโมง หรืออาจต้องใช้ 1-2 คนในการดูแล ผู้ว่าจ้างไม่สามารถรู้ล่วงหน้าได้เลยว่านิสัยของคนที่จ้างมาเป็นอย่างไร รักการทำงานบริการผู้สูงอายุหรือไม่ หรือสามารถการปรับตัวให้เข้ากับผู้สูงอายุได้หรือไม่

ข้อดีของการใช้บริการศูนย์ดูแลผู้สูงอายุหรือบ้านพักคนชรา

คือมีสถานที่พร้อมในการดูแลผู้สูงอายุ มีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกในการดูแล บางแห่งมีเครื่องมือแพทย์ หรือพยาบาลวิชาชีพดูแล ผู้สูงอายุได้พบปะกับอื่น ๆ ในวัยเดียวกัน ซึ่งจะช่วยคลายความกังวลใจของผู้สูงอายุลงไปได้บ้าง หากมีเหตุฉุกเฉิน เกิดอุบัติเหตุ ไม่สบาย ทางศูนย์ดูแลพร้อมให้ปฐมพยาบาลและนำส่งโรงพยาบาล

ข้อเสียของการใช้บริการศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ
ค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูงและเราจะไม่มีทางรู้หรือเห็นเหตุการณ์อื่นใดนอกเหนือจากตอนที่ไปถึงศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ ซึ่งอาจปล่อยปละละเลย ผู้สูงอายุอาจไม่มีความสุขที่ต้องจากครอบครัว สุขภาพจิตอาจแย่ลง

ท้ายที่สุดแล้วความใส่ใจและความพร้อมของสมาชิกครอบครัวมีส่วนในการพิจารณาการตัดสินใจ และที่สำคัญคือตัวของผู้สูงอายุที่เราต้องดูแลว่าท่านมีความพร้อมและยินยอมเห็นสมควรกับแนวทางการเลือกดูแลของสมาชิกครอบครัว
ทักษะสำคัญที่ผู้ดูแลผู้สูงอายุควรมี
การที่เราจะเลือกใครสักคนมาดูแลผู้สูงอายุในบ้านของเรา แน่นอนว่าต้องมีปัจจัยและคุณสมบัติหลายอย่างในการตัดสินที่จะรับบุคคลภายนอกเข้ามาอยู่ใกล้ชิดกับคนในครอบครัวของเราทั้งในช่วงเวลาที่เราอยู่หรือไม่อยู่บ้านก็ตาม คุณสมบัติที่คนส่วนใหญ่คาดหวังสำหรับคนดูแลผู้สูงอายุ มีดังต่อไปนี้

1. เป็นผู้ที่บรรลุนิติภาวะ คืออายุ 18 ปีขึ้นไป สามารถคิดและตัดสินใจได้อย่างมีเหตุผล มีวุฒิภาวะที่ดี
2. เนื่องจากการดูแลผู้สูงอายุเป็นเรื่องละเอียดอ่อน คนดูแลผู้สูงอายุจึงควรเป็นคนที่มีความรู้ทั้งในเรื่องจิตวิทยา และด้านโภชนาการอาหาร รวมทั้งความสะอาดทั่วไปด้วย แม้ว่าการจ้างคนดูแลผู้สูงอายุที่มีความรู้อาจจะต้องมีค่าใช้จ่ายเยอะกว่าการจ้างคนทั่วไป แต่ก็ถือว่าคุ้มค่า เพราะหากผู้สูงอายุได้รับการดูแลที่ไม่ดี คนดูแลขาดความรู้แล้ว อาจส่งผลต่อสุขภาพทั้งร่างกายและจิตใจอีกด้วย
3. มีความน่าไว้วางใจ เมื่อจ้างคนดูแลผู้สูงอายุเข้ามาอยู่ในบ้าน อาจจะต้องรับรู้ในส่วนของที่เก็บของต่างๆ รู้ตารางชีวิตประจำวันของคนในครอบครัว คนดูแลผู้สูงอายุจึงต้องเป็นคนที่ไว้ใจได้ มีประวัติที่ดี และมีทัศนคติที่ดี
4. มีความอดทน เนื่องจากการดูแลผู้สูงอายุไม่ใช่เรื่องง่ายๆ บางครั้งอาจจะต้องดูแลทั้งร่างกายและจิตใจของผู้สูงอายุอีกด้วย โดยเฉพาะหากเป็นผู้สูงอายุที่มีอาการป่วยหรือโรคประจำตัว ก็จะมีความยุ่งยากและซับซ้อนมากขึ้นไปอีก
5. ควรจบหลักสูตรผู้ช่วยการพยาบาล หรือสาขาที่เกี่ยวข้องและหากมีประสบการณ์มักจะได้รับการพิจารณาเป็นพิเศษ แต่หากไม่จบหลักสูตรดังกล่าว แต่มีประสบการณ์ในการดูแลผู้สูงอายุมาก่อน ก็จะได้รับการพิจารณาเช่นกัน
6. มีความซื่อสัตย์สุจริต เนื่องจากในบางครั้งอาจจะต้องอยู่กับผู้สูงอายุเพียงลำพัง
7. มีความขยันและสามารถช่วยเหลืองานอย่างอื่นได้ตามความเหมาะสม
หากคุณกังวลเมื่อต้องปล่อยให้ผู้สูงอายุ คนชรา อยู่กับผู้ดูแลตามลำพัง ควรทำอย่างไร
หากคุณกังวลเมื่อต้องปล่อยให้ผู้สูงอายุ คนชรา อยู่กับผู้ดูแลตามลำพัง ควรทำอย่างไร

การเลือกแม่บ้านหรือผู้ดูแลผู้สูงอายุ เข้ามาดูแลพ่อแม่ ปู่ย่า ตายาย วัยชรา แม้จะคล้ายกับการดูแลเด็ก แต่มีความแตกต่างกันบ้างในส่วนของรายละเอียด เช่น เรื่องอาหารการกิน การทานยา และเรื่องของการอยู่เป็นเพื่อน ซึ่งเหตุผลหนึ่งที่เราเลือกใช้บริการ ผู้ดูแลผู้สูงอายุนั้น เพราะเราอยากให้ผู้สูงอายุได้อยู่ในบรรยากาศที่คุ้นเคย ใกล้ชิดลูกหลาน และได้รับการดูแลที่ถูกต้อง เหมาะสม ตามสภาพวัย ของผู้สูงอายุ หากเราต้องทำงานไปด้วยนั้นหมายถึงเราต้องปล่อยให้ผู้สูงอายุอยู่ตามลำพังกับผู้ดูแล เราสามารถลดความกังวลนั้นได้อย่างไร หากกังวลเรื่องอาหารการกิน การทานยาของคุณพ่อคุณแม่ที่ต้องอยู่บ้านลำพัง การที่ได้ผู้ดูแลผู้สูงอายุ เข้ามาดูแลปัญหาเรื่องการทานอาหาร ทานยาไม่ตรงเวลาก็จะหมดไป เมื่อเราได้สรุปงาน หน้าที่ของผู้ดูแลผู้สูงอายุ ผู้ที่เข้ามาปฏิบัติหน้าที่ก็จะทำตามตารางเวลาการทำงานที่เราได้จัดขึ้น แม้เราไม่อยู่เราก็จะแน่ใจได้ว่าผู้สูงอายุจะได้รับการดูแล เราต้องคิดว่า เมื่อเราต่างออกไปทำงาน และผู้สูงอายุที่ต้องอยู่บ้านคนเดียว ท่านอาจจะรู้สึกเหงาและเบื่อหน่าย หรือบางครั้งเราเองอาจจะรู้สึกกังวลหากเขาหกล้มหรือเกิดอุบัติเหตุแล้วไม่มีใครอยู่บ้าน แต่การมีผู้ดูแลผู้สูงอายุมาดูแลและอยู่เป็นเพื่อนก็จะช่วยให้ผู้สูงอายุรู้สึกดี หมดกังวลและไม่เบื่อหน่าย อาจมีกิจกรรมที่ช่วยให้ผู้สูงอายุฝึกคิด หรือบางครั้งผู้ดูแลผู้สูงอายุที่ดูแลยังสามารถพาไปออกกำลังกายเพื่อช่วยให้ผู้สูงอายุผ่อนคลายได้อีกด้วย กังวลเรื่องการดูแลทุก ๆ รายละเอียด ข้อนี้ถือว่าดีมากเนื่องจากพี่เลี้ยงที่จ้างมาดูแลผู้สูงอายุในบ้าน จะทำหน้าที่แทนเราทุกอย่าง เช่น เช็ดตัว ป้อนข้าว เปลี่ยนผ้าอ้อมผู้ใหญ่ โดยที่ไม่รังเกียจ เพราะมีการอบรมมาเป็นอย่างดี ช่วยดูแลขณะที่เราไม่อยู่ ความกังวลทั้งหมดนี้จะหมดไปหากเราเลือกผู้ดูแลผู้สูงอายุที่ผ่านการอบรมมาอย่างดี ใส่ใจในงานบริการ แม้อยู่ตามลำพังกับผู้ดูแล ก็ไม่ต่างกับเราดูแลท่านเอง
ผู้จ้างควรตกลงอะไรกับผู้ดูแลผู้สูงอายุก่อนทำการจ้าง?
ผู้ว่าจ้างควรตกลงอะไรกับผู้ดูแลผู้สูงอายุก่อนทำการจ้าง เพื่อความสะดวกและความเข้าใจตรงกันในดูแลผู้สูงอายุที่บ้านมีข้อตกลงต่าง ๆ อะไรบ้าง
จากข้อมูลสำรวจการจ้างผู้ดูแลผู้สูงอายุ มีผู้ดูแลผู้สูงอายุ 2 รูปแบบ

รูปแบบที่ 1: ผู้ดูแลผู้สูงอายุที่ผ่านการอบรมมาเพื่อดูแลผู้สูงอายุโดยเฉพาะ บุคคลเหล่านี้มีความเข้าใจผู้สูงอายุ และสามารถทำงานพยาบาลได้ เช่นช่วยอาบน้ำ ช่วยป้อนอาหาร ช่วยดูแลเรื่องยา ตรวจสุขภาพเบื้องต้น รวมถึงดูแลสุขอนามัยของผู้สูงอายุ

รูปแบบที่ 2: แม่บ้านทั่วไป อาจมีความชำนาญเรื่องงานบ้านแต่เรื่องดูแลใส่ใจรายละเอียดอาจจะไม่เท่าผู้ที่ผ่านการอบรมมา

1. สิ่งที่ควรตกลงกันอย่างแรกคือขอบข่ายงานและวิธีการ เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาที่อาจเกิดขึ้นภายหลัง เช่น งานอะไรที่ทำได้หรือทำไม่ได้
2. ชั่วโมงการทำงาน ด้วยลักษณะงานของผู้ดูแลผู้สูงอายุ บางครั้งต้องมาอาศัยใกล้ชิดเพื่อดูแลผู้สูงอายุตลอดเวลา ตื่นพร้อมกันนอนพร้อมกัน หรือแค่ช่วงเวลาหนึ่งที่เราต้องการให้ผู้ดูแลเข้ามา ดูแลผู้สูงอายุ หากเกินเวลาที่ตกลงไว้จะต้องมีค่าจ้างพิเศษ หรือค่าล่วงเวลาที่ตามตกลงไว้ หากต้องการวันหยุดหรือวันลา ต้องแจ้งล่วงหน้าหรือหาคนมาทดแทนได้
3. ยุคปัจจุบันปฏิเสธไม่ได้ว่าการไว้ใจใครสักคนที่เข้ามาทำงานใกล้ชิดในบ้านนั้นยากยิ่ง ทางเลือกหนึ่งผู้ดูแลผู้สาอายุ ต้องยินยอมให้ตรวจสอบประวัติอาชญากรรม แม้ไม่อาจการันตีได้ร้อยเปอร์เซ็นต์แต่อย่างน้อยเป็นการคัดกรองผู้ดูแลผู้สูงอายุที่จะเข้ามาใกล้ชิดบุคคลในครอบครัวได้ ประวัติการทำงานและประสบการณ์การทำงาน การได้พูดคุย ถึงประวัติการทำงาน ทำให้เราได้รู้จักผู้ดูแลผู้สูงอายุมากขึ้น อาจมีการยกตัวอย่างเหตุการณ์ เพื่อเปรียบเทียบหากเกิดขึ้นกับเราต้องทำอย่างไร เราจะได้รู้ว่าผู้ที่จะเข้ามาดูแลผู้สูงอายุของเราจะทำอย่างไรในเหตุการณ์ที่เราสมมุติขึ้น หากเคยทำที่หนึ่งได้แต่ทำกับเราไม่ได้เราได้บอกผู้สูงอายุไว้ก่อน หรือตกลงกันก่อนจะได้ไม่มีปัญหาภายหลัง
4. ค่าจ้าง ควรพิจารณาให้เหมาะสมและคุ้มค่าตามเนื้องานในการดูแลผู้สูงอายุในแต่ละคน

ทำความรู้จักเขตสะพานสูง

“หลวงพ่อทองคู่เมือง เลื่องลือมัสยิด ร่วมจิตสามัคคี นกเขาชวาเสียงดี เขียวขจีสวนเกษตร” นี่คือคำขวัญของ เขตสะพานสูง เพียงแค่ 5 วรรคที่ทำให้ผู้อ่านสามารถเข้าใจได้ถึงวิถีชีวิตของประชาชนในเขตสะพานสูง ที่มีคนจากหลากหลายวัฒนธรรมอยู่ร่วมกัน ณ วัดลาดบัวขาว (เขตสะพานสูง)

วัดลาดบัวขาว สร้างโดยพระยาราชโยธาหรือพระยาสุรินทร์ราชเสนา (เนียม สิงหเสนี) และพระยาสุเรนทร์ราชเสนา ซึ่งเป็นพี่น้องกัน สร้างเมื่อประมาณ พ.ศ. 2415 ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาในปี พ.ศ. 2425 พร้อมกับได้รับพระราชทานนามว่า "วัดลาดบัวขาว"หลังจากสร้างวัดเสร็จแล้วพระยาราชโยธาได้ไปนิมนต์หลวงปู่ทอง (อายะนะ) มาครองวัดเป็นเจ้าอาวาสรูปแรก ซึ่งท่านเป็นที่นับถือของประชาชนในละแวกวัด หลวงปู่ทองท่านเป็นพระที่มีความศักดิ์สิทธิ์เป็นอย่างยิ่ง ท่านมีอภิญญาปาฏิหาริย์มากมาย หลวงปู่ทองท่านมรณภาพ ปี 2480 อายุรวม 117 ปี ด้วยกันนั้นในเขตสะพานสูงยังมีชาวไทยมุสลิมที่นับถือศาสนาอิสลาม และมีมัสยิด (มัสยิด คือ สถานที่สำหรับประกอบศาสนกิจของผู้ที่นับถือศาสนาอิสลาม) ที่สวยงามคือมัสยิดอัลยุซรอ (หลอแหล) สวยที่สุดในย่านสะพานสูง มัสยิดอัลยุซรอ (หลอแหล) ซึ่งมีอายุ 60 - 70 ปี ซึ่งถือว่าเก่าแก่พอสมควร แต่เป็นที่น่าเสียดายซึ่งต้องมีการทุบทิ้งเพื่อสร้างใหม่เนื่องจากมีสภาพทรุดโทรมมากแล้ว ในปลายปี 2544 มัสยิดอัลยุซรอ (หลอแหล) ทะเบียนเลขที่ 54 จดทะเบียนเมื่อวันที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2492 ขณะเดียวกันชาวบ้านกลุ่มหนึ่งประกอบอาชีพเลี้ยงนกเขาชวาเสียงดีขาย นกเขาชวา เป็นนกที่นิยมเลี้ยงประเภทหนึ่ง เพื่อความสวยงาม และฟังเสียงที่ไพเราะ รวมถึงการเลี้ยงเพื่อแข่งขันเสียง ธุรกิจที่ตามมากับการเลี้ยงนกเขาชวาคือ การผลิตอาหารนก การเลี้ยงพ่อแม่พันธุ์ขาย การทำกรงนก และนายหน้าหรือพ่อค้านก ซึ่งในเขตสะพานสูงมีกลุ่มชาวบ้านประกอบอาชีพนี้ โรงเรียนเกษตรทฤษฎีใหม่ของกรุงเทพมหานครเขตสะพานสูง นับเป็นแห่งที่ 4 ที่ได้มีการจัดตั้งขึ้น โดยเป็นพื้นที่ของนายณรงค์ บัวศรี ประชาชนที่อาศัยอยู่ในเขตสะพานสูง และได้มอบพื้นที่ จำนวน 25 ไร่เพื่อจัดทำเป็นโรงเรียนเกษตรทฤษฎีใหม่ โดยแบ่งเป็นนาข้าว 12 ไร่ บ่อปลา 5 ไร่ ไม้ผลไม้ดอก ไม้ประดับและพืชผักสวนครัว 7 ไร่ โรงสีข้าว และที่อยู่อาศัย 1 ไร่ ทั้งนี้โรงเรียนเกษตรทฤษฎีใหม่เขตสะพานสูงได้รับรางวัลรองชนะเลิศผลงานตามปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงด้านเกษตรทฤษฎีใหม่ “ตามผลสำเร็จตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง” ทั้งหมดนี้อยู่บนพื้นที่ของเขต สะพานสูง 28.124 ตารางกิโลเมตร และมีประชากรอยู่ที่ 96,000 โดยประมาณ



โรงเรียนเกษตรทฤษฎีใหม่ของกรุงเทพมหานครเขตสะพานสูง

โครงการ จัดตั้งโรงเรียนเกษตรทฤษฎีใหม่ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร บ้านนายณรงค์ บัวศรี ตำบล สะพานสูง อำเภอ เขตสะพานสูง จังหวัด กรุงเทพมหานคร โดยทางกรุงเทพมหานครมีนโยบายจัดตั้งโรงเรียนเกษตรทฤษฎีใหม่โดยน้อมนำปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อใช้เป็นแนวทางในการดำเนินชีวิตให้สามารถดำรงชีวิตอยู่ได้อย่างมั่นคงและยั่งยืนภายใต้กระแสแห่งความเปลี่ยนแปลง นอกจากนี้ยังเป็นแหล่งส่งเสริมการเรียนรู้ให้กับนักเรียนนักศึกษา และประชาชนผู้สนใจได้เรียนรู้แนวทางเกษตรทฤษฎีใหม่ด้วย ตามหลัก “เกษตรทฤษฎีใหม่” คือ ระบบการเกษตรที่มีกิจกรรมการผลิตหลายชนิดในพื้นที่ขนาดเล็ก โดยมีการแบ่งสัดส่วนพื้นที่ออกเป็น 4 ส่วน คือ 1.พื้นที่กักเก็บน้ำ 30% 2.พื้นที่ปลูกข้าว 30% 3.พื้นที่ปลูกไม้ผล ไม้ยืนต้น 30% และ 4.พื้นที่สิ่งปลูกสร้าง 10% เช่น ที่อยู่อาศัย โรงเรือนเลี้ยงสัตว์ ยุ้งฉาง ฯลฯ โดยสามารถปรับสัดส่วน พื้นที่ และเพิ่มเติมกิจกรรมการผลิตได้ตามความเหมาะสมของสภาพพื้นที่ อีกทั้งยังจะมีการ “ส่งเสริมการตลาด” ในการสนับสนุนนำผลผลิตเกษตรอินทรีย์มาแปรรูปบรรจุหีบห่อ สร้างแบรนด์จำหน่ายร่วมกัน สร้างตลาดสีเขียวประจำหมู่บ้าน เพิ่มช่องทางการขายกับห้างสรรพสินค้า...สร้างอุตสาหกรรมในครัวเรือนยกระดับเป็นอุตสาหกรรมในชุมชนต่อไป ตลอดจนการซื้อขายผ่านระบบออนไลน์และคัดเลือกแปลงตัวอย่างจังหวัดละ 1 แปลง เชื่อมโยงสู่ “การท่องเที่ยวเชิงเกษตร” ด้วย สร้างความเข้มแข็งให้กับเศรษฐกิจไทยในระยะยาว และชุมชนในท้องถิ่นด้วยวิถีชีวิตพอเพียงให้เกิดมีรายได้แท้จริง...โรงเรียนเกษตรทฤษฎีใหม่ของกรุงเทพมหานครเขตสะพานสูง นับเป็นแห่งที่ 4 ที่ได้มีการจัดตั้งขึ้น โดยเป็นพื้นที่ของนายณรงค์ บัวศรี ประชาชนที่อาศัยอยู่ในเขตสะพานสูง และได้มอบพื้นที่ จำนวน 25 ไร่เพื่อจัดทำเป็นโรงเรียนเกษตรทฤษฎีใหม่ โดยแบ่งเป็นนาข้าว 12 ไร่ บ่อปลา 5 ไร่ ไม้ผลไม้ดอก ไม้ประดับและพืชผักสวนครัว 7 ไร่ โรงสีข้าว และที่อยู่อาศัย 1 ไร่ ทั้งนี้โรงเรียนเกษตรทฤษฎีใหม่เขตสะพานสูงได้รับรางวัลรองชนะเลิศผลงานตามปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงด้านเกษตรทฤษฎีใหม่ “ตามผลสำเร็จตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง” ซึ่งเป็นกิจกรรมการประกวดภายใต้โครงการ “80 พรรษา ปวงประชาเป็นสุขศานต์” เพื่อเป็นการสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเนื่องในโอกาสทรงเจริญพระชนมพรรษา 80 พรรษา 5 ธ.ค. 50



5 วิธีในการใช้ชีวิตวัยเกษียณให้ดีที่สุด

หากคุณเป็นคนหนึ่งที่ทำงานมานานจนล่วงเลยเข้าสู่วัยชรา คุณคงตั้งตารอคอยวันที่จะเกษียณอายุการทำงาน แต่ไม่ใช่ว่าผู้สูงอายุทุกคนจะพร้อมสำหรับการเกษียณอายุเสมอไป คำแนะนำสำหรับผู้ที่กำลังอยู่ในวัยสูงอายุและเตรียมตัวเกษียณจากงานประจำ เพื่อให้ใช้ชีวิตหลังเกษียณอย่างมีความสุข

1. หมั่นออกกำลังกายอยู่เสมอ

คุณภาพชีวิตที่ดีประกอบด้วยหลายส่วน ซึ่งแบ่งออกเป็นห้าประการเหล่านี้: จุดมุ่งหมาย สังคม การเงิน ชุมชน สุขภาพ จากการวิจัยพบว่าปัจจัยที่เป็นอุปสรรคที่สุดของการมีคุณภาพชีวิตที่ดี คือปัญหาสุขภาพ ดังนั้นผู้สูงอายุต้องดูแลและรักษาสุขภาพของตนอย่างดีที่สุดเพื่อให้แข็งแรงและกระฉับกระเฉง เพื่อแน่ใจว่าผู้สูงอายุยังสามารถพึ่งพาตัวเองได้มากที่สุด

2. ค้นหาจุดมุ่งหมาย

ด้วยเทคโนโลยีด้านการแพทย์ที่ทำให้คนในปัจจุบันมีอายุขัยยืนยาวขึ้น การเกษียณอายุจึงเป็นจุดเริ่มต้นของบทใหม่ในชีวิต ดังนั้นการมีจุดมุ่งหมายในชีวิตจะทำให้ใช้ชีวิตหลังเกษียณอย่างมีความสุข การค้นหาจุดประสงค์อาจหมายถึงสิ่งต่างๆ มากมายสำหรับผู้คนที่แตกต่างกัน ดังนั้นจึงต้องมีการไตร่ตรองเกี่ยวกับตนเอง บางทีคุณอาจต้องการเป็นอาสาสมัครหรือบางทีคุณอาจจะมีบทบาทสำคัญในการเลี้ยงดูลูกหลานของคุณ ไม่ว่าจะอยู่ในรูปแบบใด ผู้สูงอายุต้องมีจุดมุ่งหมายและความกระตือรือร้นที่จะทำตามจุดมุ่งหมายของตน

3. เข้าสังคม สิ่งที่จะทำให้ผู้สูงอายุมีชีวิตที่ดีหลังเกษียณคือ

เมื่อคุณเกษียณอายุแล้ว คุณต้องพยายามค้นหาเพื่อนหรือสังคมใหม่ ๆ จากสังคมในที่ทำงานหรือกลุ่มคนที่เคยรู้จักช่วงทำงาน อาจจะเป็นการเริ่มต้นทำงานอดิเรกกับเพื่อนกลุ่มใหม่ ๆ เช่น การเข้ายิม การเล่นหมากรุก เป็นต้น

4. ใส่ใจการเงิน

เตรียมความพร้อมด้านการเงินแต่เนิ่น ๆ เพื่อเส้นทางสำหรับการเกษียณอายุเป็นไปอย่างสะดวกสบาย

5. เปิดใจรับสิ่งใหม่ ๆ

สุดท้าย หากมีคำแนะนำเพียงแค่ข้อเดียวสำหรับการเกษียณอายุ คงจะเป็นการเปิดใจให้กว้างในทุกสิ่ง ยอมรับการเปลี่ยนแปลง การเปิดรับการเปลี่ยนแปลงนั้นดีต่อเซลล์สมองของคุณ และอาจถึงขั้นป้องกันภาวะสมองเสื่อมได้